ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [BL] เป้าหมายของข้าคือ HaRem!!

    ลำดับตอนที่ #12 : ย้อนยุค 10 : อิจฉา 2 (Rewrite)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 10.75K
      557
      21 มี.ค. 64


     

    ย้อนยุค 10

    อิจฉา (2)


     

    "หน้าไปโดนอะไรมา"

    "หมากัด!"

    อาเยี่ยนกระพริบตาปริบๆ  อย่างสงสัย ที่จวนของพวกเราเลี้ยงสุนัขด้วยหรือ?

    ทางฝั่งสือโถวเองก็ไม่คิดจะอธิบายอะไรให้มากความ เพียงกระชับมือที่กำลังจับผ้าเย็นประคบเเก้ม 

    หลังจากได้กระทืบเขาจนสมใจหมาย ฝูอี้ก็ลากอวี๋ชิงเเถ่ดๆ ออกไป ไม่ต้องบอกก็เดาได้ล้านเปอร์เซ็นต์ว่าจุดหมายคือห้องนอนเเน่นอน เเต่เจ้าก็ควรลากข้าไปโรงหมอก่อนมั้ย? ไอ้คู่ผัวเมียสารเลว

    ดีที่อาเยี่ยนบังเอิญโผล่มาพอดี สหายเยาว์วัยผู้นี้เลยเป็นคนพยุงเขามานั่งทำเเผลในห้องโถงระหว่างรอนายท่าน

    นั่งน้ำตาคลอรอได้ไม่นาน ก็มีคนเรียกมาเรียกให้สือโถวเข้าไปพบนายท่าน สือโถวหันไปขวับหาอาเยี่ยน ส่งสายตาเป็นเชิงขอร้องให้เข้าไปด้วยกัน เเต่สหายหนุ่มกลับส่ายหัวรัวอย่างเลือดเย็น

    "เจ้าเข้าไปเถอะ ข้าจะรออยู่ด้านนอก"

    "..." เอ็งจะมารู้ความอะไรตอนนี้วะไอ้น้อง สายตาขอความช่วยเหลือของพี่ไม่ได้ทำให้เอ็งรู้สึกสงสารบ้างรึไง!

    สือโถวสูดลมหายใจลึกเพื่อเรียกขวัญกำลังใจ เอาว่ะ! อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด มันคงไม่มีอะไรจะเเย่ไปมากกว่านี้เเล้วล่ะ

    เขาก้าวเข้าห้องรับเเขกตามบ่าวในจวน พอเข้าใจขึ้นมาหลายส่วนเเล้วว่าทำไมอาหารที่เจียดมาให้เเต่ละมื้อถึงโคตรน้อย ในเมื่อสภาพห้องตรงหน้าเเม่งมีเเต่ทอง ทอง เเล้วก็ทอง!

    คือมึงเเดกทองเเทนข้าวหรือขอรับ (ไอ้) นายท่าน

    ณ ใจกลางห้องโถงหรูหรามีบุรุษวัยกลางคนรูปร่างอ้วนท้วมอุดมสมบูรณ์นั่งอยู่ หัวมันเงาเป็นประกายส่องเเสงสะท้อนกับทองภายในห้องจนสือโถวต้องหรี่ตาลงเพราะความเจิดจ้า 

    สัส เเน่ใจว่านั่นหัวคนไม่ใช่ลูกเเก้ววิเศษ อะไรจะมันเงาได้ขนาดนั้นกันเอ่ย

    นี่เป็นครั้งเเรกที่เขาได้พบกับ 'นายท่าน' ของจวน ถึงถูกบอกว่าเป็นคนโปรดคนใหม่ของนายท่านก็เถอะ เเต่มันก็เพียงเเค่ลมปากที่บอกต่อกันมาทั้งนั้น เเถมตั้งเเต่ลืมตาตื่นขึ้นมาในร่างนี้ เขาก็ยังไม่เคยเห็นเเม้เเต่ชายเสื้อของอีกฝ่ายเลยซะด้วยซ้ำ

     พอได้พิจาณาความมันวับกับพุ่งขนาดใหญ่ อืม ก็คงต้องบอกว่าเป็นเเบบที่เคยคิดละนะ

    สือโถวเข้าไปคุกเข่าคำนับนายท่านตามกฏบ้าน หลังจากทำความเคารพเสร็จ ชายร่างท้วมจึงเอ่ยอนุญาตให้ลุกขึ้น 

    ร่างผอมสูงขยับลุกขึ้นยืนก้มหน้าอย่างสงบเสงี่ยม ดวงตาสีดำสนิทเเอบเหลือบมองเเขกที่นั่งเก้าอี้ฝั่งซ้ายมือของนายท่าน

    เอ่อ ชายเสื้อมันดูคุ้นๆ ดีนะ โดยเฉพาะไอ้ลายเมฆาที่ปักอยู่บนเสื้อคลุมสีฟ้าอ่อนเนี่ย

    "หน้าไปโดนอะไรมา"

    เสียงเอื่อยเฉื่อยของนายท่านตัวอ้วนกล่าวขึ้น สือโถวชะงักไปสักเสี้ยววินาที เลือกที่จะไม่ตอบตามจริง "สะดุดล้มขอรับ"

    "ล้มจนปากเเตกเลยหรือ?" ร่างท้วมเเค่นคอคล้ายไม่เชื่อ

    "ขอรับ"

    พอดีตอนล้ม องศาฝ่าเท้าของสามีขี้หึงมันตรงเเป๊ะพอดีน่ะขอรับ 

    ถ้าลุงอยากลองพิสูจน์ก็บอกข้าได้นะ ข้าพร้อมจะตบลุงให้กลับขวดซีอิ๊วเสมอ เอาให้สมกับความเเค้นที่สะสมมาหลายเดือนเลยล่ะ!

    นายท่านไม่กล่าวอะไรอีก ทันใดนั้นเสียงเสียดสีของเนื้อผ้าก็ขยับเข้ามาใกล้ กลิ่นหอมสดชื่นของน้ำค้างยามเช้าลอยเเตะจมูก พร้อมกับสัมผัสอ่อนโยนที่เเตะบนใบหน้า

    "ไม่เจอกันเเค่สามวัน เจ้าโทรมขึ้นเยอะเลยนะ"

    "!"

    ใบหน้างดงามที่ไม่คิดว่าจะได้เห็นอีกครั้งปรากฏอยู่เบื้องหน้า ดวงตาคู่สวยที่หยีลงเป็นพระจันทร์สวยเกือบทำให้คนตัวเล็กกว่าพ่นน้ำลายพรวด

    "คุณชายโจว! เอ๊อะ" สือโถวกลืนคำพูดที่กำลังจะพูดต่อลงคอดังเอื๊อก เมื่อเห็นว่าคนงามไม่ได้มาคนเดียว ด้านหลังยังมีร่างทะมึนในชุดดำลายเสือคำรามที่ยืนกอดอกจ้องมองเหมือนจะงาบหัวอีกคน

    เขาถอยหลังไปสามก้าวอย่างรวดเร็วจนเกือบจะเรียกว่ากระโดดหนี

    คือจากที่โดนกระทืบมาเมื่อสามสิบนาทีก่อน เขาก็บรรลุเเล้วว่าอย่าไปสนิทกับเมียชาวบ้าน (?) เกินเหตุจะดีกว่า ขืนโดนกระทบอีกที คราวนี้ไม่ต้องรอให้อาเยี่ยนส่งโรงหมอ เขาก็ได้ถูกขึ้นเมรุซะก่อน

    เเต่ดูเหมือนว่าคนงามจะไม่ได้รับรู้ถึงความทุกขทรมานเเสนเศร้าของเขา โจวเจว่ยเอียงคอยิ้มหวาน

    "ไม่ได้เจอกันนาน ข้าคิดถึงเจ้ามากเลยล่ะ"

    "อ่า ขอรับ"

    สือโถวอยากจะวิ่งออกไปร้องไห้นอกห้อง ไม่รู้สึกดีใจเลยสักนิดที่มีคนงามคิดถึง

    เเล้วก่อนจะคิดถึงข้า ช่วยกรุณาคิดถึงสามีของท่านที่ยืนลับมืดตรงมุมห้องจะหรือไม่พี่ชายคนงาม! 

    ดวงตาคู่สวยเหลือบมองสหายพ่วงคนคุ้มกันด้วยหางตา "ตงฉิน ถ้าเจ้าหงุดหงิดมากก็ออกไปด้านนอกเถอะ"

    "หึ" ตงฉินส่งเสียงขึ้นจมูก เก็บดาบคมกริบเข้าฝัก ยืนกอดอกพิงเสาไม่สนใจพวกเขาอีก

    "คุณชายโจว" นายท่านที่นั่งเป็นหมาหัวเน่า เเค่ก นั่งเงียบเป็นตัวประกอบมานานพูดขึ้นบ้าง "เรื่องที่ท่านขอสือโถวไป ข้าคงต้องขออภัยที่ไม่สามารถทำให้ได้ขอรับ"

    หะ?

    สือโถวเงยหน้ามองโจวเจว่ยอย่างอึ้งๆ คนงามเดินทางมาขอตัวเขาไปจากจวนหรือ?

    เเม้โจวเจว่ยจะมีรอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้า เเต่ดวงตากลับส่องประกายสังหารเเวววาวชวนขนลุก

    "หืม นี่เจ้ากล้า 'ปฎิเสธ' คำขอของข้าเชียวหรือ?"

    ไม่รู้ว่ารู้สึกไปเองหรือเปล่า เเต่อุณหภูมิภายในห้องคล้ายจะลดลงถึงขั้นเย็นยะเยือก สือโถวกระดืบออกห่างจากคนงามกว่าเดิม เเต่โจวเจว่ยกลับฉวยข้อมือของเขาไว้เหมือนรู้ทาง

    นายท่านทำหน้าเครียด ยกผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อที่ผุดออกมาเหมือนน้ำตกทั้งที่อากาสเย็นเฉียบเป็นน้ำเเข็ง "มะ ไม่ใช่นะขอรับ คือ คือว่าเจ้านี่มันพึ่งวางยาถ่ายคนทั้งจวนไป เจ้าสนุขที่เลี้ยงเสียข้าวสุกเเบบนี้ ข้าไม่อยากให้มันไปทำจวนของท่านเสียหาย"

    สือโถวหน้าม้าน

    สุนัข?

    นี่เจัาเปรียบมนุษย์ที่ทำงานอาบเหงื่อต่างน้ำให้เจ้าว่าสุนัข?

    ดูท่าว่าที่ผ่านมาชีวิตของลุงจะสงบสุขเกินไปสินะ ไม่ต้องรอเผาเมืองเเล้ว เเม่งจับไอ้อ้วนนี่ปิ้งย่างเเดกเลยดีกว่า!

    สือโถวขยับเท้าเตรียมกระโดดถีบขาคู่ใส่ร่างอ้วนเล็กป้อม เเต่โจวเจว่ยกลับกระชับข้อมือเขาเเน่นกว่าเดิมเป็นเชิงห้าม พี่ชายคนงามขยิบตาให้คล้ายกำลังบอกว่าให้เป็นหน้าที่ของตน

    "หืมมมม งั้นกลิ่นยาบนตัวของเขาก็มาจากการลงโทษของเจ้า?"

    "ใช่ขอรับ! เพื่อเป็นตัวอย่างไม่ให้มีใครทำตาม"

    นายท่าน ไม่สิ ไอ้อ้วนรีบผงกหงึกหงักจนไขมันตรงเเก้มกระเพื่อม

    "กล้าดียังไง"

    "อ่ะ เอ๊ะ?"

    ฉับพลันใบดาบคมกริบก็พาดบนคางอวบทูม สือโถวอ้าปากค้างกับการโจมตีที่เกิดขึ้นเพียงเสี้ยววินาทีของพ่อเสือดำ 

    "เขาเป็นสมบัติของข้า เจ้ากล้าดียังไงมาทำให้มันมีรอยขีดข่วน"

    ยิ่งโจวเจว่ยพูดมากเท่าไหร่ ดาบของตงฉินก็ยิ่งกดลึกขึ้นเท่านั้น เลือดสีเเดงไหลทะลักออกจากลำคออวบ ไอ้อ้วนหน้าซีดปากสั่น น้ำหูน้ำตาไหลพรากอาบใบหน้าบิ้วเบี้ยว

    "ขะ ขะ ข้า"

    "อ้อ หรือเจ้ากำลังกลัวว่าถ้าสือโถวออกจากจวนไปเเล้ว เขาจะเผลอหลุดพูดอะไร 'บางอย่าง' ออกมา?"

    ไอ้อ้วนหน้าซีดกว่าเดิม "ไม่ใช่! ไม่ใช่นะขอรับ!"

    "ข้าเองก็นึกสงสัยมานานเเล้ว จวนนี้น่ะ" โจวเจว่ยสะบัดพัดบิดใบหน้าครึ่งล่าง เอ่ยเสียงอ่อนหวานคล้ายมีดอาบยาพิษ "มีนายท่าน 'คนใหม่' ตั้งเเต่เมื่อไหร่กันหรือ?"

    "อึ่ก"

    สือโถวได้เเต่ทำหน้ามึน ยืนเป็นตัวประกอบอยู่ด้านข้าง ปล่อยให้เหล่าตัวเอกเเสดงฝีมือกันเต็มที่ เอาเลยจ๊ะ จะมีลับลมคมนัยอะไรกันก็ทำเต็มที่เลย ในเมื่อเรื่องนี้พวกเจ้าเป็นตัวเอกนี่!

    "เจ้าสงสัยช้าไปหรือเปล่า"

    กึก

    ทุกคนหันไปตามต้นเสียงที่ดังมาจากหน้าประตูห้อง สือโถวเเอบกลอกตามองบนก่อนจะหันไปมองตัวเอกอีกคนที่พึ่งมาปรากฏตัว

    เเต่ทันที่ที่สบตากับเเชกผู้มาใหม่ สมองของเขาก็คล้ายหยุดทำงานไปชั่วขณะ

    สตรีรูปร่างทรงนาฬิกาทรายในชุดสีเพลิงเว้าอกเยื้องย่างเข้ามา สายรัดเอวสีดำขับเน้นให้เอวดูเล็กคอดกว่าเดิม เส้นผมสีดำสนิทตัดกับผิวขาวนวลสะอาดตาปลิวตามเเรงลม ริมฝีปากสีเเดงสดเเย้มยิ้มอย่างเย้ายวน

    "นะ นะ นายท่าน!?"

    ไอ้อ้วนเปร่งเสียงเรียกสตรีนางนั้นอย่างตื่นตะหนก

    นางเพียงกระตุกยิ้มมุมปาก นวยนาดเข้าไปดันดาบของตงฉินออกเหมือนมันเป็นเพียงกิ่งไม้เเห้ง

    "ไม่ได้เจอกันนานนะพ่อบ้าน ข้าฝากเรือนให้เจ้าดูเเลเเค่ไม่กี่ปี บ่าวอย่างเจ้าถึงขั้นกล้าสวมรอยเเทนเชียวหรือ?"

    "คะ คือว่า"

    ขณะที่สือโถวยังคงยืนนิ่งอย่างเหม่อลอย เเรงกระตุกที่ชายเสื้อก็ทำให้สติไปลอยไปไกลของเขากลับมา พอก้มมองก็พลันสบกับนัยน์ตากวางชุ่มน้ำ คิ้วเข้มเลิกขึ้นสูง

    "หลี่หลง?" มาอยู่นี่ได้ไง

    "เราออกไปกันเถอะพี่สือโถว ปล่อยให้คนที่นี่เขาจัดการกันเองเถิด"

    "อะ อืม" ด้วยความที่สมองยังมึนเบลอ สือโถวจึงปล่อยให้เด็กน้อยกุมมือลากไปยังประตู ยังไม่ทันจะได้ก้าวเดินก็ต้องหยุดชะงักกึก เมื่อรู้สึกถึงเเรงดึงตรงข้อมืออีกข้าง

    "ลืมข้าไปแล้วหรือ สือโถว" คนงามส่งเสียงเง้างอด ร่างหอมกรุ่นเอียงซบเขาอย่างออดอ้อน

    "คือว่า..." ไม่ทันจะพูดจบประโยค สือโถวมีอันต้องเซไปทางขวา มู่หลี่หลงกอดเเขนเขาเเน่น ส่งสายตาไม่เป็นมิตรให้โจวเจว่ย

    "เรื่องของเจ้านายไม่เกี่ยวกับบ่าวอย่างพวกเรา รบกวนคุณชายโจวปล่อยมือด้วย"

    "หืมมมม" คนงามคลี่ยิ้มที่ดูสยดสยองในความคิดสือโถว ออกดึงเเขนข้างซ้ายจนตัวเขาเซอีกรอบ "ช่างเป็นเด็กน้อยที่เเสนรู้เสียจริง เห็นข้าครั้งเเรกก็รู้เลยหรือว่าข้าคือใคร"

    "ทั่วหล้านี้ไม่มีใครไม่รู้จักคุณชายโจวเจว่ยที่มี 'ชื่อเสียงเลื่องลือ' ของหุบเขาเหม่ยลี้หรอกขอรับ"

     

    เหรอ เเต่ข้าไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะ

    ดูเหมือนคำว่ามีชื่อเสียงจะเป็นความหมายเเฝง โจวเจว่ยเพิ่มเเรงบีบตรงข้อมือมากขึ้นจนสือโถวสะดุ้งโหยง พะ พี่ชายคนงาม ท่านกำลังระบายอารมณ์ผิดคนเเล้ว! คนพูดคือไอ้เด็กตาเเป๋วทางขวาของข้า ไม่ใช่น้องสือโถวคนดีคนนี้นะโว้ย!!

    "ใช้ได้นี่ ดูท่าตระกูลจ้าวจะสอนเจ้ามาดีสินะ"

    "!!"

    นัยน์ตากวางเบิกกว้าง มือนุ่มนิ่มจิกลงบนเเขนจนเขาร้องจ้าก ขะ เเขนข้าาาาาา

    ทั้งสองส่งสายตาฟาดฟันจนเกิดกระเเสไฟฟ้าเเล่นเปรี๊ยะๆ กลางอากาศ สือโถวพยายามสลัดตัวให้หลุดเพื่อหนีตาย เเต่ให้ตายเถอะ นี่มือหรือตีนตุ๊กเเกวะ มันจะเหนียวไปไหน!!

    ถ้าคนงามจะฉกกัน รบกวนช่วยปล่อยข้าก่อนได้หรือไม่ ข้าไม่ใช่กรรมการตีมวยนะเฟ้ย!

    ก่อนจะได้มีศึกหนองเลือดเเปลกประหลาดที่หาสาเหตไม่ได้ เสียงโหยหวนเเทบขาดใจก็ดังลั่นมาจากอีกฝั่งของห้องโถง พวกเขาสามคนหันไปพร้อมกัน ก่อนจะพบร่างโชกเลือดที่คุกเข่าอยู่ใต้ร่างบอบบางเเสนเย้ายวน

    ไอ้อ้วนกุมมือที่ขาดด้วนตะโกนกรีดร้องทั้งน้ำตาอย่างเจ็บปวด สตรีในชุดเพลิงส่งสายตาเหยียดหยาม ก้าวเดินผ่านเเอ่งเลือดไปอย่างไม่สะทกสะท้าน ผิดกับสือโถวที่เเทบจะอาเจียนกับกลิ่นเลือดที่ลอยคละคลุ้ง

    เหล่าชายหนุ่มหน้าตาดีที่เหมือนจะเป็นผู้ติดตามของนางต่างเข้ามาปรนิบัติพัดหวี สตรีผู้นั้นเสยผมที่ปรกหน้าขึ้น ยกนิ้วกรีดกรายออกคำสั่ง "เฮ้อ เสียสายตาเสียจริง ใครก็ได้จับมันไปโยนให้เสือกินซิ"

    สะ เสือ?

    เหล่าชายหนุ่มโค้งคำนับ กระชากลากถูร่างอ้วนกลมที่ดิ้นขัดขืนนั้นออกไปอย่างไม่ใยดี ลับร่างของคนกลุ่มนั้น เเววตาหงส์ก็ตวัดมาหาสือโถว

    หัวใจเจ้ากรรมดันเต้นระรัวอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง สือโถวรู้จักกะจี้เหมือนโดนเเมวข่วนที่หัวใจ ถึงขั้นเผลอสะบัดคนงามสองหน่อออกไป

    "เอ๊ะ?"

    "พี่สือโถว?"

    "อ่ะ เอ่อ ท่านเป็นใครหรือขอรับ?" สือโถวถามสตรีเพียงคนเดียวภายในห้อง เมินบุรุษต่างวัยที่มองมาอย่างน้อยอกน้อยใจปนตัดพ้อ

    สตรีนางนั้นม้วนปลายผมเล่น เอียงคอตอบอย่างน่ารัก "อืมมม ข้าชื่อเจี่ยงลี่เป็นนายท่านของจวนนี้น่ะ"

    "?" หมายความว่ายังไง?

    เห็นเขาทำหน้าสงสัยจับเรื่องราวไม่ถูก โจวเจว่ยจึงช่วยขยายความให้

    "นางเป็น 'นายท่าน' ตัวจริงของจวนนี้ เจ้านั่นที่เจ้าเห็นเป็นเพียงพ่อบ้านที่ทำหน้าที่ดูเเลจวน"

    "ถือว่ามีฝีมือไม่เลว ข้าเเค่ออกไปตามล่าหาบุรุษงามไม่กี่ปี ใครจะไปคาดคิดว่าเจ้าอ้วนหน้าเหม็นนั่นจะมาเปลี่ยนจวนข้าเป็นดินเเดนทรมานเด็กหนุ่มเช่นนี้ เฮ้ออออ ช่างน่าเสียดาย"

    "ท่านรู้อยู่เเล้ว?" สือโถวหันไปถามบุรุษข้างกาย โจวเจว่ยยกพัดปิดปาก ดวงตาหยีโค้งเป็นพระจันทร์เสี้ยว

    "ก็นะ เเต่มันก็ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของข้านี่ ใครอยากจะเป็นนายท่านของจวนนี้ก็เป็นไปเถิด"

    "เจ้านี่นิสัยเสียต่างจากบิดาของเจ้าเสียจริง!" เจี่ยงลี่ฮึดฮัด "ถ้าไม่มีคนเเอบส่งข่าวมาบอก ชาตินี้ข้าก็คงจะไม่รู้!"

    "มันเป็นความผิดของท่านเองนะ มาโทษข้าเเบบนี้ก็ไม่ถูกสักเท่าไหร่"

    "เชอะ" นางสะบัดหน้าอย่างเง้างอน ช่างดู ช่างดู...

    สือโถวยกมือกุมอก 

    ความรุ่มร้อนกลางอกที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทำให้เขารับมือไม่ถูก นะ นี่มันอะไรกัน

    "ถ้าจบเรื่องเเล้ว ข้าขอตัวสือโถวไปเลยเเล้วกัน"

    "เดี๋ยว!!" เจี่ยงลี่กับหลี่หลงประสานเสียงกันดังลั่น เเต่คนงามที่ถูกเรียกรั้งเพียงหันไปเลิกคิ้วใส่เป็นเชิงถาม

    "ข้าบอกตอนไหนว่าจะยกคนในจวนให้เจ้า" ร่างเย้ายวนย่ำเท้ามาตรงหน้าสือโถว "เพชรเม็ดดีเเบบนี้ข้าไม่ยกให้เจ้าเเน่!"

    เจี่ยงลี่คว้าร่างสูงโปร่งไปกอดเเน่น สือโถวหน้าเเดงเเปร๊ด ได้เเต่ยืนนิ่งสงบเป็นก้อนหิน ความนุ่มนิ่มนี้ช่างต่างกับตอนโดนอวี๋ชิงกอดเหลือเกิน

    "ท่านป้าคงเข้าใจผิดไป ข้าไม่ได้ 'ขอ' ท่าน เเต่เป็นการ 'บอก' ให้ท่านทำตามต่างหาก"

    เจี่ยงลี่หน้ากระตุกกับคำว่าป้า จริงอยู่ที่นางไม่สาวเเล้ว เเต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นที่เด็กหนุ่มจะเรียกว่าป้ามั้ย!?

    เห็นร่างบางยังยึดสัตว์เลี้ยงเขาไว้เเน่น เเถมอีกฝ่ายก็ยังไม่หือไม่อือยอมถูกกอดโดยง่าย ใจของโจวเจว่ยเริ่มขุ่นเคือง

    "ตงฉิน"

    ร่างสูงใหญ่โผล่มาอยู่ข้างกายรอฟังคำสั่ง

    "เจ้ามีวิธีโยนท่านป้าออกไปจากห้องโดยที่ไม่บาดเจ็บได้หรือไม่"

    "จะ เจ้า! นี่เจ้ากล้า!"

    "ยังไม่เคยลอง เเต่น่าจะได้"

    ตงฉินยื่นมือหมายจะคว้าร่างนุ่มนิ่มของเจี่ยงลี่ตามที่ปากว่า เเต่สือโถวกลับพลิกตัวบังนางเสียก่อน

    ตงฉินขมวดคิ้ว "ถอย"

    "ไม่ขอรับ"

    ไอสังหารลอยอบอวนไปทั่วห้องโถง ไม่รู้ว่าสือโถวใช้ความกล้ามาจากไหน ถึงได้ยืนจ้องหน้ากับพยัคย์ร้ายอย่างไม่กลัวตาย

    เจี่ยงลี่เม้มปากเเน่น ระหว่างที่กำลังครุ่นคิดหาทาง หางตาเหลือบไปมองร่างเล็กที่ยืนทำหน้าไม่สบอารมณ์พอดี ทันใดนั้นนางก็เหมือนจะนึกอะไรออก

    "ก็ได้ ข้ายอมยกหนุ่มน้อยให้ไปกับเจ้าก็ได้" นางเว้นจังหวะไว้ช่วงหนึ่ง นิ้วเรียวยาวชี้ไปยังเด็กน้อยร่างเล็ก "เเต่เจ้าต้องเอามู่หลี่หลงไปด้วย!"

    "เรื่องสิ บ้านข้าไม่ได้เป็นสถานเลี้ยงเด็กบ้านเเตกซะหน่อย"

    "ข้าไม่ได้บ้านเเตก!!"

    "เจ้าจะไม่ทำตามก็ได้นะโจวเจว่ย เเต่อย่าลืมว่าข้าเองก็สนิทกับท่านเเม่ของเจ้า ถ้าอยากได้ตัวสือโถวไปแบบไม่มีปัญหาก็จงทำตามซะ"

    รอยยิ้มของโจวเจว่ยเเข็งกระด้าง หลังจากหลุบตาลงพิจารณาข้อได้เปรียบ ชายหนุ่มก็ยอมตกรับคำอย่างไม่ค่อยพอใจนัก 

    "ก็ได้"

    "คือว่า" สือโถวยกมือขึ้น "พวกท่านไม่คิดจะถามความสมัครใจของข้าเลยหรือ?"

    เจรจากันข้ามหัวเหมือนข้าไม่ได้ยืนหัวโด่งอยู่ตรงนี้กันไปได้ ข้าได้บอกสักครึ่งคำมั้ยว่าจะไปอ่ะ 

    "เจ้าไม่อยากไป?" โจวเจว่ยเอียงคอ

    เเหม เเค่ข้าเห็นคนข้างกายพี่ชายคนงาม ตัวข้าก็จะอยากนอนคลุมโป่งไม่ออกจากห้องซักสามเดือนเเล้วเถอะ! ความเจ็บปวดตอนโดนถีบที่ศาลเจ้ายังตราตรึงไม่หายเลยนะ!!

    "ถึงเจ้าไม่อยากไปเเล้วอย่างไรเล่า ข้าต้องสนหรือ?"

    "อ่ะ อ้าว"

    ดูท่าคนงามจะเอาเเต่ใจกว่าที่คิด สือโถวกำลังจะเเย้งอีกครั้ง เเต่หลี่หลงกลับเอื้อมมือมาจับเเขนเขาเสียก่อน

    "พี่สือโถว ข้า ข้าอยากออกจากจวนนี้"

    ว่าเเล้วก็ช้อนดวงตาช่ำน้ำขึ้นมอง มาอีกเเล้ว ไอ้ท่าไม้ตายพิฆาตเหล่าบุรุษทั่วหล้า!

    "ไม่ใช่ว่าเจ้า..." จะตีกันตายกับคุณชายเมื่อกี้เรอะ ขืนไปอยู่ด้วยกัน เเน่ใจว่าเจ้าจะไม่ฉกกับคุณชายตายก่อนถึงหุบเขา?

    "นะ นะ พี่สือโถว" เเว่วเสียงพัดหักกับเสียงวีดว้ายลอยมาตามลม เเต่คนทั้งสองกลับไม่คิดจะสนใจ

    สือโถวครุ่นคิดก่อนจะพยักหัว

    "อืม งั้นตามใจเจ้าเถอะ"

    มู่หลี่หลงก้มหน้าลงอย่างที่ทำเป็นประจำ สือโถวจึงไม่เห็นว่าเด็กน้อยกำลังส่งสายตาเยาะเย้ยไปให้คนงามร่างสูง โจวเจว่ยยิ้มเหี้ยมภายใต้ใบพัด ชายหนุ่มกำพัดในมือแน่นจนมันเเตกเปรี้ยะ!

    ก่อนที่จะเกิดศึกในห้องโถงอีกรอบ เจี่ยงลี่ก็ตบมือเรียกความสนใจของทุกคน

    "เอาล่ะๆ จบเรื่องเเล้วก็เเยกย้ายกันไปซะ หลี่หลง เจ้าไปเตรียมสัมภาระเถอะ ส่วนเจ้าก็ออกไปได้เเล้วโจวเจว่ย"

    โจวเจว่ยยอมหุบพัดเดินฮึดฮัดจากไปพร้อมตงฉิน สือโถวกำลังจะก้าวเท้าเเต่สตรีเพียงคนเดียวกลับหยุดเขาไว้

    "พี่สือโถว?" หลี่หลงหันมาอย่างงงๆ ที่ไม่เห็นพี่ชายร่วมห้องเดินตามมา เจี่ยงลี่โบกมือให้เด็กน้อย

    "ข้ามีเรื่องจะคุยกับสือเออร์นิดหน่อยนะ เจ้าไปก่อนเลย"

    สือโถวตัวเเข็งโป้กอีกรอบ ร่างกายไหลเข้าห้องนอนไปตามเเรงดึงของสตรีชุดเพลิง เหล่าชายหนุ่มของเจี่ยงลี่ปิดประตูบานใหญ่ให้อย่างรู้งาน

    กว่าจะรู้สึกตัว มู่หลี่หลงก็ทำได้เเต่ยืนไม่สบอารมณ์อยู่หน้าบานประตูที่ปิดสนิท

    .....................

     

    อาเยี่ยนเดินวนเวียนอยู่หน้าเรือนใหญ่อย่างร้อนรน ทำไมสือโถวถึงได้เข้าไปนานนักนะ คนอื่นเขาก็ออกมาหมดเเล้ว เหลือเเต่เพื่อนตัวดีของเขาเนี่ยเเหละ

    ตึก ตึก ตึก

    ไม่นานเกินรอ ร่างที่เขารอคอยก็เดินโซเซลงมาจากเรือน อาเยี่ยนรีบเข้าไปประคอง

    "ทำไงดี อาเยี่ยน" สือโถวครางเสียงเบา ใบหน้าเเดงก่ำ มือข้างซ้ายกุมอกเเน่น

    "นายท่านพูดอะไรกับเจ้าหรือ"

    เด็กหนุ่มหน้าหนวดยังคงมีท่าทางเหม่อลอย หันไปยังทิศทางที่พึ่งจากมา "นางพูด พูดอะไรก็ไม่รู้ ข้าไม่รู้เลย"

    "..."

    "ทุกอย่างมีเเต่สีชมพู อา เเสงระยิบระยับด้วย"

    "เอ่อ...?"

    นี่เจ้าไปที่เรือนใหญ่มาหรือเข้าไปอยู่อีกมิติกันเเน่

    "อาเยี่ยน" สือโหวทำหน้าเหมือนโลกกำลังจะล่มสลาย "ทำไงดี..."

    "ใจเย็นๆ ก่อนนะ สือโถว มีอะไรบอกข้าได้" เห็นสหายตนเป็นเเบบนี้ อาเยี่ยนนึกหวั่นใจ หรือสือโถวจะโดนนายท่านทำอะไรมา!?

    สือโถวคว้าชายเสื้ออาเยี่ยนเเน่น สายตาเคร่งเครียดจริงจัง ประกาศดังก้อง "ข้าใจเต้นกับผู้หญิง!!!!"

    "..."

    "..."

    มิ้ง มิ้ง มิ้ง

    "...หะ?"

    เสียงจิ้งหรีดร้องระงม ผ่านไปสามนาทีอาเยี่ยนถึงหาเสียงของตนเองเจอ เด็กหนุ่มเอียงคองงงวยเกาหัวเเกรกๆ

    "เอ่อ มันก็เรื่องปกติของผู้ชายที่จะใจเต้นกับผู้หญิงนี่"

    "จะใช่ดะ-!!" สือโถวชะงัก เอ๊ะ เออ ก็จริงว่ะ

    เฮ้ย ไม่ใช่สิวะ ข้าจะเป็นใจเต้นกับผู้หญิงได้ไง ในเมื่อชาติก่อนเขาเป็นผู้หญิง!! 

    เดี๋ยวก่อนนะ เเล้วไอ้ความตื่นเต้น หน้าเเดงพร้อมเสียตัวที่เป็นอยู่นี่มันคืออะไร ข้าเบี่ยงเบนหรอ!?

    ไม่ถูกสิ ตอนนี้ข้าเป็นผู้ชายเเล้วนี่หว่า การจะรู้สึกชอบผู้หญิงก็ไม่เเปลกป่ะวะ

    "อ้ากกกกกกกกกกกก" 

    "!!"

    ซือเหยี่ยนที่ตบไหล่ปลอบสหายหน้าหนวดถึงกับสะดุ้งตัวโยนที่จู่ๆ เจ้าตัวก็ตะโกนกรีดร้องเสียงหลง

    สือโถวขยี้หัวจนมันฟูฟ่อง เเม่งเอ๊ย การเข้าร่างที่ไม่ตรงเพศเดิมเล่นตูเเล้วไง สรุปเขาชอบผู้หญิงหรือผู้ชายวะ ต้องเดินไปทางสายไหนถึงจะไม่โดนพระเจ้าลงโทษกันล่ะเนี่ย!!

    "หรือว่าเจ้าไม่เคยใจเต้นกับผู้หญิง" คราวนี้เป็นอาเยี่ยนที่เคร่งเครียดบ้างเเล้ว

    สือโถวพยักหน้า จวนนี้มีผู้หญิงที่ไหนละฟะ ขนาดลอยมาเป็นวิญญาณยังไม่มีเลย ข้าจะไปใจเต้นตอนไหนล่ะ เเล้วไม่ต้องถามถึงชาติก่อนนะ เขามั่นใจว่าตัวเองชอบผู้ชายหนึ่งพันเปอร์เซ็น!!

    "เเล้วเจ้าใจเต้นกับผู้ชาย?"

    "อ่ะ เอ่อ" หลบตาสหายตนเองวูบ จะว่าไงดี... ก็เคยน้ำลายไหลตอนเจ้าถอดเสื้อ เลือดกำเดากระฉูดตอนเจ้าถอดกางเกง เเอบลูบคลำหน่อยตอนเจ้าเผลอ

    เรื่องนี้ใครจะไปบอกได้ฟร่ะ! ขืนบอกข้าก็โดนเจ้าฆ่าน่ะสิ ฮือออออ

    "สือโถว!!"

    "ขอรับพี่ชาย!!"

    เขาเด้งตัวพรวด ในใจได้เเต่ร้องลั่น ข้าขอโทษอาเยี่ยนนนนน เจ้าดันตรงสเปคข้าเกินไป มือไม้เลยไปเองไงง

    "เจ้าออกห่างจากหลี่หลงเลยนะ!"

    ข้าไม่ได้ตั้งใจจะจับจริงๆ นะ เอ๊ะ?

    "หะ หลี่หลง?" ชื่อนี้มาอยู่บนบทสนาของสองเราได้ไง

    อาเยี่ยนยกมือกุมขมับราวกับชีวิตนี้ได้สูญสิ้นเเล้ว ถ้ามีสปอตไลท์ส่องมานี่คือเป๊ะมาก "ข้าไม่น่าให้เจ้าดูเเลเด็กเวรนั่นตั้งเเต่เเรกเลย ถ้ารู้เเบบนี้ สู้ข้าเอาเขามาดูเเลเองดีกว่า"

    "เดี๋ยวนะ" หลี่หลงเกี่ยวอะไรด้วย?

    "ไม่เป็นไรนะสือโถว ถ้าเจ้าออกห่างจากเด็กนั่น เจ้าต้องกลับมาปกติเเน่ๆ !!"

    "..."

    เขามวดคิ้วเเน่น วางมือลงบนบ่าอาเยี่ยน "ข้าไม่ได้ชอบหลี่หลงนะ"

    "งั้นเเสดงว่า..." อาเยี่ยนก้าวถอยหลัง สือโถวตบหัวเพื่อนจนอีกฝ่ายหน้าทิ่ม รีบกลบเกลื่อนเสียงสั่น ไอ้สัสเอ๊ย อย่ารู้ตัวเร็วเเบบนี้สิวะไอ้น้อง!

    "ขะ ข้าพึ่งบอกไปว่าใจเต้นกับผู้หญิงไม่ใช่เรอะ จะ จะไปชอบเจ้าได้ไง!" 

    อีกอย่างข้าเเค่ชอบหน้ากับหุ่นเจ้าเท่านั้นเเหละ! ส่วนนิสัย อ่อ อืม เอาเป็นว่าข้าเผลอตั้งสเปคไปเเล้วว่าจะไม่เอาคนอย่างเจ้าเป็นผัวว่ะ ไว้เจ้าคิดจะเป็นคนดีที่น่ารักกว่าเดิม เราค่อยมาพูดถึงอนาคตร่วมกันเนาะ

    พวกเขานั่งกอดเข่าเหม่อมองท้องฟ้ายามบ่ายร่วมกัน ผ่านไปราวครึ่งชั่วยามจนอารมณ์พลุพล่านเเสนงงงวยผ่านพ้นไปเเล้ว สือโถวจึงถอนหายใจยาว ซบเข่าบอกเรื่องสำคัญเเก่เพื่อนเพียงคนเดียวตั้งเเต่ลืมตาตื่นมานโลกใบนี้

    "อีกไม่นาน ข้าต้องออกจากจวนนี้ไปอยู่กับคุณชายโจวเจว่ย"

    "อืม เรื่องนั้นข้าได้ยินจากด้านนอกเเล้วล่ะ"

    "งั้นหรือ" สือโถวครางอือในลำคอ "ไม่รู้ว่าพวกเราจะได้เจอกันอีกทีเมื่อไหร่"

    "นั่นสินะ"

    "อย่าตายก่อนข้าล่ะ อาเยี่ยน"

    "หึ ข้าต่างหากที่ควรจะพูดคำนั้น"

    เด็กหนุ่มหัวเราะร่วน ตนก็รู้สึกใจหายไม่น้อยเช่นกันที่ต้องจากสหายที่อยู่ร่วมกันมาตั้งเเต่เด็ก 

    "เเต่ก็ดี เจ้าเด็กหลี่หลงจะได้เลิกยุ่งย่ามกับเจ้าสักที"

    "อ๋อ เรื่องนั้นมู่หลี่หลงก็ไปด้วยนะ"

    "ว่ายังไงนะ!?"

     ...............................................................................................

                

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×