ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (Fic Devil may cry) Blood on Blood (yaoi)

    ลำดับตอนที่ #6 : Dinner Time

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.19K
      11
      29 มี.ค. 51

    ของแค่นั้น...เอาจากชั้นก็ได้นี่นา...ดันเต้พูดขึ้นลอยๆ ท่าทางไม่ยี่หระที่อีกฝ่ายไม่ยอมทานอาหารฝีมือตน

    ข้ากลัวว่า จะยั้งมือไม่ดื่มวิญญาณของเจ้าจนหมด ไม่ได้น่ะสิ....เวอร์จิลกล่าวด้วยยิ้มเยียบเย็น เจ้าเป็นหนึ่งในของจำเป็นในการเปิดประตูสู่โลกปีศาจ ข้าไม่ทำร้ายสิ่งเป็นประโยชน์ต่อข้าหรอก...

    ปีศาจอยู่ได้โดยการดูดกลืนวิญญาณของผู้อื่น แต่สำหรับครึ่งปีศาจอย่างพวกเขาแค่ทานอาหารอย่างมนุษย์ทั่วไปก็อยู่ได้แล้ว ส่วนการถ่ายทอดพลังวิญญาณเพียงสัมผัสตัวอีกฝ่ายก็ทำได้แล้ว

    ของพรรณนั้นชั้นมีอยู่มากเกินพอร่างที่สูงกว่าเล็กน้อยกระตุกยิ้มวูบ พลางเดินเดินเข้าไปใกล้อีกฝ่าย ปลายนิ้วแกร่งล็อกคางมนเอาไว้ให้หันมาทางเขา ลองดูมั้ยล่ะ?

    แน่จริงก็ลองสิ...ไอ้น้อง

     

    ...ทำไมนะ?... 

    ...ทั้งๆที่เราไม่เคยนึกพิสวาสพี่ชายร่วมสายเลือดคนนี้เลยซักนิด...

    ...น่าจะรู้สึกไม่ชอบขี้หน้าด้วยซ้ำ...

    ...แต่ความรู้สึกในตอนนี้...มันอะไรกันนะ?...

     

     ริมฝีปากหนาระบายยิ้มบางๆกับตนเอง ชั้นบอกแล้วไงล่ะว่า อย่ามาสั่งชั้น

    มือแกร่งดึงใบหน้านวลนั้นให้หันมาเผชิญหน้ากับเขาให้มากขึ้น ถึงจะเป็นเพียงครู่เดียวแต่เขาก็มั่นใจว่า เห็นแววตานิ่งเย็นนั้นไหววูบอย่างแปลกใจ

    ...อยากจะเห็นสีหน้า....ที่ต่างออกไปจากนี้...ให้มากกว่านี้....

    ร่างสูงกว่ากดริมฝีปากของตนแนบกับกลีบปากนิ่มโดยไม่บอกกล่าว

    เวอร์จิลมองอีกฝ่ายด้วยสีหน้าแปลกใจก่อนจะกลับเป็นใบหน้าน้ำแข็งในเสี้ยววินาที มือเรียวสวยประทับกับใบหน้าคมแล้วตั้งสมาธิในการกลืนกินพลังวิญญาณอันเหลือล้นของร่างเบื้องหน้า

    การตอบสนองนั้นยิ่งทำให้ดันเต้ได้ใจมากขึ้น เขาถือโอกาสดุนลิ้นเข้าไปในโพรงปากนุ่มสัมผัสความหวานของคนที่รั้งใบหน้าของเขาอยู่ ท่อนแขนแข็งแรงโอบรั้งเอวอีกฝ่ายเข้ามาแนบชิด

    ...ทำไมกันนะ...ทั้งๆที่ไม่ควรรู้สึกแบบนี้แท้ๆ...

    ใบหน้าของผู้ถูกรุกล้ำค่อยๆขึ้นสีระเรื่อ ก่อนจะเป็นฝ่ายผละออกอย่างเชื่องช้า ริมฝีปากแดงช้ำรีบสูดอากาศเข้าไปแทนที่ส่วนที่ถูกช่วงชิง ดวงตาสีห้วงน้ำลึกตวัดมองอีกฝ่ายที่โอบรั้งเขาอยู่อย่างช้าๆ

    มองอะไร...มันก็เพียงปฏิกิริยาของมนุษย์

    นั่นสินะ...มันก็แค่ปฏิกิริยาของมนุษย์....ดันเต้มองใบหน้าที่ขึ้นระเรื่อโดยไม่แสดงความรู้สึกออกมา เสียงที่เอ่ยตอบรับคำของอีกฝ่ายนั้นคล้ายจะตอกย้ำตัวเองในเวลาเดียวกัน

    ดันเต้ยักไหล่เล็กน้อยอย่างไม่ใส่ใจ แล้วเดินผละออกจากอีกฝ่ายเพื่อเริ่มมื้ออาหารเสียที

    ...ไม่อยากยอมรับ....ความรู้สึกที่แล่นหวาบ...จนเจ็บปลาบ...

    ฮะๆ...นี่เราหนีเหรอเนี่ย....ดันเต้พึมพำกับตัวเองเบาๆ

    ร่างโปร่งบางเดินเลี่ยงอีกฝ่ายก็จะสำรวจไปรอบๆบ้านที่รกรุง แต่การกระทำทั้งหมดก็อยู่ในสายตาผู้น้อง

    เฮ้ ถ้าไม่รู้จะทำอะไร ก็ไปอาบน้ำซะสิ ห้องทางซ้ายมือ ประตูขาวๆนั่นล่ะดันเต้กล่าวขึ้นก่อนจะลงมือกระซวก(?)อาหารในจานต่อ

    ผู้เป็นพี่พยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจ แต่ก็ไม่ได้คิดจะปฏิบัติตาม...ถ้าข้าอาบแล้วข้าจะเอาเสื้อผ้าที่ไหนเปลื่ยนล่ะ ไอ้น้องสมองทึบ...เผลอซักซะหมดบ้านไปแล้ว....(คนเขียน/ เอ่อ...รู้สึกจะขยันกว่าคนเขียน 10 เท่า เอิ้ก...)

    แต่ด้วยความอยากรู้อยากเห็น เขาจึงลองเปิดเข้าไปสำรวจดู

    ...นี่น่ะเรอะ?...สถานที่อาบน้ำ...แล้วจะอาบยังไงล่ะ?....อ่างก็ไม่มี.....แล้วน้ำจะมาจากไหนล่ะ????

    เวอร์จิลมองไปรอบๆพร้อมขมวดคิ้วสงสัย ก่อนจะสะดุดกับสิ่งหนึ่ง

    ...แล้วไอ้ที่ยื่นๆแล้วมีสายนี่มันอะไร??....ท่าทางต้องลองบิดๆดู....

    ดูเหมือนมือจะไวเท่าความคิด แต่ร่างโปร่งบางดันไม่ได้สังเกตแถบที่มีไฟเรืองอยู่ว่า...ร้อนนะจ้ะ...

    กึก....ซู่~~~~~~~~!!!!!

    โอ้ย!!”

    คนที่กำลังกระซวก(?)อาหารแทบสำลักเมื่อได้ยินเสียงหวานที่ตะโกนลั่น เขารีบวิ่งไปที่ต้นเสียงอย่างรวดเร็ว เกิดอะไรขึ้นน่ะ!!!”

    นี่มัน...อะไรร่างเพรียวที่เปียกปอนเขยิบหนีสายน้ำร้อนจนเป็นไอ เวอร์จิลสะบัดผมไปมาจนผมบางส่วนที่จัดทรงไว้ลู่ลง เสื้อสีขาวแนบกับผิวเนียนที่อมชมพูเพราะความร้อน มันดูยั่วยวนให้ผู้มองใจเต้น...ถ้าผู้มองที่กล่าวถึงเป็นคนธรรมดาอ่ะนะ...

    โธ่เอ้ย! นึกว่าอะไร ตะโกนซะดัง ฮะๆๆๆ!” คนที่เพิ่งเข้าหัวเราะดังลั่นกับสีหน้าเอ๋อๆของอีกฝ่าย มือแกร่งทุบประตูห้องอย่างบ้าคลั่งนั้นมัน...ฝักบัวอาบน้า...โอ้ย! ปวดท้อง! ฮะๆๆๆ!”

    ข้าไม่รู้นี่...ร่างบางเอ่ยอย่างเสียความมั่นใจ ใบหน้ามนแดงระเรื่อด้วยความอาย

    ฮะๆ...อืมๆดันเต้พยายามกลั้นหัวเราะพลางเอื้อมมือไปปิดน้ำ ก่อนจะเดินไปหยิบผ้าขนหนูผืนหนึ่ง

    เปียกหมดแล้ว...มือแกร่งวางผ้านั้นคลุมศีรษะอีกฝ่ายเบาๆ แล้วเริ่มเช็ดให้อย่างเบามือ

    ร่างที่ดูจะงงๆกับสถานการณ์ อยู่นิ่งๆให้ฝ่ายตรงข้ามเช็ดผมให้แต่โดยดี

    ถึงแม้มือที่เช็ดผมนั้นจะขยับอยู่ตลอดเวลา แต่ดวงตาคมนั้นกลับมองไปตามเสื้อเชิ้ตที่เปียกชื้นจนแนบไปกับเรือนกายขาวผ่อง

    มีอะไรงั้นรึ?

    เปล่า....แค่คิดว่าแบบนี้...ก็ไม่เลวริมฝีปากหนายิ้มมุมปากเล็กน้อย

    เจ้าอยากเปียกอย่างข้าหรือไง?เวอร์จิลกล่าวพลางยิ้มยั่ว

    ชั้นไม่ได้พูดแบบนั้นซักหน่อย” …ยิ้มแบบนั้น...ไม่รู้เหรอไงนะว่าพออยู่ในสภาพแบบนี้...คนมองจะคิดยังไง...

    แล้วเจ้าหมายความอย่างไรล่ะ?ใบหน้ามนเข้ามาใกล้อีกฝ่ายอย่างนึกสนุก โดยหวังให้ใบหน้าตรงหน้ามีแววตื่นตระหนก

    แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับเป็นไปในทางตรงข้าม เมื่อรอยยิ้มที่ฉายเบื้องหน้าช่างดูเจ้าเล่ห์  ดวงตาสีครามนั้นดูเหมือนจะฉาบความต้องการหยอกล้ออย่างปิดไม่มิด ใบหน้าคมคร้ามเลื่อนมาจนแทบชิดกับดวงหน้าอีกฝ่าย

    แล้วนายว่า...ชั้นหมายความถึงอะไรล่ะ?

    มือเรียวสวยผลักร่างที่สูงกว่าเข้ากำแพงก่อนจะเดินเข้าไปประชิด มือข้างหนึ่งนาบกับอกแกร่ง

    ไม่รู้ซิ...เวอร์จิลกล่าวพลางเหยียดยิ้มหวานสะกดให้ร่างเบื้องหน้าใจสั่นอยู่กับที่

    ส่วนมือซนอีกข้าง...ตรงเข้าบิดเข้าที่ฝักบัวอาบน้ำ ส่งผลให้กระแสน้ำอุ่นโดนร่างสูงที่ยืนเอ๋ออยู่แบบเต็มๆ จากสิงโตหัวฟูตอนนี้กลายเป็นลูกหมาตกน้ำเปีบกม่อล่อกม่อแล่กเป็นที่เรียบร้อย ส่วนตัวการอาศัยจังหวะผละออกมาก่อนกระแสน้ำจะลงมา เจ้าตัวเดินเช็ดผมออกมาจากห้องน้ำอย่างสบายอารมณ์โดยไม่สนใจสายตาอาฆาตที่อีกฝ่ายส่งมาให้

    คนที่ตัวเปียกโชกถอนหายใจพลางบิดปิดน้ำแล้วเดินตามออกไป ...กางเกงตัวสุดท้ายแล้วด้วย....

    แล้วชั้นจะใส่อะไร?

    เรื่องของเจ้า...เมินซะล่ะ...

    ทำเป็นพูดดี ตัวเองมีเสื้อเชิ้ตตัวเดียวแท้ๆ...ดันเต้บ่นอุบอิบ สายตาตวัดมองคนที่เดินขึ้นชั้น2ไป

    อะไรนะ...คนที่กำลังจะเดินเข้าห้องเก่าของผู้เป็นพ่อ ชะงักแล้วหันมามองอย่างเอาเรื่อง

    เปล่า...ไม่ได้พูดดันเต้ผิวปาก ทำเป็นไม่รู้เรื่อง

    ก็แล้วไป...พูดจบร่างนั้นหายเข้าไปในห้อง

    ผู้เป็นน้องมองร่างนั้นจนหายไป เขาถอนหายใจ แล้วเดินเอาจานไป หมกในอ่างล้างก่อนจะเปิดตู้เย็นคว้าเอาน้ำมะเขือเทศมาดื่ม

    ดันเต้...เสียงเย็นๆเรียบๆเอ่ยเรียกให้ร่างที่กำลังเดินออกจากครัวหันมามอง

    มีอะไร?

    พรุ่งนี้ข้าจะทำความสะอาดห้องท่านพ่อ วันนี้เจ้าเตรียมนอนอึดอัดได้เลย...

    หมายความว่าไง?

    คืนนี้ข้าจะนอนห้องเจ้า...

    หา? แล้วนายจะนอนตรงไหน??เจ้าของห้องถามแบบงงๆก็ในเมื่อรอบๆเตียงเขาแม้แต่ทางเดินยังไม่มีเลย...

    บนเตียงเจ้าสิ แกล้งโง่เหรอไง?

    ชั้นไม่นอนพื้นหรอกนะ ขอบอกไงก่อน

    แล้วข้าบอกให้เจ้านอนที่พื้นงั้นเหรอ?

    ก็เปล่า...แต่มันเตียงเดี่ยว...เฮ้อ...เอาไงก็เอา...นอนด้วยกันก็ได้...ถึงตอนเด็กๆจะเคยนอนเตียงนั้นด้วยกันก็เถอะ..แต่ตอนนี้มัน....

    งั้นก็ดี ราตรีสวัสดิ์ถึงพระอาทิตย์ยังไม่ลาลับขอบฟ้า แต่งานบ้านก็สูบพลังงานไปเสียเยอะ

    เฮ้ย! เสื้อเปียกแบบนั้นเดี๋ยวเตียงเปียกหรอก!” 

    เดี๋ยวถอดก่อนนอน....

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×