ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [BL] เป้าหมายของข้าคือ HaRem!!

    ลำดับตอนที่ #13 : ย้อนยุค 11 : เดินทางอย่างไรให้เจอโจร (Rewrite)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 12.65K
      541
      10 เม.ย. 64


     

    ย้อนยุค 11

    เดินทางอย่างไรให้เจอโจร


     

               

              จิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ

              ซ่า ซ่า

              สือโถวยกมือบังแดด พลางหลับตาสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าปอดเต็มที่ อา ช่างผ่อนคลายอารมณ์ยิ่งนัก

    ทั้งๆที่บรรยากาศดีขนาดนี้...

    “พี่ชายทั้งหลายกำลังทำอะไรอยู่ไม่ทราบ” เขาเอ่ยเสียงเย็นเฉียบ เส้นเลือดที่ขมับเต้นตุบๆ เป็นจังหวะเดียวกับการเต้นของหัวใจ

    เหล่าพี่ชายหรืออีกนัยนึงก็คือเหล่ากองกำลังส่วนตัว ‘อินทรีโลหิต’ พากันสะดุ้งสุดตัว

    เขาเคยได้ยินว่ากองกำลังนี้เป็นเลิศทางด้านวรยุทธ มีความสูงส่งราวกับองค์รักษ์ของฮ่องเต้ แต่ไอ้การที่บุรุษสูงส่งพวกนี้มานั่งแอบใต้พุ่มไม้ส่องมู่หลี่หลงคนงาม ‘อาบน้ำ’ นี่หมายความว่าไงวะหา!

    “ชู่ววววว”

    หนึ่งในนั้นยกมือทาบริมฝีปากให้เขาเบาเสียง

    ยัง ยังไม่สลดอีก! เดี๋ยวข้าก็ยกนิ้วสู้ตายจิ้มตาบอดซะหรอกไอ้นกย่างทั้งหลาย!!

    สือโถวข่มความโกรธที่พุ่งขึ้นสูง ผู้ชายยุคโบราณนี่แม่งอดอยากปากแห้งขนาดต้องมาส่องผู้ชายอาบน้ำแทนแล้วรึไง

    เพราะรู้ตัวดีว่าถึงสู้ไปก็เเพ้อยู่ดี เขาเลยรวบรวมลมปราณเตรียมตะโกนเเทน “มู่หลี่หล-!”

    ไม่ทันที่จะได้ตะโกนบอกให้น้องน้อยเลิกโชว์ก้นให้ชาวบ้านดู ชายหนุ่มในนั้นก็กระชากสือโถวให้ล้มลงดังตุบ! คนที่เหลือรีบพุ่งมาปิดปากเขากันจ้าละหวั่น

    “เจ้าจะบ้ารึไง ขืนตะโกนแบบนั้นหลี่หลงก็รู้กันพอดีสิว่าข้ากำลังแอบดู!”

    เออก็น่ะสิวะ! ข้าจะตะโกนให้มันรู้กันทั่วเนี่ยแหละ เอาให้ดังไปถึงนรกจนยมฑูตหน้าเหม็นพวกนั้นต้องขึ้นมาลากพวกเเกไปอยู่ด้วยเลยล่ะ!

    เขาปัดมือหลายคู่ออกตัวอย่างรังเกียจ ตวาดเเว้ดใส่หน้าอินทรีโลหิตเเต่ละคนด้วยความเหลืออด 

    “พวกท่านว่างมากหรือไง ถึงได้มาแอบดูเด็กผู้ชายอายุสิบขวบอาบน้ำน่ะหะ!!”

    “เพราะข้าทนไม่ได้ไง!!” ร่างบึกบึนสถบออกมา

    “วะ ว่าไงนะ” 

    เห็นสือโถวผงะคล้ายรับไม่ได้ คนด้านข้างรีบเสริม “ผู้ชายที่ไหนจะผิวขาวเนียนละเอียด ดวงตากลมโต ริมฝีปากน่าจูบขนาดนั้น พวกข้ามาแอบดูเพื่อพิสูจน์ว่าเขาเป็นบุรุษหรือสตรีกันแน่ต่างหาก!”

    “โห่...” สือโถวมองพวกนั้นด้วยตาว่างเปล่า เหตุผลทุเรศกว่าเดิมอีกสัส!

    “เจ้าตัวติดกับเด็กนั่นทั้งวันไม่สงสัยบ้างหรือ?” 

    “…”

    ขอโทษทีว่ะพี่ชาย เเต่ข้าประจักถึงเพศสภาพตั้งเเต่อาบน้ำให้น้องน้อยวันเเรกเเล้วเถอะ

    “โตขึ้นมาต้องกลายเป็นคนงามเเน่ๆ ถามหน่อยเถิด เจ้าเคยใจเต้นกับนายน้อยหรือไม่”

    “หะ?”

    ประเดี๋ยวก่อน ทำไมบทสนทนาถึงไปจบลงที่พี่ชายคนงามได้เอ่ย อีกอย่างพวกเราจำเป็นต้องมานอนคุยปรึกษาหารือเป็นสาวน้อยวัยใสในดงพุ่มไม้นี้ด้วยหรอ

    “นายน้อยไง ข้าเห็นว่าเขาถูกใจเจ้าน่าดู ว่าอย่างไรน้องชาย ใจเต้นหรือไม่”

    เหล่าบุรุษเฝ้ารอคำต่ออย่างตื่นเต้น เพราะท่าทางกดดันเช่นนี้ สือโถวจำต้องส่ายหัวตอบไปอย่างช่วยไม่ได้

    ถึงจะใจเต้นกับสตรีเมื่อไม่นานมานี้ เเต่กับบุรุษหน้าสวยอย่างหลี่หลงหรือโจวเจว่ย เขากลับรู้สึกเหมือนมีลูกสาวกับพี่สาวเเสนสวยเพิ่มขึ้นมาเท่านั้น ถ้าจะให้พูดจริงๆ เขาสนใจกับบุรุษอย่างอาเยี่ยนหรือไม่ก็ตงฉิน (กระซิบเสียงเบา) ซะมากกว่า

    การกลับมาเกิดในต่างเพศ ช่างทำให้ตัวตูนั้นเเลดูสับสนเสียเหลือเกิน

    ฮึ่ม ไอ้ยมทูตสารเลว เจอกันอีกทีเเกได้เกิดไปเป็นดาวลูกไก่เเน่!!

    "ช่างไร้ยางอาย!!!"

    ขณะที่กำลังตกอยู่ในภวังค์ เสียงดุดันอันเป็นเอกลักษณ์ของตงฉินก็ดังทะลุอากาศ เหล่าอินทรีโลหิตผุดลุกขึ้นเหมือนโดนไฟลนก้น

    ร่างสูงใหญ่ในชุดสีดำลายพยัคฆ์คำรามก้าวออกมาจากเงาต้นไม้ ใบหน้าเย็นชากัดฟันกรอดจนกรามบวมบูด ดวงตาสีดำเรืองรองด้วยเเรงอารมณ์ สือโถวกับสหายร่วมทุกข์ชั่วคราวถึงกับเหงื่อเเตกพลั่ก

    "น่าอับอายนัก พวกเจ้ายังกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นหน่วยอินทรีย์โลหิตได้อีกหรือ!!"

    "ขออภัยขอรับ!!!"

    พวกเขายืดตัวตะโกนพร้อมกัน สักพักสือโถวก็นึกขึ้นได้ เอ๊ะ ตามหลักการเเล้วข้าไม่เกี่ยวนี่หว่า ข้าไม่ได้มาเเอบดู เเต่มาห้ามปรามไม่ให้เจ้าพวกนี้ลวนลามหลี่หลงทางสายตาต่างหาก ข้าจะไปหน้าซีดปากสั่นตามไก่ เอ้ย อินทรีพวกนี้ทำไมวะ

    คิดได้ดังนี้ ร่างสูงโปร่งก็ค่อยๆ กระดืบออกจากเเถวเรียงหนึ่ง ซ้ายย่างหน-

    "สือโถว!!!"

    "ขอรับท่าน!!!" หดขากลับเเทบไม่ทัน!

    สือโถวเด้งตัวยืนตรงเหมือนทหารผ่านศึก ขาดอย่างเดียวคือตะเบ๊ะท่าให้คนตรงหน้าเพียงเท่านั้น ตงฉินก้าวพรวดเดียวก็มาหยุดอยู่เบื้องหน้า 

    ร่างสูงใหญ่ของตงฉินบังเเสงเเดดเสียมิดเกิดเป็นเงายาวทาบทามสือโถวทั้งตัวจนเหมือนเขาเป็นเพียงเด็กน้อยที่ยังไม่โตดี

    ระยะสายตาของสือโถวตรงกับอกเเน่นตึงที่โผล่พ้นเสื้อออกมา เขาเเอบกลืนน้ำลายดังเอื้อก เเต่พอเลื่อนสายตาขึ้นไปน้ำตาก็พลันหลั่งไหลเเทนน้ำลาย

    ไปโกรธเเค้นเคืองโกรธใครมาหรือ ไฉนต้องมาลงที่เค้าด้วย ฮือ

    หรือว่ายังไม่หายเคืองที่เขาไปยืนจ้องหน้าไม่ยอมให้พี่เเกลากเจวี่ยลี่ออกไปอ่ะ

    "เจ้ารู้ตัวรึไม่ว่าตนเองอยู่ในสถานะอะไร"

    ขี้ข้าของเมียท่านงับ 

    "บ่าวขอรับ"

    "เเล้วการที่บ่าวมีพฤติกรรมเเบบนี้มันใช้ได้รึ!"

    "ขะ ข้าเปล่านะ" สือโถวเเย้งเสียงเบา พลางส่งสายตาคาดโทษไปให้เหล่าต้นเหตุ ซึ่งเเต่ละคนทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ตีปีกตีเเขนชมนกชมไม้เหมือนมันน่าสนใจนักหนา

    ระวังตัวไว้เถอะ เดี๋ยวข้าจะเเอบจุดไฟเผาก้นพวกเจ้าตอนนอน เอาให้อินทรีสุดเท่กลายเป็นไก่ย่างห้าดาวเเม่งเลย!

    "หลักฐานชัดเจนเเบบนี้ยังจะเถียงอีก!"

    "ข้าไม่ได้มาเเอบดูหลี่หลงจริงๆ นะขอรับ!" กุ้งเเห้งเเบบนั้นมีอะไรน่าดูกัน! สู้กล้ามเเน่นๆ ของท่านก็ไม่ได้ป่ะ!! 

    ถ้าไม่ติดว่ากลัวตายก็อยากจะเเย้งเเบบนั้นออกไปเหมือนกัน เเต่พอดูหน้าเจ้าของอกเเน่นตึงนี่เเล้วก็ได้เเต่หลั่งน้ำตาในใจ หน้าผ่าน หุ่นผ่าน เเต่นิสัยเสือกไม่ผ่านอ่ะ!

    อีกอย่างข้าอยู่กับเด็กนั่นจนเหมือนคลอดออกมาเอง กะอีเเค่หนอนน้อยดุ๊กดิ๊กที่ยังไม่โต ข้าเห็นจนชินเเล้วเถอะ!

    เเต่ถามว่ากล้าพูดเเบบนี้ออกไปมั้ย

    บอกเลย

    ...ว่าไม่กล้า

    กรุณาดูหน้าคนฟังด้วย นี่คือใคร สุดยอดเซเมะเลยนะ! เเค่ยืนค้ำหัวเเบบนี้เขาก็กลัวจนเเทบกัดลิ้นตายเเล้ว

    เพราะฉะนั้นเรื่องนี้จึงจบด้วยการที่เขาโดนตงฉินอบรมถึงระเบียบของการเป็นบ่าวที่ดีหนึ่งร้อยเเปดข้อ โดยมีเหล่าอินทรีโลหิตยืนไขว้หลังส่งสายตาสงสารมาให้ จนคุณชายโจวเจว่ยส่งคนมาเรียกให้เตรียมเดินทางต่อนั่นเเหละ ร่างสูงจึงยอมจากไป

    สือโถวได้เเต่ตีอกชกลมตามเเผ่นหลังกว้าง

    เเม่งเอ๊ย ต้องมาโดนด่าข้าเเทนเจ้าไก่ย่างพวกนั้นด้วยวะ ไอ้เซเมะงี่เง่า!

    …………..

     

    "เมื่อครู่เกิดอะไรขึ้นหรือพี่สือโถว?"

    นัยน์ตากวางหันมาถามสือโถวอย่างสงสัย เพราะหลังจากที่มู่หลี่หลงอาบน้ำเสร็จก็เห็นเหล่าพี่ชายตัวโตพากันตบหัวลูบหลังสือโถวที่ปาดน้ำตาอยู่ข้างน้ำตก เเต่ไม่ทันจะได้ถามไถ่ ตงฉินก็ให้สัญญาณเดินทางต่อ

    "..." สือโถวทำหน้าอึมครึม ก้มมองเด็กน้อยในอ้อมเเขน 

    เพราะมู่หลี่หลงขี่ม้าไม่เป็น จึงต้องอาศัยผู้อื่นในการเดินทาง ไอ้ครั้นจะให้ไปนั่งม้าตัวเดียวกับคนอื่นก็ไม่ดี ยิ่งจะให้ไปนั่งกับโจวเจว่ยในรถม้าก็กลัวจะฉกกันตายเสียก่อน ทุกอย่างจึงจบลงที่เขาต้องดูเเลก้อนเต้าหู้น้อยเช่นเดิม

    "พี่สือโถว?"

    "เจ้า...รีบโตหน่อยก็ดีนะ" ไม่งั้นข้าได้ตายก่อนเเน่

    มู่หลี่หลงชะงักไปนิด สองเเก้มพองลม "ข้าเองก็อยากโตไวๆ เช่นเดียวกัน เเต่มันเกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อครู่อย่างไรรึ"

    "เอ่อ..." 

    สือโถวเหมือนคนน้ำท่วมปาก จะให้บอกว่ากำลังดูเจ้าอาบน้ำ... ตูก็โคตรเหมือนคนโรคจิตเลยอ่ะดิ เขาเลยจบการสนทนาโดยการเสไปมองท้องฟ้าใบหญ้าเเทน 

    มู่หลี่หลงเห็นเช่นนั้นจึงได้เเต่สะบัดหน้างอนไปอีกข้าง เเก้มพองมากกว่าเดิมจนเเทบเป็นลูกซาลาเปา

    เหอะ คิดว่าน่ารักนักเหรอ?

    "อาาาาาา น่ารักเสียจริง"

    เหล่าชายหนุ่มด้านข้างครวญคราง ยกมือกุมอกเหมือนคนจะตายให้ได้ สือโถวถลึงตาใส่ด้วยความหงุดหงิด เเต่ไม่กล้าลงไม้ลงมืออะไร 

    เเหม่ คุณพี่ชายพวกนี้คือหน่วยพิเศษที่ได้ชื่อว่าโคตรเก่งเลยนะ คนที่เรียนหมัดมวยตามบ้านอย่างเขาจะไปสู้ได้ไง ขืนไปท้าตีก็โดนตบกลับมาพอดีดิ

    คิดเเลัวก็เซ็ง นี่ยังต้องเดินทางอีกนานเเค่ไหนกว่าจะถึงไอ้หุบเขาหมื่นลี้นั่นสักที เขาเบื่อที่ต้องมาเป็นไม้กันหมาดึงสติที่ไม่คอยจะมีของเพื่อนร่วมขบวนเต็มทนเเล้วนะ

    ตอนอ่านนิยายไอ้ฉากเดินทางนี่ก็เร็วเหลือหลาย พอมาเจอความเป็นจริงนี่เเทบกระอัก ยิ่งตอนเข้าห้องน้ำตามสไตล์ป่าเขา... โคตรจะเป็นเศร้าเล-

    "!"

    กึก

    ฉับพลันฝ่ามือหยาบกระชากม้าให้หยุดวิ่ง ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับทุกคนในขบวน มู่หลี่หลงกะพริบตาปริบๆ อย่างงุนงง ขณะที่กำลังจะอ้าปากถาม หน้าตาเคร่งเครียดของสือโถวที่นั่งซ้อนหลังก็เป็นสัญญาเตือนว่ากำลังมีบางอย่างผิดปกติ

    เด็กน้อยปิดปากอย่างรู้งาน บรรยากาศรอบข้างเงียบกริบมีเพียงเสียงใบไม้ที่ถูกลมพัดผ่าน

    ทุกอย่างดูปกติสมกับเป็นยามบ่ายของวัน เเต่จิตสังหารที่เเผ่ออกจากหน่วยอิทรีโลหิต ทำให้มู่หลี่เคร่งเครียดตามไปด้วย

    "หลี่หลง" สือโถวเอนร่างมาชิดกับเเผ่นหลังของเด็กน้อย กระซิบกับใบหูขาว "ถ้าข้าขว้างเจ้าลงพื้นเมื่อไหร่ ให้รีบวิ่งไปหลบที่รถม้าด้านหลังเลยนะ"

    "เอ๊ะ?"

    ดวงตากลมโตเบิกกว้าง มู่หลี่หลงไม่ใช่คนโง่ เด็กน้อยพลันเข้าใจ ดูเหมือนว่าตอนนี้จะมี 'เเขก' ที่ไม่ได้รับเชิญก้าวเข้ามาในอาณาเขตของพวกเขาเรียบร้อย

    จริงอยู่ว่าการเดินทางไกลเช่นนี้อาจจะได้พบเจอกับโจรบ้างเป็นประปราย เเต่เเขกผู้มาเยือนที่สามารถทำให้หน่วยอินทรีย์โลหิตต้องเเผ่ไอสังหารเข้มข้น เกรงว่าจะไม่ใช่โจรกระจอกธรรมดาเสียเเล้ว

    "เตรียมพร้อมนะ"

    มู่หลี่หลงกำลังจะพยักหัว พลันรู้สึกว่าท้องฟ้าพลิกตลบพร้อมความรู้สึกเจ็บเเปลบนี่เเก้มก้น เด็กน้อยเตรียมก่นด่าคนเเก่กว่าว่าเตรียมพร้อมบ้านเจ้าเขาจับโยนกันลงมาเเบบนี้หรือ!

    เคร้ง!

    ฉึก! ฉึก! ฉึก!

    ดวงตาสีน้ำตาอ่อนเบิกกว้าง ในใจได้เเต่เสียววาบ หากเมื่อครู่สือโถวโยนลงมาช้ากว่านี้เพียงเสี้ยววิ เกรงว่าตอนนี้คงได้กลายเป็นหมูปิ้งเสียบไม้ไปเเล้ว!

    ไม่รอให้ได้พักหายใจ ห่าฝนธนูก็สาดลงมาอีกรอบ สือโถวพลิกตัวลงจากหลังม้าตะโกนบอกเด็กน้อยที่ยังคงนั่งอึ้ง 

    "หลี่หลง วิ่ง!!"

    ร่างเล็กออกตัวไถลหลบหลังรถม้าทันที ลูกธนูเฉียดหัวทุยไปไม่กี่เซน สือโถวถอนหายใจอย่างโล่งอก รีบกลับมาตั้งสมาธิอีกรอบ หลี่หลงรอดเเล้ว คราวนี้ก็เหลือเเต่เขานี่เเหละว่าจะรอดไปได้มั้ย!

    "ไอ้หนู รับ!"

    จู่ๆ คนในหน่วยอินทรีย์โลหิตก็ขว้างอะไรบางอย่างมาให้ สือโถวรับไว้โดยสัญชาตญาณ ความเย็นเฉียบเเละใบดาบคมกริบที่สะท้อนเเสงทำเอาเขาพูดไม่ออก

    มาย้อนความกันสักนิด...

    หนึ่ง เขาเคยเป็นสตรีที่โดนรถชนตายคาที่ก่อนจะโดนยมทูตหลอกให้มาสิงร่างนี้เพื่อนสานชะตาบ้าบออะไรไม่รู้

    สอง สถานะก่อนตายคือโอตาคุพ่วงนีท* พึ่งมาฝึกต่อยตีเป็นเมื่อไม่นานมานี้

    สาม ข้อที่สำคัญที่สุด... นั่นคือข้าใช้ดาบไม่เป็นโว้ย!

    ตอนออกขบวนขนส่งเขามีหน้าที่เพียงจับทุ่มพวกโจรเเล้วปล่อยพวกอาเฮียทั้งเลยจัดการกันเอง ไหนเลยจะเคยจับดาบ

    "ไม่ต้องซาบซึ้งขนาดนั้นก็ได้ ข้าเต็มใจ" คนที่ส่งดาบมาให้เห็นสือโถวเอาเเต่จ้องดาบนิ่งก็นึกว่าเด็กหนุ่มกำลังซาบซึ้งใจในความมีน้ำใจ อีกฝ่ายยกนิ้วพร้อมฉีกฟันยิ้มชิ้งงงงงงเป็นประกาย 

    สือโถวเเทบจะกรี๊ดอัดหน้า เต็มใจพ่องเซ่ ให้ข้าเอาดาบมาเเทงคอตัวเองรึไง!

    เฮฮฮฮฮฮฮฮฮ!!!!

    "!"

    ทันใดนั้นเสียงปลุกใจก็ดังฮือลั่นป่า สือโถวกับพี่ชายยิ้มสวย (?) คนนั้นหันขวับ เบื้องหน้ามีร่างดำสนิทของไอ้โม่งหลายสิบชีวิตชูอาวุธในมือพุ่งเข้ามาเป็นสายน้ำหลาก

    ตงฉินที่อยู่หน้าสุดเงื้อดาบขึ้น ชายหนุ่มคำรามเสียงดังก้องป่า ตีขาลงท้องม้าเริ่มการกวาดล้างทันที!

    "ทุกคนในหน่วยอินทรีย์โลหิต ใครเด็ดหัวพวกมันได้มากที่สุด ข้าจะให้รางวัล!!"

    "รับทราบขอรับ!!"

    ทางฝั่งพี่โม่งก็ไม่ยอมเเพ้ ตะโกนปลุกพลังคอสโม่ในตัวบ้าง

    "กำจัดโจวเจว่ย! ฆ่าล้างพวกเหม่ยลี้ให้หมด!!"

    "ฝ่ายอธรรมบุก!!"

    "ว้ากกกกกกกก"

    "จ้ากกกกกกก"

    "เจี้ยกกกกกก"

    เห็นท่าทางสนุกสนานตบตีกันเป็นหนังลูกผู้ชาย สือโถวก็ไม่คิดจะเข้าไปขัดศรัทธา ร่างสูงหน้าหนวดกระดืบไปข้างๆ พยายามทำตัวลีบให้มากที่สุด สองมือกุมดาบไว้เหนือหัว มโนว่าตอนนี้ตัวเองคือซามุไรพเนจร*ผสมเทพเจ้าหมัดดาวเหนือ* ใครโผล่มาเเม่ก็พร้อมจะวิ่งให้ป่าราบให้ดูเสมอ!

    นรกเอ๊ย! ชาติก่อนไม่น่าอินดี้ออกมาทำตัวสวยนอกบ้านเลย ไม่งั้นก็ไม่ต้องมาอยู่ร่วมเป็นสักขีพยานการฆ่ากันเเบบนี้หรอก! 

    เคร้ง! ฉึก!

    "อ้ากกกกกกกก"

    ฟิ้ววว ตุบ!

    "เฮือก!"

    เเขนของใครบางคนลอยละลิ่วมาตกอยู่หน้าสือโถวอย่ากับจับวาง กรี๊ดดดดด ใครที่ไหนมาทำเเขนตกไว้กันค้าาา หัดระวังหน่อยเซ่ พ่อเเม่อุตส่าห์ให้มานะโว้ยยยยย

    ความเหม็นเปรี๊ยวตีตื้นขึ้นคอจนเกือบอาเจียนออกมา เขาไม่ได้ชอบดูหนังกลางเเปลงที่ชัดทั้งกลิ่นเเละเสียงเเบบนี้ซะหน่อยยยย

    "เจ้า!!!"

    จู่ๆ บุรุษร่างใหญ่โตที่คลุมโม่งดำทั้งตัวเผยให้เห็นเเค่ดวงตาก็โผล่พรวดมาด้านหลัง สือโถวสะดุ้งสุดตัว เกือบทำดาบจิ้มพุงตัวเองตาย

    ร่างนั้นก้าวสุขุมเข้ามา สือโถวถอยหลังกรูด ดาบในมือสั่นกึกๆ 

    ดูเเค่โม่งบนหัวก็รู้ เเม่งอยู่ฝั่งตัวร้ายเเน่ๆ พวกเเกจะประกาศความเป็นตัวโกงมากไปเเล้วเฟ้ย! 

    เเต่เเทนที่ตัวโกงจะชักดาบสู้กับเขา พี่เเกดันตะโกนสั่งเสียงขรึม

    "มัวทำอะไรอยู่ รีบไปสังหารโจวเจว่ยสิ!" 

    "หะ?"

    สือโถวกะพริบตาปริบๆ ไอ้โม่งชี้ดาบเปื้อนเลือดใส่เขา "เจ้าเป็นโจรที่เราจ้างมาเเฝงตัวในขบวนไม่ใช่หรือ รีบไปทำหน้าที่ให้สำเร็จสิ!"

    "..." เเดกจุดหนักมาก

    "ยัง ยังไม่ไปอีกรี!"

    "..."

    "ชิ พวกเจ้านี่มันเลี้ยงเสียข้าวสุ- อุ๊ก!"

    มือหยาบกร้านจับสันดาบฟาดเข้าช่องท้องของไอ้โม่งดังป้าบ! ตามด้วยหมัดฮุ๊กเสยที่ใต้คางอย่างสวยงามตบท้าย ไอ้โม่งลอยหมุนตัวสามตลบกลางอาดาศ ก่อนจะร่วงลงมานอนเเอ้กบนพื้นพร้อมเสียงกรรมการประกาศ 'น็อกเอาท์!'

    สือโถวปัดมือ หลุบตามองซากศพ (?) ใต้เท้า กล้ามาหยามว่าข้าเป็นโจร จุดจบคือตายอย่างเดียวโว้ย จำไว้!

    "นั่นเจ้ากำลังทำอะไร!!"

    "!" ชิบหาย ทำไมไม่กระซิบบอกก่อนวะว่าเอาเพื่อนมาด้วย!!

    "นะ นั่นมัน!" ไอ้โม่งสองกรีดร้องที่เห็นเพื่อนนอนตาย (?) อยู่บนพื้น ดวงตาคู่นั้นเเดงก่ำจนเห็นเลือดฝอย 

    อุ้ย ใจเย็นนะตัวเอง เค้าเปล่าทำอะไรจริงจริ๊งงงงง

    "ทรยศสำนักมีโทษตาย!!"

    ตูไปอยู่สำนักของคุณเอ็งตอนไหนมิทราบวะ!

    "ว้ากกกกกกก"

    "เฮ้ย! เดี๋ยวก่อนพี่โม่งรูปงาม!"

    เคร้งงงงง

    สือโถวยกดาบกั้นเเทบไม่ทัน เเรงมหาศาลของไอ้โม่งสองทำเอาต้องเบ้หน้า "ข้าไม่ใช่โจรนะ!"

    ถึงจะหน้าโจร เเต่ข้าไม่โจรนะเออ!

    "คิดว่าจะหลอกข้าได้รึ หึ! นี่คงจะโดนความงามของโจวเจว่ยปั่นหัวเอาล่ะสิ!"

    "ใช่ที่ไหนล่ะโว้ยยยย" ถึงจะสับสนในเพศอยู่เเต่ก็ไม่คิดจะ NTR* เมียชาวบ้านนะ!

    เขาพลิกตัวเอียงตัวหลบคมดาบ ก่อนสะบัดดาบรับอาวุธที่ฟาดลงมารอบสองจนมันเกิดประกายไฟวาบ

    เเม่งเอ๊ยยย นี่เขาต้องมาตายที่นี่จริงๆ หรอ ตายทั้งที่ยังไม่เข้าใจว่าตัวเองจะมาสิงร่างนี้เพื่ออะไรอ่ะนะ!?

    "พี่สือโถว!"

    "อย่าเข้ามา!"

    สือโถวร้องเสียงหลงเมื่อหางตาเหลือบเห็นร่างเหน่งน้อยที่กำลังมุดออกจากใต้ท้องรถ ขอล่ะ ไม่ต้องตามมาตายด้วยกันเลยนะ!

    ขณะที่กำลังจะก้าวเข้าสู่ความตายในอีกไม่ช้า ห่อผ้าสีขาวบางอย่างก็ลอยละลิ่วเข้ามากลางวง ไอ้โม่งสองพลิกตัวฟันทิ้งด้วยสัญชาตญาณ

    ฉับพลันผงสีขาวฟุ้งกระจายออกจากรอยขาด ไอ้โม่งสองค่าตัวสิบบาทผงะถอยหลัง เผลอผ่อนเเรงลง 

    มู่หลี่หลงยืดตัวขึ้นสูง "จังหวะนี้เเหละพี่สือโถว ฆ่าเขาซะ!"

    สือโถวชะงักกึก 

    "เร็วเข้าสิ!"

    สองมือที่กำดาบขยับเเน่นกว่าเดิมจนเส้นเลือดปูดโปน ดวงตาภายใต้กลุ่มผมฉายเเววสับสน

    ฆ่า

    ฆ่าคนงั้นหรอ

    มะ ไม่ได้ ทำไม่ได้!

    "สือโถว!"

    "ตายซะเถอะ!" ช่วงเวลาที่กำลังลังเล ไอ้โม่งก็เช็ดผงสีขาวออกจากใบหน้าเรียบร้อย ร่างกำยำพุ่งเข้ามาด้วยความเเค้นเตผ้มพิกัด สือโถวยกดาบขึ้นมาปกกันเช่นเดิม เเต่คราวนี้ไอ้โม่งกลับตวัดตัดขา จังหวะที่ร่างกายเสียสมดุลมันก็หมุนตัวเตะจนเขาลอยละลิ่วไปชนกับรถม้าดังโครม!

    "อั่ก!" เลือดสีเเดงสดไหลทะลักออกมาจากลำคอ ปล่อยให้ร่างกายหนักอึ้งไถลพรืดลงพื้น ตัวดาบปลิวหลุดจากมือไปไกล

    พลันเงาดำก็ทาบลงมา พร้อมเเสงเเสบตาของอาวุธเหนือหัว สือโถวเบิกตากว้าง จ้องคมดาบที่เเทงลงมา

    จะตายเเล้วงั้นหรือ...

    ฉัวะ!!

    เลือดสีเเดงฉานสาดกระเด็นไปทั่วใบหน้าพร้อมร่างของไอ้โม่งล้มลงราวกับตุ๊กตาชักใยที่สายขาด กลิ่นคาวสนิมเเละความอุ่นร้อนของโลหิตที่ไหลทะลักจากศพทำให้เเผลในอดีตถูกฉีกออกอีกครั้ง

    สือโถวตัวเเข็งทื่อ ดวงตาสีดำสนิทภายใต้เส้นผมหยักศกเลื่อนขึ้นสูง

    ร่างเล็กของมู่หลี่หลงยืนหอบหายใจถี่ มือเล็กนุ่มนิ่มกุมดาบอาบโลหิตไว้เเน่น นัยน์ตากวางฉายเเววตำหนิไม่ปิดปัง

    "อยากตายหรือไร ทำไมถึงไม่ฆ่า!"

    "ขะ ขอโทษ"

    "เเล้วจะนั่งให้มันทับอีกนานมั้ย ลุกขึ้นสิ!"

    กระโดดลุกขึ้นเเทบไม่ทัน

    สือโถวได้เเต่ยืนงุนงงจับเรื่องราวไม่ถูก สับสนที่ลูกกระต่ายน้อยที่เคยเลี้ยงดูปู่เสื่อเป็นอย่างดีกลายเป็นไฮยีน่ากัดไม่เลือก

    มู่หลี่หลงยื่นดาบในมือให้ "เอาไว้ใช้ป้องกันตัวซะ"

    "อ่า" หรือว่าจะโดนวิญญาณร้ายเข้าสิง หลี่หลงคนเดิมไม่มีทางพูดเสียงกระโชกโฮกฮากเเบบนี้เเน่ๆ!

    "สือโถว!" เสียงตะโกนมาพร้อมกับเเรงดึงที่เเขนทำเอาสือโสวเซเเถ่ดๆ ไปตามเเรงกระชาก 

    พอจะหันไปด่าก็เเทบกรี๊ดอัดหน้าจนเผลอกัดลิ้นตัวเองเเทน เมื่อไอ้คนที่เรียกเเม่งเลือดอาบน้ำไปยันฟัน

    "เจ้ายังไหวรึเปล่า!?"

    คำถามนี้ควรเก็บไว้ให้ตัวเงระ สภาพคือใกล้ตายกว่าเขาอีก ฝั่งนี้ต่างหากที่อยากจะถามว่าเจ้าจะตายเเล้วรึเปล่า!?

    "สือโถว เจ้าเป็นอะไรไป!"

    กลัวเเกนี่เเหละโว้ย! ได้โปรดเอาหน้าโชกเลือดนี่ไปไกลๆ เลย!

    สือโถวขยับถอยหลัง "มะ ไม่เป็นอะไร" จริงๆ นะ ตอนนี้ข้าสบายดีกว่าเจ้าเยอะเลยอ่ะ

    "งั้นก็ดี เจ้ามาช่วยพวกข้าหน่อย!"

    "หะ หา!? เจ้าว่าอะ เหวอออออ" 

    "พี่สือโถว!!:

    ยังไม่ทันได้ปฏิเสธ ไอ้บ้านี่ก็ลากเขาไปยังดงดาบที่ตีโช้งเช้งกันอย่างเมามันส์ สือโถวตาเหลือกหน้าซีดเกือบจะเป็นลม 

    ไอ้ไก่เวรที่ลากเขามายัดอาวุธใส่มือพลางอธิบายสถานการณ์รวดเดียวจบ

    "รองหัวหน้ากำลังลำบาก เจ้าช่วยเขาสู้ที!" ว่าเเล้วก็ถีบตูดสือโถวเข้าไปดงสงคราม ก่อนจะเฟดตัวเองหายไปกับเงา

    "..." อ่าวเชี่ย เล่นทิ้งกันเเบบนี้เลยเรอะ!

    ไม่มีเวลาให้ยืนงงนานมากนัก เพราะทันทีที่เข้าสู่สมรภูมิ ทั้งดาบ ทวน เเส้ เเละห่าธนูก็พร้อมใจพุ่งเข้าใส่เหมือนรอจังหวะมานาน ประเดี๋ยวก่อนเพื่อนฝูง มาเล็งอะไรใส่ชาวบ้านตาดำๆ อย่างข้ากันวะ!

    สือโถวร้องลั่นกระโดดหลบซ้าย โยกตัวไปทางขวา บิดก้นหลบคมดาบที่เฉี่ยวไปเพียงสามเซน อีกนิดจะเปิดเพลง i will survive เต้นประกอบเเล้ว!!

    ที่ใจกลางของสมรภูมิ คนที่กำลัง 'ลำบาก' อันเป็นต้นกำเนิดของความชิบหายทั้งปวงกำลังออกท่าวรยุทธสูงส่งฟันไอ้โม่งหัวปลิวกระจายเป็นใบไม้ร่วง

    อือฮึ ลำบากมาก ลำบากมากๆ เลยเชียว!

    เเทนที่จะให้เขาไปช่วยตงฉิน ตอนนี้เป็นคุณพี่ท่านต่างหากที่ควรมาช่วยเขา!! 

    "ย้ากกก"

    "เหวอออออ"

    อย่างที่ใครหลายคนเคยบอก ดาบนั้นไร้ตา ตีกันอยู่ดีๆ ทวนยาวจากไหนก็ไม่รู้พุ่งเข้ามาจะเสียบพุง สือโถวหน้าซีดเบี่ยงตัวหลบ เเต่เนื่องจากที่นี่คือในป่า + พื้นดินไม่สม่ำเสมอ + มีก้อนหิน = สะดุดล้ม

    อีก้อนหินนนนนนนนนนนนนน

    สือโถวอยากร้องไห้เป็นสายเลือด เพราะตำเเหน่งที่กำลังพุ่งพลาวไปหาดันเป็นพี่เสือคำรามคนนั้นน่ะเซ่!! 

    "ท่านตงฉิน หล๊บบบบบบบ!"

    ตงฉินชักดาบที่เเทงทะลุลูกตาของฝ่ายอธรรมออก ขณะที่จะชักเท้าหลบ บ่าวคนใหม่ก็พุ่งเข้ามาในอ้อมอกของตนดังเเอ้ก!

    ร่างสูงกำยำเซถอยหลังไปสองก้าว ตงฉินกัดฟันกรอด "เจ้า!"

    จังหวะที่ท่านรองหัวหน้าจะดันเด็กหนุ่มออกไป สือโถวก็สะดุดยอดหญ้าอีกรอบ ยังไม่ทันจะออกป่าด่าลูกธนูคมกริบก็ปักลงมา ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่สือโถวชนตงฉินอีกรอบ!

    ฉึก! ฉึก!

    ดวงตาคมกริบเบิกกว้าง เพราะอีกคนเอาร่างมาบังลูกธนูเมื่อครู่จึงเสียบหลังอีกฝ่ายเเทนที่จะทะลุอกเขา

    "อึ่ก!" ส่วนสือโถวที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรสะดุ้งโหยง เเผ่นหลังเจ็บเเปลบจนเเทบสลบ

    ใครที่ไหนเอาอะไรมาปักหลังข้าเล่นวะสัส!!

    "อย่าอยู่เลยตงฉิน!!"

    เสียงตวาดก้องทำให้รองหัวหน้าหน่วยอินทรีโลหิตกลับมามีสติอีกครั้ง วงเเขนเเข็งเเกร่งโอบเอวบ่าวคนใหม่ พลิกตัวฟันหัวของศัตรูผู้เป็นเจ้าของลูกธนูดอกนั้นในดาบเดียว เลือดสาดกระจายพร้อมศีรษะที่ขาดออกจากลำตัว

    ตงฉินเหลือบมองคนที่ยอมตัวมารับลูกธนูเเทนตนเอง ในอกพลันรู้สึกอุ่นวาบเเปลกๆ ท่าทีจึงเปลี่ยนไปอย่างไม่ได้ตั้งใจ

    "เจ้ารู้สึกอย่างไรบ้าง?" เสียงทุ้มอ่อนโยนอย่างที่ไม่เคยทำกับใครมาก่อนเอ่ยข้างหู 

    ด้วยความที่ยังมึนงงอยู่ สือโถวจึงตอบไปตามตรง "อ๋อ อกเเน่นดี โอ้ย!"

    มือใหญ่ฟาดผลัวะลงบนกระบาลอย่างเเรง

    อื้อหือ ตื่นเลย ตาสว่างเลยจ้า!

    ตงฉินตวาดก้อง "ข้าหมายถึงบาดเเผล!"

    จะไปรู้เรอะ คราวหลังก็หัดพูดให้ชัดๆ กว่านี้เซ่! หัดเเหกปากให้ยาวเท่าที่ตะโกนด่าชาวบ้านบ้าง! 

    "ไม่เจ็บเลยขอรับท่าน" สือโถวข่มความเกรี้ยวกราดกัดฟันตอบ ถ้าให้เทียบกับความเจ็บจี๊ดที่หัวเมื่อครู่ ตรงหลังนี่กลายเป็นเเค่เเผลมดกัดอ่ะคุณ!

    ชายหนุ่มขมวดคิ้ว "โดนธนูปักทะลุขนาดนี้ เจ้าไม่รู้สึกเจ็บเลยรึ?"

    "หะ ข้าโดนธนูปักหรือ อะ โอ้ย!" พอขยับเเค่เล็กน้อยอย ความรวดร้าวก็เเล่นไปทั่วร่าง 

    หะ เดี๋ยวนะ นี่เขาโดนธนูปักจริงดิ ไอ้ตาถั่วที่ไหนกล้ามายิงใส่เขาวะ พ่อเเม่ไม่เคยสอนหรอว่าถ้าไม่สนิท (?) อย่าคิดยิงใส่ชาวบ้านเขาซี้วอ่ะไอ้คว๊ายยยยย

    เห็นคนในอ้อมอกอ่อนเเรงจนเเทบล้มไปกองกับพื้น ตงฉินรู้สึกผิดอยู่บ้าง เขาตะโกนสั่งให้ทุกคนรีบฆ่าพวกเเมงเม่านี่ให้หมดซะ ก่อนจะช้อนร่างสือโถวขึ้นมาด้วยมือเดียว

    "!!"

    สือโถวตะลึงถึงขั้นลืมความเจ็บที่กลางหลังไปชั่วขณะ เชี่ย! ท่าอุ้มคนรักในตำนาน ไม่สิ พี่เเกเเข็งเเรงเบอร์ไหนวะเนี่ย ถึงสามารถอุ้มคนด้วยมือเดียวได้!? เดอะฮัครึเปล่า พี่คือเดอะฮัคกลับชาติมาเกิดเหมือนกันหรอ!??

    "อย่ามัวเเต่อึ้ง รีบกอดคอข้าไว้สิ!"

    "ขะ ขอรับ!"

    สองมือกอดลำคอเเกร่งอย่างว่องไว ตงฉินพุ่งตัวไปข้างหน้า สะบัดดาบฟันศัตรูจนร่วงเป็นใบไม้เเห้ง หัวยังไม่หายมึนงง ตงฉินก็โยนเขาเข้าไปในรถม้าหลังหนึ่งดังโครม!

    "เเอ้กกก!"

    พี่เเกกำลังเข้าใจอะไรผิดรึเปล่า ปกติเขาต้องอ่อนโยนกับคนป่วยไม่ใช่ให้โยนทิ้งโว้ย 

    ถ้าจะดูเเลกันเเบบนี้ไม่เอาดาบมาฟัวหัวข้าเลยล่ะ เจ้าบ้า!

    "ฝากดูเเลที" ตงฉินพเยิดคางบอกคนในรถ

    ภายในรถม้าคันใหญ่กางด้วยผ้าม่านสีขาวสุดหรู พื้นถูกปูด้วยพรมหนานุ่มสีอ่อน ตรงกลางคันมีโต๊ะน้ำชาที่มีขนมเเละชาร้อนวางอยู่ ช่างสงบสุขงดงามตัดขาดจากภายนอกอย่างที่สุด 

    ที่สำคัญคือ "คุณ... ชาย?"

    สือโถวพยายามฝืนดวงตาที่กำลังจะปิดลง เนื่องจะเริ่มทนพิษบาดเเผลไม่ไหว

    "อืม ข้าดูเเลเอง เจ้าไปจัดการข้างนอกต่อเถอะ"

    คนงามหันไปบอกตงฉิน ยกมือลูบใบหน้าของบ่าวตัวสูงอย่างอ่อนโยน

    กลิ่นน้ำค้างเย็นชดชื่นเป็นสิ่งสุดท้ายที่สือโถวรับรู้ก่อนโลกทั้งหมดจะมืดลง

     

    .........................................


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×