คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : มันคือ รักแท้ หรือ แค่หวั่นไหว !!!!! 100%%%%%%%
อันฮยองงงงงง ~~~~~~~เชจู !!!!!
ตอนนี้ฉันและทุกคนเดินทางมาถึง สนามบินเชจูเป็นที่เรียบร้อย โดยที่ฉันและซังมีต้องแบกสัมภาระของตัวเองแล้ว ยังต้องมาแบกสัมภาระให้ยัยแม่มดเพนนิสอีกด้วย หนักนะว้อยยย !!!!
“ กำลังนินทาฉันในใจหรอ ?? ยัยบ้านนอก !! อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ !!”
ยัยแม่มดพอก้าวลงจากรถของสนามบินมายังที่พักและชี้นิ้วสั่งฉันกับยัยซังมีให้ลากกระเป๋าขึ้นห้องพักของโรงแรม ทั้งๆที่บริกรของโรงแรมอยู่ ทำไมยัยนี้ต้องมาใช้พวกฉันสองคนด้วยห๊ะ !! นี่มันแกล้งกัยชัดๆ แล้วดูกระเป๋าแต่ละลูกของนาง ฉันนึกว่าคุณเธอมาค้างที่แรมปี ฉันอยากจะบ้าตาย
“นี่ !!! ยัยแม่มด !!! ถามไรหน่อยเหอะ .. บริกรโรงแรมก็มีใช้นะ ทำไมไม่ใช้ห๊ะ !!! มาใช้พวกฉันทำไมย่ะ.. ฉันเป็นเมเนเจอร์บีทูบีนะ ไม่ใช่เป็นเมเนเจอร์ให้เธ๊อ !!!!!!!”
ยัยซังมีหมดความอดทนโยนกระเป๋ายัยแม่มดทิ้งลงพื้นอย่างแรง ก่อนจะชี้หน้าตะโกนใส่ยัยแม่มด แบบไม่กลัวเกรงใดๆทั้งสิ้น
“ย่าห์ !!!!!!!!!!! ป้า..ทำงี้ได้ไงย่ะ รู้มั้ยกระเป๋าฉันราคาเท่าไหร่ห๊ะ !!!!!!!!!!!!! กริ๊ดดดดดดดดด”
ยัยแม่มดปริ๊ดแตก กริ๊ดสะโรงแรมแทบแตก จนชาวต่างชาติแถวนั้นมองมาทางเราเป็นตาเดียว
“ย่าห์ !!!! อาละวาดอะไรอีกห๊ะ !!!!! ไม่อายคนอื่นบ้างรึงไง”
ยังไม่ทันที่ยัยซังมีจะต่อปากต่อคำ อิลฮุนนี่ก็เดินเข้ามา พลางเอ๊ดยัยแม่มดอย่างดุๆ ก่อนจะจัดกระเป๋าที่ล่วงหล่นลงพื้น แล้วจัดการนำไปถือเองทั้งหมด เพื่อตัดปัญหา
“นูน่า มา เดี๋ยวผมช่วย”
อิลฮุนหยิบกระเป๋าทั้งหมดที่ฉันถืออยู่ไปถือสะเอง รวมถึงกระเป๋ายัยแม่มดเพนนิสด้วย ก่อนจะชำเลืองยัยเพนนิสด้วยหางตา ก่อนจะเดินนำฉันไป ปล่อยให้ยัยแม่มดยืนฟืดฟัด อยู่คนเดียว
.
.
ทุกคนตอนนี้พร้อมหน้าพร้อมตากันอยู่หน้าล็อบบี้ เพื่อที่จะจัดแจงแยกห้องนอนกัน ซึ่งฉัน ยัยซังมี และยัยเพนนิส อยู่ห้องเดียวกัน ส่วนปีศาจมิน มักเน่ซองแจ อิลฮุน และก็พีเนียล อยู่อีกห้องนึง ส่วนอีกห้องนึงคือ ฮยอนชิก ชางซอบ อินกวังโอปป้า รวมถึง จียงโอปป้าด้วย บันเทิงหล่ะงานนี้ ทำไมต้องมานอนกับยัยแม่มดนะ หึย !!! ลำพังแค่เจอหน้ากันทุกวันยัยนี้ก็หาเรื่องฉันตลอด แล้วนี่ยังต้องมานอนด้วยกันอีก โอ๊ย !!!! ตาย !!!!
.
.
หลังจากที่ทุกคนต่างแยกย้ายเข้าห้องกัน ฉัน ยัยซังมี แล้วก็ยัยแม่มด ก็มายังห้องพักของเรา แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะเข้าห้อง ยัยเพนนิส ก็จัดการ แบ่งอาณาบริเวรเรียบร้อย นี่มันบ้าอะไรอีก !!??!!
“นี่ !! พวกเธอหน่ะ !! ไปนอนหน้าห้องน้ำนะ ฉันจะนอนบนเตียงนี้ ......................คนเดียว!!!!!!!!!!!!”
ยัยแม่มดเพนนิส ลากกระเป๋าใบใหญ่ที่เอามา สองสามใบ โยนลงบนเตียงก่อนจะสร้างอาณาเขตให้ตัวเอง นี่เธอจะบ้าหรอห๊ะ !!! ยัยบ้า !!!
“ได้ไงย่ะ !!!! เตียงตั้งใหญ่โต ยังกะสนามรบ เธอจะนอนคนเดียวเนี๊ยะนะ”
ยัยซังมีเอ่ยขึ้นพลางมองหน้ายัยแม่มดอย่างเหลืออด
“ก็ไม่รู้สินะ ... ฉันนอนร่วมกับคนอื่นไม่ได้หน่ะ มันอึดอัด หายใจไม่สะดวก”
ยัยเพนนิสพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ ไม่สะทกสะท้านใดๆทั้งสิ้น
“หึ !! งั้นถ้าเธออยากนอนสบายๆมากนัก ก็ไปนอนหน้าห้องน้ำคนเดียวสิ ยั่งไง พื้นที่กว้าง ปลอดโปร่งเหมาะสำหรับเธอดีนะ ฉันว่า”
ยัยซังมีพูดด้วยทีท่าที่กวนเบื้อล่าง นี่แกตั้งใจจะเป็นคู่ปรับยัยยัยแม่มดจริงๆสินะ
“นี่เธอ !!!!!!!!!!!!!!!!”
ยัยแม่มดเพนนิสตั้งท่าจะพูดต่อไปยัยซังมีก็กระโดดขึ้นเตียงแล้ว ลากกระเป๋าที่ยัยแม่มดเอาไปวางไว้ไปอาณาเขตผลักลงเตียงทั้งหมด ก่อนจะล้มตัวลงนอนแผ่หราบนเตียงนั้น
“เอาสิ!!!! ถ้าเธออยากจะไฝว์กับฉัน !!!!”
ฉันทนดูไม่ไหวและ ยังไงก็ต้องห้าม ยัยพวกนั้น ไม่งั้นห้องคงแตกแน่
“เอาหน่าๆ พอเหอะ..ตอนนี้ฉันเหนื่อยแล้วอยากพักมากๆเลยนะ พวกเธอไม่เหนื่อยกันรึไง ?? เก็บของ แล้วเตรียมทำงานกันเหอะซังมี”
ฉันพูดอย่างเนือยก่อนจะหันไปบอกซังมี แล้วเดินไปปเก็บข้าวของแล้วลงไปพบกับพี่จียง เพื่อรับงานในวันพรุ่งนี้ ก่อนจะหันไปมองหน้ายัยแม่มดเพนนิส แล้วพูดกับเจ้าหล่อนว่า..
“นี่..ไหนเธอบอกว่ารักมินฮยอกนักหนาไง ถ้ารักเขาก็อย่าคิดป่วนงานเขาหล่ะ ?? ถ้าคิดจะป่าวนงานก็กลับโซลไปเลย !!”
ฉันพูดกับยัยแม่มดด้วยน้ำเสียงปกติ
“สู่รู้”
ยัยเพนนิสพูดออกมาเบาๆ แต่ฉันไม่สนใจ ก้มหน้าจัดของไป ก่อนจะออกจากห้องเพราะต้องไปรับงานที่จะต้องทำในวันพรุ่งนี้ กับพี่จียง
.
.
.
.
.
ตอนนี้ฉันอยู่ตรงบริเวณล็อบบี้ของโรงแรมพร้อมกับ ยัยซังมี แล้วก็พี่จียงเมเนเจอร์ใหญ่นั่นเอง
“อ้าว .. มากันแล้ว ตรงต่อเวลาดีนี่”
พี่จียงเอ่ยทักทายเมื่อเห็นพวกเราสองคนเดินมา
“ค่ะ..โอปป้า” ยัยซังมีขานรับด้วยน้ำเสียงสดใส
“อ่ะ..นี่คืองานของพวกเธอในวันพรุ่งนี้นะ”
พี่จียงยื่นกระดาษแผ่นสีขาวมาให้ฉันและยัยซังมี พอฉันเห็นดังนั้นก็ตารุกวาวทันที อะไรกันเนี๊ยะ นี่ฉันเป็นแค่เมเนเจอร์นะ จะให้ฉันไปร่วมรายการกับพวกนั้นงั้นหรอ ไม่นะ !!!
“อะ..นะ..นี่..โอปป้า กำลังล้อพวกเราเล่นใช้มั้ยค่ะ”
ฉันถามพี่จียงเพื่อความแน่ใจ
“55555 เด็กโง่ ฉันจะล้อเธอทำไมหล่ะ ?? นี่มันการทำงานนะ ไม่ใช่เรื่องตลก”
พี่จียงย้ำคำว่าการทำงานอย่างชัดเจน แล้วไงอ่ะ ?? ไม่นะ ?? เท่าที่ฉันรู้มา ไอรายการนี้มันคือการทรมานไอดอลดีๆนี่เอง นี่พี่จียงกำลังพาพวกฉันไปทรมานหรือเนี๊ยะแต่เท่าที่ดูยัยซังมีแลดูจะดีใจจนออกนอกหน้านะ นั่นมันน่าดีใจซะที่ใหนเล่า ฮืออออ T T
“เอาหล่ะ ดีใจที่ได้ร่วมงานกันอย่างเป็นทางการนะสองสาว”
พี่จียงพูดอย่างยิ้มๆ แล้วเดินออกไป ปล่อยให้ฉันจมอยู่กับความงงงวย
“นี่ !! อินฮยอนแกเห็นมั้ย ?? ดูเสะๆ ?? กริ๊ดดดด !! ในชาตินี้ฉันไม่เคยคิดไม่เคยฝันเลยนะว่าจะได้อัดรายการกับเขา กริ๊ดดดดดด ! น่าตื่นเต้นเป็นบ้า”
ยังซังมีพูดไป กระโดดโลดเต้นไป เหมือนคนผีเข้า โอ้ยยย ยัยบ้า มันน่าดีใจตรงใหน ไอรยการนี่เนี๊ยะ มันจะพาแกไปทนมานรู้มั้ยยยยย ???
“ซังมีมันไม่ได้สนุกเหมือนที่แกคิดหรอกนะ แกยังจำซองยอลโอปป้า วงInfinite ของแกได้รึป่าว กลับมานี่จำแทบไม่ได้ -_-”
ยัยซังมีนิ่งอื้งไปประมาณ 7.8 วินาที ก็กลับมาทำหน้านิ่งอีกครั้ง
“ใครจะสนหล่ะ ?? ขอให้ใช้ได้ใกล้ชิด แนบสนิทกับ ซองแจ แล้วก็อึนกวังโอปป้า มันก็บุญโขแล้ว ต่อให้บุกป่าฝ่าดงมายังไม่ได้เท่านี้เลยนะ อันนี้ถือว่าคุ้ม ^ ^”
คุ้มบ้าคุ้มบอไรย่ะ ไปให้ยุงกัด ไม้เกี่ยวแขนเป็นแผลเนี๊ยนะคุ้ม แกมันบ้าไปแล้ว -_-
“ฉันหล่ะเคลียดกับแกจิงๆเล้ยยย ยัยซังมี ”
ฉันบ่นบับซังมีเบาๆ แต่ยัยนั่นก็หาสนใจไม่ กลับเดินออกไปโดยไม่วนใจฉันเลย
“แกจะไปใหนยัยซังมี”
ฉันถามยัยซังมีออกไป ก่อนที่ยัยนั่นจะตอบกลับมาว่า...
“ไม่อยากฟังคนแก่บ่นหน่ะ 555555555”
พูดจบแล้วยัยซังมีก็วิ่งออกไปด้วยความเร็วสูง ย่าห์ !!!!!!!!!!!! ไอเพื่อนคนนี้หนิ
.
.
.
ตอนนี้ก็ตอนเย็นแล้วหลังจากที่ พี่จียงปล่อยให้ทุกคนได้พักผ่อนกัน ตอนนี้ก็ถึงเวลารับประทานอาหารเย็นกันแล้ว มาทะเลทั้งทีไม่กินอาหารทะเล ก็คงถือว่ามาไม่ถึง ตอนนี้ทุกคนอยู่กับพร้อมหน้า โดยเฉพาะยัยแม่มดเพนนิสที่ พอลงมาเจอปีศาจมินเข้า ก็เข้าไปเกาะแขนยังกับปลิงทะเล แหวะ น่าหมั่นใส้ -_-
“โอปป้า..กินนี่หน่อยสิ มันอร่อยมากเลยนะ”
ยัยดาจองตักอาหารทะเลตรงหน้าให้ไอปีศาจมิน แต่ไอหมอนั่นกับทำท่าทีนิ่งเฉยเหมือนผีตายซาก นายยังรู้สึกไม่ดีอยู่สินะ TT
“แหวะ..จะอ๊วก”
อิลฮุนพูดขึ้นก่อนจะเหล่ตาไปมอง ดาจองแค่แป๊บเดียว แล้วหันกับมากินข้าวตรามปกติ ยัยดาจองได้ยินดังนั้นก็ทำเสียงจิจ๊ะ อย่างขัดใจ แต่ก็ไม่ได้สนใจสิ่งมีชีวิตที่ร่วมโต๊ะ อาหารแต่อย่างใด กลับไปสวีทกันต่อกับปีศาจมิน
[*** เปิดเพลงก่อนอ่านนะคะ เพื่อฟินยิ่งขึ้น*** จากไรท์เตอร์]
“เห้อ..”
ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ อย่างเหนื่อยออกจนยัยซังมีหันมามองหน้าอย่างงง
“เป็นไรของแก ??”
ยัยซังมีเอ่ยมาอย่างสงสัย
“ป่าว !! แค่เซงอ่ะ .. ฉันอิ่มแล้ว จะออกไปเดินเล่นข้างนอกนะ”
ฉันบอกยัยซังมีไปก่อนจะลุกขึ้นออกจากโต๊ะอาหาร ก่อนจะโค้งให้พี่จียงนิดๆ ก่อนจะออกมา แต่ทว่า ฉันกลับไปสบตากับไอปีศาจมินเข้า ดวงตาเรียวทั้งสองข้าง มองมายังฉันด้วยความเศร้าและเจ็บปวด มันทำให้ฉันรู้สึกสะอึกขึ้นมาทันที
ตอนนี้ฉันย้ายมานั่งที่ริมสระว่ายน้ำเล็กๆกลางสวนของโรงแรม ไฟสลัวๆทำให้ได้บรรยากาศที่นี้ดีจริงๆ ดวงดาวส่องแสงอยู่เต็มท้องฟ้า
'ดวงดาวจะสวย ก็อยู่ที่คนมอง' คำพูดนี้ยังใช้ได้เหมือนเดิมสินะ แต่สำหรับฉันแล้วเห็นอะไรที่เป็นแสงฉันก็คิดว่าเป็นดาวไปหมดแหละ คราวก่อนไปคิดว่าไฟตึกว่าเป็นดาวสะงั้น เล่นเอายัยซังมียังล้อเกือบถึงปัจจุบัน เฮ้อออ...ว่าแต่ที่นี่สวยดีเหมือนกันเนอะ ไม่คิดไม่ฝันจริงๆว่าจะมีโอกาสดีขนาดนี้ เด็กสาวธรรมดาจากปูซาน แต่ดูในตอนนี้สิ ฉันกลับเป็น ยูอินฮยอน เมเนเจอร์คนใหม่ของ บีทูบี ทั้งๆที่เรียนยังไม่จบ มันเป็นอะไรที่น่าภาคภูมิใจจริงๆนะ ฉันเอื้อมมือสองข้าง ไปกุมดวงดาวที่กำลังลอยเด่นเต็มท้องฟ้าราวกับว่ามันอยู่ในมือของฉัน
"ดาวดวงน้อย ตอนนี้นายอยู่ในมือของฉันแล้วนะ อย่าจากฉันไปไหนอีกละ"
ฉันพูดคุยกับดาวที่อยู่อ้อมมือราวกับว่ามันมีชีวิต สมองก็พลันถึงนึกถึงหน้าของปีศาจมินขึ้นมา
บีทูบี พวกนายเคยเป็นดวงดาวประจำดวงใจของฉัน แต่ตอนนี้ฉันอยู่ในฐานะที่ไม่ใช่แฟนคลับพวกนายอีกต่อไป แต่เป็นในฐานะเมเนเจอร์ บางคนอาจจะคิดว่าตำแหน่ง ไอดอล และตำแหน่งของฉันมันเป็นตำแหน่งที่น่าภาคภูมิใจ สุดท้ายแล้วทุกอย่างย่อมมีข้อจำกัด ซึ่งข้อจำกัดที่ว่านั่นก็คือห้ามมีความรัก ต่อกันและกัน ตอนแรกฉันก็คิดว่ามันไม่มีปัญหาแน่นอน เพราะยังไงงานก็สำคัญกว่าสิ่งใดๆทั้งสิ้น แต่นี้หัวใจของฉันกลับไม่ได้รู้สึกแค่นั้นอีกแล้ว ยิ่งเห็นสายตาปวดร้าวคู่นั้นมันถึงให้ฉันรู้สึก เจ็บปวดตามไปด้วย เจ็บปวดในใจดวงนี้
" ย่าห์ !!! นี่ฉันเป็นบ้าอะไรของฉันเนี่ย ออกไปจากหัวใจฉันเดี๋ยวนี้นะ "
ฉันพูดพลางโมโหตัวเอง แต่ยิ่งทำอย่างนั้นมันก็ยิ่งคิด คำพูดทุกคำพูดที่เขาเคยบอกกับฉันมันยิ่งให้หัวใจฉันยิ่งหวั่นไหว ฉันพยายามข่มตาหลับลงเพื่อไม่คิดถึงเรื่องนั้น ก่อนจะเอื้อมมือหยุดหูฟังและฟังเพลงโปรดของฉันสักหน่อย ต่อให้เพลงมันสนุกแค่ไหน ในใจฉันทว่ามันก็ยังคงเศร้าอยู่เช่นนั้น
" มินฮยอกอ่าา ขอโทษนะ...ที่รับความรู้สึกนั้นจากนายไม่ได้จริงๆ
นายช่วยเลิกทำแบบนี้กับฉันเสียที ฉันกลัว......ฉันกลัวความรู้สึกของตัวเอง จะเปลี่ยนไปรักนาย"
ฉันพูดทั้งๆที่ยังคงหลับตา แต่เท่าที่สัมผัสได้ตอนนี้ มันทั้งสองกลับมีของเหลวอุ่นๆที่ซึมอยู่ในตอนนี้ ฉันกำลังร้องไห้ใช่ไหม ร้องไห้เพราะอะไรกัน มันเป็นเพราะความรัก หรือความสงสารกันแน่ ฉันสับสนหัวใจตัวเองเหลือเกิน มือทั้งสองข้างรีบเช็ดมันออก ก่อนที่จะลืมตาขึ้นแล้วพบกับ ยุกซองแจในระยะที่ใกล้สะมากๆ ห่ะ ???? แสดงว่าเขาก็ได้ยินในสิ่งที่ฉันพูดอ้ะดิ
" ย่าห์ !!!!!!! นายมาตั้งแต่เมื่อไหร่ห่ะ"
Sungjae part ..............
มื้อเย็นวันนี้เป็น อาหารทะเลแสนอร่อย แต่ดูเหมือนว่า บุคคลใกล้ตัวผมทั้งสองคน ดูทีท่าว่าจะไม่เจริญอาหารเอาสะเลย ยัยป้าเธอเป็นอะไรของเธอนะ ปกติก็เห็นกินเก่งดี วันนี้เอาแต่นั่งเหม่อและถอนหายใจอยู่นั่นแหละ ผมเป็นห่วงนะรู้ไหม มินฮยอกฮยองก็อีกคนทำหน้าเหมือนคนกำลังจะตายทั้งๆที่มียัยแม่มดคอยเอาอกเอาใจอยู่ แล้วจู่ยัยป้าอินฮยอนก็ลุกขึ้นแล้วขอตัวออกไปข้างนอกทันที ผทจึงรีบเดินตามออกไปด้วยเช่นกัน เธอเลือกที่จะมานั่งที่ สระน้ำเล็กๆกลางสวน ทำไมเลือกที่เปลี่ยวจังฮะ ?? เกิดเป็นอะไรใครจะช่วยทัน ?? ผมละอดโมโหบุคคลตรงหน้าไม่ได้จริงๆ จากนั้นเธอค่อยๆเอามือไปหยิบดวงบนท้องฟ้า พร้อมกับพูดคุยกับมัน
"ดาวดวงน้อย ตอนนี้นายอยู่ในมือของฉันแล้วนะ อย่าจากฉันไปไหนอีกละ"
ผมอดขำกับพฤติกรรมของเธอไม่ได้เลยจริงๆ บางครั้งเธอก็ทำตัวเหมือนกับเป็นผู้ใหญ่ที่คอยดูแลพวกผม แต่ตอนนี้เธอกลับดูเหมือนเด็ก ที่ผมอยากจะคอยดูแลจริงๆ ผมจึงพยายามเดินเข้าไปหาเธออย่างเงียบๆ ทั้งทีเจ้าตัวยังเอาแต่หลับตาอยู่
" มินฮยอกอ่า ขอโทษนะ...ที่รับความรู้สึกนั้นจากนายไม่ได้จริงๆ
นายช่วยเลิกทำแบบนี้กับฉันเสียที ฉันกลัว...กลัวความรู้สึกของตัวเอง จะเปลี่ยนไปรักนาย "
จึก !! คำพูดเหล่านั้นที่ถูกเอ่ยออกมาจากปากของเธอมันทำให้ผมแทบจะหยุดหายใจ หัวใจของผมเหมือนกับโดนเข็มร้อยพันมาทิ่มแทง เธอรักมินฮยอกฮยองจริงๆสินะ เธอกำลังทำให้ผมรู้สึกกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ มันเป็นความเจ็บปวดที่ผมได้รับ ความชัดเจนจากปากของเธอ มือและขาทั้งสองข้างของผมสั่นระริก ไม่ต่างไปจากใจของผมที่มันกำลังบอบช้ำเสียอย่างหนัก ผมค่อยๆทรุดลงกับพื้นตรงหน้าของเธออย่างช้าๆ
" ย่าห์!!!!!!! นายมาตั้งแต่เมื่อไหร่ห่ะ"
แต่ทว่าเธอกลับลืมตาขึ้นมาพอดี ผมรีบเก็บความรู้สึกนั้นลงก้นลึกของจิตใจ และปรับสีหน้าให้ปกติทันที
" ก็นานตั้งแต่ที่ป้า ละเมอนั่นแหละ"
ผมพยายามข่มเสียงไม่ให้สั่นเครือ หวังว่าเธอคงจะจับพิรุธ ไม่ได้หรอกนะ
" นะ.. นั่น นายก็ได้ยินที่ฉันพูดหมดแล้วใช่ไหม ??"
เธอตกใจเพราะกลัวว่าผมจะได้ยิน ในสิ่งที่เธอพูดออกมา ผมได้แต่ฝืนยิ้มและตอบกลับไปเพื่อให้อีกฝ่ายสบายใจ
" ป่าวหรอก ผมเพิ่งมานะ ว่าแต่ป้านินทาใครหรอ ถึงให้ผมไดก้ยินไม่ได้ "
" เฮ้อ ค่อยยังชั่ว!! ป่าวหรอก ฉันแค่พูดไร้สาระของฉันเรื่อยเปื่อย ว่าแต่นายออกมาทำไรที่นี่นะ"
ร่างบางตรงหน้าผมเปลี่ยนหน้าเป็นรอยยิ้มทันทีกับสิ่งที่ผมพูด และเธอก็เริ่มเปลี่ยนประเด็นมาถามผมแทน
" แล้วถ้าผมบอกว่าตามป้ามา เพราะคิดถึง ป้าจะเชื่อผมไหม ??? "
ผมพูดลองเชิงบุคคลตรงหน้า ก่อนที่จะขำออกมากลบเกลื่อน ถือว่าผมเสี่ยงมากๆที่พูดอย่างนั้นออกไป เกิดเธอไม่พอใจและหลบหน้าผม ผมจะทำยังไงดี ?
" นายว่าไหม ว่าดาวที่นีึ่สวยจังเลยเนอะ บรรยากาศที่นี่ก็ดี ฉันอยากมีที่นี่เป็นบ้านจังเลย ฮ้าา"
เธอพูดพร้อมกับลุกขึ้นยืนและกางแขนออก เหมือนกับว่ารู้สึกมีความสุขอย่างมาก สีหน้าอันยิ้มแย้มอย่างมีความสุข มันทำให้ผมรู้สึกสุขไปด้วยจริงๆ
" ป้าจะบ้าหรอ ใครที่ไหนอยากมีโรงแรมเป็นบ้าน 5555 "
ผมตอบแบบกวนๆไป ทำให้เธอเหมือนไม่พอใจเล็กน้อย ก่อนจะกระแทกก้นลงที่นั่งเดิมอย่างแรงก่อนจะเชิดปาก เล็กน้อยเพื่อส่งสัญญานให้ผมรู้ อินฮยอนนา ทำไมเธอน่ารักเหลือเกิน เธอน่ารักจนฉันอยากจะมีเธอไว้คนเดียวจริงๆ
" ป้า.. ??"
ผมเรียกบุคคลที่กำลังงอนอยู่ตอนนี้ แต่ดูเหมือนว่าเธอไม่ได้สนใจผมเลย เอาใจยากจริงๆเลยนะเธอเนี่ยนะ ผมพูดผิดตรงไหน ใครบ้างละอยากมีโรงแรมเป็นบ้าน
" ย่าห์!!! นี่ป้างอนผมหรอเนี่ย เ่อ่อๆรู้แล้วน่ะ ผมจะร้องเพลงให้ฟังละกันเป็นการไถ่โทษ เคมั้ย? "
" จริงหรอ ?? โอเคๆ ฉันตกลงในข้อเสนอนี้"
ร่างบางที่เคยหน้าบูดหน้าเบี้ยวกลับกลายมาเป็นรอยยิ้มแสนหวาน ก่อนที่เธอจะค่อยเอนตัวลงที่เบาะ และตั้งอกตั้งใจฟัง
ผมเลือกเพลง Crying agian รุ่นพี่ Moon Myung Jin และค่อยๆร้องมันขึ้นมาอย่างตั้งใจ
มันเป็นเพลงที่ผมกลั่นกรองออกมาจากความรู้สึกถึงเธอคนนี้จริงๆถึงแม้ว่าเธอจะไม่รู้ก็ตาม
[*** ลองเปิดฟังอีกครั้งตอนนี้และต้องอ่านซับนะคะ จะฟิน***]
~~~바라본다 바라본다 점점 더 멀어져 간다
บาลาบนดา บาลาบนดา ชอมชอม ดอ มอลออชยอ กันดา
ผมมองคุณ แต่เมื่อผมยิ่งมองคุณ คุณก็ยิ่งห่างไกลผมออกไป
애원해도 붙잡아도 점점 더 멀어져 간다
เอมวอนเฮโด บุทชับอาโด ชอมชอม ดอ มอลออชยอ กันดา
ผมได้แต่ร้องขอยืดเวลาไว้ไม่ให้คุณห่างผมออกไปไกลกว่านี้
할퀴어진 상처도 알기에 아무 말도 하지 못한 체
ฮัลควีออชิน ซังชอโด อัลกีเย อามู มัลโด ฮาชี มชฮัน เช
แม้ว่ารอยแผลเป็นจะทำให้ผมรู้สึกอะไรบางอย่าง ดังนั้นผมจึงไม่ต้องการที่จะพูดมันออกไป
그저 가는 그대를 바라본다
กือชอ กานึน กือเดลึล บาลาบนดา
ผมจึงทำได้แค่มองคุณ คุณที่ห่างผมออกไป
또 운다 또 운다 목숨같이 사랑한 내 사랑이
โด อุนดา โด อุนดา มกซุมกัทอี ซารางฮัน เน ซารางอี
ผมร้องไห้อีกครั้ง เมื่อผมมีความรัก ความรักของผมก็คือชีวิตของผมเอง
또 운다 또 운다 가슴 부여잡고 참아보지만 사랑이 또 운다
โด อุนดา โด อุนดา กาซึม บุยอชับโก ชัมอาโบชีมัน ซารางอี โด อุนดา
ผมร้องไห้อีกครั้ง ผมพยายามที่จะทำให้หัวใจผมหนักแน่น แต่ความรักครั้งนี้ทำให้ผมร้องไห้อีกครั้ง~~~
ทันทีที่ท่อนสุดท้ายของเพลงจบลง ของเหลวอุ่นๆที่คลออยู่ตรงตาของผมทั้งสองข้างก็ไหลออกมาทันที ผมรีบเช็ดออกเพราะกลัวคนตรงข้างจะเห็น แต่แล้วเธอก็หลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่แล้วไม่รู้ ผมพยายามเรียกเธอเบาๆ แต่เธอกลับหลับลึกกว่าที่คาด ผมจึงค่อยๆถอยเสื้อแจ็คเก็ทของผมออกแล้วนำไปห่มให้เธอ
" อินฮยอนนา......"
ผมเรียกเธอเบาๆ พร้อมกับความรู้สึกที่มากมาย ผมคงไม่กล้าที่จะบอกกับเธอได้ตรงๆ แต่ตอนนี้เธอหลับผมขอให้ได้ระบายออกไปบ้างสักนิดก็ยังดี
"......นี่เป็นครั้งแรกนะที่ฉันเรียกเธออย่างนี้ ฉันอาจไม่รู้ว่าเธอรักใคร หรือรู้สึกอะไรกับใคร แต่ฉันอยากให้เธอหันมามองทางนี้บ้าง"
ผมค่อยๆบอกความรู้สึกที่มีออกไป น้ำตาทั้งสองข้างยังไม่หยุดไหลเสียที ผมพยายามข่มเสียงสะอื้นไม่ให้ดังออกมา
" ฉันคนนี้ที่หลงรักเธออยู่ และอยากดูแลเธอด้วย เมื่อไหร่เธอจะรับรู้สักทีนะ แต่ไม่เป็นไรหรอก แค่ฉันได้พูดกับเธอฉันก็มีความสุขแล้ว แค่นี้จริงๆ "
ผมพูดออกไปก่อนจะค่อยๆ โน้มตัวลงไปยังหน้าของเธอ และบรรจงริมฝีปากของผมไปสัมผัสกับหน้าผากของเธออย่างอ่อนโยน
" อินฮยอนนา ฉันรักเธอ "
ผมกล่าวคำสุดท้ายก่อนจะลุกขึ้นยืนโดยที่เธอยังคงหลับอยู่ แค่นี้ แค่เท่านั้นที่ผมต้องการ คือบอกกับเธอว่าผมรู้สึกอย่างไรโดยที่เธอจะรับรู้หรือไม่ก็ตาม แต่ตอนนี้ผมก็ดีใจแล้วเพราะได้ทำในสิ่งที่ตั้งใจไว้ ผมค่อยๆเดินออกมาจากตรงนั้นเพื่อปล่อยให้เธอได้นอนต่อ โดยไม่ทันได้สังเกตว่าสิ่งที่ทำผมนั่น มีคนอื่นได้เห็นเหตุการณ์นั้นทั้งหมด
End Sungjae part
' เพราะอย่างนี้เองสินะ เธอถึงรักฉันไม่ได้ ยัยหื่น ฉันเข้าใจเธอแล้ว TT '
มินฮยอก
' อินฮยอนนา ฉันอิจฉาเธอที่ซองแจรักเธอ ทั้งที่ฉันรักเขาแทบสุดหัวใจ เธอโชคดีกว่าฉันในทุกๆเรื่องจริงๆ '
ซังมี
ความคิดเห็น