ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ตำนานผีจากญี่ปุ่น

    ลำดับตอนที่ #9 : แหวนที่ถูกขโมยไป

    • อัปเดตล่าสุด 28 มี.ค. 57


                                                    แหวนที่ถูกขโมยไป

    พี่นกฮูก_แปล

    มันเป็นคืนที่วังเวงท่ามกลางสายฝนโปรยปราย "คืนนี้พอแค่นี้ดีกว่า" โชเฟอร์แท็กซี่บ่นพึมพำอยู่คนเดียวเมื่อมองดูนาฬิกาตอนนั้นเข็มนาฬิกาชี้เลขสองขณะที่รถกำลังแล่นกลับอู่ผ่านสุสานของเมือง เอ ก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งโบกมือเรียกรถ "กำลังจะกลับแท้ๆไม่น่าเลย" เมื่อจอดรถรับผู้หญิงคนนั้นก็แจ้งเป้าหมายปลายทาง

    "ไปที่สุสานเมือง บี ค่ะ" รู้ที่หมายแล้วโชเฟอร์ถึงกับเซ็งที่ผู้โดยสารคนนี้ขึ้นมาแต่ไหนๆก็ไหนๆแล้วจึงขับไปส่งที่สุสานเมือง บี "ถึงแล้วครับ" พอจอดรถเรียบร้อยผู้หญิงคนนั้นก็พูดขึ้นเบาๆว่า "คือ...คือว่าไม่มีเงินติดตัวเลยค่ะจะรับเป็นแหวนแทนได้มั้ยคะ" เท่านั้นเองโชเฟอร์ถึงกับฉุนขึ้นมา "ให้เป็นแหวนก็แย่สิครับขอเป็นเงินสดเถอะครับ"

    "แต่ว่าไม่มีติวตัวเลยจริงๆนะคะ" "งั้นช่วยเขียนที่อยู่แล้วเบอร์โทรศัพท์ลงในกระดาษนี่ด้วยครับ" โชเฟอร์ตั้งใจจะไปเอาเงินทีหลังซึ่งพอเขียนเสร็จก็ยื่นกระดาษคืนแล้วลงจากรถตอนนั้นเองแหวนที่นิ้วก็ส่องประกายวูบเข้าตาโชเฟอร์ "ต้องขอโทษด้วยจริงๆค่ะ" พอขอโทษเสร็จผู้หญิงคนนั้นก็เดินไปทางสุสานขณะที่เดินคล้อยหลังไปโชเฟอร์ก็อยากได้แหวนนั้นขึ้นมา

    จึงลงจากรถแล้วตะโกนเรียก "เดี๋ยวครับคุณ" แต่ผู้หญิงคนนั้นไม่ยอมหันกลับมาแต่ออกวิ่งคล้ายทำท่าจะหนี ทำเอาโชเฟอร์ฉุนกึกคว้าก้อนหินที่อยู่บนพื้นแล้วขว้างไปสุดแรง "โอ้ย"ผู้หญิงคนนั้นร้องเสียงหลงแล้วล้มพับลงก้อนหินขนาดเท่ากำปั้นถูกกระแทกเข้าที่ท้ายทอยพอดี

    เธอล้มลงเลือดไหลนองนอนตายอยู่ตรงนั้นโชเฟอร์จึงพรวดเข้าไปที่ข้างศพและพยายามรูดแหวนเพชรออกจากนิ้วแต่ทำอย่างไรก็ดึงไม่ออกเลยใช้มีดที่พกไว้ในกระเป๋าตัดขาดออกมาทั้งนิ้ว คดีฆาตกรรมครั้งนี้เกิดขึ้นกลางดึกในสุสานจึงไม่มีใครรู้เห็น ตำรวจจึงไม่สามารถหาร่องรอยคนร้ายได้

    จนผ่านไปสามปีวันนั้นเป็นวันเดียวกับเมื่อสามปีก่อนฝนก็ตกโปรยปรายเช่นกัน "ตีสองแล้วเลิกดีกว่า" โชเฟอร์คิดจะขับรถกลับอู่แล่นมาได้ซักระยะผ่านสุสานเมืองบีก็เห็นเด็กผู้ชายตัวเล็กๆยืนโบกรถอยู่กลางฝนในใจก็คิด'ไม่อยากรับเลยแฮะเอาน่าคนสุดท้ายแล้วกัน'

    คิดแล้วก็จอดรถ เมื่อเด็กชายขึ้นมาบนรถก็ถามไปว่า "จะไปไหนล่ะ?" "ไปสุสานเมืองบี" ก็ที่นี่ไงสุสานเมืองบีจึงมองไปที่กระจกหลังแล้วก็เอะใจขึ้นมาเพราะว่ามันดูแปลกๆที่เด็กผู้ชายคนเดียวมาเรียกรถแท็กซี่กลางดึกจึงได้ถามออกไปว่า "หนูมีพ่อรึเปล่า" "ไม่มีตายไปตั้งแต่ยังเล็กๆ"

    "แล้วแม่ล่ะ?" ทันใดนั้นเด็กผู้ชายก็คำรามดังลั่น "ก็ถูกแกฆ่าไปยังไงล่ะ"

    Ps.เรื่องนี้มันดูงงๆนะครับคิดเหมือนผมมั้ย? // ผมไม่ใช่คนแปลนะครับ =A=''

    Minor!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×