ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic [ Boku No Hero ] ผมมาเอาคืนครับ

    ลำดับตอนที่ #27 : ซื้อขนม 2 (พาร์ทพิเศษ โทโดโรกิ โชโตะ)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.99K
      386
      16 ก.ย. 61



     “มิโดริยะ”ผมเสียงเรียกจากข้างหลัง ทำให้มิโดริยะเงยหน้าขึ้นมา

     

    “อ๊ะ คุณโทโดโรกิใช่มั้ยครับ”คนตรงหน้าตอบกลับมา ยังพูดสุภาพเหมือนเดิมเลยหะ

     

    “อือ มาซื้อขนมเหรอ”ผมถาม เมื่อมองไปด้านในกระจก ปรากฏเป็นขนมญี่ปุ่นเรียงรายอยู่เต็มไปหมด

     

    “ครับ อยากได้เป็นของขวัญน่ะครับ แล้วโทโดโรกิคุงมาทำอะไรที่นี้ล่ะครับ นี่เลิกเรียนแล้วเหรอ”คนผมเขียวยิ้มให้พร้อมถามกลับ

     



    “พอดีสอบวันสุดท้ายน่ะ เลยเลิกเร็ว”

     

    “เห แล้วไม่ไปฉลองสอบเสร็จกับเพื่อนๆล่ะครับ”อีกฝ่ายเอียงคอถาม มันคงเรื่องปกติสินะ ที่จะมีการเลี้ยงฉลองเมื่อสอบ แต่เขาก็ไม่ค่อยได้ไปไหนกับใครหรอก ตาแก่ที่บ้านจู้จี้ แต่ช่วงนี้ก็เหมือนเริ่มจะไปกับคนอื่นๆในห้องเอบ่อยขึ้น เพราะโดนลากไปน่ะนะ แบบอ้างเหตุผลคือ เพื่อความสนิทสนม

     


    “วันนี้ขอผ่านน่ะ แล้วไม่เข้าไปเลือกด้านในล่ะ”ผมชี้ไปที่ประตู

     

    “อ่า พอดีผมยังไม่ตัดสินใจน่ะครับ อันที่จริง ผมอยากได้หลายๆแบบ แต่ร้านนี้มีแต่ขนมญี่ปุ่นอย่างเดียวนี่นา”คนผมเขียวขมวดคิ้วมุ่น พลางมองไปที่ตู้ขนมอีกครั้ง


     

    เมื่อฟังสาเหตุที่อีกคนยืนตรงนี้ ผมก็เอียงหัวคิดหน่อยๆ แล้วเอ่ยบอก

     



    “ถ้างั้นไปดูในห้างมั้ย ในห้างใกล้ๆนี่ ชั้นใต้ดินมีพวกร้านขายขนมอยู่เยอะเลยนะ มีหลายแบบด้วย”

     

    “จริงเหรอครับ ห้างตรงถนนฝั่งตรงข้ามใช่มั้ย”มิโดริยะถาม พลางทำท่านึกไปด้วย อ่า ท่าทางไร้เดียงสายังไงไม่รู้ ให้ตายสิ ไปทำท่าทางแบบนี้ข้างนอกจะโดนลักพาตัวมั้ย ยุคสมัยแบบนี้มันน่ากลัวนะ ต่อให้เป็นผู้ชาย ก็อันตรายพอกันแหละ

     

    “อือ มีเวลามั้ยล่ะ ชั้นไปเป็นเพื่อนได้นะ”ผมพูด แล้วรออีกคนตัดสินใจ


     

    “อืม เหลือเวลาราวๆชั่วโมงนิดๆ น่าจะทันนะ แต่จะไม่รบกวนโทโดโรกิคุงเหรอครับ”ประโยคแรก เขาพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะหันมาตอบ

     

     “ไม่หรอก ชั้นว่างน่ะ หาขนมไปกินบ้างก็ดีเหมือนกัน”เขาพูดว่าตัวเองก็อยากกินเหมือนกัน เพื่อให้อีกฝ่ายไม่ต้องเกรงใจ

     

    “งั้นก็รบกวนไปด้วยคนนะครับ”มิโดริยะยิ้มสดใสให้ ทำให้ผมค้างไปนิดหน่อย จนมิโดริยะต้องเรียก ก่อนที่เราจะออกเดินไปพร้อมกัน

    (ไรต์ : โดนดาเมจไปแล้ว 1 ที รอยยิ้มนั้น คัตสึกิยังไม่ได้เลยนะ โชโตะได้ก่อนซะแล้ว)






     

     

     

     

     

    ในระหว่างที่เดิน เราสองคนก็ถามตอบกันไปเรื่อยเปื่อยพร้อมทั้งให้อิซุคุเรียกเขาด้วยชื่อดีกว่า เพราะอิซุคุถามเขาเรื่องนามสกุลที่เหมือนเอ็นเด็นเวอร์ อิซุคุเลยขอให้เรียกชื่อเหมือนกัน เพราะยังไงพวกเขาก็อายุเท่ากัน


     

    ได้คำตอบยืนยันสถานะมาแล้ว ว่าอีกฝ่ายเป็นเพื่อนสมัยเด็กของบาคุโก ไม่ใช่แฟนอย่างที่พวกผู้หญิงในห้องคิดกัน ก็โล่งใจหน่อยๆ อ้าว ทำไมเขาโล่งใจ สงสัยจะสยองเรื่องที่พวกผู้หญิงเป่าหูมากไป เขาเลิกคิดเรื่องนี้ไป เมื่ออิซุคุถามกลับมาเรื่องอัตลักษณ์

     


    “ไฟกับน้ำแข็งน่ะ”

     


    “สองอย่างเลยเหรอ สมแล้วที่อยู่ยูเอย์”ทำตาเป็นประกาย แล้วถามรายละเอียดเรื่องการใช้พลัง สงสัยจะเป็นพวกขี้สงสัยนะ ทั้งๆที่ปกติไม่ค่อยชอบให้ใครถามเรื่องพวกนี้ เพราะมันจะทำให้นึกถึงพ่อ แต่พอคนถามเป็นคนที่อยู่ข้างๆ เขาก็ตอบโดยไม่คิดอะไร เพราะรอยยิ้มนั่น ทำให้เขาสบายใจแหงเลย

     


    “แล้วของอิซุคุล่ะ”

     

    อิซุคุเงียบไปชั่วครู่ แล้วตอบ

     

    “......ลม”เมื่อเห็นอิซุคุเว้นช่วงไป ทำให้คิดไปว่า อีกคนคงจะใช้พลังไม่เก่ง เลยไม่อยากพูดล่ะมั้ง บางทีคนแบบนี้ก็มี เหมือนกัน แต่คงไม่ใช่กับเพื่อนร่วมห้องเขาเป็นแน่


     

    “หืม ประยุกต์ได้เยอะนะ”เขาบอกไป พลางทำให้คิดถึงตอนสอบเอาใบอนุญาต พ่อคนใช้ลมแห่งโรงเรียนชิเก็ตสึ ลืมๆไปเถอะ คนหนวกหูแบบนั้น แต่หนวกหูคนละแบบกับบาคุโกแหะ



     

    “คงงั้นแหละครับ ที่นี่เหรอ”พวกเขาหยุดเดิน เมื่อลงมาชั้นใต้ดินของห้าง

     

    เขาพยักหน้า ดูเหมือนคนจะยังไม่ค่อยเยอะ แต่ดูจากเวลา เดี๋ยวอีกไม่นานคงวุ่นวายแน่


     

    “รีบหน่อยดีกว่า เดี๋ยวคนคงเยอะแน่ นายเองก็มีนัดนี่”

     

    “อืม”ทั้งสองคนลองเดินดูรอบๆก่อน แล้วค่อยเลือก โดยมีคำแนะนำของโชโตะเป็นร้านๆไป เนื่องจากพี่สาวก็ชอบขนมหวาน บางทีก็ฝากเขาซื้อ ไม่ก็ซื้อฝากบ่อย แถมพอกินไปยังรีวิวให้เขาฟังเป็นของแถมอีก จึงทำให้เลือกได้เร็ว

     


    อิซุคุตัดสินใจ ร้านละนิด ร้านละหน่อย  ผสมจนได้มาพอควร โชโตะก็ได้มาสองกล่องไว้สำหรับไปเยี่ยมแม่ที่โรงพยาบาลเช่นกัน

     


    พอออกมาจากร้านสุดท้าย พวกเขาก็เจอกับคลื่นมหาชน เนื่องจากร้านที่อยู่แถวนี้ส่วนใหญ่เป็นร้านมีชื่อ คนเลยเยอะเป็นพิเศษ


     

    “ออกไปเถอะ”คนผมสองสีว่า ก่อนจะถือวิสาสะ จับมือ แล้วจูงอีกคน เดินสวนคนออกไป




     

    “โช โชโตะคุง”

     

    “เดี๋ยวหลง จะหากันยากอีก”โชโตะพูดแค่นั้น แล้วเดินต่อไป อิซุคุก็เงียบไป พลางมองมือที่ใหญ่กว่า กำลังจับมือของเขาอยู่ อุ่นจังแหะ

     



    ตอนนี้เป็นเวลาเลิกเรียนโดยสมบูรณ์แล้ว คนที่เข้าห้างมาเลยเยอะกว่าตอนที่พวกเขามา

     

    ทั้งคู่เดินมาหยุดตรงที่โล่ง ซึ่งเป็นสวนด้านข้างของห้าง ที่มีพื้นที่พอควร ไว้ให้คนมาเดินเล่น พักผ่อน

     



    “เอ่อ โชโตะคุง มือ..”อิซุคุเรียก เมื่อร่างสูงกว่ายังไม่ปล่อยมือเขาออก

     

    “ขะ ขอโทษ”เมื่อรู้สึกตัว อีกฝ่ายจึงรีบปล่อย พร้อมบอกขอโทษทันที

     

    “ไม่เป็นไรหรอก เพราะได้โชโตะคุงช่วยเลือกแท้ๆ ผมเลยน่าจะไปทันนัดแล้วล่ะ”อิซุคุยิ้ม พลางมองถุงขนมในมือ

     

    “ไม่เป็นไร เรื่องแค่นี้เอง”โชโตะก็ยิ้มตอบออกไป พลางมองคนที่กำลังยิ้มอย่างมีความสุขกับของในมือ

     



    “คอแห้งมั้ย จะไปซื้อน้ำให้”คนผมสองสีถาม เมื่อมองเห็นตู้กดน้ำตั้งอยู่ไม่ไกล

     

    “มะ ไม่ต้องหรอก แต่เดี๋ยวผมไปซื้อให้ดีกว่านะ รบกวนโชโตะคุงตั้งเยอะ”อิซุคุบอก

     

    “เดี๋ยวชั้นไป..”พูดยังไม่ทันจบ อิซุคุก็แทรกขึ้นมาก่อน

     

    “ไม่เอาอ่ะ ผมเลี้ยงเอง เอาน้ำอะไรดี”

     

    “งั้นชาเขียว”ร่างสูงตอบ แล้วมองร่างเล็กกว่าเดินไปกดน้ำ ส่วนเขาเฝ้าของไว้

     





    ตอนนี้เขานั่งอยู่ในลาน ซึ่งเป็นสนามหญ้า มีน้ำพุอยู่ตรงกลาง

     

    ไม่นานอิซุคุก็กลับมา พร้อมยื่นขวดชาเขียวให้ เขารับมา แล้วมองอิซุคุทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ



     

    พวกเขานั่งพักดื่มน้ำกันชั่วครู่ ก่อนอิซุคุจะร้องขึ้นมา

     

    “อ๊ะจริงสิ ต้องตอบแทนบ้างแล้วล่ะ โชโตะอยากได้อะไรบ้างมั้ย”อิซุคุถามทันทีที่นึกออก

     

    “ไม่เป็นไรหรอก ชั้นก็ได้ของมาเหมือนกันนะ แถมเป็นคนลากนายมาที่นี่ด้วย แล้วยังเลี้ยงน้ำอีก”โชโตะส่ายหัวปฎิเสธ พร้อมชูขวดชาเขียวไปด้วย แต่ดูเหมือนอิซุคุจะไม่ยอมรับคำนั้น พลางบอกว่าน้ำแค่ขวดเดียวจะเป็นค่าตอบแทนได้ยังไง

     



    เขาเลยนิ่งคิดไปนิด ก่อนจะเปลี่ยนท่านั่ง คุกเข่าลงข้างนึง

     

    แล้วดึงมือคนตรงหน้ามาจูบที่หลังมือเบาๆ

     

    ทำให้คนโดนจูบ(มือ)ถึงกับติดสตั้นท์ไป ก่อนที่หน้าจะเริ่มขึ้นสี


     

    “ชะ โช โชโตะคุง”อิซุคุเริ่มไปไม่เป็น ก็เขาไม่เคยโดนใครทำมาก่อนนี่

     

    “ชั้นเอานี่เป็นค่าตอบแทนนะ”ร่างสูงยิ้ม เมื่อถอนริมฝีปากออก พลางขยับนั่งตามเดิม เขาแค่อยากลองทำดู เพราะก่อนหน้านี้ไม่นานพี่สาวติดนิยาย แล้วเอามารีวิวให้เขาฟัง(อีกแล้ว เขาฟังจนเบื่อเลย) พลางบอกไปว่า ถ้าได้ลองมีคนทำให้นะ เขาต้องรู้สึกดีมากแน่เลย ซึ่งก็น่าจะจริงอย่างที่พี่ฟุยุมิบอกน่ะนะ ก็ไม่ได้รังเกียจอะไร ออกจะสนุกนิดๆ มีความสุขหน่อยๆ ที่เห็นอีกคนหน้าแดงด้วย

     



    “....ทำอะไรเนี่ย”หลังจากช็อกอยู่ชั่วครู่ อิซุคุก็เริ่มโวยวาย

     

    “เอาของตอบแทนไง”เขาตอบง่ายๆ เหมือนคำตอบของโทโดโรกิ จะทำให้อีกฝ่ายหน้ามู่ลง เพราะคำตอบที่เหมือนแกล้งกัน



     

    “ถ้าจะเอาอย่างนั้น..”อิซุคุพูดพลาง เงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะยิ้มเจ้าเล่ห์ตอบให้ ทำให้คนเห็นสะดุ้งหน่อยๆ

     

    อิซุคุขยับตัวเข้าประชิดตัวคนสูงกว่า ยืดตัวเล็กน้อย แล้วหอมแก้มดังฟอด

     

    สัมผัสที่รู้สึก ทำเอาโทโดโรกิ โชโตะ เครื่องค้างบ้าง ก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะ

     

    “คิกๆ ผมไปก่อนนะ”ว่าแล้ว ก็โบกมือลุกขึ้นแล้ววิ่งหายไป ทิ้งคนเครื่องค้างไว้ตรงนั้น



     

    กว่าสติจะกลับมาครบถ้วน คนผมเขียวก็วิ่งหายไปแล้ว เขาลูบตรงแก้มแล้วเลื่อนฝ่ามือมาปิดใบหน้าที่แดงขึ้นนิดๆ มีรอยยิ้มอยู่ใต้มือนั่น

     


    .....อา ดูท่าเขาจะคิดเกินเลย แล้วมั้งเนี่ย....



    .....มีใครให้คำปรึกษาเรื่องนี้ได้บ้างเนี่ย.....


     

    ....................................................









    หลังจากวิ่งออกมาแล้ว อิซุคุก็เลี้ยวเข้าซอยที่ไม่มีคน แล้วกระโดดขึ้นไปบนดาดฟ้าตึก

     

    แล้วกระโดด จากดาดฟ้าตึก วิ่งข้ามหลังคาไป ก่อนจะหยุดอยู่ดาดฟ้าตึกหนึ่ง



     

    อิซุคุสะบัดมือ พลันอากาศรอบตัวก็กระเพื่อมอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะสลายไป ในระหว่างที่เดินในห้าง ไม่สิเดินในเมือง เขาสร้างแรงดันอากาศรอบตัวให้แปลกไปจากปกติ เพื่อไม่ให้กล้องวงจรปิด สามารถเห็นตัวเขาได้ชัดเจน แล้วเปลี่ยนมาคลุมตัวสองคนไว้ ตอนเดินดูของกับโชโตะ เพราะมันเป็นลม การตรวจจับจากของอย่างอื่น ก็ไม่เป็นผลกับเขาหรอก

     



    แถมชื่อเขายังไม่โด่งดัง เท่าคุณหัวหน้าสมาพันธ์ ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องจะมีใครจับได้ในตอนนี้ และอย่างที่โชโตะพูด อัตลักษณ์ลมของเขาในตอนนี้ สามารถประยุกต์ใช้ได้หลายๆอย่าง ต่อให้รู้เรื่องความสามารถของเขา แต่จะมีใครเตรียมแผนมารับมือกับลมได้สักเท่าไรเชียว


     

    ตอนฝึกเนี่ย ชิการาคิซังก็บ่นอยู่บ่อยๆ เตรียมแผนรับมืออัตลักษณ์ของเขาก็แย่แล้ว ยังหนักข้อขึ้นอีก เมื่อเขาเป็นชอบคิด วางแผนพึมพำไปเรื่อย เรื่องไม่มีแผนสำรองน่ะ ไม่มีอยู่ในหัวมิโดริยะ อิซุคุหรอก


     

    ก่อนจะนั่งลง แล้วใช้อัตลักษณ์ลม ยกกระเป๋า และกล่องสีขาวที่วางไว้อยู่แล้วออกมา

     



    ค้นถุงมือในกระเป๋า ออกมาสวม เปิดฝากล่อง แล้วเริ่มแกะขนมนานาชนิดจากกล่องร้านค้า วางลงไปในกล่องสีขาวของตัวเอง ปิดฝากล่อง พร้อมทั้งผูกริบบิ้นสีเขียว ก็เป็นอันเสร็จ


     

    อิซุคุดูนาฬิกา พลางยกยิ้ม อ่า ทันเวลาพอดี



     

    เขาลุกขึ้นยืน พลางมองไปทางเก่าที่เขาวิ่งมา พลางยกมือซ้ายขึ้นมา

     

    การที่โชโตะทำแบบนั้น แปลว่าคิดกับเขาไปไกลพอควรนะ แต่คงไม่ได้เจอกันอีก เพราะเราอยู่กันบนคนละเส้นทาง หากเจอกันอีก ก็คงเป็นในฐานะศัตรู เขาเป็นวิลเลิน อีกฝ่ายเป็นฮีโร่ พอเห็นแบบนั้น เขาเลยแกล้งอีกฝ่ายทิ้งไว้ ด้วยการหอมแก้มร่างสูงกว่า แล้ววิ่งหนีมา โดยที่ไม่พูดอะไร ทิ้งคนเครื่องค้างไว้ด้านหลัง



     

    ....ถ้าคน..ที่เป็นเพื่อนสมัยเด็กของเขา.....


     

    .....ไม่ใช่ใช่คัตจังแต่เป็นโชโตะคุง.....


     

    .....เรื่องจะกลายเป็นแบบนี้มั้ยนะ.....


     

    อิซุคุหลับตาลง พลางปัดความคิดฟุ้งซ่าน แล้วเดินกลับมาที่กระเป๋าและกล่อง ยกขึ้นมา เมื่อม่านหมอกดำ ปรากฏขึ้นมา ปลายทางที่ส่งไปคือ โรงเรียนมัธยมต้น ที่อิซุคุเคยเรียน



     

    ม่านหมอกสีดำปรากฏขึ้นที่หน้าประตูโรงเรียน พร้อมโนมุ 3 ตัว ก่อนจะหายไป


     

    .....เอาล่ะ....มาเริ่มงานกัน.....


     


    ก่อนที่ความวุ่นวายจะเริ่มขึ้นและมีม่านหมอกปรากฏขึ้นอีกครั้ง หลังจากนี้อีกราว 1 ชม. ที่ประตูบ้านบาคุโก



    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

    จบแล้วนะ พาร์ทพิเศษ

    เขียนไปเขียนมา โชโตะเป็นพระเอกดีมั้ย

    เหมือนแต้มจะมาสูงกว่า


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×