[Fic Tokyo Revengers]​ เศษแก้วที่แตกสลาย ผมจะเป็นคนถือมันไว้ให้เอง *กำลังรีไรท์ - นิยาย [Fic Tokyo Revengers]​ เศษแก้วที่แตกสลาย ผมจะเป็นคนถือมันไว้ให้เอง *กำลังรีไรท์ : Dek-D.com - Writer
×

    [Fic Tokyo Revengers]​ เศษแก้วที่แตกสลาย ผมจะเป็นคนถือมันไว้ให้เอง *กำลังรีไรท์

    "Butterfly Effect" เพียงแค่คำๆเดียว แต่กลับอธิบายทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเรื่องนี้ได้ทั้งหมด ถ้าคุณมีโอกาสได้ย้อนเวลากลับไปอีกครั้ง..คุณจะยังคงทำมันเหมือนเดิมมั้ย?

    ผู้เข้าชมรวม

    6,554

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    20

    ผู้เข้าชมรวม


    6.55K

    ความคิดเห็น


    127

    คนติดตาม


    637
    จำนวนตอน :  7 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  16 ก.ค. 66 / 00:24 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    ⚠️คำเตือน! เนื้อหาตอนนี้มีฉากที่สปอยตัวละครและเนื้อเรื่องในมังงะ สปอยมังงะตอนที่175 รวมถึงฉากพูดคำหยาบ เลือด การฆาตกรรม​ และการค้าอวัยวะ ฯลฯ โปรดใช้วิจารณญาน​ในการอ่าน⚠️❗ห้ามลอกเลียนแบบนะคะ❗

      รู้สึกตัวอีกที เกรย์ ควิลเลอร์ นักฆ่าสถานะโสดวัย 40 ปี ก็ตื่นขึ้นมาในห้องที่มีเด็กวิ่งเล่นอยู่เต็มไปหมด พร้อมกับร่างกายที่หดเล็กลงกลายเป็นเด็กน้อยที่อายุไม่น่าจะเกิน 8 ขวบ ไปเสียแล้ว...

      ข้างตัวกันนั้นคือโทรศัพท์​มือถือที่ใส่เคสลายbo-bo-ribbonเครื่องโปรดของเขา ที่เวลาเพื่อนในองค์กรนักฆ่าปากแจ๋วเห็นมัน แล้วชอบแซวว่ามันไม่เหมาะกับนักฆ่าเลยสักนิด

      ควิลคว้าโทรศัพท์​มาปลดล็อก​หน้าจอแล้วรีบเลื่อนหารายชื่อเพื่อนในองค์กรที่อาจเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้โดยเร็ว เพราะในคราวก่อนก็เป็นฝีมือของเจ้าพวกนั้น

      ที่เล่นพิเรนทร์วางยาสลบแล้ว​เอาเขาไปทิ้งที่กลางดงลูกปืนมาเฟียสองแก๊งที่เป็นอริกัน แถมยังสร้างเรื่องว่าควิลขายข่าวของพวกมันให้แก๊งคู่อริอีก ที่น่าโมโหไปมากกว่านั้นคือหัวหน้าของพวกมันดันหูเบาเชื่อคำพูดเพื่อนของเขาเสียด้วย

    ดักดานขนาดนั้น ก็สมควรแล้วที่ได้เป็นแค่แก๊งมาเฟียเล็กๆกระจอกงอกง่อยสองแก๊ง

      ด้วยความโมโหที่ถูกพรากวันหยุดที่นานๆทีจะมีสักครั้ง ควิลจึงจัดการเก็บมันทั้งสองแก๊งให้หายออกไปจากโลกนี้เสียให้หมด แน่นอนว่าไม่ได้ฆ่าแต่แค่รมควันให้พวกนั้นสลบแล้วประกาศขายอวัยวะของพวกมันในตลาดมืดก็เท่านั้น

      ส่วนมากก็เป็นพวกเศรษฐี​กระเป๋าหนักทั้งหลายที่ซื้อไป เขาไม่ได้สนใจภูมิหลังคนที่ซื้อไปเท่าไหร่นัก แค่ได้เงินมาใช้ก็เพียงพอแล้วสำหรับนักฆ่าอย่างควิล เรื่องที่ว่าเศรษฐีพวกนั้นจะทำยังไงกับเจ้าของอวัยวะต่อนั้น เขาไม่ได้ใส่ใจ แน่นอนว่าหลังเสร็จเรื่องถึงจะไปไล่เตะพวกเพื่อนบ้าของเขาต่ออีกทอด

    "หื้อ? ไม่มี??" ควิลกดเข้ารายชื่อในแอพ แต่ข้างในกลับว่างเปล่า ไม่มีเบอร์รายชื่อของเพื่อนในองค์กรของเขาที่เซฟไว้เลยสักชื่อเดียว

      นักฆ่าตัวน้อยพยายามนึกเบอร์ของเพื่อนบางคนที่พอจำได้แล้วกดโทรไป แต่ปลายสายกลับบอกว่าเบอร์นี้ยังไม่ถูกเปิดใช้งานเสียอย่างงั้น นั่นทำให้สมองเขาเบลอไปชั่วขณะ

    โฮ่ยๆ..แบบนี้มันไม่ตลกเลยนะ...

      ควิลโทรหาทุกเบอร์ที่นึกออก แต่กลับไม่เบอร์ไหนเลยที่เปิดใช้งาน รวมถึงยังเข้าพวกแชทllมสเสจ แชทlลน์ หรือlดมในnวิต ข้อมูลการติดต่อกับเพื่อนในองค์กรของเขามันหายไปหมดไม่เหลือเลยสักอย่าง เหมือนแชทเหล่านั้นไม่เคยมีอยู่ตั้งแต่แรกเสียอย่างงั้น

      เมื่อไร้หนทางติดต่อกับเพื่อนคนอื่นจริงๆ นักฆ่าอย่างควิลก็เริ่มตื่นตระหนกขึ้นมาบ้างแล้ว หลังของเขาสัมผัสได้ถึงหยาดเหงื่อเย็นๆที่ผุดออกมาทีละเล็กทีละน้อย เสียงเจื้อยแจ้วของเด็กน้อยที่กำลังวิ่งเล่นรอบข้างเริ่มเบาลงเรื่อยๆ แล้วเขาก็เข้าสู่ภวังค์ความคิดของตนเองโดยสมบูรณ์

      หลังจากที่เลื่อนโทรศัพท์​มือถือไปสักพัก ควิลก็เจอจุดที่ผิดสังเกตุเข้า วันที่กับเวลาในหน้าจอโทรศัพท์​หรือในแอพอื่นๆ กับในทวิตไม่ตรงกัน

      ปีค.ศ.ในการรีทวิตนั้นตรงกับปีปัจจุบันที่เขาอยู่ก่อนหน้านี้คือปี202xไม่ผิดเพี้ยน แต่ปีค.ศ.ในหน้าจอโทรศัพท์​กับในแอพอื่นๆที่ไม่ใช่ทวิตกลับเป็นปี199x

    "นี่มันเรื่องบ้าอะไรวะเนี่ย" ควิลอดไม่ได้ที่จะเผลอสบถออกมาเบาๆ

    "เป็นอะไรรึเปล่าจ๊ะ โนโซมิคุง อ๊ะ! ฉันชื่อ นานามิ อิเอริ เป็นพี่เลี้ยงของเด็กๆที่นี่น่ะจ่ะ" หญิงสาวที่เป็นพี่เลี้ยงในสถานรับเลี้ยง​เด็กกำพร้า​แห่งนี้แนะนำตนเอง และกล่าวถามควิลที่อยู่ในร่างเด็กที่ชื่อโนโซมิอย่างสงสัย

      เมื่อตอนเช้าของวันนี้โนโซมิคุงพึ่งจะถูกส่งเข้ามาในสถานรับเลี้ยง​เด็กกำพร้า​ที่นี่ ดูจากภายนอกเขาเป็นเด็กเงียบขรึมไม่สมกับวัยเสียเท่าไหร่นัก โชคดีที่เด็กคนอื่นไม่ติดใจอะไรชวนเขาเล่นด้วยตามปกติ แต่ดูเหมือนสุดท้ายแล้ว เขาก็กลับมานั่งเล่นของเล่นคนเดียวเหมือนเดิมอยู่ดี

      แม้นานามิจะเป็นกังกลอยู่นิดหน่อย แต่เธอก็ทำหน้าที่สอดส่องดูแลเด็กๆคนอื่นด้วยเหมือนกัน ถึงกระนั้นเมื่อครู่พอเธอหันกลับมามองโนโซมิอีกที ก็เจอเขานั่งหน้าซีดแล้วกำลังจ้องแผ่นสีเหลี่ยมบางๆ?อย่างเคร่งเครียด เธอจึงเอ่ยถามเขาออกไปด้วยความเป็นห่วง

    "เปล่าครับ พอดีนึกขึ้นได้ว่านัดเพื่อนออกไปเล่นด้วยกันข้างนอก ขอตัวก่อนนะครับ" ควิลแก้ตัวด้วยน้ำเสียงและแสดงสีหน้าให้ดูปกติที่สุด ก่อนจะเอาโทรศัพท์​ใส่กระเป๋าอย่างแนบเนียนแล้วรีบเดินออกไปข้างนอกก่อนที่นานามิจะได้ซักถามอะไรเพิ่ม

      ควิลไม่ได้เดินไปไหนไกล เขาเดินไปที่ข้างตึกแถวนั้นเงียบๆ โดยที่มีความหวังว่าจะได้อยู่คนเดียวสักพักเพื่อให้จิตใจสงบลงจากเรื่องที่พึ่งเจอสักนิดก็ยังดี

      แต่เหมือนความหวังของเขาจะไม่เป็นจริง ซอกตึกที่เงียบสงบถูกร่างเล็กของเด็กชายผมดำตัดสั้นคนหนึ่งจับจองเอาไว้ก่อนแล้ว

       ควิลถอนหายใจเบาๆ แล้วกำลังก้าวเท้าหันหลังกลับออกไปทางเดิม แต่แล้วร่างเล็กตรงหน้ากลับหันมามองเขาเสียก่อน

      นั่นทำให้ควิลเผลอหยุดหายใจไปชั่วขณะ นอกจากรอยแผลเป็นของเด็กตรงหน้าที่ทำให้เขาตกใจอยู่แล้ว หน้าตาของเด็กตรงหน้ากลับทำให้เขาตกใจขึ้นไปอีก

    นัยน์ตาสีแดงเทา ผมตัดสั้นสีดำ..คาคุโจ ฮิตโตะ?...ไม่มั้ง คงเป็นแค่คนหน้าเหมือน แต่แผลที่หน้านั่น..กว่าจะผ่านมาได้คงเจ็บน่าดูเลยนะ

      อาจจะฟังดูแปลกแต่สำหรับนักฆ่าอย่างควิล แต่ความจริงแล้วเขาเป็นพวกขี้สงสารแล้วก็รักเด็กมาก ถึงแม้เด็กพวกนั้นจะไม่เคยรู้จักกันเลยก็ตาม

      แน่นอนยิ่งเป็นเด็กที่มีแผลตรงหน้าเขา นั่นทำให้นักฆ่าตัวน้อยอดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าเศร้าๆออกมา ดวงตาสองคู่สบกันอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะเป็นฝ่ายเด็กชายร่างเล็กตรงหน้าที่ละสายตากลับไป

      ควิลไม่ได้ก้าวขาออกไปจากซอกตึกแต่อย่างใด กลับกันเขาเดินเข้าไปหาร่างเล็กตรงหน้าแล้วลงไปนั่งข้างๆ โดยไม่สนใจว่าเด็กชายกำลังทำอะไรอยู่

    "แผลนั่นน่ะ ยังเจ็บอยู่รึเปล่า? รอยแดงรอบแผลมันยังไม่หายดีเลยนะ...ให้ฉันไปเอายามาทาให้มั้ย?" ควิลเอ่ยถาม และลอบมองรอยแผลของอีกฝ่าย

    "อย่ามายุ่งกับฉัน เดี๋ยวก็ถูกรังแกไปด้วยหรอก" เด็กชายไม่ได้หันหน้ามา แต่กลับเอ่ยเตือนเขาเสียงแข็ง

    "งั้นหรอ..เดี๋ยวฉันไปหายาแปปนะ นายรออยู่นี่ล่ะอย่าพึ่งไปไหน" เขาไม่ได้สนใจคำเตือนของเด็กตรงหน้า แล้วรีบเดินออกจากซอกตึกไป

      ก่อนจะได้ออกจากซอกตึกนี้ ที่หัวมุมตึกควิลก็ได้เดินสวนกับเด็กคนหนึ่งเข้าเสียก่อน ผิวสีแทน ผมขาวราวกับหิมะ และนัยน์ตาสีกล้วยไม้ เขาจะไม่ติดใจอะไรเลยถ้าเด็กคนนั้นไม่ได้มีหน้าตาเหมือนกับ คุโรคาวะ อิซานะ ในโตเกียวรีเวนเจอร์ส

      เด็กที่หน้าตาเหมือนอิซานะเดินเข้าไปในซอกตึกนั้น โดยที่ไม่ได้มองเขาเลยสักนิด ส่วนควิลเองก็เดินออกไปหาพี่เลี้ยงสาวเพื่อขอยามาทาแผลให้เด็กชายร่างเล็ก

      ขณะที่กำลังเดิน ในหัวของเขาก็พยายามประติดประต่อภาพเหตุการณ์ต่างๆเข้าด้วยกัน โดยที่ไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆที่ผิดปกติออกมา

    จะมาที่โลกนี้ได้ยังไงก็ไม่รู้หรอกนะ...แต่เด็กสองคนนั้นมันอิซานะกับคาคุโจชัดๆ ไม่มีทางที่จะเจอคนหน้าเหมือนซ้ำกันสองรอบได้หรอก

    "เรื่องมันชักจะไปกันใหญ่แล้ว..." ควิลพูดออกมาด้วยความเคร่งเครียด ถึงกระนั้นขาของเขาก็ยังก้าวเดินต่อไปเรื่อยๆ

     เขาไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไปดี ถ้าจะช่วยชีวิตคนที่มีเดธแฟรกอยู่ไม่ให้ตายนั้นมันทำง่ายนิดเดียว แต่สิ่งที่น่ากลัวคือบัตเตอร์ฟลาย​เอฟเฟคต่างหาก ถ้าควิลลงมือช่วยมันก็ไม่ต่างกับสิ่งที่ทาเคมิจิทำ ที่ไม่รู้เลยว่าเมื่อลงมือทำไปแล้วมันจะส่งผลดี หรือเลวร้ายลงมากไปกว่าเดิม

    อนาคต​จะต้องเปลี่ยนไปอีกแน่ เรื่องราวจะไม่เป็นไปตามมังงะ และแบบนั้นก็ไม่รู้ว่าจะส่งผลอะไรกับทาเคมิจิที่เป็นคนย้อนเวลาด้วยรึเปล่า

    แต่ถ้าไม่ช่วยมันก็….ให้ตายเถอะ นี่มันน่าหนักใจจริงๆ…

      ขณะที่กำลังกลัดกลุ้มใจควิลก็เดินมาถึงตัวนานามิเสียแล้ว

    "เอ่อ นานามิซังครับ พอจะมียาที่ลดรอยแดงของแผลเป็นบ้างมั้ยครับ" เขาเอ่ยถามสาวพี้เลี้ยงเด็ก

    "อ้อ มีจ่ะ อยู่ที่ห้องพยาบาลน่ะ แผลเป็นรอยแดงหรอจ๊ะโนโซมิคุง?"

    "เปล่าครับ พอดีเพื่อนผมเป็นน่ะครับ"

    "งั้นรออยู่ตรงนี้แปปนึงนะจ๊ะ เดี๋ยวพี่จะไปหยิบยามาให้"

    "ขอบคุณครับ"

      จากนั้นนานามิก็เดินออกจากห้องไป เหลือแค่ควิลกับเด็กคนอื่นๆ ที่บ้างก็วิ่งเล่นในห้อง บ้างก็เล่นของเล่นตามประสา

      ควิลสอดส่องสายตาดูเด็กคนอื่นๆระหว่างรอนานามิอยู่เงียบๆ แต่สุดท้ายกลับไปหยุดอยู่ที่เด็กผู้หญิงสองคนที่กำลังเล่นแต่งหน้ากันเสียอย่างงั้น

    แต่งหน้า?.…แต่งหน้า!? ถ้าหาตัวแทนมาล่ะ! แต่งหน้าแต่งตัวแล้วปลอมตัวเป็นคนที่กำลังตายในเหตุการณ์​นั้น เล่นละครตบตาว่าตายไปแล้วแทนตัวจริงล่ะ!?

    ส่วนตัวจริงก็คงต้องให้หายหน้าหายตาไปเลยจนกว่าเรื่องทุกอย่างจะจบลง แต่ปัจจุบันมังงะเรื่องนี้มันยังไม่จบเลยนี่?…

    จะว่าไป…ปีในทวิตมันเป็น202xใช่มั้ยนะ? ถ้างั้นมันน่าจะใช้ส่องแท่กดูสปอยตอนใหม่ที่ออกมาได้รึเปล่า??

      ควิลลองหยิบโทรศัพท์​มือถือขึ้นมาเปิดทวิต แล้วลองค้นหาแท่กtokrev 226

    เยี่ยม! ทวิตยังคงยึดตามปีที่โลกนั้น เวลาแท่กยังคงรันตามปี202xได้ปกติ เท่านี้ก็คงหมดปัญหาเรื่องตอนจบแล้ว!

    "นี่จ่ะ โนโซมิคุง" นานามิที่กลับมาจากห้องพยาบาลแล้วยื่นตลับยาให้กับควิล

    "ขอบคุณมากครับ!" เขาก้มหัวขอบคุณเธอ ถ้าไม่ใช่เพราะนานามิให้รออยู่ตรงนี้ เขาคงคิดไม่ออกว่าจะช่วยชีวิตเด็กพวกนั้นยังไงดี

      เมื่อได้ยาแล้วควิลก็เดินออกมามุ่งหน้าไปหาเด็กชายที่เขาคิดว่าเป็นคาคุโจทันที โดยไม่กังวลว่าการกระทำเล็กๆน้อยๆนี้ของเขาจะไปเปลี่ยนอนาคตได้

      หากอ้างอิงจากเหตุการณ์​ศึกแบล็คดราก้อนของพี่น้องชิบะ การที่ทาเคมิจิจะเปลี่ยนอนาคตก็ทำได้ยากพอสมควร ถ้าไม่ไปแตะต้องหรือเปลี่ยนตัวแปรสำคัญของเรื่องจริงๆ อนาคตก็จะไม่เปลี่ยนไป

    "นายมันไม่มีค่าอะไรเลย ดังนั้นฉันจะมอบคุณค่าของการมีชีวิตให้นายเอง"

    "ฮึก ฮึก..."

    "จากนี้ไปฉันคือราชาของนาย ส่วนนายเป็นข้ารับใช้ของฉัน ดังนั้นจงมีชีวิตอยู่เพื่อฉันซะ"

    พูดถึงโจโฉ โจโฉก็มา เยี่ยมไปเลยที่เจอฉากสำคัญเช้าพอดี ถ้าไม่ติดว่านี่เป็นโลกโตเกียวรีเวนเจอร์ส​แล้วอิซานะเป็นคนพูดกับคาคุโจ ฉันคงคิดว่าไอ่เด็กพวกนี้มันเบียวบทใส่กันแล้วล่ะนะ

    "เฮ้ นายผมดำน่ะ คุยกันเสร็จแล้วก็เดินมานี่เลย ฉันเอายามาละเดี๋ยวจะทาให้ เพราะงั้นเลิกขี้แยได้แล้วนะ" ควิลพูดขัดขึ้นมาทันทีที่ทั้งสองดูเหมือนจะคุยกันเสร็จแล้ว

    "ฮึก! มะ ไม่ได้ขี้แยนะ! แล้วก็! เธอเองก็เด็กเหมือนกันนั่นแหละ!" คาคุโจพูดเถียงขึ้นทั้งๆที่มือก็ยังพยายามเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมา

    "อย่างน้อยฉันก็ไม่ขี้แ--"

    "เธอเป็นใคร"

      ยังไม่ทันที่ควิลจะพูดตอบคาคุโจจบ อิซานะก็พูดขัดขึ้นมาเสียก่อน

    "ก่อนจะถามชื่อใคร นายควรแนะนำตัวเองก่อนนะ"

    "คุโรคาวะ อิซานะ ทีนี้ตาเธอแล้ว"

    "โนโซมิ เรย์ จะเรียกว่าเรย์ก็ได้ ยินดีที่ได้รู้จัก คุโรคาวะ"

    โชคดีจริงๆที่ก่อนหน้านี้สังเกตเห็น​ป้ายชื่อบนเสื้อตัวเองซะก่อนไม่งั้นคงปล่อยไก่ตอบอิซานะได้แค่นามสกุลแน่ๆ

    กล่าวจบเรย์ก็ยิ้มตามมารยาทแล้วก้าวขาเดินไปหยุดที่ด้านหน้าของอิซานะ พร้อมกับยื่นมือไปข้างหน้าเพื่อที่จะจับมือกับอีกฝ่าย

    "อ้อ เธอคงจะเป็นเด็กพึ่งถูกรับมาเมื่อเช้า ที่พวกผู้ใหญ่พูดถึงสินะ"

    "คงงั้นมั้ง แล้วนายล่ะขี้แย"

      พูดจบอิซานะยื่นมือมาจับมือของเรย์แล้วเขย่าเบาๆก่อนจะผละออกไป จากนั้นก็เดินหลบออกไปยืนพิงกำแพงให้เรย์ได้คุยกับคาคุโจต่อ

    "คาคุโจ ฮึก! คาคุโจ ฮิตโตะ เลิกพูดล้อฉันสักทีเถอะ!"

    "ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า โอเคๆ ฉันไม่แกล้งนายแล้วคาคุโจ ทีนี้ก็ยื่นหน้ามาได้แล้ว" ว่าแล้วเรย์ก็ยิ้มขึ้น แล้วยื่นมือไปเกลี่ยน้ำตาออกจากใบหน้าของคาคุโจ นั่นทำให้คาคุโจอดไม่ได้ที่จะเขินจนหน้าขึ้นสี

    "นะ น่าขายหน้าชะมัด ฉันเป็นผู้ชายแท้ๆแต่กลับต้องให้ผู้หญิงแบบเธอมาปลอบซะได้"

    "หื้มม~ เขินก็พูดออกมาตรงๆเถอะน่าา~" เรย์พูดหยอกเอิน​คาคุโจ แล้วแกล้งยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆอีกฝ่าย

      คาคุโจสำรวจใบหน้าที่ห่างกับเขาไม่ถึงคืบ ผิวขาวราวกับน้ำนม แก้มอมชมพูน่ารัก แพขนตางอนยาวสีดำขลับ นัยน์ตา​สองสี บลูฮาวายน้ำทะเลและบัตเตอร์โกลด์แวววาว ปากอวบอิ่มสีเชอร์รี่​ ทั้งหมดนั่นทำให้เขาหน้าแดงยิ่งกว่าเดิม และลนลานจนหลบตาหนีคู่สนทนา

    "อุ๊ฟ! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! โอ้ย ให้ตายสิ นายนี่น่ารักชะมัดคาคุโจ ฉันหยอกเล่นหรอกน่า แล้วก็นะฉันเป็นผู้ชายต่างหากล่ะ ไม่ได้เป็นผู้หญิงสักหน่อย" เรย์อดใจไม่ได้ที่จะหลุดขำออกมา

    "หะ?/เอ๋? ผะ ผู้ชายหรอกหรอ" คาคุโจรู้สึกงงจนทำหน้าเหลอหลาอย่างไม่รู้ตัว ส่วนอิซานะเองที่ได้ยินดังนั้นก็รู้สึกทึ่งอยู่หน่อยๆเพราะดูจากหน้าตากับรูปร่างและเสียงแล้ว เขานึกว่าเรย์เป็นเด็กผู้หญิงเสียอีก

    "ก็ใช่น่ะสิ พวกนายดูไม่ออกหรอ" ระหว่างพูดเรย์ก็เปิดฝากของตลับยาออก

    "หลับตาหน่อยสิคาคุโจ"

    "อะ อื้ม" คาคุโจหลับตาลง สักพักก็รู้สึกถึงอะไรเย็นๆรอบรอยแผลของเขา เป็นเรย์ที่เอานิ้วแตะกับยาแล้วบรรจงทาบนรอยแดงที่แผลของคาคุโจอย่างเบามือ

    "เรียบร้อย! ทีนี้ก็ไปเล่นสนุกได้แล้วล่ะนะ" พูดจบนักฆ่าตัวน้อยก็ปิดฝาตลับยาเก็บไว้เหมือนเดิม 

    "ขะ ขอบคุณ ตะ แต่ว่านายอย่ามายุ่งกับฉันดีกว่านะเรย์ ไม่งั้น--"

    "ไม่งั้นฉันก็จะโดนรังแกไปด้วย แต่แล้วไงล่ะ ฉันไม่สนหรอก ก็ฉันอยากเล่นกับนายนี่!"

    แล้วก็นะคาคุโจ...ถ้าฉันโดนรังแกขึ้นมาจริงๆก็คงไม่อยู่นิ่งให้ใครหน้าไหนมารังแกฉันอยู่ฝ่ายเดียวแน่

    "ถึงนายจะยืนกรานแบบนั้น แต่!--"

    "ถ้านายไม่มั่นใจในฝีมือของฉัน งั้น...นายก็ปกป้องฉันสิ ในเมื่อนายเป็นต้นเหตุ​ให้ฉันถูกรังแกนี่นา"

    "ปกป้องฉันเหมือนที่จะทำให้กับคุโรคาวะ...ถือซะว่าตอบแทนที่ฉันทายาให้นายก็แล้วกัน..แต่ถ้ามันน้อยไปก็แลกกับฉันจะเป็นคนที่ดูแลคอยทำแผลให้นายตลอดเลยก็ได้นะคาคุโจ"

    "เฮ้ๆ แบบนี้หมายความว่านายก็จะเป็นราชางั้นหรอ แต่ราชาน่ะมีได้แค่คนเดียวนะ" อิซานะที่ได้ยินเรย์พูดแบบนั้นเขาก็รีบแย้งขึ้นมาทันที

    "ใครว่าล่ะ ฉันไม่ได้พูดสักหน่อยว่าจะเป็นราชาน่ะ"

    "ห๊า? พูดอะไรน่ะ นอกจากราชา ที่ข้ารับใช้ต้องอุทิศชีวิตตัวเองเพื่อปกป้องแล้ว มันจะยังมีตำแหน่งอื่นอยู่อีกรึไงล่ะ"

    "มีสิ….ราชินี​ไงล่ะ" เรย์พูดจบแล้วเขาก็แสยะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์​กึ่งท้าทายนิดๆให้กับอิซานะ

      เขาไม่มีความกังวลเลยว่าการที่มีตนเองเพิ่มมาจะไปเปลี่ยนแปลงอนาคต เพราะเขาไม่ได้ทำการบิดเบือนความคิดของคาคุโจที่มีต่ออิซานะที่เป็นเหตุผลแรกเริ่ม เพียงแต่แค่เพิ่มตัวตนของเขาที่สามารถควบคุมการกระทำต่างๆไม่ให้ส่งผลต่อนาคตได้เข้าไปก็เท่านั้น

      เพราะงั้นถ้าหากเทียบกับการช่วยชีวิตคนที่ต้องตาย โดยที่ปล่อยให้คนๆนั้นใช้ชีวิตอย่างปกติแล้ว มันจึงเป็นคนกรณีกัน ซึ่งการทำแบบนั้นจะส่งผลให้เกิดการบิดเบือนสิ่งที่มันควรจะเกิดขึ้น แต่มันกลับไม่เกิดขึ้น และยังไปเพิ่มตัวแปรที่ไม่สามารถควบคุมการกระทำที่อาจส่งผลต่ออนาคตได้อีกด้วย

      นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งเหตุผลคือ เรย์ต้องการที่จะเข้าเทนจิคุ เพราะในเมื่อตัดสินใจที่จะช่วยแล้ว เขาก็จะทำให้ดีที่สุด ในเหตุการณ์​ฮัลโลวีน​เลือดนั้นแม้จะไม่ได้อยู่แก๊งโตมัน แต่ก็พอจะมีทางแทรกซึมเข้าไปช่วยบาจิได้อยู่ ทว่าในเหตุการณ์​เทนจิกุปะทะโตมันที่เขาจะช่วยอิซานะนั้นต่างออกไป และตำแหน่งราชินีของเทนจิกุจะทำให้เขาช่วยชีวิตอิซานะได้ง่ายกว่า

    "ว่าไงล่ะคุโรคาวะ"

    "...หึหึ...ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! น่าสนใจดีหนิ! เอาสิ มาเป็นราชินีของฉันซะ" อิซานะหัวเราะร่า เขารู้สึกสนใจเรย์มาก ไม่เคยมีใครท้าทายเขามากเท่าคนตรงหน้ามาก่อน 

      ลางสังหรณ์ของเด็กชายผมขาวบอกว่าเรย์นั้นไม่ได้มีดีแค่ที่เห็น ดังนั้นเขาจึงจะให้อีกฝ่ายอยู่เคียงข้างเขา และคอยมองดู​สิ่งน่าสนใจที่เจ้าตัวจะทำดีกว่า

    "โน๊วๆ ไม่ใช่ราชินีของนาย แต่เป็นราชินีของพวกนายต่างหากล่ะ เพราะคาคุโจก็ถือว่าเป็นอัศวินที่ปกป้องราชินีอย่างฉันอีกคน ตกลงตามนี้นะคุโรคาวะ คาคุโจ" 

    เอาตรงๆก็คิดว่าบทที่ตัวเองพูดมันเบียวเอาเรื่อง แต่ไหนๆก็มาถึงขั้นนี้แล้ว ปล่อยผ่านมันไปเถอะ

    "หึหึ ตามนั้นก็ได้ฉันไม่ขัดข้อง แล้วนายล่ะคาคุโจ"

    ราชินีของพวกฉันงั้นหรอ? เจ้าเล่ห์​ซะเหลือเกินนะเรย์ แต่ก็ทำให้ฉันสนใจมากขึ้นไปอีก

    "ถ้าอิซานะว่างั้น ฉันก็ไม่มีปัญหา ฉันจะปกป้องพวกนายสองคนเอง!"

    ทั้งอิซานะที่มอบเหตุผลในการมีชีวิตอยู่ให้ และเรย์ที่เป็นคนบอกว่าจะดูแลฉัน….มันเหมือนกับ...พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกันเลย..

     เพราะงั้นก็คงเป็นเรื่องปกติที่จะปกป้องคนในครอบครัวสินะ?

    "ฉันน่ะไม่ต้องก็ได้ แต่นายน่ะไปปกป้องเรย์เถอะ ตัวเล็กอย่างกับลูกแมวขนาดนั้นจะไปสู้ใครเขาได้รึเปล่าเถอะ" อิซานะพูดจบแล้วเขาส่งสายตาเยาะเย้ย​ออกมาให้กับเรย์

    "นายอยากลองโดนลูกแมวตัวนี้ข่วนดูสักครั้งมั้ยล่ะอิซานะ" เรย์พูดข่มขู่แล้วส่งยิ้มเย็นให้กับอิซานะ

    "เห๋~ ก็ลองดู--"

    "โนโซมิคุง! อยู่แถวนี้รึป่าวจ๊ะ!"

      ยังไม่ทันที่อิซานะจะพูดจบประโยค เสียงของนานามิก็ดังขึ้นเสียก่อน ทำให้เรย์ต้องแยกตัวออกมาจากอิซานะและคาคุโจอย่างเลี่ยงไม่ได้ 

      นานามิเธอออกมาตามเรย์ เพราะดูเหมือนว่ากระเป๋าสัมภาระที่เหลือของเด็กชายจะถูกส่งมาที่สถานรับเลี้ยงแล้ว เธอจึงจะให้เขามาเช็คอีกทีว่าของที่ใส่กระเป๋ามาได้เอามาครบทั้งหมดแล้วจริงๆ

      เรย์เปิดกระเป๋าดูของข้างใน ส่วนใหญ่จะเป็นของเล่นเสียมากกว่า เขาที่ไม่อยากทิ้งมันจึงบอกให้นานามิเอาไปไว้ที่ห้องนั่งเล่น เป็นของส่วนรวมให้เด็กคนอื่นๆได้เอาไปเล่นแทน และพวกเสื้อผ้าเขาก็เลือกที่จะเก็บไว้บ้างบางตัว เสื้อผ้าตัวไหนที่ใส่คับๆหน่อยก็ให้นานามิเอาไปให้เด็กที่ตัวเล็กกว่าเขาด้วยเหมือนกัน

      กว่าจะจัดการเก็บของทั้งหมดเข้าล็อกเกอร์​ของตัวเองเสร็จก็ดูเหมือนจะเป็นเวลาค่ำของวันเสียแล้ว

     

    Talk

    ถ้าพบคำผิดพิมพ์บอกให้คอมเม้นให้หน่อยนะงับ หรือถ้าภาษาไม่สวยต้องขออภัยด้วยน้า เรื่องอายุเราก็ไม่ค่อยแน่ใจสักเท่าไหร่นะคะ แต่จะพยายามเก็บข้อมูลจากในมังงะให้ได้มากที่สุดค่ะ

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น