คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Prelude of Tragedy
ตรอบเล็กทอดยาวคดเคี้ยวนำไปสู่อพาทเมนท์โกโรโสหลายต่อหลายตึกด้านใด ร่างบางก้าวเร็วๆผ่านขี้เมาในเสื้อผ้าสกปรกเหม็นสุดทนสองสามคนที่นอนกองทับกันอย่างไม่เหลือสติ มือเรียบกระชับเสื้อกันหนาวที่แม้จะเก่านักและมีรอยปะชุนหลายแห่งแต่ก็ยังอยู่ในสภาพใช้เมื่อลมหนาวบาดผิดพันผ่าน อ้อมแขนข้างหนึ่งโอบถุงกระดาษที่บรรจุของที่ซื้อมาจากซุปเปอร์มาร์เก็ตแนบกาย
เมื่อตกดึกเช่นเวลานี้เส้นทางที่เขากำลังใช้จะมืดมาก ทั้งยังเปลี่ยวซะจนไม่มีใครกล้ามาเดินคนเดียว ต่อให้แน่มาจากไหนก็ตาม
ร่างบางซุกมืออีกข้างเข้าไปในกระเป๋ากางเกงเพื่อหาไออุ่น หากเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าหนักๆของหลายคนเดินตามหลังก็กำของในกระเป๋ากางเกงแน่น และเร่งฝีเท้าขึ้นไปอีก
ดวงตากลมโตเหลียวมองข้างหลั่งอย่างหวาดหวั่นเมื่อสัมผัสได้ว่า กลุ่มคนข้างหลังก็เร่งฝีเท้าขึ้นด้วย
แม้อากาศจะเย็นเยียบ แต่เหงื่อก็เริ่มซึมชื้นบนหน้าผากเนียนใต้ไรผมซอยสั้นที่ถูกย้อมเป็นสีบรอนส์อ่อน
คิมแจจุงไม่ได้อยากจะกลับดึกขนาดนี้ แต่เพราะงานที่ทำประจำขาดคนจริงๆและผู้จัดการที่มีบุญคุณกับเขาและน้องอย่างที่ตอนนี้คงไม่มีปัญญาใช้หมดได้ไหว้วานอย่างอับจนทางเลือกเช่นกัน แจจุงถึงต้องรับงานอีกกะกว่าจะเลิกก็ปาเข้าไปตีสองแล้ว
ริมฝีปากสีสดเม้มเข้าหากันอย่างลังเล ไรฟันขาวกดริมฝีปากไว้แน่น หัวคิ้วมุ่นเข้าหากันด้วยความเคร่งเครียด
ประมาณสี่คน สู้ไม่ไหวแน่ แจจุงคำนวณ เสียงฝีเท้าเข้ามาใกล้มากขึ้น
แจจุงเกร็งมือเตรียมพร้อม
ชายฉกรรน์กลุ่มใหญ่เดินผ่านร่างบางไปอย่างไม่สนใจ
แจจุงถอนใจอย่างโล่งอกและถึงกับแย้มรอยยิ้มน้อยๆเมื่อหนึ่งในนั้นหันกลับมาเตือนเขาอย่างเป็นห่วง
“น้องแถวนี้มันอันตรายนะ รีบกลับบ้านเร็วเข้าแล้วคราวหลังอย่างมาเดินคนเดียวเวลานี้อีก”
“ฮะ” แจจุงรับคำ
คนกลุ่มนั้นเลี้ยวหายไปอีกทาง แจจุงอดขำตัวเองไม่ได้กับความซึ้งใจลึกๆที่ผุดขึ้นมาจากคำพูดของคนแปลกหน้า มันช่วยเตือนให้เขายังระลึกได้ว่า ในโลกปอนๆใบนี้ยังคงมีความดีหลงเหลืออยู่บ้าง
....
แจจุงย่ำฝีเท้าผ่านบันไดแคบๆที่ถ้าสว่างมากกว่านี้จะเห็นราขึ้นเขียวกับคราบสกปรกที่ขาดคนดูแลมานานปี อพาทเมนท์ที่นี่ไม่
แพงนัก แต่ความถูกของมันทำให้เจ้าของไม่อยากแบ่งค่าเช่าที่ได้มาจ้างแม่บ้านทำความสะอาดให้ที่นี่เหมาะเป็นที่อยู่อาศัยมากขึ้น
ห้องของแจจุงและน้องชายอยู่ริดสุด ทำให้ต้องเดินผ่านห้องอื่นๆอีก 4 ห้อง เสียงกรีดร้องปนเสียงครางกระเส่าอย่างร้องแรงของหญิงสาวข้างห้องที่ไม่สามารถบดบังได้ด้วยประตูสังกะสีบางๆทำให้แจจุงลอบยิ้ม
วันนี้ฮีวอนคนได้เงินโข
แจจุงคิดเมื่อได้ยินเสียงครางอย่างสุขสมของชายที่น่าจะไม่หนุ่มนักดังลั่น
แจจุงล้วงหากุญแจห้องที่ห้อยตุ๊กตาหมีสีขาวที่น้อยชายให้ในวันเกิดเมื่อสองปีที่แล้วมาไข รีบเร่งเล็กน้อยเพราะตอนนี้ก็ง่วงเสียจนตาแถบปิด
ประตูเปิดเข้าไปเกิดเสียงเล็กน้อย
แจจุงคลำหาสวิทต์ไฟในความมืด ก่อนที่ทั้งร่างจะชะงักอย่างรุนแรงเหมือนโดนมือที่มองไม่เห็นกระตุก
กลิ่นคาวคลุ้งที่คุ้นเคยพุ่งปะทะจมูก
“...แจจิน” แจจุงเรียกพยายามอย่างถึงที่สุดที่จะไม่ให้เสียงตัวเองสั่น “คิม แจจิน”
แจจุงใช้เวลานานกว่าที่คิดกว่าที่จะหาสวิตซ์ไฟเจอ แสงสีขาวจากหลอดฟลูออเรสเซนต์ส่องกระทบห้องเก่าๆที่แม้ไม่ใหญ่มากหรือสะดวกสะบายนัก แต่ก็มีขนาดกลางๆพออยู่กันสองคนอย่างอย่างไม่อึดอัด
กลิ่นคาวนั้นจากลงไปบ้างในความรู้สึก เมื่อสภาพห้องอันคุ้นเคยปรากฏแก่สายตา ไม่ได้มีเค้าว่าโดนโจรขึ้นอย่างที่นึกกลัว
หากสัญญาณเตือนภัยที่ดังลั่นๆในอกกลับทำให้แจจุงใจสั่น สั่นอย่างที่คนอย่างคิมแจจุงไม่เคยสั่น
ร่างบางเดินตามกลิ่นที่เคยชินอย่างน่ารังเกียจเข้าไปในห้องน้ำ
แจจุงหยุดอยู่แค่นั้นเมื่อเห็นภาพตรงหน้า
ร่างบางสะดุดลมหายใจเฮือกราวกับว่าอากาศตรงหน้าหายไป แจจุงต้องคว้าขอบประตูห้องน้ำไว้เพื่อไม่ให้ตัวเองล้มลง หากเรี่ยว
แรงที่มีก็ราวกับทรยศซ้ำแล้วซ้ำเล่า ร่างบางทรุดตัวลงกอง มืองเรียวกุมริมฝีปากที่ถูกฟันขาวกัดจนได้เลือด เสียงกรีดร้องดังในใจลั่นหากไม่หลุดออกมาแม้คำให้ได้ยิน กระบอกตาร้องผ่าว ลำคอแห้งผาดเหมือนหาเสียงของตนไม่พบซักนิด
ในห้องน้ำ ร่างบางเฉกเดียวกันแต่คนละชุดของคิมแจจินทรุดตัวอยู่ที่พื้นที่มีน้ำเจิ่งนองปะปนด้วยเลือดสีแดนฉานมากมายจากข้อมือเพรียวที่ถูกคัตเตอร์กรีดลึกจนเหวอะ ใบหน้าที่สลักออจมาจากพิมพ์เดียวกันไม่ผิดเพี้ยนซีดขาวราวกระดาษ ริมฝีปากอิ่มที่เคย
แดงระเรื่อด้วยสีแห่งชีวิตกับกลายเป็นไร้สีดังเช่นคนตาย
ตาย คำนี้สะท้อนในใจของแจจุงนับร้อยครั้งในเวลาเพียงไม่กี่วินาที
เสียงสะอื้นถูกกลืนลงในลำคอชั่วคราวเมื่อแจจุงเห็นรอยกระเพื่อมบนหน้าอกของน้องชายฝาแฝด ร่างบางลุกขึ้นอย่างลนลาน เรียกสติกลับมาอย่างรวดเร็วเหมือนดังเช่นที่เป็นประจำ
แจจุงวิ่งด้วยความเร็วที่มากที่สุดเท่าที่ขาจะมีแรงไปคว้าหาผ้ายาวๆมา ไม่รู้สึกด้วยซ้ำเมื่อสะดุดล้มจนหัวไปกระทบมุมโต๊ะจนได้เลือดตอนรีบเอาผ้าไปซับรอยแผลก่อนพันไว้รอบข้อมือ รัดแน่นเหนือเส้นเลือดใหญ่ ก่อนจะโทรเรียกรถพยาบาลด้วยเสียงมั่นคงแม้น้ำตาไหลพราก
อย่าทิ้งฉันไว้นะแจจิน นายต้องไม่ทิ้งฉัน
แจจุงคร่ำครวญในใจ
“ผู้ป่วยเสียเลือดไปมากครับ ทำให้เกิดภาวะช็อคและสมองขาดออกซิเจนนานกว่าสองนาที ทำให้ตอนนี้เขาอยู่ในสภาพเจ้าชายนิทรา หมอไม่สามารถรับประกันได้ว่าเขาจะฟื้นเมื่อไหร่หรืออาจจะไม่ฟื้นอีกเลย หมออยากให้คุณทำใจไว้บ้างถ้าเขาจะอยู่ในสภาพนี้ตลอดไป”
เสียงของหมอที่เอ่ยอย่างอ่อนโยนดังกลับไปกลับมาในหัวของแจจุงที่ล้าซะจนเหมือนมันทำงานหนักเกินไป ตากลมโตบัดนี้บวมเป่งเนื่องจากเสียน้ำตามากเกินไป
ร่างบางไม่อยากค้างที่โรงพยาบาล เขาบอกยืนยันกับหมอว่าเขาจะไม่สิ้นหวัง และจะไม่ยอมให้ทางโรงพยาบาลถอดเครื่องช่วยหายใจของน้องเขาออกไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แม้ว่าค่ารักษานั้นจะมากขนาดไหน หรือแจจินจะหลับอย่างนั้นไปตลอดกาลเขาก็จะยื้อแจจินไว้ให้ได้
ครอบครัวคนสุดท้ายที่เหลืออยู่ต่อให้ต้องเสียอะไร มากมายแค่ไหนแจจุงก็ต้องรักษาไว้ให้ได้
หลังจากนั้นร่างบางก็เดินอย่างคนไร้เรี่ยวแรงกลับอพาทเมนท์
แจจุงเปิดน้ำในห้องน้ำให้ไหลไปเรื่อยๆชะเอาเลือดนั้นให้หายไปให้หมด แต่กลิ่นคาวคลุ้งกลับตามหลอกหลอน เขารู้ซึ้งถึงใจอีกครั้ง เลือดของคนอื่นว่าคาวแล้ว หากเป็นเลือดของคนที่รักกลับไม่สามารถทนมองเห็นและได้กลิ่นได้เลย
มันบีบรัดหัวใจจนปวดไปหมด
ห้องของแจจินยังเหมือนเดิมทุกอย่าง
ไม่อยากเชื่อว่าน้องเขาจะฆ่าตัวตาย สภาพที่เห็นบอกได้ชัดเกินกว่าจะคิดเป็นอื่น
แจจินกำลังเรียนไฮสคูลปีสุดท้ายและได้รับทุนเรียนต่อในมหาลับโซล จากผลการเรียนที่ผ่านมาแจจินก็ได้ทุนมาตลอด คนที่กำลังจะมีอนาคตที่ก้าวหน้าแล้วทำไมถึงได้เลือกที่จะคิดสั้น จบชิวิตของตัวเองลงโดยไม่นึกถึงคนที่รักตัวเองซักนิด
น้ำตาหยดหนึ่งตกกระทบโต๊ะเขียนหนังสือที่เต็มไปด้วยหนังสือเรียนที่ได้รับการดูแลรักษาอย่างดี ก่อนที่น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าจะร่วงหล่นตามจากคนที่ไม่เคยร้องไห้มาก่อนในชีวิต แม้แต่ตอนที่พ่อแม่เสีย แจจุงก็รู้ตัวดีว่าตัวเองนั้นอ่อนแอไม่ได้เพราะว่ายังมีแจจินอยู่ แจจินพึ่งได้ก็แค่เขาเท่านั้น
“นายไม่คิดถึงฉันบ้างเลยใช่ไหมถึงได้ทำแบบนี้” แจจุงพูด มือเรียวทุบลงบนโต๊ะก่อนร่างบางจะทรุดลงและร้องไห้คร่ำครวญราวแทบขาดใจ
ภาพไดอารี่ปกสีฟ้าน่ารักของแจจินพร่ามัวเมื่อมองผ่านม่านน้ำตา แต่แจจุงก็เอื้อมไปคว้ามันมาเปิด
เมื่อร่างบางเริ่มต้นอ่านน้ำตาทั้งหลายก็หยุดลง
ดวงตากลมโตเบิกกว้างกับทุกตัวอักษรทุกหน้ากระดาษที่ถูกเปิดผ่าน แววเศร้าจางหายแทนที่ด้วยสีดำลึกล้ำในดวงตากลมโตที่เย็น
เยียบลงอย่างน่ากลัว
เมื่อถึงหน้าสุดท้ายที่มีการบันทึกไว้ ภาพถ่ายของผู้ชายสองคนที่แจจุงไม่เคยเห็นหน้าก็ตกลงมาจากไดอารี่สีฟ้า แจจุงขยำมันจน
ยับและกำแน่นจนนิ้วขึ้นข้อขาว
ความคิดเห็น