ไม่ว่าชาวจีนจะไปอยู่ที่ไหน สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยทิ้งไป นั่นก็คือวิถีชีวิตแบบจีน ที่แสดงออกมาทั้งด้านการแต่งกาย อาหารการกิน และประเพณีต่างๆ นอกจากนั้นยังมีความรักพวกพ้อง จนย่านที่ชาวจีนอาศัยอยู่ร่วมกันนั้น ได้รับการขนานนามว่า ไชน่าทาวน์ หรือที่ภาษาจีนเรียกว่า “ถังเหรินเจีย” (唐人街)
     
      การอพยพออกนอกประเทศจีนของชาวแผ่นดินใหญ่ เริ่มต้นตั้งแต่ยุคจิ๋นซีฮ่องเต้แล้ว โดยเป็นการหนีความแร้นแค้นและความโหดเหี้ยมของปฐมกษัตริย์พระองค์นี้ เรื่อยมาจนถึงปี 1855 เกิดคลื่นการอพยพครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของจีน เมื่อจีนต้องทำสนธิสัญญาหนันจิงกับอังกฤษ อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากการแพ้สงครามฝิ่น ทำให้จีนต้องสูญเสียสิทธิสภาพนอกอาณาเขต เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย นำพาให้เหล่าลูกหลานมังกรจำยอมหนีออกจากแผ่นดินใหญ่ ซึ่งส่วนใหญ่อาศัยการรอนแรมบนเรือสำเภาทะเล ไปขึ้นฝั่งตามส่วนต่างๆของโลก และเกิดเป็นย่านชุมชนของชาวจีนขึ้น
     
      เหตุใดชุมชนชาวจีนจึงได้ชื่อว่า ถังเหรินเจีย ที่แปลตรงตัวว่า ถนนของคนถัง ? นั่นก็เพราะในสมัยราชวงศ์ถัง (ค.ศ. 618 -907) ได้ส่งเสริมให้พ่อค้าจากประเทศต่างๆ เข้ามาค้าขายในแผ่นดินจีน โดยห้ามเก็บภาษีเพิ่ม พ่อค้าต่างชาติจำนวนมากมายจึงหลั่งไหลเข้าสู่เมืองฉางอัน ลั่วหยัง หยังโจว กว่างโจว และเมืองอื่นๆ ที่มีความเจริญทางเศรษฐกิจ
     
      นอกจากนั้น ราชสำนักจีนยังอนุญาตให้พ่อค้าเหล่านี้พำนักอยู่ในเมืองจีนได้ถาวร และแต่งงานกับชาวจีนได้ แม้กระทั่งรับราชการด้วย ซึ่งทำให้ราชวงศ์ถังมีชื่อเสียงเลื่องลือไกลไปทั่วโลก จนชาวต่างชาติทั่วไปเรียกชาวจีนว่า \"ถังเหริน(唐人)\" ซึ่งแปลว่า ชาวถัง ต่อมาจึงหมายรวมถึง แหล่งชุมชนชาวจีนในต่างประเทศที่มีอยู่ในทั่วโลกว่า \"ถังเหรินเจีย (街 ถนน )\" หรือ ถนนของชาวถังนั่นเอง
     
      ไชน่าทาวน์ส่วนใหญ่ ในยามกลางวันจะเหมือนตลาดทั่วไปที่มีสินค้าเกี่ยวกับจีน เช่นเสื้อผ้า ซีดีเพลง-หนังจีน แต่ในยามราตรี ถนนแห่งนี้จะประดับดาด้วยไฟหลากสี อีกทั้งมีแหล่งกิจกรรม มากมาย เช่น สถานบันเทิง ร้านอาหาร การแสดงต่างๆแบบจีน ฯลฯ ซึ่งดึงดูดให้บรรดาผู้คนได้หลั่งไหลกันเข้ามาร่วมกิจกรรมอย่างไม่ขาดสาย ด้วยเหตุนี้ ไชน่าทาวน์จึงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในเมืองใหญ่ๆของโลก
 
      “ไชน่าทาวน์” ที่ NYC (นิวยอร์ก ซิตี้)
      เป็นย่านชุมชนชาวจีนที่ใหญ่ที่สุดในซีกโลกตะวันตก โดยตั้งอยู่บนถนน Mott, Mulberry, Canal, Bowery, Lafayette นับว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว มีทั้งร้านอาหารกว่าร้อยแห่งเช่น A & B Lobster King House, ร้าน Wo Hop ทั้งยังมีผักผลไม้สด และขนมจากเมืองจีนสารพัดชนิด หรือจะเป็นเครื่องดื่มที่มีชื่อเสียงของจีน เช่น ชา ที่มีจำหน่ายอยู่ทั่วไป อย่างร้าน Green Tea Cafe, Mei Lai Wah Coffee Tea House ฯลฯ นอกจากนี้ ยังมีวัดจีนที่เลื่องชื่อตั้งอยู่บนถนนมอทท์ Mott Street ซึ่งเป็นที่กล่าวขวัญของเหล่านักท่องเที่ยวจำนวนมาก
 
      “ไชน่าทาวน์” ที่ซานฟรานซิสโก
      ตั้งอยู่บนถนน Grant, Washington, Jackson, Pine, Sacramento, Clay Stockton, Commercialเป็นศูนย์รวมชาวจีนที่มีสีสันและมีชีวิตชีวามากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก รายล้อมด้วยมนต์เสน่ห์แห่งศิลปวัฒนธรรมแบบจีน ไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับประวัติศาสตร์จีน ร้านสมุนไพรจีน วัดจีน และร้านอาหารเลื่องชื่อหลายแห่ง เช่น R&G restaurant, Lichee Garden, Hunan Home’s นอกจากนี้ยังมี Bank of Canton สถานที่ให้บริการโทรศัพท์ของคนจีนในสมัยก่อน แต่ภายหลังได้ถูกธนาคารแคนตันซื้อไป หรือ ตึก Sing Chong ตึกจีนแห่งแรกที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่หลังจากเกิดแผ่นดินไหวที่ซานฟรานซิสโก เมื่อปี ค.ศ.1906
      “โซโห” ไชน่าทาวน์แห่งลอนดอน
      ย่านที่เต็มไปด้วยสีสันในยามค่ำคืน โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์อย่างคืนวันศุกร์และเสาร์ ผู้คนที่เหนื่อยล้าจากการทำงานก็จะมานั่งพักผ่อนกันที่นี่ ซึ่งมีทั้งบาร์ ร้านกาแฟ และร้านอาหารมากมายที่พร้อมให้บริการอย่างถูกใจ โดยเฉพาะอาหารจีนอร่อยๆ ที่ Leicester Square นอกจากนี้ยังมีสินค้าราคาถูก ที่นักท่องเที่ยวสามารถจับจ่ายใช้สอยด้วยความเพลิดเพลิน
      “ไชน่าทาวน์”ที่ซิดนีย์
      ไชน่าทาวน์ที่ซิดนีย์ แดนจิงโจ้ แยกเป็นถนนเล็กๆ หลายสาย แต่ละถนนเต็มไปด้วยร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึก ที่แข่งกันประดับประดาและตกแต่งร้านอย่างสวยงาม โดยเฉพาะถนนดิกซอน (Dixon) ที่ขายข้าวของเครื่องใช้และสินค้าจีนต่างๆ รวมไปถึงของว่างอย่าง “ติ่มซำ” หนึ่งในอาหารขึ้นชื่อแดนมังกร ไปจนถึงสินค้าปลอดภาษี (Duty Free) จากฮ่องกง เป็นย่านที่คึกคักและหอมหวนไปด้วยกลิ่นอาหารตลอดแนวถนน
      “ไชน่าทาวน์”ที่สิงคโปร์
      ลัดฟ้ามายังประเทศใกล้บ้านอย่างสิงคโปร์บ้าง ย่านไชน่าทาวน์แดนลอดช่อง มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย อาทิ วัด Tian Hock Keng ตลาดสินค้านานาชนิดอย่างที่ Chinatown Complex หรือ Maxwell Market สวนสาธารณะที่ Hong Lim Green หรือ ร้านรองเท้า และร้านอาหารอร่อยๆ ที่สามารถมองหาได้ทั่วไป
     
      นอกจากนี้ ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ย่านไชน่าทาวน์ที่สิงคโปร์ จะมีการตกแต่งและประดับประดาด้วยแสงไฟอย่างวิจิตรตระการตาตลอดทั้งถนนนิวบริดจ์ และถนนอู ทอง เส็งบนถนนแคบๆ ระหว่างร้านขายของยังจะเต็มไปด้วยนักเชิดสิงโต พอตกกลางคืนฝูงคนค่อยๆ เริ่มเบียดเสียดเพื่อมาร่วมฉลองเทศกาลขึ้นปีใหม่แบบจีนอย่างคึกคัก
      “ไชน่าทาวน์” ที่เยาวราช
      เยาวราช ถือกำเนิดในเมืองไทยมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 คือในปี พ.ศ.2470 นับเป็นย่านชุมชนชาวจีนที่ใหญ่สุดในเมืองไทย ทั้งยังเป็นย่านธุรกิจการค้าที่สำคัญแห่งแรก และเป็นพื้นที่แรกของกรุงเทพฯ ที่ได้รับการอนุญาตให้สร้างตึกสูง 6 - 9 ชั้น ซึ่งความสำคัญเชิงธุรกิจของเยาวราชก็ยังคงดำเนินมาจนถึงทุกวันนี้
     
      ไม่เพียงแต่จะโดดเด่นในด้านเศรษฐกิจแล้ว ณ ที่แห่งนี้ยังเป็นศูนย์รวมความบันเทิงทั้งในอดีตและปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นโรงภาพยนตร์ ภัตตาคาร กระทั่งไนต์คลับ บ่อนการพนันและโรงน้ำชา ซึ่งปัจจุบันเยาวราชยังได้ชื่อว่าเป็น ‘ถนนสายอาหาร’ ที่โด่งดังยามค่ำคืน ไม่ว่าจะเป็นข้าวแกงรสเด็ด บะหมี่รถเข็น ไปจนถึงอาหารทะเล หูฉลาม หรือของหวานอย่างแปะก๊วยและรังนก ที่สามารถเห็นดาษดื่นริมสองทางเดินของถนน ดึงดูดให้นักชิมทั้งหลายมาลิ้มรส
     
      เรียบเรียงจาก
      ซีอาร์ไอ ออนไลน์,ไชน่าทาวน์ออนไลน์,เอ็นวายซี วิสิท เน็ต,ดิสโคเวอร์ ซิดนีย์ ออนไลน์,อาร์จีเอส ดอทอีดียู ดอทเอสจี เน็ต, สตรีทเซ็นเซชั่น เน็ต
http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9480000062541
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น