[SF] Don't tell anyone - [SF] Don't tell anyone นิยาย [SF] Don't tell anyone : Dek-D.com - Writer

    [SF] Don't tell anyone

    เพราะพี่เย่ให้สัมภาษณ์ในงาน12+ เฮ้อออ

    ผู้เข้าชมรวม

    561

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    561

    ความคิดเห็น


    3

    คนติดตาม


    1
    หมวด :  ซึ้งกินใจ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  18 เม.ย. 52 / 10:19 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      “พี่เยซองฮะ เดินทางปลอดภัยนะฮะ” คนตัวเล็กเอ่ยลาพี่ชายที่กำลังจะเดินทางไปถ่ายโฆษณา 12 Plus
      ที่ประเทศไทย  ร่างสูงไม่ตอบอะไร เพียงแต่ส่งยิ้มบางๆกลับมาให้เท่านั้น
      แค่นั้น ก็ทำให้ คิมรยออุค ยิ้มออก แม้จะเสียดาย ที่ไม่สามารถไปส่งพี่ชายถึงที่สนามบินเพราะตัวเองไม่สบายอยู่

      . . . แค่อยากอยู่ใกล้ให้นานๆ ไม่อยากให้ไปไหน . . .
      . . . กลัวที่จะต้องทนคิดถึง คนๆนี้ . . .

      ดวงตาคู่หวานเฝ้ามองรถแล่นออกไปจนลับตา. . .
      “ติ๊ด ติ๊ด” เสียงข้อความเข้า และแรงสั่นของมือถือเครื่องเล็กในกระเป๋ากางเกงเรียกสติของคนที่กำลังเหม่อลอยกลับมาอีกครั้ง  มือบางหยิบมือถือขึ้นมาเพื่ออ่านข้อความ


      # หายป่วยไวไวนะ แล้วพี่จะซื้อของมาฝาก  #  ลงท้ายด้วยชื่อที่คุ้นเคย “ พี่เยซอง* ”

      แรงจิ้มที่ไหล่  สะกิดให้คนตัวเล็กหันกลับไป “ มายืนตากลมข้างนอกทำไมนานๆ พี่ๆเค้าไปนานแล้วไม่ใช่เหรอ ” ทงเฮออกมาตาม เมื่อเห็นว่าคนป่วยออกมาข้างนอกนานเกินไป  ขืนป่วยหนักกว่านี้ ต้องแย่แน่ๆ  แขนเรียวโอบไหล่น้องพร้อมพากันเดินกลับเข้าไปในบ้าน
      “ไป ไปกินยา นอนพักผ่อนซะนะ จะได้หายไวไว ตอนพี่เค้ากลับมา จะได้ไปรับเค้าได้”

      บรรยากาศในบ้านเต็มไปด้วยความเฮฮาหลังอาหารมื้อดินเนอร์ได้ลำเลียงลงสู่กระเพาะอาหารของเจ้าลิงทั้งหลายเรียบร้อยแล้ว

      “เฮ้ย ไอ้คยูแกเล่นมาหลายตาแล้วนะ ไม่เปลี่ยนเลยอ่ะ เอามานี่เลย ให้ชั้นเล่นมั่ง” ฮยอกแจแยกเขี้ยวใส่น้องเล็ก

      “อีทึก นี่มันก็ตาชั้นแล้วนะนายแพ้คยูไปตั้งแต่ก่อนชั้นจะไปเข้าห้องน้ำแล้วนะ ชั้นกลับมา นายยังไม่วางมืออีกเหรอเนี่ย” คังอินเริ่มเรียกร้องสิทธิ

      ลีดเดอร์ของวงหันมาทางคนท้วงอย่างเอาเรื่อง “ก็ชั้นจะเล่น รึนายมีปัญหา หืม?” หมีใหญ่อย่างคังอินถอนหายใจเบาๆ มาดุอย่างนี้ เดี๋ยวพ่อร้องไห้ซะหรอก เชอะ ชั้นน้อยใจนายแล้วนะ แค่นี้ต้องดุ

      ร่างหนาลุกขึ้นแล้วเดินหายขึ้นชั้นบนไป  ทิ้งให้อีกคน งง  แกล้งเล่นแค่นี้งอนซะจริงเลยนะไอ้หมีควาย เอ้ย! คัง หนุ่มหน้าหวานถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ ก่อนจะวางจอยเกมส์และลุกขึ้นเดินตามไปง้อหนุ่มร่างหนาที่งอนตุ๊บป่องขึ้นห้องไปเมื่อครู่

      เมื่อจอยว่าง ก็เกิดงานล่ะสิครับ เมื่อชินดง ที่นอนซิทอัพอยู่ ได้แอบมองสถานการณ์ตั้งแต่ต้น ตาเป็นประกาย  โดยที่ไม่รู้ว่าอีกคนก็จ้องอยู่เหมือนกัน  คิมคิบอมที่อ่านนิตยสารอยู่บนโซฟา กระโจนลงไปแย่งจอยเกมส์กับชินดง ที่รีบกุลีกุจอเข้ามา แต่รู้สึกว่างานนี้ ชินดงฮี พริ้วกว่า ได้จอยเกมส์ไปครอง จนกะโหลกหน้าของอีกฝ่าย ต้องลงไปสัมผัสกับพื้น ปุ้ก! “โอ้ย!” คิมคิบอมร้องเสียงหลง พยุงตัวขึ้นมานั่งได้ก็ร้องเรียก ทงเฮให้มาดูแล “ทงเฮ มาดูหัวชั้นหน่อยสิ เจ็บจังเลยอ่ะ”

      ทงเฮที่กำลังจะเดินขึ้นบันไดเพื่อไปส่งน้องชายตัวเล็กขึ้นนอนหันมามองคนเจ็บนิดหนึ่ง

      “ชั้นไปส่งเรียวอุคก่อน เดี๋ยวลงมานะ” พูดพลางส่งยิ้มหวานๆกลับมาให้

      “พี่ไปดูพี่คิบอมเถอะฮะ ผมขึ้นห้องเองได้” คนตัวเล็กจับแขนอีกฝ่ายเพื่อให้คลายอ้อมกอดที่ไหล่ตน

      “แต่..”

      “ผมขึ้นห้องได้ครับ” พูดพลางยิ้มตาหยี

      “งั้น. . เข้าห้องแล้ว ต้องกินยาแล้วนอนทันทีเลยนะ” ทงเฮกำชับน้องชาย

      รยออุดพยักหน้ารับเบาๆ พร้อมรอยยิ้มบางๆ  พี่ชายคนนี้ดูแลเค้าดีเสมอ


      ร่างบางเดินขึ้นบันไดมาจนถึงชั้นสองของบ้าน  เดินไปเปิดประตูห้องนอนตัวเอง  โดยหันไปทักทายกับประตูห้องตรงข้าม

      “คิดถึงจัง” พูดพลางส่งยิ้มไปให้ป้ายเล็กๆ ที่ติดอยู่บนบานประตูนั้น

      . . .  YESUNG  . . .


      - รุ่งเช้า -


      ร่างบางขยับออกจากผ้าห่มผืนโตที่ให้ความอบอุ่นตนตลอดทั้งคืน  เข้าห้องน้ำ  ล้างหน้า แปรงฟัน
      และออกจากห้อง เพื่อลงไปจัดการกับมื้อเช้า  โดยไม่ลืมทักทายกับห้องตรงข้าม เช่นเดิม

      “พี่ตื่นรึยังเนี่ย?” รอยยิ้มปรากฏบนปากบาง  ใจลอยนึกถึงกิจวัตรเป็นประจำทุกวัน ที่เมื่อเปิดประตูห้องนอนออกมาทีไร ต้องเจอกับหนุ่มร่างหนา ที่ยืนเกาหัวยุ่งเหยิง หน้าตาเหมือนยังไม่ตื่นทุกเช้า

      “ไปเร็วพี่เยซอง  ไปคนสุดท้ายโดนล้างจานนะ” มือเล็กฉุดอีกคนให้รีบลงไปข้างล่างทุกๆวัน


      “ยืนเหม่ออะไรตัวเล็ก ไป ลงไปกินข้าวต้มได้แล้ว ชั้นทำไว้รอนายนานแล้วนะเนี่ย ต้องให้ตาม”
      ทงเฮ ดึงมือน้องชายตัวเล็กให้ลงไปพร้อมกัน แต่สีหน้าของรยออุค ก็ยังคงเปื้อนด้วยรอยยิ้ม
      ราวกับไม่ได้ยินเสียงพี่ชายคนนี้ซะด้วยซ้ำ


      2-3 วันมานี้ ทงเฮ น้องเล็กอย่างคยูฮยอน และพี่ๆในวงที่เหลืออยู่ ดูแลเค้าเป็นอย่างดี  จนอาการป่วยของรยออุค ดีวันดีคืน  ท่าทางวันที่พี่เยซองกลับ ผมคงจะได้ไปรับเค้าที่สนามบินแน่ๆเลย
      แค่คิด ก็เรียกรอยยิ้มของคนตัวเล็กนี้ได้

      ก่อนมื้อเย็นของวันนี้  รยออุคตัดสินใจจะโทรหาคนที่คิดถึง  ร่างบางกลับขึ้นห้องนอนของตน
      นิ้วเรียวกดโทรศัพท์มือถือถึงคนที่คุ้ยเคย

      “ว่าไง ตัวเล็ก” เสียงทุ้มนุ่มที่คุ้นเคย เพียงแค่ได้ยินเสียง คนที่ฟังอยู่กลับดีใจอย่างบอกไม่ถูก

      “เป็นไงบ้างครับ ถ่ายโฆษณา” เสียงหวานเอ่ยถาม

      “ก็เรียบร้อยดี วันนี้พี่มีแถลงข่าวอ่ะ เดี๋ยวพี่ต้องขึ้นเวทีแล้วล่ะสิ” สีหน้าคนตัวเล็กเจื่อนลง

      . . . อยากคุยต่อนานๆ . . .

      . . . แค่ได้ยินเสียง ก็ยังดี . . .

      “อะ..เหรอครับ งั้น..พี่เอามือใส่กระเป๋าเสื้อไว้ ผมอยากฟัง ว่าเค้าสัมภาษณ์อะไรบ้าง” ส่งเสียงร่าเริงกลับไปให้ปลายสาย

      “อ่า เอางั้นเหรอ อื้มๆ งั้นพี่ขึ้นเวทีแล้วนะ ไว้คุยกัน”

      มือหนาหย่อนโทรศัพท์ลงกระเป๋าเสื้อ ก่อนจะก้าวขึ้นเวทีพร้อมพรีเซ็นเตอร์อีกสามคน
      เรียวอุคฟังอีกฝ่าย สัมภาษณ์ อย่างสนุกสนาน อีกทั้งยังเสียงแฟนคลับชาวไทย ที่คอยให้กำลังใจมากมาย


      เอ๊ะ! เสียงสัมภาษณ์ เงียบไปชั่วครู่  เหลือแต่เสียงแฟนคลับดังอื้ออึง  เค้าตะโกนอะไรกันหว่า

      ไม่นานนัก เสียงนุ่มของซีวอนก็ดังเข้ามา “รยออุค!” คนฟังเผลอยิ้มออกมา แต่คำพูดหลังจากนั้นกลับทำลายมันจนหมดสิ้น “ผมชอบผู้หญิงครับ!!” เสียงทุ้มนุ่ม ของคนที่คุ้นเคย

      ได้ยินชัด...เต็มหู

      ดวงตาคู่หวาน รื้นไปด้วยน้ำตา  ภาพต่างๆกลับเข้ามาในห้วงของความคิด

      มือหนาที่ยื่นมาเช็ดน้ำตาเค้าทุกครั้ง ที่ร้องไห้

      อ้อมแขนแกร่ง ที่โอบกอด เพื่อปลอบใจ และให้ความอบอุ่น เมื่อเค้า ไม่สบายใจ

      คำให้กำลังใจพร้อมรอยยิ้มที่อ่อนโยน ที่มีให้เค้าเสมอ เมื่อท้อ

      [COLOR=gray]ร่างบางนั่งหน้านิ่วอยู่หน้าเปียโนหลังใหญ่เมื่อการซ้อมร้องเพลงในวันนี้ไม่ได้ดั่งใจ
      คนตัวสูงเดินมานั่งข้างๆ มือหนาบรรเลงเปียโน ด้วยตัวโน้ตเด็ก (นึกถึงทำนองหนูมาลี ประมาณนั้นแหละค่ะ) พร้อมส่งเสียงทุ้มนุ่ม ด้วยทำนองเปียโน ที่ไม่เอาอ่าว ซะเลย ก็เค้าไม่เก่งเปียโนเหมือนคนตัวเล็กนี่

      “ น้อง ตัวเล็ก ทำหน้า งอง้ำ  ยิ้ม สิ ยิ้ม ยิ้มอย่างนี้... ” ลากเสียงยาวพลางยิ้มยิงฟันใส่คนข้างๆ
      รยออุคอดยิ้มไม่ได้

      “ฮ่า ๆ ๆ หายเครียดแล้วใช่มั๊ย? นายฝันที่จะร้องเพลงเพราะๆให้แฟนเพลงฟัง แค่นี้เรื่องเล็ก  ซ้อมเยอะๆนะ” มือหนาขยี้กลุ่มผมของคนตัวเล็กก่อนจะลุกเดินจากไป

      ร่างบางรีบหันกลับไปพลางตะโกนไล่หลังร่างสูง “ขอบคุณนะฮะ!!”[/COLOR]

      สิ่งเหล่านั้น จริง หรือ ลวงหลอก หัวใจเค้าเล่นกันแน่

       ไม่ใช่เพราะพี่คิดเหมือนผมเหรอฮะ

      หรือผม เพ้อ ผมบ้าไปเองคนเดียว ว่าพี่..รักผมเหมือนกัน

      มือบาง วางมือถือข้างตัว เสียงสะอื้น ดังเข้าไป จนปลายสายที่สัมภาษณ์เสร็จแล้ว หยิบออกมาแนบกับหูเมื่อทันทีเดินกลับหลังเวที  ใบหน้าคมฉายแววเจ็บปวดอย่างเห็นได้ชัด


      ระหว่างการเดินทางกลับเกาหลี  เยซองเอาแต่เงียบ  จนสมาชิกอีกสองคนที่ไปด้วยกันอดเป็นห่วงไม่ได้  เมื่อถึงสนามบิน ร่างหนา มองหาคนที่อยากเจอ แต่กลับไม่มีคนๆนั้น
      อีทึก คังอิน ฮยอกแจ และชินดง มารับสมาชิกทั้งสามกลับบ้าน 


      อีกทึกเดินเข้าไปหาร่างหนาพลางกระซิบ “รยออุคเป็นอะไรไม่รู้  ดื่มเบียร์อย่างหนักเลย คนอื่นเลยดูแลน้องอยู่ที่บ้าน นายสนิทกับน้องที่สุด นายกลับไปคุยกับน้องทีนะ” ลีดเดอร์หนุ่มตบไหล่หนาเบาๆ

      “น้อง ตัวเล็ก ทำหน้า งอง้ำ  ยิ้ม สิ ยิ้ม ยิ้มอย่างนี้...” เสียงยืดยาวร้องขึ้นลั่น เสียงของคนเมา

      “อ่ะจ่ะ ยิ้มจ่ะยิ้ม เรียวอุคนั่งดีๆก่อนนะ เดี๋ยวพี่ซองมินเช็ดตัวให้นะ” กระต่ายอวบพยายามพยุงร่างน้องตัวเล็กให้ลุกขึ้นมานั่งตรงๆ  รู้สึก ตัวจะเริ่มอ่อน หมดเรี่ยวแรง เพราะดื่มไปเยอะ

      มือบางปัดป่าย ไม่มีทิศทาง “ไม่อาววว เอาเบียร์มาอีกกกก โผมอยากมาววววว”

      “น้อง ตัวเล็ก ทำหน้า งอง้ำ  ยิ้ม สิ ยิ้ม ยิ้มอย่างนี้...”เสียงหวานร้องเพลงอีกแล้ว ลากเสียงยาวในท่อนท้าย ดวงตาหวานหลับพริ้มตามประสาคนเมา แต่ทำไมน้ำตามันซึมออกมา ซะอย่างนั้น

      “เมื่อไหร่เยซองจะมาซักที  ไปรับนานแล้วนะเนี่ย” ทงเฮเดินบ่นพลางมาทรุดตัวนั่งข้างๆคนเมาช่วยจับเพื่อให้อีกคนเช็ดตัวน้องได้

      “นี่ รยออุค นิ่งๆสิ” คนตัวเล็กดิ้นขลุกขลักไม่ยอมท่าเดียว

      “ไม่เอา! ไม่เอา! ไม่เอา!” ท่าทางดื้นรั้นเป็นเด็กๆ จนผู้ดูแล เริ่มปวดหัว

      ไม่นานนัก ประตูบ้านก็เปิดออก  กลับมาแล้ว ร่างสูงมองไปยังน้องชายตัวเล็ก ที่สภาพดูไม่ได้แล้วตอนนี้
      เยซองเดินเข้าไปประคองร่างเล็ก “รยออุค รยออุค” เสียงทุ้มเอ่ย เพื่อเรียกสติคนในอ้อมแขน
      มือบางดันร่างหนาออก “เอาเบียร์มาาา” พูดพลางหลับตาพริ้ม


      “เอาน้องไปนอนไป เยซอง”ลีดเดอร์ของวงเอ่ยขึ้นหลังจากยืนดูเหตุการณ์มาซักพักนึง
      เยซองพยักหน้าน้อยๆ ก่อนจะอุ้มร่างบางเดินขึ้นห้องนอนไป


      “เฮ้อ!!” เสียงถอนหายใจของคนที่เหลืออยู่ข้างล่างดังออกมาแทบจะพร้อมกัน

      “ตัวเล็กนี่มันเมาแล้วเพี้ยนชะมัด” ทงเฮพูดขึ้น

      “เออ ช่างน้องมันเหอะ ชั้นว่า พวกเรามาดื่มกันดีกว่า ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า” ฮีซอลเอ่ยชวน

      สรุปว่าคืนนี้ พวกเค้าคงจะจับจองพื้นห้องรับแขก เป็นที่นอน ทุกคนนั่งดื่มและคุยกันอย่างสนุกสนาน


      “น้อง ตัวเล็ก ทำหน้า งอง้ำ  ยิ้ม สิ ยิ้ม ยิ้มอย่างนี้...”

      “น้อง ตัวเล็ก ทำหน้า งอง้ำ  ยิ้ม สิ ยิ้ม ยิ้มอย่างนี้...”

      คนเมาร้องเพลงซ้ำไปซ้ำมาบนบ่าร่างสูง  จนมาถึงห้องนอน เยซองบรรจงวางร่างคนตัวเล็กอย่างเบามือลงบนเตียงนุ่ม  ดูท่าทางรยออุคจะหมดแรงแล้วจริงๆ ร่างเล็กนิ่งไป ลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ
      รดใบหน้าคม ที่ยื่นหน้าเข้าไปใกล้

      “เหม็นเบียร์ชะมัด” เยซองย่นจมูกตัวเองพร้อมบ่นเบาๆ  มือหนาลูบเบาๆที่ใบหน้าหวาน ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำ กลับมาพร้อมอ่างน้ำ และผ้านุ่ม


      เยซอง ค่อยๆปลดกระดุมที่เสื้อรยออุคออก ค่อยๆเช็ดตัวให้คนตัวเล็ก ที่หลับอย่างไม่รู้สึกตัว ร่างเล็กขยับน้อยๆ  เพื่อปรับตัวให้นอนสบายขึ้น  เยซองเปลี่ยนชุดนอนให้ร่างเล็ก ก่อนที่ตัวเค้าเองจะกลับไปอาบน้ำที่ห้องตัวเอง แล้วกลับมานอนเฝ้ารยออุคที่ห้องนอน


      6 โมงเช้า ร่างหนามองใบหน้าหวานของคนในอ้อมกอด ก่อนจะค่อยๆขยับตัวออกมา เพื่อไม่ให้คนตัวเล็กรู้สึกตัว  ดวงตาหวานกระพริบถี่ๆเพื่อปรับสายตาให้เข้ากับแสงแดดยามเช้า  ลืมตาขึ้นมองเห็นแผ่นหลังของคนที่เฝ้ารอ กำลังจะเดินออกจากห้องของตน


      “พี่ชอบผู้หญิง!!” ส่งเสียงลั่นออกไป

      เงียบ... ไม่มีเสียงตอบกลับ

      “แต่ผมชอบพี่นะ!!” เสียงหวานดังขึ้นอีกครั้ง  เพราะผมไม่เคยบอกใช่มั๊ย พี่ถึงไม่เคยรู้  ร่างบางลุกจากเตียง เดินไปกอดร่างสูงจากข้างหลัง


      เงียบ... ร่างหนายืนนิ่ง


      “ความฝันของนายคืออะไร? นายเป็นใคร? แล้วชั้นเป็นใคร?” เสียงทุ้มเอ่ยนิ่ง ๆ


      “นาย!! ซุปเปอร์จูเนียร์ คิม รยอ อุค”


      “ชั้น!! ซุปเปอร์จูเนียร์ เยซอง”

      คนฟังนิ่งไป ขอบตาเริ่มร้อน  เค้ากำลังจะร้องไห้..อีกแล้ว


      “แล้วมันเกี่ยวอะไรกันล่ะฮะ!!!” คนตัวเล็กร้องตอบ


      “นายต้องร้องเพลงเพื่อแฟนเพลงต่อไป ความฝันของนาย อย่าให้ชีวิตในวงการมาจบลงที่ชั้นเลย” เสียงทุ้มเอ่ยแผ่วเบา  คำที่ให้สัมภาษณ์ออกไป  ก็แค่ไม่อยากให้ใครมองพวกเค้าในทางแบบนั้น
      สมาชิกวงคนอื่นๆ ที่ชอบผู้หญิง ก็มี

      “ผมไม่เคยลืมความฝัน  แต่ผมก็เลือก ที่จะไม่ปิดบังความรู้สึกตัวเอง” ลมหายใจอุ่นๆของคนตัวเล็ก ส่งผ่านไปยังร่างตรงหน้าที่โอบกอดอยู่

        “ชั้น ก็ไม่เคยปิดบังเหมือนกัน” เยซองตอบ


      “พี่บอกผมสิ  ว่าพี่รักผม” เยซองผละตัวออกจากอ้อมกอดคนตัวเล็ก เดินไปที่ประตู


         มือหนาบิดลูกบิดประตู ก้าวออกจากห้องก่อนจะหันกลับมาบอกคนตัวเล็กที่ยืนอยู่

      “หัวใจของนาย รู้ดี..”


      คนฟัง งง  พี่ไม่เคยบอกผม แล้วผมจะรู้ได้ยังไง?

      ร่างเล็กสะบัดหัวไล่ความคิดของตัวเอง ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำ เพื่อทำภารกิจส่วนตัว  รยออุคยืนอยู่หน้ากระจก  ริมฝีปากบาง เผยรอยยิ้มเล็กๆ


      รอยรักสีกุหลาบที่อกข้างซ้ายเห็นเด่นชัดในบานกระจก
      “ขอบคุณนะฮะ”

      -------------------------------------------------------------------------------------------------------------

      ฟิคสั้นฉับพลัน แต่งเมื่อคืนเพราะนอนไม่หลับ...ทั้งคืน 555 เนื่องจากคิดถึงเรื่องที่พี่เย่สัมภาษณ์ 12+ รู้แล้วมันแอบเจ็บยังไงไม่รู้ ฮ่าๆ เลยแต่งฟิคนี้แบบทนที่จะนอนหลับไปก่อนแล้วค่อยลุกขึ้นมาแต่งตอนเช้าไม่ได้


      ตอนแรกก็กะจะให้จบแบบเจ็บๆ ทำร้ายคนอ่านนิดๆ แนวฟิคของพี่เจ้น แหะๆ
      แต่สุดท้ายก็ทำไม่ลง จนได้

      ฟิคนี้เมนเยเรียว เพราะฉะนั้น ถ้าถามถึงคู่อื่น เราก็ไม่รู้เหมือนกัน ให้คนอ่านจินตนาการเอาละกันว่า จะเป็นยังไง
      แล้วลองเม้นตอบกันไว้ก็ได้นะคะ ^__________^


      สุดท้าย รักเยเรียว...นะ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×