Fic Vampire Company ตอน วันธรรมดาๆกับจาฮาลเวอร์ชั่นมินิ - Fic Vampire Company ตอน วันธรรมดาๆกับจาฮาลเวอร์ชั่นมินิ นิยาย Fic Vampire Company ตอน วันธรรมดาๆกับจาฮาลเวอร์ชั่นมินิ : Dek-D.com - Writer

    Fic Vampire Company ตอน วันธรรมดาๆกับจาฮาลเวอร์ชั่นมินิ

    จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อจู่ก็มีแวมไพร์ตัวน้อยที่หน้าตาเหมือจาฮาลทุกระเบียบนิ้วโผล่เข้ามาให้ ทายาทแห่งซาลซ์ต้องปวดหัว!!!

    ผู้เข้าชมรวม

    631

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    6

    ผู้เข้าชมรวม


    631

    ความคิดเห็น


    5

    คนติดตาม


    3
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  19 ส.ค. 56 / 22:36 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      Fic Vampire Company  ตอน วันธรรมดาๆกับจาฮาลเวอร์ชั่นมินิ

       

                      ในเวลาที่ดวงตะวันกำลังลาลับขอบฟ้า แสงสีส้มแดงจากดวงตะวันค่อยๆทอแสงสองสะท้อนไปทั่ว ไม่เว้นแม้แต่ตึกเก่าๆหลังหนึ่งที่อยู่ในซอกหลืบใจกลางเมืองที่ปราศจากแสงไฟใดๆทั้งสิ้นจนประหนึ่งบ้านผีสิง แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่า..ที่แห่งนี้คือที่ตั้งของบริษัทรับจ้างปราบปีศาจที่มีนามว่า ‘Vampire Company’

                      “อ๊ากกก!!!นี้มันเกิดอะไรขึ้น!!!

                      ที่บัดนี้ดังลั่นไปด้วยเสียงกรี้ดร้องดั่งลั่นของหนึ่งแวมไพร์ และตามมาด้วยเสียงของความวุ่นวายที่คงจะทำให้บริษัทที่เงียบสงบนั้นวุ่นวายไปได้ทั้งคืน..

       พวกคุณคิดแบบนั้นหรือเปล่า

      ในตอนนี้ดวงตะวันที่เคยทอแสงลาลับไปแล้ว บนท้องฟ้าในเวลานี้ ดวงตะวันได้ถูกแทนที่โดยดวงจันทราที่ส่องแสงใสกระจ่างชวนให้แหงหน้าขึ้นมองท้องฟ้า แต่ถึงแม้ว่าจะชวนมองมากแค่ไหนก็ตามที บัดนี้มันกลับไม่สามารถเบนสายตาของทายาทแห่งซาลซ์ไปจากดวงตาสีแดงกลมโตตรงหน้าไปได้

      เรื่องทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นจากความอึดอัดในยามเช้าของทายาทแห่งซาลซ์ นามเจนีส ซาลซ์ที่พอลืมตาขึ้นมาเพื่อมองหาสาเหตุของความอึดอัดในยามเช้า ดวงตาสีแดงสดค่อยสอดส่ายสายตามองไปในความมืดของโลกศพอย่างช้าๆ แต่เมื่อเขาได้พบกับสาเหตุของความอึดอัดเจนีสก็ต้องเบิกตากว้างพร้อมกับกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ กับดวงตากลมโตสีแดงและเส้นผมสีแดงอันเป็นเอกลักษณ์ของจาฮาล ทั้งๆที่จาฮาลในร่างคางค้าวตัวน้อยนั้นก็ยังนอนอยู่ข้างๆเขา!!! จนเกิดเป็นเหตุให้ทั้งเซโง่ เอนคาร์และ เชย์ออน มาเอล ต้องวิ่งวุ่นเข้ามาดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น

      กลับมาที่ปัจุบัน..

      สถานะการในตอนนี้จะว่ามันเลวร้ายมันก็เลวร้าย จะว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้นมันก็ใช่ เพราะหลังจากที่ทั้งเซโง่และเชย์ออนที่วิ่งเข้ามาดูและก็ต้องอึ่งกับภาพตรงหน้า เมื่อแวมไพร์ ใช่คุณฟังไม่ผิดหรอกแวมไพร์!!! แวมไพร์ตัวน้อยที่ดูแล้วน่าจะอายุประมาณ10ขวบเมื่อเทียบกับมนุษย์ แวมไพร์ตัวน้อยที่มีดวงตาสีแดงกับเส้นผมสีแดงที่แถมด้วยดวงหน้าที่เหมือนกับจาฮาแบบเป๊ะๆ เท่านั้นยังไม่พอ มันยังไม่พอ!!! เพราะทันทีที่เจนีลืมตาตื่นขึ้นมากรี้ดร้องด้วยความตกใจ เขาก็ต้องกลับมานั่งตัวแข็งทือด้วยความช๊อก เมื่อเจ้าหนูจาฮาลเวอร์ชั่นมินิมันดันออกปากเรียกเขาว่ามะม๊า และยังมีออฟชั่นเสริมด้วยการกอดเขาหนึบไม่ยอมปล่อยอีกต่างหาก

      ให้ตายเหอะ เขาเป็นผู้ชายนะเฟ้ย!!!

      แล้วเมื่อเหตุการเริ่มกลับเข้าสู่ความสงบ หรือเปล่านะ? บัดนี้เจ้าหนูจาฮาลเวอร์ชั่นมินิก็ยังคงกอดเจนีสไมปล่อยในขณะที่จาฮาลตัวจริงในร่างคางค้าวตัวน้อยที่ตื่นแล้วนั้นกำลังพยายามงัดและแงะจาฮาลเวอร์ชั่นมินิออกจากตัวของเจนีส ซาลซ์ โดยที่เจนีสได้แต่หันไปทำตาปริบๆให้กับเซโง่ที่มุมปากกำลังกระตุกอย่างหนักและเชย์ออนที่ตอนนี้ขำจนลงไปกลิ้งอยู่กับพื้น

      555 มะม๊างันหรอ 555” เชย์ออนหัวเราะไปทุบพื้นไปหลายปึกอย่างบ้าคลั่ง ก่อนที่คูฟจะค่อยๆลุกขึ้นมาจากโลงศพเพราะเสียงหัวเราะของเชย์ออน แล้วมองเหตุการณ์ตรงหน้าแบบจับต้นชนปลายไม่ค่อยถูก

      “นายเป็นใครนะ” เจนีสก้มลงไปถามจาฮาลตัวน้อยที่เกาะเขาหนึบไม่ยอมปล่อยโดยเลือกที่จะทำเป็นเมินทั้งเซโง่ที่กำลังพยายามกลับมาตีหน้านิ่งเหมือนเดิมกับทั้งเชย์ออนที่ยังหัวเราะงอหายอยู่เหมือนเดิม

      “ผมก็เป็นลูกของมะม๊าไง” จาฮาลตัวน้อยพูดก่อนจะฉีกยิ้มกว้าง ในขณะที่เจนีสได้แต่นั่งเหงื่อตกเพราะเขายังไม่อยากทำร้ายเด็ก!!! โดยเฉพาะเด็กที่เป็นแวมไพร์ เด็กที่เป็นเผาพันธุ์เดียวกับเขา!!!

      เจย์เป็นของฉันต่างหากไม่ใช่ของนาย เพราะงันปล่อยเจย์น๊า!!!’ จาฮาลหันมาพูดหลังจากที่เจ้าตัวพยายามงัดเอาจาฮลตัวน้อยที่เกาะเขาอยู่ออกไป เป็นเวลาสักพักใหญ่ๆ

      “มะม๊าของผมต่างหาก!!!” พอจาฮาลตัวน้อยพูดจบ ทั้งจาฮาลและจาฮาลตัวน้อยก็หันไปจ้องตากันจนเหมือนกับว่าจะมีกระแสไฟฟ้าวิ่งมาปะทะกันกลางอากาศ

      555+” และยังตามมาด้วยเสียงของเชย์ออนที่หัวเราะเสียงดังกว่าเดิม

      หลังจากที่เชย์ออนหัวเราะจนพอใจแล้วเขาก็ขอตัวเอาเรื่องนี้ไปรายงานคีซัสก่อน แล้วเจ้าตัวจึงกระโดดแผลวออกไปทางหน้าต่าง จากนั้นเซโง่ก็เดินเข้ามาบอกว่า เขาก็มีธุระต้องไปหาไคซาเช่นกัน แต่ก่อนไปเซโง่ก็ยังไม่วายหันมากำชับเจนีสว่าไม่ให้แอบออกไปไหนโดยที่ไม่โทรบอกเขาอีกต่างหาก

      ให้ตายเหอะ เขาไม่ใช่เด็ก3ขวบนะ!!!

      “เอ่อพี่เจนีสครับ นั้นลูกพี่กับจาฮาหรอครับ” หลังจากที่เซ่โงออกได้ไม่นานนัก ก็ดูเหมือนว่าคูฟจะเริ่มตังสติขึ้นมาได้บ้างแล้วหลังจากที่เงียบมานาน

       ว่าแต่..คูฟใช้อะไรคิดหา!! คิดได้ไงว่าไอ้เด็กนี้เป็นลูกเขากับจาฮาล เขากับจาฮาลเป็นผู้ชายทั้งคู่น๊า!!!

      จากนั้นคูฟก็ได้พบกับสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของเจนีสอยู่นาน ก่อนที่คูฟจะตัดสินใจหันไปสนใจแบบเรียนเล่มใหม่ที่เซโง่หามาให้ และแล้วทุกอย่างก็ตกอยู่ในความเงียบที่มีเพียงเสียงของการยือแย่งเจนีสระหว่างจาฮลตัวจริงกับจาฮาลเวอร์ชั่นมินิเท่านั้น แต่ความเงียบก็คงอยู่ได้ไม่นานเท่าไรนัก...

      ในยามค่ำคืนที่ดวงจันทราลอยขึ้นสู่จุดสูงสุดบนมฟากฟ้า นาฬิกาติดพนังตีบอกเวลาเทียงคืนเสียงดังกังวาน พร้อมกับน้ำเสียงคุ้นเคยที่ไม่ว่าจะได้ยิ้นสักกี่ครั้ง เจนีสก็ไม่ปรารถนาที่จะได้ยินมันอีก

      “อาวเซ่โงไม่อยู่หรอกหรอ หืมว่าแต่เจ้าตัวเล็กนั้นใครนะ”

      ฟรีค!!!

      ใช่แล้วฟรีคชายหนุ่มผมสีส้มแดงที่หน้าตาเหมือนเซ่โงราวกับฝาแฝด!! ทันทีที่เจนีสหันไปมองฟรีคที่กำลังปีนเข้ามาทางหน้าต่าง เขาก็รู้สึกว่าขนทั้งร่างพร้อมใจกันลุกชันขึ้นมา แต่ไม่ใช่เพียงแค่เขาเท่านั้น เพราะแม้แต่จาฮาลกับจาฮาลตัวน้อยที่เมื่อกียังทะเลาะกันอยู่ก็พร้อมใจกันเขามาเกาะเขาหนึบกับตัวเขาไม่ปล่อย สาเหตุที่เกิดเหตุการเช่นนี้ไม่ใช่เพราะร้อยยิมโรคจิตของฟรีค ไม่ใช่เพราะฟรีคเป็นแวมไพร์ฮันเตอร์ แต่เป็นเพราะ...เป็นเพราะ เป็นเพราะฟรีคเล่นใส่เครื่องเงินมาเต็มที่เลยนะเซ่!!!

      อ๊ากกก ทั้งๆที่หมอนั้นก็รู้ว่าแวมไพร์นะเกลียดเครื่องเงิน รู้ทั้งรู้ว่าเป็นแบบนั้นก็ยังทำแบบนี้ หมอนี้มันจงใจแกล้งเขาชัดๆเลยนิน๊า!!!

      หา! จะถามว่าเกลียดแค่ไหนงันหรอ? มันก็คงพอๆกับเวลาที่มีแมลงสาบไต่ขึ้นมาบนขาคุณ หรอไม่ก็เวลาที่คุณไปเจอศพที่โดนฆ่าคว้านท้องมาแล้วสามวันสี่วัน เอาง่ายๆก็ศพเริ่มเน่านั้นแหละ!!!

      “นี้ๆ เซ่โง่ออกไปไหนหรอ” ฟรีคพูดพร้อมกับค่อยเดินเข้ามาหาแวมไพร์สามหน่อมากขึ้นเรื่อยๆ

      อย่าเข้ามาใกล้เจย์น๊า ถ้าเข้ามาละก็จะพุ่งเข้าไปชนจริงๆด้วย แต่ถึงจาฮาลจะร้องห้ามยังไงก็ตามที แต่ด้วยความที่ฟรีคฟังภาษาคางค้าวไม่ออก หรือฟังออกแล้วแกล้งทำเป็นเมินก็ไม่รู้เหมือนกัน เอาเป็นว่าหมอนั้นก็ยังคงเดินเข้ามาใกล้เหล่าแวมไพร์ทั้งสามอยู่ดี

      หืม? จะถามว่าคูฟหายไปไหนงันหรอ? คูฟขอตัวออกไปเยี่ยมแม่ตั้งแต่ตอนห้าทุ่มครึ่งแล้ว!!! ตอนนี้ก็เลยเหลือทิ้งเอาไว้แค่แวมไพร์ผู้หนาสงสารกับเจ้าโรคจิตฟรีค เพียงแค่นั้น...

      นี้!!! บอกแล้วไงละว่าอย่าเข้ามาใกล้เจย์นะ!!! นี่แน่ะ นี่แน่ะถึงแม้ว่าแวมไพร์จะมีสัญชาตญาณในความเกลียดและกลัวเครื่องเงินมากเท่าไรก็ตาม แต่มันก็ไม่มากพอที่จะกลบความรักและความเป็นหวงที่ทายาทแห่งซีเพียร์นั้นมีให้กับอดีตฝักดาบของตนเองไปได้ จาฮาลก็เลยพยายามเอาหัวหม่งใส่ฟรีคแบบเต็มที่ ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลยก็ตามที

      ยิ่งฟรีคเดินเข้ามาใกล้ เจนีสก็ยิ่งขนลุก จนสุดท้ายทายาทแห่งซาลซ์ อย่างเจนีสเองก็เริ่มที่จะทนไม่ และเริ่มคว้าของใกล้ตัวคว้างใส่ฟรีคแบบไม่ยั่ง ทั้งก้อนหินที่คีซัสเคยใช้ส่งข่าวให้เข้า ทั้งหนังสือของคูฟ หรือแม้กระทั้งยาของจาฮาล...

      เฮ้ย!!! ยาของจาฮาล!!!

      พึ่งมานึกได้ตอนนี้ก็สายไปเสียแล้วเพราะพรีดได้เผลอ หรือจงใจก็ไม่อาจทราบได้ ใช้มือปัดเม็ดยาจนกระเด็นเข้าปากจาฮาลที่กำลังจะพุ่งตัวเอาหัวหม่งฟรีคอีกรอบ

      ปุ้ง!!!

      “ดูท่าทางตอนนี้จะไม่อยากตอนรับผมกันสักเท่าไร งันผมขอตัวก่อนนะครับ” หลังจากที่ฟรีคปัดเม็ดยาเข้าปากจาฮาลไปแล้ว เจ้าเขาก็ออกตัวเผ่นแบบไม่คิดจะรับผิดชอบ แถมก่อนไปยังบอกคำลาด้วยน้ำเสียงหน้ามันสิอีกต่างหาก

      ตอนนี้ ฟรีคจากไปแล้ว เหลือทิ้งไว้เพียงจาฮาลที่เปลี่ยนจากร่างคางค้าวตัวน้อยกลับมาเป็นจาฮาลตัวโตในร่างของทายาทแห่งซีเพียร์!!! ถึงแม้ว่าเรื่องราวจะกลายเป็นแบบนี้ แต่เจนีสก็คงจะไม่เครียดมากเท่าไรถ้าหากว่าเจ้าหนูจาฮาลตัวน้อยจะไม่วิ่งเข้าไปกอดจาฮาลแถมยังเรียกจาฮาลว่าปะป๊าอีกต่างหาก!!!

      แบบนี้มันหาเรื่องฆ่าตัวตายชัดๆ!!!

      หลังจากที่เจ้าหนูจาฮาลตัวน้อยวิ่งเข้าไปกอดจาฮาลได้ไม่นาน จาฮาลก็เริ่มปล่อยรังสีทะมึนออกมาทันที แต่ก่อนที่เจนีสจะทันเอ่ยห้ามอะไรออกมา จาฮาลก็ได้ปลดปล่อยผลังจิตของทายาทแห่งซีเพียร์!! อัดกระแทคจาฮาลตัวน้อยจนกระเด็นพุ่งไปชนกำแพง!!!

      เจนีสมองตามจาฮาลตัวน้อยแบบอาปากค้าง ในคณะที่จาฮาลเริ่มที่จะควบคุ้มเอาของที่เขาปากใส่ฟรีคเมื่อกีนี้ให้พุ่งไปทางที่จาฮาลตัวน้อยพึ่งจะกระเด็นไปเมื่อกีนี้ เมื่อเจนีสเริ่มตั้งสติได้เขาก็รีบเข้าไปห้ามจาฮาลก่อนที่จาฮาลจะยกโลงศพของเขากับคูฟให้พุ่งไปอัดกระแทคจาฮาลตัวน้อย

      “จาฮาลหยุดดด” เจนีสลากเสียงยาวพร้อมกับพุ่งตัวเขาไปจับจาฮาลไว้

      “อะ เจย์ เจย์ไม่เป็นไรนะฉันไล่หมอนั้นไปแล้ว เจย์ไม่เป็นอะไรใช่ไหม” แต่ว่าทันทีที่เจนีสเข้ามาเพื่อจะห้ามจาฮาล จาฮาลก็เลิกสนใจเจ้าหนูจาฮาลน้อยแล้วหันมาจับเขาพลิกซ้ายขวาหน้าหลังราวกับว่าจะสำรวจว่าเจนีสนั้นได้บุบสลายตรงไหนไปบ้างหรือเปล่า

      “ปะป๊าพลักผมทำไมอ่า” แต่ยังไม่ทันที่เจนีสจะพูดอะไรต่อก็มีเสียงเล็กที่เขาจำได้ว่าเป็นของเจ้าหนูจาฮาลตัวน้อย!!? ที่ตอนนี้จาฮาลกำลังแกล้งทำเป็นเมิน และยังคงสนอกสนใจที่จะสำรวจว่าเจนีลเป็นอะไรไปหรือเปล่า ในขณะที่เจนีสค่อยหันหน้าไปมองแล้วเขาก็ต้องอาปากค้างกับภาพตรงหน้าอีกครั้งเพราะจาฮาลตัวน้อยกำลังกอดจาฮาลโดยทำแก้มพองลมโดยไม่มีบาทแผลเลยแม้แต่นิดเดียว อะ! พวกคุณคงสงใสละสิว่าเพียงแค่นั้นจะทำให้ทายาทแห่งซาลซ์ อย่างเจนีส ซาลซ์อึ่งไปขนาดนั้นได้อย่างไร ถ้าเห็นแค่นั้นเจนีสก็คงจะไม่อึ่งเท่าไร แต่สิ่งที่ทำให้เจนีสต้องอึ่งจานอาปากค้างนั้นก็เพราะว่าจาฮาลตัวน้อยกำลังกอดจาฮาลในสภาพล่อนจ่อนไม่ใส่เสื้อผ้าแม้แต่ชิ้นเดียว!!!

      หลังจากนั้นก็เกิดความวุ่นวายไปอีกพักใหญ่ จนในที่สุดเจนีสก็ได้รู้ว่าที่จาฮาลตัวน้อยนั้นไม่มีบาดแผลอะไรเลยทั้งๆที่โดนจาฮาลเอาของให้บริษัทของเขาซัดเข้าไปเต็มเหนี่ยวแบบนั้น ก็เพราะว่าของทุกอย่างมันลอยทะลุร่างของจาฮาลตัวน้อยไปหมดเลยนะเซ่!!!

      ถ้าจะถามว่ามันวุ่นวายจนรู้ได้ยังนะหรอ นั้นก็เพราะว่าแค่เจนีสละสายตาจากจาฮาลไปหน่อยเท่านั้นละจาฮาลก็เริ่มหันไปเล่นงานจาฮาลตัวน้อยอีกรอบ แต่กลายเป็นว่าทุกอย่างมันลอยทะลุร่างของจาฮาลน้อยไปหมดเลย แถมเจ้าตัวยังวิ่งไปเกาะจาฮาลยังกับลูกลิงแถมยังร้องเรียก ปะป๊าๆ ไม่หยุดปากอีกต่างหาก มันเป็นแบบนี้ซ้ำๆไปเรื่อยจนยาของจาฮาลหมดฤทธิ์

      ดวงจันทราคล้อยต่ำลงแล้ว ตอนนี้นาฬิกาแขว้นพนังกำลังบอกเวลาตีสามกว่าๆ ส่วนจาฮาลก็กลับไปอยู่ในร่างของคางต้าวตัวน้อยเหมือนเดิม แต่ที่แตกต่างก็คือ แทนที่จาฮาลจะมาเกาะอยู่กับเจนีสเหมือนเดิม ก็กลับกลายเป็นว่าต้องไปดิ้นคลุกคลักอยู่ในอ้อมแขนของจาฮาลตัวน้อยที่เอาแต่กอดจาฮาลไม่ปล่อยแทน

      และตอนนี้ทั้งเซ่โง เชย์ออน คีซัส ไคซา และคูฟก็กลับมาหมดแล้ว และตอนนี้ไคซากำลังยืนยิ้มให้กับหนูจาฮาลตัวน้อยที่กำลังเกาะเขาแน่นโดยที่มืออีกข้างก็ยังโอบกอดจาฮาลในร่างคางค้าว

      “นี้หนูเจนชอบของขวัญที่ส่งมาให้ไหม” หลังจากที่ไคซาหันไปยิ้มให้กับจาฮาลตัวน้อยแล้วก็หันมาถามเจนีสด้วยน้ำเสียงที่ดูแล้วอารมณ์ดีแบบสุดๆ

      “ของขวัญอะไรของนายนะหา ตาแก่!” เจนีสถามกลับก่อนจะมองตามสายตาของไคซาไปมองที่เจ้าหนูจาฮาลตัวน้อยที่กำลังมองไคซาตาแป๊ว

      “ฮาเอลเป็นไงบ้างจ๊ะ ชอบอยู่กับหนูเจนหรือเปล่า” ไคซาไม่ตอบแต่หันไปคุยกับจาฮาลตัวน้อย หรือตอนนี้คงจะเรียกว่าฮาเอลสินะ

      “ระ หรือว่าคนที่ทำให้เจ้าหนูจาฮาลเวอร์ชั่นมินินี้มาที่นี้ก็คือนายเองละหา ตาแก่” เมื่อเจนีสเห็นไคซาก้มลงไปคุยกับฮาเอล ตัวของเจนีสเองก็เริ่มที่จะเดาเรื่องที่เกิดขึ้นได้บ้างแล้ว

      “ฮับ ชอบฮับได้อยู่กับปะป๊ากับมะม๊าด้วย” ก่อนที่ไคซาจะได้ตอบอะไร ฮาเอลก็เป็นฝ่ายเอ่ยตอบไคซาขึ้นมาก่อน จากนั้นฮาเอลก็กระชับอ้อมกอดพร้อมกับเอาหน้าลงไปถูกับจาฮาลที่กำลังโว้ยเป็นภาษาคางค้าวว่าให้ปล่อย ซึ่งแน่นอนว่าฮาเอลไม่สนใจจะปล่อย

      “แล้วหนูเจนไม่ชอบหรอ ตาแก่คนนี้ก็เห็นว่าหนูเจนจี้ออกตามหาเพื่อรวบรวมเหล่าแวมไพร์ ไอ้เราหรือก็อุสาไปเจอเลยสงมาให้นึกว่าหนูเจนจะดีใจเสียอีก” ไคซาพูดพร้อมกับแซงตีหน้าเศร้า

      “ไม่ต้องมาแกล้งตีหน้าเศร้าเลยนะตาแก่!!”เจนีสโวยในขณะที่เชย์ออนกับคีซัสเริ่มเบนหน้าหนี้ไปกลับขำกันคนละท่าง

      “มะม๊า กับปะป๊า อุ๊บ 555” แต่ถึงจะกลั่นขำเพราะเห็นแก่คีซัสยังไง คนอย่างเชย์ออนก็ยังหลุดขำกากออกมาได้อยู่ดี

      หลังจากที่ต่อล้อต่อเถียงกันอยู่นานในที่สุดไคซาก็เริ่มเล่าให้ฟังว่า เจ้าตัวไปเจอเจ้าหนูฮาเอลอยู่แถวๆสุสารของซีเพียร์ แต่พอถามว่าไคซาไปทำอะไรแถวนั้นเจ้าก็กลับไม่ยอมบอกเสียอย่างงัน หลังจากนั้นไคซาก็เล่าต่อไปว่าดูเหมือนเจ้าหนูฮาเอลจะมีเชื้อสายของซีเพียร์แบบจางๆ แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ทำให้เจนีสคิดตามว่า บางทีนี้คงเป็นสาเหตุที่ทำให้ฮาเอลหน้าตาเหมือจาฮาลแบบเป๊ะๆขนาดนี้

      แต่พอถึงตอนที่คีซัสกับไคซาจะขอตัวกลับ...

      “ไม่เอาผมจะอยู่กับปะป๊ากับมะม๊า” ฮาเอลดันไม่ยอมกลับไปด้วยจนสุดท้ายพวกเขาก็เลยตัดสิ้นใจว่าจะให้ฮาเอลอยู่ที่นี้ไปก่อน เซโง่ก็เลยจับฮาเอลมานั่งเรียนหนังสือกับคูฟจนกระทั้งใกล้เช้า ซึ่งเป็นเวลาเข้านอนของเหล่าแวมไพร์

      “ไม่เอาผมจะนอนกับมะม๊า ปะป๊า” ซึ่งฮาเอลเอาแต่งอแงจะนอนกับเจนีสแล้วก็จาฮาลทั้งๆที่ไคซาก็เอาโลงศพของเจ้าตัวมาให้แล้ว ซึ่งไม่ว่าเจนีสจะปฏิเสทอย่างไร สุดท้ายก็ต้องยอมเพราะเซ่โงบอกว่าถ้ามีปัญหามากนักพรุ่งนี้จะงดของหวาน

      อากกใครก็ได้เอาฮาเอลกลับไปเลี้ยงที่!!!

      ดวงจันทราลาลับไปแล้ว แสงสว่างจากดวงตะวันค่อยๆส่องแสงเข้ามาแทนที่ ค่ำคืนที่จบลงนั้นก็คือการเริ่มต้นของวันใหม่ เหมือนกับเรื่องราวของเจนีสกับฮาเอลในคืนนี้ที่ได้จบลงนั้นก็เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของเรื่องราวใหม่ๆที่จะเกิดขึ้นต่อไป

      ...จุดจบของสิ่งหนึ่งนั้นก็คือจุดเริ่มต้นของอีกสิ่งหนึ่ง...

      ...เหมือนกับจุดจบของค่ำคืนนี้ที่จะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของเช้าวันใหม่...

      ...พวกคุณคิดแบบนั้นหรือเปล่า...



       

      THE ENT
       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×