เลห์ร้ายแต่สุดท้าย
เมือพงศกรต้องการมากกว่าการแก้แค้นคือหญิงสาวที่เพียนหามาทั้งชีวิตเมือโอกาสที่เขาได้เจอกับเธออีกครั้งทำให้เขาตัดสินใจทันที่โดยที่จะเอาเธอมาไว้กับตัวและจะไม่ให้ใครได้ไปทั้งนั้นเธอคือผู้หญิงของเขาเท่านั้น
ผู้เข้าชมรวม
313
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ร่างที่สูงบึกบึน ดวงหน้าหล่อเหลาผิวขาวจัดเหมือนเชื่อสายจีนจมูกโด่งเป็นสัน คางเหลียมได้รูป แต่ดวงตาที่คมกล้าสองชั้นบงบอกว่าเขาเป็นคนไทยอย่างเต็มตัวไม่ใช่คนจีนอย่างที่หลายคนเข้าใจ เขาอาจดูเป็นผู้ชายที่ผู้หญิงเกือบครึ่งเมืองหมายองอยากครอบครองแทบจะฆ่ากันและยอมตายเพื่อที่จะได้เห็นรอยยิ้มของเขา แม้จะมองแค่เพียงด้านหลังก็รับรู้ได้ว่าเป็นผู้ชายที่หล่อเหลาที่เดียวและ ทุกคน ณ ที่นี้รู้ดีว่าชายหนุ่มนี้เป็นคนมุ่งมั่นและตั้งใจในการทำงานแค่ไหน แทบจะทำงานไม่มีเวลาพักเสียด้วยซ้ำไป ทุกแรงกายทุ่มเท่ให้กับงานตรงหน้าไม่มีเวลาแม้แต่จะชายตามองผู้หญิงเสียด้วยซ้ำไป!
“ คุณภัทรครับมีเอกกสารการเบิกจ่ายของบริษัทที่ต้องเซ็นอนุมัติครับ”
“วางไว้ตรงนั้นแหละเดียวฉันจะตรวจสอบก่อน ไปสืบมาว่าใครเป็นคนโกงบริษัทมาให้ได้ มันกล้ามากมันต้องได้รับบทเรียนที่สาสมกับความผิดที่มันกล้าโกงบริษัทของฉันมันจะได้บทเรียนที่สาสมฉันเกลียดคนทรยศที่สุดนายก็รู้”
แววตาที่แข็งกร้าวประดุจไฟนั้นวาววับ น้ำเสียงที่ไม่ดั้งมากนักแต่หนักแน่น บงบอกให้รู้ถึงสัญญาณอันตราย ไม่มีใครรู้ว่าผู้เป็นนายคิดอะไร นี้คือความเด็จขาดของผู้เป็นนายไม่มีใครกล้าขัดหรือฝ่าฝืนเด็จขาดหากคนที่กล้าทำหมายถึงการทาทายอำนาจของเขา หากไม่ต้องการเดือดร้อนก็ต้องหลีกทางให้ ไม่มีอะไรที่คนอย่างเขาทำไม่ได้!!
“ ครับนาย พวกเราจะจัดการให้เร็วที่สุดครับ”
“อืม...ดีเพราะฉันไม่ชอบให้มีปัญหามากนัก”
“ครับนาย!!” อธิชาติรับปากอย่างหนักแน่นเพราะรู้หน้าที่ตนดี
ภัทร หรือว่า พงค์ศกร อธิรักษ์ นักธุรกิจหนุ่มไฟแรงเนื้อหอม ไม่มีใครรู้ว่าเขาคือใครมีที่มาที่ไปอย่างไร พ่อแม่เป็นใคร ทุกคนรู้แค่ว่าเขาเป็นนักธุรกิจอนาคตไกล มองการไกลและไม่เคยแพ้ผู้ใดในชีวิตเขาไม่เคยมีคำว่าแพ้ นอกจากชนะเท่านั้นนักธุรกิจด้วยกันยอมรู้ดีว่าไม่ควรลองดีกับนักธุรกิจคนนี้เด็จขาด ไม่มีใครกล้าขวางทางเขาทุกคนรู้ดีว่าหากเขาไม่แน่จริงคงไม่ก้าวมาถึงจุดนี้ได้รวดเร็ว
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นทำให้นักธุรกิจหนุ่มเพียงแค่ปรายตาไปมองเท่านั้น ไม่มีความรู้สึกอะไรพิเศษหากหน้าจอโทรศัพท์ไม่มีเบอร์ที่เขารู้จักดี
“ สวัสดีครับย่า” ริมฝีปากหนากระตุกยิ้ม รู้ดีว่าคนที่โทร.เข้ามาคือผู้เป็นย่าที่เคารพรักเป็นที่สุดในชีวิตนี้
“ สวัสดีลูก ภัทรวันนี้หลานจะกลับบ้านกี่โมง ย่าจะได้เตรียมอาหารที่หลานชอบไว้ให้ หลานจะได้มีแรงทำงานต่อพรุ่งนี้ นะวันนี้ย่าอยากกินข้าวกับหลานย่ากินข้าวมาคนเดียวย่าอยากเห็นหน้าหลานด้วยย่าไม่เห็นหน้าหลานนานแล้วเป็นเดือนๆแล้วนะ” คนเป็นย่างอนเพื่อให้หลานชายเห็นถึงความสำคัญของตน
ตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนเต็มมานี่เขาไม่ได้กลับบ้านมาเป็นเวลานาน เขามักจะนอนที่บริษัทเสียมากกว่าเพราะไมต้องเสียเวลาเดินทางไปกลับเพราะในกรุงเทพนี่เป็นที่ขึ้นชื่อของเมืองที่รถติดที่สุดในโลกต้องออกจากบ้านก่อนเวลาเป็นชั่วโมงทำให้เขาเลือกที่จะนอนที่โรงแรมมากกว่า เพราะมีห้องของผู้บริหารอยู่เพื่อไว้เป็นที่พักผ่อนและด้วยธุรกิจกำลังขยายตัวเขาสู่ชั้นนำแนวหน้าของประเทศ ทำให้เวลาที่เหลือมีน้อยลงเพราะต้องทุ่มเทให้กับงานแทบทั้งหมด
“ก็ได้ครับเอาเป็นว่าผมเคลียงานเสียก่อนนะครับ แล้วเจอกันนะครับย่าสวัสดีครับ ผมรักย่านะครับ”
เรียวปากหน้าหยักสวยกระตุกยิ้มขึ้นตรงมุมปาก ตั้งแต่เด็กจนโต เขาได้ความรักจากย่าคนนี้เพียงคนเดียว เขารักและเคารพเป็นอย่าสูง เขาพยายามลืมเรื่องราวในอดีตที่ทำให้เขาเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสกับเรื่องที่เขาไม่อยากจดจำมันค่อยตอกยำตัวเขา มันเป็นเสมือนตราบาปติดตัวที่ไม่ว่าจะทำอย่างก็ไม่มีวันลบมันออกได้...ไม่มีวันลบได้...ไม่มี...
ใช่!!
เขาเป็นเด็กที่ไม่มีใคร่ต้องการเด็กที่โดนทอดทิ้งอย่างน่าเวทนาถ้าเขาไม่ได้หญิงผู้เป็นย่าคนนี้ เขาเองคงตายไปแล้ว
“ย่าก็รักหลานจะ”ผู้เป็นย่าตอบลับน้ำเสียงที่ดีใจตื้นเต้นขนาดนี้ “ดูแลตัวเองด้วยนะลูก”
“ครับ..แค่นี้นะครับเดียวผมจะรีบสะสางตรงหน้างานชนิดที่ด่วนจี้เลยนะครับ”
หลังจากวางสายผู้เป็นย่าไปสีหน้าและแววตาของเขากลับมาเย็นชาอย่างเดิม นอกจากผู้เป็นย่าของเขาแล้วผู้หญิงคนอื่นๆก็เป็นเหมือนกันหมด ผู้หญิงทุกคนเห็นเงินเป็นพระเจ้ายอมทำทุกอย่างแม้กระทั้งเอาตัวเข้าแลกหรือยอมเป็นเมียน้อยเขาเพื่อแลกกับความสุขสบายในชีวิต นี้และเหตุผลที่เขาเกลียดผู้หญิงผู้หญิงทุกคนก็เหมือนกันหมดเห็นเงินเป็นพระเจ้า!!!
สำหรับเขาผู้หญิงก็เป็นได้แค่คู่นอนชั่วคราวเท่านั้นหามีความสำคัญต่อเขา แค่เป็นคู่ควง เป็นเพื่อนกิน เพื่อนอน และออกงานสังคมยามจำเป็นบ้างเป็นครั้งคราวแต่ทุกคนก็ถูกเลือกคัดสรรค์มาอย่างดีที่สุดที่ต้องสวย หวาน เซ็กซี่ยั่วยวนแต่สุดท้ายมันก็แค่ความสุขแบบเปลือกนอกก็เท่านั้นไม่ได้หยั่งยื่น
“ชาติตอนเย็นฉันจะไปหาคุณย่านายเตรียมรถให้ฉันด้วย แล้วเรื่องที่ให้สืบเป็นไงบ้าง”
ดวงหน้าหล่อเหลาหันไปทางลูกน้องคนสนิทดวงตาเรียวรีมีแววมุ่งมั่นแวววาว จนผู้เป็นลูกน้องกับเลขาส่วนตัวถึงกับขนลุก ทุกคนเคารพและยำเกรงเขาเสมอไม่เคยมีใครมาทำให้เขาอารมณ์ขุนมัวหรือนำความเดือดร้อนมาให้เขา
“เอ่อ ได้ครับนาย ว่าแต่คุณภัทรจะเอาข้อมูลเลยไม่ครับ”
“อืม” พงคศกรพยักหน้าเพื่อย่ำความต้องการ
อธิชาติตอบอย่างกล้าๆกลัวๆรู้ดีว่าพงค์ศกรไม่ชอบคนทำงานผิดพลาดซ้ำซากเขาเองเป็นคนสนิทรู้ดีว่าพงค์ศกรนั้นเป็นคนเด็ดขาดคำสั่งคือคำสั่ง
“เอ่อ...นี่ครับ สิงที่คุณภัทรต้องการ”
“อืม ดีฉันไม่ชอบให้งานล่าช้า หรือผิดพลาดเด็จขาด นายเองก็รู้ดี” ใบหน้าเริมยิ้มแต่แฝงไปด้วยความรู้สึกที่ยากจะคาดเด่า “วันนี้ฉันมีงานอะไรอีกบ้าง”
“เอ่อ..คุณภัทรมีงานเอกสารงบประมาณปีที่แล้วที่จะตรวจสอบ และบ่ายสองมีประชุมร่วมกับคณะกรรมการของแต่ละแผนก สี่โมงคุณชายมีนัดกับคุณเอน ฮาร์เลอสัน ครับ”
“อืม ขอบใจมากชาติ นายรับผิดชอบงานได้ดีมาก ปลายปีฉันคงต้องให้โบนัสนายเพิ่มเป็นแน่”
คราวนี่ร้อยยิ้มที่ทำให้ผู้เป็นลูกน้องรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาบ้างหลังจากเครียด เขายอมรับเลยว่าร้อยยิ้มนี่เป็นร้อยยิ้มที่สาวๆทั้งหลายอยากได้เป็นแน่ แต่นั้นแหละนอกจกเขาและลูกน้องคนสนิทอีกไม่กี่คนที่ได้เห็นเป็นขวัญตาก็ว่าได้ เพราะมันเป็นสิ่งที่หายากกว่าการหาทองเสียอีก นอกจากพวกลูกน้องคนสนิทก็เห็นจะเป็นย่าของพงค์ศกรเท่านั้นที่ได้เห็นร้อยยิ้มนี่ พนักงานทุกคนที่นี่ตางชื่นชมในความหล่อเหลา และการบริหารงานที่เป็นเลิศ อธิชาติคิดว่าแม้แต่เขาเองยังรู้สึกอิจฉาชายตรงหน้าเลย อย่างว่าคนเราแข่งเรือแข่งพายแข่งกันได้แต่แข่งบุญแข่งวาสนาแข่งกันไม่ได้
อธิชาติเป็นคนร่างสูงผิวเข้ม แต่ก็จัดว่าหลอหลา และเป็นขวัญใจของพนักงานในโรงแรมใช่ย่อยเหมือนกันแต่ก็ต้องผิดหวังเพราะอธิชาติไม่สนใจพนักงานในโรงแรมถือคติเดียวกับการใช่ชีวิตว่า การไม่ยุ่งเกี่ยวกับคนในเพราะจะทำให้เสียการปกครองในการบริหารงาน แต่ไม่ว่าจะดูมุ่มไหนพงคศกรก็ยังดูเหนือกว่าทุกประการ
“แหม..ได้ก็ดีสิครับเจ้านาย” คราวนี่อธิชาติแหย่บ้าง “ผมไปทำงานก่อนดีกว่าเดียวโดนเตะขึ้นมา จะยุ่ง”
“รู้ตัวด้วยหรอว่าจะโดนเตะ”เขารู้ดีว่านิสัยลูกน้องคนนี้ว่าเป็นคนเชื่อถือได้และเขาก็ไว้ใจมากด้วยว่าคนที่เขาสร้างมากับมือคนนี่ไม่คิดคดกับเขาเป็นแน่ เพราะอธิชาตินั้นอยู่เคียงข้างเขามาตั้งแต่ก่อตั้งโรงแรม อธิรักษ์อินพาร์ค สามารถไว้ใจให้ทำงานและรู้ข้อมูลของเขาทุกเรื่องไม่ว่าจะเรื่องไหนแม้แต่เรื่องส่วนตัวก็ตามรวมถึงเรื่องบริษัท รังสรรค์กรุ๊บ ที่มีเขาและเพื่อนสนิทอีกสองคนที่เป็นหุ้นส่วนและเป็นเจ้าของรวมกันและมันก็กำลังก่อตั้งใหม่และถูกปกปิดเป็นความลับจนกว่าจะหาตัวคนทรยศได้
“ฮือๆ คุณแม่ขา ทำไม่ทิ้งเพชรไปแบบนี้ แล้วต่อเพชรจะอยู่ยังไงค่ะ ฮือๆ เพชรรักคุณแม่นะคะ”
ร่างบางอยู่ในชุดสี่ดำบงบอกถึงการไว้อาลัยต่อมารดาที่เสียไป ของผู้เป็นมารดา ใบหน้ารูปไขและดวงหน้าหวานตอนนี่เต็มไปด้วยน้ำตา ดวงตาบวมช้ำบริเวณใต้ตาที่บงบอกว่าผ่านการร้องให้มาอย่างหนัก ใบหน้าซีดเซียวที่ทำให้คนรอบข้างเป็นห่วงเป็นอย่างมากเพราะน้ำเพชรไม่ยอมกินอะไรเลย เอาแต่ร้องให้อาลัยต่อผู้เป็นมารดา
“คุณหนูขา หยุดร้องให้เถาะคะ คุณแม่ท่านไปสบายแล้วนะคะอย่าให้คูณแม่ท่านเป็นห่วงเลยนะค่ะคุณหนูหยุดร้องไห้เถาะคะ กินข้าวกินปลาเสียบ้างเดียวก็เป็นลมเป็นแล้งไปนะค่ะ” สายใจพยายามปลอบ “นะคะ..นมขอร้อง”
“ฮือๆๆ คุณแม่จากน้องเพชรไปแล้ว คุณแม่จากเพชรไปแล้ว ฮือๆๆ”
ไม่เป็นผล...น้ำเพชรไม่ได้สนใจกับเรื่องอื่นเลยเอาแต่ร้องให้แม้แต่ข้าวปลาอาหารก็ไม่แตะ ส่วนคุณผู้ชายของบ้านรายนั้น...เอาแต่ไปเสพสุขสำราญกับผู้หญิงอื่น ไม่ค่อยสนใจคุณผู้หญิงเลยเอาแต่ขลุกอยู่กับเมียน้อยนั้นจนคุณผู้หญิงตรอมใจตายในที่สุดที่หน้าห่วงที่สุดคือคุณหนูที่รับรู้ทุกเรื่องทั้งหมดทั้งที่อายุพียงก้าวเข้าวัยยี่สิบเท่านั้น แต่ต้องมาเจอพ่อที่ไม่ค่อยสนใจกับผู้เป็นแม่เอาแต่สนใจเมียน้อยค่อยเชิดหน้าชูตาอย่างออกหน้าออกตาให้วงสังคมได้รับรู้เรื่องหน้าอับอาย วันๆมีแต่ข่าวซุบซิบนิทาและข่าวทางหน้าหนังสื่อพิมพ์ จนคุณผู้หญิงตรอมใจตายแล้วยังไม่รู้เอาแต่หมกตัวอยู่กับแม่นั้น....เฮ้ย เธอล่ะหนักใจฝากไว้ก่อนเถอะนังเมียน้อยตัวดี
“เดียวนมไปโทร.ตามคุณท่านนะคะ”
ไม่มีคำตอบใดออกมาจากริมฝีปากบางนอกจาเสียงร้องให้นั้น เพราะคุณพ่อไม่เคยสนใจแม่ของเธอเลย คุณพ่อไม่เคยรักเธอกันคุณแม่ของเธอเลย คุณพ่อเอาแต่รักนั่งเมียน้อยนั้นจนไม่มีเวลาให้กับเธอรักมันทั้งที่แม่เธอกำลังป่วยหนักแต่คุณพ่อก็ยังไม่สนใจแม้แต่ตอนนี่คุณพ่อยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแม่ของเธอจากไปอย่างปวดร้าว ตั้งแต่เธออายุสิบขวบคุณพ่อของเธอนั้นก็มีเรื่องประทะคารมกันทุกครั้งที่เจอหน้าจากเดิมที่บ้านหลังนี่มีแต่เสียงหัวเราะแต่ตอนนี้มันมีแต่น้ำตาเหมือนนรกเสียมากกว่าคุณแม่ร่างซูบ ลงทุกวัน บ้างวันคุณแม่เธอกินน้ำตาแทนข้าวเสียด้วยซ้ำ ต้อนนี่คุณพ่อเธอไม่กลับบ้านมาเป็นอาทิตย์สองอาทิตย์แล้ว แล้วชีวิตหลังจากนี่เธอจะทำอย่างไรดี!
ร่างบางหนังกอดรูปของผู้เป็นมารดาร้องให้อย่างคนหมดอะไรตายอยาก เธอไม่เหลืออะไรอีกแล้วไม่มีมารดาแล้วชีวิตต่อจากนี้เธอจะเอาอย่างไรดีเธอไม่มีที่ไปแล้วหมดหนทางที่จะไป ทุอย่างมันมืดมั่วมองไม่เห็นทางเดินเธอกำลังคว้างอยู่
‘ทำไม่คุณแม่ไม่พาเพชรไปอยู่กับคุณแม่ด้วยละคะ ทิ้งเพชรไว้คนเดียวทำไม่ ทำไม่คะทำไม่ไม่เอาเพชรไปอยู่กับคุณแม่ด้วย เพชรจะได้ไม่ทุกใจอยู่คนเดียวแบบนี้’
“ฮือๆๆ คุณแม่พาเพชรไปอยู่ด้วยสิคะ ฮือ เพชรอย่ากอยู่กับคุณแม่ฮือๆๆ”
หมดหนทางแล้วพ่อก็ไม่รักแม่ก็จากไปอย่างเจ็บปวดเหลื่อแค่เธอเด็กที่ไม่มีใครต้องการเด็กที่ถูกทิ้งไม่มีใคร่ต้องการเธออีก
“คุณหนูคะ คุยกับคุณพ่อสิคะ”
“ค่ะคุณพ่อ คุณพ่อเพชร....”
“เพชรพ่อมีธุระด่วนนะลูกอย่ากวนพ่อได้ไม่ลูก”
“พี่ชัทร์ขารีมมาสิคะ นันทร์รออยู่นะ” เสียงนี้เองที่แทรกมาทำให้เธอปวดร้าวกว่าเก่าแม่เธอตาย ในทางกลับกับนั้นพ่อเธอกำลังกกกอดนั่งเมียน้อยนั้นอย่างสุขใจสินะ
“เพชรรบกวนคุณพ่อไม่นานหรอกค่ะฮือ แค่จะบอกให้คุณพ่อทราบว่าฮือ คุณแม่สิ้นใจแล้วแค่นั้น ไม่กวนใจคุณพ่อมากหรอกคะ ฮือ จะกลับมาทันเผาศพคุณแม่ไม่อันนี้คุณพ่อก็ตัดสิ้นใจเอาเองละกันคะ แค่นี่นะคะฮือๆๆ”
“เพชรเดียวสิลูก! เพชร!!”
ตู๊ด ตู๊ด !!!
สัญญาณขาดหายไปแล้ว ไม่จริงนภาตายแล้วอย่างนั้นหรือ เขายังไม่ทันได้ดูใจหล่อนเลยด้วยซ้ำ นี่เธอจากฉันไปแล้วจริงๆหรอ เขามาระเริงสุขอยู่กับสุนันทร์แต่ทางกลับกับนภากลับสิ้นใจนี่เขาเลวขนาดนี้เลยหรือตลอดหลายปีที่พานมาเขาไม่ได้ดูแลเอาใจไม่สนใจความรู้สึกนภาเลยเอาแต่ความสุขใสตัวเองโดยที่เขาไม่ได้คิดถึงลูกถึงเมียเลยเขาคงเป็นพ่อและสามีที่เลวมาก เป็นเพราะเขาทำให้นภาต้องจากไปอย่างทุกทรมานแสนสาหัส หลายครั้งที่เขาออกจากบ้านโดยไม่ได้บอกกล่าวใคร บางครั้งก็ไม่กลับบ้านที่หลายอาทิตย์ หลายครั้งที่เขารับรู้ว่านภาต้องกินข้าวกับน้ำตาแต่เขาก็ยังคงทำเป็นไม่สนใจ เพราะคิดว่ามันเป็นปัญหาเล็กน้อยที่สามีจะมีเมียน้อย
“นันทร์ พี่คงต้องกลับบ้านก่อน พีเป็นห่วงลูกพีไปก่อนนะ”
“เอ่อ...เดียวสิคะ อะไรกันแค่ลูกสาวโทร.มาแค่นี่ถึงกับต้องรีบกลับบ้าเลยหรือเมียตายหรือไงฮึ”
สุนันทร์สาววัยสี่สิบห้าแต่ยังสวยพริ้งเพราอยู่ บ่นอย่างหัวเสีย หล่อนเองก็เคยมีลูกแต่ทิ้งมาเสียยีสิบปีที่แล้วทำไงได้ละหล่อนรักความสบายมากกว่านิ ตลอดเวลาหล่อนเองก็รู้สึกผิดแต่จะให้ทำไงได้ละหล่อนกลัวอดตายมากกว่า ตลอดยีสิบปีมานี่หล่อนยอมเป็นเมียน้อยเพื่อความสบาย หล่อนพยายามส่งคนออกตามหาลูกแต่ไม่พบแม่แต่เงา อาจตายไปแล้วก็ได้ใครจะไปรู้ แต่งันเถอะช่วยไม่ได้หล่อนกลัวอดตายนิ เสียงมือถือดั้งขึ้น
“ว่าไงเรื่องที่ให้สืบ เป็นอย่างไรบ้าง เจอไม่”
“เจอครับ ผมจะส่งข้อมูลไปให้ทางอีเมล์นะครับ”
“ดี สวนเรื่องเงินฉันจะโอนไปให้ พรุ่งนี้ไปเบิกเงินได้เลย”
กว่าที่ พินิชัทน์กลับมาถึงเวลาก็ลวงเลยมาถึงสาวทุ่ม เป็นทีรู้กันดีว่ากรุงเทพมหานครนั้นเป็นเมืองที่รถติดที่สุดในโลก รถเคลื่อนมาจอกที่คฤหาสน์หลังใหญ่แต่ภายในกลับเงียบเชียบมีเพียงสาวใช้กับคนส่วนแค่สามคนเท่านั้นเวลานี่ทุกคนไปรวมตัวกันอยู่ที่วัดกันหมด เพราะวุ่นวายอยู่กับงานศพของนภาที่วัดกันหมด
“ไม่มีใครอยู่บ้านเลยหรอ”
“ คะคุณผู้ชาย ตอนนี้คุณหนูแทบจะไม่ได้นอน” มะลิสาวใช้เน้นตอนทาย “กินก็แทบไม่กินเป็นอาทิตย์แล้วค่ะแล้วยังร้องให้เป็นอาทิตย์อีกค่ะ ตอนนี่คุณหนูซูบไปมากพวกเราก็ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้วละค่ะ”สาวใช้ตั้งใจแดกดันอย่างเห็นได้ชัด เพราะความไม่พอใจในตัวเจ้านายและความสงสารที่มีต่อน้ำเพชร
‘ที่คุณผู้หญิงอยู่ไม่เห็นจะถามหา แต่พอคุณผู้หญิงสิ้นใจก็ถามได้ถามดี ฮึ!นี่แหละผู้ชาย ร้อยทั้งร้อยมักเห็นของใหม่ดีกว่าของเก่าเสมอ อีกหน่อยคงพาแม่เมียน้อยมากกกอดในบ้านเป็นแน่แท้ เฮ้ย สงสารก็แต่คุณหนูแม่ก็สิ้น พ่อก็ไม่คอยสนใจมากมายนัก’
เมือเห็นว่าไม่มีใคร่อยู่บ้านเข้าเองก็ควรไปวัดเช่นกัน แต่จะไปทั้งคราบลิปสติกแบบนี้ก็คงจะไม่ได้เพราะนอกจากจะหน้าเกลียดแล้วยังแสดงให้เห็นว่ายังไม่ให้เกียติต่อนภาและไหนจะแขกที่มารวมงานอีก ใช่ว่าเขาไม่รักนภากับลูกแต่คนเจ้าชู้อย่างเขาก็คงเสียใจกับการเสียนภาไป แต่ยังไงเขาก็ยังมีสุนันทร์ที่เขาเองก็ต้องรับผิดชอบอีกคนจะให้เขาทำอย่างไร เขาเองก็เลือกไม่ถูกเหมือนกัน
“ไปเตรียมน้ำอุ่นไว้ให้ฉัน ฉันจะไปวัด”
“ค่ะ คุณผู้ชาย” มะลิสาวใช้อดไม่ได้ที่จะกระแทก “จะให้อิฉันเตรียมเสื้อผ้าสีอะไรดีคะ”
“ไม่งานศพเขาคงใสสีแดงกันไปไม่ละ ก็สีดำนะสิถามมาได้”
หลังจากมะลิสาวใช้ออกจากห้องโถงไปแล้ว ความคิดของเขาต้อนนี้คือเขาเริ่มโมโหตั้งแต่คำแดกดันแรกๆแล้วแต่พยายามอดกลั้นเอาไว้ แต่มะลิก็ยังแดกดันไม่เลิกจนเขาต้องตอกเข้าให้บ้างเพื่อให้รู้สึกตัวว่าใครเป็นนายใครเป็นบ่าว ตลอดเวลาที่เขาไม่อยู่ทำไม่มันมีแต่เรื่องวุ่นวายไปหมดแบบนี้ก็ไม่รู้ เขาคงจะเลวมากขนาดมะลิที่เป็นคนพูดน้อยยังอดที่จะไม่พูดแดกดันหรือกระทบเอาแรงๆเสียมิได้
จริงๆแล้วมะลิตั้งใจที่จะแดกดันแรงๆเพื่อให้ผู้เป็นนายสำนึกผิดบ้างอาจเป็นเพราะความเหลืออดเหลือทนจริงๆจะไล่ออกก็ไม่กลัวแล้ว ณ เวลานี่เธอไม่กลัวอะไรทั้งนั้นถ้าไม่ติดกับคุณหนูและคุณผู้หญิงคนใช้ส่วนมากลาออกเสียหมดแล้วก็ได้
นี่เขาอยู่ให้คนใช้อย่างมะลิมาแดกดันเลยหรือนภากับน้ำเพชรคงเสียใจมากกับการกระทำของเขา อันที่จริงเขาไม่หน้าทำเลย ไม่หน้าเลยจริงเขามันเลวทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลังให้ดี ตอนนี่เขาทำอะไรไม่ได้แล้วนภาจากเขาไปแล้วเขาช้าไปแล้วตอนนี้เขาไม่อาจดึงคนรักกลับมาได้อีกแล้ว นภาผมขอโทษ ผมขอโทษจริงๆผมผิดไปแล้วยกโทษให้ผมด้วยนะ ผมสัญญาว่าผมจะดูแลน้ำเพชรให้ดีที่สุด! ผมสัญญาด้วยชีวิต
“เรียบร้อยแล้วค่ะ”เสียงของมะลิปลุก พินิชัทน์ให้หลุดออกจากความคิด
“อืม”
ผลงานอื่นๆ ของ data_a ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ data_a
ความคิดเห็น