[Fic Tokyo Revengers]​ เศษแก้วที่แตกสลาย ผมจะเป็นคนถือมันไว้ให้เอง - นิยาย [Fic Tokyo Revengers]​ เศษแก้วที่แตกสลาย ผมจะเป็นคนถือมันไว้ให้เอง : Dek-D.com - Writer
×

[Fic Tokyo Revengers]​ เศษแก้วที่แตกสลาย ผมจะเป็นคนถือมันไว้ให้เอง

"Butterfly Effect" เพียงแค่คำๆเดียว แต่กลับอธิบายทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเรื่องนี้ได้ทั้งหมด ถ้าคุณมีโอกาสได้ย้อนเวลากลับไปอีกครั้ง..คุณจะยังคงทำมันเหมือนเดิมมั้ย?

ยอดวิวรวม

4,996

ยอดวิวเดือนนี้

219

ยอดวิวรวม


4.99K

ความคิดเห็น


57

คนติดตาม


542
จำนวนตอน : 7 ตอน
อัปเดตล่าสุด :  25 ก.พ. 66 / 17:27 น.

ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้

⚠️คำเตือน! เนื้อหาตอนนี้มีฉากที่สปอยตัวละครและเนื้อเรื่องในมังงะ รวมถึงฉากพูดคำหยาบ เลือด การฆาตกรรม​ และการค้าอวัยวะ ฯลฯ โปรดใช้วิจารณญาน​ในการอ่าน⚠️❗ห้ามลอกเลียนแบบนะคะ❗

  รู้สึกตัวอีกที เกรย์ ควิลเลอร์ นักฆ่าสถานะโสดวัย 40 ปี ก็ตื่นขึ้นมาในห้องที่มีเด็กวิ่งเล่นอยู่เต็มไปหมด พร้อมกับร่างกายที่หดเล็กลงกลายเป็นเด็กน้อยที่ดูๆแล้วอายุไม่น่าจะเกิน 8 ขวบ ไปซะแล้ว...

  ข้างตัวเขานั้นคือโทรศัพท์​มือถือที่ใส่เคสลายbo-bo-ribbonเครื่องโปรดของเขา ที่เวลาเพื่อนในองค์กรนักฆ่าปากแจ๋วเห็นมัน แล้วชอบแซวว่ามันไม่เหมาะกับนักฆ่าแบบเขาเลยสักนิด

  ควิลคว้าโทรศัพท์​มาปลดล็อก​หน้าจอแล้วรีบเลื่อนหารายชื่อเพื่อนในองค์กรที่อาจเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ เพราะในคราวก่อนก็เป็นฝีมือของเจ้าพวกนั้น ที่เล่นพิเรนทร์วางยาสลบแล้ว​เอาเขาไปทิ้งที่กลางดงลูกปืนมาเฟียสองแก๊งที่เป็นอริกัน แถมยังสร้างเรื่องว่าควิลขายข่าวของพวกมันให้แก๊งคู่อริอีก ที่น่าโมโหไปมากกว่านั้นคือหัวหน้าของพวกมันดันหูเบาเชื่อคำพูดเพื่อนของเขาเสียด้วย

ดักดานซะจริง สมควรแล้วที่ได้เป็นแค่แก๊งมาเฟียเล็กๆกระจอกงอกง่อยสองแก๊ง

  ด้วยความโมโหที่ถูกพรากวันหยุดที่นานๆทีจะมีสักครั้ง ควิลจึงจัดการเก็บมันทั้งสองแก๊งให้หายออกไปจากโลกนี้เสียให้หมด แน่นอนว่าไม่ได้ฆ่าแต่แค่รมควันให้พวกนั้นสลบแล้วประกาศขายอวัยวะของพวกมันในตลาดมืดก็เท่านั้น ส่วนมากก็เป็นพวกเศรษฐี​กระเป๋าหนักทั้งหลายที่ซื้อไป เขาไม่ได้สนใจภูมิหลังคนที่ซื้อไปเท่าไหร่นัก แค่ได้เงินมาใช้ก็เพียงพอแล้วสำหรับนักฆ่าอย่างควิล เศรษฐีพวกนั้นจะทำยังไงกับเจ้าของอวัยวะต่อนั้นเขาไม่ได้ใส่ใจ แน่นอนว่าหลังเสร็จเรื่องถึงจะไปไล่เตะพวกเพื่อนบ้าของเขาต่ออีกทอด

"หื้อ? ไม่มี??" ควิลกดเข้ารายชื่อในแอพ แต่ข้างในกลับว่างเปล่า ไม่มีเบอร์รายชื่อของเพื่อนในองค์กรของเขาที่เซฟไว้เลยสักชื่อเดียว

  เขาพยายามนึกเบอร์ของเพื่อนบางคนที่พอจำได้แล้วกดโทรไป แต่ปลายสายกลับบอกว่าเบอร์นี้ยังไม่ถูกเปิดใช้งานเสียอย่างงั้น นั่นทำให้สมองเขาเบลอไปชั่วขณะ

โฮ่ยๆ..แบบนี้มันไม่ตลกเลยนะ...

  ควิลโทรหาทุกเบอร์ที่นึกออก แต่กลับไม่เบอร์ไหนเลยที่เปิดใช้งาน รวมถึงยังเข้าพวกแชทllมสเสจ แชทlลน์ หรือlดมในnวิต ข้อมูลการติดต่อกับเพื่อนในองค์กรของเขามันหายไปหมด ไม่เหลือเลยสักอย่างเหมือนแชทเหล่านั้นไม่เคยมีอยู่ตั้งแต่แรก

  เมื่อไร้หนทางติดต่อกับเพื่อนคนอื่นจริงๆ นักฆ่าอย่างควิลก็เริ่มตื่นตระหนกขึ้นมาบ้างแล้ว หลังของเขาสัมผัสได้ถึงหยาดเหงื่อเย็นๆที่ผุดออกมาทีละเล็กทีละน้อย เสียงเจื้อยแจ้วของเด็กน้อยที่กำลังวิ่งเล่นรอบข้างเริ่มเบาลงเรื่อยๆ และเขาก็เข้าสู่ภวังค์ความคิดของตนเองโดยสมบูรณ์

  หลังจากที่เลื่อนโทรศัพท์​มือถือไปสักพัก เขาก็เจอจุดที่ผิดสังเกตุ วันที่กับเวลาในหน้าจอโทรศัพท์​หรือในแอพอื่นๆและในทวิตไม่ตรงกัน รวมถึงปีค.ศ.ในทวิตตรงกับปีปัจจุบันที่เขาอยู่ก่อนหน้านี้คือปี202x กลับกันปีค.ศ.ในหน้าจอโทรศัพท์​กับในแอพอื่นๆที่ไม่ใช่ทวิตแต่กลับเป็นปี199x

"นี่มันเรื่องบ้าอะไรวะเนี่ย" ควิลอดไม่ได้ที่จะเผลอสบถออกมาเบาๆ

"เป็นอะไรไปงั้นหรอจ๊ะ โนโซมิคุง อ๊ะ! ฉันชื่อ นานามิ อิเอริ เป็นพี่เลี้ยงของเด็กๆที่นี่น่ะจ่ะ" หญิงสาวที่เป็นพี่เลี้ยงในสถานรับเลี้ยง​เด็กกำพร้า​แห่งนี้แนะนำตนเอง และกล่าวถามควิลที่อยู่ในร่างเด็กที่ชื่อโนโซมิอย่างสงสัย

  เมื่อตอนเช้าของวันนี้โนโซมิคุงพึ่งจะถูกรับเข้ามาในสถานรับเลี้ยง​เด็กกำพร้า​ที่นี่ ภายนอกเขาดูเป็นเด็กเงียบขรึมไม่สมกับวัยเสียเท่าไหร่นัก โชคดีที่เด็กคนอื่นไม่ติดใจอะไรชวนเขาเล่นด้วยตามปกติ แต่ดูเหมือนสุดท้ายแล้วเขาก็กลับมานั่งเล่นของเล่นคนเดียวเหมือนเดิมอยู่ดี

  แม้นานามิจะเป็นกังกลอยู่นิดหน่อย แต่เธอก็ทำหน้าที่สอดส่องดูแลเด็กๆคนอื่นด้วยเหมือนกัน ถึงกระนั้นเมื่อครู่พอเธอหันกลับมามองโนโซมิอีกที ก็เจอเขานั่งหน้าซีดแล้วกำลังจ้องแผ่นสีเหลี่ยมบางๆ?อย่างเคร่งเครียด เธอจึงเอ่ยถามเขาออกไปด้วยความเป็นห่วง

"เปล่าครับ พอดีนึกขึ้นได้ว่านัดเพื่อนออกไปเล่นด้วยกันข้างนอก ขอตัวก่อนนะครับ" ควิลแก้ตัวด้วยน้ำเสียงและแสดงสีหน้าให้ดูปกติที่สุด ก่อนจะเอาโทรศัพท์​ใส่กระเป๋าอย่างแนบเนียนแล้วรีบเดินออกไปข้างนอกก่อนที่นานามิจะได้ซักถามอะไรเพิ่มอีก

  ควิลไม่ได้เดินไปไหนไกล เขาเดินไปที่ข้างตึกแถวนั้นเงียบๆ โดยที่มีความหวังว่าจะได้อยู่คนเดียวสักพักเพื่อให้จิตใจสงบลงจากเรื่องที่พึ่งเจอสักนิดก็ยังดี

  แต่เหมือนความหวังของเขาจะไม่เป็นจริง ซอกตึกที่เงียบสงบถูกร่างเล็กของเด็กชายผมดำตัดสั้นคนหนึ่งจับจองเอาไว้ก่อนแล้ว

   ควิลถอนหายใจเบาๆ แล้วกำลังก้าวเท้าหันหลังกลับออกไปทางเดิม แต่แล้วร่างเล็กตรงหน้ากลับหันมามองเขาเสียก่อน

  นั่นทำให้ควิลหยุดหายใจไปชั่วขณะ นอกจากรอยแผลเป็นของเด็กตรงหน้าที่ทำให้เขาตกใจอยู่แล้ว หน้าตาของเด็กตรงหน้ากลับทำให้เขาตกใจขึ้นไปอีก

นัยน์ตาสีแดงเทา ผมตัดสั้นสีดำ..คาคุโจ ฮิตโตะ?...ไม่มั้ง คงเป็นแค่คนหน้าเหมือน แต่แผลที่หน้านั่น..กว่าจะผ่านมาได้คงเจ็บน่าดูเลยนะ

  อาจจะฟังดูแปลกแต่สำหรับนักฆ่าแบบเขา แต่ควิลเป็นพวกขี้สงสารแล้วก็รักเด็ก ถึงแม้เด็กพวกนั้นจะไม่เคยรู้จักกันเลยก็ตาม

  แน่นอนยิ่งเป็นเด็กที่มีแผลตรงหน้าเขา ทำให้เขาเผลอหลุดแสดงสีหน้าเศร้าๆออกมา ดวงตาสองคู่สบกันอยู่พักหนึ่ง เป็นฝ่ายเด็กชายร่างเล็กตรงหน้าที่ละสายตากลับไปดังเดิมเสียก่อน

  ควิลไม่ได้ก้าวขาออกไปจากซอกตึกแต่อย่างใด กลับกันเขาเดินก้าวไปหาร่างเล็กตรงหน้าเขาแล้วลงไปนั่งข้างๆโดยไม่สนใจว่าเด็กชายกำลังทำอะไรอยู่

"แผลนั่นน่ะ ยังเจ็บอยู่รึเปล่า? รอยแดงรอบแผลมันยังไม่หายดีเลยนะ...ให้ฉันไปเอายามาทาให้มั้ย?" ควิลเอ่ยถาม และลอบมองรอยแผลของเด็กชาย

"อย่ามายุ่งกับฉัน เดี๋ยวก็ถูกรังแกไปด้วยหรอก" เด็กชายไม่ได้หันหน้ามา แต่กลับเอ่ยเตือนเขาเสียงแข็ง

"งั้นหรอ..เดี๋ยวฉันจะไปหายาแปป นายรออยู่นี่ล่ะอย่าพึ่งไปไหน" เขาไม่ได้สนใจคำเตือนของเด็กตรงหน้า แล้วรีบเดินออกจากซอกตึกไป

  ก่อนจะได้ออกจากซอกตึกนี้ ที่หัวมุมตึกควิลก็เดินสวนกับเด็กคนหนึ่งเข้าเสียก่อน ผิวสีแทน ผมขาวราวกับหิมะ และนัยน์ตาสีกล้วยไม้ เขาจะไม่ติดใจอะไรเลยถ้าเด็กคนนั้นไม่ได้มีหน้าตาเหมือนกับ คุโรคาวะ อิซานะ ในโตเกียวรีเวนเจอร์ส

  เด็กที่หน้าตาเหมือนอิซานะเดินเข้าไปในซอกตึกนั้น โดยที่ไม่ได้มองเขาเลยสักนิด ส่วนควิลเองก็เดินออกไปหาพี่เลี้ยงสาวเพื่อขอยามาทาแผลให้เด็กชายร่างเล็ก

  ควิลพยายามประติดประต่อภาพเหตุการณ์ภายในหัว โดยที่ไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆที่ผิดปกติออกมา

จะมาที่โลกนี้ได้ยังไงก็ไม่รู้หรอกนะ...แต่เด็กสองคนนั้นมันอิซานะกับคาคุโจชัดๆ ไม่มีทางที่จะเจอคนหน้าเหมือนซ้ำกันสองรอบได้หรอก

"เรื่องมันชักจะไปกันใหญ่แล้ว..." ควิลพูดออกมาด้วยความเคร่งเครียด ถึงกระนั้นขาของเขาก็ยังก้าวเดินต่อไปเรื่อยๆ

 เขาไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไปดี ถ้าจะช่วยชีวิตคนที่มีเดธแฟรกอยู่ไม่ให้ตายนั้นมันทำง่ายนิดเดียว แต่สิ่งที่น่ากลัวคือบัตเตอร์ฟลาย​เอฟเฟค หากควิลลงมือช่วยมันก็ไม่ต่างกับสิ่งที่ทาเคมิจิทำ ไม่รู้เลยว่าเมื่อลงมือทำไปแล้วมันจะส่งผลดี หรือเลวร้ายลงมากไปกว่าเดิม

อนาคต​จะต้องเปลี่ยนไปอีกแน่ เรื่องราวจะไม่เป็นไปตามมังงะ และแบบนั้นก็ไม่รู้ว่าจะส่งผลอะไรกับทาเคมิจิที่เป็นคนย้อนเวลาด้วยรึเปล่า

แต่ถ้าไม่ช่วยมันก็ออกจากเย็นชาไปมั้ย ทั้งๆที่สามารถต่อชีวิต ต่ออนาคต​ให้ชีวิตเด็กๆหลายคนได้น่ะ...หนักใจชะมัด..

  ขณะที่กำลังกลุ้มใจควิลก็เดินมาถึงตัวนานามิเสียแล้ว

"เอ่อ นานามิซังครับ พอจะมียาที่ลดรอยแดงของแผลเป็นบ้างมั้ยครับ" เขาเอ่ยถามสาวพี้เลี้ยงเด็ก

"อ้อ มีจ่ะ อยู่ที่ห้องพยาบาลน่ะ แผลเป็นรอยแดงหรอจ๊ะโนโซมิคุง?"

"เปล่าครับ พอดีเพื่อนผมเป็นน่ะครับ"

"งั้นพี่ฝากดูเด็กคนอื่นๆแทนแปปนึงนะจ๊ะ เดี๋ยวจะไปหยิบยามาให้"

"ขอบคุณครับ"

  จากนั้นนานามิก็เดินออกจากห้องไป เหลือแค่ควิลกับเด็กคนอื่นๆที่บ้างก็วิ่งเล่นในห้อง บ้างก็เล่นของเล่นตามประสา

  ควิลสอดส่องสายตาดูเด็กคนอื่นๆระหว่างรอนานามิอยู่เงียบๆ แต่สายตาของเขาก็ไปหยุดอยู่ที่เด็กผู้หญิงสองคนที่กำลังเล่นแต่งหน้ากันอยู่

แต่งหน้า?...แต่งหน้า!? ถ้าหาตัวแทนมาล่ะ! แต่งหน้าแต่งตัวแล้วปลอมตัวเป็นคนที่กำลังตายในเหตุการณ์​นั้น เล่นละครตบตาว่าตายไปแล้วแทนตัวจริงล่ะ!?

ส่วนตัวจริงก็คงต้องให้หายหน้าหายตาไปเลย จนกว่าเรื่องทุกอย่างจะจบลง แต่ปัจจุบันมังงะเรื่องนี้มันยังไม่จบเลยนี่..

จริงสิจะว่าไปปีในทวิตมันเป็น202xนี่? ถ้างั้นมันน่าจะใช้ส่องแท่กดูสปอยตอนใหม่ที่ออกมาได้!

  ควิลลองหยิบโทรศัพท์​มือถือขึ้นมาเปิดทวิต แล้วลองค้นหาแท่กtokrev 226

เยี่ยม! ทวิตยังคงยึดตามปีที่โลกนั้น เวลาแท่กยังคงรันตามปี202xได้ปกติ เท่านี้ก็คงหมดปัญหาเรื่องตอนจบแล้ว!

"นี่จ่ะ โนโซมิคุง" นานามิที่กลับมาจากห้องพยาบาลแล้วยื่นตลับยาให้กับควิล

"ขอบคุณมากครับ!" เขาก้มหัวขอบคุณเธอ ถ้าไม่ใช่เพราะนานามิให้เฝ้าเด็กๆไว้เขาคงคิดไม่ออกว่าจะช่วยชีวิตเด็กพวกนั้นยังไงดี

  เมื่อได้ยาแล้วควิลก็เดินออกมามุ่งหน้าไปหาเด็กชายที่เขาคิดว่าเป็นคาคุโจทันที เขาไม่กังวลว่าการกระทำเล็กๆน้อยๆนี้ของเขาจะไปเปลี่ยนอนาคตได้ หากอ้างอิงจากเหตุการณ์​ศึกแบล็คดราก้อนของพี่น้องชิบะ การที่ทาเคมิจิจะเปลี่ยนอนาคตก็ทำได้ยากพอสมควร ถ้าไม่ไปแตะต้องหรือเปลี่ยนตัวแปรสำคัญของเรื่องจริงๆ อนาคตก็จะไม่เปลี่ยนไป

"นายมันไม่มีค่าอะไรเลย ดังนั้นฉันจะมอบคุณค่าของการมีชีวิตให้นายเอง"

"ฮึก ฮึก..."

"จากนี้ไปฉันคือราชาของนาย ส่วนนายเป็นข้ารับใช้ของฉัน ดังนั้นจงมีชีวิตอยู่เพื่อฉันซะ"

พูดถึงโจโฉ โจโฉก็มา เยี่ยมไปเลย ดันมาเจอฉากที่สำคัญที่อิซานะมอบเหตุผลในการมีชีวิตอยู่คาคุโจจนได้ ถ้าไม่ติดว่านี่เป็นโลกโตเกียวรีเวนเจอร์ส​แล้วอิซานะเป็นคนพูดกับคาคุโจ เขาคงคิดว่าไอ่เด็กพวกนี้มันเบียวบทใส่กันแล้วล่ะนะ

"เฮ้ นายผมดำน่ะ คุยกันเสร็จแล้วก็เดินมานี่เลย ฉันเอายามาละเดี๋ยวจะทาให้เอง เพราะงั้นเลิกขี้แยได้แล้วนะ" ควิลพูดขัดขึ้นมาทันทีที่ทั้งสองดูเหมือนจะคุยกันเสร็จแล้ว

"ฮึก! มะ ไม่ได้ขี้แยนะ! แล้วก็! เธอเองก็เด็กเหมือนกันนั่นแหละ!" คาคุโจพูดเถียงขึ้นทั้งๆที่มือก็ยังพยายามเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมา

"อย่างน้อยฉันก็ไม่ขี้แ--"

"เธอเป็นใคร"

  ยังไม่ทันที่ควิลจะพูดตอบคาคุโจจบ อิซานะก็พูดขัดขึ้นมาเสียก่อน

"ก่อนจะถามชื่อใคร นายควรแนะนำตัวเองก่อนนะ"

"คุโรคาวะ อิซานะ ทีนี้ตาเธอแล้ว"

"โนโซมิ เรย์ จะเรียกว่าเรย์ก็ได้ ยินดีที่ได้รู้จัก คุโรคาวะ"

โชคดีจริงๆที่ก่อนหน้านี้สังเกตเห็น​ป้ายชื่อบนเสื้อตัวเองซะก่อนไม่งั้นคงปล่อยไก่ตอบอิซานะได้แค่นามสกุลแน่ๆ

กล่าวจบเรย์ก็ยิ้มตามมารยาทแล้วก้าวขาเดินไปหยุดที่ด้านหน้าของอิซานะ พร้อมกับยื่นมือไปข้างหน้าเพื่อที่จะshak Hands

"อ้อ เธอคงจะเป็นเด็กพึ่งถูกรับมาเมื่อเช้า ที่พวกผู้ใหญ่พูดถึงสินะ"

"คงงั้นมั้ง แล้วนายล่ะขี้แย"

  พูดจบอิซานะยื่นมือมาจับมือของเรย์แล้วเขย่าเบาๆก่อนจะผละมือออกไป จากนั้นก็เดินหลบออกไปยืนพิงกำแพงให้เรย์ได้คุยกับคาคุโจต่อ

"คาคุโจ ฮึก! คาคุโจ ฮิตโตะ เลิกพูดล้อฉันสักทีเถอะ!"

"ฮ่าๆๆ! โอเคๆ ฉันไม่แกล้งนายแล้วคาคุโจ ทีนี้ก็ยื่นหน้ามาได้แล้ว" ว่าแล้วเรย์ก็ยิ้มขึ้น แล้วยื่นมือไปเกลี่ยน้ำตาออกจากใบหน้าของคาคุโจ นั่นทำให้คาคุโจเขินจนหน้าขึ้นสีทันที

"นะ น่าขายหน้าชะมัด ฉันเป็นผู้ชายแท้ๆแต่กลับต้องให้ผู้หญิงแบบเธอมาปลอบซะได้"

"หื้มม~ เขินก็พูดออกมาตรงๆเถอะน่าา~" เรย์พูดหยอกเอิน​คาคุโจ แล้วแกล้งยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆอีกฝ่าย

  คาคุโจสำรวจใบหน้าที่ห่างกับเขาไม่ถึงคืบ ผิวขาวราวกับน้ำนม แก้มอมชมพูน่ารัก แพขนตางอนยาวสีดำขลับ นัยน์ตา​สองสี บลูฮาวายน้ำทะเลและบัตเตอร์โกลด์แวววาว ปากอวบอิ่มสีเชอร์รี่​ ทั้งหมดนั่นทำให้เขาหน้าแดงยิ่งกว่าเดิม และลนลานจนหลับตาหยี

"อุ๊ฟ! ฮ่าๆๆ! โอ้ย ให้ตายสิ นายนี่น่ารักชะมัดคาคุโจ ฉันหยอกเล่นหรอกน่า แล้วก็นะฉันเป็นผู้ชายต่างหากล่ะ ไม่ได้เป็นผู้หญิงสักหน่อย" เรย์หลุดขำออกมา

"หะ?/เอ๋? ผะ ผู้ชายหรอกหรอ" คาคุโจรู้สึกงงจนทำหน้าเหลอหลาออกมา ส่วนอิซานะเองที่ได้ยินดังนั้นก็รู้สึกทึ่งอยู่หน่อยๆเพราะดูจากหน้าตากับรูปร่างและเสียงแล้ว เขานึกว่าเรย์เป็นเด็กผู้หญิงเสียอีก

"ก็ใช่น่ะสิ พวกนายดูไม่ออกหรอ" ระหว่างพูดเรย์ก็เปิดฝากของตลับยาออก

"หลับตาหน่อยสิคาคุโจ"

"อะ อื้ม" คาคุโจหลับตาลง สักพักก็รู้สึกถึงอะไรเย็นๆรอบรอยแผลของเขา เป็นเรย์ที่เอานิ้วแตะกับยาแล้วบรรจงทาบนรอยแดงที่แผลของคาคุโจอย่างเบามือ

"เรียบร้อย! ทีนี้ก็ไปเล่นสนุกได้แล้วล่ะนะ" พูดจบเรย์ก็ปิดฝาตลับยาเก็บไว้เหมือนเดิม 

"ขะ ขอบคุณ ตะ แต่ว่านายอย่ามายุ่งกับฉันดีกว่านะเรย์ ไม่งั้น--"

"ไม่งั้นฉันก็จะโดนรังแกไปด้วย แต่แล้วไงล่ะ ฉันไม่สนหรอก ก็ฉันอยากเล่นกับนายนี่!"

แล้วก็นะคาคุโจ...ถ้าฉันโดนรังแกขึ้นมาจริงๆก็คงไม่อยู่นิ่งให้ใครหน้าไหนมารังแกฉันอยู่ฝ่ายเดียวแน่

"ถึงนายจะยืนกรานแบบนั้น แต่!--"

"ถ้านายไม่มั่นใจในฝีมือของฉัน งั้น...นายก็ปกป้องฉันสิ ในเมื่อนายเป็นต้นเหตุ​ให้ฉันถูกรังแกนี่นา"

"ปกป้องฉันเหมือนที่จะทำให้กับคุโรคาวะ...ถือซะว่าตอบแทนที่ฉันทายาให้นายก็แล้วกัน..แต่ถ้ามันน้อยไปก็แลกกับฉันจะเป็นคนที่ดูแลคอยทำแผลให้นายตลอดเลยก็ได้นะคาคุโจ"

"เฮ้ๆ แบบนี้หมายความว่านายก็จะเป็นราชางั้นหรอ แต่ราชาน่ะมีได้แค่คนเดียวนะ" อิซานะที่ได้ยินเรย์พูดแบบนั้นเขาก็รีบแย้งขึ้นมาทันที

"ใครว่าล่ะ ฉันไม่ได้พูดสักหน่อยว่าจะเป็นราชาน่ะ"

"ห๊า? พูดอะไรน่ะ นอกจากราชา ที่ข้ารับใช้ต้องอุทิศชีวิตตัวเองเพื่อปกป้องแล้ว มันจะยังมีตำแหน่งอื่นอยู่อีกรึไงล่ะ"

"มีสิ...ราชินี​ไงล่ะ" เรย์พูดจบแล้วเขาก็แสยะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์​กึ่งท้าทายนิดๆให้กับอิซานะ

  เขาไม่มีความกังวลเลยว่าการที่มีเขาเพิ่มมาจะไปเปลี่ยนแปลงอนาคต เพราะเขาไม่ได้ทำการบิดเบือนความคิดของคาคุโจที่มีต่ออิซานะที่เป็นเหตุผลแรกเริ่ม เขาเพียงแต่เพิ่มตัวตนของเขาที่สามารถควบคุมการกระทำต่างๆไม่ให้ส่งผลต่อนาคตได้เข้าไปก็เท่านั้น

  เพราะงั้นถ้าหากเทียบกับการช่วยชีวิตคนที่ต้องตาย โดยที่ปล่อยให้คนๆนั้นใช้ชีวิตอย่างปกติแล้ว มันจึงเป็นคนกรณีกัน ซึ่งการทำแบบนั้นจะส่งผลให้เกิดการบิดเบือนสิ่งที่มันควรจะเกิดขึ้นแต่มันกลับไม่เกิดขึ้น และยังเพิ่มตัวแปรที่ไม่สามารถควบคุมการกระทำที่อาจส่งผลต่ออนาคตได้อีกด้วย

  นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งเหตุผลคือ เรย์ต้องการที่จะเข้าเทนจิคุ ในเมื่อตัดสินใจที่จะช่วยแล้ว เขาก็จะทำให้ดีที่สุด ในเหตุการณ์​ฮัลโลวีน​เลือดเขายังพอแทรกซึมเข้าไปได้ ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ในแก๊งโตมันก็ตาม แต่ถ้าในเหตุการณ์​เทนจิกุปะทะโตมันที่เขาจะช่วยอิซานะนั้น ตำแหน่งราชินีของเทนจิกุจะทำให้เขาช่วยชีวิตอิซานะได้ง่ายกว่า

"ว่าไงล่ะคุโรคาวะ"

"...หึหึ...ฮ่าๆๆๆๆ! น่าสนใจดีหนิ! เอาสิ มาเป็นราชินีของฉันซะ" อิซานะหัวเราะร่า เขารู้สึกสนใจเรย์มาก ไม่เคยมีใครท้าทายเขามากเท่าคนตรงหน้ามาก่อน และเขาก็รู้สึกได้โดยสัญชาตญาณ​ว่าเรย์นั้นไม่ได้มีดีแค่ที่เห็น ดังนั้นเขาจึงจะให้เรย์อยู่เคียงข้างเขา และคอยมองดู​สิ่งน่าสนใจที่เรย์จะทำดีกว่า

"โน๊วๆ ไม่ใช่ราชินีของนาย แต่เป็นราชินีของพวกนายต่างหากล่ะ เพราะคาคุโจก็ถือว่าเป็นอัศวินที่ปกป้องราชินีอย่างฉันอีกคน ตกลงตามนี้นะคุโรคาวะ คาคุโจ" 

เอาตรงๆก็คิดว่าบทที่ตัวเองพูดมันเบียวเอาเรื่อง แต่ไหนๆก็มาถึงขั้นนี้ละ ชั่งมันละกัน

"หึหึ ตามนั้นก็ได้ฉันไม่ขัดข้อง แล้วนายล่ะคาคุโจ"

ราชินีของพวกฉันงั้นหรอ เจ้าเล่ห์​ซะเหลือเกินนะเรย์ แต่ก็ทำให้ฉันสนใจมากขึ้นไปอีก

"ถ้าอิซานะว่างั้น ฉันก็ไม่มีปัญหา ฉันจะปกป้องพวกนายสองคนเอง!"

ทั้งอิซานะที่มอบเหตุผลในการมีชีวิตอยู่ให้ และเรย์ที่เป็นคนบอกว่าจะดูแลฉัน..มันเหมือนกับ...พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกันเลย เพราะงั้นก็คงเป็นเรื่องปกติที่จะปกป้องคนในครอบครัวสินะ

"ฉันน่ะไม่ต้องก็ได้ แต่นายน่ะไปปกป้องเรย์เถอะ ตัวเล็กอย่างกับลูกแมวขนาดนั้นจะไปสู้ใครเขาได้รึเปล่าเถอะ" อิซานะพูดจบแล้วเขาส่งสายตาเยาะเย้ย​ออกมาให้กับเรย์

"นายอยากลองโดนลูกแมวตัวนี้ข่วนดูสักครั้งมั้ยล่ะอิซานะ" เรย์พูดข่มขู่แล้วส่งยิ้มเย็นให้กับอิซานะ

"เห๋~ ก็ลองดู--"

"โนโซมิคุง! อยู่แถวนี้รึป่าวจ๊ะ!"

  ยังไม่ทันที่อิซานะจะพูดจบประโยค เสียงของนานามิก็ดังขึ้นเสียก่อน ทำให้เรย์ต้องแยกตัวออกมาจากอิซานะและคาคุโจอย่างเลี่ยงไม่ได้ 

  นานามิเธอออกมาตามเรย์ เพราะดูเหมือนว่ากระเป๋าสัมภาระที่เหลือของเรย์จะถูกส่งมาที่สถานรับเลี้ยงแล้ว เธอจึงจะให้เขามาเช็คอีกทีว่าของที่ใส่กระเป๋ามาได้เอามาครบทั้งหมดแล้วจริงๆ

  เรย์เปิดกระเป๋าดูของข้างใน ส่วนมากก็เป็นของเล่น เขาที่ไม่อยากทิ้งมันจึงบอกให้นานามิเอาไปไว้ที่ห้องนั่งเล่น เป็นของส่วนรวมให้เด็กคนอื่นๆได้เอาไปเล่นแทน พวกเสื้อผ้าเขาก็เลือกที่จะเก็บไว้บ้างบางตัว เสื้อผ้าตัวไหนที่ใส่คับๆหน่อยก็ให้นานามิเอาไปให้เด็กที่ตัวเล็กกว่าเขาด้วยเหมือนกัน

  กว่าจะจัดการเก็บของทั้งหมดเข้าล็อกเกอร์​ของตัวเองเสร็จก็เป็นเวลาค่ำของวันเสียแล้ว

 

Talk

ขอโทษที่หายไปนานแล้วหนีมาเปิดเรื่องใหม่นะคะ เอาจริงๆฟิคคิเมสึเราก็แต่งตอนที่4ใกล้เสดแล้วแหละค่ะ เดี๋ยวถ้าแต่งเสดจะรีบมาลงต่อให้นะคะ ถ้าพบคำผิดพิมพ์บอกให้คอมเม้นให้หน่อยนะงับ หรือถ้าภาษาไม่สวยขออภัยน้า อ้อแล้วก็เรื่องอายุเราก็ไม่ค่อยแน่ใจสักเท่าไหร่นะคะ แต่จะพยายามเก็บข้อมูลจากในมังงะให้ได้มากที่สุดค่ะ

อีบุ๊กในซีรีส์เดียวกัน ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

คำนิยม Top

ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

คำนิยมล่าสุด

ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

57 ความคิดเห็น