Fic Reborn | Black Mirage (XanxusXOC) - นิยาย Fic Reborn | Black Mirage (XanxusXOC) : Dek-D.com - Writer
×

    Fic Reborn | Black Mirage (XanxusXOC)

    ยูกิเป็นหญิงสาวหัวใจอาร์ทติส เธอรักในงานศิลปะที่เธอรังสรรค์ รวมถึงผลงานในกิจการเครื่องแก้วของเธอด้วย สิ่งที่เธอรับไม่ได้ที่สุดคือการไม่เคารพผลงานของเธอ และอะไรนะ แฟนเก่าเธอมันซื้องานศิลปะเธอไปปาเล่น!

    ผู้เข้าชมรวม

    9,392

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    65

    ผู้เข้าชมรวม


    9.39K

    ความคิดเห็น


    171

    คนติดตาม


    948
    จำนวนตอน :  22 ตอน (จบแล้ว)
    อัปเดตล่าสุด :  11 พ.ย. 66 / 21:32 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    If I were to kiss you, then go to hell, I would, so then I can brag with the devils. I saw heaven without ever entering it.

    (ถ้าฉันจูบเธอแล้วต้องลงนรก ฉันก็จะจูบ จะได้ไปคุยฟุ้งกับพวกผีปีศาจว่าฉันเห็นสวรรค์แล้ว ทั้งที่ไม่เคยได้ขึ้นไป)

    — William Shakespeare

     

    ภายใต้ท้องฟ้าที่ประดับประดาไปด้วยดวงดาราสว่างไสว

    และกลิ่นอายเย็นยะเยือกของลมหนาวที่พัดโชยผ่านมาทักทายในบางครั้ง

    เขาได้พบกับเธอครั้งแรกที่นั่น

    สูงขึ้นไปบนซากปรักหักพังที่เปรียบดั่งตัวตนของเธอ

     

     

    ซันซัส (n.) บอสวาเรียผู้เอาแต่ใจ

    ได้ยินมาว่าเขาไม่เพียงแต่จะเสียตำแหน่งบอสวองโกเล่รุ่นที่สิบไปในศึกชิงแหวนอย่างเดียวเท่านั้น แต่ในสงครามครั้งนั้น เขาสูญเสีย ‘เธออันเป็นที่รัก’ ไปด้วย

     

     

    โฮชิ ยูกิ (n.) อดีตเมียบอสที่ผันตัวไปทำธุรกิจ

    ได้ยินมาว่าหลังจากการเลิกรากับบอสวาเรียผู้แสนเลื่องชื่อคนนั้น เธอไม่ได้กลับประเทศญี่ปุ่นที่เธอจากมา แต่ยังอาศัยอยู่ที่อิตาลี่และเปิดกิจการทำตามความฝันของตัวเองแทน

     

     

     

     

    ภายในห้องประชุมของวาเรียที่มืดครึ้มเพราะสายฝนที่โรยตัวลงมาอย่างหนาเม็ดด้านนอกหน้าต่าง ชายฉกรรจ์กลุ่มนึงกำลังนั่งถกเถียงกันด้วยเรื่องไร้สาระอย่าง ‘เราไม่มีแก้วจะใช้แล้ว’ ด้วยสีหน้าที่ดูเหมือนไม่อยากจะเชื่อตัวเองกันสักเท่าไหร่ โดยมีบอสเอาแต่ใจผู้ซึ่งถูกแม่ทัพผมยาวขี้โมโหตามจิกให้เข้ามาร่วมการประชุมฉุกเฉิน(?)ในครั้งนี้ด้วยนั่งเท้าคางทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ และอันที่จริง เหตุผลที่การประชุมไร้สาระนี้ต้องเกิดขึ้นมันก็เป็นเพราะเขาเอง

     

    “ก็นั่นแหละฮ่า! เค้าติดต่อไปหาแบรนด์เลอนัวร์แล้วนะฮ้า! แต่เค้าบอกว่าไม่ว่ายังไงก็จะไม่ขายแก้วให้วาเรียอีกแล้วฮ่า!” ลูซซูเรียตัดบทท่ามกลางเสียงถกเถียงที่ฟังไม่ได้ศัพท์นั่นด้วยท่าทีที่เกือบจะปลง “ซื้อแก้วปีละหลายร้อยใบ เค้าก็คงจะรู้นั่นแหละฮ่าว่าเราซื้อแก้วเค้ามาปาทิ้งอะ!”

     

    และไอ้คนปานั่นก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเลย… คือคนที่เป็นคนยืนกรานว่าจะไม่ใช้ของแบรนด์อื่นนอกจากแบรนด์นี้เท่านั้นอย่างซันซัสนี่แหละ

     

    จะมีใครบ้าไปปาแก้วใส่ชาวบ้านจนหมดปราสาทอีกล่ะถ้าไม่ใช่เขาน่ะ

     

    “บอกตามตรงว่าไม่เข้าใจเลยครับ” ฟราน เจ้าเด็กหัวกบที่นั่งเท้าคางทำหน้าเบื่อหน่ายอยู่ข้างๆชายหนุ่มผู้สวมมงกุฎเปรยออกมาด้วยน้ำเสียงเฉื่อยชา “ถึงจะสวยแล้วก็มีคุณภาพเท่าไหร่ก็เถอะ… แต่ยังไงซะบอสก็ซื้อมาขว้างเล่นนี่คร้าบ ใช้ของแบรนด์อื่นไม่ได้รึไง ชาวบ้านเค้าลำบากนะครับกับการต้องใช้แก้วกระดาษแบบนี้น่ะ”

     

    คำถามนั้นเรียกให้ดวงตาสีโลหิตขุ่นเขียวลากไปมองเจ้าตัวได้เป็นอย่างดีชนิดที่ว่า ถ้าบนโลกใบนี้มีการฆาตกรรมทางสายตาอยู่ คนที่ทำได้ก็น่าจะเป็นบอสเอาแต่ใจของพวกเขาเนี่ยแหละ

     

    “ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ว่าจะขว้างหรือไม่ขว้าง แต่อยู่ที่เจ้าของแบรนด์มากกว่าล่ะมั้ง ชิชิชิ” เบลเป็นคนถัดมาที่เปิดปากพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มยียวนกวนประสาท และนั่นทำให้รุ่นน้องที่นั่งอยู่ข้างๆหันขวับไปมองเขาด้วยความสนใจ “แกมาไม่ทันนี่นา เจ้ากบ ยัยผู้หญิงที่ชื่อยูกิ เจ้าของแบรนด์นั้นน่ะ เป็นเมียเก่าของบอสเชียวนะ ชิชิชิ ดังนั้นปัญหาคงไม่ได้อยู่ที่แก้วหรอก”

     

    “เมียเก่าบอสเหรอครับ” ฟรานทวนคำนั้นด้วยความประหลาดใจ “อย่างบอสเนี่ยนะจะมีเมีย” และคำถามที่ฟังดูไม่อยากจะเชื่อจนเกินทนนั่นทำให้ขวดไวน์ในมือของบอสคนนั้นลอยเข้ามากระแทกเข้ากับหัวกบของเขาอย่างทันควันจนคนถูกปาของใส่ถึงกับถอนหายใจพรืดด้วยความชินชา “บอส มันเจ็บนะคร้าบ อุตส่าห์คิดว่าจะขว้างแก้วกระดาษมาแทนอยู่แล้วเชียว…”

     

    “ไอ้พวกสวะน่ารำคาญ ถ้ามีเวลามานั่งพล่ามไร้สาระกันอยู่ก็ไสหัวไปได้แล้ว” ซันซัสเอ่ยออกมาเสียงเหี้ยม โดยไม่สนว่าลูกน้องของตัวเองจะพากันเลื่อนสายตามามองเขาอย่างเอือมระอา อย่างน้อยก็อาจจะต้องยกเว้นเลวี่ไว้คนนึง “ทำยังไงก็ได้ ไปเอาไอ้แก้วเวรๆนั่นมาซะ”

     

    “พูดเองนะ บอส” เบลเฟกอลกล่าวขึ้นมาด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ พลางกลั้วหัวเราะเบาๆในลำคอราวกับกำลังนึกอะไรสนุกๆอยู่

     

    และเพราะแบบนั้นภารกิจลักพาตัวเจ้าของกิจการเครื่องแก้วจึงได้เริ่มต้นขึ้น

     

     

    Talk :; เขียนเรื่องเครียดๆแล้วรู้สึกเครียดมากเลยค่ะ เลยเก็บเรื่องแล้วมาเขียนอะไรกาวๆ(?)แทน แต่ก็… นั่นแหละค่ะ ช่วงนี้รู้สึกว่าแพสชั่นมาไวไปไว จะเขียนจบมั้ยให้มันเป็นเรื่องของอนาคต พล็อตคร่าวๆที่วางเอาไว้ไม่มีอะไรปวดหัวเท่าไหร่ ไม่เน้นดราม่าเน้นขายขำ ตอนแรกๆจะเขียนเรื่องช่วงก่อนศึกชิงแหวนก่อน(ซึ่งอาจจะตึงๆอยู่บ้าง) แล้วค่อยตัดกลับมาปัจจุบันกับภารกิจง้อเมียของซันซัสค่ะ

     

     

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น