SF Singular: Promise
งานกรี๊สอวอร์ด ^^ มันเป็นเรื่องดีดีที่เราสองคนมีให้กัน ...
ผู้เข้าชมรวม
644
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
=== Fiction : จินตนาการสำคัญไฉน ===
*****************************************************
Short Fiction NutSin: Promise
“เดี๋ยว!”
มือสวยเอื้อมไปจับที่เปิดประตูรถตู้เตรียมจะเดินออกไปนอกรถ แต่ถูกอีกมือหนึ่งรั้งแขนเอาไว้ ใบหน้าสวยสะบัดหันกลับไปมองคนที่ดึงเขาเอาไว้ ตาโตเบิ่งเป็นคำถามว่าอีกคนเรียกเขาทำไม
“พี่โอ๊ตโทรมาเรียกแล้ว...ลงสิ”
เสียงเล็กเอ่ยบอกอีกคน เพราะได้เวลาแล้วที่เขาสองคนจะต้องเข้าไปในงานหลังจากรอพี่โอ๊ตให้โทรมาบอกว่าถึงเวลาตามเข้าไปได้
“จะบอกว่า..ผมเราน่ะ..ยังไม่ได้แกะเลย”
มือใหญ่เคลื่อนมาสัมผัสที่เปียผมยาวที่ทิ้งตัวอยู่ด้านหลังร่างบางแล้วเขย่าไปมาเพื่อให้รู้ว่าเจ้าของเรือนผมลืมสยายมันออกก่อนที่จะลงไปพบปะคนอื่นๆ แล้วหัวเราะหึหึร่วนคอเป็นเชิงหยอกใส่คนที่ตอนนี้เพิ่งรู้ตัวแล้วยิ้มเขิน ขยับตัวเองกลับมานั่งที่เบาะข้างเขาเหมือนเดิม
ปากสวยยิ้มกว้างและยิ้มตาหยีที่ตัวเองเกือบทำเรื่องเปิ่นๆให้คนอื่นเห็นแล้วเชียว มือสวยจับเปียผมตัวเองตวัดมาด้านหน้าแล้วเริ่มแกะหนังยางที่รัดอยู่ออก แต่เพราะว่ารีบหรือเพราะว่าผมพันกันก็ไม่รู้ทำให้แกะยากแกะเย็นเหลือเกิน คิ้วเริ่มขมวดเป็นปมที่ยางเริ่มกินผมทำให้รู้สึกเจ็บ
“มานี่มา”
เสียงห้าวเอ่ยบอกเหมือนตัดรำคาญที่นั่งมองคนตัวเล็กงุ่นกับผมตัวเองอยู่ไม่เสร็จสักที แถมยิ่งแกะก็ยิ่งพันกันไปใหญ่ มือใหญ่จับผมอีกคนแทนที่ ซินยอมลดแขนตัวเองลงแล้วอยู่นิ่งๆให้นัทค่อยๆแกะปมที่พันอยู่ออกให้
นิ้วเรียวค่อยๆคลายปมผมที่พันกันออกที่ละช่อ ไม่นานหนังยางกับเปียผมเป็นอิสระจากกัน ซินขยับมือตัวเองกลับมาจับผมอีกครั้ง แต่ไม่ทันอีกคนที่ตอนนี้เป็นฝ่ายสยายเปียผมของเขาออกก่อนแล้ว มือใหญ่จับผมที่เกี่ยวกับสร้อยของเขาให้เข้าที่เข้าทาง คนถูกบริการนั่งตัวแข็งเริ่มรู้สึกหน้าร้อนผ่าวๆ ไม่คิดว่านัทจะทำให้ขนาดนี้
“ขอบคุณครับ” ตอบกลับไปเสียงแผ่วเบา แล้วจับผมตัวเองแบ่งมาไว้ด้านหน้าให้เข้าทรงแก้เขิน
“อะไรนะ!” ใบหน้าหล่อเอียงเข้ามาให้ทำท่าเป็นไม่ได้ยินประโยคที่เขาพูด แต่ปากที่ยกยิ้มทำให้ซินรู้ดีว่านัทกำลังแกล้งแซวที่เขายอมพูดเพราะด้วย
“กวนตีนตลอด” แล้วผลักแขนอีกคนให้หลบทาง หมายจะออกจากรถเสียที
“กูอุตส่าห์ช่วย รางวัลสักนิดก็ไม่มี”
พูดจบประโยคก็ทำเป็นมองไปทางอื่นแต่แก้มพองลมไว้เรียบร้อย แถมเอียงคอซะเกินงาม ซินหันไปมองพอเห็นท่าของอีกคนแล้วนึกหมั่นไส้หนักกว่าเดิม มือเล็กตบเข้าไปเบาๆที่ข้างแก้มจนลมข้างแก้มหายไป แล้วหัวเราะสะใจ เดินลงจากรถ
พี่โอ๊ตเดินนำเขาสองคนลัดเลาะมาด้านหลังสถานที่จัดงาน หันกลับไปมองหันเดินตามมาไม่ห่าง ไม่นานเขาสามคนก็มาถึงทางเลี้ยวเข้างาน มีแฟนคลับบางส่วนมายืนรออยู่แล้วก็เอ่ยสวัสดี โบกไม้โบกมือ บ้างก็ถ่ายรูปกันไป
วันนี้บรรยากาศแดดร่มลมตก อีกไม่นานฟ้าก็เริ่มจะมืดแล้วด้านหลังเต๊นท์ที่พักศิลปินมีทีมงานและศิลปินคนอื่นๆอยู่พอสมควร พี่โอ๊ตพาเขาสองคนมายังโต๊ะที่จองไว้แล้วเพื่อวางกระเป๋าแล้วนั่งพักดื่มน้ำดื่มท่า
“หิวก็กินข้าวนะ”
พี่โอ๊ตชี้บอกพร้อมชี้กล่องข้าวที่เตรียมไว้ให้แล้ว ซินพยักหน้ารับทราบ หันไปมองอีกคนที่ตอนนี้หันไปร้องทักบอยที่มางานนี้ด้วยเช่นกัน มือคีย์บอร์ดร่างเล็กที่คุ้นเคยกันดียิ้มแป้นมาแต่ไกลแล้วเดินมาหาเขาสองคน ไม่เจอกันเสียนานจึงถ่ายรูปร่วมกันเสียหน่อยแล้วก็คุยสาระทุกข์สุขดิบกันไป
“นัทซินมาสัมภาษณ์” เสียงพี่โอ๊ตร้องเรียก ทั้งสองจึงเดินตามออกไปด้านนอกเต็นท์ แฟนๆที่รอกันด้านนอกยกกล้องขึ้นมาถ่ายรัวชัตเตอร์กันอยู่ตรงมุมไกลโน้นทันทีที่เห็นหน้าเขาสองคน
ทีมงานบอกให้เขาสองคนมายืนหน้าแบ๊กดรอปเพื่อถ่ายรูปกับถ้วยรางวัล และสัมภาษณ์อีกเล็กน้อย วันนี้ไม่มีอะไรให้เหนื่อยใจมากมาย ทั้งสองคนทำหน้าที่ของตัวเองเหมือนเช่นเคย อีกทั้งได้กำลังใจจากแฟนๆล้นหลามยิ่งทำให้ซินอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ทำให้นัทห้ามตัวเองไม่ให้เผลอไปมองไม่ได้ ถึงแม้อากาศจะอบอ้าวแต่ไม่มีท่าทีว่าจะบ่นว่าเหนื่อยเอาง่ายๆ
....แต่เดี๋ยวนะ....
สายตาพลันเหลือบลงไปเห็นที่คอเสื้อกล้ามสีขาวที่อยู่ด้านในเสื้อคลุม แล้วต้องแอบมองอีกรอบ
....ทำไมคอเสื้อลึกแบบนั้นวะ!....
ไม่นานทีมงานก็ปล่อยให้เขาสองคนกลับไปรอในเต็นท์รับรองอีกครั้งเพื่อรอเวลาขึ้นไปรับรางวัลบนเวที เขาเดินตามร่างบางไม่ห่างกันนัก พอซินหย่อนตัวลงนั่งไขว่ห้าง แขนแกร่งก็เท้าเข้าที่พนักพิงเก้าอี้จนคนที่นั่งอยู่ต้องหันกลับมามอง
“อะไร”
“ทำไมใส่ตัวนี้อีกแล้ววะ?”
เสียงห้าวที่เอ่ยถามดูเอาเรื่องทีเดียว แต่คนฟังยังไม่เข้าใจในคำถาม หันกลับไปมองพร้อมทำหน้างง
“เสื้อกล้ามตัวเนี้ยเนี่ย..เคยบอกแล้วว่าไม่ชอบ” ใบหน้าหล่อก้มลงมาใกล้เพื่อพูดแข่งกับเสียงเพลงที่ดังด้านนอก
พอฟังความได้ชัดจึงก้มลงมองที่อกตัวเองก็เลยเพิ่งจะเข้าใจว่านัทหมายถึงอะไร ใช่..นัทเคยบอกเอาไว้ว่าไม่ชอบเสื้อตัวนี้ แต่เขาลืมไปเลย ก็เห็นว่าวันนี้น่าจะอากาศร้อนเลยเลือกใส่ตัวนี้มา แล้วที่สำคัญเขาก็ใส่เสื้อคลุมทับอีกทีไม่เห็นจะน่าเกลียดตรงไหน
“ไม่เห็นจะทำไมเลย” หันไปตอบแบบนั้น ก็ไม่เห็นว่าจะทำไมจริงๆ เขาไม่ได้กำลังแก้ผ้าอยู่นี่หน่าจะได้ต้องเครียดขนาดนั้น
“คอลึกไป...จะโผล่ละ”
พอจบคำพูดทำเอาสำลักน้ำแล้วต้องหันไปหัวเราะใส่หน้า เจ้าคนที่ทำหน้าเครียดอยู่
“นมอ่ะนะ?”
ถามนัทไปแบบนั้นแต่ใบหน้าหล่อกลับทำเป็นเมินหน้าไปทางอื่น แต่เหล่มองตีบทเข้มจนชักอย่างจะแกล้ง
“ไม่นะไม่ลึก”
ว่าแล้วก็ขยับจับเสื้อตัวเองให้ทิ้งตัวมาข้างหน้ายิ่งขึ้น ทำให้คอเสื้อลึกมากขึ้นกว่าเดิมไปถึงกลางอก
“เห้ย!ไอ้นี่!”
นัทร้องเสียงหลงกับพฤติกรรมของคนตัวเล็ก แต่ก็ต้องทำเป็นสงบปากสงบคำเหมือนเดิมเพราะมีศิลปินคนอื่นเข้ามาขอถ่ายรูปด้วย นัทจึงจำต้องทำเป็นยิ้มรับแขกทั้งที่ใจน่ะไม่ใช่เลย
เมื่อพุดคุยกันศิลปินคนอื่นไปพลางๆก็ถูกพี่โอ๊ตเรียกให้ออกไปสัมภาษณ์อีกครั้ง แต่คราวนี้เป็นสื่อจากนิตยสารเล่มหนึ่งที่เขาสองคนถูกสัมภาษณ์บ่อยๆอยู่แล้ว
“เห็นซินมีผลงานร่วมกับเดปาเปเป้เป็นยังไงบ้างคะ” นักข่าวสาวเริ่มประเด็น ซินหันไปตอบพร้อมยิ้มรับคำถาม ร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างจึงได้แต่ยืนยิ้มฟังสิ่งที่ซินพูดไปเรื่อยๆ
“เห็นว่าจะมีผลงานกับศิลปินคนอื่นอีกเร็วๆนี้” นักข่าวยังคงถามเริ่มประเด็นที่ซินจะไปร่วมงานกับคนอื่นอีกครั้ง คนที่ยืนฟังข้างๆเริ่มรู้สึกแปลกๆว่าในไม่ช้าน่าจะมีคำถามที่ไม่พึงจะฟังตามมา
“ก็มีโอกาสที่ดีครับที่ได้ร่วมงานกับศิลปินมีความสามารถคนอื่นๆ เป็นประสบการณ์ที่ดีของวงเรา”
ซินตอบไปอย่างราบรื่นพลางหันมามองหน้าคนตัวสูงกว่าเป็นระยะ
“อย่างนี้จะไปย้ำกระแสเรื่องจะแยกวงรึเปล่า”
......ว่าแล้ว......
“ก็ไม่ฮะ..เราสองคนยังทำงานร่วมกันต่อไปนะครับ..ประสบการณ์ที่ดีก็อยากให้เพื่อนได้รับครับ”
เสียงห้าวเป็นฝ่ายเริ่มตอบก่อน
“ก็ถ้านัทไปแจมไปร่วมงานกับคนอื่นซินก็จะถือเป็นเรื่องดีเหมือนกันครับ”
ซินตอบพร้อมยิ้มหวานส่งให้หญิงสาว เมื่อหมดคำถามต่างจึงเอ่ยขอบคุณซึ่งกันและกัน
“เมื่อกี๊ถามไรมั่งวะ” พี่โอ๊ตเอ่ยถามเมื่อทั้งคู่เข้ามานั่งด้านในแล้ว
“ก็เรื่องแยกวงประมาณนี้”ซินเป็นฝ่ายตอบพี่โอ๊ตไปอย่างใจเย็น
“ถามกันจังวะคำถามนี้”
เสียงห้าวเอ่ยขึ้นมาพร้อมกับหน้าที่เริ่มหาเรื่องตามสไตล์ ทำเอาพี่โอ๊ตหันมามองหน้าซินเพื่อส่งซิกว่าให้จัดการเคลียร์กันเองนะ ซินจึงทำได้เพียงพยักหน้าให้ว่าเดี๋ยวเขาจะเป็นฝ่ายคุยกับนัทเอง
พี่โอ๊ตจึงเดินออกไปคุยกับทีมงานด้านนอก ปล่อยให้เขาสองคนได้คุยกันเองข้างใน
ที่พี่โอ๊ตมีปฏิกิริยาไวรู้ว่านัทอารมณ์อย่างไรเพราะก่อนหน้านัทเคยบ่นมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อช่วงต้นปีที่มีกระแสว่าเขาสองคนผิดใจกัน อาจจะเพราะมีเรื่องที่นัทไปกับสาว ประจวบกับที่ซินเองก็ไปทำเพลงร่วมกับคนอื่น จึงมีนักข่าวเคยมาถามแล้วซึ่งตอนนั้นนัทเองก็บอกไปแล้วว่าไม่ได้มีปัญหากัน
....ยังรักกันดีอยู่.....
แล้วยิ่งพักหลังๆ ก็ยอมรับว่าเพราะเขาไปร่วมงานกับคนอื่นมาแล้วถึงสามครั้งจึงไม่แปลกที่นักข่าวจะกลับมาเล่นกระแสนี้อีกครั้ง
“ใจร้อนจังวันนี้” ลองแหย่ๆถามไปก่อนหยั่งเชิงว่าอีกคนจะว่าอย่างไร
“ก็เบื่อ..อยากให้แยกวงกันจั๊ง!” นัททิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้แล้วหยิบน้ำขึ้นดื่มเพื่อดับร้อน
เขาไม่ได้อยากมีปัญหาหรือทำอารมณ์ร้อนอะไรหรอกนะ แต่แค่รู้สึกว่าการที่ใครอีกคนไปร่วมงานกับคนอื่นไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องโกรธหรือเกลียดกัน คนทำงานด้วยกันมาห้าหกปี มันเลยจุดที่จะต้องมาอิจฉากันแล้ว กลับกลายเป็นว่าเขารู้สึกภูมิใจกับซินมากต่างหาก
แล้วก็เชื่อเสมอว่าถ้าเขาต้องมีโอกาสไปร่วมงานกับใครซินก็จะเข้าใจและคอยสนับสนุนเขาอยู่เบื้องหลังแน่นอน (แม้อาจจะมีหวงบ้าง..ถ้าเกิดเป็นสาวๆนะ)
“เรารู้ว่าเราไม่ห่างกันก็พอนี่”
เสียงเล็กเอ่ย ดวงตาโตมองเขาแล้วยิ้มบางๆส่งมาให้
พอเห็นซินพูดแบบนี้มันก็ทำให้ในใจเย็นลงอย่างไม่น่าเชื่อ จริงอย่างนักร้องของเขาว่า เรารู้ว่าเราเป็นยังไงมันคือสิ่งที่ดีที่สุด
****************
“พี่นัทพูดอะไรนิดนึง” ร่างบางเบี่ยงตัวหลบเพื่อให้อีกคนได้พูดบ้าง
“ครับผม..ก็ขอบคุณแฟนเพลงละกันครับ..แล้วก็...ผมก็สัญญาว่าจะทำงานคู่กันอย่างนี้ตลอดไปครับ”
==แค่มีเธอและฉัน...ไม่เป็นไร==
==แค่มีกันและกัน...ตลอดไป==
END
*****************************************************************************
P.K.M. Talk >>> เดี๋ยวนี้อู้ไม่ยอมต่อเรื่องยาว แต่ขยันเอาเรื่องสั้นมาลงนะเรานี่ 555
ก็แหมมม .. งานนี้มีแต่เรื่องดีดีกลับมานะเอ้อ...พี่นัทพี่ซินน่ารัก แถมส่วนตัวเราเองก็ได้โมเม้นดีๆกลับมาเลยอยากจะเขียนถึงวันนี้นิดนึง ... เข้าใจเค้าใช่ไหมตัวเองคนอ่านที่น่ารักทุกคน (อ้อนๆ)
FIC OTOP จงเจริญ ~~~ รักนะคะ ^^
ผลงานอื่นๆ ของ P.K.M ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ P.K.M
ความคิดเห็น