ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เรื่องคุกๆ

    ลำดับตอนที่ #29 : คนเหล็กภาคหนึ่ง

    • อัปเดตล่าสุด 5 ก.พ. 50


    คนเหล็กภาคหนึ่ง

    คนเหล็กในยุคแรกๆ ถึงแม้ว่าจะต้องทำงานหนัก แต่ก็ยังมีความใกล้เคียง กับมนุษย์อยู่บ้าง หน้าที่หลัก ของคนเหล็กเหล่านี้ คือควบคุมผู้ต้องขังไม่ให้หลบหนี โดยมีลักษณะของ ภารกิจ เป็นอักษร "D" 3 ตัว


    Dangerous :
    อันตราย (ทำงานอยู่ภายในวงล้อมของนักโทษ)


    Dirty :
    สกปรก (ทำงานคลุกคลีอยู่กับผู้ที่ถูกศาลตัดสินว่าทำผิดกฎหมาย)


    Difficult :
    ยาก (ก็เพราะวิชาคุมนักโทษ ยังไม่มีมหาวิทยาลัยไหนสอน) หน้าที่รอง ของคนเหล็ก ก็คือพยายามล้างสมองผู้ต้องขังให้กลับตัวเป็นคนดี (ภาษาราชทัณฑ์เขาเรียกว่า พัฒนาพฤตินิสัย)

     

    คนที่สมัครสอบเข้ามาทำงานอยู่ในกรมราชทัณฑ์ ถ้าอ่านเรื่องต่อไปนี้จบ อาจจะเปลี่ยนใจขอถอนตัวก็ได้ งานในเรือนจำเหมาะกับข้าราชการประเภท "คนเหล็ก" ที่ชอบงานท้าทาย รับงานหนักได้ทุกรูปแบบ ทุกสถานการณ์ ต่อไปนี้คือ งาน ที่คุณต้องทำเมื่อสมัครเข้ามาอยู่ในคุก โดยที่ ศาลไม่ได้สั่ง

     

    1.เป็นผู้คุม เรือนจำไทยมีผู้คุมน้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนผู้ต้องขัง ผู้ต้องขังจำนวน 950 คนภายในแดนที่คุณปฏิบัติงานอยู่ จำนวนผู้คุมในแดนนี้มีอยู่เพียง 8 คน !! (รวมทั้งตัวคุณด้วย) อาวุธประจำกายคุณในเรือนจำมีเพียงอย่างเดียวคือกระบองไม้ยาว 50 ..(ไม่มี เอ็ม.16 ,เสื้อเกราะ ,ปืนพก ,กระบองไฟฟ้าหรือแม้แต่สเปรย์พริกไทย ) ภารกิจของคุณกับทีมงานก็คือ คุมนักโทษ 950 คนไม่ ให้ทะเลาะวิวาท หลบหนี แหกหัก ก่อการจราจล ก่อวินาศกรรม จับคุณเป็นตัวประกัน ฯลฯ(ขอให้พระเจ้าจงคุ้มครองคุณให้อยู่รอด ปลอดภัย ......อา..เมน......)

     

    2.เป็นยามรักษาการณ์ .....เวลา 3 นาฬิกาของวันใหม่แล้ว....ฝนกำลังตกพรำๆ .... ทุกคนกำลังนอนหลับอย่างมีความสุข แต่....คนเหล็กอย่างคุณต้องทำตัวเป็นมนุษย์ค้างคาวถ่างตาปฏิบัติหน้าที่อยู่บนป้อมกำแพงเรือนจำ นักโทษหลบหนีไปได้แม้แต่คนเดียว อนาคตของคุณก็ดับวูบ พอถึงตอนเช้าออกเวรแล้ว แทนที่จะได้กลับไปนอนบ้าน ก็ต้องทำงานต่อไปตามปกติ อยู่เวรหามรุ่งหามค่ำแบบนี้ ทนได้อยู่แล้ว......คนเหล็กซะอย่าง.....

     

    3. เป็นตำรวจ...เป็นอัยการ...เป็นผู้พิพากษา... ไม่ ได้ล้อเล่นนะครับ เบื้องหลังกำแพงคุก ถ้านักโทษทำผิดระเบียบเรือนจำ คุณจะต้องทำหน้าที่ตรวจค้นและจับกุมแทนตำรวจ สอบสวนแทนอัยการ เสร็จแล้วก็รับบทผู้พิพากษาตัดสินลงโทษทางวินัย เช่น ขังเดี่ยว ตัดชั้น ตัดการเยี่ยมญาติ ฯลฯ และถ้านักโทษหลบหนี คุณก็มีสิทธ์พกพาอาวุธออกไปไล่ล่าแบบในหนังเรื่อง The fugitive ได้ สรุปแล้วคุณต้องทำงานกระบวนการยุติธรรมครบวงจร (ตำรวจ อัยการ ศาล ราชทัณฑ์)แต่....รับเงินเดือนราชทัณฑ์อย่างเดียว

     

    4. เป็นเจ้าของอพาร์ทเมนต์ขนาดยักษ์ ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่มีลูกค้านะครับ... ตำรวจเขาจะหามาส่งให้ทุกวัน ถ้าคุณบริหารอพาร์ทเมนต์ระดับอำเภอ คุณจะมีลูกค้าราว 1000 - 2000 คน แต่ถ้าเป็นระดับเรือนจำกลาง ลูกค้าจะเพิ่มเป็น 4000 - 7000 คน ปัญหาก็คือ ลูกค้าทุกคนพร้อมใจกันชักดาบค่าเช่า โดยถือคติว่า " ไม่มี.....ไม่หนี (ถ้าไม่เผลอ)....และไม่จ่าย..... " หน้าที่ของคนเหล็กได้แก่การดูแลลูกค้าเหล่านี้ ให้มีความเป็นอยู่ตามข้อกำหนดขั้นต่ำขององค์การสหประชาชาติ เช่น น้ำ-ไฟ พร้อม , อาหาร 3 มื้อฟรี ทุกวัน , เสื้อผ้า(ชุดผู้ต้องขัง) ฟรี , เรียนหนังสือ ฟรี , ฝึกวิชาชีพ ฟรี.....ฯลฯ ทั้งหมดนี้ ต้องทำให้ดีนะครับ ถ้าทำได้ไม่ดี ก็มีสิทธิ์ถูกองค์กรสิทธิมนุษยชนทั้งหลายจวกเอา หาว่าไร้มนุษยธรรม บริหารโรงแรมง่ายกว่าบริหารเรือนจำหลายเท่าตัวครับ.....สาบานได้

     

    5. เป็นนักกฎหมาย ถ้าเจอนักโทษหัวหมอ...คนเหล็กอย่างคุณก็ต้องหัวหมอเป็น 2 เท่า ไม่งั้นจะตามผู้ต้องขังไม่ทัน งานในเรือนจำ ไม่ว่าจะเป็นงานกักขัง จำคุก ประหารชีวิต ฝึกวิชาชีพ พักการลงโทษ ฯลฯ ล้วนแล้วแต่มีกฎ ระเบียบ ข้อบังคับและพระราชบัญญัติหลายฉบับมาเกี่ยวข้องด้วยเสมอ ถ้าทำงานโดยไม่แม่นในตัวบทกฎหมาย ก็อาจถูกผู้ต้องขังฟ้องร้องเอา วันดีคืนดี กรมราชทัณฑ์ก็สั่งให้บรรดาคนเหล็กช่วยสอนกฎหมายให้ผู้ต้องขังด้วย ถ้าไม่เรียนรู้ จะมีปัญญาไปสอนเหรอครับ เพราะฉะนั้น .... ถ้ารักจะทำงานในเรือนจำ ก็ต้องขยัน Update ความรู้ด้านกฎหมายบ่อยๆ

     

    6. เป็นครู คนเหล็กในคุกทุกวันนี้ มือข้างหนึ่งถือกุญแจอีกข้างหนึ่งก็ถือชอล์ก หมายความว่า ในขณะที่คุมนักโทษ ก็ต้องสอนนักโทษด้วย สอนตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันเรือรบ กระทรวงศึกษาฯเขามีหลักสูตรอะไรดีๆ คนเหล็กอย่างพวกเราก็แอบก๊อปปี้มาหมด แล้วก็ก้มหน้าก้มตาสอนไปด้วยความทรหดอดทน วิชาก็มีทั้ง สายสามัญ สายวิชาชีพ เช่น คอมพิวเตอร์ ซ่อมรถยนต์ ดนตรี นวด(แบบไม่อาศัยอ่าง) ร้องเพลง เย็บเสื้อผ้า วิชาลูกเสือ เนตรนารี ฯลฯ การทำงานเป็นครูโรงเรียนลาดยาววิทยา หรือ บางขวางศึกษา นี่มันเหนื่อยจริงๆ นักเรียนโรงเรียนอื่นๆ เขาต้องแย่งกันสมัครสอบเข้า จ่ายค่าเทอมแพงเท่าไหร่ผู้ปกครองก็สนับสนุน อุปกรณ์การเรียนการสอนจึงมีเพียบ แต่โรงเรียนในคุกต้องสอนให้ฟรีๆ ไม่มีแป๊ะเจี๊ยะ อุปกรณ์ต่างๆก็อนาถาสุดๆ นักเรียนบางคนก็ไม่ค่อยตั้งใจเรียน (เพราะตำรวจเขาบังคับให้มา) แต่ก็มีนักโทษไม่น้อยนะครับที่กัดฟันเรียนจนจบปริญญา(มสธ.)ในคุก พูดแล้วจะหาว่าคุย... อ้อ...ลืมบอกไป... นักเรียนในคุกเขาไม่นิยมยกพวกตีกันนะครับ เห็นฝีมือของครูหรือยัง....

     

    7. เป็นพ่อครัว ลองหลับตานึกถึงภาพที่คุณจะต้องตื่นตั้งแต่ตี 4 ทุกวัน เพื่อหุงหาอาหารให้ผู้ต้องขังกินโดยมีงบประมาณค่าอาหารเพียง 10.30 บาท ต่อมื้อ ต่อคนเท่านั้น และต้องหุงข้าวแบบนี้วันละ 3 รอบ นึกไม่ถึงใช่ไหมครับ ที่อุตส่าห์สอบเข้ารับราชการแทบตาย แต่แล้วก็ต้องมารับหน้าที่หุงอาหารให้นักโทษหลายร้อยหลายพันคนกิน บอกแล้ว...ว่าคนเหล็กในคุกต้องรับงานได้ทุกอย่าง จึงจะเป็นผู้บริหารเรือนจำที่รอบรู้ได้ในอนาคต ภารกิจของคุณในขณะนี้ก็คือทำหน้าที่พ่อครัวใหญ่และโภชนากรจำเป็น(ทั้งๆที่ไม่เคยร่ำเรียนมาก่อน) อยู่ในโรงครัวหรือที่เรียกว่า " แดนสูทกรรม " โดยมีนักโทษกลุ่มหนึ่งเป็นลูกมือในการ หั่นผัก สับหมู ฯลฯ บรรยากาศในโรงครัวนั้นค่อนข้างสยอง ไม่ใช่เพราะกลิ่นคาวอาหารดิบพวกเนื้อสัตว์ แต่เป็นเพราะนักโทษที่อยู่รอบๆตัวคุณ มีอาวุธอยู่ในมือแทบทุกคน ไม่ว่าจะเป็นมีดหั่นผัก หรือปังตอสับหมู เพราะฉะนั้น คุณจะต้องมีจิตวิทยาในการปกครองระดับเกียรตินิยม จึงจะสามารถครองใจนักโทษกลุ่มนี้ได้ไม่งั้นก็มีสิทธิ์ถูกฟันหัวแบะ......ต่อให้เป็นคนเหล็กก็เถอะ......

     

    8. เป็นนักบัญชี เรือนจำมีงานการเงินและบัญชีหลายด้าน เช่น งานบัญชีร้านค้า บัญชีเงินทุนฝึกวิชาชีพ บัญชีเงินฝากผู้ต้องขังฯลฯ คนเหล็กส่วนใหญ่ ไม่จำเป็นต้องจบมาทางบัญชีก็สามารถทำงานด้านนี้ได้ โดยอาศัยการฝึกอบรมระยะสั้นๆจากสถาบันพัฒนาข้าราชการราชทัณฑ์ และทำงานภายใต้คำแนะนำของหน่วยตรวจสอบภายใน , ผู้ตรวจราชการกรมฯ และสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน งานพวกนี้เป็นงานคอขาดบาดตาย ถ้าคุณหรือทีมงานทำงานพลาดหรือตุกติก คุณก็อาจจะจบเห่ .....มีหวังถูกเปลี่ยนสถานภาพจากผู้คุมกลายเป็นนักโทษได้ เพราะฉะนั้น ขอให้ตั้งใจปฏิบัติงานด้วยความละเอียดรอบคอบ โดยมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นเกราะกำบัง

    9. คุมวินรถขนส่งนักโทษ รถขนส่งผู้ต้องขังมีทั้งรถตู้ รถบรรทุก รถบัสขนาดใหญ่ซึ่งใช้สำหรับกิจการหลายอย่าง เช่น พาผู้ต้องขังไปส่งโรงพยาบาล ย้ายผู้ต้องขังกลับภูมิลำเนาเดิมตามคำร้องขอ ขนย้ายระบายผู้ต้องขังระหว่างเรือนจำ และที่เป็นภาระมากที่สุดก็คือส่งผู้ต้องขังไป-กลับระหว่างศาลกับเรือนจำ งานนี้ทำให้คุณต้องกลายเป็นเจ้าของอู่ซ่อมรถยนต์ไปโดยปริยาย เพราะต้องรับผิดชอบดูแลรถทุกคันให้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุด ลองนึกภาพรถบัสขนผู้ต้องขังเต็มคันรถ แล้วไปจอดเสียอยู่บนถนนที่การจราจรกำลังติดขัด ทีนี้.... คุณกับผู้ต้องขังก็ต้องนั่งจ้องตากันปริบๆ ว่าจะเอายังไงดี.....และถ้าเป็นงานขนส่งผู้ต้องขังออกไปทำงานสาธารณะ คุณก็จะต้องเหนื่อยมากขึ้นเป็น 2 เท่า เพราะต้องคุมผู้ต้องขังให้ทำงาน และยังต้องระวังไม่ให้หลบหนีอีก งานนี้...น่าปวดหัว.....

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×