คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #37 : หญิงผู้เป็นแม่ 100%%%%%%%
ประกาศ จะมีสเปเชียล [ไรท์ไม่ได้ลงเว็ป] บทสรุปแต่ละคู่อยู่ภายในเล่มนะจ้ะ
คนที่ขอ NC ส่งให้ครบแล้วนะคะ
มุมระบาย
อย่าว่าไรท์เลยนะ ที่หายหัวไปหลายวัน เพราะบางทีคิดพล๊อตไม่ออกจริงๆ ก็เลยไม่อยากฝืนกลัวนิยายไม่สนุก อาจจะทำให้ใครไม่พอใจ ยังไงก็ต้องขอโทษไรท์ทุกคนจริงๆนะคะ :(
Inhyun part.........................
“ พวกแกคิดจะหักหลังคนที่มีบุญคุณกับแกหรือไง? ”
“ ผม ไม่ได้คิดเช่นนั้นครับ ผมมาที่นี่เพื่อจะขอร้องให้ท่านประธาน ให้อภัย ซออึนกวัง และมองเห็นความรักของพวกเรา ”
อีมินฮยอก พูดเสียงเรียบ ก่อนจะยื่นข้อต่อรองกับผู้ที่เป็นผู้บริหาร
“ ความรักไร้สาระพวกนั้น มันกำลังจะนำให้พวกแกดิ่งลงนรก พวกแกรู้ไหม ? ”
“ เพราะนายไม่เคยรู้จัก ความรักมากกว่า ยองฮวายา ”
ในขณะที่พวกเราทุกคนกำลังอยู่ในสภาวะตึงเครียดอยู่นั้น หญิงสาววัยกลางคนในชุดสูทสีดำสนิทก็เดินเข้ามา พร้อมกับเอ่ยถ้อยคำแปลกๆกับท่านประธาน
“ กายุนนา เธอมาที่นี่ได้ไงกัน ? ”
ท่านประธานเสียงแผ่วลง พร้อมสีหน้าแปลกใจ เพราะไม่เคยคิดว่า หญิงสาวคนรักเก่า ที่ทิ้งเขาไปนานหลายสิบปี จะกลับมาพบเขาอีกครั้ง
หญิงสาวเพียงแต่ยิ้มรับ พร้อมกับส่งสายตาคู่เก่าไปหาชายตรงหน้า ก่อนจะหันมาโค้งคำนับทุกๆคนเป็นการทักทาย
“ หากฉันมาขัดขวางการทำงานของพวกเธอ ฉันต้องขอโทษด้วยจริงๆ แต่ที่ฉันมาวันนี้ฉันในฐานะของแม่ที่ออกตามหาลูกสาว และฉันก็ต้องการพบท่านประธานของพวกเธอ ”
“ ก็ได้ บีทูบี ฉันจะให้โอกาสพวกแกอีกครั้ง แต่ฉันจะไล่โปรดิวเซอร์จางออก เพราะไม่มีความสามารถดูแลพวกแกได้ ”
ได้ไงกัน ? นี่มันจงใจเล่นงานกันชัดๆ ท่านประธานให้โอกาสบีทูบี แต่กลับทำร้ายโปรดิวเซอร์ของพวกเขา ตอนนี้ สมาชิกบีทูบีทุกคนต่างพากันไม่พอใจ แต่ก็ได้เพียงแต่เก็บมันไว้ภายในใจเพราะ พี่จียงและโปรดิวเซอร์จางห้ามไว้
หลังจากการประชุมอันไร้ความยุติธรรมจบลง พวกเราทุกคนก็มารวมตัวกันที่ห้องซ้อมด้วยอารมณ์หงุดหงิด มีเพียงโปรดิวเซอร์จางและยัยตัวดีคังมิยองที่ขอตัวกลับไปก่อน
“ ซออึนกวัง แกทำอะไรลงไปแกรู้ตัวบ้างไหมวะ ? ”
ผลั๊วะ!!
อีมินฮยอกที่ควบคุมอารมณ์มานานแล้ว พลันปล่อยหมัดเข้าใส่ ลีดเดอร์ของวงทันที
ผลั๊วะ!!!!
“ ก็ฉันบอกแกแล้วไง ว่าฉันไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้”
คนโดนต่อย โต้ตอบทันทีอีกหนึ่งหมัด พร้อมกับยืนยันคำพูดเดิม คนอื่นๆเห็นท่าว่าไม่ดีจึงรีบเข้าไปแยกทั้งสองออกจากกัน
“ พวกโอปป้าพอกันได้แล้วนะ”
“ ฮยองครับใจเย็นๆ ก่อนนะครับ ”
เพนนิส ปราม พร้อมกับอิลฮุนที่พูดเสริม แต่ดูเหมือนว่าทั้งสองจะไม่ทีท่าจะหยุดสักที
คนที่เอาแต่เงียบขรึมมานาน คว้าเหยือกน้ำเย็นก่อนจะสาดมันไปยังทั้งสองคนทันที
“ พวกแกเลิกบ้ากันได้หรือยังห่ะ? จะต้องให้วุ่นวายกันอีกแค่ไหน ลุงฉันโดนไล่ออกคนเดียวไม่พออีกหรือไง”
พี่จียงตวาดเสียงดัง ก่อนที่สถานการณ์ทุกอย่างจะเข้าสู่ปกติอีกครั้ง
“ แกจำไว้นะ ซออึนกวัง ว่าแก กำลังทำให้พวกเราเดือดร้อน เรื่องราวทั้งหมดเป็นเพราะแฟนของแก ”
อีมินฮยอกชี้หน้าต่อว่า ลีดเดอร์ของวง ด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว ก่อนที่จะเดินออกไป
“ มาหาฉันถึงที่นี่ได้ เธอมีอะไร ? ”
ยุกยองฮวาเอ่ยขึ้น พร้อมกับ หย่อนตัวลงบนโซฟาในห้องรับรอง
“ ยองฮวายา นายรู้ดี ว่าฉันอะไรที่ฉันต้องการจากนายมาตลอด ได้โปรดบอกที่อยู่ของ[ชื่อพ่อของนางเอก]กับฉันเถอะ ฉันต้องการลูกสาวฉันคืนเท่านั้น และฉันจะไม่เอาเรื่องนาย”
มือเรียวลูบไปยังมือหนากร้าน เชิงขอร้อง แต่กลับถูกเขาสะบัดมันออกอย่างไร้ความปราณี !!
“ ผู้หญิงสารเลวอย่างเธอ!! มีสิทธิ์มาขอร้องฉันด้วยหรอ ? แต่ก็เอาเถอะไหนๆ ภริยาหม้ายของเอกอัครราชทูต มาโปรดฉันถึงที่ ฉันคงไม่ใจร้ายเกินไปหรอก ”
ยุกยองฮวารั้งร่างบางตรงหน้าเข้ามาใกล้ตัว ก่อนจะพยายามล่วงเกินเธอ
เพี๊ยะ!!!
“ นายมันยังหยาบคาย และเลว เหมือนเดิม ยุกยองฮวา นี่คือเหตุผล ที่ฉันถึงเลือกที่จะรัก ยูซึงฮอนเขาแทนที่จะเป็นนาย ”
หญิงสาวตบหน้าเขาฉาดใหญ่ ก่อนจะพูดตัดพ้อทั้งน้ำตา
“ ฮ่าๆ ๆ ใช่ฉันเลว ถ้าไม่เลวจะฆ่าสามีเธอ และขโมยลูกเธอมาได้ยังไง ฮ่าๆๆๆ”
ความเจ็บปวดทั้งหลายจากการสูญเสีย ยังตราตรึงอยู่ภายในใจของเธอโดยตลอด เพราะชายตรงหน้าผู้นี้ ผู้ที่ไม่ยอมรับความจริง ว่าเธอไม่เคยรักเขาเลย
“ ฉันจะตามหา[ชื่อพ่อของนางเอก] ให้เจอด้วยตัวเอง เขาจะเป็นพยานในการเอาคนเลวอย่างนายเข้าคุก ยุกยองฮวา !! ”
“ โถๆๆๆกายุนนา รีบๆหน่อยละกันนะ ถ้าเกิด[ชื่อพ่อของนางเอก] มันดันตายไปสะก่อน เธอเองจะลำบาก ”
ชายร่างหนา กระตุกยิ้มอย่างมีเลศนัย พร้อมกับความคิดอกุศลภายในใจของเขา
บีทูบี เลื่อนคัมแบ็ค!!
“ ใจเย็นก่อนนะมินฮยอกอา ฉันรู้ว่านายรู้สึกยังไง ”
ฉันเอ่ยขึ้น พร้อมกับยื่นมือไปสัมผัสใบหน้าเพื่อปลอบคนตรงหน้าที่เอาแต่นั่งเครียดก่อนที่ใบหน้านั้นจะคลายวิตกกังวลลง และผุดรอยยิ้มบางๆขึ้นที่มุมปาก
“ เธอน่ารักจัง”
จู่ๆร่างสูงก็ดึงร่างของฉันเข้านั่งบนตักเขาทันที โดยไม่ทันสังเกตุว่ามีสายตาคู่หนึ่งกำลังจับจ้องมาที่เรา
“ ปกติแล้วสินาย หายบ้าแล้วแน่นะ ? ”
ฉันถามผู้ชายร่างสูง ที่เอาแต่สวมกอดฉันจากด้านหลัง พลางพยักรับ หงึกๆ
“ อินฮยอนนา ฉันถามอะไรหน่อยได้ไหม ? ”
“ หือ? ”
อีมินฮยอกคลายกอดอย่างช้าๆ เพื่อให้ฉันได้หันกลับไปคุยกับเขาได้
“ ฉันพาตัวเธอมาแบบนี้ พ่อของเธอคงเกลียดฉันมากเลยสินะ ? ”
“ แค่พ่อฉันรู้ว่าฉันปลอดภัยดี ท่านก็โล่งใจแล้วละ นายไม่ต้องห่วงฉันโทรบอกท่านเรียบร้อยแล้ว ”
ฉันยิ้มกว้างให้คนตรงหน้า ก่อนจะกุมมือทั้งสองข้างของเขาไว้
“ เราสองคนนี่มีอะไรเหมือนกันจริงๆนะ ฉันอยู่กับแม่มาตลอดเพราะพ่อฉัน ต้องไปอยู่ต่างประเทศ นานๆทีจะกลับมา ส่วนเธอก็อยู่กับพ่อที่แสนดี ”
“ มันไม่เหมือนกันหรอกมินฮยอกอา นายโชคดีกว่าฉัน ที่อย่างน้อยนายก็รู้ว่าพ่อของนายอยู่ที่ไหน แต่ฉันนะสิ ………ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแม่ของตัวเองหน้าตาเป็นยังไง และชื่ออะไร ”
ฉันพูดด้วยเสียงสะอื้น ก่อนที่น้ำตาเจ้ากรรม จะไหลอาบสองแก้มให้เขาเห็น อีมินฮยอก ยื่นมือของเขามาปาดมันออกไปอย่างนุ่มนวล
“ ไม่เป็นไรนะ แต่จากนี้ เธอจะมีฉันคนนี้ ดูแลเธอ ด้วยความรัก หมดหัวใจดวงนี้ ”
มือเรียวเล็ก ถูกกุมไปสัมผัสกับหน้าอกอุ่นๆของเขา เป็นการสัญญาว่าเขาจะรักฉันตลอดไป
“ ฉันรักนายมินฮยอก ”
“ ไม่มีทาง!!!!!! ”
ในขณะที่เราสองคนกำลังพลอดรักกันอยู่นั้น เพนนิสที่แอบฟังมานานแล้วก็ตรงเข้ามาหาฉันทันที
เพี๊ยะ!!
“ ยูอินฮยอนวันนี้ฉันไม่ปล่อยแกไว้แน่ จำไว้นะว่ามินฮยอกโอปป้าเป็นของฉัน ”
เพี๊ยะ!!!
มือเล็ก ตบฉันไปมาด้วยความโมโห ฉันเองก็ได้แต่ปัดป้องตัวเองและอธิบายให้คนที่กำลังคลั่งเข้าใจ
“ เดี๋ยว!! ฟังฉันก่อนนะ เพนนี”
“ ฉันไม่ฟัง ฉันจะตบให้แกตายคามือเลยคอยดู ”
เพี๊ยะ!!!! เพี๊ยะ!!!!
“ หยุดเดี๋ยวนี้นะ ชินดาจอง !!! ”
อีมินฮยอกตะคอกหญิงสาวเสียงดัง ก่อนจะผลักเธอไปอีกด้านหนึ่งเพื่อไม่ให้ทำร้ายฉัน จนร่างเล็กล้มลงกับพื้น
“ ฮึก….โอปป้า ฉันรักโอปป้า โอปป้ามาปกป้องมันทำไม ? ฮือ T_T ”
“ ฟังโอปป้านะ ดาจองงา โอปป้ารักเธอ แต่รักในฐานะน้องสาว และจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงไปแน่นอน ส่วนอินฮยอน คือคนที่โอปป้าอยากจะใช้ชีวิตร่วมด้วย เธอได้โปรดเข้าใจโอปป้าเถอะ ”
“ ม้ายยยยยยยยยยกรี๊ดดดดดดดด ฮือๆๆๆ ฉันเกลียดแก ยูอินฮยอน ฉันจะทำลายชีวิตแก คอยดูนะ ”
ร่างเล็กที่ควบคุมสติไม่ได้ กรีดร้องเสียงดัง ทั้งน้ำตา ก่อนจะวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว ฉันถูกมินฮยอกประคองอย่างเบามือ ให้นั่งบนเก้าอี้
“ เธอเป็นอะไรมากมั้ย? ”
“ นายตามไปดูเพนนีเถอะ เธอยังเด็ก ฉันว่าเธอรักนายมากนะ ”
“ ไม่หรอก ฉันรู้จักเธอดี เพนนี จะต้องยอมรับเสียทีว่า ฉันคิดกับเธอแค่น้องสาวจริงๆ ”
ชายร่างสูงพยายามพูดให้ฉันวางใจ แต่อย่างไรได้ละ จิตใจของผู้หญิงทุกคนเมื่อต้องสูญเสียคนที่รักเจ็บปวดมากแค่ไหน ใจฉันรู้ดี
Eunkwang part….
“ พอได้แล้วนะคะโอปป้า ดื่มมากเกินไปแล้ว ”
หญิงสาวคนสวยที่นั่งอยู่ข้างๆผม ดึงแก้วเหล้าที่ผมตั้งใจจะกระดกของเหลวสีเหลืองนั้นลงคอ ก่อนที่เธอจะจัดการดื่มมันแทน
“ ย่าห์!!! อย่ามายุ่งงกับช้านนนน ช้านนจะมาวววว ”
“ ฉันจะปล่อยโอปป้านั่งเครียดคนเดียวได้ไงกัน ไปเถอะเดี๋ยวฉันจะไปส่งโอปป้าที่หอพักเอง ”
ร่างบางเอ่ยก่อนจะช่วยพยุงร่างของผมกลับไปยังรถคันหรูที่จอดไว้ด้านนอกทันที ด้วยฤทธิ์แอลกอฮอลที่กระจายในร่างกายผมไปทั่ว ทำให้ผมหมดสติโดยไม่รู้ตัว
รถคันงามไม่ได้แล่นไปตามทางกลับของหอพัก แต่กลับมุ่งตรงไปยังชานเมืองที่มืดสนิท
“ อึนกวังยา นายนี่มันโชคดีกว่าที่ฉันคิดจริงๆ ที่ไอ้แก่นั่นมันยังให้โอกาส แต่จะเป็นอย่างไรละ ถ้านายเลือกที่จะไม่รับโอกาสนั้นสะเอง หึหึ ”
หญิงร่างบางพูดพลางหัวเราะออกมาอย่างสะใจ
ไม่นานนัก รถของเธอก็มาจอดสนิทอยู่ที่หน้าคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ก่อนที่คังมิยองจะพยายามทำการลากร่างของผมขึ้นไป รปภ ที่รักษาการเห็นทีจึงรีบวิ่งเข้ามาช่วยพยุง
“ มีอะไรให้ผมช่วยหรือป่าวครับคุณผู้หญิง ”
“ ไม่เป็นไรคะ พอดีแฟนฉันดื่มเยอะไปหน่อย ”
คังมิยองโกหกอย่างชำนาญก่อนที่จะพาผมขึ้นไปชั้นบน
ห้องพักขนาดใหญ่ที่ถูกจัดแต่งอย่างหรูด้วยเฟอร์นิเจอร์ทันสมัย ผมถูกวางลงบนเตียงนุ่มๆ ก่อนที่หญิงสาวจะล็อคแขนและขาของผมเอาไว้กับมัน
“ ฝันดีนะคะ โอปป้า ”
หญิงสาวกระซิบเบาๆที่ข้างหู พร้อมกับบรรจงริมฝีปากอุ่นๆประทับบนหน้าผากของผมเบาๆ
รุ่งเช้า….
ผมรู้สึกปวดหัวแทบจะระเบิด ทันทีที่รู้สึกตัว พลางบิดตัวไปมา แต่ก็พบว่าร่างกายที่เปลือยท่อนบนของตัวเองถูกล็อคเอาไว้
“ ตื่นแล้วหรอคะ โอปป้า ”
“ มิยองอา ทำไมฉันถึงถูกล็อคไว้กับเตียงละ แล้วที่นี่ที่ไหน ? ”
ผมเอ่ยถามหญิงสาวที่เอาแต่ยิ้มกรุ่มกริ่ม กับชามอาหารในมือ
“ ที่นี่คือ ที่ของเราไงคะ ที่ที่จะมีแค่โอปป้ากับฉัน ตลอดไป ”
“ เลิกเล่นตลกเสียทีมิยองอา ฉันจะรีบกลับไปบริษัท ”
ผมพูดกับยื่นข้อมือและเท้าที่ถูกล็อคไว้เป็นการขอร้องคนตรงหน้า
“ ไม่ได้ !! โอปป้าต้องอยู่กับฉัน ”
คังมิยองหลุดตวาดเสียงดัง ก่อนจะเปลี่ยนน้ำเสียงให้กลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว พร้อมกับถือสำรับอาหารมาให้ผม
“ ทานข้าวเช้าเถอะนะคะ ฉันอุส่าห์ตั้งใจทำมันมา ”
“ มิยองอา เธอทำแบบนี้ทำไมกัน เธอก็รู้ว่าฉันต้องเข้าบริษัทวันนี้ ”
ผมเอ่ยถามคนตรงหน้า ก่อนที่เธอจะยัดอาหารเข้าปากผม
“ แน่ใจหรอคะ โอปป้า ? ว่าอยากรู้เหตุผลจริงๆ ”
หญิงร่างบางวางสำหรับลงข้างตัว ก่อนที่เจ้าหล่อนจะกระโดดขึ้นคร่อมร่างของผม พร้อมกับส่งสายตาเจ้าเล่ห์ ผมพยักหน้ารับ ก่อนจะตั้งใจฟังในสิ่งที่เธอกำลังจะพูด
“ เพราะฉันเกลียดแกไง ชัดหรือยัง ? ”
เกลียด ? ทำไมเธอต้องเกลียดผมด้วย ตอนนี้หัวของผมมันกำลังสับสน เธอเพิ่งจะประกาศว่าเราสองคนเป็นแฟนกัน แต่ทำไมเธอถึงมาบอกผมเช่นนี้
“ มิยองอา โอปป้า ว่าเธอคงเครียดเรื่องข่าวมากเกินไป เอาเป็นว่าเดี๋ยวโอปป้าพาเธอไปเที่ยวดีกว่าเอาไหม ? ”
“ เลิกแกล้งโง่เสียที ซออึนกวัง ฉันไม่เคยรักคนอย่างแก ไม่เคยสักครั้ง ”
คังมิยองยังคงย้ำชัดถ้อยชัดคำ มีเพียงผมที่สะอึกอยู่ในใจ
“ ถ้าเธอไม่รักฉัน แล้วเธอมายุ่งกับฉันทำไม ”
“ เพราะว่า…….. ”
ติ๊ดดดๆๆๆๆๆ………
ในขณะที่คังมิยองกำลังจะพูดความจริง เสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นเสียก่อน
“ ก็ได้ ฉันตกลง ”
หยิบสอดเสียงผ่านโทรศัพท์ ก่อนจะกดตัดมันอย่างพอใจ และหันมาสนใจกับผมต่อ
“ เอาเป็นว่า แกต้องอยู่ที่นี่ ระหว่างที่ฉันไม่อยู่ และสิ่งนี่ มันจะทำให้แกหนีฉันไปไหนไม่ได้ ”
หญิงสาวหยิบเข็มฉีดยาขึ้นมา พร้อมกับสารอะไรบางอย่าง เพื่อที่จะฉีดให้ผม
“ เธอจะทำอะไร ยาอะไรฉันไม่ฉีด ”
ผมพยายามปัดป้องตัวเอง แต่ก็ทำอะไรได้ไม่มาก เนื่องจาก มือทั้งสองถูกล็อคเอาไว้
“ อย่ากลัวไปหน่อยเลยคะโอปป้า ยานี่มันไม่ทำให้ถึงตายหรอกน่า มันแค่จะทำให้โอปป้า ไม่มีแรงจะหนีฉันไปไหนเท่านั้นเอง ฮ่าๆๆๆ ”
คังมิยอง บรรจงฉีดยาบางอย่างให้ผม ฤทธิ์ของมันเริ่มทำให้ร่างกายหมดแรงที่จะต่อกรกับเธอ ดวงตาทั้งสองได้เพียงแต่มองหญิงสาวตรงหน้าที่กำลังหัวเราะอย่างสะใจทั้งน้ำตา โทรศัพท์ของผมถูกเธอรวบเอาไปจนหมดสิ้น ก่อนที่จะรีบวิ่งออกไปและทำกระเป๋าเงินของตัวเองตกไว้
ความคิดเห็น