รอ......รักเธอ.......กลับมา - รอ......รักเธอ.......กลับมา นิยาย รอ......รักเธอ.......กลับมา : Dek-D.com - Writer

    รอ......รักเธอ.......กลับมา

    โดย kurei

    เรื่องเศร้าของการรอคอยของผู้หญิงคนหนึ่ง

    ผู้เข้าชมรวม

    150

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    5

    ผู้เข้าชมรวม


    150

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  18 ก.ค. 49 / 14:39 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
                                                                                                        

      รอรัก......เธอ.....กลับมา

      โดย kurei

       

      บางครั้งความห่างไกล ก็ทำให้ความรักจบลงได้เช่นกัน

       

       

      พวกคุณเคยรู้สึกไหม ว่าเวลามีความรักมันช่างมีความสุขแต่เวลารักอยู่ห่างไกลมันก็ทุกข์ทรมานเหมือนกัน

                                                                                                       

                                                                                                                                จาก  คนที่เฝ้ารอ

          

                      ฉันจบประโยคสุดท้ายในการเขียนไดอารี่ไว้แค่นั้นแล้วปิดสมุดบันทึกลงด้วยจิตใจที่เหม่อลอย  มันนานเป็นปีแล้วที่ฉันเฝ้าใครคนหนึ่งกลับมา ตะวัน ทานข้าวได้แล้วลูกเสียงแม่ของฉันเรียก ซึ่งทำให้รีบออกจากห้องนอนโดยเร็ว เมื่อฉันนั่งลงที่โต๊ะกินข้าว ประโยคแรกที่ฉันได้ยินพี่ชายพูดก็คือ ตะวัน นายเอกเค้าติดต่อมาบ้างรึเปล่า ฉันไม่ได้ตอบอะไรได้แต่สั่นศีรษะ ท่าทางอย่างของฉันทำให้พี่ชายเสียงแข็งขึ้นมาทันที ตะวันฉันว่าแกเลิกคิดถึงเจ้าเอกได้แล้วนะ และหาแฟนใหม่เถอะ ไม่มีคำตอบรับออกจากปากฉันซึ่งกำลังก้มหน้าก้มตาทานข้าวอยู่ เมื่อแม่เห็นดังนั้นก็พูดขึ้นว่า ยะให้น้องตัดสินใจเองเถอะลูก จบประโยคนั้นฉันลุกขึ้นทันที อ้าว อิ่มแล้วรึลูก แม่ถาม ฉันไม้ได้ตอบอะไรเพียงแต่พยักหน้าตอบรับ แล้วจึงกลับเข้าห้องไป

       

                      เช้าวันจันทร์ที่แสนจะวุ่นวายสำหรับใครหลายๆคน แต่สำหรับฉันมันชั่งเงียบเหงาสิ้นดี  เพราะงานของฉันมันไม่ได้ยุ่งยากวุ่นวายเหมือนคนอื่น มันเป็นงานเขียนบทความเกี่ยวการดูแลสุขภาพทั่วไป ลงนิตยสารผู้หญิงชื่อดังฉบับหนึ่ง ซึ่งการหาข้อมูลก็ทำได้ไม่ยากเพียงหาในอินเตอร์ก็เพียงพอแล้ว จึงทำให้ฉันทำงานอยู่ที่บ้านได้ หรือไม่ก็ออกข้างนอกบางครั้งแต่ก็ไม่บ่อยนัก อาจเป็นเพราะลักษณะงานที่เป็นแบบนี้ทำให้ฉันไม่มีเพื่อนมากนัก มีก็แต่เพื่อนสมัยมัธยม และมหาวิทยาลัยเท่านั้น จึงนานๆจะติดต่อกันสักที และในบรรดาเพื่อนก็มี เอก หรือ เอกภพ รวมอยู่ด้วย เอกกับฉันเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เรียนมัธยมปลาย เราเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน จึงสนิทกันมาก และด้วยความสนิทสนมนั้น ทำให้เราสองคนพัฒนาจากเพื่อนเป็นแฟนกันในที่สุด แต่เมื่อจบมัธยมปลายเราก็ต่างแยกกันไปเรียนในระดับมหาวิทยาลัย แต่เอกตัดสินใจไปเรียนต่อต่างประเทศ ซึ่งเอกก็ไม่ได้บอกอะไรฉันสักคำ จะว่าไปฉันอาจะรู้เป็นคนสุดท้ายเลยก็ว่าได้ ฉันร้องไห้ตอนที่ฉันถามเขา และเขาก็ตอบกลับมาว่า แล้วเราจะกลับมานะ เราสัญญา เอกพูดเพียงแค่นั้นแล้วเช็คน้ำตาให้ฉันเงียบๆ วันที่เอกเดินทางฉันไม่ได้ไปส่งเขา โดยฉันให้เหตุผลง่ายๆว่า เราไม่อยากร้องไห้ ก่อนที่เอกจะไป ซึ่งเหตูผลข้อนั้นทำให้เอกยอมรับโดยดี

       

                      ฉันนึกขอบคุณเทคโนโลยีการสื่อสารยุคนี้เป็นมาก ที่ทำให้เส้นทางระหว่างฉันกับเอกไม่ห่างไกลเกินไปนัก เราติดต่อกันอยู่ตลอดเวลา บางครั้งก็โทรศัพท์ บางครั้งก็เอ็มเอสเอ็น แต่เพราะต่างคนต่างมีหน้าที่ของตัวเองและช่วงเวลาที่ไม่ตรงกัน ทำให้การติดต่อกันของเราสองคนลดลงไปเมื่อตอนฉันเรียนอยู่ปีสาม เทมอสอง ซึ่งมันก็เริ่มเปลี่ยนไป จากที่เคยโทรศัพท์มาทุกอาทิตย์ ก็เหลือเพียงเดือนละครั้งสองครั้ง จากที่ตอบอีเมล์ทุกฉบับก็เปลี่ยนตอบบ้างไม่ตอบบ้าง ฉันเคยถามเอกเหมือนกันว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ เขาก็ตอบแต่เพียงว่า ช่วงนี้เราเรียนหนักการติดต่อระหว่างฉันกับเอกเป็นเช่นนี้เรื่อยมา จนกระทั่ง คืนหนึ่งมี เอสเอ็มเอส จากเอก ที่มือถือของฉันว่า

      วันจันทร์จะโทรหานะ คิดถึงนะ รักมาก จากเอก เมื่อเห็นข้อความนั้นฉันรู้สึกดีใจมาก เพราะวันจันทร์เป็นวันเกิดของฉัน

                      แต่เมื่อวันจันทร์มาถึงก็ไม่มีเสียงโทรศัพท์ดัง ไม่มีใครโทรมาแม้แต่เอก ฉันรู้สึกหนักอึ้งอยู่ในอก โดยที่ไม่สามารถบอกใครได้เลย ฉันรู้สึกว่าในวันเกิดของฉัน ฉันจะร้องไห้ไม่ได้ จึงต้องสนุกสนานไปตามเรื่อง หลังจากวันนั้น ฉันพยายามติดต่อเอกทุกทางที่จะทำได้ ทั้งโทรศัพท์ อีเมล์ และ จดหมาย ต่สิ่งที่ตอบกลับมาคือความว่างเปล่า ผ่านไปเป็นสัปดาห์ เป็นเดือน และก็เป็นปี ฉันเริ่มบอกครอบครัวและเพื่อนๆว่าเอกขาดการติดต่อไป จนเวลาผ่านไปตอนฉันเรียนจบ  ฉันเพียงส่งข้อความบอกเขาว่าฉันเรียนจบแล้ว และได้งานทำแล้ว แต่ก็ไม่มีอะไรตอบกลับมา เหมือนกับเอกไม่มีตัวตนอยู่เลย

                                                                    

                                                                            ได้แต่เฝ้ารอเธอ

                                                                               ได้แต่เพ้อละเมอหา

                                                                                ว่าเมื่อไหร่เธอจะมา

                                                                                 รู้ไหมว่ามีคนตั้งตาคอย

       

                      เวลาก็ผ่านไปเกือบสองปีแล้ว ชีวิตฉันก็ยังเป็นเหมือนเดิมคอยทำแต่เดิมคือพยายามโทรศัพท์ อีเมล์และจดหมาย ที่พยายามติดต่อเอกแต่สิ่งที่ได้มากลับเป็นความว่างเปล่าเช่นดิม เคยมีเพื่อนถามฉันว่า ฉันเลิกกับเอกรึยัง   

      ฉันตอบอะไรเพื่อนไม่ได้เลยได้เงียบอย่างเดียว ก็จะให้ตอบอะไรในเมื่อฉันกับเอกยังไม่ได้บอกเลยกัน เพียงแต่เขาหายไปเท่านั้นเอง บางคนอาจคิดว่าโง่ก็ได้ เพราะจะมานั่งรอทำไมกับคนที่ไม่กลับมา แต่ในใจลึกๆฉันก็รู้ว่าเอกจะกลับมา ฉันอยากให้กลับมาบอกกับฉันมากกว่าว่าระหว่างเราจะเป็นยังไงต่อไป                            

       

                                  ชีวิตของฉันยังดำเนินต่อไปเรื่อยๆ อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เพื่อทำงาน และเล่นเอ็มเอสเอ็นกับเพื่อนเก่าทั้งวัน แน่นอนว่ารายชื่อในในการแชทนั้น ก็มีชื่อเอกอยู่ด้วย แต่แม้จะมีชื่อ แต่เข้าไม่เคยออนไลน์แม้แต่ครั้งเดียว หรือวาฉันควรตัดใจจากเอกจริงๆ ขณะที่ฉันกำลังคิดอย่างเหม่อลอยอยู่นั้น ก็มีเสียงว่ามีคนแชทเข้ามาใหม่ ฉันจึงคลิกหน้าจอ เข้าไปดูปรากฎว่าคนคนั้นไม่ใช่เพื่อนฉัน และไม่ใช่คนที่ฉันรู้จัก

                     

                      Miss:สวัสดีครับ ตะวัน

                      Sun: นายเป็นใคร

                      Miss: เพื่อนเอก

      ฉันรู้สึกงงและสับสนมาก ที่อยู่ๆมีคนอ้างเป็นเอก

                      Miss:ยังอยู่รึเปล่าครับ

                      Sun: อยู่ ฉันจะเชื่อนายได้ยังไงนะ

      เพื่อนของเอกเริ่มเล่าเรื่องราวระหว่างเขากับเอกให้ฟังว่า ผมชื่อ ขัตติยะ ชื่อเล่นชื่อ ติ เป็นรูมเมทของเอก เรียนอยู่มหาลัยเดียวกัน แต่คนละคณะ ตอนนี้กำลังเรียนปริญญาโทอยู่และทำงานไปด้วย เพื่อรับความจริงนายติเลยส่งรูปถ่ายระหว่างเขาให้ดู ในภาพนั้นเป็นของชายหนุ่มสองคน ซึงหนึ่งในนั้นก็คือเอก ส่วนอีกคนเป็นผู้ชายตัวสูง ผิวเข้ม จมูกโด่ง ใส่แว่นกรอบบาง ยืนกอดคอเอกอยู่ นั้นเป็นรูปของนายติแน่นอน เราคุยกันเรื่องสัพเพเหระอีกหลายเรื่อง ฉันจึงถามเขาว่าติดต่อกับเอกบางรึเปล่า หลังจากเรียนจบผมก็พยายามติดต่อเอกนะ แต่เอกไม่ติดต่อกลับมา แล้วเจ้าเอกมันไม่ติดต่อตะวันเลยรึครับ คำตอบนั้นทำให้ฉันเล่าเรื่อเงราวการหายไปของเอกให้ติฟัง ผมต้องขอโทษด้วยที่ไม่ได้ ถามตะวันเสียก่อน ผมยังเข้าใจว่าเอกกลับเมืองไทยไปหาตะวันแล้วเสียอีก ผมเลยลองติดต่อกับตะวันดู ก่อนจบการสนทนาติกับฉันเลยตกลงกันว่าจะลองตามหาเอกดูอีกครั้ง โดยที่ติจะลองถามที่สถานฑูตให้ ส่วนฉันก็ลองถามจากเพื่อนสนิทของเอกที่เมืองไทยดูอีกครั้ง

       

      หลังจากผ่านไปสองวันการตามหาของฉันก็สูญเปล่าอีกตามเคย ระหว่างกำลังนั่งรอข่าวจากติอยู่นั้น เสียงกริ่งประตูหน้าบ้านก็ดังขึ้น ฉันจึงรีบวิ่งออกไปดูซึ่งปรากฎว่าเป็นบรุษไปรณีย์ ฉันจึงรับจดหมายแล้วเดินกลับเข้าบ้านมา  ฉันพลิกดูจดหมายแต่ละฉบับพอมาถึงฉบับสุดท้าย ซึ่งจาหน้าซองถึงฉันลายมือนั้นเป็นลายมือทีคุ้นตามาก ลายมือของเอกฉันจึงแกะซองอ่านจดหมายทันที

       

      ถึง ตะวัน

      ตอนที่ตะวันอ่านจดหมายฉบับนี้เราคงไม่อยู่แล้วเราขอโทษที่ต้องทำแบบนี้ ขอโทษที่ผิดสัญญา

      เราไม่อยากเห็นตะวันร้องไห้เลย เราเลยตัดสินใจไม่ติดต่อตะวันดีกว่ารไม่อยากให้ตะวันเห็นว่าเราอ่อนแอ เราป่วยเป็นมะเร็งในเม็ดเลือด ตอนที่รู้ว่าเป็นมันระยะแรก เรากลุ้มใจมากเลยตอนแรกเราคิดจะกลับไปหาตะวัน แต่พ่อแม่เราขอให้เรารักษาตัวอยู่ที่นี้ พอแข็งแรงแล้วค่อยกลับไปหาตะวันซึ่เราก็เห็นด้วยเพราะอยากให้ตะวันเห็นเรา ในสภาพที่ดูดี เราอยู่โรงพยาบาลตลอดเลย ทำให้ขาดการติดต่อไป แต่ความหวังของเรามันดูน้อยลง อาการทรุดลงเร็วมาก จนเราคิดว่าคงไม่สามารถกลับไปหาตะวันได้แล้ว เราต้องขอโทษด้วยจริงๆ หลังจากตะวันอ่านจดหมายฉบับนี้จบ เราขอให้ตะวันโทรศัพท์ตามเบอร์ข้างล่างนี้ มันเป็นเบอร์ของนายติ เพื่อนเราเอง ตะวันไว้ใจนายติได้ เขาเป็นคนดี และเป็นเพื่อนที่ดีด้วย ติมันช่วยดูแลเราตลอดเลยมี่ติเราคงแย่กว่านี้ อย่าโกรธนายติเลยนะถ้ามันโกหกตะวันเรื่องของเรานะ เราขอให้ตะวันมีความสุขนะ และเราขอโทษที่ไม่สามารถรักษาสัญญาได้

       

                                                                                                                                              รักตะวันนะและขอโทษ

       

                                                                                                                                                                จาก เอก

                     

      หลังจากอ่านจดหมายจบฉันก็เอาแต่นั่งร้องไห้อยู่ตรงนั้นอยู่พักใหญ่จึงค่อยตั้งสติไปโทรศัพท์หาติ                       เพื่อนของเอกได้ ผมขอโทษที่โกหกตะวัน เพราะผมไม่แน่ใจว่าตะวันคิดยังไงกับนายเอกกันแน่ฉันไม่ได้ต่อว่าอะไรนายติทั้งนั้น แค่เพียงถามว่าตอนนี้เอกอยู่ที่ไหน นายติจึงบอกรายละเอียดพิธีฝังศพที่จะจดขึ้นในอีกหนึ่งสัปดาห์ข้างหน้า นั้นก็เป็นเวลาที่เพียงสำหรับการจัดการเรื่องเอกสารของฉัน ฉันจึงนัดแนะกับติว่าจะติดต่อเรื่องวันเดินทางอีกครั้ง ผมจะไปรับตะวันที่สนามบินนะ ส่วนเรื่องที่พักเดี๋ยวผมเตรียมให้ ฉันขอบคุณติแล้ววางสายไป

      การรอคอยความรักกลับมาของฉันมันได้จบลงแล้ว เพราะความรักที่ฉันรอคอยนั้มันจะอยู่กลับฉันเสมอ และจะอยู่ในใจฉันตลอดไป

       

                            

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×