นางฟ้าของผม
เรื่องราวความรักที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักของชายหนุ่มผู้ที่ถูกยึดกับสิ่งเดิมๆ กับสาวสวยที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงความรูสึกบางอย่างในใจ อยากรุ้มั๊ย ลองเข้ามาสัมผัสความรักของเค้าทั้งคู่กันเถอะ
ผู้เข้าชมรวม
163
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ประกายแห่งรัก
ส่วนกีฬาในหน้าหลังสุดของหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ประจำวันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2549 คอลัมน์สวนหนังสือแนะนำเรียกร้องความสนใจของผมได้อย่างแรงสูง
สายตากวาดดูไปทั่วหน้าหนังสือพิมพ์ เนื่องเพราะหนอนหนังสือตัวสีขาวตัวหนึ่งของโลกสีฟ้าใบนี้ก็คือผม หนังสือที่ผมเฝ้ารอคอยและตามหา เธอเป็นหนังสือเล่มจ้อยเฝ้าเล่าขานเรื่องความรัก 1 ใน 4 เล่มของนักเขียนคนเดียวกันที่ผมหลงใหลกับคารมของเขา 3 เล่มแรก ผมสามารถหาซื้อมาอ่านได้แล้ว “ประกายแห่งรัก” เล่มนี้เป็นเล่มสุดท้ายที่ปรากฏออกมาในชุดหนังสือนี้ ประกายแห่งรัก ลอยหราอยู่บนหน้าหนังสือพิมพ์ ในบันดลที่สมองสั่งการ ผมวางหนังสือพิมพ์และรีบออกตัวไปสู่นอกห้องพักซ่อมซ่อ เพื่อการติดตามและค้นหาหนังสือเล่มนี้อีกคราหนึ่ง
รถโดยสารประจำทางสีแดง ซึ่งตอนนี้ดูออกจะเป็นสีชมพูเสียแล้วคำรามแผดเสียงเครื่องยนต์อยู่ข้างๆหู และนำพาผมมาสู่หน้าห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านลาดพร้าว ขาก้าวตรงดิ่งสู่ร้านหนังสือดอกหญ้า ที่ที่ผมเป็นลูกค้าประจำอยู่ ทันทีที่เข้าร้าน เสมือนการก้าวข้ามผ่านสู่อีกมิติหนึ่งของผม แต่ทว่ามิติที่ผมบอกกลับปิดไปเสียแล้ว หนังสือที่ผมต้องการมันไม่อยู่ในที่ที่ควรอยู่เสียแล้ว
“ขอโทษนะครับ ผู้หญิงท่านนั้น ได้ซื้อไปแล้ว เธอต้องการแบบครบชุด 5 ชุดเพื่อเอาไปแบ่งเพื่อนๆอ่าน ในวาระวาเลนไทน์และวันเกิดของเธอ”
“ของจะมาส่งอีก ก็คงเป็นเดือนหน้า ขออภัยด้วยนะครับ”
ด้วยความนอบน้อมและการเต็มใจบริการที่ดียิ่งตลอดมา ทำให้ผมไม่โกรธกับเหตุการณ์นี้ที่เกิดขึ้น และอดรนทนใจเพื่อรอหนังสือเล่มนี้ได้เข้าสู่อ้อมกอดแห่งกองหนังสือกองโตของผม
ผมเข้าสู่วังวนเดิมอีกครั้งในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา และลืมเรื่องหนังสือเล่มนั้น เพื่อบรรจงแต่งแต้มสีลงบนจอคอมพิวเตอร์ในงานของผมอีกครั้ง
2 วันต่อมา
ความหงุดหงิดจากการคุยเชิงเบาะแว้งกับลูกค้าที่ไม่สนใจกับศิลปะในงานที่เขาส่งมาให้ผมทำ พาลส่งผมเข้าสู่อวกาศที่ล่องลอยไปด้วยกลุ่มควัน กลิ่นแอลกอฮอล์ แสงสี และสาวสวย ในระยะเวลาอันสั้นนางฟ้าสาวผมสั้น ผิวขาว น่ารัก คนหนึ่งเดินมาพร้อมกลุ่มเพื่อนๆ เธอยิ้มให้ผมอย่างหอมหวาน และกระซิบข้างหูผมว่า
“พอใจ และเต็มอิ่มเสียทีนะ” เธอยิ้ม เดินหนี พร้อมมอบปริศนาไว้ให้ผมแก้
ในชั่วโมงนี้ ผมเลือกแอลกอฮอล์มากกว่าการมานั่งแก้ปัญหา ไม่สนใจกับคำพูดแปลกๆของเธอ และยังคงนั่งมองความป่วงของมนุษย์ชนต่อไป
ดึกสงัดของค่ำคืนวันอังคาร เป็นชั่วโมงที่เงียบเหงาเสียจริงในความคิดของผม รถราชืดจางหายไปจากถนนพร้อมดวงอาทิตย์ สิ่งมีชีวิตที่หลงเหลืออยู่ให้เห็นคงเป็นแค่ คนขับแท็กซี่ ตัวผม และต้นไม้ริมข้างทาง
หลังลงจากแท็กซี่ ควันบุหรี่สีขาวนวลจางๆยังคงพุ่งผ่านออกปาก ผมยืนพิงประตูห้องและอัดบุหรี่เข้าปอดให้หมดตัวก่อนเข้าไปนอน ลาจากวันอันแสนเปลี่ยวเหงาอีกวัน ก่อนหมุนตัวเดินเข้าห้อง ปลายเท้าข้างขวารู้สึกสะกิดเข้ากับถุงที่บรรจุอะไรอยู่สักอย่าง และเตะเข้าไปให้มันอยู่ใต้โต๊ะคอมพิวเตอร์ตามสันดาน
เช้าของวันรุ่งขึ้น ผมถึงกับประหลาดใจในสิ่งที่ผมได้เตะทิ้งออกไปเมื่อคืน มันคือสิ่งที่ผมเฝ้ารอมาในระยะเวลาหนึ่ง หนังสือที่ผมต้องการอยู่ในถุงกระดาษ แนบมาพร้อมจดหมาย
“อยากได้ใช่ไหมล่ะ พนักงานในร้านขายหนังสือเขาบอกหนู หนูอ่านแล้ว สนุกดี เอามาปันกันให้อ่าน ตั้งใจอ่านนะ แล้วก็อย่าเครียดเรื่องงานมากนักล่ะ เป็นห่วง .... กวาง”
ก่อนที่ผมจะอ่านข้อความบรรทัดสุดท้ายบนจดหมายจบ โทรศัพท์ตัวจ้อยแผดเสียงดังลั่น สั่นอยู่กลางเตียงนอน โชว์เบอร์ที่แปลกตา เสียงเจื้อยแจ้วลอดผ่านปลายสายระบุความต้องการ
“สวัสดีค่ะพี่ต้น นี่กวางนะ เห็นหนังสือหรือยังคะ ให้พี่ค่ะ เนื่องในวันเกิดของหนูเสาร์ที่ 11นี้ แล้วไม่ต้องถามว่าเลยว่าเอาเบอร์มาจากไหน หนูสามารถค่ะ”
“พี่มารับหนูที่มหาวิทยาลัยหน่อยนะคะ ขอบคุณค่ะ”
“เอ่อ........ได้ครับ” ความต้องการขอบคุณกับหนังสือที่ได้รับง้างปาก เปล่งเสียงออกในทันที
หลังภารกิจการขอบอกขอบใจ และส่งกวางกลับบ้าน ผมถึงเข้าใจในหลายๆสถานการณ์ที่เกิดขึ้น กวางแอบชอบผม พยายามค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับผมจึงทราบได้ว่าเราทั้งคู่ชื่นชอบการอ่านหนังสือ และรอคอยหนังสือเล่มนี้มานานสมควรพอๆกัน
ผมยังคงหนักใจในพฤติกรรมการกระทำของสาวๆสมัยนี้ ว่าเธอกล้าที่จะทำอย่างนี้ได้เช่นไร ตามเก็บข้อมูลของคนที่เราชอบ โทรหาให้มารับ มอบของขวัญ มันเป็นการกระทำของผู้ชายมิใช่หรือ มันไม่น่าจะกลายเป็นการปฏิบัติของฝ่ายหญิงได้ ถึงแม้ว่าว่าเธอเป็นสาวมั่นก็เถอะ สิ่งเหล่านี้ทำให้ผม ไม่กล้าติดต่อกับเธออีกเลย กดสายทิ้งเมื่อเห็นว่าเป็นเธอตลอด
หลายวันต่อมา
เสียงนาฬิกาข้อมือร้องบอกเวลา 23.00 น. ผมยังคงนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์คู่ชีพ ผมขลุกอยู่กับมันมาตั้งแต่เช้า ขนมปัง และขวดน้ำด้านขวามือ เหลือเพียงร่องรอยว่ามันเคยมีอยู่ ซากพวกมันในกระเพาะไม่สามารถประทังผมได้อีกต่อไป ผมจุดบุหรี่ ออกเดินมายังหน้าปากซอยเพื่อหาซื้อก๋วยเตี๋ยวร้านประจำกิน
“เล็กชิ้นสดป้า ขอพิเศษนะ.....หิว”
“จ๊ะ”
“หายไปเลยนะ ช่วงนี้”
“งานเยอะน่ะครับ”
“แล้วเพื่อนล่ะ ไปไหนแล้ว ผู้หญิงที่ผมยาว น่ารักๆน่ะ”
“ใครเหรอป้า”
“อ้าว ก็เห็นมาด้วยกันบ่อยๆ เช้าก็ออกมาพร้อมกัน เย็นก็กลับมาพร้อมกัน”
สมองผมได้ออกกำลังอีกครั้ง นอกเหนือจากการเรียกร้องครั้งล่าสุดที่ขออาหารตกลงสู่ท้อง ผมประมวลภาพที่ผ่านออกมาจากปากป้าร้านขายก๋วยเตี๋ยวทั้งหมด
ผมรู้อยู่ในใจแล้วว่า เธอคนนั้นคือใคร
ทำไมเธอต้องเดินออกมาจากบ้านพร้อมผม อากาศก็ร้อน
ทำไมเธอต้องมาแอบยืนข้างๆผม
ทำไมเธอต้องขึ้นรถเมล์ที่ไม่มีอะไรดีเลย
ทำไมเธอต้องรอเดินกลับเข้าซอยพร้อมผม
ทำไมเธอต้องมากินก๋วยเตี๋ยวร้านถูกๆอย่างนี้ และดูเหมือนจะเก้ๆกังๆเวลากินด้วย
ทำไมเธอต้องมาทำตัวลำบากด้วยทั้งที่เธอมีสิ่งที่อำนวยความสะดวกมากมาย
ทำไมเธอต้องทำอย่างนี้เกือบแทบจะทุกวัน
ทำไม ทำไมผมถึงไม่เคยสังเกตเรื่องนี้มาก่อน เธออยู่ใกล้ผมเกือบตลอดเวลาที่มีโอกาส
ทำไมนะ ทำไมผมถึงโง่แบบนี้
ผมก้มมองดูเวลาอีกครั้ง 23.30 น. ของวันเสาร์ วันนี้ใช่ไหม วันเกิดของกวาง เหลือเวลาตัดสินชะตาเพียง 30 นาทีเท่านั้นว่าความสัมพันธ์ครั้งนี้จะคงอยู่หรือมลายหายไป แต่ในความเป็นจริง ผมต้องการให้มันอยู่ และอยากให้อยู่ตลอดไป
23.40 น. ผมมาถึงหน้าบ้านของเธอแล้ว แสงไฟในบ้านสว่างสอดลอดผ่านออกมาทางหน้าต่าง
ดูเหมือนจะเงียบเหงาเสียนี่กระไร ผมคว้าโทรศัพท์ขึ้นกดหาเลขหมายของเธอ รออยู่
สักครู่จึงมีเสียงใสเสียงหนึ่งรับสายขึ้น
“ไม่มีการตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียก” วางสายและกดใหม่อีกครั้ง
23.55 น. โทรศัพท์ของกวางยังไม่มีใครรับสายเช่นเดิม
00.03 น. ผมกดโทรศัพท์อีกครั้งด้วยความเหนื่อยอ่อนในใจ และคำตอบยังเป็นอย่างเดิมอยู่
ผมทรุดตัวลงนั่งที่โคนต้นไม้ข้างทาง พลันคิดโทษตัวเองว่าทำไมถึงเฉื่อยช้า แต่แล้ว นางฟ้าของผมก็ปรากฏกายขึ้นอีกครั้ง เธอมาพร้อมกับมือที่เย็นปิดกั้นสายตาผมไว้
“พี่ต้น มาทำอะไรที่นี่ แล้วหายไปไหนมา ไม่ชอบก็บอกไม่ชอบสิ อย่าทำแบบนี้”
ผมจูงมือกวาง เดินกลับออกมาที่ร้านก๋วยเตี๋ยวร้านเดิม
“ไอ้ต้น ไปไหนมาสั่งก๋วยเตี๋ยวแล้วก็หายตัว อืดหมดแล้วเห็นไหม”
“ไม่เป็นไรป้า”
“เอาแบบนี้อีกชามนึงนะป้า”
“อ้อ...แล้วนี่กวาง ไม่ใช่เพื่อนผมหรอก”
พร้อมยกมือที่กำลังเกาะกุมมืออรอยู่ให้ป้าดู
ทั้งสามคนหน้าแดงระเรื่อ แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตนเช่นเดิม
ผลงานอื่นๆ ของ [[Dek-due]] ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ [[Dek-due]]
ความคิดเห็น