คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : กลับมาเจอกันอีกครั้ง2/2
บทที่1 กลับมาเจอกันอีกครั้ง(2)
ทันทีที่ถึงธนภัทรก็ต่อสายถึงน้องชายทันที
“ฮัลโหลพี่ถึงแล้วนะ”
“ผมรออยู่ตรงทางออกบีนะ” นันทภัทรตอบกลับ ก่อนจะตัดสายและยืนเล่นเกมรอต่อ ผ่านไปเกือบชั่วโมงถึงรู้สึกถึงกลุ่มคนเล็กๆ ที่กำลังเดินตรงมาทางเขา ใบหน้าคมหันไปดูด้านข้างก่อนจะพบกับบุคคลทั้งสามที่ตนกำลังรออยู่
“สวัสดีครับพ่อ” ชายหนุ่มยกมือขึ้นสวัสดีผู้เป็นพ่อ ก่อนจะหันไปพยักหน้านิ่งๆ รับไหว้น้องสาว
“สวัสดีค่ะพี่นัน” ศลิษาส่งยิ้มให้ แต่อีกฝ่ายกลับตอบกลับแค่ “อืม”
“รอไม่นานใช่มะ” ธนทภัทรเอ่ยกึ่งถามกึ่งบอก
“สองชั่วโมง” นันทภัทรเอ่ยเสียงแข็งแกมไม่พอใจ “ว่าแต่โรงแรมอยู่ที่ไหน”
“ก็แถวยูของแกอ่ะแหละ วันที่แกรับปริญญาจะได้สะดวก” พี่ชายตอบ
“โอเค๊” ชายหนุ่มยักไหล่ ก่อนสายตาจะสังเกตเห็นสัมภาระกระเป๋าเดินทางใบใหญ่หลายใบ “เอาอะไรกันมาเยอะแยะ ย้ายบ้านหรอ”
ศลิษาส่งสายตามองพี่ชายคนโตเลิกลัก จะบอกตอนนี้ไปเลยดีมั้ยหรือยังไง
“มั้ง” พี่ชายตอบก่อนจะเปลี่ยนหัวข้อ “ไป รถอยู่ไหน นำทางเลยครับคุณไกด์” เขาว่าพลางยื่นยัดกระเป๋าใส่มือน้องชายให้บังคับให้ช่วยกันแบกไปโดยปริยาย
รถเคลื่อนตัวช้าลงก่อนจะจอดสนิทอยู่หน้าโรงแรม ต่างคนต่างช่วยกันขนของลงจากรถ
“นันเราซื้อรถเหรอ” พ่อเลี้ยงดลพัฒน์เอ่ยถามลูกชายด้วยความอยากรู้
“เปล่าครับ เช่ามา ก็บ้านเราไม่ให้คนอื่นขับรถให้ไม่ใช่เหรอ พ่อก็คงไม่นั่งแท็กซี่หรอกใช่ป่ะล่ะ”
“ฉันก็นึกว่ารถแกนะเนี่ยไอ้นัน” พี่ชายแทรกขึ้น
“ไม่มีที่จอดรถ แถมถ้าซื้อก่อนกลับไทยก็ต้องหาทางขายทิ้งอีก ลำบาก”
“เข้าใจ” ธนภัทรพยักหน้า ก่อนจะหันไปบอกน้องสาว “ษาไปเช็คอินก่อนเลย เดี๋ยวพวกพี่เอากระเป๋าตามไป”
“โอเคค่ะ”
ที่พักในการมาสหรัฐอเมริกาครั้งนี้ ศลิษาออกตัวเป็นคนจัดการหาหมดทุกอย่าง เธอเลือกห้องพักแบบครอบครัวจะได้พูดคุยกันสะดวกไม่ต้องโทรหาหรือเดินไปเคาะห้องคนโน้นที คนนี้ที และแน่นอนโลเคชั่นก็ต้องอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยของพี่นันด้วย เพราะว่าจะได้ใกล้กับที่พักของพี่นัน และวันรับปริญญาจะได้เดินได้สะดวก
หลังจากที่เก็บสัมภาระเรียบร้อย ทั้งสี่ก็เดินไปขึ้นรถพร้อมออกเดินทางไปร้านอาหาร
“จะพาไปบุกร้านไหน” ธนภัทรถามขณะมือเปิดประตูขึ้นไปนั่งบนรถข้างคนขับ
“เด็ดสุดของย่านนี้” นันทภัทรเอ่ยพร้อมกระตุกยิ้ม ก่อนจะสตาร์ทรถขับตรงไปที่ร้านอาหาร
พอถึงร้านอาหารเจ้าของถิ่นเดินตรงเข้าไปคุยกับพนักงานสองสามประโยค ก่อนจะพาครอบครัวเดินตามพนักงานไปยังโต๊ะที่ได้จองเอาไว้
“ผมสั่งไว้แล้วประมาณสามอย่าง ถ้ามีอะไรอยากกินเพิ่มก็บอกได้เลยนะ” นันทภัทรมองหน้าทุกคน ก่อนจะจัดแจงยื่นเมนูอาหารให้พ่อกับพี่ชาย
พ่อเลี้ยงดลพัฒน์รับเมนูมา เอียงคอถามลูกสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ “เรามีอะไรอยากกินเป็นพิเศษมั้ย” มือหน้าพลางเปิดเมนูทีละหน้าให้ลูกสาวดู ศลิษามองตามเมนูแต่ละหน้าที่ถูกเปิดไปเรื่อย ๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาถามพี่ชายคนรอง
“พี่นันมีอะไรแนะนำมั้ยคะ”
“สั่งไปแล้ว ที่เหลืออยากกินอะไรก็เลือกเอาสิ ฉันจะไปรู้ได้ไงว่าเธออยากกินอะไร” เขาเอ่ยเสียงเรียบพร้อมยักไหล่
“กวนและ น้องก็ถามแกดี ๆ” ธนภัทรเอ่ยเสียงเข้ม
“ก็จริง” เขาเอ่ยอยากไม่สนใจใคร ก่อนจะมองนู่นมองนี้เลี่ยงการโต้ตอบ
“เดี๋ยวษาเลือกเองก็ได้ น่าจะอร่อยกว่า” ศลิษาฉีกยิ้มเจื่อน ๆ ให้พี่ชายคนโตและผู้เป็นพ่อทีนึง ก่อนจะก้มดูเมนูต่อ
มื้อกลางวันดำเนินต่อไปอย่างราบรื่น ไม่มีการเปิดศึกขึ้นมาอีก พอกินเสร็จสามคนที่มาจากสยามเมืองยิ้ม ก็แทบจะตาปิด
“หนังท้องตึงหนังตาหย่อนจริง ๆ สินะเนี่ย” เสียงทุ้มสูงวัยเอ่ยขึ้น
“ผมว่าเจ็ทแลคมากกว่านะ ตอนนี้ที่ไทยน่าจะเกือบตีหนึ่งแล้ว” ธนภัทรลูบท้องไปหาวไป
“จริงด้วย ต่างกันสิบชั่วโมงนี่นา” เสียงหวานเอ่ยขึ้น “วันนี้ษาไม่ได้ลงแพลนเที่ยวไว้ เราไม่มีไปไหนกันใช่มั้ยคะหลังจากนี้” เธอหันหน้าไปหาพี่ชายคนรองเป็นเชิงขอคำตอบ
“ก็ไปพักผ่อนนอนให้เต็มอิ่มก่อนแล้วกัน ถ้าจะไปพรุ่งนี้ก็ค่อยไปดีกว่านะ” รอบนี้พี่ชายคนรองไม่แย้งใคร “อ้อ พรุ่งนี้ถ้าจะไปไหนก็ไปกันเลยนะ ผมมีธุระ” เขาบอกก่อนจะหันไปเรียกพนักงานเช็คบิล
สามคนที่นั่งฟังหันขวับไปหาชายหนุ่มเป็นทางเดียว เสียงประสานดังขึ้นอย่างงง ๆ “อ้าว”
“ตามนั้น” เขาขี้เกียจจะพูดอะไรมาก ลุกขึ้นเป็นการบอกกราย ๆ ว่าจะกลับแล้ว “เดี๋ยวส่งพ่อเสร็จผมกลับเลยนะ แล้วเจอกันอีกทีก็มะรืนนี้วันรับปริญญาเลยแล้วกัน”
ธนภัทรมองหน้าที่พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบของน้องชาย นิ่งไปสักพัก ก่อนจะเอ่ยขึ้นมา “โอเค ไว้เจอกันมะรืนนี้”
ชายสูงวัยเบือนหน้าไปอีกทางก่อนจะลอบหายใจออกมาอย่างเอือมระอา
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ษาพาคุณพ่อเที่ยวเองค่ะ” น้องสาวคนสุดท้องของบ้านเอ่ยทำลายความอึมครึมของบรรยากาศตอนนี้ขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเจื้อยแจ้ว แม้จะง่วงเต็มที “ไว้ใจได้เลย” ใบหน้าเล็กฉีกยิ้มแฉ่งให้ผู้เป็นพ่อ พร้อมตบมือไปเหนือหน้าอกตัวเองเบาๆ อย่างมั่นใจ
พ่อเลี้ยงดลพัฒน์ส่ายหัวเบา ๆ พร้อมกับส่งยิ้มให้ลูกสาวอย่างเอ็นดู
ความคิดเห็น