คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : สรงประภา12 - บทนำ
สรงประภา12
บทนำ
เนื้อหาในฟิคเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่งเท่านั้น
__________________________________________
สวัสดีครับผมแบคฮยอน เรียนอยู่ชั้นม.5 โรงเรียนพหฤทัยดอนเมือง
เป็นเด็กม.ปลายธรรมดาๆที่หน้าตาดีเป็นศรีแก่โรงเรียน
กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงง !!
“นักเรียนทั้งหมดทำความเคารพ!”
“ขอบคุณค่ะ/ครับ คุณครู”
หลังจากคล้อยหลังอาจารย์สาวที่รุ่นราวคราวเดียวกับแม่ก้าวเดินผ่านกรอบประตูไป ผมก็หันกลับมาโกยหนังสือและอะไรต่อมิอะไรที่เกะกะอยู่บนโต๊ะลงเข้าใต้โต๊ะให้หมด โดยไม่ได้สนใจว่าแม่งควรเอาวิชาไหนกับไปทำการบ้านหรือทบทวนบ้าง
“คยองซูเก็บเร็วๆดิ”
ผมเอ่ยเร่งเพื่อนข้างๆทั้งๆที่ไม่ได้หันกลับไปมองปิดกระเป๋าจาคอปรุ่นตกทอดของตัวเองแล้วหยิบมาถือ แล้วมายืนกดดันคยองซูเพื่อนตัวเล็กที่กำลังจัดการเก็บของใส่กระเป๋าเป้อย่างเชื่องช้า จนผมเริ่มจะหงุดหงิดขึ้นมา
นี่ก็คิดว่าพรุ่งนี้เช้าจะเก็บเสร็จป่ะวะ
มือเรียวของผมฉวยหนังสือในมือของมันมาพร้อมกับที่ประเป๋าติดสอ ปากกาที่ยังไม่ได้เก็บเข้าที่ ยัดเข้ากระเป๋าของมันอย่างรวดเร็ว แล้วคว้าแขนป้อมๆนั้นออกมาทันที
“ไปเหอะหิวละ” น้ำเสียงติดจะหงุดหงิดของผมเอ่ยออกไป ขณะกำลังย่ำเท้าออกจากโรงเรียนพร้อมด้วยน้ำเสียงเหน็บแนมเบาๆจากเพื่อนตัวเล็ก ที่ไม่ต้องหันไปมองผมก็รู้ว่ามันคงกำลังทำหน้าหมั่นไส้ผมแค่ไหน
“หิวหมี่เกี๊ยวหรือหิวคนขายกันแน่”
เออ ผมไม่ได้หิวบะหมี่เกี๊ยวหรืออะไรทั้งนั้นแหละ แม่ง ผมหิวคนขาย!!! จะทำไมวะ ชายสี่หมี่เกี๊ยวนี่คิดว่าจะอร่อยมากมายขนาดต้องกินทุกวันปะ ก็ไม่ใช่ปะล่ะ เออนั่นแหละ
.
ผมเดินออกมารอข้ามถนนเพื่อไปฝั่งตรงข้ามโรงเรียน เป้าหมายคือร้านบะหมี่เกี๊ยวที่ผมมักจะมากินหลังเลิกเรียนทุกวัน มองซ้ายมองขวาอยู่เกือบนาทีไอรถห่าแถวนี้แม่งก็ไม่เห็นทางม้าลายหรือไงวะ คนยืนรอข้ามนี่ล้นเกยไปเกือบครึ่งถนนละแม่ง จะจอดไม่จอดวะ
ตาคมมองไปยังฝั่งตรงข้ามที่เป็นจุดที่ตั้งของร้านบะหมี่เกี๊ยวมองเห็นร่างสูงโปร่งดูดียืนอยู่ก็ทำให้ฮึดสู้ขึ้นมา
เดินฝ่าแม่งไปนี่แหละ...
“แบค!!”
ไม่ต้องกลัวดิ คือแถวนี้ถ้ามึงมัวแต่ไข่แข็ง เอ้ย ขาแข็งนี่ก็อย่าคิดว่าจะได้ข้าม เพราะแม่งมาแรงอย่างกับรถไฟฟ้าความเร็วสูง คยองซูที่เดินมาเกาะแขนผมเอาไว้แล้วเดินมองรถที่ค่อยๆชลอบางคันถึงขนาดเบรกจนเกิดเสียงดังเอี๊ยดลั่นอย่างหวาดๆ เป็นไงล่ะบอกแล้วรถแม่งหยุดให้ควาย เอ้ย คนเดินแน่นอน
“แบคมึงแน่ว่ะ” เสียงเล็กของคยองซูดังอยู่ข้างหูผมเป็นไงล่ะครับ หล่อเลยดิ แต่เปล่าจริงๆกูเสียวเยี่ยวแทบเล็ดละเอาจริงแต่ที่เชิดหน้าไว้เพราะถ้ามองนี่กูอาจหัวใจวายได้ อยากจะถามให้รู้แล้วรู้รอดว่า พวกมึงคิดว่าเล่น fast&furious กันอยู่หรือไง
หลังจากที่ผมข้ามถนนมาได้อย่างสวัสดิภาพโดยไม่ต้องพึ่งประกันชีวิตแต่อย่างใด ผมก็มุ่งหน้าไปยังเป้าหมายในทันที
ราวกับภาพสโลโมชั่นใบหน้าคมคายที่ผมเฝ้าฝันถึงทุกคืน จมูกโด่งลับกับใบหน้า ดวงตากลมโต และรอยยิ้มที่เปล่งประกาย เล่นทำผมเคลิ้มครับ น้องแบคเคลิ้มบอกเลยตรงนี้ แหมไม่ได้นะครับอยู่ต่อหน้าผู้ชายนี่ต้องแอ๊บทำตัวมุ้งมิ้งสักหน่อยเผื่อจะมัดใจพี่เขาได้เหมือนเส้นบะหมี่เหลืองที่ทั้งเหนียวทั้งนุ่มไงล่ะครับ และที่ถูกใจผมที่สุดจุดเด่นเลยของผู้ชายคนนี้...
ลีลาการทำก๋วยเตี๋ยวของพี่ชานยอล ทำให้ผมตกหลุมรักตั้งแต่แรกพบ
“อ้าว น้องแบค” เสียงทักทายจากคนตรงหน้าทำเอาผมหลุดจากภวังค์ เหี้ยเอ้ย.. ผู้ชายอะไรวะแม่งทำอะไรก็ดูดี ขนาดวันนี้พี่แกแต่งแค่เสื้อยืดกางเกงสามส่วน คาดด้วยผ้ากันเปื้อนที่ผมคิดว่าคงได้แถมมาจากซีอิ้วขาวตราเด็กสมบูรณ์ เพราะลายที่สกรีนแม่งเขียนงั้นพร้อมกับโลโก้เด็กอ้วนนั่งสมาธิอะไรนั่นอะ
“...”
“เอาอะไรดีล่ะ” พี่ชานยอลเอ่ยถามผมอีกรอบแต่เหมือนกับว่ารอยยิ้มของพี่เขาตรึงให้ผมไม่สามารถพูดอะไรออกไปได้ ผมได้แต่จ้องพี่แกค้างอยู่อย่างนั้นอมยิ้มหน่อยๆแล้วกันเพื่อเพิ่มความน่ารัก
เคลิ้ม...
“งั้นบะหมี่เกี๊ยวน้ำเหมือนเดิมแล้วกันนะครับ น้องคยองเอาด้วยไหมครับ?” พี่ชานยอลโผล่หน้าไปถามคยองซูที่นั่งรออยู่ที่โต๊ะเรียบร้อย แต่ตอนนี้ผมทำได้แค่พยักหน้ารับแล้วก็มองใบหน้าขาวใสปนรอยยิ้มของพี่เขาอยู่แบบนั้น
“น้องแบคครับ”
คนบ้าอะไรวะ แค่เสียงยังหล่อ แถมยังสุภาพอีก...
“...”
“น้องแบค!”
แกร๊งๆๆ
“ค ..ครับ”
ผมขานรับเมื่อได้ยินเสียงพี่ชานยอลดังขึ้นเรียกสติให้ผมดึงสติตัวเองกลับมา แต่จริงๆไม่ใช่เพราะเสียงพี่แกหรอกครับ เป็นเสียงกระบวยที่พี่ชานยอลตั้งใจเคาะเข้ากับหม้อก๋วยเตี๋ยวเพื่อเรียกสติผมล่ะมั้ง ผมมองหน้าพี่เขาที่เลิกคิ้วมองผมอยู่
โอยยย.. หล่อ
ผมกระพริบตามองพี่เขาปริบๆทั้งที่ใบหน้าร้อนแปลกๆพลางบิดไปมาด้วยความเขินหน่อยๆ พี่ชานยอลคนบ้า
จ้องเอาจ้องเอาแบบนี้ผมก็เขินแย่สิ...
“น้องแบค”
“ครับ พี่ชาน..” ผมช้อนตามองพี่ชานด้วยดวงตาที่คิดว่าหวานที่สุดที่เคยทำตั้งแต่เกิดมา หวังว่าพี่เขาคงจะชมผมหรือจะบอกอะไรกับผมนะ
คิดแล้วก็เขินจัง..
พี่ชานยอลยิ้มน้อยๆแล้วก็ยกมือชี้ขึ้นที่มือข้างซ้ายของผมที่ยังคงยืนอยู่หน้ารถเข็น ผมเบนสายตาลงไปมองด้วยความเขินแต่ก็ต้องสะดุ้งกับบางอย่างที่อยู่ในมือและในปากตัวเองตอนนี้
เหี้ย... ถั่วงอก
“ถ้าน้องแบคอยากกินถั่วงอกสดๆก็บอกพี่ได้นะครับ” พี่ชานหัวเราะก่อนจะหันไปหยิบเส้นเข้ากระบวยแล้วเอามันลงไปลวกในหม้อก๋วยเตี๋ยวที่เดือดอยู่ ไม่สนใจผมอีก
อายไหมล่ะแบคฮยอน แดกถั่วงอกเขาเกือบหมดเข่ง...
“เสียงอ่อนเสียงหวาน” เสียงเหน็บแนมจากเพื่อนตัวดีทันทีที่ผมหย่อนกายลงนั่ง ผมเบนสายตาไปมองคยองซูที่จ้องมาดวงตากลมนั่นแทบถลนออกจากเบ้า
“เห็นผู้ชะ...”
ผมยกมือขึ้นห้ามเพื่อนก่อนที่มันจะพูดอะไรมาให้รำคาญหูของผมอีก มืออีกข้างของผมหยิบเอาหูฟังที่เสียบกับไอพอตขึ้นมาเสียบเข้ากับหูโดนไม่สนใจเพื่อนที่ตรงหน้ามองผมอย่างเอาเรื่องพร้อมกับเสียงที่ผมได้ยินเป็นทำนองว่าเค็มๆอะไรสักอย่าง แต่ผมไม่ได้สนใจมันหรอก ตาของผมยังคงจดจ้องอยู่กับร่างที่กำลังง่วนอยุ่กับการทำก๋วยเตี๊ยวอย่างคล่องแคล่ว
ตึง ตึง ตึ้ง ตึ่ง ตึ่ง
สเป็กฉันแบบไหน อ๋อรู้แล้วแบบนี้ ตอบเลยได้ทันทีตอบโจทย์ที่ใจตามหา~~~
ภาพตรงหน้าของผมกลายเป็นแบบสโลโมชั่นอีกครั้ง ไม่มีเสียงใดๆรบกวน มีเพียงเสียงเพลงเท่านั้นที่รอดผ่านโสตประสาทของผม พร้อมทั้งภาพชายหนุ่มที่กำลังปรุงก๋วยเตี๋ยวอย่างคล่องแคล่วว่องไว ด้วยใบหน้าเคร่งเครียด
ขนาดทำหน้าแบบนี้ยังหล่อเลย ..ให้ตายสิ
เจอคนนี้ฟินเลอะ บ่องตงรักจุงเบย อยากบอกทุกคนเลยว่าเจอเจ้าของหัวใจ~~
เจอเจ้าของหัวใจคือพี่ชานยอล พี่ชานยอลของน้องแบค วู้ววว ผมยกยิ้มขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัวนัยน์ตาของผมที่รู้สึกว่ามันกลายเป็นรูปหัวใจเวลามองพี่ชานยอล พี่เขาเงยหน้าขึ้นจากชามก๋วยเตี๋ยวพร้อมกับยกยิ้มสดใสที่ทำเอาหัวใจผมเต้นแรง โอววว ขอยาดมที
เพลงนี้มันช่างเข้ากับผมจริงๆให้ตาย ต้องขอบคุณเชอรีนที่ทำให้ผมเข้าถึงอารมณ์ได้ไปอีกขึ้น วู้วว
นี่แหละที่รอมานาน คอยมาเธอคนเดียว ไม่ต้องการใคร~~
แคร้ดดด
ประหนึ่งแผ่นสะดุดในเมื่อผมกำลังสร้างและจินตนาการเอ็มวีเพลงนี้ในกรอบสายตาของผมที่มีเพียงพระเอกคือพี่ชานยอลเท่านั้น ก็ต้องสะดุดลงเมื่อมีบุคคลที่สามเข้ามาขัดฟิลกระจุย
ผมดึงหูฟังทั้งสองข้างออกจากหูทันทีพร้อมทั้งขมวดคิ้วมองอย่างไม่พอใจนัก ดวงตายังคงจับจ้องภาพเบื้องหน้า ร่างสูงโปร่งในชุดเสื้อนักเรียนกางเกงขาสั้นสีกากีที่มันสั้นเลยเข่ามามากโชว์เรียวขาอ่อนขาวกำลังวางมือที่ลำแขนของพี่ชานยอลพร้อมกับพูดคุยและส่งยิ้มหวานให้พี่เขา
คิดว่าน่ารักมากไหม ดีออกกกกกก!!!!!!!!!!
“นั่นมันอิตุ๊ดวัดสีกันนี่”
TBC.
ฟิคระบายความใคร่.......
ไม่เคยแต่งแนวนี้ แบบแปกบ้างไรบ้างก็มองข้ามกันไปเถอะเนอะ อีกอย่างอย่าคาดหวังห่าไรจากฟิคเรื่องนี้เลยนะ ใครคู่ใครนี่ก็ยังไม่ได้คิดเลยว่ะ 55555555555555555555555 ถ้ามีคนอ่านก็จะมาต่อบ่อยๆ แท็กเวิ่นทวิต #สรงประภา12
ความคิดเห็น