คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : FRIEND LOVE| 05 #อสแฟนหก (100 per.)
ปล.สารในเรื่องต่อไปเป็นสารอันตรายและไม่ควรนำไปปฏิบัติตามโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วนนะคะ
5
‘นักศึกษาหวังสารชนิดไหนทำให้เกิดอารมณ์ทางเพศและเสี่ยงต่อการถูกล่วงละเมิดครับ? ถ้าตอบได้หมอมีรางวัลให้’
“จินยองอยากไปเข้าห้องน้ำ”เสียงหวานแหบเปล่งออกมาหลังจากที่ผ่านการตรวจร่างกายสุดอีโรติกไปเมื่อประมาณหนึ่งชั่วโมงที่แล้ว
ร่างสันทัดถูกหมอหนุ่มที่นั่งทำงานอยู่อุ้มเดินตรงไปยังห้องน้ำเงียบๆ
เวลาปกติจินยองจะไม่ค่อยพูดและดูตั้งใจทำงานมากและแจ็คสันก็ไม่อยากจะไปกวนเพื่อนตัวเองเสียเท่าไหร่
ไม่สิขืนไปกวนมีหวังเขาได้ซีดตายก่อนแน่
เมื่อวางแจ็คสันลงกับคอห่านเสร็จจินยองก็เดินออกไปด้านนอกโดยไม่ลืมที่จะดึงประตูมาปิดให้กับแจ็คสันด้วย
ข้อดีของจินยองคือจะไม่ค่อยวอแวกับเขาเสียเท่าไหร่แต่ถ้าเป็นคนอื่นป่านนี้มันจับเขาฟัดเช้าฟัดเย็นไปนานแล้ว
ยกตัวอย่างเช่นเจบีเป็นต้นไอ้หมาบ้านั่นไอ้ตัณหากลับแล้วก็เฮียต้วนผู้ชายมักมากในกามอารมณ์
คิดแล้วก็แค้นใจอยากจะทุบผนังกำแพงให้มันแตกแต่ที่จะแตกแทนผนังก็คือมือของเขานี่แหล่ะ
“ทุบไปมันก็ไม่ได้ช่วยอะไรหรอกนะ…เสร็จหรือยัง?”
“แต่อย่างน้อยมันก็ช่วยระบายความเจ็บปวดในใจของกูได้”
“มันไม่ได้ช่วยอะไรได้หรอก ถ้าอยากระบายจริงๆก็มาระบายให้กูฟังดีกว่าการพูดเล่าเรื่องในใจของตัวเองให้เพื่อนฟังมันเป็นสิ่งที่ช่วยให้คนเรารู้สึกดีขึ้นนะ
มึงต้องเชื่อกูเพราะกูเป็นหมอกูเรียนศาสตร์ทางด้านนี้มาก่อน”
“……”
จินยองกอดอกมองแจ็คสันที่นั่งนิ่งอยู่บนคอห่านก่อนจะถอนหายใจและพูดยาวออกมา
มือคนตัวเล็กเกิดรอยแดงถลอกนิดๆ
ถ้าเจบีรู้มันคงจะด่าเขายับและหาว่าเขาทำรุนแรงกับแจ็คสันแน่ๆ
แต่จินยองไม่ได้คิดที่จะทำอะไรรุนแรงกับคนตัวเล็กเลยแม้แต่น้อยเพราะเขาไม่ชอบให้ของเล่นตัวเองมีรอยแผลหรือรอยช้ำมันดูเหมือนจะไม่สะอาด
จินยองจะต้องรักษาและถนอมแจ็คสันเอาไว้เพื่อสุขอนามัยที่ดี…ใช่หมอน่ะชอบความสะอาดและคนไข้ก็ต้องปลอดเชื้อโรคด้วย
ร่างของแจ็คสันถูกนำออกมานั่งอยู่ที่เตียงตรวจคนไข้ดังเดิม
หมอหนุ่มจัดการหยิบสายรัดข้อมือมารัดไว้กับแขนทั้งสองข้างของร่างอวบพลางเดินไปนั่งเขียนงานต่อเงียบๆ
แจ็คสันเองก็ไม่เข้าใจว่ามันจะทำไปทำไมเขาไม่ได้คิดหนีหรือว่าจะออกไปไหนตอนนี้หรอก
จินยองทำเหมือนกับว่าเขาคือนักโทษของมันไม่มีสิทธิ์หนี
ต้องทำตามคำสั่งขอมันทุกอย่าง…ทั้งๆที่เขาก็ไม่ได้เต็มใจเลยสักนิด
“ทำไมถึงทำแบบนี้ กูไม่หนีมึงไปไหนหรอกถึงจะอยากทำก็เถอะ”แจ็คสันเอ่ยถามเพื่อนตัวเองเสียงเรียบ
ดวงตาจ้องไปยังใบหน้านิ่งของจินยองที่กำลังเงยขึ้นสบตากับตนอยู่เล็กน้อย
“ความสุข กูชอบให้คนไข้ของกูอยู่แบบนั้น”จินยองพูดยิ้มๆก่อนก้มลงทำงานต่อ
“โรคจิตมึงไม่น่าจะมาเป็นหมอได้”คนตัวเล็กพูดจิกกัดพลางแสดงสีหน้าขยะแขยงจินยองออกมาอย่างชัดเจน
“แต่เป็นผัวมึงได้ก็แล้วกัน”
คำตอบกลับของอีกฝ่ายถึงกับทำให้แจ็คสันเงียบไปพักหนึ่ง
เจอคำว่าผัวจากหมอนี่มันโคตรจุกรู้ถึงไหนอายไปถึงนั่นเพลย์บอยอย่างเขาต้องมาเสียท่าให้เพื่อนทั้งหกคนและแต่ละคนนิสัยมันก็เลวๆเหมือนกันเป๊ะ
โดยเฉพาะไอ้หมอหน้านิ่งแต่ปากหมานี่
“ไอ้!..”แจ็คสันอยากจะด่าจินยองอยู่หรอกแต่ก็ด่าไม่ออกเพราะไม่รู้ว่าจะหาคำไหนมาด่ามันดี
แจ็คสันถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายเซหน้าหันไปมองทางอื่นทั้งๆที่มือนั้นก็ถูกมัดไขว้หลังไว้ทั้งสองข้าง
ความคิดอะไรบางอย่างทำให้เขานึกถึงใบหน้าของเจบีอยากให้มันรีบมารับเขากลับไวๆไม่อยากอยู่กับไอ้หมอโรคจิตวิปริตนี่นานๆ
กลัวว่าสันดานเลวๆของมันจะกำเริบเหมือนกับวันนั้นอีก…ใช่วันนั้นนั่นแหล่ะวันที่ทำให้แจ็คสันเปลี่ยนไปเป็นแบบนี้
ต้นเหตุก็เพราะมันทั้งนั้น!
“ถอนหายใจบ่อยแก่เร็วนะ”จินยองพูดขึ้นขณะที่มือนั้นก็ไล่เขียนข้อความต่างๆลงบนกระดาษเปล่า
“เสือก”แจ็คสันตอบกลับเสียงเรียบก่อนที่เสียงกระแทกปากกาจะดังขึ้น
“ทำไมชอบด่ากูจังวะทีกับไอเจบีมึงไม่เห็นด่ามันแบบนี้ ชอบมันเหรอ? หรือว่าติดใจในเซ็กส์ของมันจะลองกับกูอีกสักครั้งไหมเผื่อมึงจะเปลี่ยนใจชอบกูขึ้นมา….ลีลาหมอเด็ดกว่ามันอีกนะ”
รอยยิ้มอ่อนปรากฏบนใบหน้า
แจ็คสันเบือนหน้าหนีไปอีกทางแทนขยะแขยงไม่ได้มีความรู้สึกว่ามันดูดีเลยสักนิด
“เก็บไว้ไปพูดกับคนไข้คนอื่นของมึงเถอะ ผู้หญิงคนนั้นหล่อนก็ออกจะสนใจมึงนี่อยากมากก็ไปลงกับหล่อนอย่ามาลงที่กู
แค่ไอ้สองตัวนั่นกูก็จะตายอยู่แล้ว”
“หึง?”
“มโนเถอะ”
“คำพูดมึงส่อ”
“olo”
แจ็คสันยกนิ้วกลางชี้ใส่จินยองหลังจากที่อีกฝ่ายพูดจบ
เขาเนี้ยนะหึงไอ้หมอหื่นไม่ๆแจ็คสันไม่ได้มีความรู้สึกใจเต้นตึกตักอะไรกับมันเลย
กลับกันเขายังรู้สึกเฉยๆกับมันมากกว่าในบรรดาของเพื่อนๆทั้งหลายมีจินยองนี่แหล่ะที่แจ็คสันโคตรไม่อยากเข้าใกล้มากที่สุด
เพราะมันเป็นตัวต้นเรื่องที่ทำให้เขากลายเป็นคนเสเพลแบบนี้
“อยากได้เหรอชูใส่เนี้ย?”
จินยองถามปรายตามองมาทางแจ็คสันเรียบๆ
เห็นว่าชอบชูใส่เขาดีนักก็เลยถามออกไปซะเผื่อว่าอยากได้หมอจะได้สนองให้ถูก
“ถ้าตอบว่าไม่แล้วมึงจะทำอะไรกู?”
คิ้วเรียวเลิกขึ้นถามอย่างท้าทายและกวนประสาทนิดๆตามสไตล์ทำเอาหมอหนุ่มถึงกับยกยิ้มมุมปากขึ้นด้วยความชอบใจทันที…ชอบจริงๆไอ้ท่าทางกวนประสาทแบบนั้น
“ไม่ทำอะไรแต่ถ้ามึงอยากกูก็พร้อมนะ
จะเอาแบบครั้งนั้นก็ได้ครั้งแรกที่มึงเจอกับกูไง”
เพียงแค่คำพูดจากปากของจินยองก็สามารถทำให้แจ็คสันตัวแข็งทื่อเป็นหินได้
ภาพเหตุการณ์ช่วยสมัยตอนที่เขายังเป็นเด็กวัยละอ่อนค่อยๆฃอยเข้ามาในหัว
ความทรงจำที่แสนทรมานและเป็นตราบาปของชีวิตที่แจ็คสันไม่มีวันลืมปรากฏขึ้นช้าๆ
คิดแล้วเขาก็ปวดจี๊ดที่หัวสมองจนต้องสะบัดไล่มันออกไปก่อนที่หัวตนจะระเบิดเพราะเรื่องบ้าๆพวกนั้น
“เก็บไปให้แม่มึงเถอะ”
แจ็คสันพูดเสียงแข็งแววตาแข็งกร้าวราวกับเคียดแค้นจินยองมานานเป็นชาติ
ซึ่งถ้าจะเปรียบเทียบแบบนั้นเขาก็ไม่ว่า
เพราะแจ็คสันแค้นจินยองจริงๆแค้นที่ตอนนั้นตนไม่สามารถทำอะไรอีกฝ่ายได้
“ขอโทษทีพอดีแม่กูไม่ชอบอะไรแบบนั้น…..ว่าแล้วก็คิดถึงเนอะมาลองย้อนความทรงจำในวันวานกันดูสักครั้งดีไหม?”
จินยองกล่าวพร้อมกับลุกจากโต๊ะทำงานแล้วเดินตรงไปหาคนตัวเล็กที่เริ่มมีอาการสั่นกลัวนิดๆ
ร่างของหมอหนุ่มหยุดอยู่ตรงหน้าแจ็คสันก่อนที่มือจะล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อแล้วหยิบขวดอะไรบางอย่างออกมา
“นะ…นั่นมัน….ไม่เอา….อย่า…”
แค่เห็นขวดในมือของจินยองอาการต่อต้านในร่างกายของแจ็คสันก็เกิดขึ้น
ความรู้สึกมวลๆในท้องทำให้เขาอยากอาเจียนออกมา
ดวงตากลมคลอหน่วงไปด้วยหยาดน้ำใสแจ็คสันเงยหน้าขึ้นจ้องและแสดงท่าทีที่อ้อนวอนต่อจินยองอย่างเอาเป็นเอาตาย
ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่มีทางให้จินยองใช้ไอ้ของในขวดนั่นกับเขาแน่
“ไม่ต้องกลัวนะเดี๋ยวมึงก็จะมีความสุขเอง”
จินยองบอกก่อนปิดฝาขวดแล้วจับดึงใบหน้าแจ็คสันให้ขยับเข้ามาใกล้ๆก่อนจะใช้ปากขวดกระแทกเข้าที่จมูกโด่งของคนตัวเล็กเต็มๆ
มันอาจจะเจ็บนิดหน่อยแต่ผลที่ตามมาจะทำให้แจ็คสันลืมความเจ็บปวดเหล่านั้นแน่
เชื่อสิเขาเป็นหมอนะ….หมอรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับยาและสารทุกชนิด
แจ็คสันพยายามที่จะกลั้นหายใจไม่สูดดมกลิ่นในขวดนั่นเข้าไป
แต่ทว่าความสามารถของเขาก็ไม่ได้มีมากนักเพียงแค่หนึ่งนาทีแจ็คสันก็หยุดและเผลอสูดสารนั่นเข้าไปเต็มๆ
ตอนแรกมันยังไม่ค่อยเท่าไหร่หรอกแต่พอเวลาผ่านไปประมาณ2-3นาที
ฤทธิ์ของมันก็เริ่มแสดงออกมาอย่างชัดเจน
“จำได้หรือเปล่าตอนเรียนวิชาวิทยาศาสตร์สารกลุ่มไหนที่เป็นอันตรายและเสี่ยงต่อการถูกล่วงละเมิดทางเพศนักศึกษาหวัง”
จินยองเริ่มเล่นบทอาจารย์และนักศึกษาแม้ว่าตนจะจบก่อนแจ็คสันและคนอื่นๆมาแค่ไม่กี่ปีก็ตาม
บัดนี้ใบหน้าของแจ็คสันเต็มไปด้วยสีแดงเสียแล้ว
ความร้อนวูบวาบแถวแผ่นอกและลำคอทำให้คนตัวเล็กรู้สึกกระหายน้ำอย่างหนัก
ร่างกายมันร้อนเหมือนโดนไฟเผาไปหมดทั้งตัวตั้งแต่หัวจรดนิ้วโป้งเท้า
ริมฝีปากอิ่มหวานฉ่ำขบเข้าหากันแน่น ดวงตากลมปรือละเลือนเลื่อนลอยเหมือนคนไม่มีสติ
คำถามที่จินยองถามมาเมื่อกี้ก็เหมือนตัวช่วยดีๆที่ช่วยให้เขายังพอตอบกลับเจ้าตัวไปได้
“แฮ่ก!….แฮ่ก!…สารกลุ่มไนไตร์….”
แจ็คสันตอบเสียงแห้งปรือตาขึ้นมองจินยองนิดๆ
ในขณะที่มือนั้นก็เริ่มอยู่ไม่สุขรู้สึกอยากจะทำอะไรบางอย่างกับร่างกายของตัวเองเสียเหลือเกิน….
ร้อนมันร้อนเกินไปแล้วแจ็คสันไม่ชอบอากาศร้อนเขาอยากจะถอนเสื้อออกเหลือเกิน
ทำไมมันถึงได้ร้อนแบบนี้กันนะทั้งๆที่เสื้อผ้าของเขานั้นก็ออกจะบางและใส่สบาย
“มีฤทธิ์แบบไหนครับ?”
จินยองยังคงถามต่อแม้ว่าอาการของแจ็คสันมันจะปรากฏออกมาให้เห็นเต็มตาแล้วก็ตามแต่เขาก็ยังไม่อยากช่วยเจ้าตัวตอนนี้
ต้องให้แจ็คสันเอ่ยปากร้องขอด้วยตนเองสิถึงจะสนุก
“มะ…แฮ่ก!...มีอาการมึนงะ…งง….เวีย..น…หัว…แฮ่ก!”
แจ็คสันตอบอย่างติดๆขัดๆขาดหน่วงไปเป็นบางช่วงบางเวลา
และคำตอบของเขามันก็ยังมีเหลืออยู่อีกหนึ่งข้อด้วยแถมข้อนี้ยังเป็นข้อที่สำคัญมากๆที่เด็กทุกคนควรจะรู้
“ขาดไปอีกหนึ่งข้อครับ”จินยองกล่าวยกมือขึ้นลูบโครงหน้าหวานที่แดงระเรือนเพราะฤทธิ์ยายิ้มๆ
“…..ปะ…เป็นตัวกระตุ้น…อารมณ์….ทางเพศ”
แจ็คสันตอบข้อสุดท้ายก่อนอ้าปากงับนิ้วชี้ของจินยองแล้วใช้ลิ้นของตัวเองดูดดุนมันราวกับว่าเป็นขนมป๊องกี้แสนอร่อย
จินยองมองปฏิกิริยาของแจ็คสันพลางยิ้มมุมปากขึ้นอาการท่าจะหนักขึ้นเรื่อยๆและผลเสียของยานี่ก็เสี่ยงมากด้วย…เสี่ยงต่อชีวิตเจ้าตัวสูงถ้าไม่รีบช่วยให้เสร็จล่ะก็แจ็คสันจบเห่แน่
“ต้องการให้หมอช่วยอะไรไหมครับ?”
ใบหน้าหล่อก้มลงอยู่ในระดับสายตาพลางถามคนตัวเล็กที่เอาแต่กัดนิ้วเขาเล่นด้วยความเอ็นดู
แจ็คสันช้อนตากลมปรือฉ่ำขึ้นมองสาบานเลยว่าถ้าไม่ใช่เพราะยานี่เขาไม่มีทางยิ้มน่าเกลียดๆแบบนั้นออกมาแน่!
รอยยิ้มหวาดเยิ้มถูกส่งให้หมอหนุ่มในขณะที่ข้อมือเล็กนั้นก็เสียดสีไปมากับสายรัดจนเกิดรอยแดง
ขาทั้งสองหนีบเข้าหากันแน่นแล้วขยับไปมาแผ่วเบา
ท่าทางเหมือนจะเชิญชวนนั่นทำเอาจินยองแทบคุมสติตัวเองไม่อยู่
ทำไมคนไข้เคสนี้ถึงได้ยั่วกันนักนะสงสัยหมอคงจะต้องฉีดยาระงับอารมณ์ยั่วไว้ซะแล้วสิ
“หมอปาร์คฮะ….ชะ…ช่วยฉีดยาให้น้องจะ…แจ็ค…หน่อยได้ไหม…แฮ่ก…ฮะ…”
คนตัวเล็กเอ่ยออกมาอย่างไม่นึกอาย
ใบหน้าหวานตอนนี้แดงก่ำและเต็มไปด้วยแรงอารมณ์มากมาย
การกดประสาทของสารที่แจ็คสันได้รับเข้าไปทำให้เขาควบคุมสติไม่อยู่ปากมันเอ่ยออกไปเองโดยอัตโนมัติทั้งๆที่ในความเป็นจริงแล้วเขาตั้งใจจะปฏิเสธมันแท้ๆ
ทั้งมันก็เพราะฤทธิ์ของสารที่จินยองให้เขาดมนั่นแหล่ะ….
“ครับงั้นเรามาเริ่มฉีดยากันดีกว่าเนอะ….เด็กดี”
CUT
กว่ายาจะหมดฤทธิ์ก็ปาไปเกือบเที่ยงแจ็คสันนอนสลบอยู่บนเตียงพลางหอบหายใจถี่ด้วยความเหนื่อย
เหงื่อผุดขึ้นเต็มใบหน้าและร่างกายขาว
ใบหน้าสวยบูดบึ้งเล็กน้อยหลังจากเสร็จกิจและสิ้นฤทธิ์จากยาของจินยอง
คุณหมอหนุ่มยกยิ้มพิมพ์ใจส่งให้กับคนไข้ของตนนิดๆ การย้อนวันวานที่แสนเสียวและกราวใจจบลงอย่างน่าเสียดายถ้าเกิดคนตัวเล็กมีแรงต่ออีกนิดวันนี้ทั้งวันก็คงจะไม่เสร็จ
จินยองยังมีแรงต่ออีกเยอะสักสิบยกเขาก็ไหว
“กูจะฟ้องหมอคนอื่นว่ามึงมันเป็นหมอโรคจิตหมอเถื่อนที่เอาสารอันตรายนั่นให้กูดม!”แจ็คสันกล่าวชี้หน้าจินยองด้วยความแค้นใจ
อีกฝ่ายพอได้ฟังคำพูดของร่างเล็กแล้วก็นึกอยากจะหัวเราะขึ้นมาให้หายขำ
จะฟ้องเขากับหมอคนอื่นอย่างนั้นเหรอ?
ทำไมเมียหมอปาร์คถึงได้น่ารักแบบนี้นะ
“ฟ้องไปก็ไร้ประโยชน์….กูนี่แหล่ะเจ้าของโรงพยาบาล”
สิ้นคำพูดแจ็คสันก็ตาแทบถลนทันที นั่นสินะเพื่อนเขาแต่ละคนมันก็มีกิจการเป็นของตัวเองทั้งนั้น
เรียกได้ว่านอกจากจะหล่อและหัวดีแล้วพวกเขายังรวยมากถึงมากที่สุดอีกด้วย
ไม่ได้โอเวอร์นะแต่มันคือเรื่องจริง
แต่ตอนนี้แจ็คสันรู้สึกอยากให้มันเป็นเพียงความฝันจังทำไมเขาจะต้องมาซวยซ้ำซวยซ้อนอยู่รักษาเป็นคนไข้ของโรงพยาบาลไอ้บ้านี่ด้วยวะ! เจบีก็ไม่เคยบอกเลยว่ามันเป็นเจ้าของโรงพยาบาลแห่งนี้!!
“ซวยจริงๆ”แจ็คสันพูดกับตัวเองเสียงแผ่ว
แต่ยังไงซะจินยองก็ได้ยินอยู่ดีเพราะห้องของเขามีแค่เขากับแจ็คสันสองคนเท่านั้น
ต่อให้เบาแค่ไหนก็ได้ยิน
“อยากจะไปหาอะไรทานหน่อยไหม?
เดี๋ยวเลี้ยงเองถือว่าเป็นการไถโทษก็แล้วกัน”
“ไม่อยากไปไหนสั่งมากินได้ไหมกูขี้เกียจเดินเมื่อย”
“แล้วแต่ตามใจเมียอยากได้อะไรก็หาให้หมดนั่นแหล่ะ”
“ถ้าอยากได้ผัวใหม่ที่ไม่ใช่พวกมึงนี่ก็ให้ได้ใช่ไหม?”
“…..อยากสะโพกหักก็ลองดูสิ…..”
เหมือนจะชนะแต่สุดท้ายแจ็คสันก็แพ้คำพูดของจินยองอยู่ดี
อีกฝ่ายกยิ้มเหนือชัยขึ้นก่อนหยิบโทรศัพท์ขึ้นแล้วกดโทรออกเพื่อสั่งอาหารมาทานในโรงพยาบาลตามที่คนตัวเล็กต้องการ
เขาเดินเลี่ยงไปยังนอกห้องแล้วคุยเรื่องอาหารต่างๆเลือกเฉพาะของที่ดีและมีประโยชน์เพื่อบำรุงร่างกายแจ็คสัน
ดวงตากลมเหลือบมองหมอหนุ่มที่กำลังวุ่นอยู่กับการคุยโทรศัพท์ก่อนลุกแล้วเดินไปที่เสื้อผ้าของตัวเอง
หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์โทรหาใครบางคนที่ตนคิดถึงเอามากๆไม่ได้เจอกันตั้งสองวันแจ็คสันคิดถึงแทบบ้า
ไม่รู้ว่าตอนนี้เจ้าตัวจะงอนเขาไปแล้วหรือยัง แต่…แจ็คสันก็ง้อได้อยู่ดีนั่นแหล่ะ
[“ฮัลโหลสวัสดีค่ะ”]
เสียงหวานใสที่ฟังแล้วชื่นใจทำให้แจ็คสันยิ้มแก้มปริ
คนตัวเล็กกดโทรไปหายองจีแฟนสาวคนตัวเล็กของเขานั่นเอง
นี่ไงคนที่แจ็คสันคิดถึงและอยากเจอมากที่สุด
“พี่เองนะตัวเล็ก เป็นยังไงบ้างวันนั้นพี่ขอโทษนะที่รีบกลับ”
แจ็คสันปรับเสียงแหบๆของตนให้ดูอ่อนนุ่มมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ตาเองก็แอบเหลือบมองจินยองไปด้วยเช่นเดียวกันขืนมันรู้ว่าเขาโทรหายองจีล่ะก็งานนี้มีหวังโดนหนักกว่าเมื่อกี้แน่แจ็คสันสัมผัสได้เขารู้และกลัวมันมากจนถึงขั้นต้องระวังแบบนั้นไง
[“พี่แจ็คสัน….ไม่เป็นไรค่ะยองจีเข้าใจก็คุณพ่อพี่แจ็คสันลื่นล้มนี่นายองจีไม่โกรธหรอกค่ะ”]
ยองจีกล่าวถ้าอยู่ต่อหน้าแจ็คสันคงจะได้เห็นรอยยิ้มกว้างๆแสนสวยของเธอไปแล้ว
ใบหน้าขาวกลมกับยิ้มกว้างจนเห็นฟันครบทั้งสามสิบสองซี่นั่นคิดแล้วก็อยากจะเจอเจ้าตัวเสียเหลือเกิน
“น่ารักจังตัวเล็กของพี่
ว่าแต่ตอนนี้ตัวเล็กกำลังทำอะไรอยู่คะทำการบ้านอยู่หรือเปล่า”แจ็คสันชมเด็กน้อยของตัวเองพลางเอ่ยถามต่อด้วยความสงสัย
[“ยองจีกำลังจะไปดูหนังค่ะ”]ยองจีตอบ
“ไปกับใครครับผู้ชายหรือเปล่า”
แจ็คสันตีเสียงเข้มทันทีคิ้วเขาขมวดเข้าหากันแน่นรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาทันทีราวกับว่าหึงหวงเด็กสาวในสายอยู่ยังไงอย่างนั้น
ไม่สนใจที่จะมองจินยองอีกต่อไปตอนนี้เขาสนใจแต่เด็กในสายของตัวเองเท่านั้น
[“ไปกับเพื่อนผู้หญิงค่ะ ยองจีไม่กล้าไปมีกิ๊กหรอกค่ะยองจีกลัวพี่แจ็คสันร้องไห้งอแงใส่”]
แจ็คสันยกยิ้มขึ้นถ้าตอนนี้เขาอยู่ต่อหน้ายองจีล่ะก็ยัยตัวเล็กเสร็จเขาไปนานแล้ว
ไม่ปล่อยให้พูดเจื้อยแจ้วแบบนี้หรอกลงโทษที่ทำให้เขาเอ็นดูจนหมั่นเขี้ยว
ถ้าอยู่ใกล้ๆแจ็คสันจะจับมาฟัดแก้มให้ช้ำเลย
“พี่ไม่งอแงใส่หรอกเราน่ะพูดมั่ว”
แจ็คสันเถียงแย้ง
คนอย่างเขาไม่มีทางงอแงใส่แฟนสาวหรอกน่ามีแต่จะอ้อนกับอ้อนเท่านั้นแหล่ะ
คนที่ควรจะงอแงใส่น่าจะเป็นยองจีซะมากกว่าไม่ใช่เหรอ?
[“ไม่รู้ไม่ชี้แต่พี่แจ็คสันชอบงอแงใส่ยองจีอ่ะ”]ยองจีพูดตอบเสียงออกจะงอนนิดๆเหมือนขัดใจที่แฟนหนุ่มของเธอแกล้งไม่เลิก
ทำให้แจ็คสันหลุดหัวเราะออกมาทันที
“ขอโทษครับโอเคๆพี่ยอมรับก็ได้ว่าพี่งอแงใส่เราตกลงไหม”แจ็คสันรีบขอโทษเด็กสาวทันทีเพราะกลัวว่ายองจีจะงอนตนมากไปกว่านี้
เขายิ่งง้อไม่เก่งอยู่ด้วย
[“ตกลงค่ะ!
ว่าแต่พรุ่งนี้พี่แจ็คสันพอจะว่างมารับยองจีไหมคะพอดีว่ารถของคุณพ่อยองจีเสียท่านไปส่งไม่ได้
ท่านเลยให้ฝากมาถามอ่ะคะว่าพี่จะว่างมารับไหม
ถ้าว่างท่านจะฝากยองจีไปด้วยแต่ถ้าไม่ว่างก็ไม่เป็นอะไรเดี๋ยวยองจีขึ้นรถแท็กซี่ไปเองก็ได้”]
ยองจีเอ่ยถามอย่างเกรงใจเพราะตนเองก็ไม่คิดอยากจะรบกวนแจ็คสันเสียเท่าไหร่ถึงจะเป็นแฟนกันก็เถอะแต่คนเราก็ต้องมีความเกรงใจกันบ้าง
“อืม….ว่างสิเดี๋ยวพี่ไปรับรอหน้าบ้านเลยไม่ต้องห่วง
พี่ยิ่งไม่ไว้ใจพวกแท็กซี่ด้วยไม่อยากให้ไปนั่งถ้าไม่จำเป็น”
แจ็คสันครุ่นคิดอยู่นานและตัดสินใจว่าพรุ่งนี้ตนจะไปรับแฟนสามมาเรียนพร้อมกัน
เขาเองก็ค่อนข้างเป็นห่วงยองจีเช่นกันเธอเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆแจ็คสันไม่อยากให้เธอนั่งแท็กซี่คนเดียว
เพราะถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาจะไม่มีใครสามารถช่วยอะไรเธอได้เลย
อย่างน้อยถ้าเป็นเขาไปส่งยังฟังดูดีกว่าแม้จะเป็นเสือร้ายแต่ถ้าผู้หญิงไม่ยอมแจ็คสันก็ไม่เริ่มหรอก
เขาเองก็เป็นสุภาพบุรุษพอนะรู้จักเคารพสิทธิของคนอื่นและของตนไม่เคยก้าวก่ายถ้าคนนั้นไม่ยอม….ไม่เหมือนกับกลุ่มหมาทั้งหกบางกลุ่มขนาดเขาไม่ยอมมันยังบังคับขัดขืนยัดเยียดความต้องการของตัวเองให้เลย
[“ค่ะ
สรุปว่าพรุ่งนี้ยองจีจะรอพี่แจ็คสันอยู่หน้าบ้านนะคะถ้าไม่มารับล่ะก็ยองจีจะโกรธพี่จริงๆด้วย”]เด็กสาวพูดขู่
แต่มันไม่ได้น่ากลัวเลยสักนิดมันน่ารักเสียมากกว่าทำไมเด็กคนนี้ถึงได้น่ารักแบบนี้นะ
“ครับงั้นพี่วางก่อนนะรักยองจีนะครับ”
แจ็คสันบอกก่อนกดวางแล้วจ้องหน้าจอโทรศัพท์ของตัวเองที่ปรากฏภาพตนกับแฟนสาวอย่างยองจีกำลังยืนยิ้มหน้าแนบติดกันอย่างมีความสุขอยู่
แต่…ความสุขก็ต้องหายไปในพริบตาเมื่อภาพตรงหน้าของเขาคือคุณหมอปาร์คที่ยืนกอดอกพิงหลังกับผนังกำแพงห้องนิ่งๆแล้วจ้องมายังเขาด้วยสายตาเฉียบคม
…..อย่าบอกนะว่ามันได้ยินเขาคุยกับยองจีตั้งแต่ต้นยันจบ…..ฉิบหายแล้วไอ้หวัง!
“หวานเชียวนะได้กันหรือยังล่ะกับเด็กผู้หญิงคนนั้น”
จินยองเอ่ยถามเสียงกระแทกอย่างเด่นชัดพร้อมกับจิกกัดทางสายตาอย่างโจ่งแจ้ง
แจ็คสันลอบกลืนน้ำลายลงคออย่างลำบากเพราะแค่สายตาเขาก็แข็งไปทั้งตัวแล้วยิ่งน้ำเสียงนี่ไม่ต้องพูดถึงนิ่งสงบยิ่งกว่าน้ำเย็นของขั้วโลกเหนือซะอีก…น่ากลัว
“มะ…ไม่….ไม่เคยมีอะไรกัน”
แจ็คสันตอบกลับไปพร้อมตัวสั่นนิดๆ
ร่างกายที่ไร้อาภรณ์ปกปิดถูกโอบกอดด้วยเจ้าของร่างป้อมตัวขาว
ขาเล็กหนีบเข้าหากันและขยับซุกหลังเข้าข้างกำแพงพร้อมเหลือบตามองจินยองด้วยความระแวงนิดๆ
เขาไม่รู้ว่าจินยองคิดอะไรอยู่และต้องการจะทำอะไรแต่ถ้ามาสไตล์นี้แจ็คสันคิดว่ามันจะต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นแน่ๆ
“ออกไปคุยโทรศัพท์ไม่ถึงสิบนาทีริอาจโทรหาเมียอย่างนั้นเหรอ? ไม่คิดจะเกรงใจผัวที่ยืนหัวโด่อยู่ข้างนอกเลยหรือไง….หรือว่าอยากจะไปต่อกับประตูหน้าโดนประตูหลังแล้วมันไม่อิ่มใช่ไหม?”
ยิ่งพูดก็ยิ่งขนลุกแจ็คสันรู้สึกรังเกียจคำพูดร้ายๆที่กระแทกใจของตัวเองจากปากจินยองมาก
ทำไมจะต้องเป็นเขาที่ถูกพูดกระแทกกระทั้นใส่เวลาที่ฝ่ายนั้นอารมณ์เสียด้วยล่ะแจ็คสันไม่เห็นจะเข้าใจอะไรเลยสักนิดเดียว
“มึงนั่นแหล่ะที่คิดไปเองคนอย่างกูไม่มีทางติดใจประตูหลังอยู่แล้ว
เมื่อกี้มันเป็นเพราะสารระเหยต่างหากไม่ใช่จากอารมณ์จริงๆของกูเพราะงั้นอย่าคิดเลยว่ากูจะเพลิดเพลินไปกับคารมมึงจินยอง”แจ็คสันกล่าว
“แต่มึงก็ร้องให้กูช่วยตลอดนี่เมื่อกี้นี้แถมยังบอกว่าชอบนิ้วของกูด้วย
นี่น่ะเหรอไม่หลงคารม…..แจ็คสันกูจะเตือนมึงเป็นครั้งสุดท้ายนะ…..”
จินยองยกยิ้มมุมปากหัวเราะอย่างสมเพชกับสภาพของคนตัวเล็ก
ทั้งที่มีความสุขกับบทเพลงรักของเขาแท้ๆแต่กลับบอกว่าไม่ได้รู้สึกหลงใหลอะไรเลยเนี้ยนะจะเรียกว่าปากแข็งหรือว่าปากไม่ตรงกับใจดีล่ะ?
จินยองก้าวเท้าเดินไปหาแจ็คสันที่นั่งอยู่บนเตียงสำหรับเช็คตรวจสุขภาพของคนไข้ก่อนโน้มใบหน้าก้มลงกระซิบกับใบหูเล็กสีชมพูเสียงแผ่วเบาแต่แฝงไปด้วยความเยือกเย็นและน่าเกรงขาม
“อยู่กับกูมึงต้องมีแต่กูคนเดียวถ้ามึงคิดถึงคนอื่นกูจะเป็นคนลากมึงออกมาจากความคิดบ้าๆนั่นเอง
ต่อให้ต้องทำมึงเจ็บตัวก็ตามจำเอาไว้!”
TALK
มีสาระแฝงอยู่ในเรื่องอยากรู้ว่ากลุ่มสารไนไตร์ทำงานอย่างไรสามารถพิมพ์ค้นหาได้ในGoogleค่ะ มาพูดถึงสามีคนที่3ของน้องแจ็คบ้างยัยน้องโดนอีกแล้วแถมยังถูกใช้ยาด้วยแต่ประเด็นคือจากที่ดูมาพี่หมอปาร์คนี่ท่าจะร้ายสุดทั้งบังคับน้องให้มีอะไรกับตัวเองด้วยการใช้ยาที่เสี่ยงต่อชีวิตน้อง
ทั้งอดีตที่แสนขมขื่น
ไหนจะรอยสักของตรงใต้สะดือนั่นอีกพี่หมอปาร์คเป็นคนสักให้ด้วยนะประเด็น
อือหือสามีคนนี้มันกราวใจค่ะ เหลืออีกสามคนรีดเดอร์คิดว่าแบมแบม ยูคยอม
กับยิงแจจะมีนิสัยสไตล์แบบไหนคอมเม้นบอกหน่อยนะ ส่วนCutสามารถไปตามหาได้ที่หน้าทวิตของไรท์ค่ะไรท์ปักหมุดไว้แล้วคลิกแล้วเลือกอ่านได้เลย
แล้วเจอกันในตอนต่อไปบ๊ายบายค่ะ
#อสแฟนหก
ความคิดเห็น