Raining Spell for Love
"ส่งอะไรมานักหนาวะ น่าเบื่อโว๊ยยย" เยซองโยนมือถือลงบนโต๊ะอย่างไม่ใยดี
"เป็นอะไรวะ อารมณ์เสียแต่เช้าเลย" คังอินขมวดคิ้วถาม
"ก็เด็กกุน่ะซิ แมร่งโครตวุ่นวาย กูเบื่อ กูรำคาญว่ะ ไม่รู้เมื่อไหร่จะเลิกกวนใจกูสักที"
"อ้าว? นี่มึงยังไม่เลิกอีกเหรอวะ หลายเดือนแล้วนะเว๊ย มันผิดวิสัยคาสโนว่าอย่างมึงนะเว๊ย" ชินดงทำหน้าทะเล้นใส่
"หุบปากไปเลยไอ้ชิ้น กูก็อยากเลิก อุตส่าห์ตีตัวออกห่าง แต่มันมึนว่ะ"
"มึงก็บอกไปตรงๆเลยดิ เอาให้ชัดๆไปเลย เผื่อเขาไม่รู้ตัว" คังอินแนะนำตรงๆ
"กูไม่ว่างเว๊ย"
"ไม่ว่างอะไร กูก็เห็นมึงควงสาวไปวันๆ ไม่กล้าก็บอกมาเหอะ"
"ไอ้ชิ้น!! มึงจะกวนกูอีกนานป่ะ เออๆกูบอกวันนี้เลยก็ได้ อยากกวนใจนัก"
"แล้วเขาส่งข้อความอะไรมาล่ะ มึงถึงได้เดือดขนาดนี้น่ะ"
"เฮ๊ย!!! เจ้าชายเย็นชาอยากรู้เรื่องเด็กของไอ้เย่ว่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ"
"คิบอม มึงจะให้เยซองบอกกุดีๆ หรือจะให้เตะมึงโชว์ก่อน"
"โห ไอ้โหด จะเตะกระทั่งเพื่อน"
"เออ เพื่อนนี่ล่ะตัวดี ตกลงเขาส่งข้อความมาว่าไง"
"มึงก็ดูเองซิ"
<< พี่เยซองครับ วันนี้วันเกิดผม จำได้ไหมเอ่ย คึคึ วันนี้ผมมีข่าวดีจะบอกด้วย เจอกัน5โมงเย็นที่ร้านเดิมนะครับ >>
"อ้าวว วันนี้วันเกิดเขาเหรอวะเนี่ย แถมแปะรูปมาด้วย โครตน่ารักเลยว่ะ" คิบอมยื่นหน้าเข้าไปดูด้วย
"น่ารักก็เอาไปเลยมึง กูยกให้"
"มึงโกรธเพราะเขามีข่าวดีจะบอกมึงเนี่ยนะ แล้วตกลงมึงจะไปหาเขาไหม"
"ก็คงต้องไป แต่คืนนี้วันเกิดแฟนไอ้ชิ้นนี่ กูขอไปปาร์ตี้หนุกๆกับพวกมึงดีกว่า"
"แหมมม ปาร์ตี้หนุกๆ แฟนกูเป็นนางแบบ มีเพื่อนเซ็กซี่ๆสวยๆเพียบ แผนสูงนะมึง"
"กูใครไอ้ชิ้น ถ้าหัวหน้าแก๊งโฉดไม่ไป ใครจะพาไอ้คังกับไอ้ขี้เมานี่จีบสาววะ"
"เออๆๆๆกูยอม มึงก็รีบๆเคลียร์แล้วรีบตามไปละกัน"
"ไม่มีปัญหา เยซองซะอย่าง หึหึ"
************************
มุมเงียบๆในร้านเล้กๆที่ถุกตกแต่งอย่างน่ารัก รยออุคตรวจความเรียบร้อยของตัวเองผ่านเงาสะท้อนของกระจกร้านครั้งแล้วครั้งเล่า หลายเดือนที่คบกันมา นี่จะเป็นครั้งแรกที่จะได้ฉลองวันสำคัญด้วยกัน เขาจึงพยายามแต่งตัวให้น่ารักที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่นั่นก็ไม่ทำให้ความประหม่าลดน้อยลงสักนิด
รยออุคเหลือบมองนาฬิกาสลับกับประตูทางเข้านับครั้งไม่ถ้วน แม้เขาจะมารอก่อนเวลานัดนับชั่วโมง แต่นี่ก็เลยเวลานัดมานับชั่วโมงแล้วเช่นกัน
เสียงกุ๊งกิ๊งดังขึ้นส่งสัญญาณว่ามีผู้มาเยือน รยออุคหันไปมองแว่บนึงเมื่อความมั่นใจ ก่อนจะสำรวจตัวเองลวกๆอีกครั้ง
"มีอะไรว่ามา" เยซองทิ้งตัวลงนั่งตรงข้ามก่อนถามอย่างเร่งรีบ
"พี่เยซองดื่มอะไรดีครับ เดี๋ยวผมสั่งให้"
"ไม่ต้อง เอ้า รีบๆบอกมาซิว่ามีอะไร ผมยุ่งอยู่นะ เดี๋ยวจะต้องรีบไป"
"อ่อ..ยุ่งอยู่งั้นเหรอครับ คือที่ผมไปสัมภาษณ์ที่บริษัทพี่เมื่ออาทิตย์ก่อน บริษัทส่งเมลล์ตอบกลับมาบอกให้ผมไปเริ่มงานอาทิตย์หน้านี้น่ะครับ"
"งั้นเหรอ? ก็ดี แต่หวังว่าตอนอยู่ที่บริษัท เราจะไม่รู้จักกันนะ"
"เอ๋?"
"ไม่ต้องทำหน้าสงสัยหรอก หน้าที่การงานผมกำลังก้าวหน้า ถ้ามีใครรู้ว่าผมกับคุณคบกัน ผมอาจจะถูกจับตามองก็ได้ ผมไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้น หวังว่าคุณจะเข้าใจ"
"ขะ..เข้าใจครับ"
"ก็ดี งั้นผมไปละ"
"เดี๋ยว พี่เยซอง"
เยซองลุกออกไปโดยไม่สนเสียงทัดทานหรือหันกลับมาชำเลืองมองรยอุคที่นั่งตัวแข็งด้วยความมึนงงสักนิด
รยออุคยันกายที่สั่นเทาลุกขึ้นเดินออกจากร้านอย่างไร้จุดหมาย เขาไม่ได้โง่จนดูไม่ออกว่าเยซองพยายามตีตัวออกห่าง แต่ถ้าเขาทำตัวให้น่ารักเข้าไว้ เยซองก็อาจจะเปลี่ยนใจ กลับมาเป็นคนเดิมเหมือนตอนที่เพิ่งคบกันใหม่ๆก็ได้
สมองว่างเปล่า ร่างกายเบาหวิวล่องลอยอย่างไร้ทิศทาง แสงวาบตามด้วยเสียงคลืนๆดังไม่กี่ครั้ง สายฝนก็เทกระหน่ำลงมาอย่างบ้าคลั่ง
"ทำไมพี่เยซองถึงไม่ชอบฝนล่ะครับ เย็นดีออก"
"ผมไม่ชอบที่มันเปียก เฉอะแฉะ ยิ่งถ้าวันไหนแต่งตัวดีๆแล้วโดนฝนนี่ยิ่งเกลียดมาก คุณก็เหมือนกันแหละ ถ้าออกนอกบ้านแล้วมาเปียกฝนมอมแมมล่ะก็ ไม่ต้องมาใกล้ผมเลยนะ ผมไม่ชอบ"
"ครับ ต่อไปถ้าเจอฝน ผมจะวิ่งหนีสุดชีวิตเลย คิคิคิ"
รยออุคยื่นมือไปรองรับน้ำฝนที่ดูเหมือนจะตกหนักขึ้นและไม่มีแววว่าจะหยุดลงง่ายๆ ความอดทนของเขามาถึงจุดสิ้นสุด รยออุคปล่อยโฮออกมาอย่างสุดจะกลั้น แม้สายฝนจะช่วยชะล้างน้ำตาที่ไหลออกมาไม่ขาดสาย แต่ในใจมันเจ็บ มันร้อนรนดั่งถูกไฟเผา
"เดี๋ยวก็เป็นหวัดกันพอดี"
รยออุคผวาสุดตัว เมื่อคนแปลกหน้าถือวิสาสะนำเสื้อสูทมาคลุมหัวเขา
"มะ..ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณ"รยออุคลละล่ำละลักด้วยความตกใจ
"ไม่เป็นไรอะไรกัน ยืนร้องไห้กลางสายฝนจนเปียกปอนเป็นลูกหมาตกน้ำอย่างนี้อ่ะนะ"
"ถึงผมเปียกเป็นลูกหมาก็เรื่องของผม คุณไม่ต้องมายุ่ง" รยออุคหน้าแดงกล่ำด้วยความอับอาย
"เหอะ ส่งเสียงได้อย่างนี้แปลว่าไม่เป็นอะไรแล้วจริงๆล่ะนะ งั้นไป!!"
"ไปไหน? ปล่อยนะ!!" ข้อมือเล็กถูกจับไว้แน่น รยออุคพยายามขัดขืนอีกฝ่ายที่กึ่งจูงกึ่งลากเขา ทั้งๆที่ไม่รู้จักกัน
"ก็คุณเป็นลูกหมาไม่ใช่เหรอ ผมเก็บคุณได้ ต่อจากนี้เป็นต้นไป คุณก็ต้องเป็นของผม"
"พูดบ้าๆ ปล่อยนะไอ้โรคจิต ปล่อย!!!!" รยออุควีดสุดเสียง ดิ้นรนสุดกำลัง แต่กลับถูกอีกฝ่ายดึงเข้าไปกอดรัด จนกระดุกกระดิกตัวแทบไม่ได้
"ถ้าผมปล่อย คุณก็เหงาน่ะซิ"
"คุณพูดอะไร ปล่อยนะ ปล่อย!!" รยออุคสะบัดสุดแรงจนทั้งคู่เซถลาล้มลงไปกับพื้น อีกฝ่ายก็ยังไม่ยอมปล่อย
"หยุดดิ้นเดี๋ยวนี้นะรยออุค!!"
"คุณรู้ชื่อผมได้ยังไง คะ..คุณเป็นโรคจิตจริงๆใช่ไหม ปล่อยผมนะ ปล่อยยยยยย"
"ใช่!! ผมรู้จักคุณ ผมแอบมองคุณ ผมรู้ว่าคุณกำลังเสียใจ กำลังเหงา ผมแค่อยากมาอยู่เป็นเพื่อนคุณ ชัดรึยัง"
"คุณไม่ต้องมาอยู่เป็นเพื่อนผม ผมอยู่เองได้ ไม่ต้องมายุ่ง!!"
"ร้องไห้กับผม ไม่ดีกว่าร้องไห้คนเดียวเหรอ"
คำสั้นๆที่เสียดแทงเข้าไปในหัวใจ ทำเอารยออุคสิ้นแรงขัดขืนเอาดื้อๆ น้ำตาที่ยังไม่ทันเหือดหาย เอ่อท้นขึ้นมาอีกครั้ง
"ผมรู้ว่าคุณกำลังต้องการใครสักคน เป็นผมนะรยออุค แค่คืนนี้"
รยออุคปล่อยโฮสุดเสียง คนแปลกหน้าโอบเขาไว้อย่างทะนุถนอม ความอัดอั้นตันใจที่มีถูกปลดปล่อยออกมาจนหมดสิ้น
เขาจูงมือรยออุคที่สะอึกสะอื้นเดินตามอย่างว่าง่าย มือใหญ่ทั้งแข็งแรงและอบอุ่น ตรงข้ามกับมือเล็กที่ซีดเซียวและเย็นเฉียบ
"นี่ห้องผม คุณอาบน้ำสักหน่อยนะ เดี๋ยวผมหาเสื้อผ้าให้"
ระหว่างรอ รยออุคกวาดสายตาไปทั่ว ห้องเรียบๆกับเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น เปียโน โต๊ะเขียนแบบ
"ไม่ต้องกลัวหรอก ห้องชายโสดน่ะ ไม่มีอะไรหรอก"
"อาบด้วยกันไหม?" รยออุครับเสื้อผ้าจากชายเสื้อคนแปลกหน้าแล้วถามตรงๆ
"อาบคนเดียวได้ไหม"
"อื้อ"
"งั้นอาบคนเดียวนะ เร็วๆด้วย ผมจะได้อาบต่อ"
รยออุคหายเข้าไปในห้องน้ำครู่ใหญ่ ก็ออกมาพร้อมกลิ่นหอมจางๆของครีมอาบน้ำ หน้าตาที่ซีดเซียว กลับอมชมพูเพราะน้ำอุ่นที่กระตุ้นให้ร่างกายสดชื่นขึ้น
"มานั่งนี่มา" เขาตบเบาะเรียกรยออุคที่ยืนงงอย่างทำอะไรไม่ถูก
"นั่งเฝ้าน้ำซุปไว้นะ เดี๋ยวผมอาบน้ำเสร็จแล้ว เรามาทานกัน"
รยออุคพยักหน้ารับหงึกๆ ตรงหน้ามีหม้อชาบูใบขนาดย่อม เบคอน กุ้ง ปลาหมึก ผักสารพัดชนิด พร้อมน้ำจิ้มหน้าตาอร่อยหลายอย่าง
"รอนานไหม" เขาถามเสียงร่าเริง
"ทำไมของกินเยอะอย่างนี้ล่ะ จะกินหมดเหรอเนี่ย"
"ไม่หมดก็ไม่เป็นไรนี่ เหลือไว้กินวันหลังได้ หม่ำกันเถอะ"
เขาลงมือหยิบโน่นจับนี่อย่างทะมัดทะแมง รยออุคนั่งมองอย่างงงๆ ต่างกับอีกฝ่ายที่เริ่มลงมือจัดการอาหารตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อย
"อ้าปาก"
"หืม"
เขาคีบเคบอนชิ้นใหญ่ยัดใส่ปากรยออุคที่จำต้องอ้าปากรับอย่างเสียมิได้
"อร่อยไหม?"
"อืม"
"กินเยอะๆนะ^^"
แม้สมองจะตื้อจนแทบไม่อยากจะรับอะไร แต่.....
"ร้องไห้อีกละ คุณนี่จริงๆเลยน้า" เขาเอื้อมมือมาเช็ดน้ำตาที่ไหลเป็นทางให้อย่างเบามือ
"งั้นรอผมแป๊บนึงนะ ผมมีอะไรจะให้" รยออุคพยักหน้ารับช้าๆอย่างไม่ใส่ใจนัก
Happy birthdat to you
Happy birthdat to you
Happy birthdat my angel
Happy birthdat to youuuuuu
"สุขสันต์วันเกิดครบ23ปีครับ"
ร่างเล็กทั้งตกใจและตื้นตันจนทำอะไรไม่ถูก
"นี่คุณจัด..งานวันเกิด ให้ผมงั้นเหรอ" รยออุคสะอื้นถามอย่างไม่เชื่อตัวเอง
"อธิษฐานซิครับ"
รยออุคหลับตาชั่วอึดใจ แล้วเป่าเทียนเพียงรวดเดียวก็ดับหมดทุกแท่ง เขายิ้มอ่อนโยนก่อนจะจัดที่ทางบนโต๊ะให้กับเค้กน่ารักที่เขาตั้งใจเลือกอย่างดี
รยออุคโถมเข้ากอดเขาสุดตัว เสียงสะอื้นที่แม้จะพยายามกลั้นแค่ไหน ก็ยังหลุดลอดออกมาให้คนแปลกหน้าได้ยิน มือหนาลูบไล้แผ่นหลังจากอ่อนโยน
"เริ่มต้นใหม่เถอะนะ รยออุค"
รยออุคผละออกมามองหน้าเขาชัดๆ เขานึกไม่ออกจริงๆว่าคนๆนี้คือใคร ทำไมต้องทำเพื่อเขา แต่ถึงเขาจะจำไม่ได้ เขาก็ไม่อยากลืมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้
"กอดผมได้ไหม ผมขอแค่คืนนี้" มือเรียวเล็กลูบไล้ดวงหน้าคม ริมฝีปากบางสั่นอย่างกล้าๆกลัวๆ
คนแปลกหน้าอุ้มร่างบางที่สั่นเทาวางลงบนเตียงอย่างเชื่องช้า ดวงตากลมบวมเป่งเพราะร้องไห้มานานนับชั่วโมง แววตาที่ทั้งวิงวอนและหวาดกลัว
ริมฝีปากหนาก้มลงกดจูบอีกฝ่ายอย่างทะนุถนอม
"ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณเคยทำเพื่อคนอื่น ผมจะทำให้คุณ ห้ามคิดถึงคนอื่นนอกจากผม"
ร่างบางพยักหน้ารับเพียงเบาๆ น้ำตาแห่งความเจ็บปวดถูกดูดซับไปจนหมดสิ้น ลืมทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้เสียใจจนแทบเป็นบ้า ปล่อยตัวปล่อยใจให้กับคนแปลกหน้า
<< แค่คืนนี้ >>
************************
ผมขมวดคิ้วมองลิฟท์ตัวเก่าตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก นี่ผมควรไปต่อ หรือหันหลังกลับดี
"คุณไปลิฟท์ไหมครับ ลิฟท์มาแล้วนะ" เสียงเล็กปลุกผมจากภวังค์
"เอ่อ..ไปครับไป"
ทั้งสองก้าวเข้าลิฟท์และเลือกชั้นที่ตนเองต้องการ ลิฟท์เลื่อนขึ้นไปเพียงไม่กี่ชั้นก็สะดุดกึก หยุดนิ่งไปซะเฉยๆ
"อะไร?? ลิฟท์ค้างเหรอ ลิฟท์ค้าง"
"ใจเย็นครับ ข้างนอกฝนตกหนัก ไฟเลยน่าจะตก เดี๋ยวก็ใช้ได้แล้วล่ะ ลิฟท์มันเก่น่ะครับ ก็เลยเป็นแบบนี้บ่อยๆ"
"ลิฟท์ค้างๆ แฮ่กๆๆ ชะ ช่วยด้วย ช่วยด้วย" ผมรู้สึกเหมือนกำลังจะหมดสติ หายใจไม่ออก
ร่างสูงลงไปขดตัวอยู่ที่พื้น เสียงหอบแรงจนน่ากลัว ร่างเล็กกดปุ่มฉุกเฉิน ก่อนจะถลาเข้าปลดกระดุมเสื้อเพื่อปฐมพยาบาลเบื้องต้น แต่กลับถูกอีกฝ่ายโถมเข้ากอดด้วยตัวที่สั่นเทา
"ไม่เป็นไรนะครับ กอดผมแน่นๆนะ เดี๋ยวก็ดีขึ้น" มือเรียวลูบแผ่นหลังหนาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
"ลิฟท์ใช้ได้แล้ว ไม่เป็นไรแล้วนะครับ ^^"
"ขะ..ขอบคุณ" นั่นคือคำเดียวที่ผมจะสามารถพูดออกไปได้ ความอับอายทำให้เขาต้องรีบออกไปจากตรงนั้นให้เร็วที่สุด
ครั้งแรกที่ติดตามผู้เป็นแม่มาที่ตึกแห่งนี้ แล้วหนีไปกดลิฟ์เล่นจนติดอยู่ในนั้นนานหลายชั่วโมงจนหมดสติ ทำให้ผมต้องนอนโรงพยาบาลหลายวัน และกลายเป็นความกลัวจนฝังใจ
ไม่คิดว่าเหตุการณ์เดิมจะย้อนกลับมาอีกครั้ง หากแต่มันต่างออกไปเพราะอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นของคนๆนั้น ไม่ว่าเวลาจะผ่านมานานเท่าไหร่ ผมก็ไม่เคยลืมรอยยิ้มที่แสนอ่อนโยนในวันนั้นเลย
"เฮ๊ย!!พวกมึง มาดูอะไรนี่"
"อะไรของมึงวะไอ้เย่ คึกแต่เช้าเลยนะมึง"
"เด็กใหม่กูเว๊ยยยย ฮ่าๆๆๆๆ"เยซองโชว์รูปบนหน้าจอมือถือให้กลุ่มเพื่อนของเขาดูจนทั่ว
"โหยยยย โครตน่ารักเลยว่ะ ยังเด็กอยู่เลยนะเนี่ย"
"เด็กบ้าอะไร ยี่สิบกว่าแล้วเว๊ย แต่มึงเอ๊ยยยย โครตสดเลย ไร้เดียงสาสุดๆ"
"ไอ้นี่เจ๋งว่ะ สมแล้วที่เป็นหัวหน้าแก๊งโฉด ฮ่าๆๆๆๆ"
รูปที่ผมเห็นทำเอาผมแทบช็อค คนที่ผมเฝ้าคิดถึงมาหลายปี กลับเข้ามาเกี่ยวข้องในชีวิตของผมอีกครั้ง ผมเฝ้าถามตัวเองว่าทำไม....ทำไม
เยซองเป็นเพื่อนสนิทที่ขึ้นชื่อเรื่องเปลี่ยนคู่นอนเป็นว่าเล่น ใช่...มันสนุกกับการฟันแล้วทิ้งไปทั่ว ซึ่งนั่นก็หมายความว่า อีกไม่นาน คนๆนี้จะถูกมันทิ้ง เหมือนที่คนอื่นเคยโดนมาแล้ว
"ผมควรทำยังไงดี"
คำถามมากมายวนเวียนอยู่ในหัว สุดท้ายผมกลายเป็นเหมือนพวกโรคจิตที่คอยแอบเฝ้าดูความเป็นไปของทั้งคู่
จนกระทั่ง.....
ผมรู้อยู่แล้วว่ายังไงเยซองก็ต้องไม่อยู่ฉลองวันเกิดกับรยออุค ผมตัดสินใจเตรียมจัดงานวันเกิดเล็กๆและตั้งใจจะบอกเขาตรงๆว่ามาฉลองวันเกิดกับผมเถอะ
แต่....
สถานการณ์หลายอย่างทำให้สิ่งที่ผมคิดไว้มันผิดพลาดไปหมด ผมหวังว่าเราจะเริ่มต้นสานสัมพันธ์กัน รู้จักกัน และสนิทกันมากขึ้นในอนาคต แต่เพราะผมไม่รู้จักห้ามใจ ฉวยโอกาสในเวลาที่เขากำลังอ่อนแอที่สุด
พอผมลืมตาตื่นขึ้นมาในตอนเช้า เขาก็หายไปแล้ว.....
"โอ๊ยยยยยยยยยยยเซ็งโว๊ยยยยย"
"ไอ้คยู มึงบ้าไปแล้วรึไงเฮ๊ย เดี๋ยวผมก็ร่วงหมดหัวหรอกมึง" คิบอมตะโกนข้ามโต๊ะกวนเพื่อนที่เอามือทึ้งหัวตัวเองเหมือนคนบ้า
"เรื่องของกุ แมร่งยิ่งคิดยิ่งโมโหตัวเอง หงุดหงิดๆๆๆ"
"ท่าจะเป็นเอามากนะมึง ไปโดนผีที่ไหนสิงมาวะ เห็นหงุดหงิดงุ่นง่านอยู่หลายวันละ เอ้า!!กาแฟ"
"ขอบใจว่ะเฮ เฮ้ออออ"
"ใจเย็นนะเพื่อน ถ้ามึงทำอะไรผิดแล้วมานั่งหงุดหงิด มันก็แก้ไขอะไรไม่ได้ ถ้ามึงไม่คิดจะแก้ไขก็ลืมๆมันไปซะ แต่ถ้ามึงอยากจะแก้ไขในสิ่งที่มึงทำ กูว่ามึงลงมือทำเหอะ"
"กูไม่กล้า"
"ถ้าสิ่งนั้นสำคัญมากพอที่จะทำให้มึงบ้าขนาดนี้ มึงต้องกล้าเว๊ย" ทงเฮตบบ่าให้กำลังใจเพื่อน
"อ้าวๆๆๆทุกคนมารวมตัวกันก่อนเร็ว!!" เสียงเรียกดังขึ้น ทุกคนจึงไปรวมกันที่หน้าห้องหัวหน้าแผนก
เพียงแว่บเดียวที่คยูฮยอนเห็นร่างบางที่ยืนข้างหัวหน้า เขาก็จำได้ทันทีว่านั่นคือ
<< คิม รยออุค >>
เขาหันไปมองเยซองที่ทำหน้าเฉยชาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก่อนหันไปมองรยออุคอีกครั้ง
"วันนี้แผนกเรามีพนักงานมาใหม่นะ แนะนำตัวกับพี่ๆเขาหน่อยซิ"
"สวัสดีครับ ผมคิม รยออุคครับ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ"
เสียงกระซิบกระซาบฟังไม่ได้ศัพท์ดังไปทั่ว แน่ล่ะ...ทุกคนที่นี่เคยเห็นรูปของรยออุค รู้เรื่องของรยออุคจากปากเยซองกันหมดแล้ว
"ผมเคยเป็นแฟนกับพี่เยซองครับ" รยออุคพูดยิ้มๆแต่ทำให้ทั้งแผนกฮือฮาขึ้น
"แต่ตอนนี้เราเลิกกันแล้ว และ................" รยออุคสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดก่อนจะผ่อนลมออกช้าๆ
"ผมรู้ว่าลับหลังผม พี่เยซองทำอะไรบ้าง แม้ว่าพี่เยซองจะเคยเอาผมไปนินทาในห้องแชทกลุ่ม แอบถ่ายรูปผมไปโพสอย่างสนุกสนาน แต่นั่นมันก็เป็นแค่อดีต ได้โปรดให้โอกาสผมทำงานที่นี่ในฐานะมัณฑนากรคนใหม่ของบริษัทด้วยนะครับ"
เสียงปรบมือดังลั่น หลายคนที่รู้นิสัยของเยซองดีก็ยังอดไม่ได้ที่จะพากันมองเยซองที่ยืนทำหน้าไม่ถูก จนเขาต้องผละออกจากห้องไป
"คยูฮยอน ฝากดูแลน้องใหม่ด้วยนะ"
"คะ..ครับ" แม้จะรับปาก แต่เขาก็ยังไม่กล้าสบตารยออุคตรงๆ
"เอาล่ะทุกคน แยกย้ายกันไปทำงานได้"
"ครับ / ค่ะ"
รยออุคเดินเข้าหาคยูฮยอนที่ยืนตัวแข็งท่ออย่างทำอะไรไม่ถูก
"ขอบคุณนะครับที่ทำให้ผมคิดอะไรได้ตั้งมากมาย"
"รยออุค ผม...."
"ผมเห็นไดอารี่ กับรูปวาดของผมในห้องคุณแล้ว"
"หืม?"
"ผมก็อยากรู้เหมือนกันนี่ ว่าคนแปลกหน้าที่รู้ทั้งชื่อและวันเกิดของผมคือใคร ผมก็เลยแอบค้นห้องคุณนิดหน่อย"
"คุณอ่านหมดเลยเหรอ?"
"ครับ อ่านหมดเลย"
"โอยยย น่าอายชะมัด"
"ไม่หรอกครับ เพราะนั่นล่ะคือสิ่งที่ทำให้ผมเห็นคุณค่าของตัวเองมากขึ้น ขอบคุณมากนะครับ"
"แล้ว........เรื่องของเรา"
"คึคึคึ เรามาเริ่มต้นกันใหม่หมดเลยดีกว่านะครับ หรือไม่ก็ เริ่มจากวันที่ฝนตกวันนั้น"
"งั้นผมขอเริ่มจากวันนั้นนะ เพราะมันคือความทรงจำที่ดีที่ดีที่สุดในชีวิตผม"
"ผมก็เหมือนกัน"
ทั้งสองสบตากันเนิ่นนาน รอยยิ้มที่อ่อนโยนและจริงใจที่มีให้ จะนำพาพวกเขาก้าวผ่านอดีตไปด้วยกัน รอจนกว่าจะถึงวันนั้น วันที่ความรักชุ่มฉ่ำเบิกบานเต็มหัวใจ
***************************
..จบ..
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น