คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #41 : 11.2 ทำนองรักจังหวะมัทรี
…แต่จะว่าไปเวลาที่อินทิราทำท่าราวลูกแมวขู่ฟ่อๆ
แบบนี้ก็น่ารักน่าหยอกดีไม่ใช่น้อย พอเห็นแววตาเป็นประกายคู่นี้แล้วเขาก็นึกสนุก
อยากจะรู้เหมือนกันว่าถ้าจับเธอมาฟัดเข้าจริงๆ
จะได้รอยเล็บแมวกลับไปเป็นที่ระลึกหรือเปล่า
ทัยวัตคิดด้วยความรู้สึกครึ้มใจ
อดนึกไม่ได้ว่ายิ่งอยู่ใกล้มัทรีเขายิ่งเหมือนจะกลายเป็นพวกโรคจิตเข้าไปทุกวัน
เพราะชอบที่จะได้เห็นสีหน้าเจ็บปวดกับแววตาปวดร้าวของเธอ และก็ชักจะสนุกทุกครั้งที่ทำให้เธอโกรธได้แบบนี้
“เก่งดีนี่...ที่แท้ไอ้ท่าทางยอมคน
ตีหน้าเศร้าชวนสงสารของเธอมันก็แค่มารยาสินะธาตุแท้เธอก็ไม่ได้เรียบร้อยอย่างที่พยายามหลอกตาคนอื่นเขานิ”
ทัยวัตเอ่ยด้วยความหมั่นไส้
“หมาเมื่อมันจนตรอกยังต้องสู้
นับประสาอะไรกับดิฉัน ใครดีมา
ดิฉันก็พร้อมจะดีตอบแต่ในเมื่อคุณบีบบังคับให้ดิฉันร้าย
ดิฉันก็พร้อมที่จะร้ายอย่างที่คุณต้องการยังไงล่ะคะ”
อินทิราเชิดหน้าสูงพลางเอ่ยเถียงอย่างอดสูใจ
เขาดูถูกเธอได้ สารพัดที่จะทำกับเธอ พูดกับเธอได้สารเพ แต่พอเธอตอบโต้ให้บ้าง
เขากลับใส่ร้ายว่าเธอเจ้ามารยา สร้างภาพหลอกตาคนอื่นเสียนี่ แต่เธอก็ยังหลงรักเขา ทั้งที่เขาประกาศอยู่ทนโท่ว่าขยะแขยงรังเกียจเธอที่เป็นบริรักษ์สกุลขนาดนี้
“ดี...ร้ายๆ
อย่างนี้สิดี ฉันชอบ อยากจะรู้เหมือนกันว่าผู้หญิงปากเก่งจะเก่งเรื่องอื่นด้วยหรือเปล่า”
ทัยวัตย่างเท้าเข้าหาหญิงสาวด้วยกิริยาเชื่องช้า
นัยน์ตาวาวทอดมองเธอราวจะข่มขู่ ท่าทางราวราชสีห์เตรียมเล่นงานเหยื่อของเขาทำให้ร่างบางของอินทิราสั่นจนเห็นได้ชัดเจน
“คุณจะทำอะไรน่ะ...ถอยออกไปนะ”
อินทิราถอยหลังโดยอัตโนมัติ หัวใจเต้นแรงด้วยความตระหนก
หันซ้ายแลขวามองหาทางหนีทีไล่ด้วยความหวั่นเกรง
“เลิกทำตัวเป็นสาวไร้เดียงสาได้แล้วอินทิรา
ไอ้ละครบทสาวใสซื่อที่เธอแสดงมันไม่ได้ผลแล้ว ในเมื่อเธอเปิดเผยทาสแท้ของเธอออกมาจนหมดขนาดนี้
ฉันคงเชื่อไม่ลงว่าเธอไม่รู้จริงๆ ว่าฉันกำลังจะทำอะไรกับเธอ”
“ถอยไปนะคุณทัยวัต
ไหนคุณบอกว่าขยะแขยงฉันไง ถ้ารังเกียจฉันนักแล้วจะมายุ่งกับฉันทำไมอีก”
อินทิราเถียงเสียงสั่น
“ฉันก็แค่อยากจะลองดูว่าจะทนขยะแขยงสมสู่กับเธอลงไหม
ในเมื่อหลวมตัวยอมรับเธอเข้ามาร่วมใช้นามสกุลเดียวกันแล้ว มันก็ต้องลองดู เผื่อวันหน้าเกิดมีใครมาถามว่าลีลาเธอเด็ดแค่ไหนเดี๋ยวจะโฆษณาให้เธอไม่ถูกซะเปล่าๆ”
“เลว!
คุณนี่มันเลวสมบูรณ์แบบจริงๆ คุณทัยวัต ฉันไม่น่ามองคุณผิดตั้งแต่แรกเลยให้ตายสิ”
เธอต่อว่าเขาด้วยความโมโหพลางก้าวถอยหลังสุดฝีเท้า
เล็งไปที่ประตูห้องอาบน้ำ เห็นทีคืนนี้เธอคงต้องอาศัยนอนในนั้นสักคืนแน่ๆ
คิดได้แบบนั้นเธอก็เตรียมจะพุ่งตัวไปในทิศทางด้านซ้ายมือ
หมุนตัวเตรียมจะวิ่งจนสุดฝีเท้า แต่ไม่อยากจะเชื่อว่าคนตัวใหญ่จะมีความไวเป็นเลิศไม่แพ้กัน
“กรี๊ด!!!
ปล่อยฉันนะคุณทัยวัต ปล่อยสิ”
อินทิราร้องเสียงดังลั่นเมื่อเอวของเธอถูกอ้อมแขนแข็งแรงรวบรัดไว้
เขายกตัวเธอจนเท้าลอยเหนือพื้นอย่างง่ายดาย
ดูเหมือนร่างกายที่เสียเปรียบของเธอจะไม่สามารถเอาชนะเขาได้เลยจริงๆ
ทัยวัตจับตัวเธอหมุนกลับมาเผชิญหน้า
ไม่คณาพละกำลังน้อยนิดของหญิงสาวที่พยายามจะต่อต้าน
มือใหญ่รวบข้อมือเล็กกระชับไว้ด้วยฝ่ามือข้างหนึ่ง ร่างกายของเขาและเธออยู่ชิดติดกันจนน่าตกใจ
เขาทอดสายตามองลึกเข้าไปในดวงตาตื่นตระหนกของหญิงสาวที่กำลังเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างตกตะลึง
มันเหมือนมีกระแสไฟฟ้าแล่นผ่านตัวของเธอ...ชั่วอึดใจหนึ่งเธอจึงสามารถถอนสายตาออกจากเขาได้
ดูเหมือนทัยวัตเองก็ตกอยู่ในอาการเดียวกัน หัวใจของอินทิรากำลังเต้นระส่ำราวกับออกกำลังกายจนใจเต้นรัวเร็ว
สัมผัสของฝ่ามืออีกข้างที่กระชับอยู่กับเอวบางเป็นเหตุให้ผิวเนื้อในบริเวณนั้นเหมือนสัมผัสถูกกระแสไฟฟ้าแสนโวลต์
เธอพยายามเรียกสติตัวเองพร้อมกับบังคับหัวใจไม่ให้เต้นแรงเกินไปนักจนสำเร็จ
จึงดันตัวออกห่างเขาด้วยความรวดเร็ว
“ปล่อยค่ะ”
“ไม่ปล่อย” เขากระซิบเบาๆ ข้างหู...
อินทิรารู้สึกวาบหวิวอย่างประหลาดเมื่ออยู่ๆ
น้ำเสียงอวดอำนาจพลันเปลี่ยนเป็นน้ำเสียงทุ้มเว้าวอน
“คุณทัยวัต ปล่อยดิฉันเถอะนะคะ” ฝ่ามือชื้นเหงื่อยกขึ้นออกแรงผลักแผ่นอกกว้างสุดกำลัง
แต่ดูเหมือนเขาจะไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย
“เราแต่งงานกันแล้วไม่ใช่เหรอมัทรี
เพราะฉะนั้นฉันคิดว่าเธอคงจะรู้ดีอยู่แล้วว่าเรื่องแบบนี้จะต้องเกิดขึ้นสักวัน แล้วเธอจะพยายามผลักไสและปฏิเสธฉันไปทำไมฮะ
มัทรี” ทัยวัตกระซิบถามแผ่วเบา เปลี่ยนอารมณ์ได้เร็วราวพายุ
“แต่คุณเกลียดมัท
คุณก็ไม่ควรทำเรื่องแบบนี้กับมัทไม่ใช่เหรอคะ”
อินทิราพยายามเอ่ย แม้น้ำเสียงของเธอจะตะกุกตะกักเพราะความรู้สึกประหม่าที่เกิดจากความใกล้ชิด
หัวใจของเธอเต้นแรงจนรู้สึกเหมือนออกมาเต้นอยู่นอกอก ยิ่งทำให้เธอวางหน้าไม่ถูก…พยายามรวบรวมสมาธิ เรียกสติมาอยู่ที่ตัว พร้อมกับเบี่ยงตัวออกจากอ้อมแขนกำยำ
“เธอไม่อยากลองเปลี่ยนใจฉันดูเหรอ
ทำให้ฉันเลิกเกลียดเธอให้ได้สิ”
“มัทคงไม่มีปัญญา
ความเกลียดของคุณมันฝังรากลึกจนมัทท้อ” น้ำเสียงสั่นสะท้านเอ่ยอย่างทดท้อ
“ถ้าเธอรู้สึกท้อจริงอย่างที่พูด
เธอคงไม่ยอมจดทะเบียนสมรสกับฉันแบบนี้หรอกมัทรี” ทัยวัตทำตาวาว ทอดสายตามองริมฝีปากสีสดตรงหน้า
“ปล่อยมัทเถอะนะคะ
มัทแค่ต้องการยุติความบาดหมางระหว่างครอบครัวของเราเท่านั้นจริงๆ
และถ้าครบปีเมื่อไหร่เราก็คงจะหย่ากัน เพราะฉะนั้น คุณอย่าทำอะไรมัทเลยนะคะ”
เธอเอ่ยด้วยความรู้สึกหวั่นไหว แววตาคู่นี้มีอำนาจเหนือเธอ
ให้เขาพูดจาร้ายกาจใส่เธอเสียยังจะดีกว่าเปลี่ยนมาออดอ้อนจนเธอแทบละลายแบบนี้
“หึๆๆ ...เธอคิดว่าฉันจะยอมปล่อยเวลาสูญไปเป็นปีโดยไม่ได้อะไรตอบแทนเลยแบบนั้นเหรอมัทรี”
เขาถามอย่างเอาแต่ใจ พร้อมกับโน้มศีรษะก้มลงมา
ประกบริมฝีปากจูบประทับเรียวปากนุ่มอย่างเร่าร้อน
อินทิราตกใจจนทำตัวไม่ถูก เมื่อริมฝีปากของเธอถูกชายหนุ่มครอบครองอย่างเร่าร้อน
ได้แต่นึกโทษตัวเองที่เผลอใจหวั่นไหวไปกับน้ำเสียงออดอ้อนของเขาจนเผลอพลาดตกลงไปในหลุมพรางของซาตาน
เธอควรอยู่ให้ห่างจากเขาตั้งแต่แรก ไม่ควรหลงคารมคิดว่าเขาจะใจอ่อนฟังเหตุผลของเธอและยอมอยู่ด้วยกันอย่างเป็นมิตรจนครบหนึ่งปี
เขาหยอกล้อเธอเป็นเรื่องขัน
หลอกล่อหว่านล้อมเธอเล่นเพื่อเย้ยหยันทีหลังต่างหาก เสียงหัวเราะห้าวๆ
กับท่าทางตั้งใจจะปราบพยศของเธอสร้างความตระหนกให้คนตัวเล็กที่ตกเป็นเบี้ยล่างให้แก่พละกำลังที่เหนือกว่าของอีกฝ่าย
เขาช้อนตัวเธอขึ้นโดยไม่คณากับอาการต่อต้านของเธอแม้แต่น้อย
เท้ายาวก้าวตรงเข้าหาเตียงกว้างอย่างไม่ใส่ใจการขัดขืนประท้วงของเธอ
|
|
ความคิดเห็น