ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [KrisLay] หวานใจ >///<

    ลำดับตอนที่ #1 : หวานใจ ตอน 01 ::: สวัสดีกระต่ายน้อย

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.86K
      17
      20 ก.ค. 56


    [Fic] หวานใจ >///<
    ตอน 01: สวัสดีกระต่ายน้อย

    Fiction by 2nd Admin

     



     

    .

     

    .

     

    .

     

     

    คริสไม่เคยรู้มาก่อน ว่าการมีแฟนน่ารักแสนดี อ่อนหวานและนุ่มนิ่มเหมือนขนมมาชเมลโล่ จะทำให้เขายิ้มได้ทั้งวัน แม้แต่เวลาที่นั่งดูรายการข่าวภาคบ่ายเพื่อรอให้คนตัวเล็กมาหาที่คอนโดแบบ นี้

     

    “ผมเข้าไปนะครับ”

    แค่ได้ยินเสียงใสรายงานตัวหลังเสียงประตูหน้าปิดลง รอยยิ้มบนใบหน้าหล่อเหลาก็ยิ่งกว้างขึ้น เขาปิดรายการทีวีที่ดูอยู่อย่างไม่ใยดีแล้วเดินยิ้มไปหาร่างโปร่งบางที่ เพิ่งเดินเลยห้องนั่งเล่น แล้วก็ถอยหลังกลับมาชะโงกหน้าเมื่อเห็นว่าเขาอยู่ในห้องนี้ “อยู่นี่เหรอครับ ผมนึกว่าพี่ยังไม่ตื่น”

    “ตื่นมารอแฟนตั้งแต่เช้าแล้ว” คนน่ารักได้ฟังก็อมยิ้มน้อยๆ เกานิ้วชี้กับข้างแก้มขาว นั่นล่ะวิธีแก้เขิน น่าจับดึงเข้ามากอดแน่นๆ แล้วหอมซักฟอด โทษฐานที่ปล่อยให้แฟนรอนาน แต่คริสยังไม่อยากรีบร้อน วันนี้เขายังมีเวลาอีกมาก

     

    “ไหนล่ะของฝาก?” คนตัวโตกว่าแบมือ ยกแขนอีกข้างขึ้นกอดอกไว้ระหว่างรอให้คนตัวเล็กเก็บคีย์การ์ดที่เขาเองเป็น คนให้ไว้ลงกระเป๋า แล้วยกมือขึ้นอวดกล่องขนมในถุงพลาสติกที่หิ้วมาด้วย

    “ขนมเค้กร้านโปรด พี่จะทานเลยมั้ย?”

    พอคริสพยักหน้าคนน่ารักก็ยิ้ม แล้วรีบเดินไปทางห้องครัว

     

    ร่างสูงยืนกอดอกพิงกรอบประตูไว้ มองแผ่นหลังบางเดินไปเดินมาอยู่ในครัว ซักพักก็ได้ยินเสียงฮัมเพลงเบาๆ แว่วมา คริสยิ้มกว้างด้วยหัวใจที่ฟูฟ่อง คนตัวเล็กทำให้บรรยากาศในห้องพักหรูของเขาหวานละมุนราวกับถูกปกคลุมด้วยน้ำ ตาลไอซิ่ง เขานึกไม่ออกเลยว่าถ้าตอนนั้นไม่ได้เจอกับ จางอี้ชิง เขาในตอนนี้จะมีความสุขมากขนาดนี้รึเปล่า

     

     

     

     

    มีกระแสคอมเม้นท์มากมายเกิดขึ้นตั้งแต่ข่าวที่ว่าเขาคบกับจางอี้ชิงรุ่นน้อง แพร่ออกไปในมหาวิทยาลัย บ้างก็ว่าน่าเสียดาย แต่ส่วนใหญ่จะว่าสงสารน้อง น้อยนักที่จะยินดีด้วย แต่ทุกๆ เสียงจะจบลงที่ว่า เดี๋ยวก็เลิกกัน

     

    คริสยอมรับว่าก่อนหน้านี้ ภาพลักษณ์ของเขาคือหนุ่มหล่อเพลย์บอยที่แสนอันตราย การเปลี่ยนคู่ควงทุกวันและคู่นอนไม่ซ้ำหน้าทำให้เขากลายเป็นแบดบอยที่นับวัน ก็จะยิ่งมีคนอยากเข้าหามากขึ้น คนพวกนั้นอยากออกเดท อยากนอนกับเขาโดยที่บอกเองว่าไม่ต้องการการผูกมัด เพราะอย่างนั้นเขาเองก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะผูกมัดใคร วันนี้อยู่กับเขา พออีกวันก็ไปกับคนอื่นได้

     

    ที่จริงคริสคิดว่าตัวเองน่าสงสารนะ เขาหล่อเชียวล่ะ และที่บ้านก็รวยมากด้วย เขาถึงใช้ชีวิตอยู่ในคอนโดหรูๆ อย่างนี้ได้ทั้งที่ยังเรียนมหาลัย แต่มนุษย์เพอร์เฟคอย่างเขากลับไม่มีแฟนซักคน มันน่าเศร้ามาก

     

    เขาพบกับอี้ชิงในงานออกร้านของคณะอักษรศาสตร์ แมสคอตตัวกระต่ายสีขาวมีหูกับจมูกสีชมพู กำลังขายที่คั่นหนังสือทำมือให้กับคนในงาน ราคามันออกจะแพงไปซักหน่อยสำหรับของชิ้นเล็กๆ แต่ที่ข้างตระกร้าที่กระต่ายถือเขียนว่า รายได้เพื่อสมทบทุนอาหารกลางวันเด็กกำพร้า คริสเป็นคนใจบุญนะ เขาทิ้งกลุ่มเพื่อนแล้วเดินเข้าไปหากระต่ายน่ารัก หยิบที่คั่นหนังสือที่เป็นรูปขนมเค้กวาดด้วยดินสอสีไม้ขึ้นมา ก่อนจะส่งเงินให้จำนวนหนึ่งแล้วหันหลังเดินจากไป

     

    “เดี๋ยวครับคุณ!

    แต่เสียงอู้อี้ที่ดังตามมาทำให้เขาต้องหันหลังกลับ คนในกระต่ายส่งสัญญาณเหมือนพยายามจะบอกอะไร แต่เขาไม่เข้าใจ ท่าทางที่กระต่ายตัวโตๆ ทิ้งสองแขนลงข้างตัวอย่างขัดใจนั้นดูแล้วมันน่ารัก แต่พอคนในกระต่ายถอดหัวแมสคอตออก ...คริสก็ถึงกับยิ้มค้าง

     

    แสงแดดมันแรงไปหรือยังไงเขาถึงตาพร่า คนตรงหน้านี่ใคร? ...หน้าหวานๆ แก้มขาวๆ ตาใสๆ จมูกเล็กๆ ปากอิ่มๆ

     

    ...ใครนะช่างเอานางฟ้าไปซ่อนไว้ในตัวกระต่ายได้!

     

    “คุณลืมเงินทอน”

    “...ไม่ได้ลืม ฉันตั้งใจให้”

    “แต่ที่คุณให้มานี่มันสามเท่าของราคาที่คั่นหนังสือเลยนะครับ” รุ่นน้องเอียงคอมองเขาด้วยสายตาไม่เข้าใจ ถ้าไม่ติดว่าเด็กคนนี้ไม่มีอาการตื่นเต้นซักนิดเวลาอยู่ต่อหน้าคนดังอย่างเขา คริสคงนึกว่ากระต่ายน้อยกำลังทำน่ารักใส่เขาอยู่แน่ๆ

    “เห็นว่าเอาไปทำบุญ แมสคอตน่ารักฉันเลยอยากช่วย” แน่นอนว่าคริสไม่ได้หมายถึงกระต่าย เขายิ้มให้คนตัวเล็กที่ทำหน้างงได้น่ารักที่สุดในโลก ก่อนจะถูกเพื่อนลากตัวกลับไปเข้ากลุ่ม

     

     

    เช้าวันต่อมาก็มีกล่องขนมมาวางที่โต๊ะในซุ้มคณะ มีกระดาษโน๊ตใบโตๆ เขียนด้วยลายมือว่า

     

    ขนมเค้กสำหรับคุณคนใจดี แทนเงินทอนค่าที่คั่นหนังสือเมื่อวานนี้ครับ

     

    “ใครวะ?”

    เพื่อนๆ พากันพิพากษ์วิจารณ์ในขณะที่คริสยิ้มกว้างอย่างห้ามไม่อยู่ โดยไม่อธิบายอะไรให้มากความ เขาก็คว้ากล่องขนมแล้วรีบเอาไปเก็บที่รถ ปกติถ้ามีของกินก็จะแบ่งเพื่อนๆ แต่กล่องนี้ให้ไม่ได้!

     

     

    ตอนเย็นของอีกวัน คริสไปที่ร้านขนมที่มีชื่อเดียวกับที่อยู่บนกล่อง มันเป็นร้านเบเกอรี่เล็กๆ ที่อยู่หลังมหาลัย ตกแต่งด้วยโทนสีชมพูอ่อน ขนมในตู้หน้าร้านมีแค่อยู่ไม่กี่อย่าง ดูเหมือนจะสลับสับเปลี่ยนกันไปตามเมนูที่ติดไว้ด้านหน้า คริสมองไปรอบๆ ไม่ใช่เพื่อหาโต๊ะนั่ง ร้านน่ารักอย่างนี้ไม่ค่อยเหมาะกับคนตัวโตๆ อย่างเขาเท่าไหร่ ถึงคริสจะชอบมากก็เถอะ แต่มันเหมาะกับใครบางคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะริมหน้าต่างกับเพื่อนอีกสองสามคน

     

    คริสมองจนอีกฝ่ายวาดสายตามาทางเขา ใบหน้าขาวใสที่อาบไล้ด้วยแสงแดดอ่อนๆ ให้ความรู้สึกละมุนละไมจนดูอ่อนหวาน คนตัวเล็กไม่ได้ยิ้มให้เขา แค่มองเพราะบังเอิญหันมาสบตา เขาต่างหากที่ยิ้มให้ก่อน แล้วเดินเข้าไปหาอย่างไม่ลังเล

     

    “สวัสดีกระต่ายน้อย”

    “สวัสดีครับคุณคนใจดี” คริสดีใจที่อีกฝ่ายจำได้ แถมยังส่งยิ้มหวานที่คริสสาบานได้ว่ามันหวานกว่าขนมเค้กหลากรสที่กินไปคน เดียวทั้งกล่องเมื่อวานนี้เสียอีก ดวงตาคู่สวยที่มองมาเป็นประกายระยับ คริสถูกร่องบุ๋มที่ข้างแก้มขาวกระแทกเข้าในอกจนหัวใจเต้นแรง สองปีในมหาวิทยาลัย ยังไม่เคยมีใครทำให้เขาตื่นเต้นเพียงแค่ยิ้มให้กันแบบนี้มาก่อน

     

    ยิ้มที่ทำให้ความหวานแผ่ซ่านไปทั้งอก ...หวานใจ

     

    อาจจะดูเร็วไปซักหน่อย แต่คริสคิดว่า... ถ้าวันนี้เขาปล่อยให้คนน่ารักตรงหน้าหลุดมือ จะต้องเสียใจทีหลังแน่ๆ

     

     

    “ฉันยังไม่มีแฟน เราเป็นแฟนกันนะ?”

     

     

     

     

    นั่นเป็นสิ่งที่ใครหลายคนคิดว่าไม่เหมาะสม แม้แต่เพื่อนสนิทของเขาเอง ทุกคนรู้ว่าจางอี้ชิงเป็นเด็กดี เป็นเด็กน่ารัก แต่เขาเป็นเพลย์บอย ทุกคนเป็นห่วงอี้ชิง กลัวว่าเขาจะทิ้งน้อง จะทำให้น้องเสียใจ

     

    ...แต่ไม่มีใครรู้ว่าเขาไม่มีทางทำอย่างนั้น

     

    ช่วงแขนยาวสวมกอดรอบเอวบางไว้จากทางด้านหลังระหว่างที่คนตัวขาวกำลังง่วนอยู่กับ การจัดขนมใส่จาน ก่อนจะฝังริมฝีปากและจมูกลงบนแก้มขาวนุ่มแรงๆ จนคนถูกเอาเปรียบครางอื้อ

     

    ...เขาทั้งรักทั้งหลงจางอี้ชิงขนาดนี้ จะทิ้งหัวใจตัวเองไปได้ยังไงกัน

     

    “พี่คริสอย่ากวนสิครับ ผมกำลังยุ่งอยู่นะ”

    แต่คนหลงแฟนมีหรือจะฟัง จมูกซุกซนยังเลื่อนลงหาซอกคอขาว ซุกไซ้สูดกลิ่นหอมหวานเหมือนขนมจนคนบ้าจี้ต้องย่นคอหนี

    “อื้อ...~

    “...หอมจัง”

    “มันจั๊กจี้นะครับ พี่คริสปล่อยเถอะ”

    “ไม่ได้เจอตั้งนาน ขอชื่นใจหน่อยไม่ได้หรือ?”

    “นานอะไรกัน เมื่อวานก็ยังเจอที่มหาลัยอยู่เลย”

    “ก็ตั้งหลายชั่วโมง พี่อยากอยู่กับเราทั้งวันทั้งคืนเลยนะ” คนน่ารักหัวเราะเสียงใส คริสจับมือนิ่มที่วุ่นวายอยู่แต่กับขนมออกมาแล้วพลิกร่างเล็กให้หันมาหา สบตาคู่สวยแล้วบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ย้ายมาอยู่ที่นี่กับพี่เถอะ”

     

    คราวนี้คนยิ้มง่ายกลับนิ่งไป อี้ชิงไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ แค่มองหน้าเขาแล้วก็นิ่ง ไม่มีแววความลำบากใจหรือครุ่นคิดในดวงตาคู่สวยนั่นด้วยซ้ำ เหมือนกับมีคำตอบอยู่แล้วแต่ไม่ยอมบอก แล้วอี้ชิงก็ยิ้มออกมา ดันไหล่เขาให้หันหลังแล้วเดินไปส่งจนถึงหน้าครัว

    “พี่คริสไปรอที่ห้องนั่งเล่นก่อนนะ เดี๋ยวเสร็จแล้วผมตามไป”

     

     

     

    ร่างสูงกลับมานั่งที่โซฟาพร้อมเสียงถอนหายใจ เป็นแบบนี้ทุกครั้งที่เขาถาม อี้ชิงไม่เคยให้ความหวังแต่ก็ไม่เคยดับฝันเขา ที่คริสพร่ำบอกไม่ใช่แค่คำหวาน เขาอยากให้คนตัวเล็กมาอยู่ด้วยกันจริงๆ เขาฝันถึงเวลาที่ห้องกว้างๆ โล่งๆ นี้มีใครอีกคนอยู่ด้วย ห้องครัวจะได้มีคนใช้งานบ่อยๆ ห้องนั่งเล่นจะได้ยินเสียงฮัมเพลงเบาๆ ไม่ใช่เสียงโทรทัศน์ที่ถูกเปิดทิ้ง เขาอยากถูกปลุกให้ตื่นด้วยจูบแสนหวานในตอนเช้า อยากมีเพื่อนนั่งทานอาหารที่เล่าทุกเรื่องให้เป็นเรื่องสนุกได้ อยากไปเรียนด้วยกัน กลับบ้านด้วยกัน นั่งดูโทรทัศน์รายการโปรดแล้วแย่งรีโมทเปลี่ยนช่องกันจนเหนื่อย ก่อนจะอาบน้ำและเข้านอนไปด้วยกัน ทุกความคิดของเขามีแต่จางอี้ชิง แต่ทำไมอี้ชิงถึงไม่ยอมใจอ่อนกับเขาซักที

     

     

    “มาแล้วครับ” คนในความคิดเดินยิ้มหวานเข้ามาพร้อมถาดขนม ก่อนจะวางมันลงบนโต๊ะ เบียดกายนุ่มนิ่มลงนั่งข้างคนรักบนโซฟา “ซอฟท์เค้กช็อคโกแลต กับสตรอเบอรี่ชอร์ทเค้ก พี่คริสอยากทานอะไรก่อน”

    “ไม่ทั้งสองอย่าง”

    “อ้าว ไหนว่าอยากทานไงล่ะครับ”

    ก็ใช่ เขาโทรหาอี้ชิงเมื่อเช้า บอกว่าอยากทานขนมร้านนั้น น้องถึงอุตส่าห์แวะซื้อมาให้ บางทีคริสก็ต้องทำตัวเจ้าเล่ห์บ้าง มีอย่างที่ไหน วันหยุดทั้งทีแทนที่จะได้ขลุกอยู่กับแฟน เด็กรักเรียนดันมีนัดติวหนังสือกับเพื่อนซะได้ แย่งเวลาช่วงบ่ายคืนมาจากกองหนังสือพวกนั้นได้ก็ดีแค่ไหนแล้ว

     

    คริสเอาแต่หาวิธีที่จะได้อยู่กับคนน่ารักสองต่อสองตามลำพังให้นานที่สุด แต่ดูเหมือนอี้ชิงจะไม่ตามใจเขาบ้างเลย

     

    “ตอนนี้ไม่อยากแล้ว”

    “ทำไมล่ะครับ?”

    พอคริสไม่ตอบอี้ชิงก็ทำหน้ามุ่ย อยู่ดีๆ ก็อารมณ์เสียขึ้นมา คงจะงอนเรื่องที่คุยกันในครัวเมื่อครู่แน่ๆ

     

    คริสน่ะเจ้าเล่ห์ แต่อี้ชิงก็ใช่ย่อย เรื่องง้อคนขี้งอนตัวโตๆ เนี่ย อี้ชิงถนัดนัก

     

    “ว้า... งั้นเค้กพวกนี้ก็ถูกทิ้งน่ะสิ น่าสงสารแย่เลย ดูซิเนี่ย หน้าตาออกจะน่าทาน” คนน้องหยิบจานสตรอเบอรี่ชอร์ทเค้กขึ้นมา เหล่มองร่างสูงที่ยังแกล้งทำเป็นไม่สนใจหน่อยนึง ก่อนจะตักเค้กคำโตๆ เข้าปาก “อื้อหือ~~ อร่อยจริงๆ ด้วย หว๊านหวาน~

     

    คริสปรายตามองคนตัวเล็กข้างๆ ที่หันมายิ้มอวดจนตาคู่สวยเป็นประกาย จู่ๆ ริมฝีปากได้รูปก็จุดยิ้มเจ้าเล่ห์ อี้ชิงไม่ทันไหวตัวตอนที่คริสโน้มใบหน้าเข้าหา ...ปลายจมูกของทั้งคู่ชนกันเมื่อคริสใช้ปลายลิ้นเกี่ยวเก็บร่องรอยครีมเค้ก ที่หลงเหลือตรงมุมปากคนรัก ไม่ลืมที่จะแตะริมฝีปากเบาๆ ก่อนจะถอยออกมา... เพียงเล็กน้อย

    “...หวานจริงๆ ด้วย” คนฉวยโอกาสยังยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่ในระยะฝ่ามือกั้น ทำเอาคนเสียเปรียบแก้มร้อนผ่าว อี้ชิงที่ตกใจในทีแรก ตอนนี้ก็ได้แต่งับปากตัวเอง หลบตาร่างสูงแล้วขยับถอยออกมาให้ห่างอีกนิดอย่างงอนๆ

     

    “ป้อนพี่หน่อยสิ” แต่คริสก็ยังขยับตามมาแกล้งไม่เลิก “ถ้าไม่ป้อน พี่แย่งเรากินอีกนะ”

    ทั้งอ้อนทั้งขู่ได้เอาแต่ใจตัวเองจนน่าตีนัก อี้ชิงช้อนตามองอย่างเคืองๆ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากจะตักเค้กแล้วยื่นปลายช้อนให้ถึงปากคนช่างขู่

    แต่คริสไม่พอใจแค่นั้น เขานิ่วหน้าเมื่อเห็นว่าแฟนตัวเองไม่ยอมสบตาแถมยังทำหน้ามุ่ยใส่ คนป้อนเค้กไม่ยอมยิ้มแล้วเค้กมันจะไปหวานได้ยังไง

    “ไม่ถนัดเลย มานั่งใกล้ๆ นี่มา”

    “พี่คริส!

    อี้ชิงหวีดเสียงขึ้นมาเมื่อทั้งร่างถูกคนตัวโตกว่าอุ้มให้ขึ้นไปนั่งบนตัก ใบหน้าขาวแดงจัดแต่คนตัวเล็กก็ไม่กล้าขยับหนี อยู่ใกล้แบบนี้มันอันตรายไป ขยับดิ้นนิดเดียวอาจทำให้... อะไรๆ มันเลยเถิดได้

     

    “ทีนี้ป้อนได้แล้ว” คริสกอดเอวแฟนตัวเองไว้แล้วจ้องมองดวงหน้าหวานที่งอง้ำอย่างมีความสุข อี้ชิงจะน่ารักที่สุดเวลายิ้มหวาน แต่เวลางอนนี่ก็น่าหมั่นเขี้ยวมาก แก้มขาวๆ ที่ป่องออกเวลาเจ้าตัวงับปากมันน่าฝังจมูกลงไปให้จม

     

     

    มือเล็กที่ถือช้อนสั่นน้อยๆ ตอนที่อี้ชิงตักเค้ก เขาไม่ยอมเงยหน้าเลยตอนที่ป้อนมันให้คริส ร่างสูงเลยก้มหน้าลงเล็กน้อยหวังจะได้เห็นรอยยิ้มเอียงอายบ้าง ...แต่ก็เปล่า คริสใจหายนักเมื่อเห็นน้ำใสๆ เอ่อคลอดวงตาคู่สวย

    “งอนหรือ?” เขารีบจับมือเล็กไว้แล้วดึงช้อนออก ริบเอาจานขนมเค้กที่คนตัวเล็กถืออยู่ไปวางไว้บนโต๊ะ แล้วลูบหลังน้องเบาๆ “พี่ขอโทษ... มานี่มา”

     

    คริสดึงตัวน้องให้ซบลงกับอก อี้ชิงไม่ได้ร้องไห้ แต่เขาได้ยินเสียงผ่อนลมหายใจเบาๆ เพราะพบเจอใครต่อใครมามากคริสถึงได้ลืมตัว เขาลืมคิดไปว่าอี้ชิงไม่เหมือนคนอื่นๆ คบกันมาสองเดือนน้องยังยอมแค่ให้กอดให้หอม จะจับมือก็ยังต้องดูว่ามีคนมองอยู่รึเปล่า อี้ชิงไร้เดียงสามาก ทั้งที่เป็นจูบแรกแท้ๆ แต่คริสกลับทำให้มันเป็นเรื่องฉาบฉวย คนตัวเล็กก็คงต้องน้อยใจอยู่แล้ว

     

    “คนดี... อย่างอนเลยนะ” คริสดันตัวน้องออกเล็กน้อยแล้วค่อยประคองดวงหน้าหวานไว้ด้วยสองมือ เขาอยากแก้ตัว อยากให้รู้ว่าอี้ชิงสำคัญนะ สำคัญมากจนเขาอยากจะทะนุถนอมแม้กระทั่งจูบแรก คริสจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวยที่ยังมีประกายหยดน้ำ ก่อนจะถามเสียงเบา “พี่จูบนายได้มั้ย...”

     

    อี้ชิงไม่ได้ตอบ ได้แต่หลบสายตา คริสเดาเอาว่าการที่คนตัวเล็กไม่แสดงท่าทีต่อต้านหรือปฏิเสธ นั่นก็ถือว่ายอมรับแล้ว

     

    ร่างสูงยืดตัวขึ้นแล้วโน้มใบหน้าเข้าหา อี้ชิงหลับตาเมื่อปลายจมูกของทั้งคู่สัมผัสกัน ริมฝีปากอุ่นที่แตะลงเบาๆ ให้ความรู้สึกอุ่นซ่านไปถึงอก คริสค่อยๆ ดูดดึงกลีบปากนุ่มอย่างอ่อนโยน ใบหน้าหวานในอุ้งมือเขาร้อนผ่าวและแดงซ่าน ท่าทางจูบตอบที่เงอะงะบอกให้รู้ว่าอี้ชิงไม่ได้มีประสบการณ์แบบนี้บ่อยนัก ร่างสูงยิ้มทั้งที่ริมฝีปากยังแนบชิด รสหวานของครีมเค้กที่เคลือบอยู่ทำให้คริสอยากสัมผัสความหวานที่ล้ำลึกกว่า เพียงแตะปลายลิ้นเบาๆ เด็กดีของเขาก็ยอมเปิดทางให้

     

    คริสป้อนความอ่อนโยนให้มากเท่าๆ กับความหอมหวานที่เขาตักตวงจากอีกฝ่าย ละเมียดละไมในรสจูบที่ไม่ว่ากับใครก็ไม่เคยทำให้หัวใจเขาเต้นแรงได้ขนาดนี้ ลิ้นเล็กที่เกี่ยวพันยังเขินขลาดแต่ก็ใคร่รู้ยามที่คริสสอนเชิง นั่นทำให้ร่างสูงยิ่งจมดิ่งจนไม่อาจยั้งตัวเองได้ แขนแกร่งเลื่อนลงมากอดรอบเอวบางแล้วรั้งเข้าหาตัว ขณะเดียวกับที่มือเล็กไต่ขึ้นเกาะไหล่เขาไว้ อี้ชิงตัวสั่น ลมหายใจร้อนผ่าวและติดขัด คริสรู้สึกได้ถึงจังหวะหัวใจดวงเล็กๆ ที่หนักหน่วง อารมณ์หวามไหวเร่งรัดให้จูบอ่อนหวานทวีความร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ คริสที่ช่ำชองกว่านำพาให้คนอ่อนประสบการณ์หลงวนอยู่ในรสจูบที่แทบจะดูดกลืน เรี่ยวแรงทั้งร่าง เผลอไผลจนไม่รู้สึกตอนที่มือใหญ่สอดเข้าสัมผัสผิวเนื้อเนียนใต้เสื้อยืดตัว บาง จนเมื่อความเร่าร้อนนั้นผละจากริมฝีปากแล้วลากไล้ผ่านพวงแก้มขาวไปยังซอกคอ หอมกรุ่น สติของอี้ชิงถึงได้กลับคืนมาทีละน้อย

     

    คริสกำลังตะโบมจูบไปจนทั่วซอกคอเขา ชายเสื้อยืดถูกร่นขึ้นเรื่อยๆ จนแทบจะถึงอก ระหว่างที่อี้ชิงยังมึนงง อาการเจ็บแปลบที่ต้นคอเหนือแนวไหล่ก็ทำให้เขาสะดุ้ง จิกปลายเล็บลงกับช่วงไหล่หนาจนสุดแรง

     

    “อื้อ... เดี๋ยวก่อนครับพี่คริส”

     

    ...แต่มันหยุดไม่ได้ คริสกำลังหลงใหลในความหอมหวาน ดื่มด่ำจนอยากจะฝังตัวเองไว้กับร่างขาวบางเสียเดี๋ยวนั้น กระทั่งมือเล็กทั้งผลักทั้งดันไหล่เขา กับเสียงประท้วงเจือสะอื้นของน้องทำให้เขาต้องลืมตา

     

    คริสหอบหนัก แต่ร่างตรงหน้ายิ่งหนักกว่า อี้ชิงดูเสียขวัญ แพขนตาหนาซับหยดน้ำใสเป็นประกายวาววาม สองมือยังจิกช่วงไหล่เขาไว้แน่น เหมือนพร้อมจะต่อต้านหากว่าคริสยังรั้นจะทำตามใจตัวเองมากกว่านี้ คริสมองรอยแดงเหนือแนวไหล่ขาวเนียนแล้วกลืนน้ำลายลงคอ เขาอยากจะทำมากกว่านี้ด้วยซ้ำ อยากให้ผิวเนื้อขาวๆ มีแต่ร่องรอยที่เขาฝากไว้ อยากกลืนกินความหอมหวานจากร่างขาวให้มากกว่านี้ แต่ดวงตาฉ่ำน้ำก็บอกให้รู้ว่าอี้ชิงคงปฏิเสธ

     

    “รังเกียจพี่หรือ?” เขาถามเสียงเบา และอี้ชิงก็ส่ายหน้า

    “ม.. ไม่ใช่นะครับ คือผม...”

    ไม่มีคำอธิบายอะไรที่มากกว่าสายตาที่บ่งบอกความลำบากใจนั้น คริสเสียหน้าแต่ยังไม่เท่ากับเสียความรู้สึก เขาอ่อนโยนกับอี้ชิงมากกว่าที่เคยมีให้ใคร ใจเย็นกับอี้ชิงเพราะอยากทะนุถนอม แต่อี้ชิงกลับผลักไสในขณะที่เขาต้องการร่างโปร่งบางอย่างที่สุด

     

    คริสถอนหายใจหนักหน่วงแล้วอุ้มร่างเล็กลงวางที่พื้นโซฟา อารมณ์ขุ่นเคืองทำให้เขาไม่หันไปมองว่าคนเป็นน้องเองก็รู้สึกผิดและพยายามจะอธิบาย คริสหยิบรีโมทขึ้นมาเปิดทีวีแล้วเร่งเสียงให้ยิ่งดัง คว้าจานเค้กได้ก็ตักซอฟท์เค้กช็อคโกแล็ตเข้าปากแล้วเคี้ยวเอาๆ โดยไม่สนใจรสชาติของมัน จนมือเล็กแตะลงที่ต้นแขน คริสถึงได้ชะงัก แต่ก็ยังไม่ยอมหันไปมองหน้าเจ้าของมืออยู่ดี

    “ปากพี่คริสเลอะนะครับ”

    “แล้วไง?” เขาถามกลับเสียงห้วน แล้วก็นึกอยากจะงับลิ้นตัวเองให้ขาด ตั้งแต่คบกันมาเขายังไม่เคยทำเสียงแข็งใส่อี้ชิงขนาดนี้มาก่อน น้องต้องเสียใจแน่ๆ ป่านนี้จะกำลังน้ำตาคลออยู่รึเปล่า

     

    คริสหันไปหมายจะขอโทษ แต่มือเล็กกลับไต่ขึ้นมาเกาะไหล่เขาไว้ คริสไม่ทันมองหน้าคนรักให้ถนัดเขาก็ต้องหลับตา ความอ่อนนุ่มประทับลงที่ริมฝีปากล่างของเขา แล้วคริสก็รู้สึกถึงปลายลิ้นเล็กที่ค่อยๆ ไล้เล็มจนอกแกร่งหวามไหว กลิ่นหอมหวานของช็อคโกแล็ตยังติดอยู่ที่ริมฝีปากตอนที่ดวงหน้าหวานผละถอย

     

    คริสลืมตาขึ้นช้าๆ พร้อมๆ กับที่ปลายนิ้วเรียวเล็กแตะลงที่ข้างแก้ม อี้ชิงสบตาแล้วเอ่ยกับเขาด้วยเสียงสั่นๆ

    “...ผมชอบพี่คริสนะครับ ชอบมากจนกลัว ว่าซักวันถ้าพี่เบื่อผมแล้ว... จะเขี่ยผมทิ้งเหมือนคนอื่นๆ”

    “นายคิดว่าพี่จะทำอย่างนั้นกับนายได้ลงคอเชียว?”

    “ผมไม่รู้ ผมแค่กลัว ผมไม่มีดีอะไรเลยซักอย่าง หน้าตาก็ธรรมดา ไม่ได้เด่นดังอะไร เทียบกับคนอื่นๆ แล้ว...”

    “อย่าเอาตัวเองไปเทียบกับใครแบบนั้น นายเป็นแฟนพี่นะ ตั้งแต่มีนายพี่ก็ไม่เคยมองใครอีก ถ้าพี่บอกว่าพี่ชอบนายตั้งแต่เห็นหน้าครั้งแรก นายจะเชื่อรึเปล่า?” 

     

    อี้ชิงเอียงใบหน้ามองเขา แววตาช่างสงสัยนั้นบอกชัดเจนว่าไม่เชื่อ อี้ชิงช่างไม่เคยคิดเข้าข้างตัวเองซะบ้างเลย ว่าตัวเองน่ะน่ารักพอจะทำให้ใครตกหลุมรักได้ง่ายๆ เพียงแค่ยิ้มให้ ...เขาเนี่ยแหละ เจอมากับตัวแล้ว

     

    คนหล่อยิ้มให้แฟน ไล้หลังมือกับปรางค์แก้มขาวเนียนเบาๆ

    “รอยยิ้มของนายทำให้โลกของพี่เป็นสีหวาน ยิ่งอยู่ใกล้ ความน่ารักของนายก็ทำให้พี่มีความสุขมากจนรู้สึกอิจฉาตัวเอง กว่าจะรู้ตัวพี่ก็รักนายมาก แล้วก็มากขึ้นทุกๆ วัน คนดี...” คริสดึงมือคนรักให้วางลงบนอก แล้วทาบทับด้วยมือตัวเอง หวังให้คนตัวเล็กสัมผัสได้ถึงจังหวะที่รุนแรงของก้อนเนื้อน้อยๆ ในนั้น “...นายกุมหัวใจพี่ไว้ตั้งแต่วันแรกที่เราเจอกันแล้วนะ ยังไม่เชื่อใจพี่อีกหรือ...?”

     

    คริสสาบานกับตัวเองว่าเขาไม่ได้โกหก เขารักอี้ชิงเกินกว่าจะหลอกล่อคนตัวเล็กด้วยคำหวานเพื่อหวังผลจะได้กอดเรือน ร่างโปร่งบางไว้แนบอก แต่ความรู้สึกที่ล้นปรี่ของเขามันยากเกินจะเก็บซ่อนไว้ได้อีก มือเล็กคงรับรู้ถึงความต้องการที่ร่ำร้องใต้แผ่นอกนี้ได้ คริสโน้มใบหน้าลงแตะหน้าผากกับคนรักแล้วเกลี่ยปลายจมูกเล็กเบาๆ อย่างออดอ้อน ก่อนจะกระซิบขอด้วยเสียงแหบพร่า

     

    “ให้พี่มีนายเถอะ... นะ...”
















    TBC.










    คนรองทอล์ค: มโนกันต่อหน่อยดีกว่า ว่าอี้ชิงจะทำยังไง ^^
    กด 1 น้องยอมเพราะรัก พี่คริสก็เลยได้ยึดตัวน้องไว้ในห้องนอนตลอดช่วงบ่ายไปจนถึงคืนนั้น และเลยไปถึงเช้า >///<
    กด 2 พี่คริสโลภมากไป น้องยังกลัว เลยให้ได้แค่จูบๆ หอมๆ เนี่ยแหละ รอไปก่อนนะเฮียนะ น้องยังไม่พร้อมมมม > <"

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×