คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #20 : [SF] You're my baby ::SEOKSOON::{17TEEN}
“เฮ้ยย !! พวกมึงทำอะไรกันหน่ะ ปล่อยเด็กมันนะเว๊ย ”
“ พะ พี่ซูนยอง ”
เจ้าเด็กตัวเล็ก ๆ ที่ยืนตัวสั่นพลัก ๆ อยู่กลางวงล้อมร้องเรียกชื่อผมออกมาเบา ๆ
ลี ซอกมิน นี่นายอีกแล้วเหรอเนี่ย ?!
“กูบอกให้ปล่อยมัน !”
“พวกกูไม่ปล่อย ! มึงจะทำไม ”
“ทำไมหน่ะเหรอ ?! ก็ทำอย่างนี้ไงหล่ะ ”
ว่าแล้วผมก็ไม่รอช้าที่จะพุ่งเข้าไปหาพวกมันทันที เราทั้งสองกลุ่มกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่นานจนในที่สุด ...
ฝ่ายของผมก็เป็นผู้ชนะ
เหมือนกับที่ผ่าน ๆ มา ….
“ ขะ ขอบคุณครับ ”
เจ้าเด็กนั่นมันยกมือขึ้นไหว้ผมปรก ๆ พร้อมกับใบหน้าหล่อ ๆ ของมันที่ซีดเซียวจนแทบจะเป็นกระดาษ ผมรีบยื่นมือออกไปปัดมือมันทิ้งก่อนจะจ้ำอ้าวออกไปด้านหน้าทันที
“ฉันบอกนายกี่ครั้งแล้วว่าห้ามกลับบ้านคนเดียว รอฉันแค่นิดเดียวจะตายหรือไง”
ผมโผล่งออกมาอย่างหัวเสียทันทีที่รู้สึกถึงร่างสูง ๆ ของอีกคนที่วิ่งเข้ามาเดินดุ่ม ๆ อยู่ข้าง ๆ
ผมไม่ได้โกรธมัน ...
ใช่ ! ผมแค่เป็นห่วง เป็นห่วงเด็กน้อยที่ไม่มีทางสู้ ที่มีศักดิ์เป็นถึง”เพื่อนบ้านกิตติมศักดิ์”ของแม่ผม
“ผะ ผมขอโทษ”
“เลิกพูดคำว่าขอโทษซักที ลี ซอกมิน นายคิดบ้างไหมว่าถ้าวันนี้พวกฉันไม่เดินไปเจอมันจะเกิดอะไรขึ้น นายก็จะโดนพวกมันซ้อมเหมือน
ที่ผ่าน ๆ มาไง แล้วคนที่ซวยที่สุดจะเป็นใครหล่ะ ถ้าไม่ใช่ฉัน ”
“ผะ ผมขอโทษครับ”
“ฉันบอกแล้วไงหล่ะว่าอย่าพูดคำว่าขอโทษ !!”
ผมหันไปตวาดเสียงกร้าวใส่มันอย่างเหลืออด ซอกมินมันสะดุ้งตัวขึ้นมาเบา ๆ พร้อมกับหยดน้ำเล็ก ๆ ที่ค่อย ๆ ไหลลงมาจากดวงตาทั้งสองข้างของมัน ...
อีกแล้วงั้นเหรอ ?
“ ผะ ผมขอโทษ ”
“อะ เอ่อ โอเค ๆ ขอโทษก็ขอโทษฉันไม่โกรธนายแล้วน้า ”
ผมรีบคว้าตัวมันเข้ามากอดเบา ๆ พร้อมกับยกมือขึ้นไปลูบผมมันเชิงปลอบโยน
ให้ตายเหอะ !! รุ่นพี่ควอน ซูนยองสุดมาดแมนแฮนด์ซั่มแห่งโรงเรียนมาซอก ต้องมายืนกอดผู้ชายอยู่กลางถนนแบบนี้
มันใช่ที่ไหนกันเล่า !
“เลิกร้องได้แล้วนะ ปะ กลับบ้านกันเหอะ”
ผมรีบผละออกจากมันทันทีที่รู้สึกถึงแรงสะอื้นที่เบาลงจนกลายเป็นศูนย์
อย่าเงยหน้าขึ้นมามองฉันด้วยสายตาแบบนั้นสิซอกมิน ฉันไม่ใช่แม่นายนะเฮ้ย
“ ผมรักพี่ที่สุดเลย ”
เจ้าเด็กนั่นมันปล่อยโฮ ก่อนจะกระชากตัวผมเข้าไปกอดอีกที
รักงั้นเหรอ ? เหอะ เด็กอายุ 13 อย่างนายมันจะรู้จักคำว่ารักได้ยังไงกัน “ ลี ซอกมิน”
“ งือออ~ ~ ”
“ ตื่นแล้วเหรอครับ ”
สิ้นเสียงทุ้มหนักที่คุ้นเคยก็คือแรงกดเบา ๆ จากริมฝีปากของใครบางคนที่กดลงมาบนหน้าผากของผม ผมค่อย ๆ ปรือตาขึ้นมาช้า ๆ เพื่อมองหาเจ้าของจุมพิตหวาน ๆ นั่นทันที
ลี ซอกมิน คงต้องเป็นนายอยู่แล้วสินะ
“ อะ อื้ม ”
“พี่ยังไม่ต้องลุกก็ได้ครับ วันนี้ผมคงทานอาหารเช้าไม่ทัน พอดีทางบริษัทเรียกประชุมด่วนหน่ะครับ ”
“อ้าวเหรอ ทำไมนายถึงไม่รีบปลุกฉันหล่ะ แล้วนี่ไม่ทานข้าวเช้าแล้วนายจะเอาแรงที่ไหนไปประชุม ”
ผมเอ่ยดุเด็กน้อย เอ๊ย ไม่ใช่สิ ชายหนุ่มที่กำลังยืนผูกเนคไทอยู่ปลายเตียงเบา ๆ ซอกมินเงยหน้าขึ้นมาส่งมายิ้มเล็ก ๆ ให้ผมก่อนจะเดินเข้ามาหาผมพร้อมกับขโมยหอมแก้มนุ่ม ๆ ของผมไปฟอดใหญ่
ให้มันเป็นแบบนี้ทุกทีสิหน่า ไอเด็กบ๊องงง
“แค่นี้ผมก็มีแรงแล้ว”
“ ไม่ตลกนะซอกมิน ”
ผมเงยหน้าขึ้นไปส่งสายตาที่แฝงไปด้วยความจริงจังไปให้คนที่ยืนอมยิ้มกริ่มตรงหน้า
นายอ่อนแอแค่ไหน หัดรู้ตัวสะบ้างสิ จะให้ฉันเอาแต่คอยปกป้องนายเหมือนเมื่อก่อน มันเป็นไปได้หรอกนะ
“โธ่ พี่ซูนยอง ลี ซอกมินคนนี้โตขึ้นเยอะแล้วนะครับ ”
“แต่นายก็ยังเด็กกว่าฉันอยู่ดี เด็กต้องเชื่อฟังผู้ใหญ่มันต้องเป็นแบบนั้นไม่ใช่หรือไง”
ผมเอ่ยบอกคนตรงหน้าอย่างเป็นต่อก่อนจะค่อย ๆ ยันตัวลุกขึ้นไปดึงเนคไทที่ถือคาอยู่ในมือคนชอบโอ้เอ้มากำไว้เบา ๆ
“ไม่ต้องมายิ้มเลย ถ้าขืนปล่อยให้นายผูกเองอยู่แบบนี้ วันนี้ก็ไม่ต้องไปประชุมกันพอดี”
ผมรีบเอ่ยปรามคนที่กำลังส่งรอยยิ้มแปลก ๆ มาให้ผม ซอกมินส่งเสียงหัวเราะออกมาเบา ๆ ผมกับใบหน้าหล่อคมที่ฉายแววแห่งความ
สุขออกมาได้อย่างชัดเจน
ผมไม่ได้คิดไปเองนะ ซอกมินมักจะเป็นแบบนี้เวลาอยู่กับผม
แค่ผมคนเดียวเท่านั้น
“วันนี้ผมอยากกินกิมจิชีเกจัง”
“อื้ม เดี๋ยวฉันทำไว้ให้”
“ ต๊อกโบกีด้วย”
“.......................”
“แล้วก็คีบับ บะมี่ดำ ไก่ตุ๋นโสม .... ”
“นี่ ! ฉันไม่ได้เป็นคนใช้นายนะ”
ผมรีบผลักหน้าอกหนา ๆ ของคนชอบกวนประสาทออกไปให้ไกลตัว ซอกมินส่งเสียงหัวเราะออกมาเบา ๆ พร้อมกับมือหนาที่เลื่อนออกมาโอบรอบเอวของผมเอาไว้อย่างที่เคยเป็น ผมรีบเบือนหน้าหนีเจ้าเด็กขี้แกล้งตรงหน้าทันที
“ พี่ไม่ได้เป็นคนใช้ของผมหรอก พี่หน่ะเป็นทุกอย่างของผมต่างหาก”
“เหอะ ไม่ต้องมาทำเป็นพูดดีเลย ไปทำงานได้แล้วไป ”
ผมรีบดึงตัวเองออกมาจากอ้อมกอดอุ่น ๆ ของเจ้านั่นก่อนจะเผ่นแนบเข้าไปในห้องน้ำอย่างรวดเร็ว ค่อย ๆ ยกฝ่ามือทั้งสองข้างขึ้นมาวางทาบลงบนหัวใจที่กำลังเต้นกระหน่ำราวกับเสียงรัวกลอง ผมค่อย ๆ สูดหายใจเข้าไปลึกพร้อมกับความรู้สึกร้อยวูบที่เวียนวนอยู่บนใบหน้าของผม
มันนานเกินไปแล้ว เวลาที่เราคบกันมันนานเกินกว่าที่ฉันต้องมาเขินนายแบบนี้แล้วใช่ไหม ลี ซอกมิน
“ พี่ ซูนยองไอติมครับ ”
“อื้ม ขอบใจ”
ผมรีบรับไอติมรสวานิลารสโปรดของผมมาจากเด็กตัวน้อยตรงหน้าก่อนจะจัดการโซยมันเข้าปากอย่างรวดเร็ว ซอกมินมันแอบพ่นเสียง
หัวเราะเบา ๆ ออกมาทันทีที่ผมจัดการซากอาหารในมือจนหายวับไปกับตาเรียบร้อยแล้ว
เหอะ !! ถึงนายจะอดกลั้นมันแค่ไหนฉันก็ได้ยินมันอยู่ดีแหละหน่า ไอ้เด็กบ้าเอ๊ย !!
“หัวเราะอะไร”
“เปล่าครับ”
“ อย่ามาทำตัวเป็นเด็กขี้โกหก นายอายุ 16 แล้วนะรู้ตัวบ้างหรือเปล่า”
ผมหันไปขู่เข็ญไอ้เด็กข้าง ๆ อย่างเอาเรื่อง ซอกมินมันก้มหน้าลงมาผมผมช้า ๆ ก่อนจะฉีกยิ้มกว้าง ๆ ออกมาแทนคำตอบ
เหอะ !! เอะอะก็ยิ้ม เอะอะก็หัวเราะ ชีวิตนายมันคงมีความสุขมากเลยสินะ ลี ซอกมิน !
“รู้สิครับ แล้วผมก็รู้ด้วยว่าปีนี้พี่ก็อายุ 18 แล้ว”
“ ฉันไม่ได้ถาม ”
“ แล้วพี่ก็กำลังเข้าไปเรียนต่อในเมืองแล้วด้วย”
“…………….”
“ ถึงวันนั้นพี่จะลืมผมไหม”
ผมค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นไปมองเจ้าของเสียงซึม ๆ ที่ยืนส่งสายตาจริงจังมาให้ผมอย่างนึกสับสน
ลืมงั้นเหรอ ? เราสองคนไม่มีอะไรที่จะต้องจำร่วมกันซักหน่อยนี่ เด็กน้อย
“ ไม่ลืมหรอก เด็กโข่ง ๆ ขี้งองแงแบบนายหน่ะ ฉันจำได้ไปจนวันตายเลยแหละ ”
ผมแกล้งส่งเสียงหัวเราะออกมาเบา ๆ พร้อมกับยกมือขึ้นไปยีหัวทุย ๆ ของคนที่นั่งก้มหน้างุดอยู่ด้านข้าง ซอกมินค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับส่งสายตาแปลก ๆ มาให้ผม
สายตาแบบนั้นหน่ะ นายควรจะเก็บไว้มองคนที่นายรักดีกว่านะ
“ น้องชายหน่ะผมไม่อยากเป็นหรอกนะ “
“....................”
“ผมอยากเป็นคนที่พี่รักมากกว่า”
“เพ้อเจ้อหน่าซอกมิน ปะ กลับบ้านกันเหอะ เย็นแล้ว”
ผมรีบตัดบทคนด้านข้างก่อนจะยันตัวลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ซอกมินมันรีบยื่นมือขึ้นมาคว้าข้อมือผมไปกำไว้แน่น
พอ พอซักทีเถอะ นายอย่าทำให้ฉันคิดเข้าข้างตัวเองไปมากกว่านี้เลย ซอกมิน
“พี่ไม่เชื่อผมเหรอ ”
“ ................. ”
“ ถ้าอย่างนั้นพี่ก็คอยดูแล้วกัน อีก 2 ปีข้างหน้าผมจะสอบเข้ามหาลัยเดียวกับพี่ให้ได้ แล้วถึงตอนนั้นผมจะไปอยู่กับพี่แล้วผมนี่แหละจะ
ทำให้พี่รักผมให้ได้ ”
“....................”
“หึ ทำให้ได้ก่อนสิ แล้วเราค่อยคุยกัน ”
ผมออกแรงสะบัดมือเจ้าเด็กด้านล่างออกเบา ๆ ก่อนจะสาวเท้าออกไปด้านหน้าทันที
ทำให้ได้นะ เพราะฉันเองก็กำลังรอนายอยู่เหมือนกัน
กริ๊ง ~ กริ๊ง ~ กริ๊ง ~
“งือออ ~ ”
ผมค่อย ๆ ส่งเสียงครางออกมาเบา ๆ ทันทีที่ได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกที่ดังขึ้นตามเวลานัดหมาย
5 โมงครึ่ง ได้เวลาออกเดินตลาดแล้วสิ ~
“กิมจีชีเก ต๊อกโบกี คีบับ บะมี่ดำ ไก่ตุ๋นโสม แล้วก็ชับเฉะด้วยดีกว่า “
ผมลงมือลิสต์รายการอาหารที่เตรียมจัดทำเอาไว้รอคุณชายคนเก่งกลับบ้านอย่างอารมณ์ดี จัดการอาบน้ำแต่งตัวแล้วมุ่งหน้าไปยังซุปเปอร์มาร์เก๊ตข้าง ๆ คอนโดอย่างที่เคยทำเป็นประจำ
Rrr Rrrr Rrrrr Rrrrrr ~
“หืมมม ? ”
“ ทำอะไรอยู่ครับ ”
“ ออกมาซื้อของทำกับข้าวหน่ะ นายจะกลับหรือยัง”
“อะ เอ่อ ~ พี่ซูนยองครับ”
“ว่าไง”
“วันนี้ ... ผมคงกลับไม่ทันข้าวเย็น ”
“...................”
“พอดีวันนี้มีงานเลี้ยงต้อนรับพนักงานใหม่หน่ะ ผมก็เลยต้อง .... ”
“ไม่เป็นไร ๆ นายจะทานเข้ามาเลยใช่ไหม ”
ผมรีบส่งเสียงที่แสดงถึงความเข้าใจออกไปอย่างรวดเร็ว
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ซอกมินจะต้องมีสังคมของตัวเอง
และเราสองคนรักกัน รักกันมากซะจนคำว่า”หวาดระแวง”ไม่สามารถทำอะไรกับความรักของเราสองคนได้อีกต่อไปแล้ว
“คะ ครับ”
“ อื้ม ยังไงก็รีบกลับแล้วกันนะ ”
“ครับ พี่ซุนยอง ...”
“ หื้ม ”
“ ผมรักพี่นะ ”
“ อื้ม ฉันรู้แล้วหน่า แค่นี้ละกัน ไปทำงานต่อได้แล้วไป”
ผมรีบตัดสายคนปลายสายพร้อมกับอมยิ้มเล็ก ๆ ที่ค่อย ๆ ผุดขึ้นมาบนริมฝีปากของผมอีกครั้ง
เพราะนายเป็นแบบนี้ไง เพราะนายเป็นคนแบบนี้ ฉันเลยหนีนายไปไหนไม่พ้นซักที ไอ้เด็กบ้าเอ๊ยยย
ก๊อก !! ก๊อก !! ก๊อก
“ ใครครับ ”
“.......................”
ก๊อก !! ก๊อก !! ก๊อก
“ใครครับบ ”
“........................”
ก๊อก!! ก๊อก!! .....
แกร๊ก !!!
“ซะ ซอกมิน ! ”
“สวัสดีครับ พี่ซูนยอง”
“นะ นายมาที่นี่ได้ยังไง”
ผมรีบส่งเสียงสั่น ๆ ออกไปถามเจ้าของร่างสูง ๆ ที่ยืนอมกริ่มอยู่หน้าห้องด้วยอารามตกใจ ใบหน้าหล่อ ๆ ที่มองยังไงก็ไม่เหลือเค้าเจ้าเด็กลี ซอกมินขี้แงของผมเลยซักนิด
ซอกมินดูหล่อขึ้นมาก หลังจากที่เราไม่ได้ติดต่อกันเลยเป็นเวลา 2 ปีเต็ม
“พี่ซูนยองของผมนี่ ดูน่ารักไม่เปลื่ยนเลยนะครับ”
“ไม่ต้องมาพูดมาก แล้วจะยืนถืออยู่อีกไหม กระเป๋าหน่ะ ”
ผมรีบส่งเสียงแข็ง ๆ ออกไปข่มความร้อนบนใบหน้าที่ค่อย ๆ เพิ่มระดับความร้อนขึ้นมาเรื่อย ๆ
ซอกมินที่เป็นแบบนี้ ผมไม่คุ้นเลยแม้แต่น้อย
“ พี่เป็นอะไรทำไมหน้าแดงจัง ”
เจ้าเด็กตัวสูงมันเอ่ยถามผมเบา ๆ พร้อมกับยื่นมือหนา ๆ ของมันมาจับหน้าผมอย่างถือวิสาสะ ผมรีบเบือนหน้าหนีมันทันที
“กะ ก็ฉันกำลังโกรธนายอยู่ไง”
“เรื่อง ?”
“คนที่บอกว่าอย่าลืมมันคือนายไม่ใช่เหรอ แล้วไอ้ 2 ปีที่เงียบไปแบบนั้นมันคืออะไรกันหล่ะ”
ผมเอ่ยถามคนด้านข้างออกไปด้วยน้ำเสียงแฝงไปด้วยความน้อยใจ ซอกมินค่อย ๆ ขยับเข้ามาหาผมก่อนจะค่อย ๆ เลื่อนมือมากุมฝ่ามือ
ของผมเอาไว้เบา ๆ
“ถ้าผมมัวแต่เอาเวลาไปติดต่อพี่ แล้วผมจะเข้ามหาลัยเดียวกับพี่อย่างที่ผมเคยบอกได้อย่างไงหล่ะครับ”
“……………..”
“พี่ซูนยอง ตอนนี้ผมทำในสิ่งที่ผมพูดได้หนึ่งอย่างแล้วนะ”
“…………….”
“ต่อไปนี้ก็เหลือแค่ ..... ”
“ ถ้านายจะพยายามทำได้ถึงขนาดนี้แล้วหล่ะก็ ”
“....................”
“อีกอย่างนึงหน่ะ ฉันแถมให้ก็ได้นะ”
ผมเอ่ยพูดออกไปเบา ๆ ก่อนที่ร่างทั้งร่างของผมจะถูกจู่โจมด้วยร่างกายหนา ๆ ของคนด้านข้างอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ผมแอบแย้มยิ้มเล็ก
ๆ ออกมา ทันทีที่รู้สึกว่าจู่ ๆ หัวใจที่เคยเหี่ยวแห้งของตัวเองก็ถูกสูบฉีดให้พองโตขึ้นมาอีกครั้งด้วยฝีมือของใครบางคน
ลี ซอกมิน คนที่ผมเอาแต่เฝ้ารอ เขาเดินเข้ามาอยู่ตรงหน้าของผมแล้วงั้นเหรอ ?
ไม่อยากจะเชื่อเลย
ก๊อก !! ก๊อก !! ก๊อก !!
“ งืออ ~ ”
ผมค่อย ๆ ส่งเสียงครางออกมาเบา ๆ ก่อนจะค่อย ๆ ปรือตาขึ้นมาช้า ๆ
เที่ยงคืนครึ่ง ? ใครมันมีธุระกับเขาตอนนี้กัน
ก๊อก!! ก๊อก!! ก๊อก !!
“ ครับ ๆ มาแล้วครับ ”
ผมรีบส่งเสียงออกไปด้านนอกพร้อมจะรีบจัดเสื้อผ้าตัวเองให้เรียบร้อยแล้วพุ่งไปเปิดประตูออกทันที
คิม มินกยู ? แล้วนั่น ลี ซอกมินอย่างนั้นหน่ะเหรอ ?
“สวัสดีครับพี่ซูนยอง ผมเอาซอกมินมาส่งครับ”
“อะ เอ่อ เอามาไว้นี่สิ”
ผมรีบจัดแจงเดินไปดึงผ้าปูที่นอนให้เรียบก่อนที่หนุ่มรุ่นน้องที่ทำงานในบริษัทเดียวกันกับซอกมินจะค่อย ๆ วางร่างไร้สติของใครบางคน
ลงบนเตียงของผม
ซอกมินดื่มจนเมาขาดสติขนาดนี้เชียวเหรอ ? เป็นไปได้ยังไงกัน
“ขอบใจมากนะมินกยู นายกลับไปงานได้แล้วปะ เดี๋ยวที่เหลือพี่ดูแลเอง”
“ครับ ฝากด้วยนะครับ ”
เจ้าเด็กนั่นมันหันมายิ้มแห้ง ๆ ให้ผมก่อนจะรีบจรลีออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว ผมค่อย ๆ ถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะรีบไปต้มน้ำอุ่นเพื่อเอามาเช็ดตัวเจ้าเด็กดื้อที่นอนหลับปุ๋ยไม่เป็นท่าอยู่บนเตียง
เผลอไม่ได้เชียวนะ ฮึ่มมม
“ อะ อื้อพี่ซูนยอง”
“อย่าจับ ให้ฉันเช็ดตัวก่อนสิ”
ผมเอ่ยดุคนที่อยู่ดี ๆก็ ยื่นมือขึ้นมารั้งข้อมือของผมที่กำลังทำท่าจะกดลงไปบนลำตัวร้อน ๆ ของตัวเองเอาไว้เบา ๆ ซอกมินค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาช้า ๆ ก่อนจะออกแรงกระชากตัวผมเข้าไปนอนกอดอย่างสบายอารมณ์
“ปล่อยฉันนะ ให้ฉันเช็ดตัวให้นายก่อนสิ นอนทั้งอย่างนี้เดี๋ยวตื่นมาก็แฮ้งค์หรอก ”
“หืออ พี่จะเช็ดตัวให้ผมทำไมครับ ผมไม่ได้เมาซักหน่อย ”
“หา ~ ”
ผมเผลออุทานออกมาเบา ๆ กับคำพูดแปลก ๆ ที่คนด้านล่างส่งออกมาด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูยังไงก็ไม่ใช่คนเมาเลยซักนิด
ซอกมินไม่ได้เมางั้นเหรอ แล้วทำไม ........
“ นายไม่ได้เมา ”
ผมค่อยผละตัวออกมาจากคนขี้แกล้งช้า ๆ ก่อนใช้สายตาจับผิดส่งไปให้คนที่ค่อย ๆ ยันตัวลุกขึ้นพิงกับหัวเตียงด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
ลี ซอกมิน นายนี่มัน ......
“ ก็ใช่ไงครับ ”
“แล้วทำไมนายถึง ?”
“ที่นั่นหน่ะน่าเบื่อจะตาย ไม่มีอะไรน่าสนใจเลยซักนิด ไม่เหมือนที่นี่ ... ”
ว่าแล้วเจ้านั่นมันเลื่อนมือหนา ๆ ของมันมาโอบเอวผมเอาไว้เบา ๆ ส่งเสียงหัวเราะเล็ก ๆ ออกมาพร้อมกับกดสันจมูกโด่ง ๆ ลงบนลำคอ
ของผมอย่างถือวิสาสะ ผมรีบสะดุ้งตัวหนีมันทันที
“ ซะ ซอกมิน ”
“ ครับ ”
“อะ เอ่อ ... ฉะ ฉัน ...”
ผมรีบก้มหน้างุดทันทีที่รู้สึกว่าใบหน้าที่เคยอยู่ในอุณหภูมิปรกติของตัวเองจู่ ๆ ก็ร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างน่ากลัว
ซอกมินกำลังจะทำเรื่องน่าอายกับเขาอีกแล้ว ? ให้ตายเหอะ เขาไม่ชอบอะไรที่มันแบบนั้นเลยจริง ๆ
ถึงแม้ว่าการทำแบบมันจะทำให้เขารู้สึกดีมากก็เถอะ >/////////<
“พี่เขินเหรอ ?”
“ปะ เปล่า”
“แบบนี้แสดงว่าต้องเขินแน่ ๆ เลย พี่ซูนยองอา เราทำเรื่องแบบนี้กัยกี่ครั้งแล้วพี่ยังไม่ชินอีกหรอครับ หืมม ”
เจ้าเด็กนั่นมันค่อย ๆ ขยับเข้ามาหาผมช้า ๆ ก่อนจะระดมจูบลงบนกลุ่มผมของผมอย่างไม่รู้จักพอ
ให้ตายเหอะ นายรู้ว่าฉันเขิน แต่นายกลับทำแบบนี้กับฉันเนี่ยนะ ลี ซอกมิน
“ กะ ก็ฉันก็กำลังพยายามอยู่ ”
“ฮ่า ๆ โอเคครับ ไหนพี่ลองเงยหน้าขึ้นมาสิครับ ”
เจ้านั่นมันค่อย ๆ ช้อนคางผมขึ้นมาช้า ๆ ก่อนจะค่อย ๆ กดจูบลงบนหน้าผากของผมอย่างแผ่วเบา
“แล้วก็หลับตาลง”
“หลับตาเหรอ ?”
ผมส่งเสียงพูดออกมาเบา ๆ ก่อนจะค่อย ๆ ปิดตาลงช้า ๆ ตามคำสั่งของคนตรงหน้า
” ส่วนที่เหลือ เดี๋ยวผมจะจัดการเองนะครับ ”
สิ้นเสียงทุ้มหนักอันแสนคุ้นเคยก็คือความรู้สึกเปียกแฉะจากริมฝีปากของใครบางคนที่ค่อย ๆ วางทาบลงบนริมฝีปากแห้งผาดของผม ความอบอุ่นที่ครุกกรุ่นไปด้วยความหอมหวานมันคือสิ่งที่ทำให้หลงลืมความเป็นตัวเองไปอีกครั้ง
ซึ่งคนที่สามารถทำให้ผมเป็นแบบนี้ได้ ก็มีแค่เพียงเขาคนเดียว
แค่เด็กน้อยที่ชื่อลี ซอกมิน ของผม คนเดียวเท่านั้น ......
ความคิดเห็น