ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    「大天狗 の 花嫁」DAITENGU NO HANAYOME เจ้าสาวแห่งขุนเขา

    ลำดับตอนที่ #26 : การชี้ชะตา

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 53
      5
      15 ก.ย. 61


    กลางสนามรบที่ฝุ่นดินคละคลุ้งไปทั่วจนภาพทุกอย่างดูเลือนราง ร่างของคุโระเฮียวนั้นคำรามออกมาอย่างกึกก้องประดุจเสียงกัมปนาท ชายทั้งสองตะลึงงันกับพละกำลังดังกล่าว ที่มายมายจนถึงขนาดที่ทั้งสองยังไม่เคยพบเห็นมาก่อน ดวงตาแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำด้วยความโกรธเกรี้ยว เพียงแค่เสียงคำรามนั้นก็เป็นพลังผลักทั้งสองกระเด็นออกไป ในเสี้ยวพริบตาเดียวกันนั้นคุโระเฮียวเข้ามาประชิดตัวเซริวในขณะที่เขามิทันตั้งตัว กว่าดวงตาสีเงินจะมองเห็นปิศาจเบื้องหน้าได้ถนัด ก็ถูกอีกฝ่ายใช้ดาบเฉือนจนได้รับบาดเจ็บไปเสียแล้ว โชคดีว่ามังกรฟ้าพยายามเบี่ยงตัวหลบ จึงไม่ถูกที่สำคัญ และปิศาจที่บ้าคลั่งนั้นก็โจมตีไดเทนกุต่อในทันที ส่วนไดกิที่ยังไม่ทันหันมามองด้วยความเร็วนั้น ก็หันหวับไปตั้งรับแต่ก็ไม่ทันการณ์เมื่อใบดาบฟาดฟันถูกต้นแขนจนเลือดไหลเป็นทาง และรีบกลับไปตั้งหลักโดยเว้นรระยะห่างกับอีกฝ่ายไว้พอประมาณ เรื่องราวทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นเพียงสามวินาทีเท่านั้น

    "พวกเจ้ามันช้าลงจริงๆด้วย ฮ่า ฮ่า ฮ่า"คุโระเฮียวหัวเราะออกมาอย่างสะใจ เขาจับดาบไว้ให้ถนัดมือและฟาดฟันใบดาบกลางอากาศ ก่อนะจะปรากฏพลังสีดำมืดที่แสนน่าขยะแขยงออกมา ทั้งสองรีบหลบหลีกไปคนละทางและมองดูพลังของอีกฝ่ายอย่างประหลาดใจ

    "พลังนั่น..."เซริวกัดฟันกรอด

    "พลังของเทพีแห่งความตายอย่างไรล่ะ พลังของท่านอิซานามิ..."คุโระเฮียวแสยะยิ้มออกมา

    "พลังที่น่าขยะแขยงเช่นนั้น เหมือนพวกอมนุษย์ไม่มีผิด ข้าล่ะนึกไม่ถึงว่าเจ้าจะยอมทำได้ถึงเพียงนี้"มังกรฟ้ามองดูอีกฝ่ายด้วยสายตาที่รังเกียจ

    "ฮ่า ฮ่า แต่ถ้าพลังนี้มันทำให้ข้าล้มล้างเทพทั้งหลายได้ ข้าก็ยอม!! พอกันที ข้าจะไม่ยอมเป็นเบี้ยล่างของเหล่าเทพอีกแล้ว!!! ข้าไม่ใช่ทาส ที่ต้องคอยมารับฟังคำสั่งของเจ้า!!!"เซริวตั้งดาบรับการโจมตีของคุโระเฮียวได้ทันท่วงที

    "ไอ้บ้าเอ๊ย!!!"เทพประจำทิศ กัดฟันกรอด เขาไม่มีโอกาสโจมตีอีกฝ่ายกลับบ้างเลย ส่วนไดกิก็ใช้พลังลมวายุ ที่คมกริบที่ตัดเฉือนของได้ทุกสิ่งใส่คุโระเฮียว น่าแปลกที่เขาสามารถหยุดมันได้มือเปล่า จนไดเทนกุชะงักไป

    "ไอ้ปิศาจเทนกุอย่างแก....ช่างน่าผิดหวังนัก ที่ไปเข้าร่วมกับเหล่าเทพ เจ้ามันน่าจะเข้าใจในสิ่งที่พวกข้าต้องพบเจอแท้ กลับไปช่วยมัน.... ครั้งนี้ข้าจะฆ่าพวกเจ้าทั้งหมดเอง!!!"คลื่นพลังสีดำทะลักออกมาจากร่างของเขา คุโระเฮียวยอมทำได้ทุกอย่างเพื่อจะได้พลังมาครอบครอง ทั้งฆ่าปิศาจด้วยกันเองหรือมนุษย์เขายอมทำได้อย่างไม่ลังเล แต่เมื่อทำลายชีวิตไปจำนวนมากแล้วปิศาจอย่างเขาจะไม่สามารถควบคุมตนเองได้อีกต่อไป ก่อนจะมองคนทั้งสองที่ไม่อาจทำอันตรายเขาได้แม้แต่น้อยอย่างมีชัย และหันไปกล่าวกับไดเทนกุ เขารู้ดีว่าอีกฝ่ายไม่เหลือกำลังใจที่จะสู้ต่อแล้วดั่งแผนของเขา พยัคฆ์ดำแสยะยิ้มออกมาและใช้พลังกระแทกเซริวจนล้มกลิ้งไปไกล

    เป็นเช่นไรล่ะไดกิ ข้ารู้จุดอ่อนของเจ้าแล้ว คือมนุษย์นั่นใช่ไหม พวกเจ้าช่างรักกันเสียจริง ข้าล่ะยังนึกถึงตอนที่นางแทบจะเอาตัวเข้าแลกกับชีวิตของเจ้า!!!”เสียงนั้นหัวเราะเยาะไดกิอย่างบ้าคลั่ง

    พอได้แล้ว!!”ไดกิรีบทะยานขึ้นไปกลางเวหาในทันทีเพื่อจะโจมตีเขาอีกรอบ

    แต่เมื่อวานก่อนเจ้ากลับเลือกการาสุเทนกุเอง ช่างน่าสงสารนางเสียยิ่งกระไรร่างนั้นตั้งรับคมดาบของไดกิได้อย่างสบาย แม้ชายหนุ่มจะใช้พลังของไดเทนกุแล้วก็ตามที

    ข้ามิได้เลือกเพราะรักนางน้อยกว่าหรือสำคัญน้อยกว่าการาสุเทนกุ แต่ข้าเชื่อมั่นว่าการาสุเทนกุจะดูแลนางอย่างดีแทนข้าตอนที่ข้าไม่อยู่!!!!”ใบดาบฟาดฟันลงมาอย่างรวดเร็ว ก่อนไดกิจะหมุนตัวหลบการแทงของอีกฝ่าย และหันกลับมาฟาดฟันด้วยแรงทั้งหมดเท่าที่มี ใบดาบทั้งสองกระทบกันอย่างแรง เท่าที่ทั้งสองจะเรียกพลังออกมาได้จนเกิดประกายไฟ ทั้งสองใช้พลังดึงดันกันไปมาอยู่สักพัก

    แกร๊งง!!”ใบดาบที่คมกริบของไดกิเป็นฝ่ายหัก ก่อนทันใดนั้นเขาจะเอี้ยวตัวหลบการโจมตีนั้น แต่ยังถูกดาบเฉือนเข้าที่ข้างลำตัว และรีบถอยไปตั้งหลักใหม่

    ดาบของเจ้าหักเสียแล้วสิ…”คุโระเฮียวกล่าวขึ้นและแสยะยิ้มออกมา ก่อนคราวนี้เซริวจะรีบเข้าโจมตีเขาในทันที ใบดาบประทบกันจนเกิดประกายไฟอยู่หลายครั้งเพลงดาบของทั้งสองสูสีกันอย่างยากจะตัดสินว่าใครเหนือกว่าใคร แต่ยังไม่มีใครยอมเป็นฝ่ายถอย จนใช้พลังทั้งสองผลักดันกัน พลังที่ยิ่งใหญ่ยิ่งทำให้รอบด้านปกคลุมไปด้วยฝุ่นผงจนมองอะไรไม่ชัด

    ข้ามีพลังอำนาจมากกว่าเจ้าอีก มังกรฟ้า ข้าบำเพ็ญเพียรมานานก่อนที่พวกเทพรองๆและไม่มีความสำคัญอย่างเจ้าจะเกิดมาอีกเขาตวัดดาบหนึ่งที เซริวก็ถึงกับเสียการทรงตัวและคุกเข่าลงพร้อมตั้งรับดาบนั้นไว้

    อย่ามาปากดี แกไม่ได้เกิดมาเป็นเทพยังไงก็สู้ข้าไม่ได้!!!”เจ้าของดวงตาสีเงินรีบพุ่งเข้าใส่ร่างเบื้องหน้าในทันที ส่วนไดกิที่ลุกขึ้นมาอีกครั้งอย่างโซซัดโซเซและรีบตามเข้าไปช่วยเซริวในทันที เขาหยิบๆพัดขนนกขึ้นมาและสะบัดข้อมือก่อนสายลมที่คมประดุจมีดดาบฟาดฟันใส่ อสูรฝั่งตรงข้าม ร่างนั้นกระแทกเซริวออกไปก่อนจะกระโดดหลบอย่างคล่องแคล่ว และตรงเข้ามาทำร้ายชายหนุ่มในทันที ไดกิเรียกสายลมขนาดใหญ่ต้านคุโระเฮียวไว้ และหลบหลีกอีกฝ่ายอย่างรวดเร็วจนไม่ได้รับอันตรายจากการโจมตีของอีกฝ่ายหนึ่ง จนคุโระเฮียวเริ่มไม่สบอารมณ์นัก

    ยังไงแกก็ไม่เหลืออาวุธแล้ว จะหลบได้อีกสักกี่น้ำกันเชียว

    เจ้าช้าเอง คุโระเฮียว ข้ายังเหลือพลังหลบการโจมตีของเจ้าได้อีกนาน ไหนที่ว่าเร็วเมื่อสักครู่...ตอนนี้เหนื่อยแล้วรึ”ไดกิแสยะยิ้มออกมา

    อย่าเก่งแต่พูด!!”คุโระเฮียวคำรามออกมา ทำให้ไดกิถูกพลังนั้นกระแทกเข้าอย่างจัง จนเสียการทรงตัวและเซถลาไปก่อนใบดาบอันคมกริบจะตวัดมาถูกปีกของเขาจนเกือบขาด ปีกสีดำใหญ่ข้างหนึ่งของเขารุ่งริ่งอย่างน่าหวาดกลัว โลหิตสีแดงไหลทะลักออกมาอย่างมาก

    ข้าจะเด็ดปีกเจ้าเสีย ไอ้ปีศาจเทนกุไดกิที่กัดฟันตัวเองด้วยความเจ็บปวด นั้นก็พยายามจะลุกขึ้น พอดีกับเทพมังกรฟ้าที่พุ่งเข้ามาทำร้ายเข้าจากด้านหลังพอดี

    ไดกิ!! ปีกของเจ้า!!”มังกรฟ้าดูจะตกใจกับปีกของเขาเป็นอย่างมาก

    ข้าไม่เป็นไรไดกิกัดฟันพูดออกมา ปีกที่น่าภาคภูมิใจของเขายับเยินไม่มีชิ้นดี ชายหนุ่มรุ้สึกเจ็บใจนัก เขาเองก็ต้องทำให้อีกฝ่ายหลั่งเลือดออกมาให้ได้เช่นกัน

    เจ้าจะบินไม่ได้อีกต่อไป ไอ้ปิศาจเทนกุคุโระเฮียวหัวเราะออกมาอย่างสะใจ ทาโร่กับ คาบูโตะที่คอยติดตามมาก็เพิ่งจะหันมาเห็นสภาพของไดกิ ก็ถึงกับตกใจ ก่อนตนเองต้องไปหันไปสู้กับเหล่าอสูรตัวอื่นๆ

    ท่านไดกิขอรับ!!!”ทาโร่กล่าวขึ้น แม้ตัวเองจะไม่หันมา

    ที่เอวของข้า ยังมีดาบอยู่เล่มหนึ่ง ท่านไดกิกรุณาใช้ดาบเล่มนี้เถิดขอรับทาโร่กล่าวขึ้นและตัวเองจึงหันไปใช้กระบองสู้กับปิศาจแทน ชายหนุ่มดึงดาบออกมาจากฝักนั้นทันที

    ดาบห่วยๆ เช่นนั้นทำร้ายข้าไม่ได้หรอกคุโระเฮียวกล่าว ก่อนจะหันไปสู้กับเซริวในร่างมังกรฟ้า มังกรที่ดูน่าเกรงขามตนนั้นเรียกเรียกสายฟ้าลงมาฟาดฟันอีกฝ่ายหนึ่ง แต่ก็ทำอันตรายคนตรงหน้าไม่ได้ ก่อนจะพุ่งเข้าทำร้ายคุโระเฮียวตรงๆ มือกำยำของพยัคฒ์ทมิฬเอี้ยวตัวหลบและเอื้อมมืจับที่เขาของมังกรก่อนจะพยายามหักเขาอีกฝ่ายหนึ่ง เซริวพยายามสะบัดตัวให้หลุดจากการกระทำอีกฝ่ายและชนคุโระเฮียวเข้าอย่างจังจนล้มลง มังกรฟ้าบินผ่านไปและตรงเข้ามาทำร้ายร่างที่ยังไม่ได้เตรียมตัวให้ดีนัก คราวนี้ดวงตาแดงก่ำจ้องเขม็งที่เซริว เมื่ออีกฝ่ายทะยานเข้ามา คุโระเฮียวจับเข้าที่ลำตัวของอีกฝ่ายและใช้แรงทั้งหมดที่มีทุ่มมังกรฟ้าลงกับพื้นทั้งสองต่อสู้กันไปมาจนดูวุ่นวายไปหมด เมื่อเซริวพบโอกาสก็ตรงมารัดคุโระเฮียวอย่างแน่นหนาจนผู้ที่มีดวงตาแดงก่ำไม่อาจขยับตัวไปไหนมาไหนได้ ชายผู้มีเรือนผมยาวสีดำเค้นพลังออกมาให้มากขึ้นกว่าเดิม ถึงขนาดมังกรฟ้ายังต้องตกใจที่ตนเองต้องคลายตัวออกจากพลังนั้น ไม่มีใครรู้ว่าคุโระเฮียวจะมีพลังอำนาจมากเพียงใด ก่อนจะรีบพ่นไฟสีฟ้าออกมาแผดเผาร่างนั้นในทันทีที่ยังพอมีโอกาส

    อ็ากกกก!!!”เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังขึ้น ก่อนพลังมหาศาลจะกระแทกใส่เซริวจนกระเด็นไปไกล เขาล้มกลิ้งอยู่หลายตลบและแน่นิ่งไปในที่สุด ส่วนคุโระเฮียวในร่างที่ถูกไฟแผดเผานั้น ก็เริ่มมีบาดแผลพุพองน่าสยดสยองไปทั่วร่าง 

    พวกเจ้ารีบพาเซริวไปรักษา!!!”ไดกิตะโกนให้เหล่าพลรบมาประคองร่างนั้นในทันใด

    เราต้องถอยทัพขอรับ ท่านแม่ทัพไม่สามารถต่อสู้หรือออกคำสั่งได้แล้วขอรับพลรบกล่าวขึ้นเมื่อเห็นว่ายังไม่มีใครสั่งถอยทัพอย่างที่ควรจะเป็น แต่ถูกอีกฝ่ายพูดขัดขึ้นเสียก่อน

    ไม่!! ข้าไม่ถอย ศึกนี้ต้องเป็นศึกสุดท้ายเท่านั้น!! เจ้าพาเซริวไป ข้าจะสวมเกราะของเขาเองไดกิรีบสลับหมวกเกราะของเขากับเซริวในทันที ส่วนขุนพลเพียงพยักหน้ารับคำสั่งและรีบพาเซริวไปทันที เหลือเพียงเขากับคุโระเฮียวที่กำลังร้องครวญครางออกด้วยความเจ็บปวดเท่านั้น 

    ...ท่านอิซานามิจงมอบพลังให้ข้ามากกว่านี้ด้วยขอรับ เพื่อชนะศึกครั้งนี้ ขอให้ความตายปฏิเสธข้าด้วยขอรับ!!!”เขาตะโกนออกมา ก่อนจะใช้พลังเฮือกสุดท้ายนั้นดับไฟสีน้ำเงินลง และร่างกายที่มีแผลพุพองได้เริ่มหายสนิทอย่างน่าประหลาด ไดกิถึงกับชะงักไปกับภาพเบื้องหน้า ก่อนจะรีบแทงอีกฝ่ายเข้ากลางอกในทันทีภายในพริบตาเดียว เขาแทงดาบนั้นจนมิดด้าม แต่อีกฝ่ายกลับหัวเราะเยาะออกมาอย่างไม่สะทกสะท้าน

    ข้าไม่มีวันตายเจ้าเทนกุโง่มือนั้นรั้งมือของไดกิไว้ไม้ให้ดึงดาบออกจากตัวเขา ก่อนพลังงานสีดำจะโพยพุ่งออกมาจากบาดแผล พลังที่น่าสะอิดสะเอียนที่มากยิ่งกว่าแต่ก่อน จนต้องรีบชักมือออกในทันที และดาบนั้นก็ถูกดูดหายไปในร่างของคุโระเฮียว ก่อนร่างนั้นแปรสภาพไปดูบิดเบี้ยวและน่ากลัวพร้อมกับกลิ่นเน่าเหม็นคละคลุ้งไปทั่ว

    นี่คือ!!”เทนกุตกตะลึงอย่างมากกับภาพเบื้องหน้า

    พลังของอิซานามิ ที่ข้าจะเก็บเอาไว้ใช้เมื่อจำเป็นคุโระเฮียวคำรามออกมาอีกครั้งหนึ่ง จนไดกิที่ใช้พลังกันไว้ก็ถึงกับถอยหลังไปสองสามก้าว เขายกแขนขึ้นมาป้องใบหน้าของตนจากพลังนั้น ก่อนบางสิ่งจะตกลงมาอยู่ที่พื้น ก่อนจะเห็นว่าเป็นปิ่นปักผมของมายุที่เขาได้มอบไว้ให้ เขาพยายามเอื้อมมือลงไปเก็บอย่างทุลักทุเล เขาเก็บขึ้นมาถือไว้ในมือ และกำชับไว้แน่น 

    ข้าจะต้องกลับไปหานางให้ได้ นี่จะต้องเป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของข้ากับเจ้า!!! เรื่องทุกอย่างมันต้องจบลงในวันนี้ ข้าจะไม่ยอมเสียเวลาต่อไปอีกแล้ว!!!

    ฉับพลันไดกิรีบเข้าประชิดอีกฝ่ายในพริบตา ดูเหมือนเมื่อคุโระเฮียวใช้พลังของอิซานามิมากเท่าใด ร่างนั้นจะเชื่องช้าลงมากเท่านั้น ก่อนไดกิจะดึงปลอกปิ่นปักผมออก แสงอาทิตย์กระทบกับด้ามเงินปลายแหลมที่ซ่อนอยู่ภายในกระทบกับแสงอาทิตย์  ก่อนจะแทงลงไปที่ลำคอของอีกฝ่ายอย่างสุดแรง และรีบดึงออกมาในทันที พร้อมกับหลบใบดาบที่ฟาดฟันลงมา ทันใดนั้นร่างคุโระเฮียวถึงกับทรุดลงไปนั่งด้วยความเจ็บปวด ในเมื่ออีกฝ่ายมีพลังมากจนเขาทำอันตรายไม่ได้แม้แต่น้อยก็ต้องลดพลังอีกฝ่ายลงด้วยวิธีเช่นนี้ ไดกินึกขอบคุณหญิงสาวที่มอบปิ่นปักผมให้เขาเอาไว้

    พลังของข้า….”เสียงนั้นคำรามออกมา และมองอาวุธในมืออีกฝ่าย ที่เรียวเล็กแต่กลับทำพิษให้เขาได้มากมายถึงเพียงนี้ 

    เงินงั้นรึ?”คุโระเฮียวค่อยๆลุกขึ้นอย่างช้าๆ ไดกิตรงไปต่อยอีกฝ่ายอย่างจัง และจับคุโระเฮียวทุ่มลงกับพื้นด้วยเทนกุซุโมะ เขามองร่างที่บิดเบี้ยวและผิดแผกไปจากเดิมจนน่ากลัว  ก่อนจะถูก ไดกิล้วงมือเข้าไปในแผล และดึงดาบออกมาในทันที เลือดสีดำพุ่งออกมาและกระเซ็นไปทั่วบริเวณดูน่าสยดสยอง

    เจ้าทำอะไรกับตนเอง? คุโระเฮียวเขาถามขึ้น และสงสัยในสภาพของอีกฝ่ายยิ่งนักที่มีรูปร่างที่บิดเบี้ยวและเน่าเหม็นเช่นนั้น

    ข้าแค่เก็บพลังที่ท่านอิซานามิให้ มาใช้ในยามจำเป็นเท่านั้น แต่ไม่นึกว่าเพราะพลังนั้นจะทำให้ข้าพ่ายแพ้

    มันก็แน่อยู่แล้วไม่ใช่รึ นางเป็นเทพีแห่งความตาย มีเพียงความตายเท่านั้นที่เจ้าจะได้รับจากนางอีกฝ่ายหัวเราะออกมาอย่างสิ้นหวังในชะตากรรมของตนเมื่อได้ฟัง

    เจ้าคงพูดถูก ข้าพยายามจะหาวิธีให้นางกลับมา แต่คงไม่มีหวังแล้ว มันคงถึงเวลาจะได้กลับไปรับใช้นางในดินแดนแห่งความตาย…”ร่างนั้นยันตัวลุกขึ้น ก่อนจะกำชับดาบไว้แน่น ก่อนจะกล่าวต่อ

    แต่เจ้าเองก็ต้องตายตามข้าไปด้วย ไดกิ!!!”ร่างนั้นฟาดฟันดาบลงมา คราวนี้ไดกิตั้งรับอีกฝ่ายได้อย่างสบายเพราะกำลังที่หดหายลงไปอย่างรวดเร็วจากแผลที่ถูกปิ่นปักผมแทง รวมถึงพลังที่อิซานามิให้เขานั้นยิ่งทำให้ร่างนั้นอ่อนแรงลง และกำลังกลายสภาพอย่างเห็นได้ชัด คุโระเฮียวที่รู้ตัวว่าเขาจะอยู่ได้อีกไม่นานจึงสู้อีกฝ่ายสุดชีวิต เขาใช้เพลงดาบทั้งหมดเท่าที่มีต่อสู้กับอีกฝ่ายหนึ่ง ส่วนไดกินั้นเองได้ใช้ดาบตั้งรับอย่างแม่นยำ ไดเทนกุเองก็บาดเจ็บเสียจนขยับได้ไม่คล่องตัวนักจึงทำได้เพียงยื้อเวลาอีกฝ่ายไว้ จนกระทั่งอสูรเสือดำลงทรุดลงไปนั่ง อย่างหมดแรง ก่อนดาบแหลมคมบั่นคออีกฝ่ายจนขาดสะบั้นในทันที ไดกิสูดหายใจเข้าออกลึก ด้วยความเหนื่อย ทุกสิ่งทุกอย่างมันจบลงแล้วในที่สุด ชัยชนะก็ได้มาเป็นของเขาแล้ว ไดกิก้มลงหยิบศีรษะของอีกฝ่าย และชูขึ้นก่อนจะประกาศก้อง

    คุโระเฮียวตายลงแล้ว เหล่าเทพได้รับชัยชนะ สงครามได้จบลงอย่างสมบูรณ์แล้วพวกเจ้าจงยอมแพ้แก่พวกเราเสีย ไม่เช่นนั้นพวกเจ้าจะไม่ได้รับการไว้ชีวิต!!!เสียงโฮ่ร้องดังก้องไปทั่วสนามรบ ส่วนพวกปิศาจฝั่งตรงข้ามก็ได้แต่ทิ้งอาวุธไว้และหนีไปคนละทิศคนละทาง รวมถึงอากะโอนิที่เมื่อทราบข่าวก็หันหลังและเดินจากไปในทันที ไม่นานนักร่างหนึ่งที่สวมชุดเกราะ ควบม้าที่งามสง่าเข้ามาและหยุดอยู่เบื้องหน้าเขาที่กลางสนามรบ อาโอยูกิปรากฏตัวขึ้นและมองอีกฝ่ายด้วยความมหัศจรรย์ใจ ที่สามารถชนะคุโระเฮียวได้ เธอก้าวลงจากหลังม้า และมาหยุดอยู่เบื้องหน้าเขา ตอนนี้หน้าที่ทุกอย่างจบลงแล้ว เหลือเพียงเรื่องส่วนตัวที่ต้องสะสางกันเสียหน่อย

    ไดกิ ข้าของประลองกับเจ้าได้หรือไม่ ตรงนี้ ตอนนี้อาโอะยูกิกล่าวขึ้นกลางสนามรบ

    ท่านอาโอะยูกิขอรับ แต่ท่านไดกิยังได้รับบาดเจ็บอยู่!!”ทาโร่รีบกล่าวขึ้นและเดินมาขวางเธอเอาไว้

    ข้าอยากประลองกับเจ้า มานานแล้ว...”อาโอยูกิกล่าวขึ้นด้วยความแน่วแน่

    เหตุใดจึงอยากประลองกับข้ากัน?”ไดกิมองอีกฝ่ายอย่างเย้ยหยัน แม้ว่าสภาพเขาในตอนนี้ก็ยังเอาชนะเธอได้แน่นอน

    “ข้าอยากพามายุกลับไปที่โลกมนุษย์ด้วยกัน ที่นั่นเหมาะกับมนุษย์อย่างพวกเรามากกว่า ที่เธอต้องมาอยู่กับเจ้าในป่าในเขาเช่นนี้ ข้าช่วยนางให้กลับไปมีชีวิตที่สงบสุขได้อย่างแน่นอน  นางจะได้ใช้ชีวิตในแบบที่ควรจะเป็นเสียที”

    เจ้านี่มันไม่ดูตัวเองเลย มนุษย์เช่นเจ้าจะปกป้องนางได้รึ?”เขากล่าวขึ้นอย่างยโสโอหัง

    ข้าล่ะอยากจะตัดปีกของเจ้าเสียจริง หากเจ้าไม่มีปีกแล้ว เจ้าก็ไม่ต่างอะไรจากมนุษย์หรอก ถึงตอนนั้นเจ้าจะไปอาศัยอยู่กับนางที่โลกมนุษย์ก็ไม่มีใครดูออกหรอก”อาโอะยูกิกล่าวออกมาด้วยความยียวน

    เจ้านี่นะจะตัดปีกของข้า ช่างตลกยิ่งนักอาโอะยูกิ ข้าเป็นถึงไดเทนกุ ข้าจะไม่แพ้เจ้าเด็ดขาด!!”ชายหนุ่มในชุดเกราะสีแดงตั้งรับดาบขึ้นมา ส่วนผู้ที่สวมชุดเกราะสีฟ้าเองก็ถือทวนน้ำแข็งขนาดใหญ่ และเตรียมตัวเข้าต่อสู้

    พวกท่านพอก่อนเถิดขอรับทาโร่กับคาบูโตะขอร้องทั้งสองแต่ก็ดูเหมือนไม่มีใครฟังใครแล้ว

    ก่อนทั้งสองจะพุ่งเข้าไปฟาดฟันกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ทว่าดวงตาของทั้งสองกลับมีแต่ความตื่นเต้นและสนุกสนาน ทวนน้ำแข็งฟาดฟันลงที่พื้น จนเกิดแผ่นน้ำแข็งที่ขยายตัวไปเรื่อยๆ พอดีกับชายหนุ่มที่ใช้ดาบขัดทวนเอาไว้ที่พื้น ก่อนจะโดดเตะอีกฝ่ายหนึ่ง จนยูกิอนนะกระเด็นไป แต่ก็รีบพุ่งเข้ามาใหม่ด้วยมือเปล่าอย่างรวดเร็ว ฉับพลันที่ไดกิฟาดฟันลงมือเรียวก็คว้าข้อมือของเขาก่อนจะบิดจนไดกิต้องทิ้งดาบ ก่อนจะจับเขาทุ่มลงกับพื้น แต่ชายหนุ่ม รีบแก้ทางอีกฝ่ายได้ทัน ก่อนทั้งสองจะยืนประจัญหน้ากันอีกครั้ง และยูกิเรียกแท่งน้ำแข็งพุ่งหาอีกฝ่าย แต่ถูกคมดาบวายุของอีกฝ่ายทำลายจนสิ้น ก่อนทั้งสองจะจ้องเขม็งอีกฝ่ายอย่างไม่ละสายตา พร้อมกับเหลือบมองอาวุธของตน และรีบคว้าอาวุธมาเสีย ขณะนั้นเองทั้งสองก็ใช้เรียกพลังอำนาจของแต่ละคน มาปะทะกันเพื่อให้ตนเองไปถึงอาวุธประจำกายก่อน และนำมาต่อสู้กันต่ออย่างเอาเป็นเอาตาย

    จนเมื่อเวลาพลบค่ำทั้งสองก็ยังคงสู้กันอย่างดุเดือดอยู่ ที่แห่งเดิมไม่มีใครยอมพลาดท่าให้ใครสักคน จนไดกิถึงกับปาดเหงื่อ และแสยะยิ้มออกมา

    เจ้ามันเก่งเกินมนุษย์เสียจริง

    ขอบคุณที่ชมข้าเธอใช้ทวนน้ำแข็งฟันจากทางด้านข้าง แต่เขาก็หลบทัน ก่อนเธอเองก็ยังมีเหงื่อหยดลงมาเช่นกัน

    เจ้ามิใช่มนุษย์ธรรมดา อาโอะยูกิ ความสามารถของเจ้ามันเหนือกว่ายูกิอนนะทั่วไปเสียอีก เหลือเพียงเจ้าจะยอมรับไหมว่าเจ้าไม่ใช่มนุษย์ก็เท่านั้น

    ไม่ต้องมาทำให้ข้าสับสน!! ข้าจะเป็นมนุษย์เท่านั้น ข้าไม่อยากเป็นยูกิอนนะ!!!เธอรีบทะลวงอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว

    แต่ข้าคิดว่าเจ้าเหมาะสมกับการเป็นผู้นำของยูกิอนนะ มากกว่ายูกิอนนะตนอื่นๆที่ข้าเคยเห็นร่างนั้นยืนบนทวนของอีกฝ่ายอย่างหน้าตาเฉย ด้วยปีกข้างหนึ่งที่ช่วยเขาพะยุงตัวไว้ ก่อนจะรีบถอยกลับไปตั้งหลัก

    “เจ้าคิดเช่นนั้นรึ? ข้ามีชีวิตมนุษย์ที่ปกติมาตลอดจนกระทั่งถูกคิโยะฮิเมะทำร้าย ยังไงก็ต้องขอบคุณเครื่องรางนั้นมากที่ทำให้ข้ารอดมาได้อย่างหวุดหวิด แต่นั่นเองทำให้ข้ารู้ถึงต้นกำเนิดแท้จริงของตน ข้าจึงเกลียดเจ้าอยู่เช่นกันที่ท่านทำให้ชีวิตข้าต้องวุ่นวายขนาดนี้ ท่านทำให้มายุและข้าต้องมาพบเจอเรื่องประหลาดมากมาย แม้เจ้าจะช่วยชีวิตนางไว้ แต่เจ้าต้องปล่อยนางไปได้แล้วล่ะ คืนนางมาให้ข้าเสียดีๆ

    “ข้าไม่คืน ข้ารักนาง”ไดกิตอบออกมาสั้นๆ

    “ความรักของมนุษย์กับปิศาจรึ? อย่างกับหนังแฟนตาซีเลยแฮะ แต่ความรักของพวกเจ้ามันจะยั่งยืนรึ ปิศาจอย่างเจ้า...ข้าไม่อยากเชื่อใจ”ฉับพลันพื้นทั้งหมดได้กลายเป็นน้ำแข็ง ก่อนหนามแหลมคนจะแทงขึ้นมา แต่ก็ไม่ถูกอีกฝ่ายหนึ่งที่บินขึ้นไปอยู่บนอากาศ โดยความทุลักทุเล

    นางอยากจะอยู่กับข้า หากเจ้าพานางกลับ เจ้าจะเป็นคนทำให้นางเจ็บปวดเสียเปล่า!!”

    อะไรของเจ้า!!! ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะรักนางจริง ปิศาจอย่างเจ้ามีอายุยืนนักไม่ใช่รึ มนุษย์อย่างนางไม่กี่ปีก็แก่ลง ความสวยที่มีย่อมหมดไป แล้วถึงตอนนั้นเจ้าจะยังอยากอยู่กับนางรึ? หรือเจ้าจะชายตามองหญิงอื่นที่สวยกว่าสาวกว่าให้นางช้ำใจเล่นกันล่ะ เจ้าคิดถึงเวลานั้นบ้างหรือไม่ และไม่คิดบ้างหรือว่าเจ้ากับนางต่างกันถึงเพียงนี้ เจ้าเข้าใจความรู้สึกนางดีแล้วหรือ?อาโอะยูกิกระโดดฟันอีกฝ่าย แต่เขาจับเธอเหวี่ยงลงกับพื้นเสียก่อนจนน้ำแข็งเบื้องล่างแตกละเอียด อาโอะยูกิเพียงค่อยลุกขึ้นมาช้าๆเท่านั้น

    เจ้าบังอาจมายุ่งเรื่องระหว่างข้ากับนาง ข้าจะไม่ออมมือให้เจ้าแล้ว!!”เขาตะโกนออกมาด้วยความโกรธ

    หรือที่ข้ากล่าวนั้นมันไม่จริง ท่านเคยนึกถึงเคยเข้าใจมนุษย์บ้างหรือไม่? ท่านคิดว่านางจะไม่กังวลเรื่องนี้เลยรึ? เจ้าเข้าใจหัวใจของนางบ้างหรือไม่?”อาโอะยูกิโต้เถียงอีกฝ่ายไม่เลิก ก่อนชั่วแวบหนึ่งที่ปลายดาบจะมาจ่อที่คอของเธอ

    หยุดพูดเสีย!!”

    ท่านไดกิขอรับ พอเถอะขอรับทาโร่รีบกล่าวขึ้นและเดินเข้ามาใกล้ทั้งสองอย่างกระวนกระวาย

    สิ่งที่ข้าพูดนั้นคือความเป็นจริง ตอนนี้ดูเหมือนท่านจะชนะข้า ก็เอาสิ ตัดคอข้าเลย และไปบอกนางด้วยว่าท่านฆ่าข้า ดูสิว่านางจะอยู่กับปิศาจเช่นท่านได้หรือไม่ หากนางรักท่านจริงนางคงอยู่กับท่านต่อโดยไม่ลังเลและไม่สนว่าข้าจะตายหรือไม่ ท่านกล้าไหมล่ะ…”ยูกิอนนะกล่าวออกมาด้วยความท้าทาย

    แล้วเหตุใดข้าจะต้องฆ่าเจ้า? ข้าจะฆ่าเจ้าให้นางเกลียดข้าทำไม? เจ้ามีความสำคัญอะไร ตอนนี้เจ้าแพ้แล้ว ก็กลับไปเสียไดกิเก็บดาบลงฝัก ก่อนจะเดินจากไป

    หรือเจ้าไม่พอใจ ก็ตัดปีกข้าทิ้งเสีย คำพูดของเจ้าก็คงไม่ต่างจากของข้านักหรอกไดกิกล่าวและยืนอยู่เช่นนั้น

    ตัดปีกข้าออกเสียดั่งที่เจ้าอยากทำ ทำให้ข้าเหมือนมนุษย์อย่างพวกเจ้าสิ จะโลกมนุษย์หรือที่ไหนข้าก็จะอยู่กับนางเสมอ”เขากล่าวออกมาอย่างไร้ความหวาดกลัวใดๆ

    ท่านไดกิขอรับ อย่าเลยขอรับ!!”ทั้งสองที่คอยดูการประลองรีบกล่าวขึ้น แต่เขายังไม่สนใจคำเตือนนั้น ทาโร่รู้แน่ชัดว่าผู้หญิงเบื้องหน้าของเขาใจกล้าถึงเพียงใด

    "เจ้าก็พูดได้นี่ แต่ทำได้จริงหรือเปล่านี่ข้าไม่รู้หรอกนะ"อาโอะยูกิแสยะยิ้มออกมาก่อนจะกล่าวต่อ

    “เจ้าท้าทายข้าเองนะ ไดกิไม่ต้องห่วงข้าจะทำให้เจ้าเหมือนกับมนุษย์ให้มากที่สุดยูกิยกทวนขึ้นมามองปีกสีดำของอีกฝ่ายอย่างไม่วางตา

     

    หลายวันผ่านไปหญิงสาวนั่งรออยู่ที่ริมระเบียงห้องนอนของเธอ รอชายหนุ่มกลับมาอย่างใจจดใจจ่อดั่งเช่นทุกวันที่ผ่านมา จนกระทั่งตะวันค่อยๆเคลื่อนจากทางทิศตะวันออกไปทางทิศตะวันตก มายุค่อยๆยืนขึ้นช้าๆ เพราะเธอคงจะใช้เวลาเสียเปล่ามากเกินไปแล้ว และค่อยๆเดินไปตามทางเดินเรื่อยๆ ก่อนจะนั่งลงที่เบื้องหลังของอากาเนะเท่านั้น ที่กำลังง่วงกับการสอนเด็กๆทั้งสามของเธอให้บิน เด็กน้อยทั้งสามนั้นยังดูไม่โตขึ้นเลยตั้งแต่เธอมาที่นี่ มีเพียงตัวเธอเท่านั้นที่จะดูค่อยๆเปลี่ยนไปเร็วกว่าผู้อื่นมากนัก จนกระทั่งเธอได้กล่าวขึ้นมา

    ตั้งแต่ครั้งแรกที่ดิฉันได้พบท่านไดกิ จนถึงตอนนี้ก็ผ่านมาสี่ปีแล้ว จนดิฉันอายุจะใกล้สามสิบแล้วคุณอากาเนะคิดว่าดิฉันดูแก่ขึ้นไหมคะอากาเนะหันมามองเธอก่อนจะยิ้มออกมา

    ท่านมายุยังดูสวยเช่นเดิมค่ะ แต่ว่าเมื่อนึกถึงสี่ปีก่อน กับตอนนี้ ก็มีบางส่วนที่ดูแตกต่างไปเช่นกันค่ะอากาเนะกล่าว ก่อนจะนั่งมองเด็กน้อยทั้งสามบินว่อนอยู่บนท้องฟ้าไม่ไกลนัก

    คุณอากาเนะดิฉันกำลังแก่ลงเรื่อยๆค่ะ สักวันหนึ่งดิฉันคงดูแก่กว่าท่านไดกิแน่นอนเลยค่ะมายุกล่าวขึ้นก่อนจะมองไปยังฟากฟ้าไกล

    ท่านมายุกลัวรึเจ้าคะ?”

    ค่ะ ถ้าดิฉันดูแก่กว่าเขาเขาจะอายไหม ที่ต้องเดินคู่กับดิฉัน ที่เรารักกัน ดิฉันคิดว่าวันนั้นต้องมาถึง หรือดิฉันควรจะปฏิเสธเขา ดิฉันอาจจะควรเป็นแค่ลูกศิษย์ของท่านไดกิเท่านั้น เพียงยอมเฝ้ามองเขาจากด้านหลัง ยังดีกว่าในอนาคตดิฉันต้องมานั่นเสียใจมายุกล่าวออกมา

    ท่านมายุจะเสียใจเรื่องอะไรหรือเจ้าคะ พวกท่านทั้งสองก็ดูรักกันนี่เจ้าคะอากาเนะถามขึ้นด้วยความไม่เข้าใจ

    ถ้าดิฉันแก่ลงจนเป็นยายแก่ค่ะ ท่านไดกิจะยังรักดิฉันไหม ยังอยากจะกอดดิฉันไหม อาจมีหญิงคนอื่นๆอีกที่สวยงามกว่าดิฉัน ท่านไดกิจะไปหลงรักคนอื่นแทนดิฉันไหม? คุณอากาเนะ มนุษย์อย่างดิฉันค่อยๆแก่ลงเรื่อยๆ ช่วงชีวิตของมนุษย์ที่พวกท่านได้บอกว่าสั้นแล้ว ความสวยของมนุษย์นั้นสั้นยิ่งกว่าเพราะเหตุนี้สินะคะ ท่านยูมิโกะถึงยอมที่จะสวยอยู่ตลอดเวลามากกว่าการมีชีวิตที่ยืนนานโดยไร้ความงามมายุกล่าวออกมา

    ข้าเข้าใจในสิ่งที่ท่านพูดแล้ว แต่ข้าเชื่อว่าท่านไดกิรักท่านมายุเท่านั้น พวกข้าน่ะหากมีคู่ชีวิตแล้วก็จะไม่เหลียวมองใครอีก ถ้าเรื่องที่ท่านกลัวว่าท่านไดกิจะเหลียวมองหญิงอื่นล่ะก็คงเป็นไปไม่ได้เจ้าค่ะ

    แต่เรื่องความสวยดิฉันไม่อยากให้เขาเห็นดิฉันเช่นนั้นเลยค่ะ

    ถ้าเช่นนั้นท่านมายุก็รีบตักตวงความสุขเสียตั้งแต่ท่านไดกิกลับมาสิเจ้าคะ ดีกว่าที่ท่านมายุปล่อยเวลานั้นไปอย่างเปล่าประโยชน์มายุยิ้มออกมาเมื่อได้ฟัง

    นั่นสินะคะ ขอบคุณ คุณอากาเนะมากเลยค่ะมายุมีสีหน้าที่สดใสขึ้น ก่อนเสียงวุ่นวายจะดังขึ้น จนทั้งสองต้องรีบลุกขึ้นมามอง

    มีใครสักคนมาเจ้าค่ะอากาเนะกล่าวขึ้น แต่ด้วยพลังปิศาจที่ดูเบาบางจนแปลกประหลาดก็ทำให้เธอไม่มั่นใจว่าเป็นปิศาจอะไร แต่มายุนั้นรีบวิ่งไปก่อนแล้ว เพราะเข้าใจว่าเป็นชายหนุ่มกลับมา หญิงสาวรีบวิ่งไปที่หน้าคฤหาสน์ก่อนจะพบการาสุเทนกุจำนวนหนึ่งถืออาวุธเข้ามาขับไล่ แต่บุคคลที่อยู่เบื้องหน้ากลับไม่ไม่มีทีท่าเกรงกลัวแต่อย่างใด จนกระทั่งร่างผู้สวมชุดกิโมโนสีขาวมองมาเห็นเธอพอดิบพอดี

    มายุ!!!”เสียงที่เธอคุ้นเคยเรียกเธอ หญิงสาวต้องปรับสายตาสักพักก่อนจะพบว่าเป็นเพื่อนรักของเธอ มายุรีบวิ่งเข้าไปหาในทันที

    ไม่ต้องตกใจนะคะ นี่เพื่อนดิฉันเองค่ะมายุรีบกล่าวขึ้น ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าทำไมเพื่อนสาวของเธอจึงไม่ตกใจพวกการาสุเทนกุแต่อย่างใด แต่ยังไม่ทันที่เธอจะถามอะไร ยูกิก็กล่าวขึ้น

    มายุ เรากลับกันเถอะ ฉันมารับแล้วมายุมองอีกฝ่ายอย่างสงสัย

    ...กลับหรอ แล้วนี่ยูกิมาได้อย่างไรเธอสงสัย ตอนนี้มีแต่ความสงสัยเท่านั้น

    ฉันเจอ...แฟนของเธอพอดีน่ะ แล้วเขาก็บอกให้ฉันมาที่นี่มายุมองไปรอบๆ อย่างงุนงง

    เจอด้วยหรอ? ที่ไหน? เขากลับมาแล้วหรอ?”มายุยังคงมองหาอยู่ ไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายรู้เรื่องมากน้อยเพียงใดจึงไม่กล้ากล่าวอะไรออกไปมาก

    เจอ แต่ไม่ใช่ที่นี่ ฉันเองรีบมาหาเธอว่าแต่ แฟนเธอเขายังไม่กลับมาหรือมายุงุนงงยิ่งนักเมื่อได้ฟัง

    ยูกิเธอเป็นอะไรกันมายุถามขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบา จนอีกฝ่ายชะงักไป

    “ก....ก็เป็นมนุษย์ยังไงล่ะ แต่เรื่องมันยาว ตั้งแต่มายุถูกลักพาตัวไป ฉันก็เจอแต่เรื่องประหลาดๆจนไม่กลัวปิศาจแล้วมายุรีบพาอีกฝ่ายมาคุยกันสองคนเท่านั้น

    ยูกิ ฉันคิดถึงแกมากเลย เป็นห่วงมากนึกว่าจะเกิดอะไรขึ้นมายุกล่าวออกมาด้วยความดีใจในทันที

    มายุเรารีบออกจากที่นี่แล้วกลับกันเถอะ”ยูกิพยายามดึงดันให้มายุกลับไปกับตนให้ได้

    กลับไปที่ไหน ฉันยิงคน กลับไปยังไงฉันก็ติดคุก ต่อให้ไม่ติดคุกแต่ฉันก็ต้องคอยหวาดระแวงอยู่เหมือนเดิม ว่าจะมีใครมาทำร้ายฉันอีกไหม... ฉันอยากอยู่ที่นี่น่ะ ยูกิ ที่นี่ปลอดภัยสำหรับฉัน และจะเป็นบ้านของฉันด้วย

     และฉันก็มีคนรักแล้ว ฉันคิดว่าจะอยู่ที่นี่ขอโทษด้วยยูกิแต่ฉันไม่กลับแล้วยูกิชะงักไป เมื่อได้ฟัง

    กับปิศาจน่ะนะ มายุ!! เอาจริงดิ!!อีกฝ่ายพยักหน้าแทนคำตอบ ก่อนยูกิจะเงียบไปอีกครั้งหนึ่ง ไม่นึกเลยว่าเพื่อของเธอจะรู้สึกกับชายหนุ่มมากถึงเพียงนี้

    ไม่น่าเชื่อ…”ยูกิถอนหายใจออกมา และมีสีหน้าที่เศร้าใจ

    แต่มันเป็นไปแล้วยูกิ เขาช่วยชีวิตฉันไว้นะ ดูแลฉันดีมาตลอด…”คราวนี้มายุต้องเป็นฝ่ายปลอบยูกิแทน

    ขอบใจนะที่มาถึงที่นี่ แต่ฉันคงไม่กลับหรอกมายุจับไหล่ของอีกฝ่าย ที่เย็นประดุจน้ำแข็ง ก่อนจะรีบสะบัดมือออก

    ยูกิ เธอเป็นอะไร ทำไมตัวเย็นเช่นนี้มายุตกใจ

    ฉันสบายดี ไม่ต้องเป็นห่วงเธอถอนหายใจออกมา พลังยูกิอนนะที่ได้รับมามันยังไม่หมดไป ก่อนยูกิจะกล่าวต่อ

    ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าเธอจะไปชอบปิศาจ แล้วจะเป็นปิศาจแบบไดกิเสียอีก ไม่น่าเชื่อ!! ฉันไม่มีอะไรจะพูดแล้ว ถ้าเธออยากจะออกจากที่นี่เมื่อไหร่ก็บอกแล้วกันและฉันจะรีบมารับกล่าวจบยูกิก็รีบวิ่งจากไปอย่างรวดเร็ว ถึงขนาดที่มายุวิ่งตามสุดฝีเท้า ก็ยังไม่ทันจนเธอจะหอบแฮ่ก เมื่อนั้นเพื่อนสาวของเธอรีบหันกลับมา

    ทั้งที่ฉันชนะแล้วแท้ๆ…”ยูกิพึมพำออกมา อย่างที่มายุไม่เข้าใจเป็นที่สุด

    ยูกิ!! นี่เธอทำอะไร กลับมาพูดให้รู้เรื่องก่อนสิ!!มายุตะโกนขึ้นใส่อีกฝ่าย ที่รีบเดินเสียจนเธอเดินตามไปไม่ทัน แต่ยูกิเดินจากไป แต่มายุยังวิ่งตามอีกฝ่ายจนสุดทาง

    ไม่ต้องตามมาแล้ว ไปรอรับเขากลับมาเสียเถอะมายุมายุปล่อยให้ร่างนั้นเดินจากไป โดยที่เธอไม่เข้าใจอะไรแม้แต่อย่างเดียว เมื่อเธอวิ่งกลับมาที่หมู่บ้าน ก็ยังไม่พบกับคนรักของเธอแต่อย่างใด หญิงสาวเพียงแต่รอคอยอย่างใจจดใจจ่อด้วยความเป็นห่วงเท่านั้น จนกระทั่งยามพระอาทิตย์ตกดิน มายุยังนั่งอยู่ในห้องนอนของตนไม่ทานข้าวปลาอาหารแต่อย่างใดและไม่ปริปากพูดกับใครทั้งสิ้น แต่น้ำตาของเธอยังไหลออกมาด้วยความเป็นห่วงไดกิอยู่อย่างนั้น  มายุรอเค้ากลับมาทั้งปีแล้ว จึงพยายามฝืนความง่วงรออีกฝ่ายอย่างไร้จุดหมายได้อีกเพียงนิดหน่อย หากดูให้ดีแล้ว มายุเองก็ผอมลงเพราะเรื่องราวต่างๆและความกังวลเสียเธออดอาหารไปหลายมื้อ และในวันนี้อีกที่เธอรับรู้ได้ทันทีว่าไดกิจะต้องกลับมาในไม่ช้าก็ยิ่งทำให้เธอกระวนกระวายใจว่าเขาจะบาดเจ็บหรือไม่จนไม่เป็นอันกินข้าว ก่อนหญิงสาวจะค่อยๆโน้มตัวลงนอนบนเตียง และนึกถึงไดกิก่อนเธอนั้นจะเผลอหลับไปด้วยความเหนื่อยล้า ไม่นานนักเสียงด้านนอกห้องก็มีคนคุยกันคือเสียงของอากาเนะกับอายุมุ

    ข้าได้ข่าวว่าท่านไดกิชนะสงครามนี่ จึงรีบมา เหตุใดกันจึงมีแต่ท่านอาโอะยูกิมากันเสียล่ะทั้งที่สงครามนั้นจบลงไปหลายเดือนแล้ว ท่านไดกิยังไม่กลับมารึ?…”เสียงอายุมุถามไถ่ขึ้น

    ไม่ทราบเช่นกันเจ้าค่ะ ท่านมายุเองก็รอคอยเขาเสียทุกวัน จนกระทั่งนางไปพบกับอาโอะยูกิ แล้วคงจะผิดหวังที่ไม่ใช่ท่านไดกิละมังคะ นางจึงกลับมานอนซมทั้งวันเลยเจ้าค่ะอากาเนะกล่าวขึ้น

    แปลว่าท่านไดกิคงบาดเจ็บหนักก็เป็นได้ นางมนุษย์นี่บอกว่าท่านอาโอะยูกิเป็นเพื่อนของเธอนี่ บางทีนางคงจะบอกอะไรกับมายุ และจึงนอนซมในทันทีเมื่อทราบข่าว

    เช่นนั้นหรือคะ? ท่านไดกิคาบูโตะด้วย จะปลอดภัยไหมนะ ขอให้ทุกคนปลอดภัยด้วยเจ้าค่ะอากาเนะเองมีเสียงที่ดูร้อนรนนักเมื่อคิดตามอีกฝ่ายหนึ่ง ก่อนทั้งสองจะเงียบลงเมื่อรู้สึกถึงพลังปิศาจที่กำลังจะใกล้เข้ามา ก่อนจะรีบวิ่งไปต้อนรับอีกฝ่ายกันอย่างไม่ได้นัดหมายอย่างรวดเร็ว

    พวกการาสุเทนกุกลับมาแล้ว!!!”เสียงหนึ่งตะโกนขึ้น ก็ยิ่งเรียกการาสุเทนกุตนอื่นออกมาดูอย่างตื่นเต้นและดีใจ รวมถึงการาสุเทนกุที่ต้องออกไปทำสงครามก็ได้กลับมายังที่บ้านเสียที อากาเนะที่เห็นคาบูโตะจึงรีบโผเข้ากอดในทันทีอย่างสุดแสนจะดีใจ

    ข้าคิดถึงเจ้าเหลือเกินคาบูโตะกอดอีกฝ่ายกลับ

    เจ้าปลอดภัยใช่ไหม คาบูโตะ ข้าคิดถึงเจ้าเช่นกัน รู้ไหมว่าข้าเป็นห่วงเจ้าขนาดไหนอากาเนะซบอีกฝ่ายก่อนจะร้องไห้ออกมา ก่อนจะถูกมือทั้งสองของอีกฝ่ายยันเอาไว้และกล่าวขึ้นด้วยสีหน้าที่จริงจัง ก่อนจะกระซิบกระซาบอะไรบางอย่างให้อากาเนะฟัง ก่อนเธอจะพยักหน้ารับด้วยสีหน้าที่ดูประหลาดใจนัก ก่อนเขาจะกล่าวต่อ

    อากาเนะ ท่านไดกิยังไม่ได้กลับมา ฝากเจ้าไปบอกมายุด้วย

    ...ทำไมล่ะ เกิดอะไรขึ้น!?”เธอมองด้วยหน้าตาตื่น

    จะอะไรล่ะ ท่านไดกิได้รับบาดเจ็บที่ปีกยังไงล่ะเขาจึงต้องรอให้แผลหายสนิทก่อน ข้าจึงส่งทาโร่ให้ยังอยู่กับเขา และข้ากลับมาบอกข่าว

    ช่างน่าสงสารนักท่านไดกิ และเมื่อนางตื่นข้าจะบอกนางเอง คาบูโตะเจ้าไม่ต้องเป็นห่วงอากาเนะกล่าวขึ้น ก่อนจะรีบไปปลุกลูกๆของตนให้มาต้อนรับพ่อของพวกเขา โดยที่ไม่รู้ว่ามีร่างหนึ่งยืนมองจากระเบียงชั้นบนอยู่เช่นนั้น มายุมองไม่เห็นชายหนุ่มก็ยิ่งเป็นกังวลนักเธอรีบตื่นขึ้นมาเพราะเสียงโห่ร้องดีใจแต่เมื่อไม่เห็นไดกิก็พลันให้เป็นกังวลมากกว่าเดิม  ก่อนร่างหนึ่งในเงามืดจะปรากฏขึ้นด้านหลังของเธอ มองร่างบางจากเบื้องหลังโดยที่มายุไม่รู้ตัวแต่อย่างใดว่าชายหนุ่มที่เธอเฝ้ารอมาอยู่ตรงนี้แล้ว

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×