คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : คำสารภาพที่ไม่ได้คำตอบ !!!100% [Sungjae Sangmee Ft.Inhyun]
** อันยอง~~~ ได้ฤกษ์ลงตอนใหม่สักทีนะ ต้องขอโทษรีดจริงๆเลยที่ปล่อยให้รอนาน เนื่องจาก ไรท์เกิดเป็นหวัด นอนซมมาหลายวัน เลยไม่ได้แต่งต่อ แต่ตอนนี้กลับมาแข็งแรงแล้ว ฝากติดตามด้วยนะคะ **
** ประกาศ Lover Diary BTOB xU จะมีสองภาคนะคะ ภาคนี้จะเน้นความรักของ สี่หนุ่ม ได้แก่ อึนกวัง มินฮยอก อิลฮุน และซองแจ คะ !! ส่วนภาคที่สองจะเป็นของ ชางซอบ ฮยอนซิกและพีเนียลคะ !!!!!! ฝากติดตามด้วยนะคะ **
ขอคนละหนึ่งคอมเม้นเพื่อเป็นกำลังใจให้ไรท์ สู้ต่อไปกับ ซังมี น่ะจ้ะ แงแง TT
Sungjae part....
อากาศหนาวตอนกลางคืนและไฟสลัวๆริมถนน กับร้านอาหารที่ผู้คนไม่ค่อยจะพลุกพล่านนัก ปาร์คซังมีกำลังรอคอย บุคคลปลายสายที่โทรนัดให้เธอออกมา เพื่อคุยเรื่องสำคัญอยู่ที่สวนสาธารณะ และทันใดนั่นเองเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง
“ นายอยู่ไหนเนี่ย ฉันมารอนายนานแล้วนะ ซองแจ !!! ’
[ใกล้จะถึงแล้ว รอสักแปบละกัน เดี๋ยวซื้อของไปฝาก ]
“ อื้ม!!! รีบมาแล้วกัน ก่อนที่ยุงจะหามฉันไปก่อน ”
[ คร้าบบบบบบบบบ บาย ]
ร่างบางบ่นอุบอิบ ก่อนที่มือเรียวๆจะกดตัดสายไป ร่มไม้บวกกับลมหนาวโชยมาเบาๆ แต่กลับทำให้หัวใจของเธอหนาวเหน็บดุจน้ำแข็งห่อหุ้ม ความเจ็บปวดความโศกเศร้าทั้งหมดถูกฝังลึกลง เพราะสิ่งเดียวที่เธอคิดตอนนี้ก็คือ สิ่งที่เธอทำมันเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ถึงแม้ว่าตัวเองจะต้องเสียสละ
V
V
V
v
“ รอฉันนานหรือป่าว ซังมีอา ?? ”
ผมเข้ามาด้วยอาการเร่งรีบ พร้อมกับสอบถามบุคคลตรงหน้าที่กำลังทำหน้างัวเงีย แต่คำพูดของผมกลับทำให้เธอถึงกับสะดุ้งเพราะความประหลาดใจ
“ นะ..นาย เรียกฉันว่าไงนะ ??? ”
“ ก็เรียกชื่อไง ไม่อยากเรียกป้าแล้ว เดี๋ยวซ้ำกับ ยัยป้าอินฮยอน อีกอย่างเดี๋ยวนี้เธอก็แต่งตัวไม่เฉิ่มแล้วนิ !!”
“ แต่ฉันแก่กว่านายตั้งหลายปีนะ !!!! นายควรให้เกียรติฉันบ้าง ”
“ ฉันเป็นประเภทชอบตามใจตัวเองนะ อยากเรียกอะไรฉันก็เรียก !!! เอาน่าอายุไม่สำคัญหรอก ”
ผมพูดพลางหัวเราะ ก่อนจะยื่มถึงขนมให้ยัยนั่น พร้อมกับนั่งลงยังเก้าอี้ข้างๆทันที ไม่อยากจะเชื่อจริงๆว่ายัยนี่จะ อายุเยอะกว่าผม ทั้งที่หน้าของเธอดูเด็กกว่าผมอีกรวมถึงสมองด้วย เอ๋??นี่เธอแคระ หรือ ฉัน ตัวใหญ่กันแน่นะ
“ ชิส์ !!! ว่าแต่โทรเรียกฉัน ออกมาดึกๆแบบนี้ นายมีอะไรหรือป่าว ??? ”
ยัยนั่นเอ่ยก่อนจะนั่งลงอีกด้านหนึ่ง โดยที่สายตาของเธอจับจ้องไปยังแหวนวงนั้นของผมที่คล้องมันไว้กับสร้อย มุมปากทั้งสองถูกกระตุกด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย เหมือนเธอจะดีใจที่เห็นมันนะ มือของผมรีบเก็บมันใส่เสื้อด้านในอย่างรวดเร็ว ทำให้บุคคลตรงหน้าถึงกับถอนหายใจ
“ ป่าวหรอก ฉันก็แค่อยากคุยกับเธอเท่านั้น ก็เลยให้เธอมาไง ”
“ งั้นฉันกลับละ !!! ”
ยัยซังมียังงอนผมเรื่องสรรพนามใหม่นี่ไม่เลิก พร้อมกับจะหนีกลับบ้านทันที จะอะไรกันนักกันหนา ก็ผมไม่อยากมีผู้หญิงเป็นพี่นิ ผมไม่ใช่ ไอ้อิลนะ ที่จะปากหวานเรียก คนนู้นคนนี้ไปสะหมด แต่แล้วผมก็ต้องง้อเธอ เพราะเธอเป็นตัวช่วยที่ดีที่สุดในตอนนี้
“ เออๆ นูน่าก็นูน่า!! คราวนี้ ฉันถามเธอได้หรือยัง ว่า ยัยป้าว่าไงบ้าง ??? ”
“ พูดแบบนี้ มันน่าบอกไหมละ ห่ะ ?? ฉันกลับไปนอนดูทีวีดีกว่า ”
ยัยนั่นได้ทีเอาใหญ่ แกล้งงอนไม่เลิก ก่อนจะลุกขึ้นยืนพร้อมกับยืนเชิดหน้าไปอีกด้านหนึ่งทันที ฉันง่อใครไม่เป็นนะเว้ยย !!!
“ เออวะ ก็ได้ๆๆ นูน่าสุดที่รักคร้าบบบบ ช่วยบอกผมเกี่ยวกับยัยป้าอินฮยอนหน่อย คร้าบบบ พอใจยังละ ”
“ อื้ม ถือว่าดีนะ ถ้าตัด ประโยคข้างต้น กับ ประโยคสุดท้ายออก ”
ร่างบางตรงหน้า พูดพร้อมกับยิ้มกวนๆเล็กน้อย ก่อนจะนั่งลงที่เดิม
“ ฮ่าๆ งั้นตั้งใจฟังนะ ฉันว่านายยังมีสิทธิ์ เพราะอินฮยอนบอกฉันว่า เธอชอบอิลฮุนในฐานะแฟนคลับ และไม่ได้หลงรักมินฮยอกโอปป้า นายก็ลองขายขนมจีบดูละกัน ”
“ อื้ม ขายขนมจีบหรอ ??? แล้วฉันต้องขายซาลาเปาด้วยอะป่าว ??? ^____^ เผื่อผลลัพท์จะเร็วขึ้น ”
“ ซองแจอา ถ้านายไม่เลิกกวนฉัน ฉันจะกลับแล้วนะ !!”
ยัยซังมีงอนผมอีกแล้ว ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าผมพูดอะไรผิดไปหรือป่าว ก็ขนมจีบกับซาลาเปา มันต้องคู่กันไง
“ และฉันต้องทำไงอีก ???? ”
“ ตื้อไง !!! นายรู้จัก คำว่า ตื้อไหม ??? ”
“ อื้มม ไม่รู้จัก -_- ”
“ ซองแจอา ถ้านายเลิกกวนฉันสัก สามวินาที นายจะตายไหม ??? ”
“ ไม่ตายหรอก แค่ชักดิ้นชักงอเฉยๆ ฮ่าๆๆ ”
ผมยังคงกวนเบื้องล่างเธอต่อ ทำเอายัยนั่น ขม้วดคิ้ว ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา
“ เอาน่าๆๆ ฉันขอโทษละกัน ที่กวนเธอ เพราะเธอต้องช่วยฉันอีกเยอะ พรุ่งนี้ฉันวางแผนแล้ว ”
“ ไหนลองว่ามาสิ !! ”
ผมกระซิบบอกถึงแผนการในการพิชิตใจยัยป้าอินฮยอน ข้างหูของเธอเบาๆ เมื่อพูดเสร็จทำเอาเธอถึงกับรีบเดินหนีผมทันที
“ ไม่มีทาง ฉันไม่ชอบโกหก !!! ”
“ เหอะน่า !!! ช่วยหน่อยนะ นะนะนะนะ ”
“ บอกไงว่าไม่ !!!!! ”
" นะนะนะ ถ้าเธอช่วยฉัน คราวหลังถ้าเธอมีปัญหา ฉันก็จะช่วยเธอ โอเคไหม ??? ”
“ ทำไมต้องช่วยฉันด้วยละ !!! ”
ยัยนั่นยังคง เดินต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่คิดจะสนใจผมที่กำลังตามเธออยู่เลย แหมขาสั้นแล้วยังขยันเดินอีกนะ
**เปิดเพลง ฟังนะคะ เพื่อความฟิน คิคิ **
" ตกลงเธอจะไม่ช่วยฉันใช่ไหม ?? ใช่สิ ไอ้ฉันมันก็แค่สมาชิกธรรมดา ใครจะเหมือน อึนกวัง ฮยอง คนโปรดของเธอละ รายนั้นนะ ไม่ต้องเสนอเธอก็คงสนองให้ทันทีใช่ไหม ?? "
" ย่าห์!!! ยุกซองแจ !! ถ้านายจะพูดมั่วๆผิดๆ นายอย่าพูดเลยดีกว่า "
ซังมีพูดก่อนจะหยุดเดิน พร้อมกับหันหน้ามาหาผมอย่างเอาเรื่อง
“ ทำไม ฉันพูดผิดตรงไหน?? ก็เธอแอบชอบฮยองไม่ใช่หรอ ??? ทำไมฉันจะไม่รู้ ฉันดูคนออกง่ายจะตาย !! เธอนะรักอึนกวังฮยอง ถ้าเธอต้องการจะคบกับเขา ก็บอกฉันสิ ฉันจะได้ช่วยเธอ ”
ผมระเบิดคำพูดออกมาอย่างเสียงดัง แต่ขณะนั้นเองร่างของผมกลับถูกเธอผลักอย่างแรงจนล้มลงกับพื้น
“ ซองแจอา ฮึกๆ นายมันไม่รู้อะไรเลยจริงๆ นายมักจะคิดว่าตัวเองฉลาด แต่สุดท้าย นายนั่นแหละที่มันโง่ที่สุด !!! ”
เธอพูดปนเสียงสะอื้นออกมา น้ำใสๆที่เอ่อล้นดวงตาทั้งสองค่อยๆไหลอาบทั้งสองแก้ม ภาพเหล่านั้นมันทำให้ผมรู้สึกแปลกใจขึ้นมาเกี่ยวกับเธอ ผมแค่พูดเรื่องอึนกวังฮยอง แต่กลับทำให้เธอไม่พอใจขนาดนั้นเลยหรอ ?? แต่ทำไมเธอถึงเลือกที่จะร้องไห้แทนที่จะด่าผมแทน เธอเป็นอะไรของเธอกันแน่
" เธอร้องไห้ทำไม เธอโกรธฉัน เธอก็ด่าฉันสิ เธอก็ตบก็ตีฉันสิ "
" ..... TT... "
" ซังมีอา ได้โปรดเถอะ ได้โปรดอย่าร้องไห้ ฉันไม่ชอบเธอเวลาร้องไห้จริงๆ"
" .....TT...."
" ขอโทษนะ ที่พูดไม่คิด ขอโทษที่ทำให้เธอเสียใจ "
ผมเอ่ยเบาๆก่อนลุกขึ้นปลอบร่างบางตรงหน้า มือทั้งสองของผมรั้งเธอเข้ามาในอ้อมกอด โดยที่ใบหน้าของเธอนั้นซบที่อกของผมพอดี น้ำตาอุ่นๆที่ยังคงไหลไม่ขาดสายได้ซึมซับเข้าไปในเสื้อของผม เป็นเครื่องช่วยเตือนให้ผมสำนึกผิดมากขึ้น
" ฉันเป็นห่วงเธอนะ ซังมีอา "
End sungjae part....
**เปิดเพลงก่อนนะคะเพื่อความฟิน **
อ้อมกอดอุ่นๆ ที่ฉันเฝ้าารอมันมาเวลานาน บวกกับคำพูดดีดี ที่ซองแจพูดขึ้นเพื่อปลอบฉัน แต่ตอนนี้มันไม่ได้ช่วยอะไรฉันอีกต่อไปแล้ว
ซองแจอา นายไม่รักฉัน ฉันไม่ว่า แต่นายได้โปรดอย่าผลักไส อย่าไล่ให้ฉันไปรักกับใคร เพราะมันเป็นสิ่งที่ทำร้ายหัวใจฉันที่สุด TT
เวลาล่วงเลยไป ในขณะที่ฉันยังอยู่ในอ้อมกอดของเขา ฉันพยายามข่มความเศร้าลงลึกในจิตใจก่อนจะรีบเช็ดน้ำตาทั้งหมดออก และฝืนยิ้มบางๆ
“ ย่าห์ !!! ยุกซองแจ นายกอดฉันแบบนี้ไม่กลัวยัยอินฮยอนเข้าใจผิดหรอ ?? ปล่อยฉันได้แล้ว !! ”
ฉันพยายามเปลี่ยนเสียงให้เป็นปกติ ก่อนจะรีบเอ่ยกับเขาที่กำลังกอดฉันอยู่อย่างแน่น เขาค่อยๆคลายมือออก ก่อนจะมองหน้าฉันด้วยอาการที่เป็นห่วงอยู่
“ เธอไม่เป็นไรแล้วใช่ไหม ?? ”
“ อืม ”
“ ไม่โกดฉันแล้วใช่ไหม ??? ”
“ อืม ”
“ แล้วเธอจะช่วยฉันใช่ไหม ??? ”
“ ……..อืม ”
ฉันแอบเงียบก่อนจะตอบตกลงเขาไป บุคคลตรงหน้ายิ้มอย่างดีใจ ก่อนจะรั้งฉันเข้าไปกอดอีกครั้ง
‘ขอแค่ให้ฉันได้อยู่ข้างๆและได้เห็นรอยยิ้มของนาย ฉันก็พอใจแล้ว ซองแจอา’
“ จริงนะ!!!! ต้องช่วยฉันน่ะ เยเย้ !!! น่ารักจังเลย เมเนเจอร์ของผม ฮิฮิ ไหนๆๆมาจุ๊บทีดิ !! ”
ฉันไม่ทันได้หลบ แต่เขาก็ตรงมาประทับริมฝีปากอุ่นๆลงบนแก้มของฉันทันที นายทำอะไรลงไป นายคงไม่รู้สินะ เพราะว่านายไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าฉันคนนี้ ที่อยู่ตรงหน้านาย รักนายมากแค่ไหน มันไม่ใช่แค่รักที่แฟนคลับมอบให้ศิลปิน ไม่ใช่รักของเพื่อนร่วมงาน แต่มันคือความรักที่ผู้หญิงคนหนึ่งที่พร้อมจะอยู่ข้างนายตลอดไป
“ ฮ้าววว ฉันง่วงแล้วอ่ะ ขอตัวไปนอนก่อนนะ ”
“ ครับ งั้นผมขอเดินไปส่งนะ ”
“ อืมๆๆ ”
เราสองคนเดินออกมาจากสวนสาธารณะอย่างช้าๆ โดยมีแสงไฟริมทางคอยส่องทางให้ มันก็เหมือนกับฉัน ที่ต้องส่องทางให้ซองแจสมหวังกับอินฮยอนให้ได้ ร่างสูงเดินยิ้มอย่างมีความสุขก่อนจะนำหน้าไปเล็กน้อย ส่วนคนตามหลังอย่างฉันก็ทำได้เพียงแอบสะอื้นอยู่เบาๆในใจ ฉันแอบมองเงาของเขาขนาบข้างกับเงาของฉันเพราะแสงไฟ ก่อนจะเอื้อมมือที่สั่นเทาออกไปเพื่อให้เงามือของเราทาบกันพอดี ถ้ามองด้วยตามันก็เหมือนว่าเราเดินจับมือกันไป ถึงความจริงมันจะเป็นเงาแต่แค่นี้หัวใจที่กำลังปวดร้าวของฉันมันก็ชุ่มชื่นแล้ว
“ อ้า ถึงสักที!!! อากาศเริ่มหนาวแล้วเธอรีบเข้าบ้านเถอะ เด๋วพรุ่งนี้เราจะต้องร่วมมือกันทำภารกิจสำคัญนะ ซองแจ ซังมี ไฟว์ทิ้ง!!!!!! ”
ซองแจเอ่ยขึ้น เมื่อเดินมาถึงหน้าร้านของป้าฉัน พร้อมกับยกมือขึ้นตั้งท่าไฮไฟว์ ฉันยื่นมือเพื่อตอบรับเขาเบาๆ
“ อื้ม ฉันจะพยายาม!! เอ่อที่สำคัญ ต่อไปนี้ นายห้ามเรียกชื่อฉันแบบนี้อีกเข้าใจไหม ?? ถ้านายลำบากใจจะเรียกฉันว่านูน่า นายก็เรียกฉันว่า เมเน่ก็พอ !!! ฝันดีนะซองแจอา ”
“ ครับผม!! ฝันดีครับ ซังมีเมเน่ !!! ”
เมื่อบอกลาเสร็จ ร่างสูงตรงหน้าก็เดินทางกลับไปยังที่พักทันที มีเพียงฉันที่แอบมองดูเขาจากไปจนหลับตา ฉันเดินเข้ามาในห้อง ซึ่งพบกับยัยเพื่อนรักอินฮยอน ที่นอนหลับปุ๋ยอยู่ ฉันวางสัมภาระก่อนจะเดินไปนั่งตรงที่ยัยเพื่อนรักของฉันนอนหลับอยู่ พร้อมสารภาพความรู้สึกออกไปเบาๆ
“ อินฮยอนนา …..แกรู้ไหม ??? แกมักจะโชคดีกว่าฉันเสมอ !!! ”
“ ทุกคนรายล้อมแย่งกันที่จะรักแก ต่างกับฉันที่รักเขา แต่ไม่สามารถบอกออกไปได้ TT แม้ว่าหัวใจของฉันมันจะอยากตะโกนออกไปให้ดังสุดเสียง ”
“ …zZ …”
“ ฮึกๆ ฉันเจ็บมากนะ แกรู้ไหม ?? ฉันเจ็บปวดทุกครั้งที่เขาขอให้ฉันช่วยทำให้แกรักเขา TT ”
“ …zZ …”
“ ดังนั้น อินฮยอนนา ฉันขอร้องละ แกได้โปรด!! อย่าได้ปฏิเสธเขาเลยนะ ความผิดหวังมันเจ็บปวดเหลือเกิน !! ฉันไม่อยากให้เขาได้รับมันเหมือนฉัน !! ”
“ …zZ …”
“ ฝันดีนะ เพื่อนรักของฉัน !!!!! ”
ฉันเอื้อมมือไปปิดไฟ พร้อมกับโน้มตัวลงบนเตียงข้างๆยัยอินฮยอน และข่มตาให้หลับลงเพราะ แต่เพราะความมืดมิด ทำให้ฉันไม่ทันสังเกตว่า มีของเหลวอุ่นๆไหลลงมาจากดวงตาทั้งสองของบุคคลที่นอนอยู่ข้างๆฉัน
V
V
V
V
เอ้ก อิเอ้ก เอ้กกกกกกกก <<< ตื่นกันได้แล้วโว้ยยยย
เสียงไก่จากไหนไม่รู้มาขันอยู่ข้างๆหูของฉันที่กำลัง นอนหลับอยู่เพราะอาการเพลีย มือเรียวของฉันทั้งสอง รีบค้นหาต้นเสียงนั้นทันที มันก็คือเสียงปลุกจากโทรศัพท์ของฉันนี่เอง
“ โอ้ยยยย ไก่ที่ไหนมาขันเนี่ยย เด๋วแม่ก็จับผัดเผ็ดให้เลย !!! คนกำลังง่วงๆ ”
เสียงยัยอินฮยอนลุกขึ้นมา ส่งเสียงดุเจ้าไก่ตัวปัญหา ก่อนจะล้มตัวนอนต่อ ฮ่าๆๆ แกนี่มันบ้าจริงๆ เกือบได้กินโทรศัพท์ผัดเผ็ดแล้วไหมละ ฮ่าๆๆๆ
เอ้ก อิเอ้ก เอ้กกกกกกกก <<< ตื่นกันได้แล้วโว้ยยยย
เสียงไก่จากไหนไม่รู้มาขันอยู่ข้างๆหูของฉันที่กำลัง นอนหลับอยู่เพราะอาการเพลีย มือเรียวของฉันทั้งสอง รีบค้นหาต้นเสียงนั้นทันที มันก็คือเสียงปลุกจากโทรศัพท์ของฉันนี่เอง
“ โอ้ยยยย ไก่ที่ไหนมาขันเนี่ยย เด๋วแม่ก็จับผัดเผ็ดให้เลย !!! คนกำลังง่วงๆ ”
เสียงยัยอินฮยอนลุกขึ้นมา ส่งเสียงดุเจ้าไก่ตัวปัญหา ก่อนจะล้มตัวนอนต่อ ฮ่าๆๆ แกนี่มันบ้าจริงๆ เกือบได้กินโทรศัพท์ผัดเผ็ดแล้วไหมละ ฮ่าๆๆๆ
“ ย่าห์ !!!!! อินฮยอนนา แกควรจะตื่นได้แล้วนะ !!!!! มันสายจนตะวันจะแยงหัวแกแล้ว ”
“ อือออ~~~ วันนี้วันอาทิตย์ไม่ใช่หรอ ไม่มีงานที่ไหนนิ !! ”
เสียงร่างบางตรงหน้าฉันงัวเงียขึ้นมาตอบ ก่อนจะฟุบหน้านอนลงบนเตียงเดิมต่อ ขี้เซาจริงๆเลยยัยคนนี้
“ ใครบอกแกละ !!! วันนี้ เราต้องพาซองแจ ไปถ่ายแบบที่สวนสุนกนะ !! ”
ฉันเริ่มแผนการที่ได้เตี๊ยมกับซองแจไว้เมื่อคืน ทันที ยัยอินฮยอนจึงค่อยๆโผล่หัวขึ้นมาจากผ้าห่ม ก่อนจะนั่งบ่นพึมพำๆ
“ ง่า~~ ได้ไงอ่ะ นี่มันฆ่ากันชัดๆเลย วันหยุดก็ไม่ให้หยุด นี่อะไรกัน ง่า ”
“ เลิกบ่นและไปอาบน้ำแต่งตัวได้แล้ววว แกไม่ได้หยุด แล้วทำเหมือนว่าฉันได้หยุดยังงั้นแหละ ”
“ แกต้องไปด้วยนะซังมี ไม่งั้นฉันโกรธแกแน่ !!!! ”
“ เอ่อ เอิ่ม อื้มมม ไปจ้ะ ๆๆ แกรีบเข้าไปในห้องน้ำเหอะ ไปๆๆ”
ฉันเอ่ยขึ้น หลังจากใช้มือดึงร่างยัยอินฮยอนที่กำลัง สลึมสลือ ก่อนจะจัดการถีบส่งเข้าไปในห้องน้ำทันที จู่ๆเสียงโทรศัพท์ของฉันก็ดัง ขึ้น เบอร์โชว์หรา ก็คือบุคคลที่กำลังเจอกันในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า
“ นายโทรมาทำไมเนี่ย ??? ”
[ เอิ่ม ฉันแค่อยากรู้ว่า แผนของเราเป็นไงบ้าง ??? ]
“ อื้มม โอเค ”
[ แล้วยัยป้ามาคนเดียวใช่ไหม ??? อยากให้ใครรู้เรื่องนี้เด็ดขาดนื่ โดยเฉพาะมินอยอกฮยอง กับ ไอ้อิล ]
“ ไม่มีใครรู้หรอกน่า แต่อินฮยอนไม่ได้ไปคนเดียวนะ เพราะยัยนั่น บังคับให้ฉันไปด้วย ”
[ โดว์!!!! อุส่าห์นึกว่าได้อยู่กันสองคนมีเธอมาเป็นก้างสะงั้น ฮ่าๆ แล้วทำไมเธอไม่พยายามปฎิเสธไปละ ปฎิเสธไปสะ !! สามคน แล้วอย่างนี้เขาจะเรียกว่าเดทได้ไง ]
“ นายไม่ต้องกลัวหรอก ซองแจอา พอฉันพาอินฮยอนไปส่งให้นายเสร็จ ฉันก็จะรีบหายไปให้ไวเลย จะไม่อยู่ให้นายรำคาญใจแน่นอน ”
[ เอิ่ม เธอก็อย่าคิดมากละกัน ฉันไม่ได้หมายความอย่างที่พูดหรอกนะ งั้นแค่นี้ก่อนนะ แล้วเจอกัน !! ]
ตรู๊ดดๆๆๆ
ทันทีที่สิ้นเสียงของเขา โทรศัพท์ที่แนบหูของฉันอยู่ก็ร่วงลงสู่พื้นทันที เพราะมือที่สั่นเทาของฉันทั้งสองตอนนี้มันไม่มีแรงพอที่จะทำอะไรได้อีกแล้ว ร่างของฉันถูกปล่อยตามแรงโน้มถ่วงของโลกก่อนจะล้มลงยังเตียงนอน รวมถึงดวงตาทั้งสองข้างที่ชื้นไปด้วยของเหลวอุ่นๆที่กำลังเอ่อล้น หัวใจของฉันกำลังปวดร้าวแทบขาดใจ ราวกับโดนเข็มนับร้อยพันมาทิ่มแทง
~~~ฉันคงไร้ค่า เมื่อฉันหมดประโยชน์กับนายสินะ ซองแจอา~~
V
V
V
V
ฉันและอินฮยอน เดินทางกันมาสักพัก เราก็ถึงยังจุดหมายปลายทางที่ซองแจกำหนดไว้ โดยที่ฉันกุมมือของเธอมา ตลอดทาง อินฮยอนนา แกจะมองว่าฉันเห็นแก่ตัวไปหรือป่าว ??? นี่ฉันกำลังส่งแกไปหาซองแจ ทั้งๆที่ใจของแกตอนนี้ได้มอบให้คนอื่นไปแล้ว ถึงแม้เธอจะปฎิเสธว่าไม่ได้ รักมินฮยอกโอปป้า เท่าไหร่ แต่ทำไมฉันถึงจะมองแววตาคู่นั้นของแกไม่ออก ต้องฉันก็ทนเห็นเขาเจ็บปวดไม่ได้เช่นกัน ฉันหวังว่าแกคงเข้าใจฉัน
.” ซังมีอา แกเป็นอะไรไปหรือป่าว ??? มือแกเย็นมากเลยนะ ”
“ ป่าวหรอก แค่ปวดหัวนิดหน่อย ฉันว่าเราเข้าไปข้างในกันดีกว่านะ !!!! ”
“ อื้มม ว่าแต่ทีมงานอยู่ข้างในใช่ไหม ??? ”
ฉันได้แต่พยักหน้ารับ ก่อนจะเดินตามร่างบางข้างไปด้านในของสวนสนุกทันที ซองแจอา นายจะมาหรือยังนะ ???
“ จ๊ะเอ๋ !!! ยัยป้า !!!!!! ”
“ ย่าห์!!! ยุกซองแจ นายเล่นอะไรของนายเนี่ย ???”
ซองแจออกมาทักทายยัยอินฮยอนที่กำลังมองหากองถ่ายอยู่ ก่อนจะแอบยักคิ้วให้ฉันเล็กน้อยและหันไปคุยกับยัย
อินฮยอนต่อ
“ โธ่ป้า มาสวนสุนกก็ต้องเล่นเครื่องเล่นสิ ป่ะๆไปกันเหอะ !!! ”
“ อะไร น่ะ!!! เล่นเครื่องเล่นหรอ ??? แล้วเรื่องถ่ายแบบ นี่แกโกหกฉันหรอหะ ??? ยัยซังมี ”
ยัยอินฮยอนตกใจสักพัก ก่อนจะหันมาถามฉันอย่าเอาเรื่อง ซึ่งซองแจที่อยู่ด้านหลังก็พยายามชูไม้ชูมือ ให้ฉันช่วยหาเรื่องโกหกต่ออีก
“ อ่อ เอิ่ม พอดีฉันอยากมาเที่ยวนะ แต่ไม่กล้าชวนแกมา เพราะกลัวแกหาว่าฉันปัญญาอ่อน แหะๆ ”
ฉันพยายามไหลไปตามน้ำ พร้อมกับทำหน้าใสซื้อต่อไป อินอยอนนา แกอย่าสงสัยอะไรอีกเลยเถอะ ฉันไปต่อไม่ถูกแล้ว
“ ทำไมไม่บอกฉันดีดีละ ฉันไม่ชอบเวลาแกโกหกเลยรู้ไหม ??? ”
“ ฉันขอโทษนะ ที่ไม่บอกกับแกไปตรงๆ แกเลิกโกรธฉันเหอะนะ นะนะนะนะนะ ต่อไปฉันจะไม่โกหกอะไรแกอีกเลย ฉันสัญญา ”
“ ผมสัญญาด้วยคน อิอิ”
ซองแจ พูดเสริมฉันขึ้นมา พร้อมส่งสายตาอ้อนวอนไปทางยัยอินฮยอน
“ นายเกี่ยวอะไรด้วยยะ ฮ่าๆๆๆ งั้นจะมาเศร้ากันอยู่ทำไม ไหนๆก็มาละ งั้นไปเล่นกันให้สนุกสุดกันเลยดีกว่า !! ”
เมื่ออินฮยอนพูดจบ เราทั้งสามก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน ก่อนจะเดินไปเล่นเครื่องเล่นต่างๆในสวนสนุก ฉันพยายามที่จะเดินช้าๆเพื่อให้ ซองแจกับยัยอินฮยอนได้เดินใกล้ชิดกัน แต่ยัยเพื่อนสาวก็กลับมารั้งฉันให้ตามติดอยู่เสมอ หลายครั้งที่ฉันปฎิเสธที่จะเล่นเครื่องเล่นกับพวกเขา เพราะอ้างว่าปวดหัว ด้วยความจงใจของฉันที่อยากให้ซองแจได้สารภาพความรู้สึกออกไปกับอินฮยอน
“ อ้า สายไหม มันเป็นของโปรดของแกนิ สนใจไหม อินฮยอน ”
“ ไม่เอาดีกว่า ฉันเพิ่งกินที่บ้านหมดไปไม่กี่วันนี่เอง ก็ไอ้ปีศาจมินอะดิ ซื้อสะฉันนึกว่าจะไปเปิดร้านขาย ฉันกินจนฟันจะผุแล้ว !!! ”
อินฮยอนพูดปฎิเสธฉัน แต่กลับคายความลับของตัวเองออกมา ทำให้ซองแจตกใจเป็นอย่างมาก ต่างกับตัวฉันที่รู้ตั้งแต่วันนั้นอยู่แล้ว
“ ฮะ !! นี่ป้าไปเที่ยวกับฮยองมาหรอ ??? ”
“ ปะป่าวหรอก ปีศาจมินแค่ซื้อมาเยอะเกิน จนไม่รู้จะเอาไปทิ้งที่ไหน เลยเอามาทิ้งที่ฉัน ก็แค่นี้แหละ”
“ เอ๋?? ปกติมินฮยอกฮยองเกลียดสายไหมจะเป็นจะตาย แต่กลับซื้อมาเยอะแยะเนี่ยนะ แปลกจริงๆเลย ”
“ ซองแจอา ฉันอยากเล่นอันนั้นจัง !!! ”
ยัยอินฮยอนพูดเปลี่ยนเรื่องทันที พลางชี้มือไปยัง ชิงเช้าสวรรค์ขนาดยักษ์ที่สูงเด่นเป็นสง่าของสวนสนุกแห่งนี้ ส่วนฉันเองก็ได้แต่แอบยิ้มเล็กน้อย กับเหลี่ยมอันแพรวพราวของเพื่อนสาว ก่อนที่เราจะมุ่งหน้าไปยังที่นั่นทันที
“ เอาไงดีละ ในตั๋วบอกว่า กระเช้านึงนั่งได้สองคนอ่ะ ต้องมีคนนึงนั่งไปคนเดียว !!! ”
ซองแจที่เพิ่งเดินเข้ามาพร้อมกับตั๋วในมือ พูดขึ้นเสียงดัง
“ ได้ไงอา เรามากันสามคนจะเล่นกันสองคนได้ไง ??? นายไปเคลียร์กับเจ้าหน้าที่ให้รู้เรื่องเดี๋ยวนี่ ”
“ เอาน่าๆๆ อินอยอนนา ฉันรู้สึกปวดหัวพอดีนะ เธอกับซองแจเล่นไปกันเถอะ เดี๋ยวฉันจะรออยู่แถวนี้แหละ ”
ฉันพยายามปรามยัยอินฮยอนที่กำลัง วู่วามอยู่ ก่อนที่จะเอาอาการปวดหัวมาเป็นข้ออ้างอีกตามเคย ที่นี่แหละน่าจะเป็นที่ที่ซองแจเหมาะสำหรับบอกรักยัยอินฮยอนที่สุด และเมื่อส่งทั้งสองสู่ฝั่งฝัน ก็คงถึงเวลาที่สะพานอย่างฉันจะหมดหน้าที่แล้วสินะ
“ ไปเหอะป้า เร้ว เห็นไหมว่าคนอื่นเขารออยู่นะ !!!! ”
“ ซังมีอา แกอยู่คนเดียวได้ใช่ไหม ?? ”
ฉันพยักหน้ารับ ก่อนที่ยัยซังมี กับซองแจจะเดินไปยังตัวชิงช้า
“ ขอให้พวกเธอทั้งสองคนมีความสุขกันมากๆนะ ”
เสียงเอ่ยเบาๆของฉันลอยขึ้น หลังจากได้เพียงแต่มองเขาทั้งสองเดินจากไปตรงหน้าอย่างช้า เห็นรอยยิ้มของซองแจที่ส่งมาให้ฉันเพื่อขอบคุณ ฉันจึงฝืนยิ้มจางๆพร้อมกับโบกมือตอบกลับไป เห็น ชิงช้าของเขาและเธอเริ่มค่อยๆเคลื่อนที่ขึ้นไป คล้ายกับหัวใจของฉันที่กำลังแตกสลายไปทีละชิ้นเช่นกัน
‘ อินฮยอนนา.......
สำหรับฉันแล้ว แกมีความสำคัญกับฉันมาก
แกเป็นทั้งเพื่อน
พี่สาวที่แสนดี
และครอบครัวของฉัน
ถึงแม้หัวใจของฉันมันจะทรมานมากแค่ไหน แต่ฉันก็ยังดีใจที่เขารักแกนะ โชคดีนะเพื่อนรักของฉัน .........’
น้ำตาทั้งสองข้างไหลรินลงมาอาบแก้มทั้งสอง อย่างไม่หยุดสาย ยิ่งฉันเงยหน้ามองใบหน้าคุ้นๆของเขามันก็ยิ่งทิ่มแทงจนเจ็บปวดสุดพรรณา
‘ ซองแจอา....
ฉันอยากให้นายรู้จังเลย ว่าฉันคนนี้เจ็บปวดทุกครั้งที่แกล้งทำเป็นไม่คิดอะไร
ฉันเจ็บปวดทุกครั้งที่ ต้องมองใบหน้าของนาย
และแทบขาดใจทุกครั้งที่ได้ยินนายผลักไสฉันให้เป็นรักกับคนอื่น
ฉันรัก นาย...... และจะรักคนเดียวตลอดไป นี่คือ ประโยคที่ฉันอยากมอบให้นายมากที่สุด
นี่คือความในใจทั้งหมด ที่หลั่งรินมาพร้อมกับน้ำตา นี่คือความจริงทั้งหมดที่ฉันต้องแอบซ่อนมันไว้ ‘
“ ฮึกๆ แกนี่มันโง่จริงๆนะซังมี แกควรจะมีความสุข แทนที่จะมานั่งร้องไห้แบบนี้ไม่ใช่หรอ??? ฮือๆ TT “
ถึงแม้จะพยายามหาคำเป็นร้อยพันมาปลอบใจ ก็ไม่เป็นผล เพราะตอนนี้ฉันไม่สามารถควบคุมมันได้อีกต่อไปแล้ว คงต้องปล่อยให้ความเสียใจถามโถมร่างกายให้สาสม ก่อนจะเลือกที่จะเดินจากไปเพียงลำพัง..............
‘ เพราะฉันได้เลือกแล้ว ฉันเลือกที่จะที่จะเฝ้าแต่คอยมองดูนายจากที่ไกลๆ และมองนายมีความสุข ‘
End Sangmee part....
:) Shalunla
ความคิดเห็น