“อัสสุชลจากนกยูงเผือก”
หยิน หยางจะเป็นคนฆ่าเจ้า..
!!!
‘อ๋องเซ็น’ สะดุ้งตื่นจากฝันร้ายที่วนเวียนอยู่ภายในหัวสมองอันปวดทึบ.. ดวงตาสีทับทิมงามกรอกมองไปรอบๆก็พบเพียงห้องสีทองที่ทำจากผ้าสกุลงามส่วนหูเองก็ได้ยินเพียงเสียงน้ำกระทบเข้ากับกาบเรือเล็กเพียงแค่นั้น.. ครั้นยันกายลุกขึ้นก็รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่แล่นทั่วร่างกายเพียงแค่ขยับร่างกาย..
“อั๊ก!..” ชายผู้เคยยิ่งใหญ่และเคยโค่นล้มปรมาจารย์แรดสายฟ้าแห่งนครกงเหมินอันเลื่องลือได้..
อย่างว่า.. คำว่า ‘เคย’ นั้นเป็นเพียงอดีต..
บัดนี้ชายผู้มีสมญานามกาลนกยูงเผือกท่านอ๋องเซ็นกลับมีสภาพไม่ต่างจากคนหมดทางสู้คล้ายจะตายทั้งเป็น.. ร่างกายที่ผอมบางและเรียวมือที่งดงามสมคุณชายใหญ่เลื่อนไปคว้าเอาเสื้อคลุมสีขาวที่พับอยู่บนหัวเตียง.. แต่ทว่าเรี่ยวแรงที่ยังมิได้กลับคืนก็พลันให้มือไม้อ่อนจนฟาดลงไปยังแก้วชาข้างๆหล่นแตกไม่มีชิ้นดี..
“บ้าจริง!” อ๋องเซ็นสบทเสียงเบา..
กายโปร่งขยับเล็กน้อย.. เหลือบมองผ้าคลุมที่ตกลงไปพร้อมชาแล้วพยายามยื่นมือจะเอื้อมไปหยิบมันขึ้นมา.. แต่ทว่าสุรเสียงเอ่ยเรียกก็ทำให้นกยูงเผือกตนนี้ถึงกับผงะและชะงักมือ.. ดวงตาสีเข้มเลื่อนไปสบกับแขกผู้มาเยือน..
“ทำอะไรของเจ้า..”
กายสูงสมส่วนดูสง่ายืนมองอ๋องเซ็นด้วยดวงตาสีมรกต.. ชุดสีเขียวและเครื่องประดับครบครันบ่งบอกถึงความดูดีมีชาติตระกูลเสียยิ่งกว่าสิ่งใด.. แต่สิ่งที่ทำให้อ๋องเซ็นจำทุกอย่างได้คือผ้าลายหางนกยูงสีเขียวมรกตที่คล้ายกับผ้าสีขาวที่อ๋องเซ็นมักจะสวมใส่เป็นประจำนั่น..
“ฮ..ท..ท่านพ่อ!” เสียงแหบพล่าเอ่ยขึ้นมา.. ดวงตาอ่อนล้านั่นเชยขึ้นด้วยสีหน้าเจ็บปวดและอารมณ์อ่อนไหวในคราเดียวกัน.. คนถูกเรียกเองก็ได้แต่ขบฟันแน่น.. ก่อนที่จะตวัดสายตาขึ้นมองด้วยดวงตาเด็ดเดี่ยว
“ข้าจะส่งเจ้ากลับกงเหมิน”
“ยามเมื่อหายดี..”
“อ..หมายความ..เช่น.. ไร.. ”
เป็นเพียงคำพูดตักเตือนสั้นๆ.. ที่อ๋องเซ็นผู้บาดเจ็บมิสามารถจับใจความได้มากนัก.. สติของคุณชายอ๋องเริ่มเลือนลาง.. มือที่ใกล้จะคว้าเอาเสื้อคลุมนั่นนิ่งไปพร้อมกับร่างบางอันเปลือยเปล่าที่สลบไสลด้วยพิษบาดแผล..
สมญานามนกยูงมรกตหรือ ‘ขงเชวี่ยลวี่’ ย่างก้าวเข้าไปหาคนบนเตียงอย่างใจเย็น..มือสองข้างเลื่อนไปโอบอุ้มร่างเพรียวสวยขึ้นมาแนบอกแกร่ง..วางลงบนเตียงทองแล้วจัดท่าทางและห่มผ้าให้อย่างถะนุถนอมราวกับว่ากำลังถือเพชรเม็ดงามก็มิปาน..
ขงเชวี่ยลวี่นั่งลงบนผืนเตียงข้างๆคนหลับ.. ยกมือขึ้นเกลี่ยผมสีขาวสะอาดเบาๆด้วยสัมผัสอันอบอุ่น ดวงตาสีขจีจับจ้องคนที่รักมิวางตา..
คนรัก.. ที่มิอาจบอกคำว่ารักในความหมายที่สื่อได้..
หากกล่าวว่าขงเชวี่ยลวี่ผู้นี้วิปริตก็มิอาจต่อต้านหรือคัดค้านใดได้เลย.. ร่างกายที่ฝึกเซียนจนกาลเวลาก็มิอาจพรากความหนุ่มไปนี้ยิ่งทำให้จิตใจรู้สึกถึงอารมณ์ต่างๆได้ง่ายนัก..
“อ๋องเซ็น..” เสียงนุ่มนั้นเอ่ยเรียกนาม ‘ลูกชาย’ สุดที่รักด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่แฝงด้วยความเว้าวอนและขอร้อง..
ชายผู้เห็นแก่ได้ก้มกายลงไปหา.. ริมฝีปากหนากดจูบเบาๆลงบนหน้่าผากเนียนสวยของสายเลือดเดียวกันอย่างเอ็นดูและใคร่รัก.. เลื่อนกลีบปากลงมาจนหยุดที่ปลายจมูกรั้น.. ลืมตาสีมรกตขึ้นมาแล้วหรี่ลงเล็กน้อยด้วยความเสน่หา.. ขงเชวี่ยลวี่ค่อยๆขยับลงมาจนริมฝีปากของตนแนบลงกับเรียวปากสีซีดที่ดูราวกับกำลังฉวยโอกาส..
จูบเบาหวิวแต่เต็มเปี่ยมด้วยรักและคิดถึง.. สัมผัสอ่อนโยนที่ขนาดคนหลับยังนึกเคลิ้มจนส่งเสียงครางออกมาเป็นระยะ..
“เซ็น.. “
“ยกโทษให้พ่อเจ้าด้วย..”
..
“อ..” เปลือกตาขาวนวลเปิดขึ้นอีกครา.. ดวงตาสีทับทิมกรอกมองทิวทัศน์ที่คุ้นชินดังเดิม.. ยามสติสัมปชัญญะครบครันกายสวยก็ลุกโพล่งขึ้นมานั่งทำเอาหน้ามืดไปพักหนึ่ง..
ท่านพ่อ.. ข้าเห็นเขา..
อ๋องเซ็นยกมือขึ้นกุมศีรษะ.. ร่างกายสั่นเทากับสิ่งที่เกิดขึ้นและคาดหวังให้ทุกอย่างเป็นเพียงความฝันที่จิตใต้สำนึกจองจำไว้ชั่วกาลนาน..
ท่านพ่อ.. ตายไปแล้ว..
คำพูดนี้ตอกย้ำให้จิตใจอันแหลกสลายนึกถึงเหตุการณ์ต่างๆ.. ยามสอนบทเรียน.. ยามหยอกล้อเล่นกัน.. จนกระทั่ง.. ยามถูกขับไล่ออกมาจากวังหลวงอันเป็นบ้านเกิดของตน..
ท่านพ่อ.. ท่านแม่.. พวกเขาเกลียดข้า..
ไม่ใช่แบบนั้น.. ตั้งแต่วันที่ไล่เจ้าไป.. พ่อกับแม่เจ้าก็ตรอมใจตาย..
คำพูดของโหรหลวงทำให้อ๋องเซ็นกัดฟันแน่น.. สายใยความรักอันตัดไม่ขาดขบให้น้ำพระเนตรรินไหลจากขอบตาแดงระเรื่อ.. จิตใจราวถูกมือใครบางคนบีบรัดขบให้ความเจ็บปวดไหลออกมาตามรอยอันแตกร้าว..
เจ็บ.. เจ็บเหลือเกิน..
“อ๋องเซ็น..” เจ้าของชื่อสะดุ้ง.. เงยใบหน้าใต้ปอยผมสีขาวขึ้นสบมองไปยังคนเรียก..
ภาพที่เห็นจนชินตานั่นทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นระรัวอีกครั้ง.. ผมยาวสีเขียวและชุดอันเป็นเอกลัษณ์.. รัศมีราชันย์ข่มขวัญให้ทั่วยุทธศาสตร์หวั่นเกรง..
ขงเชวี่ยลวี่..นกยูงสีมรกตแห่งอาณาจักรกงเหมิน.. เป็นคนผู้นี้มิผิดแน่..
“ฮ.. ทำไม..”
ยังไม่ทันที่จะเอ่ยสิ่งใด.. กายสูงก็นั่งลงพร้อมทั้งรั้งตัวของคนผู้น้อยเข้าไปกอดแน่น.. นกยูงเผือกที่ถูกบ่วงรักจับนั้นขัดขืนแม้จะรู้ว่าบ่วงนั้นทำจากขวางหนาม.. มือคู่นั้นทุบตีอกแกร่งที่เต็มไปด้วยเครื่องประดับอย่างไม่เกรงใจมือสวยๆของคุณชายซักนิด.. ริมฝีปากสวยถูกกัดจนเลือดซึมออกมาไม่ต่างจากน้ำตาที่ยิ่งห้ามยิ่งนองหน้า
“ออกไป! ฮึก! ออกไปนะ! ออกไปจากข้า! ขงเชวี่ยลวี่!”
เสียงตวาดและแรงทุบไม่ทำให้อดีตผู้นำแห่งกงเหมินนั้นสะทกสะท้านใดๆ.. วงแขนแกร่งโอบรัดร่างลูกชายเข้าแนบอก.. กัดฟันแน่นยามเสียงหวานนั้นพร่ำด่าไม่หยุดจนแหบพล่า.. แต่กระนั้น.. ชายหนุ่มก็ไม่คิดจะปล่อยให้อ้อมกอดนี้ต้องว่างเปล่าอีกครา..
“อึก.. ทำไม..”
“..”
“ทำไม..ยังไม่ตายๆไปอีก..”
“..” ขงเชวี่ยลวี่กดจมูกคมลงบนบ่าเล็กอย่างรู้สึกผิด.. ดวงตาสีมรกตหลับลงพร้อมสะกดกลั้นนำตาและความเจ็บปวดเอาไว้..
“ช่วย.. ฮึก..ไสหัวไปตายซักที..”
การที่คนเช่นข้ามีชีวิตอยู่.. มันทำให้เจ้าทรมานขนาดนั้นเลยหรือ..?
มือคู่เล็กหยุดทุบตี.. มันวางไว้บนบ่าด้วยอาการสั่นเพราะเคืองโกรธ.. ได้แต่กัดฟันซุกหน้าอยู่บนอ้อมอกของคนที่ทั้งเกลียดทั้งรัก.. ดวงตาสีแดงฉานดั่งเปลวเพลิงสั่นระริก.. ขยุ้มเสื้อผ้าไหมอันมากราคาราวกับมันเป็นเพียงผ้าขี้ริ้วสกปรก
“ข้าเกลียดท่าน..”
“แต่ข้ารักเจ้า”
“โกหก!!!” เสียงแหบตวาดลั่น.. อ๋องเซ็นมองร่างกายเปลือยเปล่าที่มีผ้าพันแผลของตนแล้วจิตใจก็ได้แต่ชาวูบ..
ท่านทำเช่นนี้ทำไม.. ท่านทำให้ข้าตัดท่านไม่ขาดแล้วก็คิดจะทำลายข้าทีหลังหรืออย่างไร..
“อ๋องเซ็น..”
“ข้าไม่อยากเห็นหน้าท่าน..ไปซ้ะ..” กล่าวเช่นนั้นแต่ทว่าเรียวแขนเล็กกลับเลื่อนไปโอบรอบวงคอแกร่งแล้วฉุดรั้งเอาไว้..
มีคนกล่าวกันว่า.. ความรักชนะทุกอย่าง.. แม้กระทั่งความเคียดแค้นหรือความอาฆาต.. ความรักก็ชนะทั้งสิ้น
“ฮึก.. คนใจร้าย..อื๊ม!”
ขงเชวี่ยลวี่บดจูบลงไปปิดคำด่าที่จะตามออกมาอีกระลอก.. คนใต้ร่างส่งเสียงครางออกมาพร้อมทั้งขยับกายขัดขืน.. ถึงกระนั้นก็มิทำให้คนเหนือกว่าระแคะระคายนัก.. มือเร็วเลื่อนไปสัมผัสแผ่นหลังอันเปล่าเปลือยสลับกับมืออีกข้างที่กอบกุมเอาข้อมือของคนขัดขืนเอาไว้มั่น..
“อืม.. อ่า”
“ฮ.. ท.. ทำอะไร!?”
“ทำให้เจ้าเงียบ”
เพี๊ยะ!!!
“ท่านกำลังดูหมิ่นข้า!” ฝ่ามือสวยยกขึ้นฟาดลงบนเรียวแก้มสาก.. ก่อนที่คนตบจะเบิกตากว้างกับพฤติกรรมที่ตนเพิ่งทำไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบ..
“..” ขงเชวี่ยลวี่ยกมือขึ้นลูบพวงแก้มตนเอง..ใบหน้าคมสันหันควับกลับมาแล้วมองไปยังผู้เป็นลูกชายด้วยดวงตาสีเขียวเข้ม… เกิดความเงียบระหว่างทั้งคู่..ทำให้คุณชายอ๋องรู้สึกอึดอัดจนต้องก้มหน้าหลบสายตาคู่นั้น..
“ฮึก..” มันคือสิ่งที่มักเกิดขึ้นยามคุณชายอ๋องโดนพ่อดุ.. ไม่เชิงดุนักแต่คล้ายตำหนิทางสายตา.. และทุกครั้งอ๋องเซ็นก็จะยอมสยบลงทุกครั้ง.. มันมักจบลงด้วยน้ำตาของนกยูงขาวเสมอ..
“..” มือแกร่งยกขึ้นมารั้งท้ายทอยคนตัวเล็กกว่า.. ก่อนที่จะแตะริมฝีปากลงไปบนกลีบปากเล็กๆเบาๆ.. อ๋องเซ็นเบิกตากว้างแต่ก็มิได้ขัดขืนใดๆ.. ทำได้เพียงวางมือแตะลงบนแผงอกของผู้เป็นพ่อเท่านั้น..
“พักเถอะ.. สำรับอาหารวางอยู่บนโต๊ะ” ขงเชวี่ยลวี่ลุกขึ้น.. เลื่อนมือของตนขึ้นมาลูบปอยผมสีขาวนั่นเบาๆด้วยความใคร่รัก..
“แล้วท่านจะไปไหน..?” อ๋องเซ็นจับชายผ้าสีมรกตของคนตัวสูงกว่า.. ขงเชวี่ยลวี่หันมาสบตาจนทำให้มือเล็กๆนั่นต้องยอมปล่อยแต่โดยดี..
“ข้าจะไปดูอะไรด้านนอกหน่อย.. หากเจ้าอยากออกมา.. ข้าก็มิได้ว่าอะไร” อ๋องเซ็นทำได้เพียงก้มหน้าก้มตามองผ้าห่มที่คลุมช่วงล่างเอาไว้.. มือสวยขย่ำผ้าสีขาวด้วยความเจ็บใจ..
เจ็บใจ.. ใยข้าจึงให้อภัยท่านเพียงท่านสัมผัสหรือแตะเนื้อต้องกาย..
เจ็บนัก.. เหตุใดกัน.. ข้าจึงลืมเลือนความผิดของท่านไปเพียงท่านเอ่ยว่ารักข้าเช่นนั้น..
ไขว่คว้า..? ข้าหรือ..? ข้าน่ะหรือตะอ้อนวอน..? อ๋องเซ็นผู้นี้น่ะหรือ..?
หมับ!
มือคู่สวยยกขึ้นคว้าชายเสื้อสีน้ำทะเลนั่นไว้.. เจ้าของดวงตาทรงเสน่ห์วกหันกลับมาสนใจเด็กน้อยอีกครา.. ริมฝีปากแดงขบเม้มแน่น.. ดวงตาคมที่แสนสวยเต็มไปด้วยคราบน้ำตา.. หากกล่าวกันว่าแม้ผู้แข็งแกร่งยังต้องพ่ายแพ้แก่ตัณหา..อ๋องเซ็นคงเป็นหนึ่งในนั้น..
“ข้า.. อึก..! ข้าต้องการท่าน.. ” คนฟังยืนนิ่ง.. ทำหน้าสงสัยก่อนที่จะเอ่ยถาม
“ต้องการ.. หมายความว่าอย่างไร..?” แม้ในใจจะรู้ความหมาย.. แต่ครานี้คนเจ้่าเล่ห์กลับเสแสร้งทำเป็นไร้เดียงสา..
“ต้องการ.. ฮ.. ข้า..” พวงแก้มเล็กขึ้นสีแดง.. อ๋องเซ็นเงยหน้ามองบุรุษรูปงามด้วยดวงตาอ้อนวอนและโหยหา..
อ้อมกอด.. ความอบอุ่น.. ความรัก.. ต้องการมันจากท่านนัก..
“ต้องการสิ่งใด..บอกข้า..ลูกรัก” สรรพนามแทนกายขับให้ใจดวงน้อยชาวูบ.. แต่กระนั้นนกยูงขาวยังคงพยายามฉุดรั้งกายสูงกว่าด้วยการยกตัวขึ้นมาแล้วใช้แขนยื่นไปโอบรอบวงคอแกร่งนั่น
“ต้องการสัมผัสของท่านนัก..ท่านพ่อ..ฮึก..สัมผัสข้าเถิด.. ข้า.. อ.. ข้าคิดถึงท่าน.. ยิ่งกว่า.. ฮึก..สิ่งใด”
ยิ่งกว่าวรยุทธ.. หรือแม้กระทั่งศาสตราวุธอันแข็งแกร่ง.. ข้ารู้ใจตนนักว่าทำไปเพราะอยากให้ท่านนั้นยอมรับ..
“ต.. ตอนรู้ว่า.. ฮึก! ท่านสิ้นพระชนม์.. ข้าได้แต่ร้องไห้.. ฮ..กินมิได้นอนมิหลับ..ฮือ.. ฮึก..ภาวนา.. ภาวนายิ่งนักให้ท่านกลับมา”
“อย่าทิ้งข้าไป.. ฮึก.. อย่าไล่ข้า..อ..อย่าผลักไสข้า.. ฮือ.. ข้า.. “
“ข้าไม่อยากจากท่านไปไหน.. ฮึก..อีกแล้ว”
คราสิ้นคำ.. ร่างของคุณชายอ๋องก็ถูกกดลงกับแผ่นเตียงใหญ่.. ริมฝีปากถูกครอบครองอีกครั้งหนึ่งแต่ทว่าครั้งนี้ไร้ซึ่งการขัดขืนใดๆ.. ลิ้นร้อนสัมผัสกัน ตอบโต้อย่างยวนเย้าตราตรึงช่วงเวลาหอมหวานไว้เนิ่นนาน.. ยามใดมือเล็กเลื่อนผ่านอาภรณ์เครื่องหนักก็ปัดปายจนมันหลุดออกทีละชิ้น..แขนสองข้างค้องรอบวงคอของผู้เป็นพ่อแน่น..กดให้จูบหนักราวไม่ต้องการให้จากกันไปที่ใดอีก..
หากอยู่ด้วยกันตลอดไปได้ก็อยากทำนัก.. หากสัมผัสมากกว่านี้ได้ก็ต้องการนัก..
อ๋องหนุ่มเลื่อนมือสวยไปปลดปิ่นปักผมสีมรกตออกจากปอยผมสีเขียวอ่อน..ก่อนที่จะโยนมันทิ้งราวกับมันเป็นเพียงเครื่องประดับอันไร้ค่า.. ขงเชวี่ยลวี่ไม่ยอมผละริมฝีปากออก.. อ๋องเซ็นเองก็ไม่ยอมแพ้เช่นกัน.. แต่ทว่ายามที่ร่างบางเริ่มขาดอากาศ.. นกยูงหนุ่มก็ต้องยอมลดกายออกมาเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้
“แฮ่ก.. ฮึก..ไม่.. จูบต่อ” อ๋องหนุ่มฉุดรั้งกายสูงไว้.. ส่ายหน้าทั้งน้ำตายามรับรู้ว่าอีกฝ่ายจะขยับหนี..ออดอ้อนราวกับคนหื่นกระหายทำเอาขงเชวี่ยลวี่ต้องลอบยิ้มมุมปาก..
“ได้..” นกยูงสีมรกตเอ่ยพูดทำให้ริมฝีปากคลอเคลียกันเพียงชั่วครู่..
“อ้าขาสิ.. อ้ากว้างๆ” อ๋องเซ็นหน้าขึ้นสี.. แต่กระนั้นเรียวขาสวยก็แยกออกให้คนเป็นพ่อเคลื่อนกายเข้าแทรกได้.. ขงเชวี่ยลวี่ขยับช่วงล่างให้เนื้อผ้าเสียดสีกับเนื้อขาวๆ.. มือสองข้างเลื่อนไปกุมบั้นท้ายกลมแล้วยกขึ้นมานั่งลงบนตัก
“ท่านพ่อ.. ทำเร็ว.. สัมผัสข้า แฮ่ก.. สัมผัสข้านะ” ขงเชวี่ยลวี่กัดฟันแน่น.. กดจมลงไปกับซอกคออีกฝ่ายแล้วใช้ริมฝีปากขบเม้มจนเกิดรอยแดงขึ้นมา..
“ทำไมเป็นคนแบบนี้” เสียงเข้มกระซิบถาม.. แต่กระนั้นมือหนาก็ค่อยๆเลื่อนมารั้งใบหน้าสวยให้หันไปหาแล้วประกบริมฝีปากลงไปไม่ได้มั่นหมายให้ตอบคำถามนัก
“ข้าคงต้อง..สอนเจ้าใหม่เสียแล้ว”
..
เพียงแค่จะพลิกกายในหัวก็ปวดไปหมด.. ภาพสลับซับซ้อนจากบทรักรัญจวนขบให้นกยูงขาวตื่นขึ้นจากฝันหวาน.. ดวงตาสีแดงเข้มปราดมองไปยังแผงอกแกร่งเบื้องหน้า.. สบเข้ากับกล้ามเนื้อกำยำที่มีบาดแผลเป็นจุดๆตอกย้ำถึงการรบราอันได้มาซึ่งความสงบสุขแห่งกงเหมิน.. ความสง่างามของผู้เป็นบิดาแม้เนิ่นนานยังคงมิเปลี่ยนไป..
ช่างรูปงามนัก..
ภาพของอ๋องเซ็นในวัยเด็กตัวเล็กที่ถูกโอบอุ้มด้วยแขนเพียงข้างเดียวของชายตรงหน้าผุดขึ้น.. เราสองเดินไปในเมืองใหญ่ท่ามกลางสามัญชน.. เอ่ยชมนกชมไม้.. ชมการค้าขายด้วยเวลาอันแสนสั้น.. บัดนั้น.. บัดนั้นเราสองก็ได้สบตากัน.. ขบเม้มให้ความผิดบาปในใจก่อตัวเพิ่มมากขึ้นกว่าแต่ก่อน..
จะมองหน้าท่านแม่อย่างไรดี..? จะมองหน้าท่านพ่ออย่างไรดี..?
“คิดสิ่งใดอยู่กัน” สุรเสียงอ่อนโยนเอ่ยถาม.. อ๋องเซ็นเงยหน้ามองบิดาเหนือหัวด้วยดวงตากลมโต.. มือแกร่งเลื่อนมาสัมผัสปอยผมสีดอกเลาพลางหรี่ตาลงอย่างชั่งใจ
“กังวลหรือ..?”
“อือ”
“สิ่งใด..?”
“กลัวไม่พบท่าน.. ยามตื่นนอน”
“ปากเสียนัก” ขงเชวี่ยลวี่เอ่ยบอกก่อนที่จะเลื่อนมือไปเชยคางมนขึ้นมารับจูบอรุณสวัสดิ์เบาๆ..
“อื๊ม..” คนใต้ร่างครางเสียงหวาน.. แม้จะขัดใจแต่ก็ทำให้ขงเชวี่ยลวี่ยอมผละออกแต่โดยดี
“หงุดหงิดหรือ..?”
“อืม..” คำตอบนั่นขบให้พระบิดาอมยิ้ม.. เลื่อนกายเข้าใกล้พร้อมกับกดจมูกลงบนหน้าผากมนนั่นช้าๆ..
“อ๋องเซ็น..”
“หืม..?”
“ข้าอยากขอร้องเจ้านัก”
“สิ่งใดหรือ..?” คนถูกถามมีสีหน้าสงสัย.. ดวงตาเชยมอง แต่คนตัวสูงก็ทำเพียงเอาคางเกยหัวทุยไว้ด้วยความเอ็นดู..
“เรียกนามข้า.. ได้หรือไม่..?”
“นาม.. ท่าน…?”
“นามของข้า..” ริมฝีปากสวยเรียบยิ้ม.. ก่อนที่แขนเรียวจะยกขึ้นโอบรอบวงคอแกร่งพร้อมซุกหน้าลงกับแผงอกหนานั่น..
“ขงเชวี่ยลวี่..”
---------------------------------------------
ฟิคคู่นี้คือเมากาวแต่งล้วนๆค่ะ...55555 ชอบยังไงก็คอมเม้นท์บ้างนะ
อ๊ายยยย ชอบความผิดบาป55 บรรยายดีมากๆค่ะ
อินมากตอนนี้ อยากให้ไรท์แต่ง้ป็นเรื่องยาวท่าจะสนุก ชอบมากกกกก
Name : เหมันต์
Twitter : เหมันต์
บาปจังเลย จิ้นพ่อกับลูก แต่ชอบนะ *ช้านคนบาป2019
*-*
*-*