คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : [SF] Eyes of the devil ::SOONSEOK:: {17TEEN}
กับอะไรบางสิ่งบางอย่างที่คุณคิดว่าไม่จำเป็น
.....มันคือสิ่งที่คุณควรจะตัดทิ้ง.....
หรือไม่ คุณอาจจะไม่จำเป็นต้องมีมันเอาไว้
....ตั้งแต่แรก.....
“ อื้ออ ฉันรู้แล้วหน่า นายก็รีบนอนซะเถอะ”
“…………”
“คร้าบ ๆ ต่อไปนี้กระผมจะรายงานทุกสิ่งอย่างที่กระผมได้ทำให้ท่านทราบทั้งหมดเลยคร้าบบ ”
“………...”
“ อื้ม ๆ งั้นแค่นี้ละกันนะ ใกล้ถึงห้องแล้ว ”
“………..”
“อือ กู๊ดไนท์ ”
ละโทรศัพท์ออกมาจากใบหูก่อนจะยัดมันลงไว้ในกระเป๋ากางเกงเหมือน ซูนยองค่อย ๆ ยกฝ่ามือเรียวเล็กของตัวเองขึ้นมาก่อนจะวางทาบลงบนก้อนแก้มร้อน ๆ ของตัวเองเพื่อแชร์ไออุ่นที่พึ่งได้มาจากถ้อยคำแสนหวานที่คนปลายสายกลั่นกรองมาให้เขา
ซอกมินเป็นห่วงเขาเสมอ
ใช่แล้ว ยิ่งตอนนี้ ตอนที่เจ้าเด็กนั่นมันจับโกหกเรื่องที่เขาแอบหมกทำงานอยู่ในมหาลัยจนดึกดื่นแบบนี้ มันก็แทบจะบึ่งรถมารับเขาให้ได้ แต่คนอย่างควอนซูนยองหน่ะเหรอจะใจร้ายใจดำขนาดนั้น ไม่มีทางซะหรอก เขาไม่มีทางยอมให้เจ้าของเสียงงัวเงียนั่นต้องมาลำบากกับเรื่องที่ไม่ใช่ของตัวเองเป็นแน่ ดังนั้นสิ่งที่เขาเลือกที่จะทำมันก็คือ
.......การโกหก.......
ใช่ เขาโกหกเด็กนั่นว่าใกล้ถึงบ้าน ทั้ง ๆ ที่จริงแล้วเขาใกล้จะกำลังหนาวตายบอยู่หน้ามหาลัยแห่งนี้มากกว่า !
พร่ำบ่นกับตัวเองอย่างเหนื่อยหน่ายพร้อมกับสองเท้าเล็ก ๆ ที่ยังคงทำหน้าที่ของมันต่อไปอย่างไม่ลดละ ดวงตาเรียวเล็กกวาดมองไปทั่วบริเวณที่ปกคลุมไปด้วยแสงสีดำมืดของยามรัตติกาลด้วยความรู้สึกหดหู่อย่างบอกไม่ถูก รีบตวัดตากลับมามองปลายเท้าของตัวเองเหมือนเดิมก่อนที่แสงที่ฟ้าของวัตถุอะไรบางอย่างที่ส่งวูบวาบออกมาจากกองหิมะขนาดย่อมตรงหน้าจะทำให้ตัวบางไม่รอช้าที่จะก้มลงไปหยิบมันขึ้นมาพิศดูทันที
“นี่มันสร้อย..... แอ๊ะ ทำไมจี้มันดูแปลก ๆ ”
จดจ้องไปยังวัตถุประหลาดในมือก่อนจะส่งเสียงอุทานออกมาเบา ๆ
สายโซ่เล็ก ๆ ที่ยาวขนาดคล้องคอคนได้ ‘มันคือสร้อย’ เขารู้ แต่วัตถุกลม ๆ ที่กำลังส่งแสงสีฟ้าอยู่รอบ ๆ รูปสลักที่มองดูคล้ายกับภูตผีปีศาจในตำนานนี่หล่ะ มันคืออะไรกัน
แต่ ... ก็ชั่งมันเถอะ เอาเป็นว่าความรู้สึกอุ่น ๆ ที่กำลังครุกรุ่นอยู่ในมือฝ่ามืออันเย็นยะเยือกของเขาในตอนนี้ มันทำให้เขานึกอยากจะนำสิ่ง ๆ นี้ติดตัวไปด้วยอย่างบอกไม่ถูกเลยหล่ะ
“พี่ซูนยอง !! ”
“ฮ๊ะ ๆ อะไร ๆ ”
สะดุ้งขึ้นมาสุดตัวพร้อมกับวัตถุเล็ก ๆ ในมือที่กลิ้งหล่นลงไปบนพื้น รีบหันไปมองเจ้าของเสียงคุ้นเคยที่กำลังเดินเข้ามาทอดตัวลงนั่งข้าง ๆ ตัวเองอย่างยิ้มแย้ม
ลี ซอกมิน เล่นแบบนี้ให้มันได้ทุกวันสิหน่า !
“ เมื่อกี้ตกใจเหรอ ”
“ นิดหน่อยหน่ะ ”
“ น่ารักจัง ”
“น่ารักอะไรเล่า !”
เบือนหน้าหนีเจ้าของสายตาแวววับที่กำลังส่งมาให้เขาอย่างไม่ลดละ ซอกมินเค่นหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี
ควอน ซูนยอง บนโลกนี้คงไม่มีใครน่าแกล้งได้เท่าคนรักของเขาอีกแล้วหล่ะ
“ เอ่อ ว่าแต่เมื่อกี้พี่ทำอะไรตกหรือเปล่า ผมได้ยินเสียงเหมือนเหล็กอะไรหล่นอย่างดังเลย ”
รีบท้วงคนตัวบางทันทีที่นึกขึ้นได้ ซูนยองรีบหันหน้ากลับมาก่อนจะก้มลงไปควานหาของสิ่งนั้นอย่างเอาเป็นเอาตาย
ให้ตายเหอะ หายไปไหนวะ เขาไม่น่าเอาออกมาดูเลย ถึงมันจะแค่แปบเดียวก็เถอะ !!
“ เฮ้ย ! นี่มันเหรียญปีศาจนี่หน่า ”
รีบเงยหน้าขึ้นไปมองเจ้าของเสียงเล็กที่ร้องลั่นอยู่บนหัวด้วยอารามตกใจ
นะนั่น มันสร้อยของเขานี่หน่า มันไปอยู่ในมือของเจ้าวอนอูได้ยังไงหล่ะเนี่ย !!
“ ของฉันนะ ”
“ รู้แล้วหน่า ให้ฉันดูหน่อยไม่ได้หรือไง ”
หันไปดุเพื่อนรักเบา ๆ ก่อนจะหันสายตามาจดจ้องลงบนเหรียญหน้าตาประหลาดที่วางอยู่บนมือตัวเองอีกครั้ง ดวงตาเรียวเล็กที่อยู่ ๆ ก็เบิกโผลงขึ้นมาทำเอาผู้เป็นเจ้าของรู้สึกกลัวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
“ มันไม่ใช่ของแก ”
“อะ อะไร ”
“ ไหนแกบอกมาซิ ซูนยอง แกไปเอามาจากไหน ”
หันไปคาดคั้นคนด้านข้างด้วยสีหน้าและท่าทางที่จริงจังถึงขีดสุด เจ้าของชื่อหน้าซีดลงทันที
“ กะ ก็ ”
“ ที่ไหน ?”
“ฉันเก็บมันได้ระหว่างทางที่ฉันเดินกลับห้อง ตะ ตอนนี้มันอยู่ในมือฉันแสดงว่ามันต้องเป็นของฉันสิ ”
รีบคว้าวัตถุสีเงินที่วางอยู่บนมือของอีกคนมายัดใส่กระเป๋าสะพายของตัวแงอย่างลวก ๆ จอน วอนอูถอนหายใจออกมาหนัก ๆ พร้อมกับใบหน้าสวยที่ฉายแววตรึงเครียดออกมาอย่างเห็นได้ชัด
“แกเอามันมาจากที่ไหน แกรีบเอามันกลับไปที่นั่นเลยนะ”
“ ทำไมฉันต้องทำแบบนั้นด้วย ”
“เหรียญนั่นมันเป็นเหรียญปีศาจ ใครก็ตามที่ได้ครอบครองมันจะต้อง .....”
“อย่ามาไร้สาระหน่าวอนอู”
รีบตัดบทคนด้านข้าง พร้อมกับดวงตาเรียวเล็กหลุบลงอย่างนึกสับสน
ถึงเพื่อนเขาคนนี้จะขึ้นชื่อเรื่องความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับเรื่องเหรียญเก่า ๆ ก็จริง แต่ส่วนมากของแบบนี้มันก็มักจะไม่สามารถหาหลักฐานอะไรมาวัดถึงความจริงแท้แน่นอนได้ไม่ใช่หรือไง มันเป็นเพียงแค่ตำนาน ที่คนสมัยก่อนอาจจะเล่าขานพร้อมกับเขียนเสริมเติมแต่งมาตลอดระยะเวลากว่าร้อย ๆ ปีที่ผ่านมาก็ได้
“นี่แกไม่เชื่อฉันเหรอ ?”
“................................”
“ เอาเถอะ งั้นแกก็เตรียมตัวต้อนรับคนที่จะเอาของ ๆ เขาคืนให้ดีก็แล้วกัน ”
“ วอนอู นี่แกเลิกพูดอะไรที่ชวนน่าขนลุกแบบนั้นซักทีได้ไหม ”
“ ฉันพูดจริง ”
“ อือ ๆ รู้แล้วหน่า ”
รีบหลบสายตาเรียวเล็กที่กำลังมองตรงมาที่เขาด้วยความรู้สึกหดหู่แปลก ๆ
เจ้าบ้านี่มันชักจะจริงจังเกินไปแล้วนะ !!
“ วันนี้พี่ไม่ให้ผมไปส่งจริง ๆ เหรอ ?”
“ อื้ม รีบกลับเหอะเห็นบ่นว่าการบ้านเยอะไม่ใช่หรือไง ”
“ ก็ไม่เยอะเท่าไรหรอกครับ แต่วันนี้ผม .....”
“ ซอกมิน ”
“ ครับ ๆ งั้นพี่ก็ระวังตัวด้วยนะ ”
“ อืม นายก็เหมือนกันแหละหน่า ”
ยกมือขึ้นไปยีหัวคนตัวสูงที่ยืนแบะปากอยู่ตรงหน้าเบา ๆ อย่างหมั่นเขี้ยว ซอกมินฉีกยิ้มกว้าง ๆ ออกมาอีกครั้ง ก่อนที่ร่างสูง ๆ จะหายลับเข้าในฝูงชนที่ยืนเบียดแน่นกันอยู่หน้ามหาลัย ซูนยองถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนที่เรียวเท้าคู่สวยจะทอดเดินออกไปบนกองหิมะสีขาวสะอาดตาตรงหน้าอีกครั้ง
“ ทำไมมันถึงหนาวแบบนี้น้า !”
พร่ำบ่นออกมาเบา ๆ พร้อมกับเรียวแขนเล็กที่ค่อย ๆ ยกขึ้นขึ้นมากอดรัดร่างกายตัวเองเอาไว้แน่นพ่นลมหายใจออกมาหนัก ๆ ก่อนที่เสียงฝีเท้าคนใครบางคนที่ดังอยู่ด้านหลังจะทำให้คนที่กำลังนึกระแวงอดที่จะหันกลับไปมองไม่ได้
ว่างเปล่า ! ให้ตายเหอะ ฉากแบบนี้มันคือฉากที่เขาเคยเห็นในหนังบ่อย ๆ ไม่ใช่หรือไง !
ร่างบางหยุดนิ่งอยู่ซักพักก่อนที่เรียวเท้าสวยจะเริ่มก้าวไปข้างหน้าอีกครั้ง ตามคาดเสียงฝีเท้าหนัก ๆ นั่นก็เริ่มเคลื่อนที่อีกครั้งเช่นกัน ซูนยองค่อย ๆ สูดลมหายใจเข้าไปลึก ๆ พร้อมกับดวงตาเรียวเล็กที่กวาดมองไปรอบ ๆ บริเวณที่ว่างเปล่าอย่างนึกหดหู่ ไม่ ! ซูนยอง ไม่ใช่ ! มันไม่ใช่อย่างที่แกคิดหรอกหน่า !! ร่างบางพร่ำบ่นกับตัวเองเบาๆ พร้อมกับเรียวเท้าสวยที่ค่อย ๆ ย่ำไปด้านหน้าอีกครั้งด้วยความเร็วที่สูงกว่าเดิม ในที่สุดเขาก็สามารถพาตัวเองให้เข้ามายืนอยู่หน้าห้องได้โดยที่ยังคงมีเสียงฝีเท้าหนัก ๆ ดังก้องอยู่ในโสตประสาทของเขาอยู่อย่างนั้น รีบล้วงไปเข้าไปควานหากุญแจก่อนจะหยิบมันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ซูนยองถอนหายใจออกมาหนัก ๆ พร้อมกับใช้สายตาจดจ้องไปยังดอกกุญแจในมืออย่างชั่งใจ
“ฮัลโหล ซอกมิน ”
“……………….”
“ นายถึงไหนแล้วเหรอ ?”
“ขอโทษด้วยนะที่ต้องทำให้นายลำบาก ”
“ไม่เป็นไรหรอกครับแค่นี้เอง”
เดินนำคนมาใหม่เข้าไปในห้องของตัวเองอย่างอารมณ์ดี ซูนยองค่อย ๆ ทอดตัวนั่งบนโฟซาสีกำมะยี่ที่วางเด่นอยู่กลางห้องกว้างก่อนที่ร่างสูง ๆ ของใครบางคนที่วางตัวลงตรงหน้าจะปลุกสติของเขาให้ตื่นขึ้นจากความหวาดกลัวโดยทันที
“ ไม่ทันแก่เลยแต่ดันขี้หลงขี้ลืมซะได้ ”
“นะ นั่นสิ ”
เอ่ยตอบคนตรงหน้าออกไปเบา ๆ พร้อมกับใบหน้าสวยที่ก้มลงจนชิดอก
ลืมเหรอ ? ลืมบ้าลืมบออะไรกัน ฉันหลอกนายต่างหาก ลี ซอกมิน!
“ นี่พี่ซุนยอง แค่กุญแจหายเองนะ ถ้าคนดูแลหอกลับมาจากต่างจังหวัดเมื่อไหร่พี่ก็เข้าห้องได้แล้ว ไม่เห็นต้องเครียดขนาดนั้นเลยนี่ครับ “
เอ่ยปลอบคนตรงหน้าเบา ๆ อย่างนึกเป็นห่วง ซุนยองรีบปรับสีหน้าให้เป็นปรกติก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมองเจ้าของเสียงทุ้มหนักด้านบนอย่างรวดเร็ว
“ ฉันไม่ได้เครียดอะไรซักหน่อย แต่แค่รู้สึกปวดหัวนิดหน่อยหน่ะ ”
“ พี่ปวดหัวเหรอ ? เป็นหนักหรือเปล่า ให้ผมพาไปหาหมอไหม”
ร้องถามคนตรงหน้าด้วยอารามตกใจ ซูนยองหน้าซีดลงทันที
“ มะไม่ต้องหรอก แค่พักผ่อนนิดหน่อยก็หายแล้ว เดี๋ยวฉันขอไปอาบน้ำก่อนนะ ”
รีบยันตัวลุกขึ้นก่อนจะเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบผ้าเช็ดตัวของเจ้าของห้องติดมือเข้าไปในห้องน้ำอย่างวิสาสะ
ลี ซอกมิน อย่าทำท่าทางแบบนั้นให้ฉันเห็นสิ ฉันจะโกหกนายไม่ได้นะ รู้ตัวหรือเปล่า !!
แกร๊ก !!!
ค่อย ๆ แย้มประตูห้องน้ำออกมาช้า ๆ ก่อนที่ว่างเปล่าโดยรอบจะทำให้คนตัวบางรู้สึกหดหู่ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก รีบกระโจนไปยังหัวเตียงก่อนจะหยิบกระดาษโน๊ตแผ่นเล็กที่วางอยู่บนหมอนขึ้นมาอ่านช้า ๆ
ผมลงไปซื้อข้าวข้างล่างนะครับ
ถ้าพี่อยากได้อะไร โทรมานะ
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก !
เผลอปล่อยแผ่นกระดาษลงพื้นทันทีที่ได้ยินเสียงเคาะประตูเบา ๆ ที่ดังออกมาจากด้านนอก
ซอกมินมากแล้ว !! ร่างบางเผลอฉีกยิ้มออกมาอย่างโล่งใจ ก่อนจะที่เรียวเท้าบางจะรีบสตาฟตัวเองมันเองลงทันทีที่เสียงเคาะประตูจะเริ่มดังแล้วหนักหน่วงขึ้นเรื่อย ๆ รีบยกมือขึ้นมากุมใบหูทั้งสองข้างไว้อย่างรวดเร็วก่อนที่เรียวสวยจะก้าวถอยหลังจนชิดกับขอบเตียงย่อตัวนั่งลงช้า ๆ พร้อมกับเสียงหัวใจที่ส่งเสียงดังสนั่นด้วยความหวาดกลัว
เสียงเงียบไปแล้ว ! คนตัวบางนึกกับตัวเองเบา ๆ ก่อนที่เรียวเท้าสวยจะค่อย ๆ ย่างลงบนพื้นอันเย็นเฉียบด้านล่างอีกครั้ง
แกร๊ก !!
“ซอกมิน !!!”
“ ครับ ? ”
“อะ นี่ครับยา ทานแล้วก็ไปนอนได้แล้วนะ ”
“ขะ ขอบใจนะ”
รับเม็ดยามาจากจากมือคนด้านหน้าช้า ๆ อย่างใช้ความคิด ซอกมินแย้มยิ้มออกมาเล็ก ๆ ก่อนจะยันตัวลุกขึ้นพร้อมกับถ้วยจานที่ถืออยู่ในมือ ซูนยองรีบเดินตามคนรักไปเคาวน์เตอร์ทำครัวทันที
“ ซะ ซอกมิน ”
“ ครับ ”
ตอบรับคนด้านข้างก่อนจะเริ่มลงมือล้างจานที่กองพูนอยู่ตรงหน้าอย่างตั้งอกตั้งใจ ซูนยองถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะเงยหน้าไปมองคนรักที่กำลังขะมักขะเม้นอยู่กับกองภาชนะอย่างนึกสับสน
“ เมื่อกี้ฉันได้ยินเสียงอะไรแปลก ๆ ”
“เสียงอะไรเหรอครับ ? ”
“ เสียงคนเคาะประตู ”
“พี่หูฝาดหรือเปล่า ตอนที่ผมขึ้นมาก็ไม่เห็นมีใครอยู่เลยนี่ครับ ”
“………………..”
“ งะ งั้นเหรอ ”
ร่างบางร้องอุทานออกมาเบาๆ
ไม่มี ! ไม่อะไรกัน มันเป็นไปได้ยังไง !!!!
“ พี่คิดมากเรื่องที่พี่วอนอูพูดเกินไปหรือเปล่าครับ ”
เงยหน้าขึ้นไปมองเจ้าของมือหนาที่วางทาบอยู่บนลาดไหล่ของตัวเองด้วยความรู้สึกที่แฝงไปด้วยความรู้สึกหวาดกลัว ก่อนที่ดวงตาเรียวเล็กจะสัมผัสเข้ากับอะไรบางอย่างที่ทำให้หัวใจของเขาแทบหยุดเต้น ซอกมินรีบชักมือออกทันทีที่สังเกตเห็นตัวบางที่กำลังจดจ้องสายตามายังหลังมือที่แดงช้ำของเขาไม่ลดละ ซุนยองหน้าซีดลงทันที
“เลิกคิดมาก แล้วก็ไม่นอนได้แล้วนะครับ ”
ฉีกยิ้มกว้าง ๆ ให้คนรักอีกทีก่อนจะหันกลับไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อ ซุนยองค่อย ๆ เดินถอยหลังกลับไปทั้ง ๆ ที่สายตายังคงจดจ้งอยู่กับแผ่นหลังหนา ๆ ของคนรักอยู่แบบนั้น
คิดมากงั้นเหรอ ? นั่นสิ ฉันอาจจะคิดมาก คิดมากจนเกินไป !
“อ้าวว ซูนยองทำไมมาคนเดียวอ่ะ ไหนเมื่อคืนฉันโทรไปแกบอกว่าอยู่ห้อง ...... ”
“ กะ ก็อือนั่นแหละ แต่เด็กนั่นมันตื่นสายขี้เกรียจรอเลยมาก่อนหน่ะ ”
“ ตื่นสายอะไรวะ ก็นั่นไงตามแกมาติด ๆ เลยหน่ะ ”
พะยักเพย้อไปทางคนที่กำลังเดินเร็ว ๆ เขามาทางเขา ใบหน้าหล่อเหลาที่มองซ้ายทีขวาทีนั่นทำเอาซุนยองพอมีโอกาสที่จะร่ำลาคนด้านข้างได้ไม่มากก็น้อย
“ นี่วอนอู ถ้าซอกมินมันถามว่าฉันไปไหนให้แกบอกว่าฉันอยู่บนห้องทดลองชั้น 6 นะ โอเคไหม !!”
“อ่อ ๆ แล้วแกสองคน ........... ” จะหนีกันทำไมวะ ?
รีบกลืนประโยคที่เหลือลงลำคอทันทีที่รู้สึกว่ามีใครบางคนกำลังทอดตัวนั่งลงข้าง ๆ เขาพร้อมกับส่งเสียงหายใจแรง ๆ ออกมาอย่างเหนื่อยหอบ
“ พี่เห็นพี่ซูนยองหรือเปล่าครับ ”
ว่าแล้วเชียว
“ มันขึ้นไปห้องทดลองชั้นหกอ่ะ สงสัยลืมของมั้ง”
เอ่ยบอกคนด้านข้างออกไปเบา ๆ ก่อนจะรีบเงยหน้าขึ้นมองร่างสูงๆ ที่อยู่ ๆ ก็ยันตัวลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว ใบหน้าคมเข้มที่แฝงไปด้วยรอยยิ้มแปลก ๆ ทำเอาคนมองหน้าซีดลงทันที
เขาคิดไปเองหรือเปล่าว่ารอยยิ้มของเจ้าเด็กนี่มันดู น่ากลัวเหลือเกิน
” เมื่อไหร่จะมาซักทีนะ ”
พร่ำบ่นกับตัวเองเบา ๆ พร้อมกับดวงตาเรียวเล็กที่จดจ้องไปยังหน้าประตูห้องทดลองอย่างไม่ลดละ เพียงไม่นานคำอธิฐานของร่างบางก็เป็นผลเมื่อมองเห็นร่างสูงโปร่งอันแสนจะคุ้นตากำลังเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าห้องทดลอง มือหนาที่ทำท่าจะยกขึ้นมาทำเอาคนแอบดูอดที่จะรู้สึกวูบขึ้นมาไม่ได้
ว่าแล้วเชียว ลี ! ซอก ! มิน ! นายนี่มัน !!!!!!!!!
“ สนุกมากไหม ! ”
“พะ พี่ซุนยอง ”
อุทานออกมาอย่างตกใจทันทีที่สัมผัสที่มาพร้อมกับน้ำเสียงที่แสนจะคุ้นเคยเรียกให้เขาให้ไปมองเจ้าของของมันอย่างช่วยไม่ได้ ซอกมินหน้าซีดลงทันที
“ฉันถามว่านายสนุกมากไหม ! ”
ร้องออกไปด้วยน้ำเสียงที่เขาไม่สามารถคาดเดาอารมณ์อะไรได้เลย ใบหน้าหล่อคมก้มลงงุดแทบจะชิดอก
“ ตอบฉันมาสิ !! เวลานายเห็นฉันกลัว ฉันหวาดระแวงมันทำให้นายมีความสุขมากใช่ไหม !!”
“ตอบฉันมาสิ !! ตอบฉันมา นายได้ยินไหมซอกมิน !!! ”
เอื้อมมือไปทึ่งแขนเสื้อคนที่กำลังยืนก้มหน้านิ่งอยู่ตรงหน้าอย่างบ้าคลั่ง เขาโกรธเหรอ ไม่ เขาไม่ได้โกรธ แต่เขาแค่รู้สึกผิดหวังมากกว่า !!
“ ใช่ !! ผมมีความสุข ”
เงยหน้าขึ้นมามองคนที่กำลังทำร้ายร่างกายของเขาอยู่ ซุนยองรีบชักมือตัวเองกลับแทบจะทันที
“ อะ อะไร ”
“ผมมันโรคจิตใช่ไหมหล่ะ พี่คงรับไม่ได้ที่ผมเป็นคนแบบนี้ งั้นเราก็เลิกกันไหม เพราะผมก็ไม่อยากจะทำร้ายพี่แบบนี้อีกแล้ว”
น้ำเสียงที่อยู่ ๆ ก็อ่อนยวบยาบลงทำเอาคนได้ฟังรู้สึกแย่อย่างบอกไม่ถูก ใบหน้าหล่อคมที่ก้มลงอีกครั้งช่วยเรียกสติคนที่กำลังคลุ่มคลั่งให้กลับมาเงียบสงบโดยเร็ว
“ พะ พูดอะไรของนาย ”
“ พี่คงรู้สึกแย่มากเลยใช่ไหมหล่ะ”
“........................’
“พี่คงรับไม่ได้ที่เห็นผมเป็นแบบนี้ ”
“……………….”
“เพราะฉะนั้นเราสองคนควรจะ ........ ”
“หยุดพูดซักที !! ใครจะไปเลิกกับนายกัน ”
รีบตัดบทคนตรงหน้าไม่ให้พร่ำอะไรที่เพ้อเจ้อมากไปกว่านี้ ซอกมินรีบเงยหน้าขึ้นมาแทบจะทันที
“ อะไรที่เป็นนายฉันก็รับได้หมดแหละ ”
“จริงนะครับ !”
โผล่งออกมาด้วยอารามดีใจ ซูนยองรีบเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียงใสด้านบนอย่างนึกหมั่นไส้
“ไม่จริง”
“อ้าววว”
“ไม่ต้องมาอ้าวอะไรเลย ที่ผ่านมาฉันให้อภัยก็ได้ แต่ถ้าหลังจากนี้นายยังเล่นอะไรแผลง ๆ แบบนี้อีก ฉันเอานายตายแน่ !!”
ขู่อาฆาตคนด้านหน้าอย่างเครียดแค้น ก่อนที่เรียวเท้าสวยจะเดินดิ่งออกไปทันที
หลังจากนี้คืออะไรเหรอ ? มันแปลว่าหลังจากหนึ่งวัน หนึ่งเดือน หรือหนึ่งปี ให้ตายเหอะ บอกคำสั่งไม่เก๊ตแบบนี้ใครจะเอาไปทำตามได้กันครับ หึหึ
“มันน่าจะตรงนี้นี่หน่า ”
“………………..”
“หรือจะตรงนี้ !”
“......................”
“แต่มันน่าจะตรงนี้มากกว่า ”
“......................”
“ แต่มันต้องใกล้ ๆ กับ ..........”
“พี่ซุนยอง จะเอากลบไว้ตรงไหนก็เอาซักที่เถอะครับ มันหนาวนะ !!”
“ฉันรู้แล้วหน่า แต่ถ้ากลบมั่วซั่วเจ้าของเขาจะมาหาเจอได้ยังไง ”
“ แต่พี่ .......”
“พี่ชาย พี่ชายครับ”
“หือ ?”
รีบก้มหน้าลงไปมองเด็กน้อยที่กำลังยืนสะกิดขากางเกงเขาอยู่ด้านล่าง ซุนยองรีบหันมามองทันที
“ว่างไครับ”
ย่อตัวลงไปนั่งคุยกับเด็ก ก่อนจะฉีกยิ้มกว้าง ๆ ออกมาอย่างใจดี ก่อนที่ซอกมินจะสังเกตว่าดวงตาตี๋เล็กของเด็กชายตรงหน้ากำลังจดจ้องอยู่กับโลหะรูปวงกลมที่พี่ซุนยองของเขากำลังถืออยู่ ซุนยองค่อย ๆ ก้มลงสิ่งของในมืออย่างงงวย
“พี่ชาย ผมขอสร้อยผมคืนได้ไหมครับ”
“หา !!!!!”
ทั้งสองอุทานออกมาอย่างตกใจ อะ อะไรกัน เหรียญปีศาจนี่มันเป็นของเด็กชายคนนี้อย่างนั้นเหรอ !
“ขะ ของหนูเหรอ ?”
“ครับ มันแถมมากับขนมที่ผมซื้อเมื่อวานแต่ผมกับมันตกก็เลยมาเดินแล้วก็เจอ นี่ มันอยูนมือพี่ชายไงครับ”
“งะ งั้นเหรอจ๊ะ”
รีบยัดเหรียญ(ที่เคยเป็น)ปีศาจใส่มือเด็กน้อยก่อนที่ร่างเล็ก ๆ วิ่งเข้าไปรวมกลุ่มอยู่กับเพื่อน ๆ ที่ยืนเล่นกันอยู่ตรงสนามเด็กเล่นข้าง ๆ อย่างดีใจ ซอกมินเค่นเสียงหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ก่อนที่ใบหน้าแดงก่ำของคนรักจะทำให้เขารีบหยุดการกระทำทั้งหมดลงทันที ซุนยองพ่นลมหายใจออกมาแรง ๆ พร้อมกับนิ้วเรียวเล็กที่รวบเข้าหากันแน่นอย่างโกรธแค้น
จอน วอนอู ! ไอ้เพื่อนบ้าเอ๊ย !!!!!!!!!!!!!!!!!!!
END
:) Shalunla
ความคิดเห็น