คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Episode 1
1
ออด~ ออด~
“งั้นพอแค่นี้ก่อนละกันนะครับ อย่าลืมทำการบ้านให้เสร็จด้วยนะครับ ไปทานข้าวกันได้แล้วล่ะ” อาจารย์โคโระว่าพลางเก็บของแล้วเดินออกจากห้องไป
เมื่ออาจารย์โคโระออกไปแล้ว เสียงเด็กนักเรียนทั้งห้องก็ดังขึ้นมาทันที ฉันหยิบกล่องข้าวพร้อมกับนมสตอเบอร์รี่ขึ้นมาวางบนโต๊ะ ไม่สนใจเสียงคุยของเพื่อนในห้อง
“อาสุกะจังจ๊ะ นั่งด้วยได้รึปล่าว” ‘คายาโนะ’ เดินเข้ามาพร้อมกล่องข้าวในมือ ข้างหลังเธอมีเด็กผมสีฟ้ามัดแกละสองข้างยืนอยู่
“ได้สิ แล้วเธอชื่ออะไรล่ะ” ฉันถามออกไปพลางเลื่อนสายตามองเด็กคนนี้ตั้งแต่หัวจรดเท้า ผมสีเขียวยกขึ้น หน้าอกแบนแฟบ แต่รวมๆก็ถือว่าน่ารักอยู่ ดูเหมือนเพื่อนในห้องจะลืมสนใจฉันไป พอคายาโนะเดินเข้ามาก็กรูกันมาหมดทั้งห้อง
“นี่ๆ เธอมาจากที่ไหนเหรอ”
“แล้วทำไมอยู่ๆก็ย้ายมาหล่ะ”
และอีกมากมายหลายคำถามจนฉันไม่รู้จะตอบคำถามไหนก่อนดี
“ย๊า~~ หยุดเดี๋ยวนี้นะพวกเธอ ฉันคุยกับอาสุกะจังอยู่นะอย่ามาแทรกได้ม๊ายยย” คายาโนะโวยวายขึ้นหลังจากเงียบมานาน
“เอาน่า คายาโนะจัง เย็นไว้ๆ” ‘ชิโอตะ นางิสะ’ พยายามเกลี้ยกล่อมคายาโนะไม่ให้โวยวายไปมากกว่านี้ ฉันหยิบกล่องข้าวและนมสตอเบอร์รี่แล้วลุกเดินออกจากห้องไปด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย
“เฮ้อ~ น่าเบื่อจัง ไม่มีอะไรให้ทำเลยรึไงน้า” ฉันบ่นกับตัวเองเบาๆ แล้วทรุดลงตรงบันไดหินหน้าสนาม แล้วเปิดกล่องข้าว ฉันใช้ตะเกียบคีบสิ่งที่อยู่ในนั้นส่งเข้าปากเรื่อยๆพร้อมกับดูดนมไปด้วย โดยไม่รู้เลยว่ามีคนๆหนึ่งแอบมองฉันตลอด
คาบพละ
“เอาล่ะ วันนี้ฉันจะให้ใช้มีดฝึกเหมือนเดิมนะ อ้อ อาสุกะ ฉันจะดูความสามารถของเธอหน่อย” ‘ทาดาโอมิ คาราสึมะ’ อาจารย์สอนพละเรียกฉันออกไป ฉันลุกขึ้นแล้วเดินไปหาตามที่สั่ง
“เธอใช้มีดนั่นทำยังไงก็ได้ให้มันโดนตัวฉัน เอาความจริงไม่ต้องก็ได้ฉันจะดูทักษะเธอ” ฉันก้มลงหยิบมีดที่วางอยู่แล้วพยักหน้ารับ
“ได้ค่ะ”
“งั้น เข้ามา” อาจารย์คาราสึมะกวักมือเรียก ฉันรู้สึกได้ว่าเพื่อนๆหลายคนกำลังมองมาอย่างสนใจ แล้วอีตาผมแดงนั่นไปไหนน่ะ โดดงั้นเหรอ เอาเหอะ เดี๋ยวฉันก็จะโดดเหมือนกัน
ฉันจับมีดให้กระชับแล้วพุ่งไปหาอาจารย์คาราสึมะอย่างรวดเร็วพลางแทงมีดที่อยู่ในมือเข้าไป เขาหลบได้แล้วทำท่าจะจับฉันกดพื้น ฉันรีบกระโดดตีลังกากับหลังออกมาแล้ววิ่งเข้าไปหาอีกครั้ง คราวนี้ฉันกระโดดขึ้นแล้วเบี่ยงตัวไปทางซ้ายยกขาขึ้นแล้วจับมีดโดยใช้ขา(ถอดรองเท้าออกแล้ว)แล้วตวัดมันไปหาเขา เขาเอี้ยวตัวหลบซึ่งนั่นก็เข้าแผนของฉันพอดี ฉันเอนตัวไปทางเขาแล้วหันมีดกลับมา ใช้มือดันพื้นสปริงตัวงอขาขึ้นเอามือจับมีดแล้วม้วนตัวกลางอากาศ เขาดูช็อกที่ฉันเคลื่อนไหวได้ขนาดนั้นจนไม่ขยับเขยื้อน ฉันสบโอกาสแทงเข้าที่กลางลำตัวเค้าโดยใช้ลำตัวบังมีดไว้ไม่ให้เขามองเห็น
ดึ๋งๆ
ฉันนิ่ง เขานิ่ง เพื่อนๆที่ดูอยู่ก็นิ่ง สักพักก็มีเสียงขึ้นมาว่า
“เห~~~~ นี่เธอแทงอาจารย์คาราสึมะได้ด้วยเหรอ เก่งแฮะ” เสียงนั้นเหมือนจะทำให้เพื่อนๆได้สติกลับมาพลางร้องยินดีกับฉัน ฉันปล่อยมีดแล้วเดินออกมาใส่รองเท้าตามปกติ
“โอเคแล้วนะคะ อาจารย์คาราสึมะ หนูคงผ่านแล้วงั้นขอตัวก่อนละกัน” ฉันหันไปพูดกับเขาแล้วเดินออกมาจากตรงนั้นทันที ดูเหมือนว่าอาจารย์โคโระจะเดินเข้าไปหาอาจารย์คาราสึมะแล้วพูดอะไรบางอย่างกัน
_ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _
“เด็กคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆด้วยนะครับ ทั้งที่ไม่ได้ฝึกเลยแท้ๆ” อาจารย์โคโระว่าพลางชำเลืองมองเด็กสาวผมสีแดงที่เดินออกไปเมื่อครู่
“เก่งขนาดที่ฉันสู้ไม่ได้เนี่ย อาจจะฆ่าแกได้ก็ได้นะ” ถึงแม้ว่าเด็กคนนั้นจะผ่าน แต่ดูเหมือนว่าเธอจะยังไม่ได้เอาจริงเลย
“แล้วคุณรู้ไหมครับว่าทำไมเธอถึงมาอยู่ห้อง E” อาจารย์โคโระถามต่อเพราะดูเหมือนว่าเธอจะไม่ใช่นักฆ่าที่ถูกส่งมา
“อ้าว นี่อาสุกะจังไม่ใช่นักฆ่าเหรอคะ” อาจารย์ทั้งสองหันไปมองคนพูด ปรากฏว่านักเรียนทั้งหมดกำลังฟังสิ่งที่พวกเขาพูดอยู่อย่างตั้งใจ
“อืม... ฉันไม่ค่อยรู้หรอก รู้สึกว่าเธอจะป่วยไปครึ่งปี จากที่อยู่ห้อง A ก็เลยลงมาห้อง E น่ะ” อาจารย์คาราสึมะตอบด้วยน้ำเสียงเหมือนไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่
“โห~ อยู่ห้อง A เนี่ยแสดงว่าต้องเก่งสุดๆเลยอ่ะดิ” ‘ไทกะ โอคาจิมะ’ ว่าขึ้นมา
“ช่างมันเถอะ พวกนายกลับไปซ้อมต่อกันได้แล้ว” อาจารย์คาราสึมะเอ่ยปากไล่เหล่าเด็กนักเรียน
“คร้าบ~ ค่า~” นักเรียนขานรับแล้วซ้อมต่อกันดังเดิม
_ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _
“เฮ้อ~ ทำไมมันน่าเบื่อขนาดนี้เนี่ย นึกว่ามาอยู่ห้อง E แล้วจะมีอะไรสนุกๆให้ทำซะอีก” ฉันเดินบ่นไปเรื่อยๆ ความจริงแล้วที่ฉันย้ายมาอยู่ห้อง E ก็เพราะว่าฉันเบื่อ ก็เลยเดินเข้าไปเอาถ้วยรางวัลของคุณผู้อำนวยการมาเดาะเล่นจนมันตกแตก ก็เลยโดนย้ายมาอยู่ห้อง E ก็แค่นั้นเอง(นี่ห้องผู้อำนวยการมันเดินเข้าเดินออกกันได้ง่ายๆเลยเรอะ)
แซ่ก~ แซ่ก~
ฉันรู้สึกเหมือนมีอะไรตามฉันมาเลยแฮะ ฉันมองไปที่พุ่มไม้ที่อยู่ไกลกับฉันพอสมควร แล้วหยิบปืนอัดลมที่พกมาเหนี่ยวไกไปทางนั้น
ตุ้บ~
“โอ๊ย!!!” มีเสียงของคนๆหนึ่งดังออกมาจากหลังพุ่มไม้นั่น แล้วเขาก็ลุกขึ้นยืนทำให้ฉันเห็นหน้าเขาชัดเจนขึ้น
“ตามฉันมามีอะไรรึปล่าว คารุมะคุง” ฉันกอดอกถามด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
“ปล่าว แล้วเธอจะไปไหนน่ะ” คารุมะคุงตอบปัดฉันแล้วถาม
“เรื่องของฉัน นายยุ่งอะไรด้วย”
“แต่ทางนั้นมันหน้าผานะ”
“ขอบคุณที่บอก ฉันกำลังจะเดินไปพอดี”
“แล้วเธอจะไปที่นั่นทำไม”
“ไปกระโดดบันจี้จัมพ์มั้ง ถามได้” ฉันไม่สนใจเขาอีกแล้วเดินไปทางหน้าผา คารุมะคุงเดินตามฉันมาเรื่อยๆ
ฉันเดินมาหยุดอยู่ปากหน้าผาแล้วเหม่อมองไปไกลพลางทรุดตัวลงนั่งแกว่งขา ที่นี่เป็นที่ๆฉันชอบตั้งแต่มาอยู่ห้อง E มันเงียบสงบ ลมก็พัดเย็นสบาย บางทีฉันก็ไปนั่งตรงต้นไม้ที่มันยื่นออกไปต่อ แต่ตอนนี้ไม่มีอารมณ์ ฉันเริ่มคลอเพลงในลำคอเบาๆ เหมือนกับฉันอยู่คนเดียวบนโลก ฉันไม่ค่อยมีเพื่อน พ่อแม่ก็ไม่ค่อยให้ความสนใจ จนฉันเริ่มกลายเป็นเด็กมีปัญหา พ่อแม่ก็เลยจับฉันมาเรียนที่นี่ บางทีฉันน่าจะหนีออกจากบ้านนะ มันคงสนุกมากเลยล่ะ
ฉันนั่งรำลึกอดีตไปเรื่อยๆ จนลืมคนที่ตามฉันมาอย่างคารุมะ จนฉันนึกถึงเพื่อนคนแรกของฉันที่ประเทศไทย ตอนนี้เธอคนนั้นจะเป็นยังไงบ้างนะ ถ้าตอนนั้นฉันไม่งี่เง่า เธอก็คงไม่จากฉันไป ใช่ ฉันทำเพื่อนคนแรกของฉันตาย วันนั้นฉันทะเลาะกับเธอรุนแรงมาก ฉันเสียใจสุดๆก็เลยคิดฆ่าตัวตาย ฉันวิ่งหนีเธอออกมาที่ถนนฉันรอรถที่รีบขับมาแล้วตัดสินใจวิ่งออกไปให้รถชน แต่ไม่ ฉันไม่โดน พวกคุณก็น่าจะเดากันได้อยู่แล้ว ใช่ เพื่อนคนนั้นวิ่งตามฉันมาแล้วผลักฉันออก เธอโดนรถชนคาตาฉัน ร่างของเธอลอยกระเด็นไปไกล ฉันรีบวิ่งไปหาร่างของเธอ ดูเหมือนเธอจะยังมีสติอยู่
“ฉะ..ฉัน..ดี...ใจนะ....ที่เธอ....ไม่โดน..อึก..รถชน”
“ไม่ เธอไม่ต้องพูดอะไรแล้วฉันจะพาเธอไปโรงพยาบาล” ฉันว่าก่อนจะกดโทรศัพท์เตรียมเรียกรถพยาบาล แต่มือของเธอคนนั้นกลับจับมือฉันไว้แล้วส่ายหน้าไปมา
“มะ..ไม่ต้อง...แล้วล่ะ..มัน..สายไป.....แล้ว”
“ไม่เอานะ เธอจะต้องไม่ตาย ฉันไม่ยอมให้เธอเป็นอะไรแน่” ฉันว่าพลางมองดูเธอที่ตาเริ่มจะปิดลงเรื่อยๆ
“ฉะ...ฉันขอ...โทษนะ...ที่...คิด...ว่า....ธะ.เธอ...เป็น..คน..แบบนั้น”
“ไม่ ฉันผิดเอง ที่ไม่อธิบายให้เธอเข้าใจ” ฉันเริ่มร้องไห้ออกมา
“ขะ..ขอบคุณ....นะ ที่..ปะ...เป็น...เพื่อน...กับฉัน...แล้วก็...ลาก่อน” สิ้นคำมือที่ฉันจับอยู่ก็เลื่อนออกจากมือฉัน เธอไปแล้ว ไม่นะ ไม่!!!
“ไม่นะ ไม่เอา กลับมา กลับมาเถอะ ขอร้อง” ฉันกอดร่างไร้วิญญาณของเธอเอาไว้พลางคร่ำครวญซ้ำไปซ้ำมา
คิดมาถึงตรงนี้แล้วอดร้องไห้ไม่ได้ ฉันเสียเพื่อนไปต่อหน้าต่อตา หลังจากนั้นฉันก็กลายเป็นคนไม่มีเพื่อน เก็บตัวเงียบอยู่ที่บ้านเป็นเดือนๆ ไม่ออกไปไหน ไม่ทำอะไร จนล้มป่วย ถ้าพ่อกับแม่ไม่กลับมาตอนนั้นพอดีแล้วพาฉันส่งโรงพยาบาล ฉันอาจจะไม่รอดมาถึงตอนนี้ก็ได้
“ฮึก......ฮึก” ฉันสะอื้นเบาๆ แล้วเริ่มร้องไห้หนักขึ้นเรื่อยๆ มีแค่เรื่องนี้เท่านั้นที่ทำให้ฉันร้องไห้ ที่ฉันไม่อยากมีเพื่อนเพราะแบบนี้ล่ะ
_ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _
“ธะ...เธอ” ผมพูดออกมาเบาๆเมื่อได้ยินเสียงร้องไห้จากเด็กหญิงผมสีแดง ผมรีบเดินเข้าไปใกล้แล้วจับเธอให้หันมา
เธอร้องไห้ ดวงหน้าสวยหวานเปรอะเปรื้อนไปด้วยน้ำตา ร่างบางสะอื้นฮักๆ อยู่ตลอด ผมอึ้งไปนิดหน่อย สมองประมวลผลว่าควรทำยังไงกับสถานการณ์ตรงหน้า ผมดึงเธอเข้ามากอดพลางลูบหัวปลอบประโลมเธอ เส้นผมที่ผมจับอยู่นั้นนุ่มมาก มีกลิ่นหอมอ่อนๆลอกออกมาจากตัวเธอ เธอเกาะเสื้อของผมไว้แน่นราวกับกลัวว่าผมจะหนีหายไปไหน
“ทะ..ทำไม ทำไมเธอถึงต้องตายด้วย ทำไมถึงปกป้องฉัน ทำไม” ผมได้ยินเสียงเธอพูดออกมาเบาๆ เรียกได้ว่ากระซิบเลยแหล่ะ เหมือนเธอจะพูดกับตัวเองมากกว่า
เอาเป็นว่าผมพาเธอกลับห้องเรียนก่อนดีกว่าแฮะ แล้วจะพาเธอไปยังไงเนี่ย อุ้มเลยละกัน
ผมอุ้มเธอด้วยท่าเจ้าสาวแล้วก้าวเท้ายาวๆกลับห้องทันที ดูเหมือนจะยังไม่รู้ว่าผมอุ้มเธออยู่ เธอหลับตาแน่นและยังคงร้องไห้
เมื่อมาถึงเพื่อนๆในห้องกลับกันหมดแล้ว ก็ดีเหมือนกันจะได้ไม่โดนถาม สงสัยวันนี้คงต้องพายัยนี่ไปส่งบ้านแล้วมั้ง ผมเดินไปหยิบกระเป๋าของผมกับเธอแล้วออกมา
“นี่ บ้านเธออยู่ไหนน่ะ” ผมก้มลงถามคนในอ้อมแขนเบาๆ แต่ดูเหมือนว่าเธอจะหลับไปแล้ว ผมก็เลยเดินกลับบ้านตัวเอง ก็ไม่รู้จะไปส่งเธอที่ไหนนี่นา แล้วห้องของผมก็คงใหญ่พอให้ยัยนี่ไปอยู่ด้วยได้
เวลาต่อมา~
ผมเดินเข้ามาในบ้าน โชคดีที่พ่อกับแม่ของผมยังไม่กลับบ้าน ผมรีบเดินขึ้นชั้นสองไปที่ห้องของผมทันที ผมวางเธอลงบนเตียงแล้ววางกระเป๋าไว้บนโต๊ะหนังสือคว้าผ้าเช็ดตัวและชุดเดินเข้าห้องน้ำไป สักพักผมก็เดินออกมาแล้วขยับตัวเธอให้ไปชิดอีกฝั่งของเตียง จะได้นอนด้วยได้ ผมปิดไฟหัวเตียงแล้วห่มผ้านอนทันที ไม่ไหว ง่วงมาก
_ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _
TBC
ความคิดเห็น