The Wheel of Fortune - ฝืนชะตา ฟ้าไม่อาจลิขิต

หลังจากมหาสงครามแห่งเผ่าพันธุ์ เป็นเวลาเกือบหนึ่งพันปีมาแล้วจนถึงปัจจุบน ในยุคเรืองรองของเวทย์มนต์ และสิ่งมหัศจรรย์เหนือธรรมชาติ มีอารยธรรมของมนุษย์ที่ยิ่งใหญ่ทั้งหมด สี่อาณาจักรซึ่งได้ร่วมกันก่อตั้งสหพันธ์มิตรสภาเวทย์มนตร์ขึ้น เป็นสนธิสัญญาที่ทำร่วมกันของปฐมกษัตริย์ของแต่ละอาณาจักร ผลของการทำสนธิสัญญาในครั้งนั้น ได้ให้กำเนิดเขตปกครองพิเศษขึ้น โดยเป็นที่ทำการของสหพันธมิตรฯ เรียกว่าเขตปกครองพิเศษเซ็นทรัลเทอริทอรี่ ปกครองโดยผู้นำสูงสุดของสหพันธมิตรฯ คือจอมเวทย์ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งมีอำนาจเทียบเท่ากับกษัตริย์ทั้งสี่อาณาจักร เขตปกครองพิเศษนั้นกินพื้นที่เทียบเท่ากับอาณาจักรหนึ่งเลยทีเดียว ไม่เพียงแต่เป็นพื้นที่ที่มีสถานที่ทางการเมืองเท่านั้น แต่เซ็นทรัลเทอริทอรีนั้นเป็นเขตเศรษฐกิจที่สำคัญที่แต่ละอาณาจักรมาค้าขายซึ่งกันและกัน รวมไปถึงการแลกเปลี่ยนความรู้และวิทยาการต่างๆ ทำให้เกิดร้านค้าใหญ่ๆมากมาย เกิดเป็นสถานบันเทิง และสถานที่อื่นๆ ที่มีชื่อเสียง รวมไปถึง โรงเรียนเวทย์มนต์ Warlocks & Witches Academy ที่เป็นโรงเรียนเวทย์มนต์แห่งเดียวที่ขึ้นตรงกับสหพันธมิตรสภาเวทย์มนต์ และเป็นที่หมายปองของนักเรียนเป็นจำนวนมากที่ต้องการเป็นนักเวทย์ที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต จึงทำให้เขตปกครองพิเศษแห่งนี้ครึกครื้นไปด้วยประชาชนจากทั้งสี่อาณาจักร ทั้งมาประกอบอาชีพและปักหลัก รวมไปถึงนักเรียนที่ต้องการเข้าเรียนในโรงเรียนแห่งนี้ด้วย ซึ่งรายละเอียดของแต่ละอาณาจักรมีดังนี้

1. อาณาจักรอินดัส (Indus) เป็นอาณาจักรทางตอนเหนือจากเขตปกครองพิเศษ มีบทเวทย์ที่โดดเด่น คือเวทย์เสริมกำลังเฉพาะส่วน และเวทย์เปลี่ยนร่าง โดยอาชีพหลักของชาวบ้านคือการเลี้ยงสัตว์เพื่อใช้งานและบริโภค รวมไปถึงการเลี้ยงสัตว์อสูรด้วยเพื่ิอใช้ในการต่อสู้ และนักเวทย์ด้วยทั่วไปจะใช้เวทย์ธาตุพื้นฐาน โดยปัจจุบันปกครองโดยราชวงค์ดราโกนอยส์ (Dragonois) ซึ่งเป็นผู้ใช้เวทย์กลืนมังกร (Dragon Transformation) แต่ในประวัติศาสตร์ที่บันทึกไว้ในหอสมุดกลางของเขตปกครองพิเศษนั้น ได้กล่าวถึงอีกสองตระกูลในอดีตที่ล่มสลายไป คือ ตระกูลผู้ใช้เวทย์จุติเทพ(Goddess Transformation) และเวทย์กายอสูร( Evil Transformation) ซึ่งปัจจุบันไม่เคยปรากฎบุคคลที่ใช้เวทย์ทั้งสองนี้ได้เลย

2. อาณาจักรแอสแลนทิส( Atlantis) นักเวทย์ส่วนใหญ่จะใช้เวทย์น้ำซึ่งรุนแรงเป็นพิเศษ และเวทย์น้ำแข็ง โดยอาณาจักรนี้ตั้งอยู่ใต้ทะเลลึกลงไปในพื้นที่สุดเส้นขอบฟ้า ซึ่งชาวแอสแลนทิสนั้นเป็นพันธมิตรกับเผ่านางเงือก อาศัยอยู่ร่วมกัน และให้กำเนิดลูกครึ่งเงือก ซึ่งประชากรจะแบ่งออกเป็นสองสายเลือดคือ สายเลือดมนุษย์ และลูกครึ่งนางเงือก โดยปัจจุบันจอมเวทย์ศักดิ์สิทธิ์ที่ปกครองเขตปกครองพิเศษเซนทรัลเทอริทอรีเป็นชาวแอสแลนทิส

3.อาณาจักรคาโฮเกีย (Kahokia ) เป็นอาณาจักรที่ผลิตอาวุธเวทย์มนต์ที่ดีที่สุด ซึ่งนักเวทย์โดยทั่วไปไม่เพียงแต่ใช้เวทย์ในธาตุพื้นฐานได้ แต่ยังมีความสามารถในการใช้เวทย์อักขระ และเวทย์คำสาปเป็นอาณาจักรที่เป็นที่ตั้งของดันเจี้ยนที่เป็นสิ่งที่หลงเหลืออยู่เพียงสิ่งเดียวจากมหาสงครามแห่งเผ่าพันธุ์เมื่อ1000ปีก่อน ถึงแม้ว่าในปัจจุบันยังมีสัตว์อสูรที่อาศัยอยู่ในป่าลึก บางครั้งก็ออกมาทำร้ายมนุษย์ แต่ว่าในดันเจี้ยนนั้นกลับมีสัตว์อสูรที่น่ากลัวกว่ามาก ซึ่งปฐมกษัตริย์ทั้งสี่ กับจอมเวทย์อักขระหลายพันคน ได้ร่ายอักขระกักขังอสูรในดันเจี้ยนไว้เพื่อไม่ให้ออกมาภายนอกได้

4. อาณาจักรมายา( Maya) เป็นอาณาจักรเดียวที่ไม่มีโรงเรียนเวทย์มนต์ เพราะว่ามีนักเวทย์ชั้นสูงน้อย ส่วนใหญ่จะเป็นนักบวชที่เชี่ยวชาญเวทย์ธาตุแสงในเชิงรักษา และการเร่งผลผลิต เพราะประชาชนส่วนมากจะทำการเกษตร และพึ่งพาการของพรของเหล่านักบวชที่วิหารแห่งแสงปีละสองครั้งทำให้ผลผลิตของประชาชนส่วนใหญ่ซึ่งมีพื้นที่เพราะปลูกในที่ราบลุ่มบริเวณวิหารแห่งมีผลผลิตทางการเกษตรดีเป็นพิเศษ เนื่องด้วยการที่ไม่มีโรงเรียนเวทย์มนต์ในอาณาจักร คนส่วนใหญ่ที่ต้องกานเรียนเวทย์มนต์จึงจำเป็นต้องย้ายไปที่เขตปกครองพิเศษ แต่ถึงกระนั้นจุดเด่นของอาณาจักรนี้ คือ การที่เป็นอาณาจักรที่อุดมสมบูรณ์ และเป็นอาณาจักรที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุด กินพื้นที่ทั้งตอนใต้และตะวันตกจากเขตปกครองพิเศษ และเป็นพื้นที่ที่มีความลับมากมายซ่อนอยู่ ในทุกๆปีเจ้าหน้าที่ของสหพันธมิตรฯ เข้ามาสำรวจอยู่บ่อยครั้ง