คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Home sweet Home
ร่างโปร่งบางแนบดาบเงาวับกับใบหน้าอีกฝ่ายพลางพิจารณาก่อนจะเอ่ย
“ยังไม่ถึงเวลาที่ข้าจะจัดการเจ้า รอเวลาที่ข้าพบประตูปีศาจที่โลกมนุษย์เสียก่อน....แล้วข้าได้ใช้เลือดของเจ้าสังเวยแน่...” พูดจบก็ใช้ด้ามดาบกระแทกร่างที่สูงกว่าเล็กน้อยเข้ากับผนังอย่างแรง
ร่างที่ถูกเหวี่ยงยันตัวขึ้นยืน ปลายนิ้วปาดเลือดที่มุมปากทิ้ง รอยแผลที่เกิดจากการต่อสู้ก่อนหน้านี้สมานตัวอย่างรวดเร็ว “ตกลงนายก็อยู่มันซะที่นี่แหละ จะหาประตูบ้าๆนั่นไม่ใช่รึไง?” ดันเต้เดินไปยังห้องนอนที่ตรงตามสภาพห้องชายโสดทุกประการ
หลังจากหายหัวไปซักหนึ่ง เขาก็สามารถหาของที่ต้องการจนพบ มือหนาโยนเสื้อเชิ้ตในมือไปคลุมศีรษะฝ่ายตรงข้าม “ใส่นั่นซะ ที่เหลือยังไม่ได้ซักสักตัวเดียว”
เวอร์จิลดึงเสื้อออกจากศีรษะแล้วพิจารณามัน ก่อนจะสะบัดไปมา “โสโครกที่สุด...”
“ดีกว่าไม่มีอะไรใส่ก็แล้วกัน แล้วก็อย่าเอะอะก็ชักดาบ ที่นี่ไม่ใช่โลกปีศาจ...ถ้านายไปฆ่าใครเข้า ชั้นจะลำบาก” ดันเต้กล่าวพลางหยิบเบียร์กระป๋องออกมาเปิดดื่ม แล้วทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาอย่างสบายๆ
“ยังไงที่นี่ก็บ้านเจ้า หัดความสะอาดเสียมั่งสิ”
“ช่างชั้นเถอะ....” ดันเต้เอ่ยเรียบๆ พลางหยิบรีโมทมาเปิดทีวีแล้ว...เปลื่ยนช่องไปเรื่อยๆๆ
เวอร์จิลไม่ได้ใส่ใจกับปฏิกิริยาตรงหน้า เขาก้มหน้าลงเช็คสภาพเสื้อที่น้องชายตัวแสบมอบให้ รู้สึกว่ามันจะยาวมากพอ ก็ถือว่าผ่านเกณฑ์
มือเรียวสัมผัสกับโต๊ะที่ตั้งตระหง่านกลางห้อง ...โต๊ะของพ่อ.... นัยน์ตาสีห้วงสมุทรเลื่อนไปเรื่อยๆ จนสะดุดกับกรอบรูปสีทองที่มีภาพสาวงาม มันดูสะอาดสะอ้านซึ่งแสดงว่าถูกรักษาอย่างดี
“ดูท่าทาง...เจ้ายังเป็นเด็กติดแม่เหมือนเดิมสินะ”
คนที่นั่งอยู่บนโซฟาไม่ตอบอะไร แต่มือที่กำลังกดรีโมทนั้นก็ชะงักไปเล็กน้อย แต่เขาก็ทำเป็นไม่สนใจแล้วก็กดเปลื่ยนช่องต่อ
ร่างบางโปร่งบางคลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะเดินไปด้านหลังโซฟา และกระซิบข้างหูอีกร่างด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ “ตอบมาสิ...ไอ้ลูกแห่งติดแม่”
ดันเต้วางรีโมทในมือลง เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะเปลื่ยนเป็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ใบหน้าคมหันไปทางคนที่หาเรื่องเขาอย่างทันท่วงที ทำให้ริมฝีปากของเขาชิดกับใบหูนิ่ม ก่อนขยับพูด “ใส่แค่เสื้อเชิ้ตก็ดีเหมือนกันนะ”
“หึ...ถ้าหากไม่อยากถูกข้ายึดกางเกงที่ใส่อยู่ล่ะก็...หุบปากเน่าๆของเจ้าซะ” พูดจบก็เขยิบหนี
“เขินหรือไงพี่ชาย” เสียงหัวเราะดังขึ้นเบาๆ
“เหอะ!” เวอร์จิลพ่นลมเล็กน้อยก่อนเอ่ยถาม “เท่าที่จำความได้ เสื้อผ้าของท่านพ่อน่าจะมีนะ”
“นั่นสิ...อาจจะอยู่ชั้น 2 หรือปนกับเสื้อผ้าชั้นในห้อง ไม่แน่อาจจะโยนเป็นเชื้อเพลิงเตาผิงไปแล้วก็ได้...อืม จำไม่ได้แฮะ...” เจ้าของบ้านตอบอย่างง่ายๆ แล้วซดเบียร์ต่อ...
ถึงใบหน้าของผู้ถามจะนิ่งเฉย แต่เส้นเลือดปูดที่หน้าผากเป็นตัวแสดงอารมรณ์ของเจ้าตัวได้เป็นอย่างดี เจ้าตัวเดินขึ้นชั้น 2 อย่างสงบ...ก่อนจะ.....
“นี่มันอะไรวะเนี่ยยยยย!!!!!!!”
ภาพที่อยู่เบื้องหน้านั้นไม่ต่างอะไรจากกองขยะเลยสักนิด.....
“ก็ ‘ห้อง’ น่ะสิ” เจ้าของห้องเอ่ยเสียงเรียบ
“แกได้ทำความสะอาดบ้างไหมเนี่ย?” ถึงแม้ร่างที่สวมเพียงเสื้อเชิ้ตจะห่างเหินโลกมนุษย์ไปนาน แต่เรื่องสามัญสำนึกความเป็นมนุษย์เมื่อวัยเด็กยังคงมีอยู่บ้าง
“ทำดิ”
“เมื่อ?”
“อืม...จำไม่ได้แฮะ”
ร่างโปร่งบางถอนหายใจดังเฮือกอย่างเอือมระอา “เจ้านี่ตั้งแต่เด็กยันโตไม่เคยเปลื่ยนเลย...”
“อืม...ก็ยังอยู่ได้ ไม่เห็นเป็นอะไรนี่...นายไม่ต้องทำอะไรหรอก ปล่อยไว้อย่างนี้แหละ” ดันเต้พูดพลางซดเบียร์แบบสบายใจเฉิบต่างจากฝาแฝดที่เริ่มแสดงอาการหงุดหงิดทางสีหน้าเสียแล้ว...
“เสียใจ...ข้าไม่ได้โสโครกอย่างเจ้า” เวอร์จิลเดินไปทั่วราวกับหาอะไรบางอย่าง
“ถ้าเครื่องซักผ้า....อยู่หลังร้าน”
ฝาแฝดผู้พี่หยุดหรี่ตามองผู้น้องเล็กน้อย ก่อนจะเดินทะลุห้องครัวซึ่งเต็มไปด้วยถาดใส่พิชซ่าและขวดน้ำมะเชือเทศเกลื่อนกลาดเต็มไปหมด ร่างนั้นเดินไปจนพบเครื่องซักผ้าที่ต้องการ เจ้าตัวทดลองเปิดเดินเครื่องที่มีตะไคร่น้ำเกาะ ซึ่งดูเหมือนจะใช้ได้ ร่างนั้นจึงเดินกลับไปยังชั้น2...
หลังจากหายไปซักพัก ร่างโปร่งกลับลงมาอีกครั้งพร้อมกองผ้าเหม็นเน่าเกินบรรยาย นัยน์ตาคู่นั้นจ้องไปยังน้องชายตัวแสบ
“แทนที่ข้าจะใช้เวลาในการหาวิธีกลับไปโลกโน้น กลับต้องมาทำงานราวกับคนใช้...” คำพูดเบาๆถูกส่งไปหาร่างที่นอนเอกเขนกดูทีวี โดยหวังสะกิดให้เจ้าตัวลุกมาทำงานซะมั่ง
“ชั้นก็บอกแล้ว่า ไม่ต้องทำก็ได้” ...ไม่รู้สึก....
ฉึก!
เวอร์จิลใช้เวทย์สร้างรูปร่างดาบ ก่อนจะบินฉิว ดิ่งไปเสียบศีรษะน้องชายสันหลังยาว ก่อนจะเดินเข้าท้ายครัวไป
“เฮ้ย! มันเจ็บนะ! อยู่ก็ให้อยู่แล้ว เสื้อผ้าก็เอาให้แล้ว อย่าเรื่องมากนักได้ไหม?!”
ร่างที่ถูกกล่าวถึงตีสีหน้าเรียบเฉย แต่ในใจ.....สะใจสุดๆ!..เยส!.....
.
.
.
.
.
.
ผ้าที่ถูกทำความสะอาดราวกับใหม่เอี่ยมถูกผึ่งไว้บนชั้นด่านฟ้า ร่างโปร่งบางบาดเหงื่อและเสยผมที่ร่วงหลุดลงมา ....นานเท่าไหร่แล้วนะ...ที่ไม่ได้รู้สึกถึงแสงอาทิตย์อุ่นๆแบบนี้....
“ขยันดีจังนะ
” ร่างที่มองอยู่นานเอ่ยขึ้น
“เรื่องของข้า...” เวอร์จิลพูดพลางคลี่ผ้าจะตากต่อ
“ฮะๆ ชั้นก็แค่จะบอกว่า อาหารเย็นเสร็จแล้วนะ...” เขาพูดทิ้งท้ายแล้วเดินกลับลงไปโดยไม่สนใจ
“ข้ามิได้อยาก เสียเวลาหาสมุนไพรแก้ท้องไส้ปั่นป่วนหรอกนะ...” ถึงจะรู้สึกแปลกใจที่เจ้าน้องชายเก็บสันหลังยาวๆแล้วลุกขึ้นมาทำงาน แล้วเท่าที่จำความได้ หมอนี่แค่ทำไข่เจียวยังไหม้เป็นตอตะโก แล้วอย่างอื่นจะรอดไหมล่ะ?
“ข้าจะไปหาวิญญาณมาดื่มกินแทน เดิมตอนอยู่โลกปีศาจ.....ข้าก็ทำเช่นนี้” นึกแล้ว เวอร์จิลก็แทบจะขอบคุณในความเป็นปีศาจที่พ่อมอบให้ ในโลกปีศาจมีเพียงน้ำ ตลอดวันอาบไล้ไปด้วยแสงจันทร์ ถ้าหากเป็นมนุษย์เขาคงตายไปนานแล้วล่ะ...
“ของแค่นั้น...เอาจากชั้นก็ได้นี่นา...”
ความคิดเห็น