คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : 4 Kings : Chapter 6
นักเรียนชายจำนวนหนึ่งยืนจับกลุ่มกันอยู่บริเวณสระหน้าตึกกิจกรรม โดยที่มีร่างเล็กของชางบินอยู่ในสระน้ำแห่งนั้น ยังดีที่เขาพอว่ายน้ำเป็นบ้างเพราะสระแห่งนี้ลึกพอตัว เมื่อตอนที่ร่างเล็กวิ่งมาถึงที่นี่ คนพวกนั้นก็ต่างพูดถึงเกี่ยวกับเรื่องพาร์ทเนอร์ แล้วบังคับให้ชางบินลงแข่ง เพราะถ้าเขาลงควีนจองอินต้องลงแน่ๆ คนพวกนั้นจะล่าตัวจองอินมาน่าจะเรียกค่าตัวจากคิง ซึ่งมันบอกว่าน่าจะได้ราคาสูงอยู่พอตัว แต่เมื่อเขาไม่ยอมตกลง พวกมันก็โยนรูปของพ่อของเขาลงสระทันที เขาเลยต้องมาอยู่ในสภาพลอยคออยู่กลางสระแห่งนี้
ไม่นานนักชางบินก็ว่ายมาถึงขอบสระ ในขณะที่เขากำลังยันตัวเองขึ้นจากน้ำ อยู่ๆคนพวกนั้นก็มากระชากเขาขึ้นไปทันที มิหนำซ้ำยังกดตัวเขาลงบนพื้นหญ้าพร้อมกับคนหนึ่งในกลุ่มที่ลงมานั่งทับตัวเขาไว้
“ปล่อยนะเว้ย!”
“ดูดีๆก็น่ารักเหมือนกันนี่หว่า.. ยิ่งตอนเวลาที่นายกำลังตกใจ ยิ่งเหมือนกระต่ายตัวน้อยที่กำลังตกใจนายนายพรานเลย..”
คนตรงหน้าพูดพร้อมเอามือมาลูบไล้ตามใบหน้าของเขา ชางบินหันหน้าหนีพร้อมกับปล่อยคำด่าคนพวกนั้นออกมา แต่ดูเหมือนคนพวกนั้นจะยังไม่หยุดการกระทำที่ชั่วช้า ชางบินพยายามดิ้นสุดแรง แต่ก็ไม่เป็นผล คนพวกนั้นเอาแต่หัวเราะให้กับท่าทางที่ดิ้นไม่หลุดของคนตัวเล็ก
“ดูเหมือนพวกนายจะจับนักเรียนที่ผิดกฎของฉันไว้ได้นะ” เสียงทุ้มของใครบางคนที่ชางบินรู้สึกเหมือนจะคุ้นหูไม่น้อย แต่นาทีนี้ไม่ว่าจะใครเขาก็ต้องการความช่ววยเหลือทั้งนั้น
“ช่วยด้วยๆ!” ชางบินเริ่มร้องออกมา ทำให้คนด้านบนเอามือมาอุดปากของเขาเอาไว้
“ผมว่าคิงเข้าใจผิดนะครับ คนนี้คือ..”
“ผู้ใดที่ทำให้โรงเรียนเสียหายในทางชื่อเสียงหรือทางทรัพย์สินก็ตาม ผู้นั้นจะต้องถูกนำไปสำเร็จโทษตามแต่ละกรณี หรือพวกนายอยากโดนด้วยก็ได้นะ ฉันเคลียร์ได้สบายๆ” เมื่อฮยอนจินพูดจบ คนพวกนั้นก็ปล่อยตัวอีกคนทันที ร่างเล็กที่เป็นอิสระก็รีบวิ่งมาหลบข้างหลังเขาทันที พร้อมกับคนพวกนั้นที่โค้งให้เขาก่อนจะวิ่งหายไปอย่างรวดเร็ว
“เจอนายที่ไรรู้สึกจะมีแต่ปัญหาตลอดเลยนะ”
“ม..ไม่ใช่นะ! พวกนั้นมันมาหาเรื่องก่อน ฉันไม่ได้ทำอะไร!” คนตัวเล็กที่แอบอยู่ข้างหลังเมื่อสักครู่เปลี่ยนตำแหน่งมายืนหน้าของเขาพร้อมกับพูดเถียงใส่เขาอย่างที่ชอบทำ..
“พึ่งรู้ว่าพวกเด็กทุนพูดกับผู้มีบุญคุณที่ช่วยชีวิตไว้ด้วยกริยาแบบนี้” คนตัวเล็กข้างหน้าเขาชะงักเล็กน้อย ก่อนจะเปลี่ยนจากใบหน้าที่ดื้อๆเป็นใบหน้าสำนึกผิดแทน ตาโตๆของอีกคนหลุบต่ำลง ผมหน้าม้าที่เปียกน้ำลู่ลงมาปรกหน้า ใบหน้าเรียวที่พอมองใกล้ๆกับมีก้อนแก้มกลมๆ ปากกระจับเล็กๆที่เวลาคนตรงหน้าเริ่มเถียงทีไรมักจะเชิดขึ้นทุกครั้ง ก็คงไม่แปลกที่คนพวกนั้นจะอดใจไม่ได้เวลาจะแกล้งคนตัวเล็ก เพราะขนาดตัวเขายังมีบางครั้งที่เผลอจ้องอีกฝ่ายอย่างไม่รู้ตัว เช่นตอนนี้..
“ขอโทษ แล้วก็ขอบคุณ..ครับ..” เอ่ยออกมาด้วยเสียงแผ่วเบา
“นายโดดลงไปในสระ ทำให้สระเสียหาย เพราะฉนั้นนายมีความผิด”
“แต่ฉันไม่..”
“เถียงคิงหรอ ความผิดนายเพิ่มขึ้นอีก 1 ข้อ ดูเหมือนนายจะไม่เกรงกลัวคิงสักคนเลยนะ อยากรู้ซะแล้วสิว่านายจะเก่งเหมือนปากมั้ย” พูดจบก็เดินไปหาคนตรงหน้า พร้อมรอยยิ้มที่ชางบินรู้สึกเสียวสันหลังแปลกๆ..
.
.
“มาเป็นพาร์ทเนอร์ของฉันซะซอ ชางบิน”
สภาพห้องตอนนี้บอกตามตรงว่าเละอย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน ไหนจะตัวของเขาเองที่สภาพดูไม่ได้ กลิ่นเหม็นของน้ำในสระตลบอบอวลไปทั่วห้อง นับวันเขายิ่งเจอแต่เรื่องแย่ๆมากขึ้นไปอีก ระหว่างนั้นร่างเล็กก็จัดการห้องของตนเองพร้อมกับอาบน้ำทำความสะอาดร่างกาย เมื่อทำธุระส่วนตัวเสร็จเขาก็กลับมานั่งบนโต๊ะเรียนของตน
“ดีนะที่รูปไม่เสียหายอะไร”
เขานั่งจมอยู่กับกองหนังสือได้เพียงไม่นานก็ลุกมาทิ้งตัวนอนบนเตียงด้วยความเมื่อยล้า จู่ๆเหตุการณ์เมื่อเย็นก็ผุดขึ้นมา ทำไมคิงต้องอยากได้ตัวเขาไปเป็นพาร์ทเนอร์.. แล้วการที่เขาปฏิเสธพร้อมกับวิ่งหนีออกมาแบบนั้นจะมีผลอะไรอีกมั้ยนะ.. นึกได้เช่นกันก็ได้แต่ถอนหายใจให้กับชีวิตของตัวเอง
เขาเกิดมาเป็นตัวของเขาเอง ไม่ได้เป็นทาสของใครทั้งนั้น!
อาจารย์สาวพัค จีฮโยเดินถือปึ๊งกระดาษเข้ามาในห้อง นักเรียนในห้องต่างรีบกลับมานั่งที่อย่างเป็นระเบียบ วันนี้เป็นวันที่คะแนนการทดสอบวัดผลก่อนเรียนของวิชาฟิสิกส์ออก ทุกคนต่างลุ้นคะแนนของตน รวมถึงตัวเขาเช่นกัน อาจารย์พัคค่อยๆไล่บอกคะแนนตามรายชื่อไปเรื่อยๆ จนในที่สุด ก็ถึงชื่อของเขา..
“ซอ ชางบิน”
“ครับ”
“คะแนนเราไม่ออกนะ”
“อ้าว.. ทำไมล่ะครับ?”
“คิงฮยอนจินฝากบอกว่ามาถ้ามีข้อสงสัยให้ไปถามเขาดู”
ทั้งห้องเงียบสนิท ไม่นานนักเพื่อนๆในห้องต่างเริ่มซุบซิบกันเกี่ยวกับเรื่องครั้งนี้ ‘ทำอะไรให้คิงไม่พอใจแน่ๆ’ ชางบินที่ได้ยินแบบนั้นก็พยายามไม่สนใจ คงเป็นเพราะว่าเขาปฏิเสธไปแน่ๆ..
“นายโอเคนะ” พี่อูจินกับจองอินที่นั่งอยู่ข้างหน้าหันมาถามด้วยความเป็นห่วง ถามว่าโอเคมั้ย มันไม่มีใครโอเคหรอก แต่เขาจะทำยังไงได้ล่ะ..
“ผมพอจะมีทางมั้ยพี่อูจิน”
“พี่ไม่รู้จริงๆ เอาเป็นว่าเดี๋ยวเย็นนี้พี่จะลองไปถามๆให้ เผื่อคิงจะยอมบอก วันนี้พี่ต้องรีบไปหาคุณหนูน่ะ” พี่อูจินอธิบายพร้อมกับยื่นมือมาขยี้หัวเขาเบาๆ บางทีพี่เขาก็อบอุ่น บางทีก็ดูน่ากลัวแปลกๆ แต่เขาก็เริ่มชินซะแล้ว
ตกเย็นพี่อูจินก็รีบวิ่งออกไปทันที ทำให้ตอนนี้เขากับจองอินกลับมาอยู่ด้วยกันสองคนอีกครั้ง เราสองคนคุยกันถึงแผนการที่จะบุกไปหาจีซอง เนื่องจากวันนี้เพื่อนหน้ากระรอกของพวกเขาไม่ได้มาเรียนทั้งวัน แถมอาจารย์ก็ไม่ได้สนใจถามอะไรด้วย ต้องเป็นฝีมือคิงชานเเน่ๆ…
“ตามนี้นะ เดี๋ยวฉันจะเป็นคนบอกไนท์ว่าซึงมินให้มาเอาของที่ห้องคิงชาน แล้วนายก็อยู่นิ่งๆนะ พยายามอย่ามีพิรุธ ไนท์ถามอะไรเดี๋ยวฉันจะเป็นคนตอบเองทั้งหมด”
“โอเค”
ไม่นานนักทั้งสองก็ตรงขึ้นไปที่ชั้นบนของหอพักทิศเหนือทันที ทั้งสองรู้จากพี่อูจินมาว่าวันนี้คิงมีการประชุมรวมอีกครั้ง จึงเป็นการดีที่พวกเขาจะเริ่มแผนกันวันนี้ เมื่อถึงชั้นบนสุด ทั้งคู่ก็ดำเนินการตามแผนที่วางกันไว้ จองอินเจรจากับไนท์ได้เพียงไม่นานพวกนั้นก็ปล่อยให้เขาสองคนผ่านไป จองอินเดินนำทางไปเพราะห้องคงไม่ต่างจากคิงซึงมินมากนัก ไม่นานทั้งคู่ก็เดินไปถึงห้องพักของคิงชาน
“เดี๋ยวนะ.. แล้วเราจะเข้าห้องยังไง” ชางบินที่นึกขึ้นได้จึงถามอีกคนไป
“ลืมเลย..”
“ลองเคาะมั้ย ถ้าจีซองอยู่ด้านในน่าจะออกมาเปิดให้”
“โอเค” ตกลงกันเสร็จมือเล็กก็ยกขึ้นเคาะประตูทันที โดยมีจองอินคอยมองต้นทางไว้ เพียงไม่นานประตูก็เปิดออก ปรากฏเป็นร่างเพื่อนของเขาในชุดเสื้อยืดตัวบางสีขาวกับกางเกงขาสั้นสีฟ้า จีซองมีสีหน้าตกใจอย่างมาก ก่อนที่จะโดนเพื่อนทั้งสองดันเขาเข้ามาในห้อง
“พวกนายขึ้นมาได้ไง!?” จีซองที่ตกใจก็รีบยิงคำถามใส่ทันที
“มารับนายไง ไปเร็วๆ” ชางบินที่ดึงแขนเพื่อนตัวบางไป แต่อีกฝ่ายก็ดันขัดขืนเขาซะงั้น ระหว่างที่ทั้งสองกำลังยื้อยุดกันอยู่นั้น จองอินก็ได้สังเกตเห็นรอยคล้ำๆเป็นจุดๆที่ต้นคอของจีซอง..
“จีซอง.. อย่าบอกนะว่ารอยที่คอนั่น..” ได้ยินดังนั้นจีซองก็รีบเอามือข้างที่ว่างขึ้นมาปิดที่ต้นคอทันที ใบหน้าของเขาตอนนี้ขึ้นสีอย่างเห็นได้ชัด
“ทำไมคิงชานมันทำแบบนี้” ชางบินพูดด้วยความหัวเสียก่อนที่จะมีเสียงหนึ่งดังขึ้น
“ฉันมันทำอะไรหรอซอ ชางบิน”
ทั้งสามหันไปยังต้นเสียงก็ต้องตกใจเมื่อพบคิงชานยืนอยู่หน้าประตูพร้อมกับคิงอีกสองคนที่เดินเข้ามาสมทบ ทั้งสามมองมายังพวกเขาด้วยสายตาเรียบนิ่ง ก่อนจะเป็นคิงชานที่เดินเข้ามาหาพวกเขา
“กล้ามากเลยนะที่บุกขึ้นห้องของฉันโดยพลการอย่างไม่เกรงกลัวอำนาจใดๆทั้งสิ้น”
“...”
ไม่มีเสียงตอบรับจากทั้งสามคน ฮยอนจินรู้สึกว่านี่คงจะเป็นครั้งแรกล่ะมั้ง ที่คนชอบเถียงอย่างซอ ชางบินไม่มีปฏิกริยาตอบกลับ สงสัยคงจะรู้ตัวว่าผิดจริงๆ
“ยาง จองอิน ถึงนายจะเป็นควีนของซึงมิน แต่นายก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะมายุ่งห้องของคิงคนอื่น”
“แต่คุณก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะกักขังหรือล่วงละเมิดเพื่อนผมแบบนี้” ชางบินสวนกลับไปทันที ชานที่ได้ยินดังนั้นจึงชักสีหน้าแล้วเดินไปหาคนตัวเล็กทันที จีซองที่เห็นท่าไม่ดีจึงขยับตัวมาบังเพื่อนของเขาไว้อย่างที่เคยทำ
“พี่ชาน.. ผม.. ผมขอนะ อย่าทำเขา อย่าทำชางบิน” จีซองพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ
“นายจะปกป้องมันไปถึงเมื่อไหร่จีซอง หรือจริงๆแล้วนายไม่ได้อยากอยู่กับฉัน” ชานกดเสียงต่ำ จองอินที่เห็นปฏิกริยาของชานก็เริ่มรู้แล้วว่าอีกคนเริ่มโกรธเต็มที่.. คิงชานไม่ค่อยโกรธอะไรง่ายๆ ครั้งสุดท้ายที่เขาเคยเห็นก็คือตอนที่โรงเรียนคู่แข่งมาสร้างความวุ่นวายภายในโรงเรียนเรา หลังจากนั้นก็ไม่เคยเห็นอีกเลย ความกลัวเริ่มก่อตัวในตัวของจองอินมากขึ้น ซึงมินทีี่สังเกตอาการเขาได้จึงเดินเข้ามาพาตัวอีกคนออกไป
“เดี๋ยวจองอินฉันจัดการเอง เรื่องนี้ฉันไม่ปล่อยหรอก ขอโทษแทนด้วย” น้ำเสียงซึงมินที่จริงจังต่างไปจากปกติ ทำให้ชางบินเริ่มหวั่นเช่นเดียวกัน เพื่อนของเขากับคิงชานยังคงปะทะกันด้วยสายตาและรังสีที่แผ่ออกมา.. ส่วนอีกคนที่ตอนนี้ยืนกอดอกพิงประตูมองเขาด้วยสายตานิ่งๆกลับไม่ช่วยอะไรสักนิด.. อย่างน้อยเรียกออกไปด่าก็ยังดี เขารู้ว่าตอนนี้อึดอัดมากๆ TT
“ตอนนี้ผมก็อยู่กับพี่ตลอด ผมก็ไม่ได้ไปไหน พี่ต่างหากที่ยังกลัว”
“งั้นแปลว่าที่ผ่านมานายก็เป็นเหมือนเดิมใช่มั้ยจีซอง”
“พี่ชาน..”
“ฉันให้โอกาสนาย นับ 1-3 ถ้านายอยากเป็นอิสระจากฉัน นายก็ออกจากห้องไปซะ แต่ถ้าไม่.. หึ เราคงต้องเคลียร์กันหน่อยนะ ฮัน จีซอง”
ชางบินได้ยินดังนั้นจึงพยายามดันเพื่อนอีกคนให้ออกมา แต่จีซองกลับนิ่งเฉย คิงชานยังคงนับต่อไปเรื่อยๆ ระหว่างที่เขากำลังยืนงงกับเพื่อนของตนก็มีมือใหญ่มาดึงแขนของเขาให้ออกจากห้องไป ชางบินหันมองก็พบกับร่างสูงของฮยอนจินที่กำลังลากเขาออกมา คนตัวเล็กเตรียมที่จะอ้าปากพูดแต่ก็โดนฮยอนจินขัดขึ้นเสียก่อน “เงียบ แล้วตามมาเฉยๆ แค่นี้ยังสร้างปัญหาไม่พอหรือไง” พูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งจนน่ากลัว ชางบินจึงเลือกที่จะทำตาม
ร่างสูงพาเขาขึ้นรถส่วนตัวของตนออกมาจากหอทิศเหนือเพื่อกลับหอของตน เขายอมขึ้นอย่างว่าง่าย เพราะอีกฝ่ายคอยส่งสายตาอำมหิตมาหาเขาทุกครั้ง ระหว่างที่นั่งอยู่บนรถชางบินที่มีความสงสัยถึงการใช้รถส่วนตัวของอีกคนจึงถามออกไป
“กฎห้ามใช้รถส่วนตัวไม่ใช่หรอ แล้วทำไม..”
“ไม่ต้องสงสัยมาก นั่งไปเงียบๆก็พอ” ได้ยินดังนั้นคนตัวเล็กก็หุบปากของตัวเองลงทันที คนตัวเล็กนั่งนิ่งๆตามคำสั่งของคิงมาตลอดทางจนถึงหอตะวันตก อีกฝ่ายสั่งให้คนตัวเล็กเดินตามเขาขึ้นไปเงียบๆที่ชั้นบนสุด เมื่อไปถึงห้อง คนตัวสูงก็เดินไปนั่งบนโซฟาตัวยาวก่อนจะสั่งให้เขานั่งลงตาม
“ความผิดของนายครั้งนี้ โทษของนายก็คือไล่ออกสถานเดียว” คนตัวสูงพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ชางบินได้ยินดังนั้นจึงคุกเข่าลงไปกับพื้นทันที
“ฉ..ฉัน..ฉันขอโทษ ฉันจะไม่ทำอีกแล้ว ขอโอกาสให้ผมได้มั้ย ผมไม่อยากโดนไล่ออก ถ้าผมออกพ่อของผมต้องโดนไล่ออกจากงานแน่ๆ”
“แล้วนายทำทำไม”
“ฉันก็แค่อยากช่วยจีซอง.. คิงซึงมินบอกว่านมีวิธีเดียวนั่นคือบุกไปชิงตัว..”
“แล้วนายก็เชื่อ? จริงๆถ้านายไม่รั้นก็คงไม่เกิดปัญหาแบบนี้หรอกซอ ชางบิน เอาเป็นว่า เดี๋ยวฉันเซ็นเอกสารให้นายออกตอนนี้เลย” พูดจบก็ลุกขึ้นไปยังโต๊ะทำงานพร้อมกับหยิบเอกสารออกมาหนึ่งใบ
“ให้ฉันทำอะไรก็ได้!” มือยาวชะงักลงพร้อมกับหันมาถามอีกฝ่าย
“ว่าไงนะ”
“หะ..ให้ฉันทำอะไรก็ได้.. ฉันยอม.. แต่ได้โปรด.. อย่าไล่ฉันออกจากโรงเรียนเลย” ร่างเล็กที่ยืนก้มหน้าน้ำตาคลอ ไม่แม้แต่จะสบตาเขาตรงๆ ข้อเสนอนี้น่าสนใจยิ่งนักสำหรับเขา ร่างสูงเดินถือเอกสารฉบับนั้นมาทางร่างเล็ก ก่อนจะเอ่ยออกมา “แก้ผ้าสิ” ร่างเล็กเงยหน้าขึ้นมาด้วยความตกใจ ใช่.. คิงต้องล้อเขาเล่นแน่ๆ
“หึ เก่งแต่ปาก” ไม่รอช้า มือใหญ่หยิบปากกาเซ็นลงไปที่กระดาษแผ่นนั้นทันที ชางบินที่เห็นแบบนั้นจึงไม่มีทางเลือกอะไรที่ดีไปกว่า ทำตามที่อีกคนบอก.. มือเล็กค่อยๆปลดกระดุมเสื้อนอกก่อนจะถอดกองเอาไว้ที่พื้น พร้อมกับค่อยๆปลดกระดุมเสื้อตัวในอย่างช้าๆ การทำแบบนี้เป็นสิ่งที่ชางบินคิดว่าอัปยศที่สุดในชีวิตที่เขาเคยทำมา ฮยอนจินมองอีกคนที่กำลังถอดเสื้อผ้าอ้อยอิ่งอย่างขัดใจ ก่อนที่จะเดินมาากระชากมือของอีกคนออกพร้อมกับกระชากเสื้อตัวในของเขาติดมือออกมา เผยเป็นเนื้อเนียนขาวนวล ที่ดูน่าสัมผัสยิ่งนัก เอวที่คอดของอีกฝ่ายทำให้ฮยอนจินพอใจเป็นอย่างมาก
“พูดออกมาซอ ชางบิน ว่านายจะเป็นพาร์ทเนอร์ของฉัน”
“...”
“งั้นก็ออกไ..”
“ฉันเป็นพาร์ทเนอร์ของคิงฮยอนจิน! ฉันจะทำตามที่บอกทุกอย่าง!” ได้ยินดังนั้นก็เดินตรงไปหาอีกคนพร้อมกับดึงรั้งเอวบางมาแนบชิดตัว มือหนาลูบไล้ใบหน้าของอีกคน ก่อนจะเปลี่ยนมาจับปลายคางอีกคนให้เชิดขึ้น ยามไม่ดื้อก็เหมือนกระต่ายน้อยไม่มีผิด
“แล้วนายจะสบายชางบิน แค่ทำตามที่ฉันต้องการก็พอ” พูดจบก็ประกบริมฝีปากหนาของตนลงบนริมฝีปากบาง ร่างเล็กดิ้นขัดขืน แต่ก็ได้เพียงเล็กน้อยเมื่อมือแกร่งข้างหนึ่งยกขึ้นมาจับมือเล็กไว้ ส่วนมืออีกข้างก็รั้งตัวอีกคนแน่น
ค่ำคืนนี้ฮยอนจินจะสอนให้ชางบินได้รู้ถึงหน้าที่ของพาร์ทเนอร์คร่าวๆในการรับใช้เขา นั่นก็คือทำให้เขามีความสุขทุกอย่างแม้กระทั่งเรื่องบนเตียง..
ตั้งแต่ที่ซึงมินลากตัวเขามาจากหอคิงชาน คนตัวโตก็ยังไม่มีทีท่าจะปล่อยเขาสักที ทั้งพยายามโวยวายก็แล้ว บ่นก็แล้ว แต่อีกฝ่ายก็ยังคงนิ่งซึ่งผิดจากเวลาปกติมากๆ ก็คงจะโกรธมากๆสินะ ตั้งแต่ลงจากรถ จองอินจึงยอมให้อีกคนลากขึ้นห้องของคิงไปอย่างง่ายดาย ซึ่งถ้าเป็นปกติโอกาสที่เขาจะขึ้นไปห้องของซึงมินเป็นไปได้ยากมากๆ..
เมื่อถึงห้อง คนตัวโตก็ปล่อยให้เขาเป็นอิสระทันที ยังดีที่อีกฝ่ายไม่ได้กระชากเขาอย่างรุนแรง ไม่งั้นเขาไม่พอใจแน่ๆ..
ซึงมินเดินไปมาในห้องในขณะที่เขานั่งจุ้มปุ๊กอยู่บนเตียงของอีกคน ร่างสูงเดินไปหยิบผ้าห่มอีกผืนออกมาก่อนจะเดินเอามาให้เขา
“คืนนี้นอนนี่ซะ ไม่ต้องกลับห้อง เสื้อผ้ากับผ้าขนหนูของเราอยู่ที่เดิม” พูดจบร่างสูงก็เดินหายออกไปนอกห้องทันที คงจะออกไปเคลียร์เรื่องเด็กในหอแน่ๆ เพราะระหว่างที่เขาทั้งสองกำลังขึ้นห้องก็มีไนท์คนหนึ่งมาแจ้งบางอย่างให้ผู้ดูแลเขตทิศใต้อย่างซึงมินฟัง
เห็นซึงมินเป็นคนอย่างนั้นก็เถอะ แต่จองอินก็รู้สึกดีที่อีกฝ่ายไม่เคยล่วงเกินอะไรเขาแม้แต่น้อย ถึงจะชอบวอแว บางครั้งก็เอาอำนาจมาบังคับให้เขาอยู่ด้วยก็เถอะ แต่ก็ได้แค่นั้นจริงๆ เวลาที่อีกฝ่ายบังคับให้เขามานอนด้วยอย่างเช่นวันนี้ ก็จะมีผ้าห่มแยกให้ เพราะอีกฝ่ายรู้ว่าเขาไม่ชอบอะไรทำนองนั้น บางทีเขาก็แอบสงสารนะที่เห็นหน้าลูกหมาหงอยของอีกฝ่าย แต่ก็หมั่นไส้ทุกครั้งเวลาที่เห็นอีกฝ่ายได้ใจ
จองอินทำธุระส่วนตัวเสร็จก็มานั่งดูทีวีอยู่ที่โซฟา ไม่นานนักคนตัวสูงก็เดินเข้าห้องมา
“ซึงมิน..” เรียกอีกฝ่ายเบาๆด้วยน้ำเสียงน่ารักๆ
“....” ไร้ซึ่งการตอบรับจากอีกฝ่าย จองอินเห็นดังนั้นจึงเพิ่มลูกอ้อนใส่ทันที
“ขอโทษ.. จะไม่ทำแล้ว.. ก็แค่เป็นห่วงจีซองเอง” พูดเสียงอ่อนพร้อมก้มกกน้าก้มตา ซึงมินน่ะแพ้ลูกอ้อนเขาจะตาย ไม่นานนักร่างสูงก็เดินมานั่งข้างๆพร้อมกับวางมือไว้บนหัวของเขาก่อนจะโยกไปมาเบาๆ
“ก็รู้ว่าผิดแต่ก็ยังทำ ว่าแล้วก็จะทำโทษอะไรดีน้า..”
“กล้าทำหรอ!” หันไปถามอีกฝ่ายเสียงแข็ง
“ไม่ครับๆ ไม่กล้าทำโทษหรอกครับ”
“ดี! งั้นก็ไปอาบน้ำ!”
“ครับ~” ตอบพร้อมวิ่งหายวับไปในห้องน้ำทันที
ก็นะคราวนี้เขาผิดจริงๆก็ต้องเอาตัวรอดไว้ก่อนสิ ก็ซึงมินน่ะ แพ้เขาจะตาย~
ความคิดเห็น