ลำดับตอนที่ #13
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : จะเป็นแฟนดีดี หรือให้ฉัน ยัดเหยียด !!!!!!!! 100%
'บนความฝันกับความเป็นจริง ต่างกันแค่เส้นบางๆ แต่มันก็ไม่ได้ยากที่จะทำให้ฝันนั้นเป็นจริงได้ แต่คงไม่ใช่ทุกเรื่อง !!! เพราะถ้าเราคาดหวังอะไรที่เกินตัว เกินจริง สุดท้ายมันก็เป็นได้เพียงแค่การเพ้อฝัน '
เช้านี้ฉันตื่นขึ้นมาพร้อมกับอ่านบทความดีดี ที่ถูกรีทวิตมาจากเพื่อนในทวิตเตอร์ด้วยกัน มันก็จริงนะ คนเราควรฝันที่อยู่บนความเป็นจริง เพราะถ้าเราคาดฝันสิ่งใดที่ไกลเกินตัวแล้ว สุดท้าย มันก็คงเป็นเพียงการเพ้อฝันเท่านั้น
ขณะนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ~~~~~ กริ๊งงๆๆๆๆ
มือเรียวๆของฉันรีบคว้ามันมาจากหัวเตียง เบอร์ที่โชว์หรา ขึ้นมานั้นก็คือ ผู้เป็นพ่อของฉันเอง ลืมไปสะสนิทเลย ตั้งแต่ฉันมาอยู่โซล ก็มัวแต่วุ่นวายกับงานจนไม่ได้ถามสารทุกข์สุขดิบของพ่อบ้างเลย
" ยอโบเซโย !!! ค่ะคุณพ่อที่หล่อที่สุดในสามโลก " ฉันรีบทำเสียงหวานกรอกส่งสายทันที เพื่อลบล้างความผิดที่ไม่ได้โทรหาพ่อเลย
[ย่าห์ แกหายหัวไปไหนมาห่ะ ไม่ยอมโทรมาบ้างเลย พ่อเป็นห่วงแกรู้ไหม ]
" ค่าา หนูรู้แล้วน้ะ ว่าพ่อเป็นห่วง หนูก็แค่วุ่นๆกับงานใหม่ที่ได้ เลยไม่ได้โทรไปบอกแค่นั้น"
[งานอะไรของแกอีก เนี่ย ?? อินฮยอนนา อีกเทอมเดียวแกก็จะจบมหาลัยแล้วนะ พ่อว่าแกมาตั้งใจเรียนให้จบก่อนไม่ได้หรอ]
" รู้แล้วค่ะ แต่ช่วงนี้หนูปิดเทอม และที่สำคัญวานที่หนูทำก็เป็นงานในฝันของหนูนะ แต่ไม่รู้ว่าเขาจะจ้างต่อหรือป่าว "
[ย่าห์!!!! แล้วแกจะไปฝากความหวังกับงานที่แก ยังไม่มั่นใจว่าเขาจะจ้างแกหรือป่าวเนี่ยนะ ยัยลูกโง่ แกเก็บของกลับมาได้เลย หึ]
" พ่อง่าาาาาา หนูขอเวลาจนถึงเปิดเทอมไม่ได้หรอ ถ้าหนูทำงานที่นี่ได้ดี พ่อจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงไง "
ฉันพยายามต่อรอง จนถึงที่สุด ผู้เป็นพ่อ ถึงกับถอนหายใจและแสดงความเบื่อหน่ายในตัวฉัน ฉันจะต้องแสดงให้พ่อเห็นให้ได้ว่าฉันจะต้องได้งานอย่างที่คาดหวังไว้
" ซังมีอ่าา ตื่นได้แล้วนะ วันนี้ฉันกับแกต้องไปรับเงิน จาก ลุงจางนะ "
ฉันเดินไปปลุกเพื่อนสาวที่กำลังเดินทางอยู่ในห้วงนิทรา แต่ทันใดนั่นเองที่ได้ยินเกี่ยวกับเงิน ก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาทันที บ่งบอกถึงความขึ้งกของแกจริงๆ
" ใจหายเหมือนกันเนอะ อินฮยอนนา ฉันอยากทำงานที่นั้นทุกวันเลยจริง ๆ "
เฮ้อยัยซังมีบ่นพึมพัมหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำ อาทิตย์นึงที่ฉันและซังมีได้เข้าไปเรียนรู้งานมันทำให้ เรารู้สึกผูกพันธ์กับคนที่นั้น รวมถึงบีทูบีด้วย เพราะตอนนี้ ฉันไม่ได้มองพวกเขาในฐานะศิลปินที่ชอบ แต่เป็นในฐานะเพื่อนร่วมงานต่างหาก
" คงต้องวัดดวงแล้วละ ว่าถ้าลุงจางประทับใจในการทำงานของเราเขาคงจ้างเราต่อ "
ฉันพูดพลางถอนหายใจ วันนี้มันหงอยๆแปลกนะเนี่ย ต้องทำตัวให้ร่าเริงสักหน่อยแล้ว ฉันจึงหยิบมือถือคู่ใจขึ้นมาเปิดเพลงฟัง เพื่อลดความเศร้า
จากนั้นฉันกับซังมีก็มุ่งหน้าสู้ คิ้วบ์เอ็นเตอร์เทนเมนต์ทันที เพื่อพบ คุณลุงจาง โปรดิวเซอร์จาง ด้วยความหวังเล็กๆที่จะได้ทำงานต่อ
" มาแล้วหรอพวกเธอทั้งสอง ฉันนึกว่าจะไม่เอาเงินสะแล้ว ฮ่าๆๆๆ "
แต่ปรากฏว่า ร่างท้วมวัยกลางคน กลับทักทายฉันด้วยเสียงหัวเราะอย่างอารมณ์ดี นี่ฉันฝันไปหรือป่าว ลุงจางควรจะขม้วดคิ้วและ ดุพวกฉันเหมือนเคยสิ
" นี่เงินงวดแรกของพวกเธอ พวกเธอทำงานกันได้ดีมาก ผู้ใหญ่ชมแต่พวกเธอกันใหญ่เลย เขาบอกว่า หวังให้เธอมาร่วมงานกับเขาบ้างนะ "
" จริงหรอค่ะ ??? พวกหนูดีใจจังเลยคะ "
ยัยซังมีถึงกับตกใจทันเมื่อได้ยินคุณลุงจางพูดขึ้น ผู้ใหญ่ประทับใจจริงๆหรอ เพราะอะไรกัน การแก้ไขเหตุการณ์เฉพาะหน้า หรือความสามารถกันแน่
" นั่นแสดงว่าฉันจะให้พวกเธอ ทำงานและตำแหน่งที่นี้ พวกเธอโอเคไหม ??? "
"คะ ^0^"
"ค่าา ^__^"
ฉันกับซังมีรีบตอบรับทันทีที่ได้รับรู้ข่าวดี แต่ทว่าตำแหน่งหรอ ตำแหน่งอะไรกันนะ ในค่ายเพลงเนี่ย???
" หน้าที่ของพวกเธอก็คือ ติดตามและดูแลงานของบีทูบี อย่าให้พวกเขาป่วนได้ละ"
สีหน้าของฉันและซังมี เมื่อรู้ !!!
(>_< )( >_<) >>>>>>> ฉัน
(*^_^*) >>>>>>>>> ซังมี
" คุณลุงคะ ไม่มีตำแหน่งอื่นเลยหรอคะ "
ฉันรีบบ่ายเบี่ยงทันทีที่รู้ว่าฉันต้องไปดูแล บีทูบี ไอ้ชอบก็จริงนั่นแหละ แต่จะให้ฉันไปใช้ชีวิตร่วมกับพวกเขาทุกวันเนี่ยนะ ฉันคงตายแหงๆ ไม่ว่าจะเป็นปีศาจมินที่จ้องจะเค้นเอาคำตอบจากฉัน และยัยแม่มดเพนนีอีก ที่ต้องท่าจะเป็นศัตรูกับฉันอยู่ท่าเดียว
" เอาน่า ฉันคิดว่าพวกเธอทำได้อยู่แล้ว สู้ๆละ ฉันขอไปประชุมก่อน"
คุณลุงจางรีบบอก ก่อนจะเดินออกไปยังห้องประชุม ทิ้งไว้เพียงกับความ งวยงง
" ขอบคุณค่าคุณลุง หนูสองคนจะทำให้ดูที่สุดคะ "
" ย่าห์!!!! "
ยัยซังมีตอบรับด้วยน้ำเสียงใส โดยไม่ปรึกษาฉันสักคำเลย โอ้ยยยฉันจะต้องบ้าตายแน่ๆ ต่อให้มีเก้าชีวิตเหมือนแมว งานนี้ไงฉันก็ไม่รอด ศัตรูที่ร้ายกาจเป็นทั้ง ปีศาจ และ แม่มด !!!!
" เอาน่าแก อย่างน้อยแกก็ได้ใกล้ชิด กับฮุนนี่ นะ ไม่ชอบหรอกหรออ "
" ซังมีอ่า ถึงฉันจะสุขที่ได้ใกล้ชิด ฮุนนี่ของฉันแต่ ฉันก็ทุกข์ที่ต้องใกล้ปีศาจมินและ ยัยแม่มด นั่นด้วยเหมือนกันนะ "
ฉันกับซังมีรีบเดินออกมา เพื่อ กลับบ้าน แต่ยัยนั่น กลับขอตัวไปเข้าห้องน้ำกระทันหัน ทิ้งให้ฉันต้องเดินออกไปรออยู่ ข้างนอก ทว่าในตอนนั้นเอง ปีศาจมินก็เดินมาพอดี ฉันพยายามก้มหน้าและเอาผมมาบังไว้
" ไงยัยหื่น เธอคิดจะหลบหน้าฉันหรอ???" แต่ก็ไม่ทันแล้วสินะ ปีศาจมินทักทายฉันด้วยหน้าเสียงกวนเบื้องล่างสุดๆ
" ใครหลบหน้านาย ทำไมฉันต้องหลบ /(>_<)\"
" เอิ่ม ก็เหนอยู่ว่าเธอพยายาม หลบหน้าฉัน ตกลงว่าไง "
" ไม่มีวัน ย่ะ !!!!!! "
" เธอจะยอมเป็นดีดี หรือให้ฉันยัดเหยียด ห่ะะ !!!!! "
" ย่าห์ นายยนี่มัน..เวลานายจีบผู้หญิง นายมักจะใช้วิธีนี้ ข่มขู่ ทารุณกรรม ทางวาจานะหรอ ?? "
" ไม่รู้อ่ะ !!!!! ก็ฉันไม่เคยมีแฟนนิ ผิดมากรึไงห่ะ!!! "
"ก็หัดรู้สะบ้างสิ ไม่มีผู้หญิงคนไหนชอบที่นาย ขึ้นเสียงใส่หรอกนะ หลีกฉันเดี๋ยวนี้นะ!! "
" กะ ก็ ฉันไม่รู้ว่าควรจีบยังไง ฉันทำไม่เป็นหรอก แต่จะพยายามปรับปรุงละกัน "
ฉันก็อดขำกับบุคคลตรงหน้าไม่ได้จริงๆ ที่สารภาพออกมาเสียงอ่อยๆ นายนี่มันเด็กน้อยๆจริงเลยนะ แต่ฉันคงไม่สามารถใจอ่อนกับนายได้หรอกนะ เพราะนายมันร้ายมากกว่าที่ฉันคิดสะอีก ถ้านี่เป็นแผนของนายที่จะแกล้งฉันอีก ฉันจะทำไงละ
" ไม่อ่ะ ฉันไม่อยากมีแฟนเป็นปีศาจ และไม่อยากเป็นศัตรูกับยัยแม่มด แค่นี้ชีวิตฉันก็ยุ่งยากพอแล้ว "
ฉันตอบไปโดยไม่ทันได้อาการของบุคคลตรงหน้า ปีศาจมินชักสีหน้าไม่พอใจเล็กน้อย ก่อนจะสาวเท้าเข้ามาหาฉันอย่างช้า ฉันพยายามถอยออก แต่ในที่สุด หลังฉันก็ชนกับกำแพงพอดี ปีศาจมินเข้ามาใกล้ฉันจนใบหน้าของเราทั้งสองห่างกัยไม่ถึงคืบ มือทั้งสองข้างดันกำแพงขังฉันเอาไว้ในอ้อมอกของเขา ก่อนที่ปีศาจมินค่อยก้มหน้าลงมาพูดกับฉัน
" ฉันเหมือนปีศาจมากขนาดนั้นเลยหรอสำหรับเธอ??? "
น้ำเสียงสั่นเครือของบุคคลตรงหน้าทำให้ฉันรู้สึกผิดขึ้นมาทันที ฉันไม่ได้ตั้งใจจะหมายความอย่างนั้นหรอกนะ
" ป่ะ ป่าวหรอกก ฉันไม่ได้ตั้งใจทำร้ายความรู้สึกนายหรอกนะ แต่.... "
ยังไม่ทันที่ฉันจะได้พูดต่อ ปีศาจมินก็จับมือของฉันมา กุมไว้และนำมันไปสัมผัสตรงอกข้างซ้ายของเขา ก่อนจะพูดออกมาเบาๆ
" เธอจะให้โอกาสฉันได้เป็น เจ้าชายในสายตาเธอบ้างไม่ได้หรอ??? เพียงแค่สักครั้ง ครั้งเดียวเท่านั้น "
ฉันตะลึงกับคำพูดนั้นของเขา และนิ่งเฉยไม่ได้ตอบอะไร สายตาที่ปีศาจมินมองมาที่ฉันช่างอบอุ่นและดูจริงใจมาก หัวใจของฉันเริ่มหวั่นไหว หน้าของฉันรู้สึกชาไปหมด ไม่นะ !! ฉันคงไม่ได้หลงไปกับคำพูดของเขาใช่ไหม ?? ปีศาจมิน สบตาฉันสักพัก ก่อนจะค่อยๆปล่อยมือฉันที่กุมเอาไว้ แล้วเดินจากไป ฉันได้แต่มองหลังของเขาที่ค่อยๆไกลออกไปเรื่อยๆ ทำไมฉันถึงรู้สึกเจ็บปวดอย่างนี้นะเวลาที่เห็นเขาหันหลังอย่างนี้ เธอจะบ้าหรืออินฮยอน !!! เขาคือคนที่แกล้ง เธอจนเกือบตายนะ ถึงแม้จะช่วยเอาไว้ในคราวหลังก็เถอะ เธอจะมอบใจให้เขาได้อย่างไรกัน ?? กลับมานะ สติของช้านนน !!!!!!
" อ่ะแฮ่มม !! "
และแล้วเสียงของยังซังมีก็ปลุกสติฉันคืนมาจริงๆ ยัยนี้ ยทนมาทางฉัน แล้วท้าวสะเอวเป็นการใหญ่ด้วยท่าทางเอาเรื่อง
" กะ แก.. มาตั้งแต่เมื่อไหร่นะะ ??"
ฉันพูดตะกุกตะกัก ก่อนจะรีบเดินชิ่งหนีออกมาด้านนอกทันที ยัยนี่คงไม่ปล่อยฉันไปแน่ๆ ทางเดียวที่จะรอด คือรีบหนีให้เร็วที่สุด แต่แล้วยัยซังมีก็รีบมาคว้าข้อมือฉันทันที
" ย่าห์ ยูอินฮยอน แกจะหนีฉันแบบนี้ใช่ไหม ?? "
" ฉันป่าวหนีนะ ฉันแค่รีบกลับบ้าน ต่างหากละ "
ฉันพยายามบ่ายเบี่ยง และหลบสายตาเพื่อนสาว แต่แล้วก็ไม่พ้นจนได้
" บ้านไม่ได้กลับทางนั้นนะ อินฮยอน "
คำพูดของยัยซังมีทำให้ฉันรู้สึก หน้าร้าวเลยทันที เราสองคนไม่ได้พูดอะไรกันทั้งสิ้นระหว่างนั่งแท๊กซี่กลับบ้าน แต่สายตาของยัยนี้บ่งบอกว่ามีคำถามร้อยพันที่จะถามฉัน และแล้วเราสองคนก็กลับมาถึงร้านอาหารปาร์ค จึงเอาของขึ้นไปเก็บบนห้องเพื่อเปลี่ยนชุดลงมาช่วยในร้าน แต่ขณะนั้นเองซังมี ก็เปิดฉากยิงคำถามทันที
" ย่าห์ อินฮยอน อธิบายมาเดี๋ยวนี้นะ !! "
ยัยซังมีถามฉันด้วยน้ำเสียงที่โหดมาก แกเหมือนพ่อฉันเลยนะเนี่ย ซังมีอ่าา
" เรื่องอะไรเล่า ไม่เห็นจะมีอะไรเลย =_= "
ฉันยังคงทำหน้าใสซื่อต่อไป แต่ยัยนั่นก็ไม่ได้เชื่อในคำพูดนั้นเลยสักนิด
" แก กับมินฮยอกโอปป้า เป็นอะไรกันห่ะ ตอบมาด้วยนี้น้าาาาาาาาาาาา "
ยัยซังมีใช้เสียงสิบแปดหลอดขั้นโอเปร่า ขนาด เอฟช๊าป พ่นใส่ฉันทันที ฉันถึงกับตกใจแล้วตกเตียงเลยทีเดียว
" ไม่มีอะไรหรอกนะ นายนั่นก็แค่มาหาเรื่องฉันเท่านั้นเอง "
ฉันพยายามหาเหตุผลมาแก้ตัว แบบข้างๆคูๆ พระเจ้าช่วยกล้วยเผือก ช่วยให้ลูกรอดพ้นด้วยเถิด !!!!
" มินฮยอกโอปป้า ชอบแกใช่ไหม ?? "
และแล้วยัยซังมี ก็ยิงคำถามตรงใส่ฉันทันทีที่ไม่ทันตั้งตัว หน้าฉันช็อคไปชั่วขณะ แสดงว่ายัยนี่ ได้ยินหมดแล้วสินะ
" ซังมีอ่า แกบ้าไปแล้วว จะใช่ได้ไง มั่วสุดๆเลยแหละะ งั้นฉันไปทำงานก่อนนะ ป้าแกเรียกแล้ว "
ฉันรีบตัดบทและชิ่งหนัลงมาด้านล่างในที่สุด ทิ้งยัยซังมีไว้กับความสงสัยอย่างนั้น ฉันจะทำไงดี เนี่ย ยิ่งมียัยซังมีมาถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ ฉันก็อยากจะห่างกับปีศาจมินให้มากๆ เพื่อละเว้นการเข้าใจผิดของคนอื่น แต่มว่าหัวใจของฉันกลับรู้สึกรงกันข้าม มันรู้สึกโหยหาทุกครั้งไม่เจอ และพองโตทุกครั้งที่เขามาใกล้ๆ
Sung mee part....
หลังจากที่ฉันพยายามเค้นความจริงจากปากยัยอินฮยอน แต่ความลื่นยิ่งกว่าปลาไหลของยัยนั่นก็หนีฉันไปจนได้ เมื่อสักครุ่มีสายเข้ามาว่า มักเน่ซองแจต้องไป อัดเสียง ฉันจึงต้องตามไปดูแล มันทำให้ฉันรู้สึกดีเข้าไปใหญ่ นี่เป็นครั้งแรกสินะที่ฉันจะได้ร่วมงานกับเขาจริงๆสะที ฉันแต่งตัวด้วยชุดสุภาพ และปล่อยผมดำสลวยของฉัน ใบหน้าถูกแต่งแต้มเล็กน้อยพอประมาณ หลังจากนั้นฉันก็ลงมาด้านล่าง พบกับยัยปากแข็ง อินฮยอนที่กำลังรับออเดอร์ลูกค้าอยู่ วันนี้ ฉันให้แกรอด แต่คืนนี้แกต้องบอกฉันแน่นอน หึหึ
รถที่ฉันนั่งมาจากที่สตูดิโอแห่งหนึ่งที่ฉันรู้สึกไม่ค่อยคุ้นตานัก ฉันเดินไปพร้อมกับทักทายทีมงานคนอื่นๆทันที และเหลือบไปเห็นมักเน่สุดที่รักของฉันกำลัง ง่วนกับการเล่นเกมส์บนมือถืออยู่ เฮ้ออ !! เมื่อไหร่นายจะโตนะ ซองแจอ่าาา
" อ้าว ป้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย ฮะ !!! "
ซองแจทักทายฉันด้วยเสียงใส แต่ทว่าสายตาของเขายังคงก้มอยู่กับหน้าจอมือถือเหมือนเคย นี่นายจะสนใจฉันหน่อยไม่ได้หรือไงย่ะ อุส่าห์แต่งตัวน่ารักๆมาให้ดูนะเนี่ย !!
" ว่าแต่นาย ไม่ซ้อมบทละ จะเข้าห้องอัดแล้วไม่ใช่หรอ "
" ผมนะ เทพอยู่แล้ว คับป้า อ่านรอบเดียว เป๊ะเวอร์แน่นอน ป้าคอยฟังผมละกัน "
" ว่าแต่ป้า จะมาทำหน้าที่ดูแลพวกผมจริงๆหรอเนี่ย ?? "
" อ่าห่ะ ??? นายอะไรหรือป่าว บอกฉันได้นะ ? "
" ป่าวหรอกครับผม ผมแค่รู้สึกดีมากเลยละ "
เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นมากระตุกยิ้มให้ฉันเล็กน้อย ก่อนจะก้มอีกตามเคย รอยยิ้มนั่นช่างละลายหัวใจของฉันเสียจริง ฉันหลงรักซองแจ ตั้งแต่ก่อนเดบิวต์สะอีก ถึงแม้ว่าฉันจะติ่งหลายวง แต่สำหรับฉันแล้ว บีทูบีและซองแจมีค่าสำหรับฉันมาก ฉันตกหลุมรักคนในรูปภาพ และไม่นึกไม่ฝัน ว่าจะได้นั่งเคียงข้างในเวลานี้จริงๆ ฉันเคยเก็บเงินเพื่อซื้อแหวนวงนั้นให้กับเขาแต่มันก็กลับหายไปเสีย ฉันไม่คิดว่าฉันกำลังฝันสูงไปหรือป่าวที่ไปตกหลุมรักไอดอลอย่างเขา แต่ยิ่งนับวัน ที่เราได้ใกล้ชิดกัน มันยิ่งทำให้ความรู้สึกฮันยิ่งชัดเจน แต่ในที่สุดแล้วเราก็ยังแตกต่างกันซึ่งฉันเป็นเพียงแฟนคลับธรรมดาเท่านั้นเอง แต่ก็หวังว่าฉันจะได้มีช่วงเวลาแบบนี้ไปนานๆ ช่างน่าประทับใจมากๆเลยละคะ
" ซองแจอ่า ถึงเวลาแล้ว "
เสียงของพี่จียง เอ่ยปากเรียกมักเน่ ให้เข้าไปบังทึกเสียง ฉันเอาแต่นั่งคอยและดูแลข้าวของให้เรียบร้อย ผ่านไปสักพักนึง เสียงเมโลดี้ของเพลงเริ่มดังขึ้นเบาๆ จังหวะเพลงช้าๆ ช่างเหมาะกับเสียงนุ่มนวลอันอบอุ่นของซองแจจริงๆ ฉันนั่นฟังเพลงนั่นด้วยอารมณ์เคลิบเคลิ้มและอารมณ์ร่วมไปกับเพลง ฉันเคยหวังว่า วันนึงที่มีโอกาสฉันอยากให้เขาร้องเพลงให้ฉันฟังสักเพลง และวันนี้ฝันฉันก็เป็นจริง น้ำตาของฉันค่อยๆไหลลงมาอาบสองแก้ม มันไม่ใช่เพราะความเศร้าสร้อย หรือน้อยใจใดๆทั้งสิ้น แต่น้ำตานั้นกลั่นออกมา จากความตื้นตันใจล้วนๆ ผ่านไปไม่นาน เด็กน้อยคนนั้นก็ออกมาจากห้องอัด เขาเทพจริงๆอย่างที่บอกสินะ เทคเดียวผ่านฉันละนับถือเลยละ
" ป้าาาา เป็นไรป่าวเนี่ย ตาแดงๆ ร้องไห้หรอ "
ซองแจเอ่ยถามฉันทันทีที่เห็นคราบน้ำตาที่มันเริ่มเหือดแห้ง มันทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นมากๆ
" ป่าวนะ ฉันแค่ อินกับเพลงที่นายร้องเกินไปหน่อย เฮ้อเผลอไหลออกมาตอนไหนเนี่ยน้ำตา 555555 "
ฉันปล่อยฮา ออกมาเพื่อ แก้ตัว แต่แล้วฉันเหลือไปเห็นสร้อยที่ซองแจนั้นกำลังหยิบขึ้นมาใส่ เป็นสร้อยทองคำขาวที่มีแหวนเงินแท้คล้องเอาไว้ ซึ่งฉันก็รู้สึกคุ้นกับแหวนวงนั้นมากๆ เหมือนที่ฉันเคยทำหายไปในงานคอนเสิร์ตครั้งที่แล้ว
" เอิ่ม ฉันถามอะไรนายหน่อยได้ไหม แหวนวงนั้นนายซื้อมันมาคล้องทำไมแล้วหรอ ??? "
ทันทีที่ฉันถาม ซองแจก็เอามือคลำไปยังแหวนวงนั้นที่สร้อยนั้นทันที ยิ่งทำให้ฉันมั่นใจมากขึ้นเพราะแหวนวงนั้น สลักชื่อไว้ว่า S&Sungjae ซึ่งฉันเป็นคนสั่งทำมาโดยเฉพาะ
" แหวนวงนี้นะ หรอ ผมไม่ได้ซื้อมันมาหรอก มีคนให้ผมมา "
คำพูดนั้นทำให้ฉันรู้สึก สะอึกสะอื้นอยู่ในใจ เพราะแท้ที่สุดแล้ว แหวนที่ฉันอุส่าห์เก็[เงินซื้อและสลักชื่อมันก็ได้อยู่ที่นายแล้วจริงๆนะซองแจ ฉันจะไม่ถามว่าเพราะอะไรแหวนถึงมาอยู่กับนายหรือใครเป็นคนเอามาให้ แต่แค่มันอยู่กับนายฉันก็รู้สึกมีความสุขแล้วจริงๆ
" ยัยป้าเป็นไรอีกเนี่ย เป็นหน้าสะซึ้งเชียว !!! "
" ป่ะป่าวหรอก มันสวยดีนะ ทำไมนายเอาไปคล้องคอ แทนที่จะใส่ละ ?? "
" ใช่มันสวย และผมก็ชอบมากๆ แต่เป็นเพราะผมใส่ไม่ได้นะสิ ขนาดแหวนมันดันเล็กกว่านิ้วผมสะงั้น ผมเลยเอามาคล้องคอดีกว่านะ มันเป็นแหวนนำโชคของผมเลยนะ^_______^ "
เขาชอบมันจริงๆสินะ !!! แหวนนำโชคจริงๆ นำให้ฉันได้มาใกล้ชิดกับนายแบบนี้ไง
" แต่เสียดายตรงที่ว่า ผมจำหน้าเธอไม่ได้นะสิ แต่รู้ว่าแค่ว่าเธอเรียกชื่อผม ตอนคอนเสิร์ตที่ผ่านมา ก่อนที่ผมจะขึ้นรถกลับ "
ฉันรับฟังสิ่งที่เขาพูดถึง ยิ่งตอกย้ำความรู้สึก ฉันอยากจะบอกนายเหลือเกินว่าคนๆนั้น ก็คือฉันเองที่ยืนอยู่ตรงนี้ ฉันคนที่เรียกนาย และคนที่ทำแหวนวงนี้เพื่อนายจากหัวใจ
" เราไปหาอะไรกินดีกว่านะ งานผมเสร็จละ "
ซองแจยื่นมือมาจับมือของฉันอย่างเบามือ ความอบอุ่นนั้นที่ถูกส่งผ่านมา มันยิ่งทำให้ฉันยิ่งคิดเข้าข้างตัวเอง เราสองคนเดินออกไปด้วยกัน ซึ่งตอนนี้ ฉันรู้สึกเหมือนโลกได้หยุดหมุนแล้วจริงๆ ถึงแม้ว่าเขาอาจจะไม่รู้สึกอะไรเลยก็ตามแต่มันก็ทำให้ฉันมีความสุขเอามากๆ อย่างที่คำที่กล่าวไว้ว่า เวลาที่จับมือกันเดิน เวลาของเราก็จะหมุนไปพร้อมๆกัน และตอนนี้ เวลาของฉันก็หมุนไปพร้อมกับเขาแล้วจริงๆ~~~ ซองแจอ่าา ซารางเง
End Sungmee part
เพลงที่ ซองแจอัดเสียงเพลงนี้คะ
"
"
"
"
"
"
"
"
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น