ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    มโนห์ราติดบ่วง

    ลำดับตอนที่ #8 : 2.2 มโนห์ราเหลิงลม

    • อัปเดตล่าสุด 9 ส.ค. 67


    พรตระบายลมหายใจพรืด ไหวไหล่แล้วหมุนตัวหันหลังให้หญิงสาว เดินห่างออกไปทิ้งกินรีให้ยืนป้ายน้ำตาเป็นเด็ก ๆ มองตามหลังหนุ่มรุ่นพี่ด้วยความน้อยใจ เธอถอนสะอื้นและเหลือบตามองถุงเจ้าปัญหาที่เก็บได้จากสนามหญ้าหน้าบ้านเลยเอื้อมมือคว้ามันถือติดมือไปทั้งน้ำตา

     

    มโนห์ราเดินตามทันบิดาที่ห้องโถงใหญ่กลางบ้าน หญิงสาวรีบเข้าไปสวมกอดเอวผู้ให้กำเนิดพร้อมกับเอ่ยประจบ 


    “พ่อขา...น้องหนูมีธุระจริง ๆ นะคะ ไม่ได้จะไปซนที่ไหนสักหน่อย” 


    “ธุระอะไรนักหนา ถ้าสำคัญจริงก็ให้เจ้ารามไปส่งก็ได้” อสิรวิสสรุป


    “โธ่...พ่อคะ น้องหนูไปพร้อมน้องนรีก็ได้ ไม่ต้องไปกวนเวลาพี่รามหรอกนะคะ” มโนห์ราทักท้วง


    “ไปพร้อม...แต่พอถึงกรุงเทพฯ ก็แอบหนีไปซนนะสิไม่ว่า ยังไงพ่อก็ไม่อนุญาต ถ้าเจ้ารามไม่ไปด้วย พ่อก็ไม่ให้แกไป”


    “พ่ออะ...” มโนห์ราทำหน้าง้ำรีบหันไปหามารดา ขอความช่วยเหลือเสียงออดเป็นมอดกัดไม้ “แม่แพรขา ช่วยพูดให้น้องหนูหน่อยสิคะ นะคะ”


    แพรพลอยถอนหายใจและช่วยพูดกับสามีอีกแรง “ลูกโตแล้วนะคะพ่อ แม่ว่าเราควรปล่อยให้แกใช้ชีวิตอย่างอิสระนะคะ”


    “แม่จะให้พ่อปล่อยลูกสาวเราไปตระเวนอยู่รอบกรุงตามลำพังอย่างนั้นเหรอ” อสิรวิสรีบส่ายหน้า “ไม่มีทาง”

    แพรพลอยเลิกคิ้วมองสามีพลางเอ่ยถาม “พ่อไม่ไว้ใจลูกเหรอคะ”


    “ไม่ใช่ไม่ไว้ใจลูก แต่ยายหนูแสบแค่ไหน ซนแค่ไหน แม่ก็รู้ แล้วไอ้ธุระที่ว่าจะไปทำน่ะ ไม่รู้จะพิเรนทร์ผาดโผนอะไรอีกหรือเปล่า” 


    “นั่นแหละไม่ไว้ใจ น้องหนูโตแล้วนะพ่อไม่ใช่เด็ก ๆ จะได้เล่นพิเรนทร์อะไรให้พ่อต้องเป็นห่วง” มโนห์ราชักสีหน้า


    “แล้วไอ้ที่ครั้งก่อน แกแอบหนีพ่อแม่ไปถ่ายแบบนั้นล่ะ”


    “โธ่พ่อขา...เรื่องมันนานนมมาแล้ว อีกอย่างก็ไม่เห็นจะเสียหายอะไรสักหน่อย น้องหนูแค่ถ่ายแบบชุดกีฬา เมื่อกี้แม่ยังบอกว่าไม่น่าเกลียดอะไรเลย จริงไหมคะแม่” มโนห์ราหันมาหามารดาดึงเป็นพวกทันที


    “ฮึ...แต่แกก็รู้ว่าพ่อไม่ชอบ แล้วคราวนี้จะแอบไปกรุงเทพฯ คนเดียวอีก ถ้าไกลหูไกลตาพ่อแม่ แล้วแกแอบไปทำเรื่องซุกซน ปิดบังไม่ให้พวกเรารู้ คราวนี้จะให้พ่อทำยังไงฮะ” อสิรวิสทำหน้าคว่ำมองมโหน์ราอย่างขัดอกขัดใจ เมื่อบุตรสาวดื้อดึงไม่เชื่อฟังคำสั่ง


    “น้องหนูโตแล้วนะคะพ่อ อายุ 24 แล้วด้วย”คนเป็นลูกบ่นออด ๆ “ไม่ใช่เด็กเล็ก ๆ จะได้เที่ยวเล่นซุกซนให้พ่อแม่เป็นห่วง ทีพวกพี่ ๆ สามคนยังไปไหนต่อไหนกันได้ร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ ทำอะไรกันตามอำเภอใจก็ได้ แล้วทำไมพ่อต้องห้ามน้องหนูคนเดียวด้วยล่ะ ไม่ยุติธรรมเลย” 


    “ก็ไอ้พวกลิงนั่นมันเป็นผู้ชายนี่หว่า จะให้พ่อไปห่วงอะไรพวกมันมากล่ะ ส่วนแกน่ะเป็นสาวเป็นแซ่ จะไม่ให้พ่อเป็นห่วงได้ยังไงฮะ” 


    “รู้อย่างนี้ตอนเกิดน้องหนูหยิบไอ้นั่นอย่างผู้ชายมาซะก็ดี ไม่เลือกเอาของผู้หญิงมาให้พ่อห่วงหรอก”


    “ตายจริงยายหนู พูดจาน่าเกลียดจริงๆ ลูกคนนี้” แพรพลอยเอื้อมมือฟาดต้นแขนบุตรสาวเบา ๆ 


    “ทำอย่างกับเลือกได้อย่างนั้นแหละ” บิดาจอมหวงแบะปากใส่ลูกพร้อมกับตวัดตามองค้อน


    “ก็เพราะเลือกไม่ได้นะสิคะ ถึงต้องมานั่งเถียงกับพ่อแบบนี้” คนเป็นลูกทำหน้ามุ่ย


    “ไม่รู้ล่ะ ถึงยังไงพ่อก็ไม่อนุญาตให้แกไปตามลำพัง ถ้าเจ้ารามไม่ไป แกก็ไม่ต้องไป”


    “เปลี่ยนเอาพี่รถไปแทนได้ไหมคะ พี่รามเขาต้องซ้อมยิงปืน แต่พี่รถนะว่างอยู่แล้ว พี่รามเขาจะได้ไม่ต้องเสียเวลาฝึกซ้อมไปด้วย” เธอพยายามหาเหตุผลมาอ้าง


    “ไม่ได้!...ยิ่งไอ้รถไปด้วยพ่อยิ่งไม่ไว้ใจใหญ่ ไอ้ทะลึ่งนั่นนะเหรอจะคอยดูแลแกแทนพ่อได้ มีแต่จะให้ท้ายยุยงล่ะสิไม่ว่า” 


    “เถียงอะไรกันอยู่ครับ เสียงดังไปถึงข้างนอกเชียว”


    น้ำเสียงทุ้มนุ่ม ๆ ของพี่ชายคนโตเอ่ยถามเข้ามาก่อนปรากฏกาย ขณะเดียวกับพรตเพิ่งเดินพ้นประตูห้องอาหารและกำลังจะตามมาสมทบกับทุกคนในห้องนั่งเล่นเมื่อรามถือกระเป๋าอุปกรณ์ยิงปืนของเขาเดินผ่านเข้ามาพร้อมกัน รามยิ้มให้ทุกคนที่นั่งรวมกลุ่มกันอยู่ก่อน


    รอยยิ้มมุมปากทำให้ใบหน้าขรึมพลันอ่อนโยนขึ้นอีกระดับ ราม วิษณุวัส หนุ่มหล่อดีกรีนักแม่นปืนทีมชาติที่ขึ้นชื่อเรื่องหวงน้องสาวที่สุด จนคนเป็นพ่อวางใจให้คอยดูแลมโนห์รา


    “มาพอดีเลยเจ้าราม” อสิรวิสทักทายบุตรชายคนโต


    “มีอะไรครับพ่อ” รามถาม


    “สุดสัปดาห์นี้แกว่างหรือเปล่า”


    “ก็...คงจะว่างกระมังครับ พ่อมีธุระอะไรจะใช้ให้ผมทำหรือครับ”


    “ฉันจะให้แกไปกรุงเทพฯ กับยายน้องหนู น้องสาวสุดที่รักของแกเขาจะไปกับยายหนูนรี”


    “กินรี...น้องมาบ้านเราเหรอครับ” รามถามขึ้นอย่างแปลกใจพลางกวาดสายตามองหาหญิงสาว


    “อืม...ป่านนี้คงขึ้นไปอยู่บนห้องแล้วกระมัง” อสิรวิสตอบ


    รามพยักหน้าพลางหันไปทางน้องสาวแล้วเอ่ยถามอ่อนโยน “แล้วน้องหนูจะไปทำอะไรที่กรุงเทพฯ จ๊ะ” 

    “ธุระนิดหน่อยค่ะพี่ราม น้องหนูจะไปหาพระแพงที่มหาวิทยาลัยด้วย” 


    “หนูพระแพงที่เป็นรุ่นน้องของเรานะเหรอ” อสิรวิสยกคิ้วมองบุตรสาวพลางถามด้วยน้ำเสียงแปลกใจ


    “ค่ะพ่อ”


    “ตอนนี้เรียนอยู่ปีอะไรแล้วล่ะ”


    “ปี 4 ค่ะ อีกเทอมเดียวน้องก็เรียนจบแล้ว พระแพงเขาอยากจะมาเที่ยวบ้านเรา อยากมาถ่ายรูปเกาะมโนห์ราของเราค่ะพ่อ น้องหนูเลยจะขึ้นไปรับแล้วถือโอกาสไปกราบสวัสดีคุณแม่ของพระแพงเขาเสียทีเดียวเพราะตั้งแต่น้องหนูย้ายกลับมาอยู่บ้านก็ยังไม่เคยไปให้ท่านเห็นหน้าอีกเลยค่ะ เมื่อก่อนสมัยเรียน น้องหนูไปรบกวนท่านออกบ่อย ๆ”


    “ถ้าอย่างนั้นก็ให้เจ้ารามไปเป็นเพื่อน พ่อไม่ไว้ใจไอ้ตัวแสบ” อสิรวิสมองค้อนบุตรชายคนเล็ก


    “โอ้โห...ท่านอสิรวิสขอรับ เอะอะอะไรก็ลงที่กระผมหมดเลยนะขอรับ”คนถูกเอ่ยพาดพิงโพล่งขึ้นหลังจากยืนฟังทุกคนเงียบ ๆ อยู่นาน


    “เดี๋ยวพ่อก็ตบหัวทิ่มซะนิไอ้รถ” หนุ่มใหญ่ชักสีหน้าบึ้งตึง ชี้หน้าข่มขู่บุตรชายที่ยืนยิ้มทะเล้นอยู่ในระยะแค่เอื้อม

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×