คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : การพบกันของพี่น้อง
ร่างเปลือยเปล่าที่นั่งทำตาปริบๆค่อยๆยันตัวขึ้นมามองบรรยากาศรอบๆตัวอย่างช้าๆ มือเรียวคว้าเอาผ้าที่เคยขาวซึ่งคลุมอยู่บนโซฟาตัวยาวขึ้นคลุมเรือนกายเปลือยเปล่า
....เสียงน้ำ?....
....เสียงของใครบางคนที่คุ้นหูกำลังฮัมเพลงอย่างสบายใจ.....
ดาบในมือถูกกระชับให้แน่นกว่าเดิม เมื่อเสียงน้ำไหลนั้นพลันหยุดลง นัยน์ตาสีครามจ้องเขม็งไปยังต้นเสียง
ประตูที่เปิดออกมาพร้อมกลิ่นไอน้ำที่ลอยอบอวล ร่างที่กำลังก้าวออกมา เรือนผมสีเงินที่เปียกชื้นตกแนบใบหน้าที่เหมือนเขาแทบจะทุกระเบียดนิ้ว แผ่นอกเปลือยเปล่าที่มีหยดน้ำเกาะแพรวพราว สีผิวที่ดูกร้านและเข้มแข็งกว่า
ร่างโปร่งบางแน่ใจว่านัยน์ตาเฉยชาคู่นั้นตวัดมามองเขา ก็ที่จะหันกลับไปอย่างไม่สนใจผู้บุกรุก
“มาทำไม?.....” น้ำเสียงเจือความหงุดหงิดโพล่งถามแขกผู้ไม่ได้รับเชิญ แต่กระนั้นในหน้าคมได้รูปก็ยังไม่ยอมเบือนไปทางที่พี่ชายร่วมสายเลือดยืนอยู่
“ข้าก็ไม่ได้อยากมานักหรอก...ข้าจะกลับแล้ว...ส่งผลึกนั่นมา...” เสียงเย็นชาเอ่ยเอื้อนพลางยื่นมือเป็นเชิงนัย
“มันเรื่องอะไรที่ชั้นจะต้องส่งให้ด้วยล่ะ”
“งั้นก็...ช่วยไม่ได้....” คมดาบค่อยๆเผยออกมาช้าๆ
ดันเต้เรียกดาบของตนเองมาอยู่ในมือ ริมฝีปากเรียวเหยียดยิ้มเย้ยหยัน “นายคิดว่าจะทำไรได้รึไง”
“ข้าก็แค่...ฆ่าเจ้าซะ~!!!!” ฉับพลันคมดาบถูกยกขึ้น และฟาดฟันไปยังศัตรูเบื้องหน้าอย่างเต็มกำลัง
ดันเต้ยกดาบเล่มโตขึ้นรับคมดาบที่ฟาดขึ้นมาอย่างสบายๆแล้วปัดมันออก ร่างโปร่งบางถอยมาตั้งหลักก่อนจะพุ่งไปปะทะอีกครั้งหนึ่ง การต่อสู้ดำเนินไปโดยมีผู้เป็นน้องเป็นฝ่ายคุมเกมอย่างเห็นได้ชัด สืบเนื่องจากร่างโปร่งบางต้องคอยกระชับผ้าขาวบางที่คลุมตัว ขืนหลุดขึ้นมา....มีเฮ แหง....
การต่อสู้ดำเนินไปได้ไม่นานก็จบลง ดันเต้ย่อตัวลงแล้วใช้ด้ามดาบกระทุ้งที่ท้องน้อยของอีกฝ่ายอย่างแรงจนอีกฝ่ายทรุดลงกับพื้น เขาได้โอกาสปัดดาบในมืออีกฝ่ายกระเด็นไปอีกด้าน
“บัดซบ...อ้ะ~!” ร่างโปร่งบางสบถก่อนสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อความเย็นสัมผัสกับคาง
“ใครจะฆ่าใครนะ?” ดันเต้กล่าวด้วยน้ำเสียงติดหัวเราะ ดาบคมวาวพลิกแนบกับลำคอขาว ก่อนจะเอ่ยอย่างเย้ยหยัน “นายแพ้แล้ว...พี่ชาย....”
ถึงเวอร์จิลจะเจ็บใจแต่ก็ไม่ได้เอ่ยอะไร ก่อนจะหลับตาลงรับบทลงทัณท์จากความพ่ายแพ้
นัยน์ตาคมมองร่างที่นั่งนิ่งแล้วส่งเสียงครางในลำคอราวกับไม่สบอารมณ์ เขายืดตัวยืนแล้วเก็บดาบไม่กล่าวอะไร
“เป็นอะไร? สมเพชรึ?” ร่างโปร่งบางเอ่ยด้วยเสียงเยียบเย็นอย่างตัดพ้อ
“เหอะ! ชั้นไม่มีอารมณ์ฆ่าคนที่คิดจะตายหรอกนะ” มือหนาหยิบผ้าขนหนูที่พาดอยู่บนโซฟาขึ้นเช็ดเรือนผม “ถ้าไม่มีปัญญากลับ ก็อยู่มันซะที่นี่แหละ”
“ไม่! ส่งผนึกมาซะ! แค่เห็นหน้าแก...ข้าก็สะอิดสะเอียนเต็มทน!” นัยน์ตาสีครามมองร่างเบื้องหน้าอย่างเกลียดชัง
ร่างสูงกระตุกยิ้มวูบ เขาเดินเข้าไปใกล้อีกฝ่าย ปลาบนิ้วแกร่งรั้งใบหน้าของอีกฝ่ายให้เข้ามาแทบชิดกับใบหน้าเขา นัยน์ตาเฉยชาจ้องลึกเข้าไปในลูกแก้วสีฟ้าที่เปี่ยมไปด้วยความเกลียดชังคู่นั้น “ขอเตือนไว้ก่อนว่า อย่ามาสั่งชั้น” ความเย็นเยียบเข้าปกคลุมร่างทั้ง2ไว้
“ไม่อยากอยู่ที่นี่นัก...ก็ออกไปซะสิ”
ร่างโปร่งบางตวัดสายตาอย่างเอาเรื่อง ก่อนจะปัดมืออีกฝ่ายออก แล้วจะเดินไปเก็บดาบซึ่งถูกปัดไปอีกมุมห้อง เขาหมุนตัวเดินออกไปโดยไม่อายฟ้าอายดิน (คนแต่ง / - * - )
“คิดจะออกไปโดยนุ่งผ้าผืนเดียวอย่างนั้นเหรอ, พี่ชาย?” ดันเต้ยืนกอดอกพิงโซฟา ริมฝีปากได้รูปนั้นหยักยิ้ม
“ตอนอยู่ในโลกปีศาจ ข้าไม่ได้ใส่อะไรเลยด้วยซ้ำ...” เวอร์จิลตอบซื่อๆ (คนเขียน/ ตรงไปมั้ง - * -)
คำตอบที่ถูกส่งมาง่ายๆทำเอาร่างสูงผู้เป็นน้องหัวเราะพรืดอย่างไม่มีปิดบัง “ฮะๆๆๆๆ!” เขาเดินก้าวเข้าไปใกล้อีกฝ่าย ดวงตาที่ทอแววเจ้าเล่ห์มองเหมือนต้องการสำรวจร่างตรงหน้า “แต่ที่นี่มันอเมริกานะ คิดจะออกไปเดินในโลกที่โสมมแบบนี้ ด้วยสภาพแบบนั้นงั้นเหรอ?”
“มันก็โสโครกพอกับการอยู่กับแกนั่นแหละ...” ใบหน้างามมองอย่างยโส
“หึ! ฮะๆๆๆๆ! นั่นสินะ” ใบหน้าคมโน้มลงมาจนริมฝีปากของทั้งคู่แทบจะชนกัน น้ำเสียงเย็นๆนั้นถูกกล่าวอย่างแผ่วเบา ฝ่ามือกร้านแนบสัมผัสกับใบหน้าใสของพี่ชายฝาแฝด “ชั้นพนันได้เลย...”
“ใบหน้าแบบนี้....ผิวขาวละเอียดแบบนี้....” มือที่แนบกับใบหน้าใสของอีกฝ่ายละออกแล้วเลื่อนไปลูบเบาๆที่แผ่นอกเนียน “...แล้วยังแต่งตัวแบบนี้อีก” นัยน์ตาคมมองผืนผ้าที่พันกายอีกฝ่ายเอาไว้
“นายเดินออกไปไม่พ้นตรอกหน้าแน่...”
“หึ! ถ้าเจ้ายังมีชีวิตอยู่ได้ ข้าก็ไม่มีทางถูกมนุษย์โสมมฆ่าเอาหรอก” เวอร์จิลปัดมืออีกฝ่ายออกอย่างไม่ใยดี “หลบทางข้า!” เขากล่าวพลางตวัดนัยน์ตาเฉียบคมมองร่างเบื้องหน้าอย่างเยียบเย็น
ดันเต้ยิ้มขัน “ถึงจะเป็นฝาแฝดกัน แต่ด้วยสภาพแวดล้อมน่ะ...เราต่างกันนะ อีกอย่าง...” มือกร้านปลดปมผ้าที่อีกฝ่ายใช้ต่างเครื่องนุ่งห่มออก แต่ยังคงรั้งผ้าผืนนั้นเอาไว้ในมือ “ชั้นไม่ได้แต่งตัวแบบนี้ด้วย...”
นัยน์ตาสีห้วงสมุทรเบิกกว้าง แต่ภายในไม่กี่วินาทีก็กลับเป็นน้ำแข็งเช่นเดิม
“....ปล่อยข้า....”
“แน่ใจแล้วเหรอ?” ถึงสีหน้าจะไม่แสดงออก แต่เขาก็รู้สึกได้ว่าพี่ชายแท้ๆนั้นหวั่นเกรงไม่น้อยจากลมหายใจที่สะดุดเมื่อมือที่กุมผืนผ้านั้นทำท่าจะผละออก
“ข้าบอกให้ปล่อยมือออก!” ร่างกึ่งเปลือยนั้นตวาดใส่อย่างเหลืออดพลางใช้มือกระชับผ้าให้แน่นขึ้น
ร่างสูงผู้เป็นน้องยิ้มขำแต่ก็ยอมปล่อยมือออกโดยไม่ว่าอะไร “ตกลงนายจะอยู่ที่นี่...หรือจะไปล่ะ?”
“ข้าไม่อยู่ที่นี่ให้เป็นตัวตลกของเจ้าหรอก!”
“ก็ตามใจสิ....ชั้นที่สนใจคนที่ไม่ทันไรก็ ‘แพ้’ ชั้นนักหรอก” ดันเต้กล่าวด้วยน้ำเสียงยียวนกวนเบื้องยุคลบาท
ร่างที่ถูกเอ่ยถึงตวัดมองอย่างเจ็บแค้นพลางกระชับดาบในมือ แล้วใช้มันแทงเข้าที่อกของอีกฝ่ายจนทะลุ...เลือดไหลยาวเป็นทาง
ดันเต้ยิ้มก่อนจับข้อมืออีกฝ่ายแล้วกระชากเข้ามา จนดาบนั้นแทงเข้ามาสุดด้าม
“นายรู้ดีนี่...พี่ชายของชั้น รู้ดีว่าแค่นี้มันฆ่าชั้นไม่ได้...”
เป็นอีกครั้งที่เขาสามารถทาบคมดาบกับลำคออีกฝ่ายได้ ใบหน้าคร้านคมเลื่อนเข้าใกล้ใบหูนิ่ม “ทำไมนายไม่ตัดคอชั้นซะล่ะ? ทั้งที่ชั้นเปิดโอกาสให้แท้ๆ”
“เรื่องของข้า!” ร่างโปรงบางตวาดพลางดึงดาบนั้นออก แต่เพราะอีกมือหนึ่งต้องคอยจับผ้าไม่ให้เลื่อนหลุด ทำให้ดึงมันออกอย่างทุลักทุเล... “ถ้าไม่อยากถูกข้าฆ่า แล้วยึดกางเกงที่ใส่อยู่ล่ะก็...ถอยไปซะ!”
“ฮะ...ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ! เอาสิ! ถ้าชั้นตายด้วยเรื่องแบบนั้นจริง...ก็สมควรแล้ว โอ้ย! ฮะๆๆๆ!” ร่างที่มีดาบปักคาอกหัวเราะพรวด .......ฆ่าขโมยกางเกงเนี่ยนะ.......
ใบหน้างามขมวดคิ้วอย่างฉงนใจ .....ข้าพูดอะไรผิดรึ?......
“เอามือสกปรกออกจากตัวข้า...” ร่างที่ดื้อดึงจะไปให้ได้เอ่ยขึ้นพลางกระชากยามาโตะดาบคู่ใจมาแนบลำคออีกฝ่าย ส่วนมืออีกข้างไม่วายกระชับผ้าโปร่งบางแนบกาย
“อีกอย่าง...หากข้าไม่มีที่จะไป...ข้าเพียงจัดการมนุษย์ที่ใดสักที่ แล้วยึดสมบัติและที่อยู่ของมันมา....ก็เท่านั้น....ก็แค่มนุษย์อ่อนแอ...” เสียงเยียบเย็นเสียจนเหน็บไปถึงสันหลังเอ่ยอย่างยียวน พลางยิ้มเย้ยหยันค่าความเป็นมนุษย์อันต่ำต้อย ถึงแม้ราคีคาวของเลือดที่เขากล่าวว่า ต่ำต้อย จะไหลเวียนอยู่ในเส้นเลือดของเขาก็ตาม
รอยยิ้มมั่นใจฉาบอยู่บนใบหน้าคมของผู้เป็นน้องที่แม้จะถูกดาบทาบคออยู่ก็ตาม
“ไม่รู้สิ....ชั้น....อาจจะต้องการให้นายฆ่าชั้นก็ได้นะ......พี่ชายที่รัก.....”
ความคิดเห็น