ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เรียนต่อนอก

    ลำดับตอนที่ #2 : จับเข่าคุยกับ Greg - Insight Education Consulting

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 572
      0
      17 ก.พ. 50

    จับเข่าคุยกับ Greg - Insight Education Consulting
    โดย ปิงปอง


          สวัสดีครับ วันนี้ผมจะพาคุณไปพบกับคุณ Greg O'Neil  ชาวออสเตรเลียผู้ที่มีความศรัทธาในอาชีพครู และได้นำความรู้ความสามารถและประสบการณ์ด้านการแนะแนวการศึกษามาให้บริการนักเรียนไทยผู้ต้องการศึกษาต่อในต่างประเทศในฐานะผู้บริหารของ Insight Education Consulting  สถานแนะแนวการศึกษาต่อในประเทศออสเตรเลียโดยเฉพาะ

            คุณเกร็กเชื้อเชิญให้ผมนั่งและทักทายผมด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่น และกล่าวอย่างเป็นกันเองว่า ผมจะถามอะไรก็ได้ เขายินดีตอบทุกอย่าง.. เหมือนกับจะรู้ใจกัน ... มาสิครับ มาทำความรู้จักกับ Insight และคุณเกร็ก ผมเชื่อว่า ท่านผู้อ่านคงจะได้แนวคิดและสิ่งที่เป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะท่านที่สนใจการศึกษาต่อต่างประเทศ ซึ่งในปัจจุบันทุกคนตระหนักแล้วว่า การศึกษาเป็นการลงทุนที่สำคัญอย่างหนึ่งของชีวิตมนุษย์ ...อยู่ที่ว่าใครจะสามารถทำให้การลงทุนนี้คุ้มค่ามากที่สุดได้อย่างไรแก่ตัวเขาในอนาคต...ซึ่งคุณเกร็กในฐานะครูแนะแนวได้ให้ความคิดที่ดีไว้หลายประการครับ

    คุณบอกว่า Insight จะโฟกัสเฉพาะสถาบันในประเทศออสเตรเลียเท่านั้น เช่นเดียวกับ ไอดีพี ซึ่งรู้กันว่าเป็นเอเย่นต์รายใหญ่ ก็โฟกัสออสเตรเลียเหมือนกัน แล้วคุณกับไอดีพีจะมีอะไรแตกต่าง

    ผมคิดว่าความแกร่งของเรา คือ เราเล็กพอและสามารถให้บริการกับลูกค้าแต่ละคนได้อย่างทั่วถึง เมื่อเด็กเดินเข้ามาเจอที่ปรึกษาคนเดิม ก็อุ่นใจ เราก็ให้บริการที่ดีได้  ผมไม่ได้อยากจะวิจารณ์ไอดีพี เพราะว่าเขาก็สามารถทำได้ดีในแบบของเขาเช่นกัน แต่สิ่งที่ Insight ทำไม่ใช่เพียงแค่จัดการส่งเด็กไปออสเตรเลียก็จบแล้วจบกัน แต่เราให้บริการจนกระทั่งเด็กจบกลับมาแล้วถึงเมืองไทยต่างหาก

    คุณทำอย่างนั้นได้ยังไง

         เราจะอยู่กับเด็กตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเด็กมีปัญหากับโฮมสเตย์ มีปัญหากับโรงเรียนสอนภาษา สิ่งที่เด็กจะต้องทำก็คือติดต่ออยู่กับเราตลอดเวลา เรามีออฟฟิศที่ซิดนีย์ และเราจะพยายามแก้ปัญหาให้เด็กมากที่สุดที่เราจะทำได้ และเรามีสัมพันธ์ที่ดีกับคนในกลุ่มธุรกิจการศึกษา ทีมงานของเราพูดคุยกับนักเรียนตลอด อย่างเด็กสอบภาษาระดับเดิมไม่ผ่าน ก็โทรคุยกันว่าเออ ตกลงมันเป็นเพราะอะไร มาแก้ปัญหาด้วยกัน และเราก็ยังมีบริการ Online editing ด้วย หลายหนที่เวลาเขียน essay ส่งอาจารย์ที่นั่น นักเรียนไม่มีใครช่วยตรวจงานให้ก่อนส่งอาจารย์ เราก็จะดูแลตรงนี้ได้ 

         ทุกวันนี้ผมภูมิใจในสิ่งที่เราทำ ตอนนี้ก็คืออนาคตของคนๆ หนึ่ง  ไม่เหมือนรถนะครับ รถไม่ดี ก็เปลี่ยนคันก็ได้ ถ้าเด็กเลือกคอร์สผิด มันไม่ใช่แค่เปลี่ยนคอร์สก็จบ แต่มันต้องอาศัยเวลา และถ้าเราทำอะไรไม่ดีออกไปก็ "กรรมสนอง" แน่นอน  (Greg ถามผมว่ากรรมสนองแปลว่า Bad Karma ใช่ไหม? แสดงว่าเรียนภาษาไทยมาไม่น้อยทีเดียว)

        ดังนั้นก่อนที่นักเรียนคนหนึ่งจะไป ผมจะถามว่าต้องการจบกลับมาทำอะไร และช่วยให้คำปรึกษาว่าคอร์สนี้จะเหมาะกับเขาแค่ไหน  ช่วยกันหาว่าต้องการแบบไหน เมืองไหน ไปตรงนี้คนไทยเยอะ ตรงนี้คนไทยน้อย ตรงนี้หนาวหน่อย ตรงนั้นร้อนหน่อย ถามกันได้หมด หาโปรไฟล์มาแมชกับที่ๆ ดีที่สุด

    มีช่วยทำการบ้านด้วยหรือ? มีนักเรียนกี่คนขอให้คุณทำ

          เป็นคำถามที่ดีครับ เพราะผมก็แปลกใจเหมือนกันว่าทำไมนักเรียนไม่ขอให้ผมทำทั้งที่มันฟรีนะ แต่ผมทำให้นะครับ โอ้ ขอบคุณนะครับที่เตือนผมว่าผมต้อง Edit งานให้อีกหลายคนให้เสร็จก่อนช่วงบ่ายนี้ (ว่าแล้ว Greg ก็หันไปเปิดดู Outlook บนหน้าจอว่ามีอีเมล์มาหาเขากี่ฉบับ)

         ตอนนี้ก็ 6-8 คนต่อสัปดาห์ครับ อีเมล์มาให้ผมดูให้ว่าทำยังไงดี ผมก็ทำแล้วแก้กลับไปให้ บางคนก็เรียนภาษาอยู่ บางคนก็เรียนมหาวิทยาลัยแล้ว ผมก็เอามาดูให้แน่ใจว่าใจความได้แน่นะ อ่านเข้าใจและดีพอแล้วนะ ถึงส่งกลับไป โอเค ผมอาจจะไม่สามารถ  rewrite ให้ได้ เพราะบางทีนักเรียนวิศวะส่งมา ผมไม่ได้เรียนวิศวะ แต่ผมจะทำให้มันเข้าใจได้ง่าย และหลักๆ คือดูแกรมม่า ครับ ให้พร้อมที่จะส่งอาจารย์

    ทำไมจึงคิดทำแต่ประเทศออสเตรเลีย ทำหลายๆ ประเทศก็ทำรายได้มากกว่านี้ไม่ใช่หรือ

          ถ้าเราขยายไปมากกว่านี้ก็ได้ แต่ในมุมมองของผมแล้ว ธุรกิจนี้มันคืองานบริการ สิ่งที่เราพยายามจะทำให้ได้มากที่สุดก็คือการบริการที่ดีที่สุด นั่นหมายความว่าเราต้องให้คำแนะนำที่เชื่อถือได้ และเหมาะสมกับนักเรียนคนนั้นๆ มากที่สุด และการที่จะทำอย่างนั้นได้คุณจะต้องรู้จักตลาดของคุณอย่างดีที่สุด

         ทีมงานของเราทุกคนจบมาจากออสเตรเลีย เพราะฉะนั้นสตาฟของเราจะรู้จักระบบการเรียนการสอนและการใช้ชีวิตในออสเตรเลียอย่างลึกซึ้ง เพราะสัมผัสชีวิตมาด้วยตัวเอง ถ้าเราพยายามขยายตลาดยังกับ Tesco Lotus ไปหลายๆ ประเทศ ผมไม่คิดว่าเราจะสามารถให้บริการที่ดีได้ นี่เป็นเหตุผลที่ว่าเราอยากที่จะยืนอยู่ตรงนี้ วางจุดยืนตัวเองไว้ที่การเป็นบริษัทขนาดกลาง

         ตอนนี้เรามีทีมงานทั้งหมดแค่ 7 คน แต่ผมเชื่อว่าถ้าคุณใหญ่เกินไป คุณก็ไม่สามารถที่จะให้บริการได้อย่างทั่วถึง และดีพอ เราอยากจะบอกกับทุกคนได้ว่า เราจำได้ว่าทุกคนที่เดินผ่านเข้ามาที่ Insight ใครเป็นใคร จะไปเรียนที่ไหนยังไง นักเรียนเดินเข้ามา ก็ได้คุยกับ counselor คนเดิมทุกครั้ง ทำให้การทำงานเป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง สตาฟเราจะจำรายละเอียดเกี่ยวกับลูกค้าได้ดี ซึ่งผมว่ามันสำคัญมากในการไม่ก้าวไปสู่ธุรกิจที่ใหญ่กว่านี้

    คนไทยส่วนใหญ่ บอกว่าโห ออสเตรเลีย คนไทยเพียบเลย ไม่ไปดีกว่า คุณคิดว่าไง คุณคิดว่านี่คือปัญหาหรือเปล่า

       ผมมีสองอย่างที่จะบอกคุณและทุกๆ คน อย่างแรกเลย มีนักเรียนไทยไปเรียนออสเตรเลียเยอะจริงๆ ครับ แต่หลายคนอยู่แต่ในเมืองซิดนีย์กับเมลเบิร์นซึ่งเป็นเมืองใหญ่ และไปเรียนในคอร์สคล้ายๆ กัน 75-80 % ไปเรียนบริหารธุรกิจ จากนั้นก็เป็นการท่องเที่ยว ไอที นิเทศศาสตร์  วิศวกรรมศาสตร์ ถ้าคุณไปเมืองอื่น อย่างบริสเบน เพิร์ธ ซึ่งหาคนไทยยากหน่อย ผมว่ามันจะส่งเสริมให้เด็กมี 'Independent minded' มีเพื่อนต่างชาติเยอะๆ แต่ถ้าอยู่กับคนไทยมันก็เท่านั้นเอง อยู่เมืองไทยอยากเจอเท่าไหร่ก็เจอได้

        ผมพยายามจะบอกให้เด็กไปเรียนเมืองอื่นๆ บรินเบน เพิร์ธ แคนเบอร์ร่า อะดิเลท แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือ มีนักเรียนบางคนเดินเข้ามาบอกว่าอยากไปที่ๆ ไม่มีคนไทยเลย ผมก็เลยส่งไปเมืองที่แทบจะไม่มีคนไทยอยู่แล้ว ส่งไปได้ 3-4 วันก็โทรมาล่ะ ถามผมว่าทำไมไม่มีนักเรียนไทยอยู่เลย เหงามาก ฉันไม่ชอบที่นี่เลย .....

        ผมเข้าใจนะ เพราะตอนคุณอยู่เมืองไทยก็จะคิดว่าอยากไปหาอะไรใหม่ๆ ที่มันแตกต่าง อยากไปได้อะไรที่นั่น แต่พอไปที่นั่นบางทีเจอสถานการณ์จริงๆ ก็รู้สึกคิดเมืองไทย อาหารไทย สิ่งที่เราเคยเป็นอยู่แบบเดิมๆ รับไม่ได้ ผมว่าจริงๆ น่าจะบาลานซ์กันนะ เอาให้มันพอดีๆ คือมีเพื่อนคนไทยบ้าง แต่ก็อย่าลืมคบเพื่อนฝรั่งและเพื่อนชาติอื่นเยอะๆ 

        คือว่าการไปเรียนเมืองนอกมันไม่ใช่แค่ไปเรียนๆ แล้วจบมา การเรียนเป็นแค่ส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่ง แต่สิ่งสำคัญที่คุณจะได้มาก็คือความคิด ทัศนคติในเรี่องของความเป็นอิสระทางความคิด เรียนรู้ที่จะพูดคุยกับคนที่มาจากวัฒนธรรมที่ต่างกัน ไม่ใช่แค่ได้ภาษาแต่ได้ในเรื่องการยอมรับวัฒนธรรมที่แตกต่าง และสิ่งเหล่านี้นี่แหละที่จะทำให้เกิดการพัฒนาทางความคิด

        นี่คือเหตุผลที่คุณจะเห็นว่าพอนักเรียนที่จบจากต่างประเทศกลับมา บางทีเปลี่ยนไปเป็นคนละคน  ตอนไปก็ดูเด็กๆ กลับมาเป็นผู้ใหญ่เลย เพราะเราได้ไปเห็นอะไรใหม่ๆ และแตกต่างมา  แต่ถ้าไปอยู่ที่นั่นเที่ยวเล่นกับเพื่อนคนไทย ดูหนังไทย ผมถามหน่อยแล้วคุณจะได้อะไรจากการไปเรียนที่นั่น

        ผมรู้สึกดีกับสิ่งที่ทำอยู่ อย่างช่วงต้นปีที่ผ่านมานี่เองมีนักเรียนที่เราส่งไป 9-10 ได้ กลับมาจากออสเตรเลีย เดินมาหาผมที่ Insight ผมมองลอดกระจกไป เอ ใครน่ะ คุ้นๆ หน้านะ แต่ผมไม่ค่อยแน่ใจ เอ๋ หรือเปล่า ก่อนไปคุณยังดูเด็กอยู่เลย ตอนนี้ดูโตขึ้นเยอะนะ มั่นใจ เขาก็บอกว่าจบโทกลับมาแล้ว คุณรู้ไหม ผมประทับใจมาก มันทำให้ผมและทีมงานชื่นใจน่ะ

    ผมอ่านพบในเว็บไซต์เห็นว่า Insight  แต่เดิมใช้ชื่อว่า "SOS" ได้ตั้งมากว่า 12 ปีแล้ว

             มากกว่านั้นหน่อยนึง เกือบๆ 13 ปี  ในส่วน 6 ปีหลังนี้เราอยู่ในเมืองไทย

    คุณช่วยเล่าที่มาที่ไปของ Insight ไปยังไงมายังไงถึงอยู่มาได้อย่างทุกวันนี้

               Insight ตั้งขึ้นครั้งแรกที่ซิดนีย์ปี 1991 คุณจิ๋ม (มณฑกานต์ โอนีล ผู้ก่อตั้งและภรรยาของเขา) เป็นก่อตั้งครับ ตอนแรกๆ มันเริ่มมาจากญาติๆ ของจิ๋มในเมืองไทยอยากจะไปเรียนที่ออสเตรเลีย จิ๋มเองก็อยู่ออสเตรเลียมานานแล้ว เรียกได้ว่าเติบโตในออสเตรเลียเลย ญาติๆ ก็เลยคิดว่า เออ มีอะไรก็ถามจิ๋มดีกว่า

                คุณจิ๋มก็วิ่งไปหาข้อมูลมาให้แบบละเอียดยิบเลยว่าคอร์สไหนเป็นยังไง จนเขามาบอกผมว่าเขาสนุกกับสิ่งที่ทำ จนกระทั่งใครๆ ที่อยากไปเรียนออสเตรเลียก็ต้องไปถามจิ๋มก่อน ก็เลยคิดว่านี่มันเป็นโอกาสทางธุรกิจได้ จึงได้กลายมาเป็นเอเย่นต์นักเรียนไทยในซิดนีย์   ซึ่งก่อตั้งมาได้ 12 ปีกว่าแล้ว

    แล้วคุณเข้ามาร่วมงานเอเย่นต์นักเรียนกับคุณจิ๋มได้ยังไง?

              ผมเป็นคนร่วมสร้าง Insight ครับ   จริงๆ เมื่อก่อนผมเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ จิ๋มเองเค้าก็ยุ่งมากจนกระทั่งวันหนึ่งจิ๋มก็มาขอให้ผมไปช่วยงาน ยังจำได้เลยว่าตอนอยู่ที่ซิดนีย์เราสองคนยุ่งมากๆ แต่หลังจากนั้นมันก็มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น คือหลังจากเราได้บินกลับมาสัมมนาที่กรุงเทพฯ เกี่ยวกับการศึกษาประมาณ 2-3 ครั้งต่อปี เราเริ่มเรียนรู้และซึมซับความเป็นไทยไปเรื่อยๆ จนปี 1997 อย่างที่คุณก็รู้... ทุกอย่างก็แย่ลงตอนวิกฤตเศรษฐกิจ และในตอนนั้นเราคิดว่า ไม่เป็นไร...เราน่าจะย้ายกลับมาเมืองไทย และมาเริ่มต้นทำธุรกิจกันใหม่อีกครั้ง

    ทำไมอยากกลับมาเมืองไทยล่ะ เพราะจะว่าไปเมืองไทยนี่เป็นที่มาของวิกฤตเศรษฐกิจชัดๆ เลย งานและเงินก็ไม่ได้หาง่ายๆ

         คุณคงจะเคยได้ยินว่าโอกาสในการเปิดธุรกิจก็คือช่วงที่ทุกคนกำลัง Down อยู่ เราก็อาศัยวิกฤตินั้นมาเป็นโอกาสให้เราโตขึ้นมา แต่เราก็ต้องคิดกัน เพราะคุณจิ๋มไปอยู่ออสเตรเลียตั้งแต่อายุ 9 ขวบ ไม่ได้กลับเมืองไทยมานานมากๆ และไม่ชินกับเมืองไทยแล้ว มันเหมือนเราต้องมาเริ่มใหม่ในเมืองไทยเพราะว่าลูกค้าของเรา เช่น มหาวิทยาลัย สถาบันการศึกษา โรงเรียนสอนภาษาที่เราติดต่อด้วยเอย ต่างก็อยู่ออสเตรเลีย ฯลฯ และเราเน้นว่าจะทำเฉพาะออสเตรเลียเท่านั้น ไม่ได้ทำอังกฤษ อเมริกา นิวซีแลนด์ หรือประเทศไหนๆ เลย เราโฟกัสเฉพาะออสเตรเลียเท่านั้น

    มีนักเรียนกี่คนแล้ว

         ไปออสเตรเลียแล้วประมาณ 150-180 คนต่อปี ก็ประมาณ 900-1,000 คนในช่วง 5-6 ปีนี้ เราไม่ได้ใหญ่อย่างไอดีพีขนาดส่งเป็นพันๆ คนอย่างนั้น ผมแค่สนใจว่านักเรียนจะประสบความสำเร็จ และเราแนะนำให้เขาไปโปรแกรมที่ถูกต้องแล้ว และเราก็พยายามที่จะรักษามาตรฐานบริการของเรา

    Insight นี่ฟรีเซอร์วิสใช่ไหม มีอะไรที่ชาร์จเด็กเพิ่มไหม

          ก็มีถ้าหากว่าเด็กต้องการให้ส่งของไปที่นั่นอาจจะมีค่าส่ง 300 บาทมั้งครับ แต่อย่างอื่นไม่มีชาร์จ  หรืออาจจะมีบางคนต้องการประกันชีวิต ก็ทำให้ได้ แต่เงินก็จะไปที่บริษัทประกัน ไม่ใช่เรา เราไม่ชาร์จตรงๆ  แต่ส่วนใหญ่ฟรีนะครับ อย่าง Editing การบ้านให้ก็ฟรี

            ทุกๆ สองเดือนเราก็จะมี Alumni forum นักเรียนส่วนใหญ่ ซึ่งงานนี้ก็จะทำให้นักเรียนสามารถมาเจอกันได้ บางคนก็ได้ business partner ไปเลย

    เห็นว่าคุณมี branch office อยู่ที่ซิดนีย์ด้วย

          ตั้งแต่คุณจิ๋มกับผม ย้ายมาเปิดบริการที่เมืองไทย คุณพ่อคุณจิ๋ม คุณลุงณรงค์ก็เป็นคนดูแลนักเรียนไทยที่ไปซิดนีย์แทน แต่ผมคิดว่านักเรียนอาจจะไม่กล้าที่จะคุยกับคุณลุงณรงค์เกี่ยวกับปัญหาของตนมากเหมือนที่เคยคุยกับคุณจิ๋ม เช่น เรื่องมีแฟน เรื่องอกหัก เป็นต้น แต่จริง ๆ แล้วคุณลุงณรงค์เต็มใจรับฟังปัญหา และ ยินดีช่วยเหลือนักเรียนในทุก ๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือใหญ่ บางครั้งก็มีนักเรียนโทรมาเพื่อขอยืมเงินก่อนเพราะรอพ่อแม่โอนเงินมาให้ ท่านเป็นคนใจดี และ หน้าที่การงานของท่านก็อยู่ในแวดวงการศึกษามาโดยตลอด ดังนั้น ท่านจะเข้าใจปัญหาของเด็ก ๆ ได้ดี และ พยายามช่วยแก้ปัญหาให้นักเรียนทุก ๆ คน ที่มาขอความช่วยเหลือ เพื่อให้เด็กทุกคนเรียนจบ ประสบความสำเร็จกับบ้าน

    _________________________________________________________________________________

    PROFILE:

    "Insight" คือ ศูนย์แนะแนวการศึกษาต่อประเทศออสเตรเลีย  ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2534 ที่ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เดิมใช้ชื่อว่า SOS International Education ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อมาเป็น "Insight" มีสำนักงานที่กรุงเทพฯ และจังหวัดเชียงใหม่ ดำเนินงานโดยคนไทยผู้ที่ได้เติบโตและสำเร็จการศึกษาจากประเทศออสเตรเลีย ร่วมกับอาจารย์ชาวออสเตรเลียผู้มีประสบการณ์ เชี่ยวชาญทางการสอนภาษาอังกฤษในมหาวิทยาลัยในออสเตรเลีย และประเทศไทย "Insight" เป็นหนึ่งในสมาชิก สมาคมไทยแนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศ (TIECA)

    คำแนะนำเพิ่มเติมจาก Insight

    ทำไมนักเรียนจึงควรเลือกใช้บริการจากเอเย่นต์ ?

    ข้อดีของการเลือกใช้บริการจากเอเย่นต์ คือ

    1.        เอเย่นต์จะได้รับข้อมูลข่าวสารใหม่จากทางมหาวิทยาลัยสม่ำเสมอ ซึ่งการที่ทางเอเย่นต์ได้รับข้อมูลที่ทันสมัยและถูกต้อง ทำให้เอเย่นต์สามารถที่จะเสนอโปรแกรมให้ตรงกับความต้องการของนักเรียนได้อย่างลงตัว

    2.        เอเย่นต์จะได้รับการติดต่อสื่อสารที่รวดเร็วกว่า เนื่องจากทางเอเย่นต์จะมีรายชื่อของบุคคลที่จะต้องรับผิดชอบในเรื่องต่าง ๆ ของทางมหาวิทยาลัย เช่น ใครเป็นผู้ดูแลเรื่องใบสมัคร ใบตอบรับ การจ่ายเงิน เรื่องหอพัก เป็นต้น ดังนั้น เมื่อเรารู้ว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องใด การตามเรื่องก็จะรวดเร็วขึ้น

           เอเย่นต์จะมีบริการครบวงจรให้กับนักเรียน เช่น เรื่องการสมัครเรียน จัดส่งใบสมัคร เป็นตัวกลางจัดส่งค่าเล่าเรียนให้กับทางมหาวิทยาลัย การจัดทำวีซ่า การจองตั๋วเครื่องบิน การหาที่พัก จัดการเรื่องรถรับส่งที่สนามบิน โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายในการบริการ เนื่องจากทางมหาวิทยาลัยที่เอเย่นต์เป็นตัวแทน จะเป็นผู้สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการบริการส่วนนี้ ให้กับนักเรียนเอง

    Insight Education Consulting Co., Ltd.
    __________________________________________________________
    Head Office:
    Insight Education Consulting Co., Ltd.
    56 Yada Building, 6th Floor Silom Road
    Bangkok 10500 Thailand
    Tel: (662) 236 7222
    Fax: (662) 236 5858
    Mobile: (01) 870 6760
    Email: info@insighteducate.com
    www.insighteducate.com

    Branch Office:
    Bann Santisuk Building
    126/12 Soi University of Thai Chamber of Commerce
    Vibhavadee Road, Dindaeng
    Bangkok 10400
    Tel: (662) 276 3959
    Fax: (662) 276 3958

    http://www.aussietip.com/interview/index.php?topicid=175

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×