พิสูจน์รักมัดใจยัยมะเขือเทศ
เป็นเรื่องเเรกที่ซีเเต่งขึ้นนะค่ะ ลองอ่านเเละเเนะนำกันด้วยนะค่ะ
ผู้เข้าชมรวม
71
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
เมื่อเขาต้องการพิสูจน์ว่ายังรัก....แพรว...แฟนเก่าอยู่รึเปล่า OoO?? ทำให้เขาหนุ่มฮ๊อตที่สุดของโรงเรียนดันต้องหาผู้ช่วย และเขาก็ได้เจอรุ่นน้องที่ชื่อพลายที่แสนจะไม่ชอบเขาเอาสะเลย =O= ด้วยความเป็นหนุ่มฮ๊อตที่ไม่มีผู้หญิงคนไหนกล้าปฏิเสธเขา มีแต่เธอเท่านั้นที่กล้าT^T เธอคนนั้นคือตัวช่วยที่ดีที่สุดนั้นเอง ฮ่าๆๆ+O+!! ฉะนั้นแล้วการพิสูจน์รักครั้งนี้ก็ถือว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกถึงสองตัว ได้รู้ว่ายังรักแฟนเก่าอยู่รึเปล่า??และยังได้พิสูจน์ว่าดีกรีความหล่อของเขายังสามารถทำให้ยัยมะเขือเทศคนนี้เลิกเกลียดเขาแล้วหันมารักหนุ่มฮ๊อตคนนี้แทน ^^
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
แสงแดดยามเช้าที่สาดส่องให้เปลือกตาที่กำลังหลับสนิท ขยับม่านตาเพื่อปรับแสง และบิดขี้เกียจในเวลาเดียวกัน บ่งบอกถึง ยังไม่ถึงเวลากับการตื่นเพื่อรับวันใหม่ และเปิดเทอม!!
กริ๊งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
นาฬิกาดังขึ้นบ่งบอกถึงเวลาที่ตั้งปลุก แต่ร่างที่นอนอยู่ก็ไม่สะท้านกับเสียงนาฬิกาที่ดังลั่นจนได้ยินถึงผู้ที่กำลังเตรียมอาหารอยู่ด้านล่างของบ้าน ต้องขึ้นมาปลุกแทน -_-^
ก๊อกๆๆๆๆๆๆๆ
“พลาย ตื่นได้แล้ว ลูก เดี่ยวไปโรงเรียนสายนะ” เสียงดังขึ้นหลังจากเสียงเคาะประตูเงียบ
“ค่ะ ค่ะ ” ผู้ที่เคาะประตู เดินจากประตูไป หลังจากแน่ใจว่าเธอตื่นแล้ว
พลายรีบลุกขึ้นจากเตียงนอนแม้ยังรู้สึกเสียดายกับการจากเตียงในเวลานี้ ห้าวววววว =O=!
ซ่า!! ซ่า!! ซ่า!!
เสียงฝักบัวที่ตอนนี้มีน้ำไหลลงมาอย่างไม่คาดสาย เธอจัดการกับการอาบน้ำได้ไม่นาน เธอก็เดินไปแต่งตัวชุดนักเรียนอย่างไม่เร่งรีบเพราะตอนนี้ นาฬิกา เพิ่งบอกว่ามัน หกโมงครึ่ง เอง
เธอเดินลงมาชั้นล่างของตัวบ้าน ก็แอบแปลกใจนิดๆ ที่วันนี้ทำไมบ้านถึงเงียบผิดปกติ และมีผู้หญิงคนนึงที่พลายเองก็คุ้นหน้ากำลังจัดโต๊ะอาหารให้ และพลายก็หายสงสัยทันทีเมื่อผู้หญิงคนนั้นหันมาเริ่มบทสนทนากับเธอ
“มา เช้านี้ป้าทำข้าวต้มของโปรดพลายด้วยนะ^_^” ป้านิ่มพูดพร้อมยกข้าวต้ม มาที่โต๊ะ ว้าวววว*O*! หน้ากินจังเลย รักป้านิ่มที่สุดเลย
ป้านิ่มเป็นญาติห่างๆของแม่พลายอยู่บ้านข้างๆ ป้านิ่มเปรียบเสมือนป้าแท้ๆของเธอ ดูแลเธอตั้งแต่เด็กๆ และป้าก็มีหลานชายด้วย วัยเดียวกับฉันเองแหละ แต่น่าเสียดาย ริว หลานชายป้า ดันทิ้งฉันตั้งแต่เด็กไปอยู่กับพ่อเขาที่ต่างประเทศ พูดแล้วคิดถึงนายจังเลย (- -*) ฉันสลัดความคิดลงแล้วหันมาสนใจป้านิ่มแทน
“หอมจังเลย ค่ะ ว่าแต่แม่ และ พี่ พาม ไปไหน ค่ะ บ้านเงียบเชียว” เธอชมป้านิ่ม ในขณะที่เอื้อมไปหยิบกะปุกปริกไทย เพื่อปรุงรสชาติเล็กน้อย
ครืด ครืดๆๆ เสียงสั่น ยังงี้ ข้อความใครส่งแต่เช้า นะ เธอแอบบ่นในใจ
ลูกพลาย ตอนนี้แม่กับพี่พาม เดินทางไปฝรั่งเศส อีกเดือนนึงแม่จะกลับ
แม่
“คือว่า...” ป้านิ่ม เตรียมจะพูด แต่..
“ป้าค่ะ เดี่ยวพลายไปเรียน นะค่ะ ไปต้องไปส่ง ไม่ต้องไปรับ เดี่ยวพลายเดินไปเอง และก็กลับเอง สวัสดีค่ะ”ฉันพูดแล้ววิ่งออกจากบ้านไป ไม่อยากได้ยินคำอธิบายที่มันดูไม่ขึ้นเสียที กี่ครั้งแล้วนะที่แม่กับพี่พาม ทิ้งฉันให้กับป้านิ่ม ฉันเองก็ไม่ได้เกลียดป้านิ่ม ดีใจสะอีกที่มีป้านิ่มคอยดูแล แต่ฉันแค่น้อยใจ แม่ทำยังกับฉันไม่ใช่คนในครอบครัว คิดจะไปไหนมาไหนไม่เคยบอก และยังไปกับพี่พามแค่สองคนแล้วทิ้งฉันที่บ้านคนเดียว ฉันเดินไปที่ป้ายรถเมล์ โชคดีชะมัด เลย ที่วันนี้ไม่มีใครนั่งรอรถ ฉันรีบเดินไปนั่งทันที่ เพราะรู้สึกว่าตอนนี้ เหมื่อยและล้ามาก
ห้านาทีผ่านไป....
ฉันนั่งรอรถเมล์ด้วยจิตใจที่ล่องลอย ทำไมวันนี้ รถเมล์ มาช้าจังฟ่ะ!! แต่ฉันว่าฉันพึ่งรอไม่ถึงห้านาทีเองน่ะ ทำไมเวลาของฉันเดินช้าจังเลย ฉันนั่งปาดน้ำตาไปเรื่อยๆ ทำไมแม่ถึง ไม่บอกพลายบ้างเลยนะ ฮือๆๆ T^T
เอี๊ยดดดดดดดดด!!!!
ฉันรีบปาดน้ำตา ทิ้ง เมื่อ รถเมล์ ขับมาจอด ข้างที่ฉันนั่งอยู่ เพื่อรอรับผู้โดยสาร
บนรถเมล์ที่ตอนนี้ ยังไม่ค่อยมีผู้คนมากมายเท่าไร่ เพราะอาจจะยังเช้า ฉันก้มลงมองนาฬิกา เพื่อดูเวลาว่าตอนนี้เวลาเท่าไร่
07.00น. ฉันนั่งรอรถเมล์ที่แล่นช้ามาก มากจนฉันเริ่มชักอารมณ์เสียกับการแล่นช้ายังกับเต่าร้อยพันล้านปีสะจริงๆเลย ฮึ่ย
-_-+ ไม่นานนัก
รถเมล์ที่ฉันแอบบ่นในใจ ตั้งแต่ ได้ขึ้นมาครั้นรอที่ป้ายรถเมล์ ก็ถึงโรงเรียนเสียที (- -) ฉันไม่รอช้ารีบสาวเท้างามๆอย่างกับนางแบบบนเวทีแคทวอลก์ ลงจากรถเมล์ทันที
ตึบ!!! พลัก!!! พลัก!!!
“เฮ้ย เดินดีๆ สิ ทางมีตั้งเยอะตั้งแยะ>O<!!” ฉันตะโกนออกไปหลังจากที่ ลงจากรถเมล์ แล้วมีผู้ชายท่าทางนักเลงเอาการชนฉัน แล้วเหมือนไม่คิดจะหันมาขอโทษคนยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่ -_-*
“เป็นผู้หญิง หัดมีค่ะ ค๊า บ้างนะ หน้าตาก็น่ารักอยู่ ไม่น่าพูดจากวนประสาทพี่เลย!!!” ชายคนที่เดินชนฉันหันมาพูดใส่ แกมขู่ เชอะ!! นึกว่าฉันกลัว หรอ
“แล้ว จะทำไม!!! ก็เห็นๆอยู่ว่าเดินชน แล้วไม่คิดจะขอโทษ เป็นผู้ชายสะเปล่า>()<!!” ฉันก็ไม่ยอมน้อยหน้า ทั้งที่ ในใจ ก็แอบหวั่นๆ เล็กๆ แต่ฉันคงคิดสั้นเกินไป เพราะหน้านักเลงนั้นที่เหมือนจะไม่ค่อยพอใจในสิ่งที่ฉันพูดสักเท่าไร่ โอ๊ะ ไม่น่ะๆ U^U
“นี่น้อง !!!!” เขาเดินมาใกล้ แล้ว กระชากแขน ฉัน หวังจะทำร้าย อึ้ย!! กลัวแล้วค่ะ พลายไม่ทำแล้ว ค่ะ ปล่อยพลายน่ะค่ะ ๆ T_T!!
“เฮ้ย!! เป็นผู้ชาย อย่ารังแก ผู้หญิง สิครับพี่ชาย” ^_^ เสียงเทพบุตร คนไหนกันนะ ที่ช่วยชีวิต สาวน้อยอย่างยัยพลายเอาไว้ ฉันยิ้มขึ้นมาทันที ที่รู้ว่ามีคนมาช่วย รอดตายแล้ว ยัยพลาย ฮื่ย!! นายไม่รอดแล้วนายหน้านักเลง ^O^
“น้อง อยากเป็นฮีโร่ หรอ แต่ผิดที่นะน้อง ค่อยวันหลังละกัน” ผู้ชายคนนั้น ปล่อยแขนฉันแล้วเดิน ดุ่มๆไปที่ เทพบุตรเสียง แล้ว ปล่อยหมัดหนักๆใบที่ใบหน้าเทพบุตรเสียงนั้น
ปัก!!!
เฮ้ยกล้าดียังไง มาต่อยเทพบุตรเสียงของฉัน เนียะ -O-!!ฉันแอบตะโกนในใจ ขืนตะโกนจริงๆมีหวังได้กินหมัดแทนอาหารเช้าอร่อยๆแน่ๆ ยังไงยัยพลายก็รักชีวิตตัวเองมากกว่าใครอยู่แล้วค่ะ ^_+
“เอาจริงอ่อ พี่” เทพบุตรเสียง ที่ฟังจากเสียงแล้วท่าทางจะเอาจริงไม่เบา หันมาปล่อยหมัดมั่ง
ปัก!!! ปัก!!!
เฮ้ย!!! เสียงที่เกิดมะกี้ แรงมากกว่าที่นายหน้านักเลงนั้นต่อยอีก อู๊ยยย เจ็บบป่าวค่ะ เอ๋ - - ?? ว่าแต่ใครกันที่มาช่วยเราไว้น่ะ เดี่ยวต้องขอบคุณเป็นการใหญ่แล้ว ฉันเผลอคิดในใจ ในขณะที่ตอนนี้ฉันกำลังหลับตาปี๋ เพื่อจะไม่เห็นภาพเลวร้ายแบบนี้
ปรี๊ดดดดดดดดดด !!!!
เย้ -O- ในที่สุด เสียงนกหวีดเหมือนเสียงสวรรค์ก็ไม่ปาน ของพี่ยามหน้า โรงเรียน ก็ดังขึ้น พร้อมๆกับที่ฉันหันไป มอง หน้า คนที่ช่วยฉัน และลืมตาเพื่อดูเทพบุตรของฉัน ^^”
“ขะ ขอบบบ -X- อุ๊บ!!” ฉันรีบเอามือปิดปากตัวเองทันที ที่เห็นหน้าหล่อๆของนายคิว ผู้ชายที่ฉันเกียดที่สุดในโรงเรียนแห่งนี้ ถึงแม้ว่านายนั่นจะหล่อขั้นเทพจนสาวกรี๊ดน้ำหูน้ำตาไหล ถึงนายจะเท่จนแก้วใสๆถึงกับระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ เพราะทนความหล่อของนายไม่ได้ ถึงนายจะฮ๊อตจนน้ำแข็งขั้วโลกจะต้องละลายมาถึงกรุงเทพ และอีกหลายๆอย่างที่ฉันเองก็ไม่อยากจะจำประวัติส่วนตัวที่แสนจะเพอเฟกส์ของนายหรอก แต่ยังไงฉันก็ไม่ชอบนายอยู่ดี นายคิว(เพราะอะไร ฟ่ะ +_+^)
“เป็นอะไร รึปล่าว ”
“....”
คนอะไรหล่อได้หล่ออีกไม่คิดจะแบ่งให้ใคร เกลียด อ่ะ มีปัญหา ป่ะ :p
“เธอเป็นอะไรไหม :D”
“......”
“เธอ เจ็บตรงไหนรึปล่าว”
“.....”
ยังคงเงียบ
“นิ!! ฉันช่วยเธอ เอาไว้ นะ ไม่ขอบคุณเลยหรอ^^*”
“ใครขอให้ช่วย ล่ะ ฉันไม่ได้ขอสักหน่อย” เอ้ย!! พลาย ถอนคำพูดเดี่ยวนี้นะ ทำอะไรลงไป เนียะ นั้นน่ะหนุ่มฮ๊อตโรงเรียนนี้เลยน่ะ มีหวังสาวไหนมารู้ฉันพูดแบบนี้กับหนุ่มฮอตอย่างเขาล่ะก็ อึ๊ย!! แค่คิดก็สยองแล้ว OoO!!
“นี่ เธอ!! หยุด เดี่ยวนี้ น่ะ ฉันบอกให้หยุด!!” นายคิวขึ้นเสียงแข็งเมื่อเห็นว่าฉันกำลังเดินเขาไปในโรงเรียนโดยไม่ได้สนใจเขาสักนิด แต่นายคิวก็ยังเดินตามฉันขึ้นมาเรื่อยๆ โฮะ!! ^O^ คนหล่อเดินตามยัยพลายค๊า อร๊ายยยเขินๆ แต่แล้วเขาก็หยุดเดินทันทีเมื่อเขาเห็นฉันหยุดอยู่ที่หน้าห้องพยาบาล
“อ่อ แค่มาส่งหน้าห้องพยาบาล นึกว่าจะหายกัน ออ มานี่เลย!!” พอฉันหยุดเดินหน้าห้องพยาบาล นายคิวก็ลากฉัน เข้าไปในห้องพยาบาลด้วย -_-+
เขารีบนั่งบนเตียงของห้องพยาบาล แล้วดึงฉันมาใกล้ๆ อึ๊ย!!! นายจะทำอะไรของนายนะ ถึงแม้ว่าฉันจะรู้ประวัตินายว่าเป็นเสือตัวพ่อ แต่นายช่วยคุมอารมณ์มันหน่อย นี่มันห้องพยาบาลนะ
“เธอต้องทำแผล ให้ฉัน เพื่อการขอบคุณ โอเค๊ นิ!! เธอกำลังคิดอะไรของเธอนะ ” -_-+ ฉันรีบเปลี่ยนความคิดใหม่ทันที นี่ฉันเผลอคิดอะไร อุบาทว์ ว่านายคิวกำลังจะปะ ปล้ำฉันในห้องพยาบาล ฮี๊ๆ ^^+ คิดได้ไงเนี๊ยะ ฉันรีบเดินไปเอากล่องยา เพื่อปิดบังในสิ่งที่ฉันเผลอคิดออกมา ฉันแอบเห็นนะ ว่านายแอบยิ้มนะ แต่ไม่เป็นไร อภัยให้แล้วกัน ถือว่านายช่วยฉันเอาไว้
ฉันยกเอาแอลกอฮอล์ และอุปกรณ์ยาต่างๆ มาทำแผล ตามที่นายคิว บอก
แต่ทำได้สักพัก.....
“แต่มันเป็นแค่ ข้อแรก เท่า.... โอ้ยยยย เบาๆหน่อยสิ เจ็บนะ T^T” สิ่งที่นายคิวพูด ทำฉันเผลอจิ้มหน้านายคิว จนเขาร้องโอ้ย ขึ้นมา ว่าแต่มันหมายความว่าอะไร???
“มือหนักยังกะควายฉึกๆ แนะ”-_-!
“ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง หมายความว่าไง ข้อแรก”
“อ้าว พูดได้ด้วยหรอ”นายนี่มันกวนบาทาอันงดงามดั่งนางแบบของฉันชะมัดเลย -_-!!
“ตกลง มันคืออะไร!!”
“ก็เธอ เล่น ไม่ขอบคุณฉัน ฉันเลยคิดบัญชี กับเธอ โดยการ......ให้เธอ....มา....เป็น....แฟนฉันหนึ่งเดือน หลังจากนั้น ฉันก็จะปล่อยเธอไป ถ้าเธอไม่ดันหลงรักฉันสะก่อน^^” นายคิวนี่นายกวนบาทาฉันหรอ ใครจะรับข้อเสนอนาย ใครๆก็รู้ว่านายเสือตัวพ่อ แล้วที่ว่าฉันจะรักนาย เชอะ! เป็นไปไม่ได้หรอก เซร์โน โฮเฮ ฝันไปเถอะย่ะ!!
“แต่ถ้าเธอไม่ตกลง โน้น หันไปดิ!! เธอเห็นไหมนอกประตูนะ พร้อมยำเธอเละ แน่!!” นายคิว ชี้ไปทางประตูที่มีผู้หญิงนับร้อยคน มองมาด้วยสายตาอาคาด ว่าฉันกล้าดียังไงกล้ามายุ่งอะไรกับเทพบุตรอย่างนายคิว ในหมู่นั้นมีนักเรียนสี่คนที่มองฉันด้วยแรงริษยาทันที OoO!! อุ๊ ว้าววว นั้นมันแก๊ง แมวสวาท นี่ฉันเผลอกลืนน้ำลายลงคอ อย่างฝืดๆ อึก อึก T^T*
“แต่รับรอง ฉันจะไม่ทำอะไรเธอหรอกน๊า ถ้าเธอไม่ยินยอม^^”
“.......”
“ว่าไง แต่ถ้าเธอ ไม่ โอเค งั้นฉันไป........”
“ก็ได้!!” ฉันทำอะไรลงไปเนี้ยะ พลายแกถอนคำพูดเดี่ยวนี้น่ะ!!
“ว่าอะไรน่ะ เมื่อกี้”
“ก็ได้ ไง”
“ก็ได้อะไร -_-?”
“โอเค ฉันตกลงกับข้อเสนของอนาย”
“งั้นดีเลย เริ่มวันนี้น่ะครับ คุณ Girl friend ^^”
“......”เงียบอีกล่ะ เงียบเธอต้องเงียบเท่านั้นน่ะ พลายไม่งั้นเดี่ยวนายคิวนี่ มันต้องปล่อยให้พวกที่อยู่ข้างนอกนั้นยำเธอเละแน่ เย็นไว้ๆ 3= ฉันรีบถอนหายใจเพื่อปลดปล่อยอาการหงุดหงิดของฉันทันที
แล้วฉันก็ตัดสินใจเดินไปที่ประตู(ที่มีนักเรียน หญิงแท้ หญิงเทียม เป็นร้อยๆคน) แต่ทว่าก็มีมือของนายคิวจับได้ไว้ทัน
“เดี่ยว!!!.... เธอจะให้พวกนั้น ยำ เธอ หรอ มานี่!!” นายคิว กระชากฉัน ตามที่ที่เขากำลังเดินไป คนเป็นแฟนมันนิยมความรุนแรงหรอฟ่ะ แล้วตกลงนายจะพาฉันไปไหนเนี่ย ^^??
ระหว่างทาง นายคิวได้ร่ายกฎการเป็นแฟนระหว่างเราไว้ด้วย นายคิวพูดไปทีละข้อๆ แต่ฉันจำไม่ค่อยได้หรอก ก็นายคิดอะไรออกก็ออกกฎอย่างนั้น ใครจำก็บ้าแล้ว -_-*
แต่นายคิวกำชับนักกำชับหนา(ไม่มีบางเหมือนโซฟีเลย^^)ก็มีอยู่สามข้อ (ที่จริงนายคิวก็กำชับทุกข้อ อะ น๊า แต่ฉันมันพวกสวยแต่ความจำสั้นอ่ะ โฮะๆๆ ^O^!!)
1.ห้ามยุ่งกับผู้ชายคนไหนหรือห้ามคบกับใคร ระว่างที่คบกับฉัน เพราะจะทำให้หนุ่มฮ๊อตอย่างฉันเสียหน้าและอับอาย^_^
2.ถ้าฉันให้เธอมาพบฉัน เธอต้องมา เพราะฉันไม่ชอบให้ใครขัดใจฉัน
และข้อสุดท้าย เขาบอกว่ามันเป็นข้อดีสำหรับฉัน ^_^+ เพราะเขาไม่เคยให้สิทธ์ใครพิเศษเท่านี้มาก่อน นั้นคือ....
3.ถ้าเธออยากทำไรฉันแบบคนที่เป็นแฟนเขาทำกันฉันก็ไม่ว่าอะไร ฉันให้สิทธ์เธอ^^
ฮ่าๆๆๆ ก็ดีเหมือนกัน เฮ้ย!! จะบ้าหรอนายคิว ใครจะกล้าทำ มีแต่นายคนเดียวแหละที่คิดเรื่องแบบนี้ได้ ฉันไม่แปลกใจเลย ทำไมฉันถึงไม่ชอบนายเอาเสียเลยยยย -__-*
หลังจากที่นายคิวร่ายข้อตกลงเสร็จ นายคิวก็ขอแยกและเดินไปอีกทาง แต่ก่อนไปนายคิวหันมากระซิบใส่หูฉันซึ่งฉันเองก็ไม่ค่อยจะเข้าใจอะไรมากนัก
“ฉันไปนะ เดี่ยวตอนเที่ยงมารับ อ่อ แล้วอย่าหนี ไปคนเดียวล่ะ อย่าหาว่าไม่เตือน” นายคิวกระซิบข้างหูฉัน มันหมายความว่าไงหรอ อย่าหนีนะ เฮ้ เดี่ยวก่อน สิ ฉันเตรียมจะเรียกได้คิว แต่นายนั้นเดินเร็วชะมัด ชิ เกลียดคนสูง จริงๆเลย =_=
ฉันเลยตัดสินใจเดินเข้าห้องเรียน แต่พอฉันเดินเข้ามาในห้อง รับรู้ถึงสายตาอันแรงกล้าที่พร้อมส่งพลังทำลายล้างตัวฉันด้วยพลังสายตา ฉันเองยังแอบคิดเลยว่า ถ้าสายตาของเพื่อนๆเปรียบเสมือนไฟล่ะก็ ฉันคงโดนเฝ้าเหมือผงธุลี ที่ไม่มีใครต้องการก็เป็นได้ T^T
“เฮ้ พลาย ทางนี้ “ ฉันรีบเดินตามเสียงนั้น ที่แท้ ยัยน้ำ นั่นเองที่เรียกฉัน เฮ้อ!! โล่งอกที ที่ไม่โดนยำ ในห้องเรียน
“จริงป่าว ที่เขาว่าเจอแกกับคุณเทพบุตรสุดแสนจะหล่อเพอเฟกส์ของฉันที่ห้องพยาบาล”
“ใคร -_-??”
“รุ่นพี่คิว ไงเท่ออกขนาดนั้น อ่อ ลืมไปแกมันพวกไม่ชอบคนหล่อ ว่าแต่จริงรึปล่าวล่ะ”
“อือ “ ฉันตอบสั้นๆ พอดีกับอาจารย์ เข้ามาสอน พอดี เฮ้อ!! ฉันนั่งเรียน ใจก็เต้นแรงพลาง เต้นทำไมน่ะหรือ?? ก็อาจารย์แต่ละคนสิ เข้าห้องเรียนปั๊ปแทนที่จะเข้ามาสอนเนื้อหาในหนังสือที่มี x y ยกกำลังสองคูณด้วย m อะไรนั่น แต่กลับถามเรื่องฉันกับนายคิวนั้น บ้ารึปล่าว นายจะฮ๊อต อะไรขนาดนั้น
ตึกๆ ตึกๆ
และมันก็ทำให้ใจฉันเต้นแรงมากขึ้นหลายเท่าตัว เมื่อฉันมองนาฬิกาของฉัน อร๊ายยยย >O<!! นาฬิกาฉัน ลอกแล้วหรอเนียะ ฮือๆๆ T^T ต้องซื้อใหม่ ต้องซื้อใหม่ (-_-+เกี่ยวไหม พลาย :volley)
อ๊อดๆๆๆๆ
O0O!!! ตึกๆๆๆๆๆๆๆ ใจฉันเต้นถี่ขึ้น มันแรงยิ่งกว่ารถคูโบ้ตาตอนวิ่งแข่งกับควายเพื่อวัดประสิทธิภาพว่าใครแรงว่ากันสะอีก ฉันรีบหันซ้าย หันขวา หันหน้า หันหลังไปทุกอนู เอ้ย!! นั้น เพลงของพี่บี้ซุปฯตาร์ไทยแล้วน่ะ
“พลายไปกินข้าวกัน” ยัยน้ำชวนฉันกินข้าวทันที ที่กริ๊งอ๊อด อึ๊ย เที่ยงแล้วหรอเนี้ยะ ไม่เอาๆๆๆๆ T^T ยัยพลายอยากเรียนอีก พลายอยากเรียนอีก
“ดะ เดี่ยวตามไป” ฉันตอบพลางเสียงเงอะ เงอะ งะ งะ แล้วหันไม่มองทางประตูอย่างใจเต้น ประกฎว่าไม่เห็นนายคิวเลย เฮ้อ! โล่งอก ฟู้ 3=
“อือ” ยัยน้ำลงไปกินข้าวแล้ว เหลือแต่ฉันที่กำลังเก็บหนังสือ แล้วเดินออกจากห้องด้วยความสบายใจ ลา ลั้ล ลา ลา ลา ลา วิ้ว สบายใจที่สุดเลย ^O^!!
ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่า นายคิวฉันขอบใจนายนะ ที่นายไม่ได้มาตามนัด เยสสสสสสสส !!!!!!
“ทำไม ช้า”แต่ทว่าฟ้าก็ยังใจร้ายกับคนสวยเสมอเมื่อเสียงๆนึ่ง ที่ทำให้ฉันตกใจ และหันไปทางต้นเสียงอย่างไม่คิดมาก่อนว่านายจะมา(ทำไม - -=) จนมันทำให้ร่างๆงามของฉันเสียหลัก สะดุด ขา ตัวเอง ไปชนกับไหล่ของนายคิวทำให้จมูกโด่งๆของนายคิวชนแก้มฉัน ^///^ ลมหายใจอุ่นๆของนายคิวตอนนี้รดแก้มของฉันอย่างเลี่ยงไม่ได้ o///o ส่วนมืออีกทั้งสองของเขากำลับโอบรัดรอบเอวบางๆของฉัน ดีน่ะ ที่ตอนนี้ไม่มีนักเรียนเดินผ่านมา แต่จะว่าไปมันก็นานแล้วน่ะ นายปล่อยฉันได้แล้วเขินเฟ้ย!!
“เธอหน้าแดง เหมือนมะเขือเทศเลย ระวังน่ะ!! มะเขือเทศของโปรดฉันเลย เดี่ยวจะกินสะตรงนี้เลยดีไหม^^”นายคิวก้มลงกระซิบข้างหูฉัน แล้วค่อยๆโน้มใบหน้าหล่อๆเข้าใกล้ใบหน้าฉัน อึ๊ย ใกล้แล้ว ใกล้แล้ว อร๊ายยยย >///<
พลัก!!
ฉันผลักนายคิว ให้ห่างจากใบหน้าของฉัน เมื่อกี้นายจะทำอะไรอ่ะ อี๊ อายๆ ฉันรีบเอามือปิดหน้า ปิดแก้ม ที่กำลังแดงระเรืออย่างกับลูกมะเขือเทศที่นายคิวบอก
“ไปกินข้าว สิ หิวแล้ว” ฉันรีบเปลี่ยนเรื่อง ทันที แล้วเดินไปอีกทางและฉันก็ต้องหน้าแดงอีกครั้งเมื่อได้ยินสิ่งที่นายคิวเอ่ยขึ้น....
“เธอจะไปไหน โรงอาหารอยู่ทางนี้น่ะ^_^” นายคิวชี้ไปทางที่ฉันเองก็คิดว่ามันก็คือทางไปโรงอาหาร อึ๊ย อายๆๆๆ
>///< =>>> หน้าฉัน
^^ =>>> หน้าคิว
ฉันรีบเดินไปทางที่นายคิวชี้ทันที นั่นคือโรงอาหารระหว่างทางนายคิวทำให้ฉันหน้าแดงได้ตลอดเวลา นายนั่นยิ่งรู้ว่าฉันเขินก็ยิ่งแกล้ง นายนี่มันยังไงกันแน่น่ะ และเมื่อถึงโรงอาหารฉันตัดสินใจเดินไปนั่งมุมโต๊ะที่อยู่มุมสุด เพื่อไม่ให้เป็นเป้าสายตาใคร แต่มันดันใกล้กับร้านขายข้าวแกงเลย ก็ยังดีกว่าอยู่กลางห้องโรงอาหารล่ะกันน๊า ฉันตัดสินใจนั่งลงทันที เมื่อรู้ว่าที่นั่งกำลังว่างอยู่ ^()^
“รอที่โต๊ะน่ะ เดี่ยวฉันไปซื้อข้าวให้ ^^”พูดจบนายคิวก็เดินไปซื้อข้าวทันที“ป้าครับ เอาแกงไก่ครับ อ่อ ไม่ต้องใส่หัวใจไก่ น่ะครับ พอดีผมมีหัวใจพลายอยู่เต็มหัวใจแล้วครับ”นายคิวบอกป้าที่ขายข้าวแกงหน้าโหดๆอยู่ ป้าแกคงกลัวว่าไม่มีใครจ่ายตังส์แกมั่ง แล้วนายคิวก็หันมามองทางฉัน โดยไม่รู้ว่า ฉันที่นั่งรออยู่โต๊ะอาหารนั้น หน้าแดงยิ่งกว่ามะเขือเทศสุก ตอนยังหนุ่มๆสาวๆเลย >///< อร๊ายยย นายจะแกล้งฉันไปถึงไหน กัน นายคิว!!
กรี๊ดดดดดดดดดดดด น่ารักอ่ะ คิว ใครได้เป็นแฟน โชคดีเป็นบ้าเลย อร๊ายยยย อิจฉาๆๆๆๆ
คิว นายนี่น่ารักอ่ะ ยัยนั่นโชคดีชะมัดเลย คิวๆ ถ้ายัยนั่นเลิกกับคิว มาคบกับฉันน่ะคิว คิวๆ....
นักเรียนที่กำลังเข้าแถวรอกับข้าวคงจะแทบบ้า และคลั่งจนลืมว่าตัวเองกำลังหิวข้าว ล่ะมั่ง เฮ้ย นายคิวไม่ใช่ดาราสักหน่อยจะหลงอะไรกันนักกันหนานะ ฉันอยู่กับนายคิวไม่เห็นเป็นเหมือนยัยขี้อิจฉาเหมือนแมลงวันตอมขี้ยังไงไม่มีผิดอย่างพวกนั้นเลย ชิ! ...นายคิวเดินมาแหละ ฉันดีใจสุดๆเมื่อนายคิวเดินมาที่โต๊ะเพราะฉันกลัวว่านายนั้นจะทำอะไรพิเลนๆอีก ยัยพลายคนนี้ก็อายเป็น และก็เกลียดเสียงเหมือนแมลงวันของยัยพวกนั้นด้วย ><!!
“นายทำไรของนาย นะ”ฉันค้อนนายคิวทันทีที่ นายนั้นมาเสิร์ฟข้าวที่โต๊ะ โฮะๆ oOo!! เปลี่ยนจากหนุ่มฮ๊อตเป็นเด็กเสิร์ฟแล้วหรอ นายคิว!!
“ปล่าว ไม่ได้ทำไร”นายคิวหยักไหลนิดๆแล้วหันมาสนใจข้าวตรงหน้าแทน
“ชิ! โกหก”
นายคิวตอบหน้าไม่อายนะ นาย นะ บอกมาได้ว่าไม่ได้ทำไร แล้วไอที่สุกแดงยังกับตอนที่แม่ไก่กำลังวางไข่ หน้าแดงๆบนใบหน้าพลายนี่ใครทำค่ะ ใครทำ ถ้าไม่ใช่คุณคิว สุดแสนจะหล่อ คนนี้ -__-O
และการทานข้าวระหว่างมื้อเที่ยงกับนายคิว ก็ผ่านพ้นไปด้วยเกือบดี จะใครอีกเล่าก็ดูแฟนคลับนายคิว สิ บางคนก็มองด้วยชื่นชมว่าน่ารัก แต่บางกลุ่มสิ เอะ! หรือว่าส่วนใหญ่ น่ะ ชั่งเถอะ ก็มองฉันยังกับจะกินเลือดเนื้อฉัน ถ้าสมมุติว่ายัยพวกนั้นเกิดบ้าแล้วจับฉันถ่วงน้ำอย่างละครปิ่นอนงค์ล่ะ อี๊ น่ากลัวๆ T^T
ฉันรีบชวนนายคิวขึ้นเรียน เพราะไม่อยากเป็นที่สนใจของยัยพวกบ้าคนหล่อเหมือนแมลงวันของพวกนั้น และนายคิวก็มาส่งฉันที่หน้าห้องเรียนด้วย แหมทำหน้าที่แฟนได้ดีแบบนี้ ถ้าเป็นกันจริงๆ คงรักตายเลย >O< ฉันรีบเดินไปในห้องเรียน และเดินไปนั่งที่โต๊ะ โดยไม่สังเกตว่า ยัยน้ำ ที่แยกกับฉันตั้งแต่ตอนพักเรียนนั่งอยู่ พอฉันเห็นยัยน้ำฉันเลยหันไปโม้กับยัยน้ำทันที นี่แหละน่า ผู้หญิงสวย (สวย) อยู่สองคนทีไรเป็นโม้ทุกที แต่ที่ฉันแปลกใจคือ ยัยน้ำดูท่าทางกังวลอะไรสักอย่าง ฉันไม่กล้าถามพอดีกับอาจารย์เข้ามาขัดเรื่องโม้ของฉันกับยัยน้ำทันที ให้ฉันได้โม้กับยัยน้ำต่อก็ไม่ได้ T_T
“เฮ้อ เลิกเรียนเสียที่ ไปไหนรึปล่าว กลับด้วยกันไหม”
“ยังหรอก แม่กับพี่พามไม่ได้อยู่บ้านกะจะเดินเล่นก่อนอ่ะ”
“หว้า!! เสียดายจังพี่พามสุดหล่อไม่อยู่ งั้นฉันกลับก่อนนแก บาย” ยัยน้ำ ที่เก็บหนังสือใส่ในกระเป๋าเรียนเรียบร้อยแล้วโบกมือลาฉันแล้วค่อยเดินออกจากห้องเรียนไป
“อือ เดี่ยวเจอกันวันจันทร์ บาย” ฉันโบกมือลา ยัยน้ำแล้วมองเพื่อนรักที่เดินค่อยๆห่าง จนลับตาในที่สุด
“เฮ้อ ! ไม่อยากกลับบ้านเลย”จู่ๆ ฉันก็เอ่ยคำๆนี้ออกมา ก็แหงสิที่บ้านไม่มีใครอยู่ จะกลับให้มันเหงาหงอย เหี่ยวแห้ว ตายเหฉากันทำไม ไปเดินเล่นดีกว่า =()=
พลายตัดสินใจเดินออกจากโรงเรียน เธอทั้งเตะฝุ่น ทั้งเตะหญ้า และเตะกระป๋อง แม้กระทั้งถังขยะที่ไม่รู้อีโน่อีเน่เธอก็ยังมิวาย ยังเตะได้ลงคอเลย ถ้าถามความรู้สึกของถังขยะตอนนี้ล่ะก็คงจะได้คำตอบว่า...คุณจะเตะผมทำไมครับ ผมอยู่เฉยๆและริมทางแล้วนะคราบ ฮือๆ T^T... พลายตัดสินใจเดินไปเรื่อยๆ จนรู้สึกว่าขาที่ก้าวไป มันไม่ไหวแล้ว แต่เธอก็ยังเดินต่อจนได้ยินเสียงบีบแตร และรถคันหรูสีดำสนิทมาจอดเทียบข้างๆเธอ
ตี๊นๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ใครบีบแตรแถวนี้ เนียะ หนวกหูเฟ้ย ฉันหยุดเดิน แล้วหันไปหาคนขับ หวังจะเอาเรื่อง =_=*
“นี่พลาย จะไปไหน”คนที่นั่งประจำขับ หันมาถามฉันทันทีที่ฉันหันไปมองเห็นว่าใครที่บังอาจบีบแตร ทำลายอารมณ์ของฉัน
“ไม่รู้”ฉันตอบไปแบบไม่ใส่ใจในรายละเอียกมากนัก ก็ฉันเองยังไม่รู้เลยว่าตัวเองกำลังจะไปไหน
“ไปกับฉัน เดี่ยวฉันพาเที่ยวเอง ไม่ทำไรหรอกน่า” คิวรีบแก้ตัวทันที เมื่อเห็นสีหน้าของฉัน ที่มองเขาด้วยความไม่ไว้ใจ
ปึง ฉันปิดประตูรถ ทันที ที่เข้ามานั่งในรถของเขา รถนายนี่ก็สวยน่ะ แต่มันน้อยกว่าหน้าตาฉันนิดเดียวเองฮ่าๆๆๆ (-_-*)
“ทำไม ไม่กลับบ้าน”
“ไม่อยากกลับ”
“ฮึ ที่บ้านไม่มีอะไรดี งั้นสิ”นายคิวทำเสียงอุ๊บอิ๊บในลำคอ
ถึงแม้นายนั้นจะพูดเสียงอุ๊บอิบในลำคอ แต่ฉันก็พอจะได้ยินอยู่หรอกน่ะ ว่านายกำลังดูถูกฉัน แต่นั้นมันก็ไม่ได้สำคัญพอที่ฉันจะใส่ใจสิ่งที่นายพูดนักหรอก
“อื้อ งั้นไปไหน “ เขาก็ยังถามฉันไม่เลิก นายจะถามอะไรฉันนักหนา เนียะ
“แล้วแต่”
หลังจากที่ฉันพูดประโยคนั้นออกไปภายในรถ ก็มีแต่ความเงียบที่ปกคลุม จนสุดท้ายนายคิวก็เคลื่อนรถเข้ามาที่ลานจอดรถ ในห้างแห่งหนึ่ง
นายคิวเดินนำฉันไป ตกลงนายพาฉันมาทำอะไรที่นี่น่ะ ฉันต้องหยุดความคิดลงเมื่อนายคิวพาฉันเข้ามาในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ฉันตกตะลึงกับภาพบรรยากาศภายในร้าน ก็ดูการตกแต่งของเจ้าของร้านสิ โรแมนติกชะมัดเลย มุมของร้านมีคนบรรเลงไวโอลีนด้วย และอีกอย่างอาหารที่นี่ก็ดูน่าทานทั้งนั้น
“อ่ะ นั่งลง จะกินอะไรก็สั่งเลย”
ฉันสั่งโน้น สั่งนี่จนพอใจ ว่ะ ฮ่าๆๆ แค่นี้คงไม่ถึงกับจนหรอกน่ะ แล้วฉันก็นั่งรอด้วยความตื่นเต้น จนในที่สุดชามแรกที่พนักงานเสิร์ฟก็คือ ยำปลาอะไรสักอย่างนี้แหละ ก็ชื่อมันยาวน่ะจำไม่ได้ แต่ดูแล้วภายในจานที่พนักงานเพิ่งมาเสิร์ฟสิตกแต่งไปด้วยผักนานาชนิด ซึ่งฉันดูจากภาพรวมๆแล้ว มันเยอะกว่าเนื้อปลาในจานใบนั้นสะอีก เฮ้อ!! จะใส่ผักทำไมกันไหนก็ไม่ได้กินที จานแล้วจานเล่าที่พนักงานนำมาเสิร์ฟ ฉันก็ได้แต่วิจารแต่ละจาน จนไม่กล้ากินเลย ล่ะ ดูสิในนั่นมีแต่ผักทั้งนั้นเลยรู้งี้บอกพนักงานไม่ต้องใส่ผักก็ยังดี -____-!
“กินสิ มัวแต่มอง ไม่อิ่มน่ะ อ่ะ อ้าปากๆ”ฉันที่ตอนแรก ได้แต่วิจาร ก็ลองมาเปลี่ยนเป็นผู้ชิมต่อ^O^ และก็ต้องจำใจอ้าปากเมื่อนายคิว ยื่นอาหารเข้ามาใกล้แล้วก็ป้อนให้ฉัน >_<
“อั้ม ^_^”นายคิวได้แต่ยิ้มกับกริยาเขินอายของฉัน
“>///<”
หลังจากที่เราสองคนนั่งทานข้าวกันอย่างสวีทหวานโดยไม่แคร์สายตาคนในร้าน ก็ถึงเวลากลับบ้านแล้วสิ อ๊า เสียดายอ่ะ ที่กินไม่หมด อ่ะ แต่ฉันก็ต้องเก็บอาการความเชยแสนเชยของฉันเดี่ยวนายคิวรู้ว่าฉันเชยเป็นยัยบ้านนอกคอกนา ขับขี่ควายจับตักแตน เอ้ย อย่าพูดเลยเดี่ยวมันเข้าตัว ที่ไม่เคยกินอาหารพวกนี้ เฮ้อ!!
“ขอบใจนะ “ฉันเปิดประตูรถ เมื่อรถสีดำของนายคิว เข้ามาจอดหน้ารั้วบ้านของฉัน แล้วไม่ลืมเอ่ยขอบคุณ นายคิว
“พรุ่งนี้มารับ แต่งตัวให้สวยล่ะ จะพาไปเที่ยว ”นายคิวคิดยังไงถึงชวนฉันไปเที่ยว หรอ แต่เอะ ที่แต่งนี่ ก็สวยแล้ว นิ หนา ชั่งเถอะ ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้นนอกจาก คิดถึงแม่ และพี่พาม
ฉันเดินเข้าบ้านไปเห็นไฟเปิดอยู่บางห้อง ฉันก็คิดว่าป้านิ่มยังคอยฉันอยู่ ฉันเลยรีบถอดรองเท้าแล้ว โดยไม่สังเกตว่ามีรองเท้าคู่หนึ่งที่ไม่ใช่รองเท้าผู้หญิงอยู่ ฉันได้แต่รีบ กลัวป้านิ่มรอนานฉันเลยไม่ทันได้สังเกต
“ป้าค่ะ พลายกลับแล้วค่ะ พลายอยู่คนเดียวได้ค่ะ ป้าพักผ่อนเถอะค่ะ” ฉันตะโกน เสียงดังลั่นบ้าน แต่เอ๋ ทำไม ป้าไม่ตอบ รึว่า…… เสียงอะไรนะ
โครง เครง เกรก กรัก >> จากในครัว
ฉันเดินไปหยิบไม้กวาดที่อยู่ใกล้ประตู แล้วเดินไปยังตนตอของ เสียง นั้น คือ ห้อง ครัว ซึ่งมันผิดวิสัยตรงที่ไฟยังปิดอยู่ ป้าคงไม่เล่นเซอไพรส์ วันที่ไม่ใช่วันเกิดฉันแน่
ฉันค่อยๆย่อง บอกได้เลย ว่าย่อง เข้าไป เหอะ ไอโจรบ้าคิดจะมาขโมยบ้านยัยพลายหรอ เอานี่ไปกินสะ!!!
“ไอโจรบ้า!! ออกไป จากบ้านฉันน่ะ นี่ๆแนะๆ ต้องโดน นี่ๆแนะๆ”ฉันตีโจรคนนึงที่นั่งกินมาม่าอยู่ในห้องครัวอย่างไม่ต้องคิด แหมขโมยอะไรไม่ขโมย มาขโมย มาม่าบ้านยัยพลาย จนมากนักหรอไงฮ่ะแอบขโมยมาม่าบ้านเขาเนียะ ฮ่ะ
“หยุดๆๆๆ ใจเย็น ดิ เธอตีฉันทำไมเนียะ เจ็บ นะ” โจรรีบวางมาม่าที่แอบขโมยบ้านฉัน แล้วจับไม้กวาดที่ฉัน รุมตีเขาแทน นายจะทำอะไร อย่าน่ะ ๆๆ
“นายมาทำอะไรบ้านฉัน จะขโมยของหรือว่าOoO!! นายจะปล้ำๆฉัน”
นายโจร เดินไปเปิดไฟแล้วมายืนต่อหน้าฉันมือก็ล้วงกระเป๋า เอ๋ยเท่อ่ะ อ่า??? หล่อยังงี้มันคุ้นๆ น่ะ เฮ้ย ไม่ๆ โจรหล่อๆเดี่ยวนี้เยอะไป แต่นายนี่มันหล่อๆ อ่ะ หล่อกว่าพระเอกบางคนสะอีก
“ไปกันใหญ่แล้ว นิจำฉันไม่ได้หรอยัยลูกชิ้น”ใครคนนึ่งที่ฉันคุ้นเอ่ยขึ้น เอ๋ ชื่อนี้มันคุ้นๆ นี่หน่า O0O!! นั้นมันชื่อฉันนี่หน่า ซึ่งมีคนเดียวเท่านั้นที่เรียกฉันแบบนี้ งั้นแปลว่านายคือ..
“ริว นายแก้มเปียก นายกลับมาแล้ว”
“TOT”
“เฮ้ ไม่ต้องร้องไห้นายควรดีใจที่ฉันตั้งชื่อใหม่ที่แสนจะไพเราะ เพาะพานให้นาย นะริว ^O^” ฮ่าๆๆ ในที่สุดฉันก็จำริวได้ เพื่อนสมัยเด็กๆของฉัน เขาชอบเอาลูกชิ้นมาฝากฉันบ่อยๆเลย ส่วนไอชื่อนายแก้มเปียกนี่นะ ฮ่าๆๆ ^()^ไม่อยากจะพูดให้ริวเสียหายเลย ก็แบบว่านายคิวเนี้ยะ กินก๋วยเตี๋ยวไม่ค่อยเป็นอ่ะนะ ฉันก็แปลกใจเลย นายเป็นคนญี่ปุ่นแท้ๆ แต่ดันกินก๋วยเตี๋ยวไม่เป็น ฮ่าๆๆตลกชะมัด แต่นั้นมันไม่ใช่ประเด็นหรือจุดประสงค์ของยัยพลายที่จะบอกคือริวเกลียดการกินก๋วยเตี๋ยวต่อหน้าคนเยอะเป็นที่สุด สุดจนสุดของที่สุดเลยละ แต่ริวก็ต้องจำใจกินเพราะยัยพลายสุดสวยขอร้อง อ้อนวอน จนตัวเป็นเกลียว ริวถึงจะยอมกิน คำแรกที่ริวกินมันก็ทำให้ฉันหัวเราะร่วนจนก๋วยเตี๋ยวสามพันร้อยล้านลูกที่ไม่ต้องยัดก็เข้าปากฉันได้สบายๆ ก็ริวกินก๋วยเตี๋ยวท่าเต้น Sory Sory หรือไงกันถึงกินก๋วยเตี๋ยวแค่คำเลอะแก้มยันหู ฮ่าๆๆ ไม่หัวเราะให้คนอื่นอับอายก็คงไม่ใช่ยัยพลายแล้ว
“คิดอะไรน่ะ อย่าไปเล่าให้ใครฟังเชียวน่ะ”ริวหันมามองฉันเมื่อมองฉันแล้วดูเงียบผิดปกติ
“ไม่ทันแล้วล่ะ”>O<!!
“T()T”
หลังจากริว งอนฉันที่ฉันดันเผลอคิดอะไรเพลินจนล่วงรู้ไปถึงใครต่อใคร ริวก็ตัดสินใจเดินไปเปิดทีวีดูเล่นโดยไม่ใส่ใจฉันสะงั้น ถึงนายจะโกรธฉัน แต่นี่มันบ้านฉันน่ะเฟ้ย -*-
ริวเพื่อนที่แสนดีของฉัน เป็นคนนิ่งไม่ค่อยพูดแต่ดูแลคนข้างๆเก่งมาก นายนี่หล่อไม่เปลี่ยนเลยน่ะ ......อันเด ริว
“นี่ริวทำไมนายถึงกลับมาล่ะ คิดถึงฉันอ่ะดี้เพื่อให้นายริวหหายงอนฉัน”ฉันรีบเดินไปนั่งใกล้ที่ริวนั่งอยู่ แล้วหันมาถามเพื่อนในวัยเด็กของฉันทันที
“....”
“นั่นแน่(ฉันจิ้มแก้มริว โอะ แก้มนายนี่นิ่มชะมัด)คิดถึงก็บอกดี บอกดี๊ ไม่เห็นต้องอายเลย”
“อือ”
“O()O”
“....”
“บ้า น๊า ว่าแต่ปิดเทอมแล้วหรอ แต่ก็ดีเหมือนกันแหะ อ่อ เดี่ยวฉันจะพานายไปกินก๋วยเตี๋ยวเจ้าเดิมที่เราชอบกินกันไง นายคงยังจำได้ใช่ไหม”ฉันเห็นว่าริวไม่ค่อยสนใจฉันสักเท่าไร่ และเพื่อเปลี่ยนเรื่องสนทนาเพราะฉันเองก็กลัวว่ามันจะไปกันใหญ่ ฉันเลยหาเรื่องที่น่าจะเป็นแรงดึงดูดริว ให้สนใจฉันและมันก็ได้ผลริวที่ดูโทรทัศน์อย่างตั้งอกตั้งใจก็หันมาถามฉัน
“ยังขายอยู่อีกหรอ”
“อื้ม แต่เป็นลูกเขาแล้วหละ ว่างๆเดี่ยวเราไปกินด้วยกัน”
“ดีเหมือนกัน ไปนอนได้แล้วไป ดึกแล้ว ไปๆ”ชิ! ไล่กันชัดๆ แต่ก็ดีฉันก็เหนื่อยมามากแล้ววันนี้ ฉันรีบเดินขึ้นห้องไป โดยหันมายิ้มให้ริว ทีหนึง ^^ แล้วจึงรีบขึ้นไปในห้องอย่างรวดเร็ว ฉันกำลังเตรียมตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อจะไปอาบน้ำ แต่ก็ต้องเปลี่ยนใจเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู
ก๊อกๆๆ
ฉันรีบเดินไปเปิดประตู คงเป็น ริว มั่ง และมันก็เป็นไปตามสมองอันเล็กที่มีรอยหยักเป็นแหสร้างข้อสันนิฐานขึ้นมา
ครืดดด เอี๊ยดดด
“มีอะไร ไหนเมื่อกี้ไล่ให้มานอน” ฉันถามทันที เมื่อเห็น สีหน้า ของ โจรที่แอบขโมย มาม่าของฉัน ริวนั่นเอง
“อ่อ ป้านิ่มฝากเธอให้ฉันดูแลนะ มีอะไรเรียกได้ 24 ชั่วโมง บ้านฉันก็อยู่ข้างบ้านเธอ ฝันดีนะยัยลูกชิ้น”ปึง!! พูด จบนายริว ก็เป็นคนปิดประตูเอง สะงั้น เอะ! ทำไมนายดูแปลกๆ นะ ใช่บ้านนายก็อยู่ถัดไปนี่เอง จะเตือนทำไม นายนี่แปลกตลอดเลย เฮ้อ!! ฉันถอนหายใจทันที
อาบน้ำเสร็จแล้วมันสบายตัวอย่างนี้ นี่เอง ไม่คิดมากแหละ นอนดีกว่า พรุ่งนี้ต้องไปเดท เอ้ย เที่ยว!!! กับนายคิว โอ้ย พลาย นะ พลาย จะตายก็งานนี่แหละ ตึง ฉันล้มลงนอน ทันที และเผลอคิดเหตุการณ์ตอนเที่ยงตอนนายคิวก้มลงมาเรื่อยๆ อ๊ายย ถ้าฉันไม่รีบผลักนายคิวมีหวังปากเรา เขินๆๆ(>///<) ฉันรีบเอาผ้าห่มปิดหน้าทันที
“อรุณสวัสดิ์ ตอนเช้าครับ”ริว นายนี่ดีนะ อุตสาตื่นแต่เช้า มาทำอะไรให้ฉันทาน อาหารที่นายทำต้อง อร่อยแน่เลย ฉันรีบเดินไปนั่งประจำที่ ว้าววว น่ากินทั้งนั้นเลย
“อรุณสวัสดิ์ มากินด้วยกันสิ” ฉันชวนริว ด้วยกัน ก็นายเล่นนั่งมองฉันไม่กระพริบ ฉันก็เขิน นะ ริวที่ตอนแรกนั่งมองฉันอยู่ก็รีบนั่งลงข้างๆ แล้วหยิบช้อนตักข้าวใส่จานทันที
“อื้ม นึกว่าไม่ชวนสะแล้ว ว่าแต่จะไปไหน แต่งตัว สะสวยเชียว” ได้กินแล้ว ไม่เงียบนะ นาย นะ กินๆไปเถอะ อย่าถามมากน่า ว่าแต่ ฉันสวยแล้วใช่ไหมเนียะ อร๊ายยย คนหล่อชมหรือเนียะ แกนี่เสน่ห์แรงจริงๆ ฉันคิดในใจ( volley: (-_-!! ))
“ไปเที่ยวเล่น กับเพื่อน นะ” ฉันตอบสั้นๆ แล้วก็เงียบไป นายนี่โตขึ้นหล่อเนาะ เสียดาย ถ้ารู้ว่าโต แล้วหล่อ ฉันจองนายตั้งแต่เด็กแล้วล่ะ ฮ่าๆๆๆ
“มองอะไร ฉันโตขึ้น หล่อใช่ไหม ล่า”โห นายนี่หลงตัวเองในทางที่ถูกตลอด
“หลงตัวเอง”ฉันพูดพร้อมกับหัวเราะ ด้วยความสดใส ทำให้ริวเผลอยิ้มอออกมา อ๊ายยย อย่ายิ้มสิ เดี่ยวฉันละลายเหมือนขี้ผึ้งลนไฟหรอก ยิ่งตอนนี้โสด เอ้ย มีแฟนแล้ว ฮอตในโรงเรียนส่ะด้วย หว่าเสียดาย ไม่งั้นฉันจีบนายแล้ว หลังจากทานข้าวเสร็จระหว่างที่รอคิว ริวก็ชวนฉันคุยเพื่อฆ่าเวลา คิวนายนี่ขับรถมาหรือขับเกวียนมากันแน่ฟ่ะ!! ช้ายังกะเต่าอายุร้อยพันหมื่นแสนล้านปีแน่ะ แต่ก็ดีริวนี่คุยเก่งขึ้นนะ แต่ก่อนเห็นเงียบอย่างกับมนุษย์น้ำแข็ง นะ
ปิ๊นนนนนๆๆๆๆ
มาส่ะที ก็คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากนายคิว ฉันรีบวิ่งไปขึ้นรถแล้ว และหันมากำชับริวก่อนไป เขาจะพาฉันไปที่ไหนสักแห่ง แต่ฉันไม่รู้หรอก ว่าที่ไหน เอาน่า ยังไงเขาก็รับปากฉันแล้วว่าจะไม่ทำอะไร งั้นไว้ใจได้
“ไปน่ะ ริว ฝากบ้านด้วยนะ^^”ฉันรีบลา ริว แล้วเดินไปที่รถ แล้วตัดสินใจขึ้นรถสีดำคันนั้นของนายคิว
ในรถมีแต่ความเงียบที่ครอบคลุม จนฉันอึดอัด ไม่อยากนั่งเฉยๆ ฉันเลยมาสนใจถนน ข้างทางแทนซึ่งมันไม่ทำให้ฉันผิดหวังวิวข้างทางนี่ มันก็สวยไปอีกแบบ นะ ฉันมองดูภูเขาที่มีหลายลูก เฮ้อ พ้นจากเมืองกรุงเสียที ทำไมในเมืองไม่มีภูเขาสวย ป่าๆงามเหมือนภาพที่ฉันมองผ่านกระจกด้วยนะ
“นายเปิดกระจกได้ไหม ฉันอยากรับลม นะ”ฉันหันไปถาม แกมข้อร้อง ให้เขาเปิด กระจกด้านที่ฉันอยู่ ก็มันมองไม่ถนัดนี่
“จะขอให้เขาช่วย พูดให้น่ารักหน่อยสิครับ คุณพลาย”คิวนายนี่น่ารักเนาะ เวลาพุดดีๆ เหมือนชาวบ้าน เขา นะ ฉันเผลอทำตา หลงในความน่ารักของ คิว แต่มันก็ถูกทำลายลง เมื่อนายคิวแสดงทาสแท้ของตัวเองออกมา เฮ้อ กะจะแกล้งชม ให้นานหน่อยก็ไม่ได้
“เฮ้ ไม่ต้องใช้สายตา ชื่นชมฉันแบบนั้นหรอกน่ะ ฉันรู้ตัว” ชิ นี่ไงทาสแท้ ของ นายคิว แค่ใช้สายตา ชมนิดหน่อย ทำเป็นหลงตัวเอง ชิ!
“พี่คิว ค๊า ช่วยน้องพลายเปิดกระจกรถหน่อยสิ ค๊า น้องพลายอยากดู วิว นะค่ะ”ในที่สุด ฉันก็ทนฟังนายคิวพูดยอปอปั้นตัวเองไม่ได้ เลยตัดบทด้วยพูดหวาน ให้ นายคิว ลดกระจกรถ
“พูดหวานเป็น นิ”แล้วนายคิว ก็ลดกระจกรถลง แหม วิว สวย เป็นบ้า ไม่เสียแรง อ้อน นายคิว ให้เลื่อนกระจก
วิ้ว-
ลมพัดที่มาพร้อมกับสายลมของธรรมชาตินี่มันสดชื่นจริงๆเลย
“นี่ๆ ตื่นได้แล้ว ถึงแล้ว” นายคิว สะกิดฉันที่เผลอหลับตอนไหนไม่รู้ ฉันรีบตื่นแล้วก็รอให้นายคิวลงจากรถเพื่อเปิดประตูให้ฉัน แต่ นายนั่น ไม่ยอมเปิดประตูให้ฉันหรอ ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษเอาเสียเลย ลงเองก็ได้(ฟ่ะ) ฉันรีบเปิดประตู แล้วลงจากรถ ในขณะที่นายคิว อ้าแขนรับลม ถ้าได้อยู่ในอ้อมแขนอันอบอุ่นนั้นอีกครั้ง เอ้ย ไม่ได้ๆ นายนั่นคือศัตรูของฉันที่คบทุกวันนี้เพราะว่า ว่า ว่า.... ว่าอะไรล่ะ -_-???
O()O!!! ว้าวววว นี่มัน ทะเล นิ เอ๋ นายจะพาเรา มาเที่ยว ที่นี่ หรอ ว้าวววว สนุกแน่เลย อ่ะ นายนี่ก็ดี น่ะ ฉันรีบถอดรองเท้า มันเป็นธรรมเนียมการมาเที่ยวทะเล แล้ววิ่งแจ้น ไปที่ทะเล โดยที่คิวกำลังยืนมองหาใครคนหนึ่งอยู่ ชั่งเถอะไม่เห็นจะสน เลย ฉันรีบอ้าแขนทำตามที่นายคิวทำเมื่อกี้ อ๋า สบายดีจังแหะลมก็เย็น วิว ก็สวยเสียดายไม่กล้องมาจะได้ในเฟสบุ๊คให้คนเขากระทืบไลค์เป็นพันๆไลค์ไปเลย ^U^
“เฮ้ คิว ทางนี่ ทางนี่ ๆ” เสียงผู้หญิงคนไหน น่ะ เรียกนายคิว ฉันหันไปทางต้นเสียง นั้นมัน พี่แพรว นี่ มากับใครหรอ บังเอิญจัง
ฉันคิดในใจ ฉันรีบละความสนใจจากพวกเขามาดูทะเลต่อ อร๊ายยย ทะเลสวย อ่าๆๆ
“รอนานรึยัง” คิวถามพี่แพรวทันทีที่เดินมาถึงที่ที่พี่แพรวอยู่ แล้วพวกเขาก็เดินไปเรื่อยๆ โดยลืมไปว่าพาพลายมาด้วย
อ่อ ที่แท้นัดกับพี่แพรวนี่เองแล้วชวนฉันมาทำไม รู้งี้พาริวมาเที่ยวด้วยจะดีกว่า เฮ้อ สุดท้ายฉันก็ได้แต่เดินตามต้อยๆๆ
ทั้งสอง คุยกันสนุกสนานเชียว จนฉันไม่อยากเป็น กขค เลยแยกออกมาห่างๆ ใครๆก็รู้ทั้งนั้น ว่าสองคนนี้เคยรักกัน คงจะเป็นเวลาเหมาะที่พวกเขา ปรับความเข้าใจ กัน ฉันจึงตัดสินใจเดินเลี่ยงไปอีกทาง ฉันเดินไปเรื่อยมองทะเลแสนงาม และก้มเก็บหอยมาดูพลาง ทะเลมันน่าดูกว่าพี่แพรวกับนายนั่นสนทนากันสะอีก
“น้องสาวเดินคนเดียว รึ จร๊า ไม่เหงาหรือ เดี่ยวพี่ เดินเล่นเป็นเพื่อนไหม”ชายตัวดำ หน้าอันธพาล เดินตามฉันมาตั้งแต่ ฉันเดินฉันแยกกับนายคิวและแพรวแล้ว มาทักฉันในขณะที่ตัวเขาเดินเข้าใกล้ฉัน
ฉันไม่ได้ตอบแต่ หันไปมองคนทั้งสองที่เดินตามชายหาดและคุยเล่นอย่างสนุกสนาน ฉันตัดสินใจไม่ตอบชายคนนั้น แล้วกำลังจะเดินไปข้างหน้า ฉันกำลังชักขาจะก้าวไปข้างหน้า แต่ผู้ชายหน้าอันธพาลสิ ตามตอแยอยู่ได้ เดี่ยวเถอะยัยพลายคนนี้แหละจะเอาทรายนี้แหละตีกระบานให้เละเลยคอยดู (มันจะแตกเหรอะ)
“ถ้าเขาไม่สนน้อง ไปกับพี่ไหม พี่จะดูแลน้องอย่างดีเลย ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ต้องยุ่ง ปล่อย นะๆ”ฉันรีบสะบัด มือ จากการที่นายตัวดำนั้นถือวีสาสะจับมือฉัน แล้วดึงฉันตามแรงของเขา ทันทีที่มือฉันพ้นจากการเกาะกุมของนายหน้าอันธพาลแล้วฉันรีบวิ่งทันที โดยไม่คิดจะหันกลับมาดูว่านายหน้าอันธพาลวิ่งตามฉันรึปล่าว
“โอ้ยยย” พลายหยุดวิ่งทันที และหันกุมเท้าของตัวเอง และนั่งฟุบกับพื้นทราย เท้าบ้าเอ้ยย เหยียบเปลือกหอยทำไม เจ็บอ่ะ แสบด้วย ฮือๆ เลือดออกด้วย เจ็บเป็นบ้าเลย ฉันรีบพยุงตัวเองเดินไปที่รถ โดยที่ทำอะไรไม่ได้นอกจาก นั่งยันเข่ารอ นายคิว ทั้งๆที่ขาฉันเลือดไหล ถ้าเป็นริว ริวจะทิ้งฉันไหม นายอยู่ไหน ฉันอยากเจอนาย ริว จู่ๆ ฉันก็คิดถึงริว ขึ้นมา ก็นายเป็นคนดูแลฉัน นี่หนาตั้งแต่เด็ก และตอนนี้ นายก็ยังจะดูแลฉัน T^T
ฉันนั่งรอนายคิวจนฉันเผลอหลับไปในที่สุด -_-zzZZ เวลานานเท่าไร่ไม่รู้ที่ฉันหลับไป นานแค่ไหนไม่รู้ ที่ฉันนั่งรอนาย แต่นายก็ไม่มา นานแค่ไหนไม่รู้ ที่ฉันทนเจ็บ เพราะไม่อยากรบกวน นาย
“แพรวช่วยไปเลือกซื้อของให้ฉันหน่อยสิ ฉันเลือกไม่เป็น”คิวที่เดินมาตามแพรวโดยที่เขาไม่สังเกตเลย ว่าผู้หญิงที่เขาพามาไม่ได้ตามเขามาตั้งนานแล้ว
“ได้ สิ”
“พลายเธอ ร.. อ้าว พลายๆๆ”ทันทีที่เขาหันมาไม่เห็นเธอ เขาก็รีบตามหาเธอทันที เขาเดินมาเรื่อยๆ เขาดูใจร้อนและกระวนกระวาย ในขณะที่แพรว ตอนนี้ เธอเองก็ไม่เข้าใจอาการของเขาเช่นกัน ..นายห่วงเธอขนาดนั้นเลยหรอ แพรวคิดในใจ.. เขาเดินมาได้สักพัก ผมก็ต้องตกใจและขอภวานาว่าเลือดที่เขาเห็นกองเล็กที่พื้นทรายนั้น ไม่ใช่ของเธอ เขาตัดสินใจไปที่รถ เพื่อจะรอเธอที่นั้น และเป็นไปตามที่ผมคาด
“เฮ้ พลาย เลือดเธอออก แนะ มา เดี่ยวฉันทำแผล นะ” เขารีบวิ่งไปหาเธอทันทีที่เขาเห็นเธอนั่งใกล้รถเขา
นายคิวเดินมาจากที่ใดสักแห่งมานั่งข้างฉัน นายคิว นายมาแล้วหรอ แล้วนายไปไหนมา ฉันจะกลับบ้าน นายพาฉันกลับบ้านเถอะนะ
“มาค่ะ เดี่ยวแพรวช่วย”
“ไม่เป็นไร เดี่ยวฉันทำแผลให้แฟนเอง งั้นเราแยกตรงนี้ นะแพรว”นายคิวพูดพลางทำแผลให้ฉันพลาง ฉันเจ็บมากเลย แต่คงไม่เท่าเจ็บใจหรอก สิ่งที่นายทำกับฉันวันนี้ นายทิ้งฉันให้ฉันต้องเจ็บแบบนี้ แค่ทำแผลให้ ฉันไม่คิดว่ามัน คือ การแสดงออกว่ารู้สึกผิดหรอก
“ไปโดนอะไรมา ทำไมไม่บอกฉัน เลือดออกจนแห้งหมดแล้ว ถ้าฉันมาช้าเธอเป็นหนักแน่”เป็นหนักอะไรก็แค่เปลือกหอยธรรมดาแล้วฉันจะไปตามนายที่ไหนกันเล่า ฉันเดินออกห่างนายแล้วยังไปเจอคนตัวดำ อีก พอฉันนึกถึงผู้ชายคนนั้น ฉันก็ร้องไห้อีกครั้ง ถ้าฉันหนีไม่ทัน หรือผู้ชายคนนั้น ตามฉันล่ะ TT_TT ฮือๆๆๆๆ
“เฮ้ ไม่ต้องกลัว ฉันอยู่ที่นี่แล้ว เรากลับบ้านกัน”นายคิวรีบฉันแล้วกอดปลอบฉันแอบรู้สึกดีเล็กๆ ก็นายกอดฉันเหมือนพี่ชายห่วงน้องสาว มันทำให้ฉันยิ่งร้องไห้หนักขึ้นอีก ไม่เอาแล้วฉันกลัว สุดท้ายเขาทนเห็นฉันร้องไห้ ไม่ได้เลยประคองฉันขึ้นรถ
ภายในรถเงียบสนิท ฉันเองก็ไม่อยากพูดอะไร นายคิวถามฉันมากมาย แต่คำตอบที่ได้ คือ เงียบ ฉันกล้าเงียบกับนายคิวได้ยังไงกันน่ะ คิว นายกำลังคิดอะไรของนาย ฉันตามนายไม่ทันแล้วน่ะ นายบอกฉันได้ไหมว่าฉันควรทำตัวอย่างไรกับแผนการของนาย ฉันไม่อยากเจ็บแบบนี้ ช่วยบอกฉันหน่อย สิ คิว
รถคันสีดำ เขามาจอดหน้าบ้านฉัน ทันทีที่ถึงหน้าฉัน เขาอ้าปากเหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ฉันก็รีบเปิดประตูรถเสียก่อน แต่มือของนายคิวสิมันไวกว่า เขาล๊อคประตูรถไว้ก่อน ฉันหันไปมองเขาสบตาเขา เขาดูเหมือนรู้สึกผิดเมื่อเห็นสายตาของฉันที่มองเขาด้วยความว่างปล่าว
เหมือนเขาจะพูดอะไรกับฉัน และฉันเองก็กำลังจะเอ่ยออกไป แต่ ริว ที่เดินออกมาจากในบ้านมาเคาะประตูรถเสียก่อน ทำให้ นายคิวยอมปลดล๊อคประตูรถ เขาไม่คิดจะเอ่ยอะไรเลยหรอ ไม่คิดจะเอ่ยแม้สักคำ แม้แต่คำขอโทษทำไมนายถึงใจร้ายจัง ฉันรีบลงจากรถ และไปหา ริวที่กำลังยืนรอฉัน ริวดูลุกลี้ ลุกลน เมื่อริวมองผ้าพันแผลที่เท้าของฉัน ริวช่วยประคองฉันเข้าบ้าน
“ไปทำอะไรมา ขาถึงได้แผลขนาดนี้”ริวยิงคำถามใส่ฉันทันที ที่ช่วยประคองฉันไปนั่งโซฟาใกล้ทีวี
“เดินเหยียบเปลือกหอย นะ”
“พลาย เธอเป็นอะไรไหม”
“ไม่เป็นไร เดี่ยวฉันขึ้นไปนอน น่ะ ตอนเย็นๆฉันจะลงมากินข้าวด้วย”ตอนนี้ก็เกือบจะเที่ยงแล้วฉันตัดสินใจ เดินขึ้นห้องไปเพื่อพักผ่อน วันนี้ฉันเหนื่อยไม่อยากอาบน้ำเลย ฉันตัดสินใจนอนทันที และไม่แม้แต่จะเปลี่ยนเสื้อผ้า
4 ชั่วโมงผ่านไป
ก๊อกๆๆ
“พลาย ตื่นๆๆ พลาย ถ้าเธอไม่ตื่นฉันเข้าไปล่ะน่ะ เข้าไปล่ะน่ะ”ริวที่ถือวีสาสะเปิดประตูห้องของเธอเดินมาใกล้ๆเตียงและนั่งข้างๆที่เธอนอนอยู่ เขามองเธอเนิ่นนานและมองด้วยสายตาที่มันความหมายซ่อนอยู่ หากใครมาเห็นในขณะที่เขามองเธอล่ะก็.....
“พลายตื่นได้แล้ว”ริวเขย่าตัวฉันเบาๆ และการที่เขาเขย่ามือฉันทำให้มือเขารับรู้ได้ว่าตัวฉันร้อน มาก
“พลายเธอไม่สบายหรอ”ริวถามฉันทันทีที่เห็นฉันเริ่มขยับและรับรู้สิ่งรอบตัวได้แล้ว
“ไปหาหมอไหม”
“(-_- )( -_-)(-_- )( -_-)”ฉันรีบสายหัวทันที ไม่เอาถ้าไปหาหมอ หมอต้องเอามาฉีดก้นฉันอายๆ อ่ะ (แน่น่ะที่ว่าอายน่ะ)
”งั้นรอฉันแป๊ปน่ะ เดี่ยวออกไปซื้อยามาให้”ริวรีบวิ่งลงไปฉันล่าง แล้วรีบวิ่งออกจากบ้านเป้าหมายของเขาคือร้านขายยา เขารีบวิ่งสุดแรง จนลืมไปว่าเขาก็มีรถน่ะ ทำไมไม่เอารถมา เขารีบวิ่งเข้าไปในร้านทันที เมื่อถึงร้านขายยา
“ขอยาแก้ไข้ด้วยครับ ขอบคุณครับ”ริวรีบรับยา และวิ่งอีกครั้ง เขาวิ่งได้ไม่นานเขาก็มาถึงบ้านของพลาย เขาไม่รอช้ารีบถอดรองเท้าแล้วขึ้นข้างบนทันที
“เอะ ลืม กับข้าวแล้วยัยลูกชิ้น กินยาได้ไง”เขาหยุดวิ่งเมื่อหน้าห้องของพลายแล้วเขาก็ลงไปชั้นล่างเพื่อเอาอาหารที่เตรียมไว้สำหรับเธอขึ้นมาด้วย
“อ่ะ กินยาส่ะ เดี่ยวจะได้หายไวๆ^^”นายคิวที่เดินเข้ามาห้องฉันด้วยเหงื่อเต็มร่างกาย ยื่นยาให้ฉัน ฉันรีบใส่ยาลงในช่องปาก อี๊ มันข่มอ่ะ ฉันทำท่าเหมือนจะคายออก “กลืนลงไปเลย อย่าอมสิ เดี่ยวมันยิ่งขม”
“T^T”
ฉันรีบกลืนมันลงไปทันที อ่า ในที่สุดยานั้นก็ได้ลงเข้าไปในท้องอันกว้างใหญ่ที่ทวีปเอเซียทุกอณาเขตอาศัยได้เลย
“เธอน่ะ กินยายากเหมือนเดิมน่ะ”จู่ๆริวก็เอ่ยขึ้น นี่นายจำได้ด้วยหรอ
“ก็มันน่ากินตรงไหน-_-+”
“อื้ม นอนเถอะเดี่ยวจะได้หายไวไว ฉันเฝ้าเธออยู่นี่แหละไม่ไปไหนแน่”
“^^”ฉันยิ้มให้ริว เท่าที่จะยิ้มได้ ริวหยิบผ้าห่มมาห่มฉัน
ริวนายดีกับฉันเหลือเกิน ดีมากมากจนฉันเองเคยสงสัย
เรื่องที่เกิดขึ้น ทำให้ฉันกลัวจนจับไข้ ริว ก็ช่วยดูแลฉันเป็นอย่างดี ฉันคิดว่า ริว คงได้โบนัสจากป้านิ่มแน่ๆ
หนึ่งวันที่ฉันไม่สบายและมีหมอหล่ออย่าง ริว ช่วยดูแล ทำให้ฉันสามารถไปโรงเรียนได้ในวันจันทร์
___________________________________________________________
ฉันรีบแต่งตัวและไม่ทันที่จะเปิดประตู ริว ก็มาเซอไพรส์ ด้วยการแต่งตัว ชุดนักเรียนชายโรงเรียนเดียวกับฉัน
“ไปเรียนกัน”ริว พูดพร้อมดึงแขน ฉันลงไปข้างล่าง และไปเอารถ เฮ้ นายริวมีรถด้วยออ เท่ อ่ะ
แต่ก่อนขึ้นรถ ฉันก็ไม่ลืมที่จะถามนายริว ด้วย
“นายเอาชุดมาจากไหน”ฉันถามริว แต่ริว ไม่ยอมบอก เชอะ ก็ได้ อย่าให้ถึงคิว ยัย พลายก่อนล่ะกัน รถแล่นได้สักพัก ก็มาถึงโรงเรียนในเวลาอันสั้น ริว ขับรถเร็วมาก จนฉันไม่กล้าขึ้นกับริวแล้ว
“สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ ในฐานะที่ฉันเป็นหัวหน้าห้องห้าศูนย์สี่ ฉันขอแนะนำเพื่อนใหม่ของเรา ริว ค่ะ”ฉันพูดขึ้นพร้อมผายมือไปที่ประตูและ นายริว ก็โผล่มา ตอนแรกๆ ไม่มีใครอยากฟังเสียงฉันเท่าไร่ แต่พอเห็นหน้า ริว ขึ้นมา ทุกคนเฮ ลั่นห้องเลย
“^_^”ริวได้แต่ยิ้ม คงคาดไม่ถึงล่ะสิ ว่าฉันจะเป็นหัวหน้าห้องได้ และเปิดตัวเขาได้ดี แบบนี้
“อร๊ายยยย น่ารัก อ่ะ”เสียงสาวในห้อง คลั่ง ริว เป็นแถบเลย
“มีแฟนยังอ่า น่ารักแบบนี้”เสียงยังคงดังก้องในห้องอยู่ จนอาจารย์ ประจำชั้นเขาสอนทุกคนจึงเงียบลง และเฮฮาอีกทีเมื่ออาจารย์ ให้ริว ไปหน้าชั้นเพื่อแนะนำตัว อีกที
“สวัสดีครับ ผม อันเด ริว ครับ”ริว แนะนำทันที และสาวๆ ก็กรี๊ด อีกครั้งเมื่อริวแนะนำเสร็จ อาจารย์ บอกให้ริวไปนั่งที่โต๊ะ ริวก็เดินมานั่งที่ข้างๆฉัน อร๊ายย คนหล่อนั่งเรียนข้างๆ ไม่หลับแล้วเดี่ยวเสียภาพพจน์ หมด ฮ่าๆๆๆ
“เสน่ แรงนะ ริว” ฉันหันไปพูดกับริวทันที ที่มานั่งข้างๆฉัน
“^_^ ก็คนมันหล่อนิ”ริวพูดขึ้นและหันไปมองยัยน้ำ ที่นั่งถัดจากฉัน ที่กำลังจ้องริวด้วยสายตาหวานเยิ้มเชียว
“เฮ้ น้ำอย่าทำหน้ายังงั้นสิ เดี่ยวริวก็ช้ำหมดหรอก”ฉันพูดแซวยัยน้ำ คนนี้เห็นคนหล่อไม่ได้ เป็นเอามาก
“^_^” ริวยังคงยิ้มให้ยัยน้ำ อย่างไม่กล้วว่ายัยน้ำจะตะครุบกิน ฮ่าๆๆ
“ก็ดู ริว สิ อร๊ายย อย่ายิ้มเส่ เดี่ยวฉันใจสลายไปอยู่ที่ตาตุ๋มหรือไม่ก็ลืมหายใจไม่สักครึ่งชั่วโมงหรอก”ยัยน้ำพูดอย่างกับริว ผิด ที่เกิดมาหล่อ ฮ่าๆๆ ^o^
“ริว พอได้แล้ว เดี่ยว เพื่อนฉันลืมหายใจจนตายเพราะพิษหล่อพอดี” ฉันพูดพร้อมปรามนายริว ให้หยุดว่านเสน่ใส่ยัยน้ำ
“คราบบบบ^^”ริวยังคงยิ้มให้สาวทั่วห้อง จนไม่เป็นอันเรียนพอดี ฉันแทบดีใจที่ถึงเวลาเที่ยง เพราะริวล่ะสิ ทำให้ฉันเรียนไม่เข้าใจเลย น่าโมโหชะมัด -_-=
“เที่ยงแหละไปทานข้าวกัน”จู่ๆริวก็ชวนฉันกับยัยน้ำไปทานข้าว ก็ไม่เห็นแปลกเลยนี่ เที่ยงก็ต้องไปกินข้าวสิ
“ไป”ฉันกับยัยน้ำพูดพร้อมกัน แต่จู่ๆยัยน้ำก็ขอตัวฉัน ให้นายริว รอสักครู่
“พลาย!! ขอตัวยัยพลายแป๊ปน่ะค่ะ ริว ฉันอยากถามแกมาตั้งนานแล้วนะ เรื่องแกกับนายคิว นั้นจริงรึปล่าว”หลังจากที่เดินเลี่ยงริว ยัยน้ำก็ยิงคำถามใส่ฉันทันที แต่มันแปลก ทำไมยัยน้ำถึงอยากรู้เรื่องนี้นะ ปกติแกไม่ค่อยสนใจ นิ
“อื้ม แต่มันเป็นแค่การไถ่โทษ ไม่มีอะไรหรอก”ฉันตอบยัยน้ำพลาง สายตาเหม่อลอย คิดถึงสิ่งที่เขาทำเมื่อวันก่อน
“แต่แกก็รู้ว่า คิว เสือตัวพ่อ และถ้าแกเกิดรัก คิว ขึ้นมาจริงๆ ล่ะ”ยัยน้ำ แกร้องไห้ทำไม
“ฉันรักเขาไม่ได้หรอก แกก็รู้ฉันนะไม่ชอบเขา”ฉันตอบยัยน้ำด้วยเสียงอย่างมั่นใจ ทั้งที่ในใจฉันมันแอบหวั่นไหว เล็กๆ
“อื้ม ดีแล้วล่ะ ฉันกลัวแกเข้าไปพัวพันชีวีตของคิวกับแพรว นะ แกก็รู้ว่าพวกเขาพึ่งเลิกกัน แกอาจจะเป็นเครื่องมือของนายคิว ที่จะทำให้พี่แพรวหึงก็ได้ ถ้าแกไม่ได้คิดอะไร ฉันก็สบายใจ ไปกันเถอะ หิวแล้ว”ยัยน้ำรีบปาดน้ำตาและพูดอะไรอีกมากมาย โดยไม่รู้ว่าริวกำลังฟังและได้ยินทุกอย่างที่เราคุยกัน
“ขอโทษน่ะ ที่เอายัยพลายนานไปหน่อย ไปกันเถอะริว พลาย กินข้าวกัน”
“อื้ม ไปกันเถอะ”นายริวตอบสั้นๆ แต่สายตาเขายังมองมาที่ฉัน นายคิดอะไรอยู่ หรอ ริว
เสียงในโรงอาหารก่อนหน้าเงียบสนิท แต่พอฉัน ริว และยัยน้ำ เข้ามาเยือน เสียงก็ดัง เจี้ยวจ้าว กันใหญ่เลย ตอนแรกฉันไม่ค่อยเข้าใจหรอกว่ามันเป็นเพราะอะไร พอฉันหันไปมองอีกมุมหนึ่งของโรงอาหารก็พบว่ามีคิวกับแพรวนั่งกินข้าวอยู่ ฉันก็เข้าใจอย่างไม่มีข้อสงสัยเลย
“พลาย ชั่งเถอะ มากินข้าว เถอะ”ยัยน้ำคงคิดว่าฉันแคร์กับเสียงนักเรียนมั่ง แต่ริวสิ ริว เข้าใจทุกอย่าง ฉันและริว ต่างก็เงียบ จนฉันขอตัวไปห้องน้ำ แล้วให้ ริว และ ยัยน้ำ รอที่โต๊ะอาหาร
พอฉันเดินออกจากห้องน้ำ แต่ทว่าใครคนหนึ่งฉุดแขนฉันไว้ ฉันเตรียมจะร้องขอความช่วยเหลือแต่ก็มีเสียงๆหนึ่งพูดขึ้นมาก่อน
“ฉันเอง คิว” ฉันรีบถอย จะหนีให้พ้นจากคิว แต่ก็ถูก คิว ขวางไว้แล้วลากฉันไปที่ที่ไม่มีคนเดินผ่านไปผ่านมา
“มี อะไร”ฉันถามนายคิว ทันทีที่เขาเปิดโอกาสให้ฉันพูด
“ฉันขอโทษที่ปล่อยให้เธอเจ็บขา วันนั้น ก็ฉันไปซื้อนี่มาให้เธอไง”เขายื่นตุ๊กตาตัวเล็ก เล็กมาก มาให้ฉัน น่ารักมาก มีกระดาษเขียนว่า ขอโทษ ด้วย
“ให้ทำไม”ฉันพูดแต่ ฉันก็รับหมีน่ารักนั้นครองไว้ในเรียบร้อยแล้ว
“ให้แล้วไม่รับคืน”ฉันพูดอีกครั้งแล้วจะเดินหนี ก็ใครจะอยู่เล่า ที่แคบขนาดนั้นใครมาเห็นคิดไกลแน่ๆ แต่ก็ถูกดึงด้วยมือของคิวจนฉันพลาดสะดุดขาตัวเอง ทำให้ร่าของฉันเขกระแทกแผงอกอันกว้างขวางของนายคิว ใบหน้าของฉันชนเข้ากับใบหน้าของเขา จมูกโด่งๆของเขาเฉียดผ่านปลายจมูกของฉัน และ....และ...ปะ.. ปากเบียดประกบเข้าด้วยกันอย่างจัง อึ๊ย แดงอีกแล้วหน้าฉันแดงอีกแล้ว>///< ฉันรีบสะบัดมือแล้ววิ่งไปที่โต๊ะที่โรงอาหาร
“ยัยมะเขือเทศ”คิวเรียกฉันดังลั่นเลย แต่ดีน่ะที่ไม่มีใครได้ยิน ฉันรีบวิ่งไปที่โรงอาหารในขณะที่หน้าของฉันเริ่มเป็นปรกติแล้ว
“ริว ไปไหนล่ะ”ฉันถามยัยน้ำทันที ที่เห็นยัยน้ำอยู่คนเดียว
“อ้าว เขาบอกว่าจะไปตามแก ไม่เจอกันที ออ แปลก”ยัยน้ำสงสัยว่าทำไมไม่เจอกันในเมื่อห้องน้ำ มีแค่สามห้องเอง
“ชั่งเถอะ เดี่ยวริว คงมาเองแหละ เราไปเข้าเรียนกันเถอะ จะสายแล้ว” ฉันรีบชวนยัยน้ำทันที หวังว่า ริว คงไม่เห็น ฉันกับคิว หรอกน่ะ =_=^
“อ้าว ริว มาแล้วหรอ” ฉันถามริวทันทีทีเห็นเขาเดินเขาห้อง
“อื้ม”ริวตอบสั้นๆ แล้วเอาอะไรก็ไม่รู้ในมือซ่อนไว้ด้านหลัง
“อะไร เอามานี่ มานี่ เอ้ย OoO!! ไปโดนอะไรมา”ฉันถามริวทันทีที่เห็นแผลข้อนิ้วของริว มันเหมือนแผลที่ชกผนัง ตอนที่พระเอกหึงนางเอกในละครปิ่นอนงค์เลยล่ะ (เกี่ยวตลอด)
“ล้มนิดหน่อย นะ”เขาตอบสั้นๆเตรียมจะนั่ง แต่ฉันดันดึงริว ไปนอกห้อง แล้ว ไปในห้องพยาบาลแทน
“หมดฟอร์มคนหล่อเลย ล้มต่อหน้าสาวรึป่าว เนียะ^^”ฉันถามแกมแหย่ริว เล่นๆ แต่นายเงียบ ทำไมนายไม่ตอบฉันล่ะ
“ไปไหน!!”ริว ถามฉันทันที ที่ลุกขึ้นทั้งที่ยังทำแผลไม่เสร็จ
“ไม่อยากทำแผลให้ผีดิบ นะ”ฉันพูดทั้งที่ในใจ กลัวว่าริวจะโกรธ ก็นายเล่นเงียบไม่ยอมคุยกับฉันเลย
“เธอนะสิชอบทิ้งฉัน นิ สัญญาได้ไหม เธอไปไหนฉันไปด้วย”
“โอเค”ฉันตัดสินใจ ทำแผลให้ริวต่อ และเข้าห้องเรียนตามปกติ
แต่เพราะมาสาย วิชาที่โหดที่สุดอาจารย์เลยสั่งทำโทษฉันกับริว ให้ทำความสะอาดตึก 3 วันนี้
“ริว ฉันขอโทษ นะ”ฉันเอ่ยขึ้นเมื่อหมดคาบสุดท้ายของวันนี้
“ฉันสิ ต้องขอโทษเธอ ไปกันเถอะ เดี่ยวกลับบ้านช้า”ริว พาฉันไปที่ตึก 3แล้วก็ช่วยทำความสะอาดจนเสร็จก็เกือบๆหกโมงแล้ว
“ฮ้า เสร็จสะที หิวข้าวเป็นบ้า”ฉันหันไปถามนายริว ที่ตอนนี้ไปเก็บอุปกรณ์เรียบร้อยแล้ว
“งั้นไปกินก๋วยเตี๋ยวเจ้าเดิมกัน”ริวหันไปบอกฉันแล้วนั่งรถไปที่ร้านค้าแห่งหนึ่ง ที่เราคุ้นเคยกัน แต่มันก็เปลี่ยนไปมากพอสมควรเรานั่งกินก๋วยเตี๋ยวกัน นายนี่ยังไม่ลืมนะ ว่าฉันชอบลูกชิ้น นะ
“ฮ่าๆๆๆ”ในที่สุดฉันก็เผลอหัวเราะออกมา อีกครั้งหลังจาก สิปสามปีที่ไม่ได้หัวเราะริวกินก๋วยเตี๋ยวเลอะอย่างนี้ ก็นายริวสิกินก๋วยเตี๋ยวทีไร แก้มนายเลอะทุกที ตั้งแต่เด็กเลยนะ นาย แล้วจะไม่ให้ฉันตั้งฉายา นายว่า แก้มเปียกได้ไง
ริวรีบหาทิชชูซับแก้ม แล้วกินต่อ
“ง้ำๆๆ >()<”
พอกินเสร็จฉันก็ชวนนายริวกลับ ตอนแรกนายริว ไม่ยอมหรอกแต่ฉันสิทำทีจะงอน เลยพากลับบ้านในที่สุด มารยาฉันใช้กับกับริวได้เสมอ โฮะๆๆ >{}<
“ฉันส่งแค่นี้ นะ”นายริวพูด หลังจากรถแล่นจอดหน้าบ้านฉัน แล้วริวก็เคลื่อนรถไปในบ้านของป้านิ่มแทน
“โอ้ยย เหนื่อยๆๆ”หลังจากอาบน้ำเสร็จฉันก็เตรียมตัวเข้านอน
ครืดๆ
ใครส่งข้อความมานะ ฉันรีบไปเปิดกระเป๋านักเรียนทันทีที่ได้ยินเสียงสั้นของเครื่องโทรศัพท์ ริวส่งข้อความมาหรอ มีไรหรอไหนลองเปิดดูสิ ฉันกดปุ่มที่เขาเขียนว่าอ่านข้อความทันที
วันนี้ฉันมีความสุขที่สุดเลยกับการกินก๋วยเตี๋ยว ฝันดี นะ ยัยลูกชิ้น
ริว
ที่แท้นายริวก็ส่งข้อความเรื่องนี้นี่เอง พึ่งจากมาหยกๆ นะ แต่ฉันก็ไม่ใจร้ายขนาดนั้น ฉันก็ส่งไปให้ ริว เช่นกัน
ฉันก็เหมือนกัน ฝันดี นายแก้มเปียก
พลาย
....บอกเลยใจฉันแคบไม่มีที่เหลือเผื่อใคร เก็บกักใครไม่ไหว... เสียงริงโทนของฉันที่ฉันมันมาตั้งแต่ฉันซื้อโทรศัพท์มาใช้บ่งบอกถึง คนโทรมา
ตึด ฉันรีบรับโทรศัพท์ ทันที แต่เบอร์ใครนะ ไม่เห็นคุ้นเลย
“ฮัลโหล ใครค่ะ” ฉันบรรจงกรอกเสียงลงไปอย่างหวานระรื่นและเสียงใสอย่างสุดฤทธิ์ทันที
(เสียงหวานจัง แฟนผม)เสียงนายคิวนี่น่า เฮ้ย!! นายนี่มีเบอร์โทรฯของฉันได้ไงเนียะ
“นายคิว!!!”๐oO!!ฉันอุนอุทานเสียงดังลั่นด้วยความตกใจ
“มีอะไร”
(ปล่าวครับ ผมโทรมาหาแฟน ก็ต้องคิดถึงสิคราบ”
“ง่วงจะนอน”ฉันตัดสินใจบอกนายคิวแทน ทำให้นายคิวเกิดอาการไม่พอใจ
(เดี่ยวมาที่หน้าต่างสิ)
นายคิวพูดขึ้น ทำให้ฉันเดินไปดูก็พบเขายืนโบกไม้โบกมือ อยู่ เอ้ย นายทำไรของนายเนียะ
(ถ้าเธอไม่มารับฉัน เข้าบ้าน ฉันจะแหกปากให้คนแถวนี้ ตื่นเลยคอยดู)
นายคิวพูดขู่ฉัน ใครจะกล้าให้นายแหกปากประจานตัวฉันเองล่ะ
ก่อนไปฉันหันไปมองห้องของริวที่อยู่ตรงข้ามกับห้องฉัน แต่พอฉันหันไปเขาปิดไฟห้องทันที ริวคงจะนอนแล้วมั่ง ฉันจึงรีบเดินฉับๆลงบันไดไปรับนายคิวที่ยืนตบยุงเสียตั้งนาน สมน้ำหน้า^O^ ฉันน่าจะมาช้ากว่านี้นะ
“ถ้าเธอมาช้ากว่านี้ แล้วฉันเป็นอะไรไปเธอต้องดูแลฉัน”O0O!! ไม่เอาแวค่ะที่หลังพลายจะมาให้เร็วกว่านี้น่ะค่ะ พลายไม่อยากดูแลนายนี้น่ะค่ะ อภัยให้พายด้วยน่ะค่ะ TOT
“นายทำอะไร ของนายนะ ใครมาเห็น จะคิดยังไง” ฉันพูดขึ้น ทันที ที่พาเข้าไปนั่งที่โซฟา ใกล้ทีวี
“ใครที่ว่า นายหน้าญี่ปุ่นนั้นใช่ไหม”ฮ่าๆๆๆเกี่ยวไรกับริว เล่า นายนี่มันตลกชะมัดเลย
“ไม่เห็นเกี่ยวกับริวตรงไหนเลย ริวเขานอนแล้วนายนะสิกลับบ้านได้แล้ว”ฉันพูดให้นายคิวเข้าใจว่า ฝนใกล้ตกแล้วเดี่ยวกลับบ้านฝนตกมันไม่ค่อยดี เท่าไร่
“ไล่ ออ”อ้าวว งอนสะงั้น ฉันรีบส่ายหัวปฏิเสธ แต่ให้นายคิวมองไปที่ท้องฟ้าบ่งบอกว่าฝนจะตกแล้ว
ยังไม่ทันที่นายคิว จะเอ่ย อะไรฝนก็ตกสะแล้ว
ซ่า ซ่า ซ่า เปรี้ยง!!!
“ว้ายยยยย”ฉันกรี๊ดร้องทันทีที่ได้ยินฟ้าร้อง ในขณะที่ตัวฉันกระโดดคร่อมตักนายคิว อยู่
“นี่เห็นว่าฉันคงปล่อยเธออยู่คนเดียวไม่ได้แล้วสิ ^^”นายจะบ้าหรอนี่มันบ้านผู้หญิงนะ ฉันคิดในใจ โดยที่ยังไม่รู้ตัวว่าฉันกำลังนั่งบนตักนายคิวอย่างกับ อึ๊ย ไม่อยากจะคิด -_-*
“ถ้านานกว่านี้ อย่าหาว่าฉันไม่เตือนน่ะ”นายคิวพูดขึ้นทำให้ฉันรีบสำรวจตัวเองทันที โอ๊ ฉันรีบกระโดดลงจากตักนายคิวทันที แต่ด้วยความที่ฉันรีบไปหน่อยทำให้ร่างงามๆของฉันหงายหลัง ดัง
ตึง!! =()=^
ร่างบางกระแทกพื้นทันที โดยที่นายคิวนั้นหัวเราะร่วนอย่างไม่แคร์สายตาฉัน เฮ้ย ฝากไว้ก่อนเถอะ
“นอนห้องแขก ล่ะกันน่ะ แฮๆๆๆ”ฉันรีบตัดบทโดยการเอ่ยห้องนอนชั่วคราวของเขาแล้วยิ้มแห้งด้วยความเขินอายและหน้าแตก ฉันลุกขึ้นปัดกวาดเศษฝุ่นตามร่างกายทันที
“เธอนี่ ตลกจัง ว่าแต่นอนห้องเธอไม่ได้หลอ^^”
“เอาไหมล่ะ”ฉันรีบยกมีดปอกผลไม้ใกล้ๆยกชูให้นายคิวดู เพื่อเป็นการขู่นายคิว =0= ฮ่าๆๆๆ สะใจ ยัยพลาย จริงๆ
“ไม่เป็นไร ห้องรับแขกก็ห้องรับแขก อือ จะว่าไปละครนี่ก็สนุกน่ะ” เหอะๆๆ ได้ผลแหะ นายคิวกลัวจนฝ่อเลย นั้นแน่ ทำเป็นเปลี่ยนอย่ามั่วซั่วน่ะ นายเปิดข่าวน่ะ ไม่ใช่ละคร ฮ่าๆๆๆๆ ^()^
“นายอย่ามั่วน๊า นายเปิดช่องข่าวอยู่นะ ไม่เห็นมีละครตรงไหนเลย มั่วๆ ฮ่าๆๆ^O^”อ๊ากกกกก เป็นทียัยพลายแล้วค่ะ ฮ่าๆๆ สะใจ ดวงใจอันเล็กของยัยพลายจริงๆ
“พอๆๆ T^T ฉันหิว นะมีอะไรให้กินไหม เฮ้อ มาม่าก็ได้”นายคิว นายหิวจริงๆออ มีแต่มาม่า ฉันเดินไปในครัว จัดการต้มน้ำและทำมาม่า ให้นาย ส่วนนายคิวก็เดินดูภาพไปเรื่อยๆ นายนั้นคงสะดุด กับภาพหญิงสาวหน้าตาจิ้มลิ้มกับหนูน้อยหน้าตาน่ารักกำลังยื่นลูกชิ้นให้เด็กสาวอยู่ในขณะที่ตัวหนุ่มน้อยยังแก้มเปียกอยู่ เป็นภาพที่น่าอิจฉาแน่ๆเลย ถ้าใครได้เห็น
ฉันเดินถือชามมาม่าอยู่ ก็รู้ทันทีว่า เขาคงสงสัยแน่ๆ “อ่อ นั่นฉันกับริวเองแหละ”ฉันว่าพลางวางชามมาม่าที่โต๊ะ
“อืม เธอนี่สนิทกัยริวตั้งแต่เด็กเลยออ”
“อื้ม”
“แล้วนี่ครอบครัวเธอออ น่าอิจฉาจัง”จู่ๆนายคิวก็ยกภาพที่เขาแอบเก็บไว้ด้านหลังเขา มันเป็นภาพครอบครัวของฉันเองแหละ ฉันน้ำตาซึมก่อนจะเอ่ยให้นายคิวฟัง
“อื้ม ใช่ แต่ก่อนใครๆก็อิจฉาฉันทั้งนั้นที่มีครอบครัวที่อบอุ่น ใครๆก็เรียกฉันยัยคุณหนู อยากได้อะไรก็ต้องได้ เพราะครอบครัวฉันมี่ทั้งพ่อแม่และพี่ชายเขาชื่อพาม ที่อยู่ด้านข้างฉันไง ฮึ จะว่าไปครอบครัวเราก็เคยได้รับครอบครัวดีเด่นของอำเภอด้วย(ฉันปาดน้ำตาทิ้ง)พ่อเป็นคนขยันพ่อรักพวกเรามาก พ่อยอมเหนื่อยทุกอย่าง แต่เพราะฉันเป็นคนเอาแต่ใจเกินไปมั่ง ที่วันนึงวันใกล้ครบรอบวันเกิดของฉัน ฉันดันพูดว่าอยากได้นาฬิกายี่ห้อหนึ่งมันแพงมาก ตอนแรกพ่อก็บอกว่ามันแพงมาก พ่อซื้อมาไม่ได้ จนฉันไม่คุยกับพ่อหลายวันเลยล่ะ ในที่สุดวันเกิดฉันก็มาถึงวันนั้นพ่อรีบกลับบ้านฝนก็ตกทำให้พ่อเกิดอุบัติเหตุรถคว่ำเสียชีวิต ฮึก ฮือ TT_TT”
“......”นายคิวเดินมาจับมือฉัน
“พอพวกเราไปโรงพยาบาล หมอก็เอาสิ่งๆหนึ่งที่ทำให้ฉันร้องไห้หนักขึ้นมันเป็นนาฬิกาที่ฉันอยากได้และบ่นก่อนที่ท่านจะเสียชีวิต ฮึ(ฉันยิ้มทั้งน้ำตา)และท่านก็ยังเขียนโน้ตไว้ในกล่องนาฬิกาด้วย นายรู้ไหมท่านเขียนว่าอะไร ท่านเขียนไว้ว่า
พ่อเองก็ตั้งใจหามันจนถึงที่สุด ลูกหันมาคุยกับพ่อเถอะน่ะ
ทันทีที่ฉันอ่านเสร็จ ฉันรีบวิ่งก็เข้าไปในห้องที่พ่อของฉันนอนอย่างไร้วิญาณทันที ฉันตะโกนเรียกพ่อหลายที แปลกเนาะ พ่อเป็นคนอยากให้ฉันคุยกับเขาแต่ท่านเองที่ไม่ยอมเปิดปากคุยกับฉันเลย แปลกจัง สุดท้ายฉันก็ได้แต่กอดพ่อโดยไม่มีสิทธ์เรียกร้องอะไรเลย ฉันได้แต่คิดว่า มันเป็นความผิดของฉัน ถ้าฉันคุยกับพ่อตั้งแต่วันแรกพ่อก็คงไม่รีบเอาของขวัญมาให้ฉันเพื่อง้อหรอก ฉันมันลูกที่แย่จริงๆเลย”T_T
“..........”คิวที่ยืนฟังเธอใกล้ๆ ก็ขยับมือเพื่อปาดน้ำตาให้เธอ เขารู้สึกเหมือนอยากแบกภาระที่เธอกำลังเจ็บปวดนี่สักครึ่งหนึงก็ยังดี เขารีบปลอบใจเธอทันที และเปลี่ยนเรื่องทันที
“มันไม่ใช่ความผิดเธอหรอก ท่านไปสบายดีแล้ว หยุดร้องไห้ได้แล้ว ยัยมะเขือเทศ ฮึ ดูนั่นสิ มาม่าอืดหมดแล้ว”นายคิวที่ตอนนี้จับมือฉันแน่น ก็ยกมือขึ้นไปชี้ที่โต๊ะ ที่มีมาม่าชามหนึงอยู่ ใช่จริงด้วยมันอืดหมดแล้ว ฉันเผลอยิ้มให้นายคิวทีหนึงแล้วขยับตัวให้ไกลจากตัวเขาไปนั่งที่โซฟาแทน
“นี่เธอรู้ไหมการกินมาม่าน่ะ มันต้องกินอย่างนี่”นายคิวที่เดินมานั่งโต๊ะตรงข้ามกับฉันหยิบมาม่าด้วยตะเกียบและกินเส้นมาม่าอย่างเอร็ดอร่อย “อร่อยแฮ่ะ^^+” และอีกครั้งครั้งนี้นายคิวคงดูดเส้นมาม่าและมันคงแรงเกินไปทำให้น้ำมาม่ามันกระเด็นเขาตาฉันอย่างจังเลย
“โอ๊ยยย แสบอ่ะ นายคิว ขอน้ำๆๆ”ฉันรีบตวัดมือเพื่อให้นายคิวรีบเอาน้ำมาให้ฉัน นายคิวรีบเดินเข้าห้องครัวไปแล้วหยิบน้ำในตู้เย็น แล้วยื่นว่าให้ฉัน
ฉันรีบเอาน้ำที่นายคิวยื่นให้ฉันล้างตาฉันทันที “โอ้ย เย็นๆๆ นายจะบ้านรึไง”ฉันรีบบ่นใส่นายคิวทันที
“ไหนดูสิ”นายคิวที่นั่งดูฉันล้างหน้าล้างตา ก็เข้ามาชิดฉันแล้วใช้มือข้างหนึงจับคางฉัน ส่วนอีกมือหนึ่งก็แหวกตาฉัน ใช้คำว่าแหวกน่ะ หลังจากนั้นเขาบรรจงลมอุ่นของเขาเข้าในดวงตาของฉันทันที O///O และสายตาของเราก็ประสานกันโดยเลี่ยงไม่ได้
แกรก!! กึง!! กึง!!!
ฉันเผลอทำขวดน้ำในมือ ตกลงพื้นเสียก่อนไม่น่าเลย พลาย
“ขึ้นไปส่งฉันที่ห้องสิ ฉันไม่รู้ว่ามันอยู่ทางไหน”นายคิวกระพริบตาครั้งหนึ่งเพื่อเป็นการเรียกสติขึ้นมา
“......”ฉันเงียบและเดินนำคิวขึ้นข้างบนทันที
“อ่ะ นี้ห้องของนาย”
“เฮ้ย!!พลาย นั้นอะไรน่ะในห้องนั้น 0o0!!”ฉันรีบเข้าไปดูในห้องของนายคิวทันทีที่นายคิวชี้ บอกว่ามีอะไรอยู่
“ไหนไม่เห็นมีเลย”ฉันหันขวับไปทางนายคิว นายคิวรีบปิดประตูลง แล้วเดินมาหาฉัน ฉันค่อยๆใช้เท้าถอยหลังไปส่วนนายคิวก็เดินเก้าตามฉัน
ชึบ! อร๊ายยยยย O_O^ ติดผนังแล้วหรอเนียะ ทำไงดีๆ นายคิวใช้แขนทั้งสองข้างของเขากันฉันไว้ไม่ให้ออกจากวงแขนโดยที่ฉันเอง กำลังใจเต้นแรง ตึก ตัก ตึกๆๆๆๆๆๆๆ แล้วใจมันก็ถี่ขึ้นเรื่อยๆ เมื่อนายคิวก้มลง อร๊ายยย อีกนิดเดียวแล้ว ทำไงดีๆ อร๊ายยยและริมฝีปากหนาๆของคิวก็ประกบบนริมฝีปากบางๆของพลายทันที เธอรู้สึกเหมือนโลกจะหมุน วินาทีนั้น วินาทีที่ฉันกำลังเคลิ้มเหมือนกำลังอมอมยิ้มอยู่นายคิวก็ถอนริมฝีปาก เอะ ??? ฉันเหลือบเห็นแววตาของเขาด้วย ดูเหมือนเขาขัดใจนิดๆ และต่อสู้กับอะไรบ้างอย่าง
“ไปนอนได้แล้วไป”เขาเอ่ยเบาๆในขณะที่เขาหันหลังให้ฉัน นายเป็นอะไรนายคิว ฉันรีบวิ่งออกจากห้องไปแล้วล้มตัวนอนบนเตียงทันที >///< อู๊ยยย ฉันเผลอแตะริมฝีปากของตัวเองแล้วเผลอคิดถึงเหตุการณ์เมื่อครู่นี่ อี๊ อายๆๆ
**********************************************
กริ๊งๆๆ เสียงนาฬิกาของฉันมันดังขึ้นเมื่อบ่งบอกว่าฉันควรตื่นนอนได้แล้ว
เช้าแล้วหรอเนียะ ฉันรีบเดินออกจากห้อง แล้วมุ่งสู่ห้องครัวทันที แล้วเจอโน้ต ที่นายคิวฝากไว้
อรุณสวัสดิ์ตอนเช้าฉันต้องกลับบ้านก่อน ฉันมีธุระไม่อยู่อาทิตย์หนึง ดูแลตัวเองด้วย หวังว่านอนฝันดี น่ะ เมื่อคืน ^^
คิว
ฉันอ่านโน้ต ที่ตู้เย็นหลังจากเดินไปดื่มน้ำก่อนจะไปอาบน้ำ เมื่อคืน >///< ไม่ๆพลายสติกลับมาๆ ชิ! ไม่เห็นเกี่ยวอะไรกับฉันเลยนี่ นายจะไปไหนมันก็เรื่องของนายไม่เห็นเกี่ยวกับฉันเลยดีใจสะอีก ว่าแต่เอ๋ ทำไม ริวไม่มานะวันนี้ น๊า แต่ชั่งเถอะ เดี่ยวก็ได้เจอกันที่โรงเรียนแล้ว ฉันจัดการกับการอาบน้ำเสร็จก็รีบไปโรงเรียนแต่เช้าแล้วรีบบึ่งไปโรงอาหารเพื่อ กินข้าวเช้าที่โรงเรียน
ฉันกินข้าวเสร็จ ฉันก็รีบเข้าไปเข้าแถว แล้วขึ้นเรียนตามปกติ
แต่ทำไมวันนี้ริวไม่มาเรียนนะ ไม่สบายรึป่าว ฉันรีบไปนั่งข้างยัยน้ำที่กำลังนั่งทำการบ้านที่ยังไม่เสร็จ ฉันก็เลยช่วยยัยน้ำทำ พอทำการบ้านเสร็จยัยน้ำก็หันมาถามทันที ไม่น่าช่วยแกเลย ยัยน้ำ
“เรื่องแกกับคิว ยังไงว่ะ ฉันไม่ค่อยแน่ใจว่ะ ตกลงคิวมันจริงจังกับแก หรอ”ยัยน้ำหันมาถาม ไม่ใช่เรื่องอื่นเรื่องใด นอกจากเรื่องฉันกับคิว
“ไม่หรอกอย่างที่แกบอกนั้นแหละฉันคงเป็นแค่เครื่องมือของเขาแหละ”ฉันตอบไปเบี่ยงหน้ามองผู้มาเยือนใหม่ ริวนายมาเรียนแล้ว
“ริว ทางนี่”ฉันเรียกริวให้มานั่งทางฝั่งฉัน นายริวไม่สบายหรอ ทำไมไม่พูดล่ะ ฉันกำลังจะถามแต่อาจารย์ดันขัดจังหวะสะก่อน
“อ้าว นักเรียน นั่งลงๆ พอดีทางโรงเรียนเขาจะจัดทัศนะศึกษาแต่เขาต้องการห้องละ 10 คนใครสะดวกไปบ้าง แต่หัวหน้าต้องไป ครูใหญ่เขาบังคับมา”อาจารย์รีบเอ่ยถึงฉันทันที ที่เห็นฉันจะปฏิเสธ เฮ้อ! ต้องขาดเรียน อีกแล้วหรอเนี้ยะ
“ไปน่ะริว ไปน่ะน้ำ” ฉันรีบชวนริวกับน้ำทันที แต่ฉันไม่เปิดโอกาสให้พวกเธอสองคนตัดสินใจหรอก
“อาจารย์ค่ะ อันเด ริว(ริว) กับ สายธาร(น้ำ) ค่ะ”ฮ่าๆ ฉันรีบบอกอาจารย์ทันทีที่เห็นว่ารายชื่อจะครบแล้ว
“เอาเป็นว่าสิบคนที่ลงชื่อเมื่อกี้ไปพบครู ตอนบ่าย3อาทิตย์หน้ามาเจอครูที่ห้องประชุมน่ะ”อาจารย์ที่ปรึกษารีบบอกและเดินออกจากห้องไป
“เฮ้อ ทัศนะศึกษาหรอ ขี้เกียจชะมัด”ฉันเผลอถอนหายใจแรงออกมา
อาทิตย์ต่อมา
หนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา ฉันพยายามใช้ชีวิตที่มันชั่งจะสมบูรณ์และไม่ยุ่งวุ่นวายอย่างตอนที่นายคิวเข้ามาในชีวิตฉัน แต่ทำไมมันเหมือนกับชีวิตฉันขาดชีวิตชีวาและเฉาตายยังไงสิ้นดี เพราะนาย นายคิวที่ทำให้ชีวิตฉันต้องเป็นแบบนี้ ฮึ่ม กลับมาล่ะน่าดู
เวลา 15.00 น.
“เพื่อนๆที่ลงรายชื่อเมื่ออาทิตย์ก่อนไปเข้าห้องประชุมได้แล้วค่ะ”ฉันบอกเพื่อนๆในห้อง และรีบลากยัยน้ำกับ ริว ทันที นี่มันก็อาทิตย์หนึงแล้วน่ะ ทำไมนายไม่โผล่มาให้ฉันเห็นหน้าอีกน่ะ
ณ ห้องประชุม
“อ้าว พลายไปด้วยหรอ”แพรวที่เดินคู่กับคิวทักฉัน เมื่อเห็นฉันนั่งบนเก้าอี้ ใกล้ๆอาจารย์ที่ปรึกษา อ่ะ นายคิวมาแล้วหรอ
“เป็นหัวหน้านะ เขาบังคับมาอีกที”ฉันพูดพร้อมหันไปคุยกับริวและยัยน้ำแทน โดยไม่ได้ใส่ใจกับกิริยาของคิวสักเท่าไร่งอนโว้ย อาทิตย์หนึงแนะ ไม่ติดต่อมา
“นักเรียนทั้งหมด 60 คนรึปล่าว ดี!! ถ้าครบแล้วอาจารย์...”อาจารย์พูดอะไรอีกมากมาย แต่ฉันไม่รู้เรื่องหรอก และฉันเองก็ไม่ได้สังเกตว่ามีสี่สายตามองมาที่ฉันอยู่จนฉันรู้สึกได้ว่ามันมีอะไรผิดแปลกหรือปล่าว ฉันจึงหันไปมองนายคิว และปรากฎว่านายคิวกำลังมองฉันไม่กระพริบเย พอฉันเห็นนายคิวมองฉัน ฉันก็รีบหันไปทางอื่น จนฉันสัมผัสได้ว่า นายคิวไม่พอใจฉันมาก ไม่แคร์โว้ยย งอนอยู่ -_- :
ครืด ครืด
.....ยัยมะเขือเทศเธอเป็นอะไรของเธอน่ะ โกรธฉันรอที่ฉันไม่ได้ติดต่อเธอน่ะ
คิว
นายคิว ชิ หลง ตัวเอง บ้าหรึอปล่าว ยังงี้มันต้องส่งกลับ
ติ๊ด
......นายจะบ้าหรือฉันไม่ได้คิดถึง นายสะหน่อยฉันดีใจตั้งหากที่นายไปได้ และเสียมากกกกกกกกกก ที่นายกลับมา
พลาย
ติ๊ด
.....แล้วทำไมถึงไม่ยอมคุยกับฉันล่ะ เธองอนฉันแหงๆเลย ยอมรับสะดีๆ
คิว
โอ้ยยย จะบ้าตายทำไมฉันต้องพิมพ์เมสเสจบ้าๆนี่ตอบนายคิวด้วยน่ะ อยากจะบ้าตายฉันรีบปิดโทรศัพท์
และฉันก็สนใจในสิ่งที่อาจารย์พูดต่อ
“.....เอายังงี้อาจารย์จะให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละสามคน อ่ะ หกศูนย์หนึ่งพี่ใหญ่สุดบอกรายชื่อมา สามคน”อาจารย์หันไปถามคิวที่กำลังมองฉันด้วยความไม่พอใจ
“อ่อครับ แพรวา(แพรว) คุณากรณ์(คิว) และไอรญา(พลาย)ครับ^^”ฉัน ริว และยัยน้ำ หันควับไปทางคิวทันที แต่ริวดูเหมือนจะโกรธคิวเอามากๆเลย ดูสิมองคิวไม่วางตาเลย ส่วนคิวก็มองฉันไม่วางตา แล้วยักคิ้วไม่สนใจหรือแยแสอะไรสักนิด ชิ!!
“เอาล่ะ เหลือเธอสองคนอันเด ริว กับสายธาร อาจารย์ให้เธออยู่สองคน ล่ะกัน ตกลงไหม” อาจารย์ถามยัยน้ำกับริว และฉันก็หันมองริวกับน้ำ เชิงขอโทษ ยัยน้ำเข้าใจแต่ ริว นี่สิ
“ครับ/ค่ะ”
“อันเป็นว่าพรุ่งนี้หกโมงเช้าเจออาจารย์หน้าตึกห้า ปิดประชุม”ทุกคนรีบออกจากห้องทันที แหมเพื่อนๆจร้าไม่ต้องรีบเหมือนนกพึ่งบินหนีออกจากรังก็ได้น่ะ พอเหลือกันห้าคน ฉันก็รีบดึงนายคิวไปอีกทางทันที
“นายทำอะไรของนาย”ฉันถามนายคิวทันที ที่อยู่กันสองคน
“นี่เธอโกรธฉันหรอ^_^”
“.......”
“อีกอย่างเธอเป็นแฟนฉัน คนเป็นแฟนกันต้องอยู่ด้วยกันสิ ถึงจะถูก ไม่ใช่ไปอยู่กับผู้ชายคนอื่นอย่างนายริวนั้น”โกรธ เกริดอะไรกันเล่าไม่มี๊ แล้วแฟนอะไร แฟนปลอมๆน่ะสิไม่ว่า
“โกรธอะไร ฉันดีใจจะตายที่นายไปไกลหูพ้นตาฉัน ตั้งแต่ฉันเจอนาย ชีวิตฉันเปลี่ยนแปลงทันที”ฉันรีบปัดสิ่งที่นายคิว กล่าวหาฉัน หรือความจริงฟ่ะ อันนี้ไม่แน่ใจ
“นิ (เขาใช้นิ้วจิ้มที่แก้มฉัน >///< อย่าสิ เขินเฟ้ย) แนะหน้าแดงด้วย(ฉันเตรียมง้างมือจะตีนายคิว) เดี่ยวดิ ฟังก่อนที่ฉันไม่ติดต่อเธอ เพราะฉันทำโทรศัพท์หาย ตอนนี้ก็ยังหาไม่เจอเลย พลอยทำให้เธอโกรธเลย ฉันนี่แย่จริงๆ”
“โกหก!!”
“นั่นไงเธอโกรธฉันจริงๆด้วย นั่นแน่คิดถึงก็บอกดี๊”นายคิวยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ยังกะคนไม่เคยยิ้มมาสามชาติแนะ แต่เวลานายยิ้มก็น่ารักน่ะ
“ไม่โกรธ เอะ นายนี่ บอกว่าไม่โกรธก็ไม่โกรธสิ”
“อ่ะ อ่ะ ไม่โกรธก็ไม่โกรธ วันนี้อย่าเพิ่มกลับ อะๆ ลืมกฎหรือข้อตกลงของเราไว้แล้วหรือไงข้อหนึ่งเธอห้าม.....”นายคิวรีบเอาข้อตกลงมาอ้าง เมื่อเห็นว่าฉันจะปฏิเสธ
“พอ!! พอ!! ไปก็ได้”
“พลาย ฉันกับริวขอตัวก่อนน่ะ”ยัยน้ำที่เดินออกจากห้องประชุม โบกมือลาฉัน
“อื้ม ริวฝากบ้านด้วยน่ะ ฉันคงกลับช้าไปกับนายต้นตาลนี่นะ”ฉันรีบหันไปหาริวที่ตอนนี้ เขากำลังจะออกไปกับยัยน้ำ ริวพยักหน้าให้กับฉันแล้วเดินออกไป
“-_- ใครต้นตาล”
“ก็นายไงละ คนอะไรสูงยังกะต้นตาล”^^
“ไม่ทะเลาะเฟ้ยวันนี้ เออ แพรวเดี่ยวฉันกลับน่ะ พายัยมะเขือเทศเลือกซื้อของหน่อยน่ะ”เขาหันไปคุยกับแพรว แล้วเดินมาจับมือฉัน >///< อร๊ายยย เขินอีกแล้ว ฉันรีบเอามืออีกข้างแตะแก้มที่ตอนนี้ฉันรู้สึกว่ามันร้อนขึ้นผิดปกติ อี๊ หน้าแดงแน่เลย ทำไงดีๆ
“เฮ้ เธอเป็นไรรึป่าว หน้าแดงด้วย หรือว่าไม่สบาย”คิวที่เดินจูงมือฉันไปที่รถหันมาถามฉันเมื่อ เห็นว่าฉันเงียบมาตั้งนาน ที่จริงนายไม่ต้องหันมาสนฉันก็ได้น่ะ บางทีอาการบ้าๆนี่มันจะหายก็ได้ถ้านายเลิกจับมือฉัน =///=
“ปะ ป่าว หรอกอากาศคงร้อนน่ะ”
“อื้ม นึกว่าไม่สบายสะอีก”ทันทีที่นายคิวกล่าวจบเขาก็เลื่อนรถ ออกไปอย่างช้าๆ ย้ำว่าช้าๆ จนฉันคิดว่าสถานที่ ที่จะไปคงอีกสามชาติกว่าจะถึง -_-^
ร้าน XXXX
ว้าววว ร้านหรูอีกแหละ นี่มันร้านเสื้อผ้านิ วู้ว ดูสิแต่ละชุดที่ she ดีไซน์ออกมาสิเลิศมาก อร๊ายยย สวยๆทั้งๆนั้น อยากใส่อ่ะ แต่ชาตินี้ฉันคงไม่มีโอกาสได้ใส่มันแน่ อย่าฝันตอนใกล้ค่ำหน่อยเลยยัยพลาย
“พี่แววครับ จัดให้ผมชุดหนึงและดัดแปลงยัยนี้ให้หมดคราบด้วยน่ะครับ”
“ค่ะคุณคิว อือคุณผู้หญิงค่ะเชิญมาลองชุดด้านนี่ค่ะ เอ่อ แต้ว!! จัดชุดให้คุณคิวสักชุดเร็ว”อร๊ายยยย ลองชุด *O* ปะ แปลว่าฉันจะได้ใส่ชุดใดชุดหนึ่งในร้านแห่งนี้น่ะหรือ ว้าวว ยัยพลาย แกไม่เสียชาติเกิดแล้ว^O^!!
“อ่อ ค่ะ ^^”ฉันรีบเดินตามผู้หญิงที่นายคิวเรียกว่าคุณแววทันที ตอนนี้ฉันกำลังเดินขึ้นไปชั้นสองของร้านแห่งนี้แล้วล่ะ และทันทีที่คุณแวว(ใช้สิทธิ์ของนายคิวเรียก ^^)เปิดประตู 0O0!! ฉันก็ตะลึงงัน ตะลึงโป๊ะเชะ ตะลึงแบบตะลึงสุดขีดจนอยากร้องว่า โอ๊ว จริงๆ ก็ห้องนี้สิมันมีเสื้อผ้าหลากรุ่นหลากยี่ห้อทั้งนั้นเลย แต่ละชุดสวยๆทั้งนั้นเลย อร๊ายย เลือกไม่ถูกอ่ะ
“เชิญตามสบายน่ะค่ะ”คุณแววหันมาพูดกับฉัน แล้วเดินไปดูชุดโน้น ชุดนี้ในห้องแห่งนี้
“เอ่อ คุณค่ะคือหนูเลือกไม่เป็นน่ะค่ะ ช่วยหนูเลือกได้ไหมค่ะ”ฉันรีบยอมรับสารภาพกับคุณแววทันที
“อ่อ ได้ค่ะ คุณไม่เห็นเหมือนผู้หญิงที่ผ่านมาของคุณคิวเลยน่ะค่ะทุกคนเอาแต่ใจวีนคนโน้นที คนนี้ทีไม่เหมือนคุณเลยค่ะน่ารักออก”คุณแววหันมาบอกฉันเชิงชมในความสัมพันไมตรีของฉัน โฮะๆ^^ แต่ เอ๋ -_-??? คุณแววบอกว่าทุกคนหรองั้นรวมถึงแพรวด้วยสิ ไม่น๊า แพรวนิสัยดีออก พูดหวานสะขนาด นายคงไม่เคยพามาที่นี่หรอก หมดวาสนาไปน่ะคุณแพรว^+^
“โดยเฉพาะล่าสุดชื่อแพรวอะไรนั้นค่ะ วีนกว่าใครเลย งั้นเอาชุดนี้นะค่ะ เหมาะกับคุณเอามากเลยค่ะ”เอ๋ -_-?? แพรวหรอ ฉันเผลอคิดเรื่องคุณแพรวตามที่คุณแววเล่ามางั้นแปลว่าที่เราเห็นก็สร้างภาพสิ ฉันรีบสลัดความคิดของฉันลงเมื่อเห็นชุดที่คุณแววยื่นมาเพื่อลองชุด สวยจริงๆด้วย สีเสื้อผ้าเป็นสีครีมซึ่งคุณแววบอกว่ามันเหมาะกับผิวขาวๆของฉัน และฉันก็คิดว่าใช่ ^^ แล้วยังเป็นเสื้อที่ครึ่งๆกลางๆระหว่างชุดราตรีกับชุดธรรมดาเพราะไม่สั้นไม่ยาวเกินไป และยังเป็นสายเดียวที่ไม่โป๊เกินไปมีผ้า เล็กๆพริ้วไหวช่วยปิดบังไหล่ไม่ให้ดูโป๊จนเกินไป
“สวยจังค่ะ ^^ ไม่โป๊เกินไปด้วย ขอบคุณค่ะ”ฉันรีบเข้าไปเปลี่ยนชุดในห้องอีกด้านหนึ่งของห้องนี้ ว้าวสวย จังแฮะ *O* จังเผลออุทานเมื่อฉันเปลี่ยนชุดเสร็จ
“ว้าว สวยค่ะ มา ค่ะเดี่ยวแววทำผมให้”
“ขอบคุณค่ะ”
“อ่า เสร็จสะทีค่ะ ขั้นสุดท้ายก็แต่เครื่องประดับแล้วก็ร้องเท้า นี่ค่ะ แล้วแววขอตัวไปดูความเรียบร้อยของคุณคิวก่อนน่ะค่ะแล้วเจอกันด้านล่างค่ะ^^”คุณแววยื่นเครื่องประดับให้ฉันตอนแรกฉันหวั่นๆเพราะกลัวว่าเลือกไม่เป็น แต่สุดท้ายฉันก็โล่งใจเมื่อเปิดดูแล้วคุณแววเตรียมเฉพาะที่ฉันควรใส่ไว้เท่านั้น ส่วนร้องเท้าดีหน่อยที่ไม่ได้สูงมากนักเพราะฉันเองก็ไม่ถนัดนักหากมันเป็นส้นสูง “ขอบคุณนะค่ะ^^”ฉันเอ่ยกล่าวขอบคุณคุณแววก่อนที่เธอจะก้าวออกไปจากห้องนี้
และวินาทีสำคัญก็มาถึง เมื่อฉันต้องลงบันไดคนเดียวซึ่งมันเป็นอะไรที่บังเอิญมาก ก็โซฟาที่ไว้รับรองแขกนั่งอยู่ตรงข้ามกับบันไดที่ฉันลงเปะ โชเดะ เลย อึ๊ย อย่างนายคิว นายนั่นมันต้องแกล้งรอฉันที่โซฟาเพื่อหวังแกล้งให้ฉันอายแน่ๆ อึ๊ย ไม่ๆวันนี้ฉันสวยฉันต้องมั่นใจ อ่ะ สู้ ยัยพลาย
ฉึบ ฉับ ฉึบ ฉับ ฉึบ ฉับ
เสียงร้องเท้าที่ไม่ค่อยสูงเท่าไร่แตะลงพื้นบันไดทันทีที่ฉันก้าวออกมาจากห้องแต่งตัว และมันคงจะเสียงดังไปหน่อยทำให้นายคิวและคนอื่นๆที่เดินเลือกดูเสื้อผ้าโดยเฉพาะผู้ชายหันมามองฉันด้วยสายตาเดียวกันทันที โดยเฉพาะนายคิว ฉันเห็นนะ ว่านายไม่กระพริบนะ อย่ามองนานๆสินายคิว>///<ยิ่งเขินๆอยู่ด้วย
“^_^” >>>ฉัน
“0๐0!!!” >>> นายคิว
“OOO!!” >>>ผู้ชายในร้าน
อ๊า ในที่สุดก็เหลือขั้นสุดท้ายแล้วหวังว่าคงไม่เกิดอะไรแบบพิเลนให้ยัยพลายคนนี้เสียหน้าหรอก และมันก็เป็นไปอย่างที่คาดไว้ว่ามันต้อง ผะ ผะ
“ว๊ายยยย”ฉันดันสะดุดขาตัวเองสะงั้น อึ๊ย อาย ฉันหลับตาปี๊เพื่อไม่อยากเห็นตัวเองตกบันไดหน้าแหกกลางร้านใหญ่แบบนี้ เต่ เอ๋ O^O!! ทำไมไม่เจ็บล่ะ หรือว่านายคิวช่วยฉันขอบใจมากน่ะ นายคิวฉันรักนายที่สุดเลย^3^
“เป็นอะไรไหมครับ”เอ๋ ทำไมเสียงนายคิวเปลี่ยนไปล่ะ
“ปล่อยเธอได้แล้วครับ”จู่ๆเสียงๆหนึ่งก็ปรากฏขึ้นหลังจากที่ฉันอยู่ในอ้อมแขนของชายใดไม่รู้ ฉันรีบขยับตัวแล้วออกจากวงแขนของชายแปลกหน้า ไปเดินแล้วหยุดอยู่ข้างๆนายคิวแทน
“อ่อหรอ ครับ เอ่อคุณครับถ้าเปลี่ยนใจจากนายคนนี้ได้เมื่อไร่ ผมยินดีต้อนรับน่ะครับ^O^”
“^^”ฉันยิ้มให้เขาทีหนึ่งแล้วก็ต้องรีบเดินฉับๆตามแรงของนายคิวที่เดินลากฉันอย่างไม่เกรงใจสาวสวยเสน่แรงอย่างฉัน (^^)Y
ปึง!!
ประตูถูกปิดลงทันทีที่นายคิวหยัดฉันเขาไปที่นั่งข้างๆคนขับ ชิ! พูดดีๆกันก็ได้ไม่เห็นต้องรุนแรงเลย
“เธอจำกฎของฉันไม่ได้หรือว่าห้ามยุ่ง...”
“ห้ามยุ่งกับผู้ชายคนไหน หรือคบกับใครระหว่างที่คบกับฉัน เพราะจะทำให้หนุ่มฮอตอย่างฉันเสียหน้าและอับอาย ถูกไหม”
“ถูก แต่สิ่งที่เธอทำเมื่อกี้”
“นายก็เห็นว่ามันเป็นอุบัติเหตุ ฉันก็ไม่ได้อยากยุ่งอะไรกับใครที่ไหน อย่างไร่ เมื่อไรและผลที่ตามมาคืออะไร หรอกน๊า นายคนเดียวฉันก็ปวดหัวและคิดจนนอนไม่หลับแล้ว”
“เธอคิดเรื่องฉันจนนอนไม่หลับเลยหรอ^^”
“- -!! ไม่ใช้อย่างนั้น...”
กว่าจะรู้เธอก็อยู่ในลมหายใจ... เสียงเพลงริงโทนของนายคิวก็ดังขึ้นขัดจังหวะพอดี
ติ๊ด
“ครับคุณอา ผมรีบไปงานเดี่ยวนี้แหละครับ ครับเพิ่งออกจากร้านได้สักพักแล้วครับอีกสิบห้านาทีก็คงถึง ครับ ครับ”
“ไปกันเถอะเราต้องรีบแล้ว”นายคิวก็ขับรถออกไป และ สิบห้านาที ของเขาที่รับปากผู้เป็นอาก็คือ ห้านาที นี่เอง บ้าเอ้ย ขับรถเร็วยังกับจรวจยานอวกาศ ที่ส่งไปยังดวงจันทร์เพื่อสำรวจสาวๆงามอย่างฉัน(เข้าตัวตลอด - -!!)
“เชิญครับคุณ พลาย”นายคิวที่รีบลงจากลงก็เดินมาเปิดประตูให้ฉัน อร๊ายยย น่ารักอ่ะ
“เรามาที่นี่ทำไมออ นายคิว”ฉันหันมาถามเขาทันทีที่ฉันลงจากรถแล้วเงยหน้ามองตึกสูงละลิ้วที่ดูเหมือนว่าวันนี้มีงานอะไรสักอย่างหนึ่ง
“ก่อนอื่นเธอต้องเปลี่ยนศัพท์จากนายคิว เป็นคิวเฉยๆหรือไม่ก็พี่คิว หรือดาร์ลิงหรือ....”
“พอ!! เรียกคิวอย่างแรกดีที่สุด =___=^”
“อย่าทำหน้าเหมือนอมทุกข์มาสิบแปดชาติอย่างงั้นดิ ควงหนุ่มฮ๊อตทั้งทีช่วยให้มันยิ้มร่าเริงๆหน่อยสิ”
“-_-”ยิ้ม
“ยิ้มอีก!!”
“^_^”
“ยิ้มอีก!!”นายจะให้ฉันยิ้มไปไหนเนี้ยะ ไอที่ยิ้มอยู่เนี่ยมันสามารถยัดรถบรรทุกขนทวีปเอเชียทั้งทวีปได้เลยนะเฟ้ยย
“^O^! โอเคไหมเนียะที่ยิ้มอยู่เนียะมันยังไม่พอใช่ไหม ฮ่ะ!”
“พอๆ ก็ได้ เธอนี่ว่าง่ายเลยนะฉันสั่งอะไรเธอทำตามฉันทุกอย่างเลยน่ะ ฮ่าๆๆ ^()^!”
“อ้าว -_-”
“^U^”
“แล้วตกลงเรามาที่นี้ทำไมอ่ะ คิว!!”ฉันพยายามเน้นชื่อเขาที่ดูเหมือนมันลำบากยากเย็นเหมือนเข็ญครกขึ้นภูเขาก็ไม่ปาน
“อ่าๆๆ เธอนี่เรียกชื่อฉันได้ น่ารักมากเลย ดะ เดี่ยวดิ จะเล่าแล้ว วันนี้เรามางานเปิดหุ้นของบริษัทที่พ่อฉันทิ้งไว้ให้ฉันนะ ฉันก็ไม่มีพ่อเหมือนเธอแหละยัยมะเขือเทศ”นิ เขาก็ขาดพ่อเหมือนกันหรอ ไม่ๆ บรรยากาศที่แสนจะดีแบบนี้ฉันจะไม่ยอมให้ความรู้สึกนายหมองหรอก
“เฮ้ อย่าเศร้าดิ เรามางานเลี้ยงฉลองน่ะ ต้องร่าเริงยิ้มๆ ^_^ แต่เอ๋?? วันนี้คิวก็ดูเท่ดีเนาะ”ฉันรีบเอ่ยชื่อเขา ที่เขาอยากให้ฉันเรียกนักเรียกหนา แล้วเสริมด้วย ชมเขาเพื่อเป็นการทิ้งเรื่องเมื่อกี้อย่าให้ได้งอกแม้แต่รากเลย
“อื้ม ขอบใจน่ะ จะว่าไปฉันก็ลืมชมว่าวันนี้เธอสวยเป็นพิเศษเลย^^”พิเศษหรอ แปลว่าทุกๆวันฉันก็สวยสิ อร๊ายยย ชมทางอ้อมออ >//<
“งั้นเราไปเถอะพลาย แขกรอเราเต็มแล้ว”เราหรอ อร๊ายยย ยิ่งแดงขึ้นยกกำลังสอง ฉันรีบเดินตามนายคิว เอะ! ไม่ๆ เขาขอสักวันเราก็ต้องยกให้เขาสักวันสิ ฉันรีบเดินตาม คิว ทันที และทันใดที่ฉัน ก้าวขาตามคิวเพื่อมุ่งหน้าสู่ห้องที่จัดงานฉันก็ตกตะลึงกับความหรูหรามีสไตน์ของตึกตึกนี้ไม่ได้นี่นายเป็นเจ้าของตึกแล้วหรอเนียะ อร๊ายยย อิจฉาๆ
“อ้าวล่ะครับ คุณคิวเจ้าของงานของเราก็มาถึงแล้วล่ะ เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราเชิญเขากล่าวอะไรเล็กๆน้อยๆเพื่อเป็นศิริมงคลกับโรงแรมแห่งนี้”ทันทีที่เราเดินเข้ามาในห้อง พิธีกรก็เอ่ยให้คิวกล่าวอะไรเล็กๆน้อยๆ บนเวที
“รอฉันตรงนี้ น่ะจะกินอะไรก็ตามสบายน่ะ เดี่ยวฉันมา”คิวรีบเดินขึ้นเวทีทันที จะว่าไปนายก็ดูสง่าไม่แพ้ใครในห้องนี้เลย แฟนฉันนี่หล่อโคตรๆเลย
“อ้าว คุณนั่นเองจำผมได้ไหมครับ”ทันทีที่คิวผละจากฉันไปก็มีชายแปลกหน้าที่ช่วยฉันในร้านนั้นเอง
“อ่อ คุณนั่นเอง ยังไม่ได้ขอบคุณเลยน่ะค่ะ เอาเป็นว่าขอบคุณที่ช่วยพลายไว้น่ะค่ะ”
“อ่อ ครับผมชื่อ ไทม์ ครับ เรียกพลายมันดูยังไงไม่รู้ เรียกน้องพลายได้ไหมครับ”
“เอ่อ ได้ค่ะตามสบาย^^”ฉันลังเลนิดๆก่อนที่จะตอบตกลงไป
“น้องพลายเป็นแฟนคิว หรอครับ”
“อ่อ ค่ะ^^”
“คิวนี่โชคดี เป็นบ้าเลยเดือนหนึงเปลี่ยนหน้าผู้หญิงคนหนึง ผมนี่อิจฉาตลอด แต่ตอนนี้ผมไม่อิจฉาคิวแล้วล่ะครับ”
“ทำไมค่ะ ฉันไม่สวยเหมือนสาวๆที่ผ่านมาหรือค่ะ T^T”
“อ่อ ปล่าวครับ คือผมแค่สงสารน้องพลายน่ะครับ น้องพลายสวยออกขนาดนี้ไม่คู่ควรกับคนอย่างคิวเลยสักนิด”
“อ่อ คือว่าฉันกับคิวเราคบกันเพราะ....”
“เพราะรักโดยไม่สนอดีต ว่ะ นายไทม์ขอโทษที เธอคนนี้ฉันรักจริง”คิวที่เดินลงจากเวทีตอนไหนไม่รู้ มาต่อบทสนทนาระหว่างฉันกับไทม์
O()O!! =>>ฉัน
+///+ =>> แล้วก็ฉันอีก
-_-^=>>ไทม์
“นายนี่ เห็นจริงจัง รักจริงทุกรายเลย สุดท้ายนายก็ทิ้งพวกนั้น”ไทม์พูดอะไร แปลว่าคิวหักอกผู้หญิงทุกคนทันทีที่เขาเบื่อหรอ ชิ!! แย่ชะมัดยาดเลย
“นายอย่ามามั่วน๊า ใครๆก็รู้ว่าฉันไม่ได้เลวเหมือนนายนะไทม์”คิวพูดเหมือนนายถือไผ่เหนือกว่าไทม์ และเห็นได้ชัดว่าไทม์ดูชงักกับคำของคิวทันที พวกนายมีอะไรกันออ พลายก็อยากรู้เหมือนกันนะT^T
“แล้วเจอกันใหม่น่ะ น้องพลาย”จู่ๆไทม์ก็ค่อยๆถอยทับออกไป โดยที่ฉันยังไม่เข้าใจอะไรเลย
“กลับกันเถอะ นี่ก็ดึกมากแล้ว พรุ่งนี้ต้องไปทัศนะอีก”
“อื้ม”
หวา ตอนนี้เรากำลังเดินออกจากงานแล้วล่ะ ฉันกับคิวกำลังรอรถที่พนักงานไปเก็บนะ เฮ้อ! เสียดายชะมัดเลย ถ้าไทม์นั่นไม่มายุ่งกับฉันจนทำให้คิวหึง เอ้ย! เสียหน้าที่บังอาจมายุ่งกับแฟน(ปลอม)ของเขา ฉันอาจจะยังได้อยู่ในงานหรูๆนั้นอีกก็ได้ ฮึ่ม! ไทม์ฉันชักจะไม่ชอบขี้หน้านายแล้วสิ ^^!
หลังจากรถที่พนักงานไปเอาก็มาจอดต่อหน้าเราทั้งสอง คิวก็พยักหน้าเชิงว่า โอเค ไปได้ คิวก็หันมาพูดกับฉัน
“นี่ ยัยมะเขือเทศไม่คิดจะให้รางวัลหน่อยหรอ”
“รางวัลอะไร”
“ก็ที่ฉันพาเธอมาเที่ยวที่ๆเธอไม่เคยมาไงล่ะ”มันก็จริงของนายนะ
“แล้ว นะ นา.. เอ่อ คะ คิ..”ฉันเงอะงะกับการเรียกชื่อคิวเพราะตอนนี้เราก็ไม่ได้อยู่ในงานแล้ว จะเรียกนายคิวก็กลัวเขาจะโกรธ อ่ะ ทำงดีฟ่ะ
“คิว!!”
“ก็ได้ แล้วคิวจะเอาอะไร”อี๊ๆ เรียกได้ไง เนี๊ยะ
“หอมสักจุ๊บ ก็หายแล้ว^^”
“OoO!! บ้าหรอ ไม่เอา ไม่ทำ”
“ถ้าไม่ทำ ชุดนั้น อื้มใช่ ที่เธอใส่นั่นแหละ ไปจ่ายเองล่ะกัน”ชี้ไปที่ชุดที่ฉันสวมอยู่ จะบ้าหรอ ถึงฉันมีกินมีใช่โดยไม่อดยาก แต่ฉันก็ไม่รู้ว่าเงินที่เสียไปมันคุ้มหรือปล่าว
“หอมแก้มได้ไหม”O___O
“ก็ได้ๆ ^^”
“T^T”
ฉันรีบยื่นหน้างามๆของฉันเข้าไปใกล้กับแก้มพร้อมหลับตาปี๋ อุ๊บ เอ๋ =X=?? ทำไมแก้มนายนิ่มอย่างนี้ล่ะ นิ่มมาก นิ่มกว่าแก้มฉันอีก แล้วมันนิ่มเหมือนริมฝีปาก ฉันค่อยๆลืมตาในขณะที่ฉันยังจู จุ๊บ นายคิว OXO!! นี่มันริมฝีปากนายนี่ นายแกล้งฉันหรอ>///< อร๊ายยย
“นาย แกล้งฉัน!!!”ตะโกนใส่หน้านายคิวทันที ที่ปากเราห่างออกจากกัน อี๊ ทำไมต้องเจออะไรน่าอายแบบนี้ด้วยนะ -///-
............................................................................
23.00 น.
ฉันรีบเข้าบ้านและจัดของจำเป็นสำหรับวันพรุ่งนี้ ริวเป็นอะไรนะ หมู่นี้ ไม่ค่อยคุยกับฉันเลย ฉันต้องหยุดความคิดลง เมื่อ มีเสียงเคาะประตูใหญ่ ฉันรีบเดินลงไปเปิดประตู
“ว่าไง ริว เฮ้!! ริว เป็นอะไร นะ”พอฉันเปิดประตู ริวก็เข้ามากอดฉัน และกอดแน่นขึ้น นายเป็นอะไรริว
“พลายฉันไม่อยากเสียเธอไป ฉันรักเธอ ฉันรักเธอมาตลอด เธออย่าสนใจสิ่งที่ฉันพูดเลย ฉันขอโทษ T=T”ริว เอ่ยคำนั้นๆ ริว
บอกว่าริวรักฉัน รักมาตลอด งั้นแปลว่านายกลับมาที่นี่เพราะฉันงั้นหรอ ฮือๆ T^T ริวกลับไปแล้ว ริวกลับไปพร้อมกับหัวใจที่ว่างปล่าว
ฉันอึ้งกับคำสารภาพของ ริว ฉันไม่เคยคิดว่า ริว จะคิดเกินเพื่อน กับฉัน ฉันขอโทษ นะ ริว ที่ฉันให้หัวใจของฉันกับคนแสนดี อย่างนายไม่ได้ ขอโทษ นะ ริว ฉันนั่งฟุบ กับพื้นแล้วร้องไห้ ออกมา โดยที่ฉันไม่สังเกตเลยสักนิดว่ามีเงาผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนของฉันยืนอยู่ใต้ต้นไม้หน้ารั้วบ้านของฉัน
วันที่ต้องไปทัศนะศึกษาก็มาถึง ทุกคนยุ่งกับการเก็บกระเป๋า โดยไม่สังเกต ว่าอีกมุมของสถานที่นี้ มีเหตุการณ์ ทะเลาะระหว่างริวกับคิว ฉันที่เดินตามหา ริว ก็ดันไปเห็น ริวกับคิวกำลังคุยกันอยู่ว่าแต่พวกนายสองคนกำลังคุยอะไรกันอยู่หรอ ตอนแรกฉันกะจะเข้าไปขัดจังหวะ แต่ริวดันถามคำถามที่ฉันเองก็อยากรู้ ฉันยืนรอคำตอบจากปากนายคิวอยู่มุมหนึงของสถานที่นั่น
“นาย จริงจังกับพลายรึปล่าว”เป็นคำถามที่ริว ตั้งคำถาม เพื่อให้ คิว ตอบ
“มันเป็นแค่การไถ่โทษ ฉันไม่เคยจริงจังกับเธอหรอก”
“แล้วนายหลอกเธอเพื่ออะไร”
“เพื่ออะไรไม่สำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดนายไม่มีวันได้หัวใจเธอ”
ฉันที่ยืนมองทั้งคู่สนทนาก็ได้ยินสิ่งที่ ริว และคิว คุยกันทุกอย่าง นั้นสินะ ฉันจะหวังอะไรกับเกมที่นายคิวตั้งไว้ อย่างที่ยัยน้ำเคยบอก เขาไม่เคยจริงจังกับฉันหรอก แล้วฉันจะเสียน้ำตาให้เขาทำไม ฉันกำลังจะเดินออกจากสถานที่นั้นก็ต้องชะงักฝีเท้า เมื่อฉันได้ยินเสียงดัง ปัก!!! ใครต่อยใครน่ะ ฉันรีบหันไปมองทางที่พวกเขาอยู่ทันที
“หมัดนี่สำหรับ สิ่งที่นายหลอกพลายมาตลอด”ริวหันไปตะคอกใส่คิวในขณะที่คิวนั้นกำลังหันมาจะง้างมือต่อยริวกลับ
“หยุดน่ะ!!!”ฉันรีบตะโกนเสียงออกไปเพื่อหวังให้หมัดที่คิวกำลังจะปล่อยไปถึงริวแต่มันช้าไปเสียแล้ว
ปัก!!!
“ริว”ฉันรีบเดินไปหาริวทันที ที่เห็นว่าริวล้ม เพราะหมัดของนายคิว
“พลาย!!!”ทั้งสองเรียกชื่อฉันพร้อมกัน
“คิว คิว อยู่แถวนี่รึปล่าว รถพร้อมแล้วน่ะ คิว คิว ”นั่นมันเสียงแพรวนี่ มาถูกจังหวะจังฉันไม่อยากพูดอะไรตอนนี้ ขอบคุณน่ะ
“อ้าว อยู่กันครบเลย เอ่อ พลายคุยกับคิวอยู่รึปล่าว”แพรวหันมาถามฉันเมื่อเธอเดินมาเจอนายคิว
“อ่อ ปล่าว ไปกันเถอธ ริว”ฉันรีบลากริวออกจากสถานที่บ้าๆนั่นสะที เฮ้อ!! จู่ๆฉันก็ถอนหายใจเบาๆขึ้นมาหวังว่าริวคงไม่ได้ยินหรอกน่ะ ทำไมตอนนี้ฉันรู้สึกว่าร่างกายฉันอ่อนล้าจัง ทำไมฉันรู้สึกเหมือนมีก้อนหินใหญ่ๆติดอยู่ในอก ทำไมฉันรู้สึกเหมือนว่ากำลังโดนมีดคมๆแทงกลางอก และมันเหมือนโดนแทงซ้ำเขาไปและยิ่งลึกลงไป อาการนี้เขาเรียกว่าอกหักรึปล่าว ฉันรู้ว่า ฉันเจ็บแต่หาบาดแผลไม่เจอ
“พลาย”จู่ๆริวก็เรียกชื่อ
“อื้อ ??”
“เธอโกรธฉันรึปล่าวที่เมื่อคืนฉันไปพูดอะไรไม่รู้ให้เธอฟัง”
“ปล่าวหรอก แต่ฉันว่าเราเป็นเพื่อนดีกว่านายจะได้ดูแลฉันอย่างนี้ตลอดไปไง”
“อื้ม ฉันขออะไรอย่างหนึงได้ไหม”
“อื้มได้สิ”ฉับตอบสั้นๆ
“ถ้าในเมื่อเธอไม่โกรธฉัน เธอช่วยกลับมาร่าเริงอย่างเดิมได้ไหม ฉันเห็นเธอเป็นแบบนี้ มันทำให้ฉันรู้สึกผิด”
“นายแก้มเปียก!!!!”ฉันเรียกชื่อริวทันทีเพื่อไม่ให้เขารู้สึกผิด ไม่สินายไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อยฉันสิที่ต้องรู้สึกผิด
แต่ -__-?? ฉันคงเรียกผิดที่รึปล่าวเพราะทันทีที่ฉันพูดจบทุกคนที่อยู่บนรถก็หันมามองฉันกับริวทันที ริว ทำไมนายไม่บอกฉันว่าถึงที่รถแล้ว
หลังจากที่ฉันกับริวอับอายขีหน้ากันเรียบร้อยแล้วริวก็ต้องตัดสินใจเดินไปหาที่นั่งประจำ ตอนแรกเขาจะนั่งใกล้คนขับ เพราะเขารู้ว่าฉันชอบชมวิวและวิวใกล้คนขับดูแล้วอินสุดๆ แต่พอหันไปเก้าอี่ตรงข้าม เขาก็พบกับคิว เขาจึงตัดสินใจลากฉันไปนั่งด้านหลังแทน
ภายในรถ ตอนแรกดูสงบ และเงียบจแต่พอฉันกับริวได้ที่นั่งเสียงเจี๊ยวจ้าวเหมือนแม่ค้าขายกระปิกลางทางของฉันก็ดังขึ้น
“ริว หิวน้ำ อ่ะ เอาให้หน่อยสิ น๊าๆๆ”ฉันหันมาอ้อน ริว หลังจากฉันเงียบมาครึ่งทาง
“อื้มได้ สิ อ่ะ น้ำ”ริวยื่นน้ำให้ฉันหลังจากหยิบน้ำจากกระเป๋าพกของเขา แล้วหันมาพูดกับฉันต่อ เสียงฉันกับริวมันคงดังไปหน่อยจนถึงโซนประสาทของใครที่อยู่ด้านล่ะมั่ง
นายคิวที่อยู่ด้านหน้า หันมามองด้วยสายที่เย็นชาสุด อึ้ย หน้ากลัวอ่ะ พลาย
แต่ฉันก็ไม่ค่อยสนใจนัก ฉันกับริวคุยกันสนุกสนานโดยไม่ใส่ใจ สายตาประชาชี ทั้งหลาย ฮ่าๆๆ ฉันไม่แคร์สายตาใครหรอก จนในที่สุดก็ถึงปลายทาง อาจารย์กล่าวให้นักเรียนเตรียมสัมภาระที่จำเป็นลง แล้วเดินเกาะกลุ่มของตัวเองไว้
ฉันกับริว เลยต้องแยกกัน ฉันเดินไปหา คิว ในขณะที่เขากำลังคุยกับแพรว ฉันเลยไปขัดจังหวะแทน ฮ่าๆๆ ฉันเห็นสายตาแพรวด้วยว่า ไม่พอใจสุดขีด
“นี่ พลายอาจารย์ให้เดินเกาะกลุ่มน่ะ!!”คิวหันมาชวนฉัน ชิ!! น้ำเสียงนายฟังดูก็รู้ว่าบังคับอยู่
“แน่อยู่แล้ว ก็นายเป็นแฟนฉันนิ ถึงอาจารย์ไม่ให้เกาะกลุ่มฉันก็เดินกับนายอยู่แล้ว จริงไหม”ฮ่าๆนางมารร้าย ประกฎแล้วนางเอกอย่างแพรว ต้องทนเอาไว้นะ อย่าเพิ่งยอมแพ้ล่ะนี่มันขั้นแรกเองน่ะ
“อื้ม ใช่ที่สุด”นายคิวเดินจับมือฉัน จับมือ อร๊ายยย เขินอีกแหละ ไม่ๆ กำลังโกรธเฟ้ย แต่ไม่ได้เพื่อยัยแพรวสร้างภาพนั้นทนไม่ไหวต้องทำใจ พลายแกต้องทำ ส่วนคิวที่ตอนนี้หันมาคุยกับฉัน นายลืมแฟนเก่านายที่ยืนข้างๆแล้ว เฮ้ สนใจเธอบ้างสิ เธอจะร้องแล้ว ชิ! อ่อนแอ ชะมัด
ในที่สุดแพรวก็ขอแยกกับคิว คิวตัดสินใจไปส่งฉันที่ห้องพัก อ้าว แล้วอาจารย์ ให้เกาะกลุ่มทำไมเนี้ยะ งง จริงๆ
15 นาทีก่อนหน้านี้
“นิ พวกนายพวกเธอทั้งสองนี่ช่วยเงียบๆหน่อยได้ไหม”ยัยน้ำที่โผล่มาจากส่วนไหนของโลกก็ไม่รู้มานั่งข้างๆฉัน ชิ อยากใกล้ริวก็บอกมาน๊า ไม่ต้องทำดีมาเตือนหรอก =_=^^
“ไม่สนอ่ะ ใช่ไหมริว”
“อื้ม มั่ง”
“นี่พลาย ฉันกำลังสงสัยนะว่า ยัยพี่แพรวนั้นไม่ได้ดีอย่างที่ทุกคนเห็น”ยน้ำนี่เก่งจังเลย ไม่น่าตอนเรียนมันถึงได้คะแนนสูง ฉันล่ะอิจฉาแกจริงๆ
“อื้ม ฉันรู้แล้วน๊า”
“งั้นแปลว่า ฉันคิดถูกสิ”
“อื้ม แล้วมีไรล่ะไม่เห็นเกี่ยวกับเราเลยนิหน๊า งำๆ=O=”ฉันรีบเอาขยมที่พกมาเข้าปากทันที
“เอ่อ ขอโทษน่ะครับสาวๆ ริวสุดหล่อยังนั่งหัวโด่วอยู่ตรงนี้น่ะครับ^^”ริว ที่นั่งฟังสาวสาวเล่าเรื่อง อิอิ เสียตั้งนานก็เอ่ยขึ้น
“อ่อ ลืมไปค่ะ คืองี้พลายฉันอยากให้แกทำยังไงก็ได้ให้ยัยพี่แพรวนั้นหึงเทพบุตรของฉันร้องไห้จนขี้หมูกโป่งเหมือนบอนลูนอ่ะ”
ยัยน้ำที่หันมาคุยกับริวได้แป๊ปเดียวก็หันมาคุยกับฉันต่อ
-__-^^ >> ริว พวกเธอแย่งซีนผมครับ T^T
“อ่อ แต่โกรธนายเทพบุตรอยู่น่ะเฟ้ย”
“ไม่เป็นไร ลืมๆไปก่อน โอเค๊”
“อ๊า เขาท่าๆฉันชอบความคิดแก”
TOT >>ริว
“อีกสิบนาทีเจอกันที่ จุดนัด นะ”คิวพูดกับฉันแล้ว หลังจากที่มาส่งฉันที่หน้าห้องพัก แล้วดึงฉันเข้ามากอด นายทำไรของนายนะ กอดฉัน มันแปลว่า อะไร >///<?? เขากอดฉันเนิ่นนาน โดยไม่คิดจะคลายกอด จน ยัยน้ำที่อยู่ในห้องเปิดประตูและเห็นภาพฉันกับนายคิวกอดกันอยู่ ยัยน้ำตกใจรีบปิดประตูอย่างเร็ว ปึง!!
“ปล่อยได้แล้ว\\^^//”ฉันรีบประท้วงนายคิวทันที เดี่ยวยัยน้ำคงมีคำถาม เป็นพันคำถามแน่
“อื้ม เดี่ยวเจอกันน่ะยัยมะเขือเทศ^^”คิวพูดขึ้นพร้อมคลายกอดในที่สุด เฮ้อ ถ้านานกว่านี้ฉันลากนายเข้าห้อง ให้ยัยน้ำปล้ำแน่>O<!แล้วฉันก็เดินเข้าห้องไป โดยเตรียมใจ แถลงข่าวให้ยัยน้ำเต็มที่ !!!
“นี่พลาย ฉันว่า คิว เขาชักยังไงๆกับแกแล้วนะ”ยัยน้ำที่กำลังนั่งบนเตียงพูดขึ้นแล้วเดินมาข้างๆฉัน
“ไม่รู้สิ แต่ฉันว่า มันก็แค่เกมที่เขาวางไว้ อย่างที่แกบอก นั่นแหละ เออ ว่าแต่ ริวอยู่ไหนละ”ฉันรีบปัดเรื่องที่ยัยน้ำถามทันที และถามถึงริว เพื่อเปลี่ยนเรื่อง “ริว ออ อยู่ที่ห้องพักมั่ง เห็นบ่นๆว่าปวดหัว”ยัยน้ำที่ไม่รู้ทันฉัน หลงกลฉันจนเปื่อยเลย ริวไม่สบายหรอ เดี่ยวต้องทำกิจกรรมแล้วนิหน่า “อื้อ น้ำ เดี่ยวฉันไปนะ เจอกันที่จุดนัด บาย”ฉันรีบลายัยน้ำและบอกว่าจะไปที่จุดนัด แต่ที่จริงแล้วฉัน ไปหา ริวตั้งหาก
ก๊อกๆๆ
“ริวๆ อยู่ไหม”ฉันเคาะประตูเสร็จ ฉันก็เรียกให้เปิดประตู และริวก็เปิดประตูให้ฉัน
“นายไม่สบายออ เป็นไรบ้าง”ฉันรีบถามริวทันที ที่เขาไปถึงตัวเขา
“ไม่เป็นไรหรอก ปวดหัวนิดหน่อย ฉันไม่เข้ากิจกรรมนะ ไว้คืนนี้ละกัน”ริว นายเป็นหนักรึปล่าว แล้วใครจะดูแลนายล่ะ แต่ถ้าฉันไม่เข้ากิจกรรม คงมีปันหากับอาจารย์แน่เลย โอ้ย ทำไงดี พลาย
“งั้นเดี่ยวฉันบอกอาจารย์ นะ พักผ่อนเถอะเดี่ยวคืนนี้เจอกัน”ฉันรีบเดินจากห้องเพื่อไปบอกอาจารย์ว่า ริว ไม่สบาย พออาจารย์รับปากฉันเลยไปจุดนัดพบ
“มาช้าจัง”คิวที่เห็นจะรอฉัน ถามฉันขึ้นแต่ฉันไม่กล้าตอบหรอกว่า ไปหาริวมาฉันเลยบอกว่าเข้าห้องน้ำ
“อ้าว นักเรียนทุกคนกิจกรรมแรกที่เราจะทำกัน ก็คือ หาธงสัญญาลักษณ์ของโรงเรียน ถ้ากลุ่มใดหาเจอก่อน อาจารย์จะมีของรางวัลให้ แต่ถ้ากลุ่มใดแพ้หรือเจอหลังสุดเราก็จะมีการลงโทษ แต่อย่าเดินออกนอกเส้นทางเด็ดขาดมันอันตราย แล้ว ให้แต่ล่ะกลุ่มส่งตัวแทนมาเอาอุปกรณ์ ที่อาจารย์”พออาจารย์พูดจบฉันก็ให้คิว เป็นคนไปเอาอุปกรณ์ แล้วระหว่างที่ฉันกับแพรวอยู่กันสองคน แพรวก็มีถ้าที แปลกๆ
“ไปกันเถอะ”คิวรีบคว้ามือฉัน และ ... แพรวด้วยในเวลาเดียวกัน ชิ! ผู้ชายจับปลาสองมือ
พอเราเดินไปสักพักเกือบครึ่งทางแล้วมั่ง แพรวก็บอกว่าเหนื่อย พวกเราเลยได้พัก แต่ที่นี่อากาศดีเนอะ
“โอ้ยยย”แพรวที่ทำทีจะลุกเดินต่อ แต่ก็เซล้มสะก่อน ทำให้คิวที่จะหันมาหาฉันรีบประคองแพรวก่อนที่จะล้มไว้ได้ทัน
“พักก่อนก็ได้ อีกเดี่ยวค่อยเดินต่อ”นายคิวหันไปบอกแพรว ซึ่งฉันคิดว่ามันเป็นโอกาสเหมาะที่พวกเขาจะดีกัน ฉันเลยเดินห่างออกไป เพื่อชมวิวพลางๆ แต่ฉันไม่แน่ใจว่าที่ฉันเดินอยู่ มาอยู่นอกเส้นทางรึปล่าว
อ่า ป่านี้ก็สมบูรณืดีเนาะ อ่ะๆ ดูนั่นมีนกนั่งจีบกันด้วย อู๊ยย เขินแทนอ่ะ (^///^) แล้วนั้นมีกะรอกน้อยกำลังไล่จับกันด้วย (ป่านี่มันแปลกๆดีนะ ^^) อ่ะแล้วนั้นมันมันมี งะ งูOoO!! ฉึก เสียงงูบ้านั้นมันกัดขาช้านนนนนนนนนน >O<!!!!
กรี๊ดดดดดๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ฉันกรี๊ดเสียงลั่นป่า เมื่องูอะไรไม่รู้กัดขา ฉัน เจ็บๆๆ Y^Y ฮือๆๆ ทำไมพอฉันเป็นคนดีเข้าหน่อย อยากให้นางเอกกับพระเอกสมหวังกันสะทีมันถึงเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ทุกครั้งเลย คิวๆ นายอยู่ไหนนนนนนนน!!!!
“พลาย !!!”เขารีบเดินมาหาฉันในขณะที่ฉันกำลังเอามือกุมเหนือที่งูกัด อร๊ายยย มีเลือดไหล(นิดๆ)ด้วย นายคิวรีบฉีกเสื้อที่เขาสวมอยู่มัดขาฉันเหนือที่งูกัด ละ ละ แล้วนายคิวก็ค่อยๆก้ม อย่าบอกว่านายจะดูดพิษนะ แล้วนายคิวก็ก้มดูดพิษ ทันที
“นะ นาย ทำไร คิว”
พรู๊ด พรู๊ด
เสียงนายคิวพ้นเลือดที่อยู่นายปากของเขาออก ที่จริงมันเป็นเลือดของฉันเองแหละ>_<
นายคิวทำอย่างนั้นซ้ำๆจนเขาเอาเองแน่ใจว่าพิษออกแล้ว เขาก็คว้าตัวฉันแล้วให้ฉันขี่หลังเขาแทน
“ว้ายย คิว เธอเป็นอะไร “แพรวที่เดินมา ตามคิวเห็นฉันมีเลือด แล้วก็ตกใจ ชิ! อย่ามาทำเป็นสงสารฉันเลยน่า ยัยพี่แพรวออสก้า
“เธอถูกงูกัด นะ แพรวนำทางที เร็วหน่อยนะ”นายคิวหันไปพูดกับแพรว ดูนายรุกรน นายเป็นห่วงฉันหรอ แล้วนายคิวก็หันมาพูดกับฉัน
“พลาย อย่าหลับนะ ตอบฉันสิ พลาย”คิวที่ตอนนี้เหงื่อแตก จากการที่แบกฉัน หันมาถามฉันด้วยสายตาเป็นห่วง
“อื้อ”ฉันได้แต่ตอบเพียงแค่นั้น ส่วนคิวก็พยายามเตือนฉันไม่ให้หลับ นายคิวเรียกฉันตลอดทางเลย ฉันจะหลับก็เพราะตอบนายจนเหนื่อยล่ะสิไม่ว่า
“OoO!! ไอรญา!!! เป็นอะไร คุณากรณ์”อาจารน์ถามคิวทันที ที่คิวแบกฉันถึงที่พัก
“เธอถูกงูกัด ครับอาจารย์ช่วยเธอด้วย”คิวที่ตอนนี้ เหงื่อเต็มร่างกาย เพราะแบกฉัน ขอร้องอาจารย์ให้ช่วย
“เธอไม่ต้องห่วง คุณากรณ์ เดี่ยวเธอไปพักผ่อนสะ ทางนี้ อาจารย์จะจัดการเอง”อาจารย์บอกให้นายคิวไปพักผ่อน เพราะ นายคิว ดูแย่กว่าฉันอีก
“ไม่เป็นไรครับ ผมเป็นห่วงเธอ”เมื่อนายคิวพูดแบบนั้น อาจารย์ก็ขัดไม่ได้ สุดท้ายนายคิว ก็ตามฉันไปที่โรงพยาบาล
ระหว่างที่ทุกคนรอพลาย ที่ทำการรักษาอยู่นั้น จู่ๆ คิว ก็เกิดอาการล้มแล้วหมดสติ ทำให้ทุกคนที่ยืนรอคอยพลายนั้นต้องรีบพา คิวไปห้องฉุกเฉินเพราะดูจากอาการแล้วคิวดูโทรมและหน้าซีดมาก
ในที่สุดหมอที่ตรวจคิวก็ออกมาบอกว่า คิว ได้รับสารพิษ จากงู เช่นกัน คงเป็นเพราะ ตอนที่ คิว ช่วย พลาย ล่ะมั่ง
“หมอค่ะ ยัยพลายเป็นไงบ้างค่ะTOT”น้ำเพื่อนรักของพลายที่ตามมาจากที่พัก ถามหมอทันที ที่หมอออกจากห้องตรวจของพลาย
“เธอปลอดภัยแล้วครับ นี่ดีน่ะครับถ้าไม่มีการดูดพิษออกจากร่างกายก่อน เธออาจเป็นหนักก็ได้ หมอขอตัวน่ะครับ”หมอพูดจบ ก็ขอตัวดูแล คนไข้คนอื่นต่อ
“(YOY)ยัยพลาย เวรกรรมอะไรของแก เนี้ยะ”น้ำที่เข้ามาในห้องที่พลายพักอยู่ ก็สงสารโชคชะตาของพลาย แล้วลงท้ายด้วยการร้องไห้ในที่สุด “พลาย ไม่เป็นอะไรแล้ว ไม่ต้องห่วงหรอก”ริว ที่เงียบมาตั้งแต่ ถึงโรงพยาบาลเอ่ยปลอบน้ำ ไม่ให้คิดมากทั้งที่ในใจริวนั้นแทบจะกลั้นเสียงสั้นไม่อยู่
“นะ น้ำ น้ำ”พลายที่พึ่งตื่น และเกิดอาการคอแห้งหิวน้ำ ก็เอ่ยขึ้นมาด้วยเสียงที่แผ่วเบาแทบจะไม่ได้ยิน
“ฉันอยู่ นี่ ๆ”น้ำที่คิดว่า พลายเรียกตัวเองจึงไปจับมือเพื่อน
“ฉัน หิวน้ำ ขอน้ำหน่อย”ฉันพยายามเบ่งเสียงสุดเสียง เพื่อให้ใครก็ได้ในห้องช่วยหยิบน้ำให้ที
“อ่ะ นี้น้ำ”ริวที่ยืนอยู่ใกล้ขวดน้ำ ยื่นน้ำมาให้ฉัน
“พักผ่อนเถอะ เดี่ยวจะพาไปเยี่ยม คิว”น้ำเป็นคนเอ่ยขึ้นมา ทำให้ฉันหันมาทางยัยน้ำทันที ด้วยความอยากรู้ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
“คือ งี้ หลังจากที่แก ถึงมือหมอ คิวก็เกิดอาการล้มและหมดสติ และหมอบอกว่า คิวได้รับสารพิษ จากการที่ช่วยแก นะ ฉันก็สงสัย นะว่า ได้รับยังไง”ฉันที่รู้เรื่องทุกอย่างได้แต่ขอร้อง ให้พวกเขา พาฉันไปห้องของ คิว หน่อย ซึ้งริวกับยัยน้ำก็ยอม
แต่พอฉันเดินไปที่ห้องของนายคิว ฉันก็เจอยัยพี่แพรว ที่กำลังป้อนข้าวให้กับคิว อึก ฉันรู้สึกปวดร้าวมาก ฉันเลยตัดสินใจไม่เข้าไป และเดินกลับห้อง
ตอนนี้ ริวกับยัยน้ำ กลับไปแล้ว เหลือฉันคนเดียว และพยาบาลบางคนที่คอยแวะเวียน มาดู โรงพยาบาลนี่ก็แปลกนะ ไม่ให้มีคนเฝ้าด้วย ฉันตัดสินใจ ออกจากห้อง เพื่อไปดูนายคิว ที่อยู่ห้องถัดจากห้องของฉัน
แอ๊ดดดด
เสียงประตูที่เปิดคงไม่รบกวนคนที่นอนอยู่หรอกน่ะ ฉันตัดสินสินใจไปห่มผ้าให้คิว แล้วกำลังจะเดินออกไป แต่ขาฉันที่ยังไม่เข้าที่เท่าไร่ ทำให้ฉันล้ม ไปจนกับอกของคนที่อยู่ ทำให้เขาตื่นขึ้นมา
“ขอโทษ”ฉันตัดสินใจ ขอโทษเขา และกำลังจะเดินออกไป
“เดี่ยว!! เธอใจร้ายมากนะ ที่ทำให้ฉันเป็นแบบนี้ แล้วไม่มาดูแล”จู่ๆ นายคิว ก็เอ่ยขึ้นมา แล้วดึงมือฉันที่ยืนอยู่ไมไกลจากเขา ทำให้เสียหลักล้มทับเขาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขาไม่ปล่อยให้ฉันหนี เขากอดฉัน แล้วกระซิบข้างหูฉัน ว่า “คืนนี้ ต้องเฝ้าฉันทั้งคืน โอค๊ ^^ ”ทันทีที่เขาพูดจบ ประตูก็ถูกเปิดโดยพยาบาลที่เดินถือถาดเหล็กเหลี่ยมสีเงิน เพื่อมาดูอาการก็เอ่ยขึ้น “ขอโทษน่ะค่ะ เดี่ยวมาตรวจในเวลาที่สะดวกกว่านี้น่ะค่ะ”แล้วพยายาบาลก็เดินออกไปโดยฉันยังได้ยินShe พำพึมในลำคอด้วยว่า ชิ!มีแฟนแล้วก็ไม่บอก ฮ่าๆๆๆพยาบาลนั้นตลกสิ้นดีเลย^O^
“โอ้ยยยย เจ็บๆ”ฉันที่นอนทับเขาอยู่ รีบตีเขาเพื่อให้เขาปล่อยฉันจากวงแขนอบอุ่นนี้จนเขาร้องขึ้นมาและปลดปล่อยฉันจากการกอดไว้ ฉันจึงถอยหนีออกห่าง
“นอนได้แล้ว ดึกแล้ว”ฉันเอ่ยแล้วก็รีบเดินไปที่ประตู ไม่สนใจว่าเขาจะขอให้ดูแลเขา
“เดี่ยว!! ยัยมะเขือเทศ”
“อื้อ”
“ฝันดีนะ ที่รัก อย่าลืมฝันถึงผมด้วยนะคราบบบ^^” O>///<O อีต้นน้ำตาลบ้า นายจะไม่ยอมให้ฉันกลับไปอย่างสงบเลยหรือไง ฉันรีบเดิมดุ่มไปที่ประตูแล้วรีบวิ่งไปยังห้องของตัวเองทันที
^{}^เย้ ในที่สุดก็ออกโรงพยาบาลได้ในที่สุด อยู่หลายวันแล้ว เบื่อชะมัดเลย ที่สำคัญ ขา ของฉันก็หายแล้วด้วย ฉันรีบเดินไปหา ริวกับน้ำ ที่ตอนนี้ รอฉันอยู่ที่รถ แล้ว อยู่โรงพยาบาลหลายวัน นายคิว แตะอั๋ง ฉันบ่อยมาก ถือว่าเป็นคำขอบคุณที่ช่วยชีวิตฉันล่ะกันนะ นายคิว(นายต้นตาล)
“อย่าพึ่งกลับนะ เลี้ยงฉลองก่อน”เมื่อรถเข้ามาจอดหน้าบ้านฉัน ก็เอ่ยขึ้น
“ฉลองอะไร พลาย”น้ำที่เงียบมาตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาล เอ่ยขึ้น จะว่าไปทุกคนก็เงียบหมดแหละ =_=^
“อ้าววว ฉลองที่ฉันได้กลับบ้านไง อยู่ที่โรงพลาบาลเกือบอาทิตย์ แหนะ น๊าๆๆ ริว”ฉันหันไปอ้อน ริว ในที่สุดริวก็พยักหน้า ฮ่าๆๆ บอกแล้วมารยายัยพลายได้ผลกับริวสุดหล่อตลอด ฮึ ส่วนยัยน้ำจะเหลืออะไรหากพ่อเทพบุตรอย่างริวเอ่ยตกลง
“ก็ได้!!”
“งั้น เราไปซื้อของกัน ยัยน้ำแกอยู่บ้านเตรียมของ เดี่ยวฉันกับริวไปซื้อของ”ฉันรีบไล่ยัยน้ำให้เข้าบ้านไปเพื่อเตรียมของ ส่วนฉันกับริวได้ชอปปิ้งซื้อของกันสะที
ริวพาเราทั้งสองเข้าห้าง ไม่ไกลจากบ้านฉันเท่าไร่ ฉันรีบลากริว ไปที่ศูนย์ขายของกินทันที ร้านในห้างแห่งนี้บรรยากาศดีเนาะ โรเมนติกมากๆ ถ้าใครพาแฟนมากินไอติม หรืออาหารที่นี้ คงปลื้มสุดๆ ฉันคิดในใจ เมื่อเดินซื้อของเสร็จ แต่แล้วภาพที่ฉันเห็น
“เอ๋ ผู้ชายคนนั้น ทำไมถึงคุ้นๆจัง”ฉันเอ่ยเบาๆกับตัวเอง ฉันมองผู้ชายที่กำลังนั่งกินไอติมกับผู้หญิงคนนึง นั้นมัน นายคิว เนี้ยะ แล้วนั้นแพรว ฉันตกใจนิดๆ เมื่อทั้งสองหันมาทางที่ฉัน ยืนอยู่ ฉันรีบหันไปทางอื่น เพื่อไม่ให้ เขาเห็นหน้าฉัน ชิ!! คนอะไรอยู่ที่โรงพยาบาลก็อยู่กับฉันพอออกจากโรงพยาบาลก็อยู่กับผู้หญิงอีกคน ฮึ๊ย! เกลียดๆ คนหลายใจอย่างนายต้นตาล >;<
ในที่สุดฉันกับริว จึงตัดสินใจขับรถกลับบ้าน หลังจากที่ฉันเห็นภาพบาดตา แบบนั้น ฉันก็ไม่ค่อยคุยกับใคร ได้แต่เงียบ ฮึ๊ย พลายไม่อยากเงียบเหมือนป่าช้าที่ไม่มีใครแวะเวียนอย่างนี้ใครก็ได้ช่วยเอาพลายออกจากอาการซึมเศร้าบ้าๆนี่ที
“พลาย ทำไมหมู่นี้ แกเงียบบ่อยว่ะ อย่าเครียดสิ มา มา ช่วยกันทำเร็วรู้หน่าว่าอู้”ใช่ ทำไมหมู่นี้ ฉันจึงมีอาการผิดปกติบ่อยจัง ไม่ๆๆ อย่าเป็นแบบนี้สิ พลายยย!!
“ไม่ได้อู้ เฟ้ย คุณ ริวค๊า เสร็จรึยัง ค่ะ”ในที่สุด ฉันก็สลัดภาพเมื่อกี้ ทิ้งและหันไปสนใจ ริว ที่กำลังช่วยล้างผัก ฮ่าๆๆ ที่จริง ฉันกับยัยน้ำแหละ เป็นผู้ช่วย และริวเป็นพ่อครัว แต่ไม่มีใครอยากล้าง ริว ก็เลยทำเองเกือบหมด ฉันกับยัยน้ำ ก็ได้รอกิน ฮ่าๆๆ ^O^ มันเป็นความสุขเล็กๆของยัยพลาย จริงๆ
“อื้ม^_^” ริว รับคำแล้วหันมายิ้มให้ฉัน อึ้ย น่ารักอ่ะฉันลัยัยน้ำรีบเดินออกจากห้องครัว(ที่เคยมีโจรขโมยมาม่าฉัน)ทันทีเพราะไม่อยากให้ริวรำคาญหู รำคาญตาที่เราได้แต่เมาท์ตามประสาสาวสวยนั่นเอง-_-a
“แถ้น แถ้น แถนนนนน”ริวที่เป็นคนยกจานอาหารมานำเสนออาหารที่เขาได้ทำ ด้วยตัวเอง มาวางไว้บนโต๊ะ
“น่ากินอ่ะ กินแล้ว น๊า อั้ม งำๆ^ )+(^ ”อร่อย อ่า นายทำได้ไงอ่ะ \^{}^/
สุดท้ายพวกเราก็ลงเอยด้วยการ มานั่งเมาท์ ฉันกับริวก็ได้ระลึกเรื่องราวตอนเด็กๆ ส่วนยัยน้ำก็ ไม่ยอมแพ้ โม้เรื่องฉัน ตั้งแต่คบกันช่วงแรก ให้ริวฟัง อย่าโม้มากก็ได้นะเพื่อน เขาก็อาย น่ะ
“กลับน่ะ บายย”พอทุกคนคิดว่า มันเป็นเวลาสมควร ที่ควรกลับบ้าน ยัยน้ำก็รีบลาฉัน
“อื้ม เจอกันวันจันทร์ น่ะ น้ำ ริว ฝากเพื่อนฉันด้วย”ฉันรีบลายัยน้ำแล้วหันมากำชับริว
“อื้ม”ริวรับคำ แล้วขึ้นรถ รถจึงแล่นออกไปในที่สุด
เฮ้อ! อิ่มๆ เป็นบ้าเลย ฉันรีบเข้าบ้าน แล้วขว้าประตูจะปิด
ขวับ!!
“VOVเฮ้ย!!”ฉันเผลออุทานขึ้นมาเมื่อมีใครมารั้งประตูไว้
“นะ นาย คิวOoO!”ฉันเรียกชื่อเขา ด้วยความตกใจ ก็ดูสภาพเขาสิ โทรมเหมือนคนโดนทำร้ายเลย
“ช่วยฉัน หน่อย นะ พลาย”คิวที่ตอนนี้ เสื้อเต็มไปด้วยฝุ่น ขอร้องให้ฉันช่วย ฉันรีบประคองเขาเข้าบ้าน โดยลืมเสียสนิท ว่ากำลังโกรธเขาอยู่
“นาย ไปทำอะไร”ฉันถามเขาทันที เมื่อฉันเอายามาเพื่อทำแผลให้เขา แต่จริงแผลไม่ค่อยมีอะไรมากมายทีนิ นายโดนทำร้ายหรือว่านายไปนอนคลุกฝุ่นมาเนียะ
“ฉันเจอคนที่มีเรื่อง วันที่ฉันเจอเธอวันแรก นะ”นายหน้าอันธพาลที่เดินชนฉัน นะหรือ ผ่านไปเกือบเดือนแล้วนีหน่า ยังจำได้อีกหรอ-_-?
“อื้อ มาเดี่ยวฉันช่วยทำแผลให้”ฉันทำแผลให้เขาเสร็จ ฉันก็รีบไปเก็บกล่องยา แล้วมานั่งข้างๆเขา
“นี่พรุ่งนี้ ไปเที่ยวเอาไหม”ชวนไปเที่ยวอีกแหละ หน้านายยังไม่ค่อยดีนิหนาเดี่ยวไม่มีสาวมาจีบน๊า
“(-_- )( -_-)(-_- )( -_-)”
“ทำไม!!!”
“ก็เดียวนายพาแฟนเก่านายไปด้วย ใครจะไป”ฉันรีบตอบเขาทันที กลัวเขาจะโกรธขึ้นมา ฉันซวยแน่ๆ -_-^^
“ไม่พาหรอก ไปสองคน ไม่พาใครอื่นนอกจากแฟนคนเดียว^^”
“(-- --)(_ _)(-- --)(_ _)”
“งั้นฉันนอน นี้ นะ ไม่อยากกลับ ขับรถไม่ไหว”ฉันสงสารเขา จึงยอมให้เขาค้างที่นี้ แต่อย่างน้อยก็นอนคนล่ะห้องน๊า
ก๊อกๆๆ
“เสร็จแล้วๆ”ฉันรีบตะโกน ให้นายคิวที่ยืนเคาะประตูอยู่
แอ๊ดดด ฉันเปิดประตูแล้วเดินออกจากห้อง
“ไปกันรึยัง”นายคิวหันมาถามฉัน ทันทีที่ฉันออกจากห้อง
“อื้ม ไปสิ”ฉันรีบดึงแขนนายคิว ไปที่รถของเขา แล้วจะรีบเปิดประตู
“เดี่ยว!!”เขาดึงแขนฉันให้หยุด แล้วเขาก็เดินนำไปที่รถ แล้วเปิดประตูให้
“ขอบใจนะ”ฉันรีบขอบคุณเขาที่เปิดประตูให้ อ๊ายยย สุภาพบุรุษอ่ะ :D
การไปเที่ยวครั้งนี้ เขาพาฉันมาเที่ยวทะเลอีกครั้ง เพื่อเป็นการขอโทษ ครั้งที่แล้ว นายจำได้ด้วยออ แต่ก็ดี ฉันก็อยากมาทะเล มาเที่ยวแบบนี้ ตั้งนานแล้ว ล่ะ นี่ก็เป็นโอกาสเหมาะแล้ว ^{}^**
“ใส่รองเท้าเถอะ เดี่ยวได้แผลมาอีกหรอก”นายคิว รีบขัดฉัน เมื่อเห็นว่าฉันจะถอดรองเท้า
“อื้ม ก็ได้”ฉันก็ลืมไปเลย แต่ก็ดี นึกถึงวันนั้นแล้ว ขาเจ็บเป็นบ้าเลยยย U^U
“กลับกันเถอะ ค่ำแล้ว”ฉันรีบหันไปหานายคิว นายคิวหันพยักหน้ากับใครคนนึงที่เดินมาจากรถเขา มันแปลว่าอะไรหรอ - -??
“อื้ม ไปสิ”นายคิวรับคำ เฮ้ย!! ทำไม่ง่ายจัง ฟ่ะ แล้วนายคิวก็เดินจูงมือฉันไปที่รถทันที
“เฮ้ย! แบนได้ไงเนียะ ขอโทษ นะ พลาย”คิว ที่โวยวายผิดปกติมาขอโทษฉัน นายดูแปลกๆนะคิว แต่ฉันก็ไม่ว่าอะไรหรอก ก็มันเป็นเหตุสุกวิสัยนิ ไม่ได้มีใครต้องการให้เกิดหรอก(นอกจากนาย คิว)
“อื้ม ไม่เป็นไร แล้วจะไปไหนนั้น”ฉันรีบตามนายคิวที่เดินไปโดย ไม่รอฉัน เขาเข้าในสถานที่ แห่งหนึ่ง มันคล้าย Homestae เลยล่ะ
“ขอห้อง พักสองห้องครับ”นายคิว บอกพนักงาน ที่รอต้อนรับอยู่
“ขอโทษน่ะค่ะ มีเหลืออยู่แค่ห้องเดียว สะดวกรึปล่าวค่ะ”พนักงานหันมายิ้มให้ฉีนทีหนึง มันเป็นแห่งความยินดีอะไรสักอย่างนี้แหละ
“มะ มะ”ฉันจะรีบปฏิเสธ แต่.....
“สะดวกครับ^^”นายคิวบอกพนักงาน แล้วนายคิวก็หันมาพูดกับฉัน”เถอะ น๊า พรุ่งนี้ ก็กลับแล้ว ^_^”จะบ้าหรอนายคิว แต่ฉันก็จะอาลาวาดบ้านนายแตกแน่ ถ้าพนักงานไปบอกว่าห้องนี้มีสองเตียง
“นี่ก็ค่ำแล้วจะ ไปหาโรงแรมนอนที่ไหนนอกจากที่นี่”นายคิวก้มลงมากระซิบข้างหูฉันเบาๆ ไม่อยากให้พนักงานได้ยินล่ะมั่ง ฉันรีบพยักหน้าแบบไม่เต็มใจเท่าไร่นัก
หลังจากจัดการไปดูห้องเสร็จนายคิวก็ชวนฉัน เดินชายหาด ซึ่งฉันก็ตกลง เพราะฉันเองก็ไม่เคยเดินเล่นตอนค่ำแบบนี้เลย
ค่ำๆแบบนี้ นักท่องเที่ยวที่ออกมาเดินเล่นก็เยอะเหมือนกันนะ เพราะไม่ร้อนอากาศดีด้วยมั่ง
“พลาย”นายคิวเรียก ในขณะที่เขาถอดร้องเท้าแล้วนอนลง บนพื้นทราย นายนี่ก็ติดทราย นึกว่าจะไฮโซ ไม่กล้านอนสะอีก
“อื้อ”ฉันที่ทำตามนายคิว ตอบขึ้น อ๊า นอนบนพื้นทรายนี้ก็รู้สึกดีเหมือนกันแหะ *O*
“ทำไม เธอถึงตอบตกลงเป็นแฟนฉัน ล่ะ แล้วทำไมเธอถึงเข้าใจว่าเธอเป็นเครื่องมือของฉันล่ะ”จู่ๆนายคิวก็ถามคำถามนี่ขึ้นมา นั้นสิฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน
“ฉันก็ไม่รู้ เหมือนกันว่าทำไมฉันถึงตกลงเป็นแฟน ไม่รู้ว่าทำไมฉันต้องคิดว่าฉันเป็นเครื่องมือของนายกับพี่แพรว บางครั้งฉันก็เก็บมาคิดน่ะ ว่าทำไม แต่สุดท้ายฉันไม่เจอคำตอบมันสักที”ฉันพูดยาว จนนายคิวไม่กล้าขัดคำพูด จนฉันเอ่ยอีกครั้ง
“นายรู้ไหม ว่าทำไมฉันถึงลีกทางตลอด เวลาที่นายอยู่กับพี่แพรว ฉันคิดว่ามันเป็นโอกาสที่ดี ที่นายจะได้กลับมาคืนดี กับพี่แพรว ทำไมนายไม่ใช่โอกาสนั้นละ ฉันเองยังดูออกเลยว่าพี่แพรวนั้นก็ยังรักนายอยู่TT^TT”พอฉันพูดจบ ฉันก็รีบปาดน้ำตา ที่มันดันไหลอะไรตอนนี้ “เธอร้องไห้ หรอ ฉันสัญญาน่ะ ว่าหลังจากนี้ ฉันจะไม่ทำให้เธอคิดแบบนั้น ฉันจะไม่ทำให้เธอสับสน อีกไม่นานก็จะครบเดือนแล้ว เดี่ยวฉันก็จะบอกความรู้สึกจริงๆ ให้กับเธอคนนั้น”คิวพูดแล้ว ลุกขึ้นจากนอนมาเป็น นั่งแล้วหันมาทางฉัน “ไปนอนเถอะ เดี่ยวพรุ่งนี้ กลับเช้า เดี่ยวไม่ไหว”
ภายในห้องที่มีสองคนนั่งและนอนอยู่ มีแต่ความเงียบเท่านั้นที่ปกคลุมห้องนี้ ทำให้ฉันที่อ่อนหล้ากับการเที่ยวทั้งวัน หลับสนิทโดยปริยาย
ตอนเช้าของอีกวัน ฉันและคิวก็ขับรถเดินทางออกจากสถานที่แห่งนั้น มุ่งสู่เข้าในเมือง แล้วไปจอดที่หน้าบ้านฉัน ฉันเหลือบเห็นประตูเปิดอยู่ ริว คงมาบ้านฉันล่ะมั่ง ฉันเลยรีบลงจากรถ แล้วเดินเข้าบ้านไป ส่วนนายคิวก็เคลื่อนรถ ไปแล้ว
“ริว นายใช่ไหม”ฉันเดินไปที่ห้องครัว แทนที่ฉันจะเจอริว แต่กลับเป็น....... “ป้านิ่ม ป้านิ่มกลับมาแล้ว แล้วริวล่ะค่ะ”
“อ่อ ริวอยู่บ้านป้า จ๊ะ เก็บของอยู่”เก็บของ นายริว ทำบ้านป้ารก แน่เลยๆ ถึงต้องเก็บของ ฮ่าๆฉันนึกว่านายจะรักความสะอาดสะอีก ^^“ริว ทำบ้านป้ารก มากใช่ไหมค่ะ ถึงต้องเก็บของ อิอิอิ ”ฉันที่เดินไปยิบน้ำ กำลังจะดื่ม แต่ก็ชะงักในสิ่งที่ป้านิ่มเอ่ยขึ้นมา “ริวเขาจะกลับญี่ปุ่นแล้ว”ป้านิ่มพูดกับฉัน ในขณะที่ฉันก็รีบวิ่งไปบ้านป้านิ่ม เพื่อไปหาริว
“นายแก้มเปียก!!!!” ฉันตะโกนเรียกริว ทันที ที่มาถึงหน้าประตูบ้านของป้านิ่ม
“ว่าไง ยัยลูกชิ้น^_^”ริวหันมายิ้มให้ฉัน ฉันรู้น่ะว่านายแกล้งฝืนยิ้มน่ะ
“นายจะไปทำไมไม่บอกฉัน ฮึก ฮือๆT_T” ฉันพูดทั้งๆที่น้ำตากำลังไหลอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
“ฉันจำเป็นต้องกลับ เธอก็รู้ว่าฉันมาที่นี้ ทำไม และมันก็หมดหน้าที่ฉันแล้ว”เสียงริว ดูเรียบและเบา เหมือนจะร้องไห้
“ฉันจะขอป้านิ่มให้นายอยู่กับฉันที่นี้ ได้ไหม”เสียงของฉันค่อยๆเบาลง
“ฉันไม่มีทางเลือกหรอก ที่ฉันมาครั้งนี้ มันก็อาจเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว”ริว ที่ตอนนี้ดูจัดของเสร็จแล้ว เดินมาหาฉันและกอดฉัน “ฉันไม่ขอให้เธอรักฉันนะพลาย แต่สัญญาได้ไหม ถ้าฉันมาหาเธอ ถึงแม้ว่าเมื่อไร่ กี่เดือน กี่ปี เธอจะจำฉัน ฉันขอให้เธอ อย่าลืมผู้ชายคนนี้ และวันไหนที่เธอเสียใจฉันขอให้เธอคิดถึงฉันอีกสักคน แค่นั้น พลาย ได้ไหม”ริวเอ่ยในขณะที่สวมกอดฉัน
“แต่นายสัญญาได้ไหมว่า นายจะมาหาฉัน ริว”ฉันที่เงียบ และฟังริวพูดตั้งนานก็เอ่ยขึ้น
“ได้สิ อย่าร้องไห้น๊า ยัยลูกชิ้น ฉันต้องไปล่ะ”ริวรับปากฉันและคลายกอด ริวปาดน้ำตาให้ฉัน แล้วกล่าวเอ่ยลา “ป้าครับ ผมกลับน่ะครับ ไปน่ะยัยลูกชิ้น”ริวที่ไปไหว้ป้านิ่ม ก็มาเอ่ยลาฉันอีกครั้ง “นายแก้มเปียก!!”ฉันตะโกนเรียกริวอีกครั้งและก็ทำให้เขาหันมายิ้ม^^ แล้วโบกมือลา ฉันนั่งมองริวขึ้นรถ จนรถเคลื่อนตัว และลับตาในที่สุด ฉันนั่งฟุบกับพื้นและร้องไห้ออกมาอย่างหนัก
Riu Say ;
ตอนนี้ผมกำลังเคลื่อนที่มุ่งสู่ สนามบิน เพื่อกลับไปญี่ปุ่น ตอนแรกผมนึกว่าผมจะไม่เจอเธอก่อนกลับสะแล้ว แต่ยังดีที่ฟ้าไม่ใจร้ายกับผม ในที่สุดเธอก็กลับมาทันก่อนที่ผมจะกลับไปและไม่เหฌนหน้าเธออีก
“ยัยลูกชิ้น ทำไมเธอถึงชอบกินลูกชิ้นล่ะ”เด็กผู้ชายที่หนีพ่อกับแม่ไปเล่นกับเธอบ่อยๆเอ่ยขึ้น ในขณะที่เรากินก๋วยเตี๋ยวอยู่
“ไม่รู้ สิ ฮ่าๆๆๆ>{}<!!” จู่ๆเธอก็หัวเราะขึ้นมา โดยที่ผมเองก็ยังสงสัยว่าเธอหัวอะไร
“แก้ม นายเลอะน่ะ คนอะไรเป็นผู้ชายกินเลอะด้วย ดูสิ แก้มนายเปียกเลย อ่ะ ฮ่าๆๆ”และเธอก็ยังหัวเราะ แต่เธอก็ยังยื่นทิชชูมาให้ผม และหลังจากนั้นถ้าผมก็เรียกเธอ ยัยลูกชิ้น เธอก็จะเรียกผมว่า นายแก้มเปียก ผมสุขใจทุกครั้งที่เธอเรียกผมว่าแก้มเปียก ผมเป็นเด็กที่แกแดดจริงๆเลยมีความรักตั้งแต่แปดขวบ น่าอายชะมัด^_^+
แต่ความสุขของผมก็อยู่กับผมได้ไม่นาน แม่ผมต้องย้ายไปอยู่ญี่ปุ่นไปอยู่กับพ่อ ตอนแรกผมไม่อยากไปแต่ทางบ้านของผม ย้ายไปหมด แม้แต่ป้านิ่ม ตอนแรกป้าก็อยู่ที่ญี่ปุ่น แต่ป้าต้องกลับไปสานงานต่อที่เมือง ตอนแรกๆที่ป้านิ่มกลับมาเมืองไทย ผมอ้อนแม่ของผมให้กลับ แต่แม่บอกว่าไม่ได้จะเสียการเรียน จนผมไม่ยอมออกมากินข้าว ในที่สุดแม่ของผมก็เห็นผมในสภาพแบบนั้นไม่ได้ จึงเอ่ย ประโยคที่ทำให้ผมมีความหวังขึ้นมา
“ถ้าลูกทำคะแนนเรียนดี วันนึงแม่จะพาลูกกลับเมืองไทย”ตอนแรกผม ว่าผมไม่มีโอกาส กลับไทยแน่ๆ เพราะการมาเรียนที่ญี่ปุ่นมันไม่ง่ายขนาดนั้น แต่ผมก็พยายามจน ได้ในที่สุด(ถึงแม้มันจะช้าก็เถอะ) หนึ่งวันก่อนที่ผมจะมาเมืองไทย ผมได้แต่มองรูปภาพของเธอ และขอให้เธอจำผมได้ และเธอก็จำผมได้ในที่สุด
^_^” ผมเผลอยิ้มออกมาในขณะที่ผมนึกถึงวันแรกที่ผมเจอยัยลูกชิ้น เธอเอาไม่กวาดตีผมไม่ยั้งเลย แต่ผมคิดว่ามันคุ้ม นะ กับการที่เธอเรียกผมว่า นายแก้มเปียก นั้นมันแปลว่ายัยลูกชิ้นยังผมได้แม่นเลย
แต่ฟ้าก็ไม่เคยเห็นใจผมทั้งหมด วันที่ผมลงทานข้าวกับยัยลูกชิ้นและเพื่อนของเธอ เธอขอตัวไปห้อง น้ำ ผมเป็นห่วงเธอ จึงตามไป และภาพที่ผมเห็น ทำให้ผมรู้สึกว่ามีก้อนหินแข็งๆก้อนใหญ่ๆจุกอยู่กลางอก ผมออกจากที่แห่งนั้นแล้ว ต่อยผนังเพื่อระบายความเจ็บปวด แต่ผมดันโกหกเธอว่าผมล้มพื้น เพื่อไม่ให้เธอสงสัย
และวันที่ผมรู้ว่าเธอกำลังคบกับรุ่นพี่ คนนึง ผมก็เกิดอาการไม่พอใจ ผมไม่ได้ไม่พอใจเธอน่ะ แต่ผมไม่พอใจรุ่นพี่คนนั้น และผมรู้สึกหมดโอกาสในตัวเธอผมพลาดแค่นิดเดียวผมมาช้าเกินไป
“น้ำ ยัยลูกชิ้น เอ่อ พลายนะคบกับรุนพี่หรอ”
“อื้อ”
“เมื่อไร”
“ก่อนที่นายมาวันเดียวเอง”
“ทำไมหรอ??”
“ปล่าวๆ”
ผมว่าน้ำเพื่อนสนิทของยัยลูกชิ้นต้องรู้แน่ๆว่าผมคิดยังไงกับยัยลูกชิ้น แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนักเพราะเองก็อยากให้ยัยลูกชิ้นเองรู้เหมือนกันจนก่อนวันที่เราจะไปทัศนะผมดันสารภาพความรู้สึกของผมให้ยัยลูกชิ้นรู้ ผมนึกอยู่แล้วละว่ายัยลูกชิ้นไม่ได้คิดอะไรกับผมแต่ผมก็ต้องบอกเพราะผมต้องกลับญี่ปุ่นในไม่ช้านี่แล้ว ฮึ! อย่างที่ผมเดาไม่มีผิดยัยลูกชิ้นปฏิเสธผม ผมรู้สึกว่าโลกทั้งใบมันไม่น่าอยู่เอาสะเลย รู้สึกเหมือนน้ำตามันจะไหลแต่ก็ไหลไม่ได้ เหมือนอยากตะโกนดังๆออกมาแต่เสียงของผมดันไม่ยอมปล่อยออกมา มันรู้สึกอึดอัดและเจ็บปวดที่สุดเท่าที่ผมเคยสัมผัสมา แต่สุดท้ายผมก็เข้าใจยัยลูกชิ้นและยอมหลีกทางให้รุ่นพี่นั่นเพราะผมรู้ดีว่ายัยลูกชิ้นรักรุ่นพี่คนนั่น จนวันนึง ผมเข้าไปถามรุนพี่ว่าเขารู้สึกยังไงกับยัยลูกชิ้น แต่คำตอบที่ผมได้จากรุ่นพี่คนนั้น ทำให้ผม อดทนอดกลั้นความรู้สึกไม่ได้ ผมอัดรุ่นพี่คนนั้น แต่ยัยลูกชิ้นดันมาเห็นและห้ามเราสองคนไว้ตอนแรกผมคิดว่าเธอจะโกรธผมสะอีก แต่ไม่เลยเธอดันโกรธรุ่นพี่แทน ตอนแรกเธอดูเงียบๆ ผมไม่ค่อยสบายใจกลัวว่าเธอจะโกรธผม แต่สุดท้ายเธอก็กลับมาร่าเริงอย่างยัยลูกชิ้นของผมเหมือนเดิม แต่คืนก่อนวันที่ผมจะกลับ ผมไปหาเธอ
“ยัยลูกชิ้นอยู่ หรือปล่าว^_^”ผมเดินไปหาเธอที่ห้องผมก็ไม่พบ ผมจึงเดินไปอีกห้องหนึ่งซึ่งเป็นห้องของแขกรุ่นพี่ ที่ยัยลูกชิ้นเปิดให้อยู่ แต่พอผมเปิดประตู ผมไม่เห็นใคร ผมเลยตัดสินใจกลับบ้านป้านิ่ม แทน พอดีกับป้านิ่มมาถึงพอดี
คืนนั้นผมนอนไม่กลับ ผมมัวแต่กลัวว่าเธอกลับไม่ทัน ที่ผมจะไป แต่เสียงนึ่งของวันใหม่ เธอเรียกชื่อของผม สะไกลเชียว
ผมได้แต่ฝืนยิ้มให้เธอ กลัวเธอจะร้องไห้ แต่ในที่สุดเธอก็ร้องไห้ จนผมรู้สึกผมอยากกอดเธอก่อนที่ผมไม่รู้ว่าผมเองจะได้กลับมาหาเธออีกรึปล่าว ผมดีใจน่ะที่เธออยากให้ผมอยู่ต่อ และผมก็ดีใจอย่างน้อย ผมก็สำคัญในสายเธอ
ผมหยุดความคิดลง เมื่อถึงสนามบิน ผมเดินเข้าไปทางเข้า แล้วผมก็ยิ้มเมื่อผมรู้สึกว่ามีใครเรียกชื่อผม “นายแก้มเปียก”
ชื่อนี้เป็นชื่อที่เธอ ยัยลูกชิ้น เป็นคนตั้งให้ ผมไม่ยอมให้ใครเรียกผม และผมก็จะไม่ลืมชื่อนี้และชื่อ”ยัยลูกชิ้น”
หลังจากที่ริวกลับไปชีวิตฉัน ก็กลับมามัวหมองอีกครั้ง ฉันตัดสินใจไปเรียนในวันจันทร์ จนยัยน้ำต้องหันมาถามฉันเมื่อไม่เห็นบอดีการ์ดสุดหล่อข้างๆ
“พลาย ริวไม่สบายหรอ ทำไมไม่มาเรียนล่ะ”ยัยน้ำถามขึ้นมา ด้วยน้ำเลียงที่เป็นห่วง
“ปล่าว ริวกลับญี่ปุ่นแล้ว น้ำ ฮึก ฮือ ฉัน...”ฉันเรียกชื่อยัยน้ำ แล้วร้องไห้ออกมา
“แกไม่ต้องโทษตัวเอง แกไม่ผิดหรอกที่แกไม่ได้รักเขา มันไม่ใช้ความผิดของแก พลาย”ยัยน้ำรีบตอบ ยัยน้ำรู้หรอว่าริวคิดยังไงกับฉัน ฉันรู้สึกว่าฟ้าชั่งเป็นใจให้ฉันเหลือเกิน ตอนนี้ฉันกับยัยน้ำอยู่ในห้องกำลังกอดกันอยู่ ยังไม่มีใครเข้ามาเรียนเลย
“ไปๆ ล้างหน้าล้างตาเถอะ”ยัยน้ำชวนฉันลุก แล้วเดินพาฉันไปห้องน้ำ ระหว่างที่ฉันเดิน ฉันเห็น คิวกับพี่แพรวนั่งทำการบ้านที่ม้านั่งด้วย พี่แพรวหันมามองหน้าฉันครั้งหนึงแล้วหันไปคุยกับคิวต่อ
ครืด ครืด
ขอบคุณนะสำหรับที่ผ่านเธอคงเห็นแล้วว่า ฉันเลือกใคร
นี่ข้อความของใครกันนะ นี่มันเบอร์เก่าคิวนี่หน่า ฮึ! นายไม่ต้องส่งมาฉันก็รู้ก็เห็นอยู่ตำตานิ ฉันตัดสินใจลบข้อความทิ้งเพื่อไม่ให้ยัยน้ำรู้
ฉันไม่อยากคิดอะไรมากกว่า เรื่องของริว อีกแล้ว ที่จริงวันนี้เป็นวันครบกำหนด ที่แม่และพี่พามกลับบ้าน และยังเป็นวัน สัญญาระหว่างฉันกับคิว หมดลง ฉันจึงไม่ค่อยแปลกใจ แต่ก็เจ็บที่เห็น คิวถึงได้อยู่กับแพรว
วันนี้ ฉันเรียนไม่ค่อยรู้เรื่อง จนถึงคาบสุดท้าย ฉันจึงขอยัยน้ำกลับบ้าน ยัยน้ำที่จริงก็ไม่อยากทิ้งฉัน แต่ยัยน้ำต้องรีบไปหาอาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อคุยเรื่องทุน ฉันเลยบอกกับน้ำไปว่า ฉันไม่เป็น ยัยน้ำจึงปล่อยฉันกลับไป
“Hi ลูกพลาย วันนี้แม่กับพามกลับมาแล้ว น่ะ นี่แม่ซื้อของมาฝากลูกเยอะแยะเลย”แม่ที่เห็นฉันเดินเข้าบ้าน ก็เดินเข้ามาทักและชูของที่ซื้อมา
“แม่ค่ะ เวลาคนอกหักเจ็บไหมค่ะ ว่าไงค่ะพี่พาม”ฉันถามแม่ แต่แม่ดันเงียบ ฉันเลยหันมาถามพี่พามแทน “พลาย แกไม่เข้าใจคำรักหรอก คำว่ารักจริงๆ มันไม่ได้อยู่ที่การครอบครอง ไม่งั้นแม่คงอยู่ไม่ได้จนถึงวันนี้สิ ใช่ไหมครับแม่”พี่พามที่ดูจะเข้าใจดี มาอธิบายให้ฉัน แล้วหันไปถามแม่
“ใช่ ไม่งั้นแม่ คงตายตั้งแต่วันที่พ่อเสียแล้ว จริงไหมลูก”แม่ที่เอ่ยขึ้นมา มากอดฉัน พี่พามก็มากอดฉันด้วย
“รักน่ะ มีดีน่ะลูก แต่รักก็เป็นพิษได้กับคนที่มีแต่ใช้ไม่เป็น”แม่ผู้ที่เข้าใจเราและอยู่เคียงข้างเรามาตลอด เอ่ยขึ้น
“ถ้าวันนี้ พลายเหนื่อยมากก็ไปนอนสะ”พี่พามเป็นคนกล่าวให้ฉันพักผ่อน ฉันก็รับคำและเดินขึ้นห้องพอดี
เช้าวันต่อมา
พลาย วันนี้เธอต้องคุยกับนายคิว นั้นให้รู้เรื่องให้ได้ ฉันคิดได้ดังนั้น ฉันจึงรีบวิ่งแจ้นไปนอกบ้าน และบึ่งไปโรงเรียนทันที โดยไม่สนใจที่แม่ร้องทักขึ้นมา
“ลูก พลายทานข้าวก่อน ลูก อะไรกันนะ ลูกคนนี้ เมื่อคืนยังร้องไห้อยู่เลย”แม่พึมพำเบา แล้วส่ายหัวกับนิสัยของฉัน
“ชั่งเถอะครับแม่ เห็นน้องเป็นแบบนี้ก็ดีกว่าเมื่อคืนเป็นไหนๆ”พี่พามที่เดินถือจานมากล่าวกับแม่
ฉันเดินเข้ามาในโรงเรียน เอะ! วันนี้ฉันใส่เสื้อขาดหรอ หรือว่าลืมเสื้อไม่เรียบร้อยโอ้ยยยย อย่ามอง พลายด้วยสายตา แบบนั้นได้ไหม ค่ะ พลาย ตั้งตัวไม่ติดน่ะค่ะๆ ฉันที่คิดในใจว่าทำไมนักเรียน ถึงได้มองฉันแปลก อึ้ย ใครก็ได้ช่วยบอกที ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับฉัน ฉันรีบเดินขึ้นห้องเรียนเพื่อไม่เป็นเป้าสายตาให้ใคร เอะ หรือวันนี้ ฉันสวย น่ะ (-_-*)
“น้ำทำไมวันนี้ ทุกคนมองฉันแปลกๆล่ะ แกรู้ไหมเพราะอะไร”ฉันเดินไปถามยัยน้ำทันที ที่มาถึงในห้อง
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน วันนี้แกร่าเริงได้ล่ะมั่ง คนเขาถึงสนใจแก”ยัยน้ำพูดเหมือนมีอะไรแฝงข้างใน แกมีอะไรปิดบังหรอยัยน้ำ
“หัวหน้าค่ะ มีรุ่นพี่มาขอพบค่ะ”เพื่อนของฉันที่อยู่ใกล้ประตู เรียกฉัน รุ่นพี่หรอ ต้องเป็นนายแน่ๆ นายคิว ตึก ตัก ตึก ตัก ใจฉันเต้นแรงมาก ก็ดีเหมือนกัน จะได้เคลียร์ ให้จบๆไปเสียที
“ทางนี้ดีกว่า ตรงนี้ไม่ค่อยสะดวก”รุ่นพี่ ที่มาขอพบฉัน เดินนำก่อนหน้าไปแล้ว ฉันเติมเธอไป พี่แพรวมาหาฉันทำไม นะ
“มีอะไรค่ะ”ฉันถามแพรวทันที ที่เรานั่งเรียบร้อยแล้ว
“ฉันแค่อยาก ข้อร้องเธอได้ไหม”
“......”
“เธอปล่อยคิว ช่วยคิวกลับมาหาฉันหน่อยได้ไหมเธอก็รู้ว่าที่ผ่านมาเธอกับเขามันคืออะไร แต่ทำไมเขายังไม่มาบอกฉันล่ะ เธอช่วยหน่อยน่ะพลาย ฉันยังรักเขาอยู่”พี่แพรวที่ตอนนี้เธอไม่กล้าแม้ แต่จะสบตากับฉัน ฉันได้แต่นั่งมองพี่แพรวที่ตอนนี้เธอเหมือนจะร้องไห้โดยไม่ต่างไปจากฉัน ฉันเองก็ต้องรีบควบคุมบ่อน้ำตาด้วยเหมือนกัน
“พี่แพรวเข้าใจผิด แล้วล่ะค่ะ พลายกับนายคิว นั้นไม่ได้เป็นอะไรจริงๆหรอกค่ะ มันเป็นแค่การไถ่โทษ”
“พลายกับนายคิว ต่างไม่ได้คิดอะไรทั้งนั้น แล้วอีกอย่างสิ่งที่นายคิวขอพลายเป็นแฟนมันเป็นแค่พิสูจน์อะไรบางอย่างเท่านั้นเอง เมื่อวานเขายังส่งเมสเสจให้พลายเลยว่าเขาเลือกพี่แพรว”ฉันหันไปยิ้มให้พี่แพรว มันเป็นยิ้มฝืดๆ แต่ขออย่าให้พี่แพรวจับได้เถอะ
“อื้ม ฉันก็หวังว่าเป็นอย่างนั้นนะ”พี่แพรวที่ลุกขึ้นแล้วหันมายิ้มให้ฉัน มันเป็นรอยยิ้มแห่งความหวัง ขอให้โชคดีน่ะค่ะพี่แพรว นายคิว
หลังจากนั้น หนึ่งอาทิตย์ ข่าวคิว รีเทิร์นพี่แพรวเป็นข่าวที่ฮือฮากันทั้งโรงเรียน ส่วน คิว นายหายเงียบไปเลยนะ นายไม่คิดเข้ามาปรับความเข้าใจ ให้ฉันได้รับรู้บ้างเลยหรอ ว่าสิ่งที่ฉันทำมันส่งผลดีกับนายแค่ไหน นายควรขอบคุณ ฉันและควรยุตติความสัมพันธ์ของเราไว้แค่นี้ แต่นายกลับหายไป นายใจร้ายมากเลยน่ะ คิว
ฉันที่เดิน ออกจากโรงเรียนในเวลาเกือบ 18.00น. แล้วหลังจากที่ฉันโดนทำโทษ เผลอทำผลงานวิทยาศาสตร์ของอาจารย์คาบวิชาพังตอนส่งงาน ก็ใจมันไม่ได้อยู่กับเนื้อกับตัวนิ อาจารย์เลยให้ทำความสะอาดตึกคนเดียว แต่ยัยน้ำก็ถือโอกาสช่วยฉัน ฉันตัดสินใจ เดินไปเรื่อยๆ ตอนนี้ก็ใกล้ค่ำแล้ว ฉันเดินไปถึงสาธารณะ แห่งหนึ่ง ก็มีใครคนนึง ดึงแขนฉัน จะว่าไปเรียกว่าฉุด นั่นแหละ ฉันหันไปมองหน้าคนร้ายที่กำลังลากฉันไปพ้นจากสายตา ผู้ที่เดินผ่าน
“นายจะพาไปไหน”ทันทีที่เขาปล่อยแขนฉัน ฉันก็ถามเขาทันที
“.....”คิวไม่ตอบได้แต่เงียบ
“ทำไม”จู่ๆนายคิวก็ถามคำถามนี้ขึ้นมา
“นายสิ ทำไมนายถึงใจร้ายกับฉัน นายไม่เคยจะบอกฉันด้วยซ้ำ ว่านายคิดยังไงกับฉัน นายคิดจะกอด นายก็กอด นายคิดคิดจะลากฉันไปไหนมาไหน นายก็ลาก ไม่สนใจ ฉันสักนิดว่าฉันจะคิดยังไง จะรู้สึกยังไง แล้วนายเองจะถามว่าทำไม ได้ยังไง”ฉันว่านายคิว พลางปาดน้ำตาพลาง T^T
“พลาย”นายคิว เอ่ยชื่ฉัน เบาๆ
“เรียกทำไม!!”
“ฉันขอโทษ ที่ทำให้เธอเสียใจ วันนี้ไงฉันจึงมาขอโทษที่ทำให้เธอลำบากใจ ที่ฉันลากเธอมาวันนี้ ฉันก็เพียงอยากบอก ว่า ฉันจะมายุตติที่เราคบแบบไถ่โทษ แต่ฉันก็มีความจริงที่ฉันเองก็สงสัยมานานแล้ว แล้วฉันก็แค่อยากให้เธอ รู้ ว่า ฉัน..............รัก.......เธอ” นายคิวพูดเสียงเบา
“แล้วพี่แพรวล่ะ นายใจร้ายมากเลยน่ะคิวนายทำร้ายจิตใจฉันไม่พอ นายยังทำร้ายพี่แพรวอีก นายเป็นคนยังไงกันแน่นายคิว ”
“ครั้งหนึ่ง ที่ฉันเคยเกลียดนาย ฉันเองคิดว่าฉันเข้าใจผิด แต่ตอนนี้ไม่เลย นายมันก็แค่ผู้ชายที่ชอบใช้เสน่ห์หลอกสาวไปวันๆ หวังให้สาวหลง พอเถอะคิว ข้อร้องล่ะ นายหยุดที่พี่แพรวเถอะ ในเมื่อนายเองเป็นคนส่งข้อความให้ฉันว่านายเลืกพี่แพรวนายจะเอาอะไรอีก ฮ่ะ! นายจะเอาอะไร!!”ฉันรีบปาดน้ำตา ฉันไม่รู้ว่าสิ่งที่นายพูดว่ารักฉันมันจริงหรือปล่าว แต่ฉันนึกถึงคำพูดของพี่พาม รักไม่ใช้การครอบครอง รักคือเราเห็นเขามีความสุข เราก็สุขด้วย
“ฉันไม่รู่ว่าเธอจะเกลียดฉันขนาดนี้ ฉันขอโทษ ที่ทำให้เธอลำบากใจตลอดระยะเวลาที่ฉันเราคบกัน”
“ใช่ สิ่งที่ผ่านมามันเป็นเรื่องโกหก หลอกเด็กปัญญาอ่อนอย่างฉันเองแหละ”ฉันรีบหันไปอีกทาง เพื่อไม่ให้นายคิวเห็นน้ำตาฉัน
“ฉันขอโทษ แต่ถ้าการที่เธอไม่เจอฉัน แล้วทำให้เธอสบายใจ ฉันก็ยอม ลาก่อนน่ะพลาย ฉันรักเธอ”สุดท้ายนายก็ไม่ได้จริงจังกับฉัน ถ้านายรักฉันจริงทำไมนายไม่สู้ แต่ประโยค สุดท้ายนายพูดอะไร ฉันไม่ได้ยิน
ฉันปาดน้ำตา และมองแผ่นหลังของเขาที่เดินค่อยๆๆหายไปในความมืด จนในที่สุดฉันไม่เห็นแม้แต่แผ่นหลังของเขา
“พลาย แกไปทำไรมา รู้ไหมคนเขาเป็นห่วงแกทั้งบ้านเลย”ยัยน้ำแกมาบ้านฉันได้ไงT_T??
“พี่พามโทรบอกฉัน ว่าแกยังไม่กลับ ฉันเลยรีบมา”
“น้ำแม่ฝากพลายด้วยน่ะลูก พามยัยพลายกลับบ้านแล้วลูก”แม่ที่ถือโทรศัพท์คุยกับพี่พาม หันมาเอ่ย กับยัยน้ำ
“ว่าไง ทำไมแกร้องไห้ ใครทำอะไรแกฮ่ะ”
“ฉันเจอคิว คิวเขาบอกรักฉันฉัน....”ฉันพูดและปาดน้ำตาที่ตอนนี้มันจะไหลเป็นเลือดแล้วมั่ง
“แล้วแกดีใจ จนร้องไห้หนักเลยหรอ^O^”ยัยน้ำเผลอยิ้มกับการที่คิดว่าฉันจะสมหวัง แต่ไม่เลยน้ำ ไม่มีทางอีกแล้ว
“ฉันปฏิเสธเขา แต่ถ้าวันนั้น แกเห็นพี่แพรวที่เดินมาร้องไห้ต่อฉัน เธอ ฮึก! บอกให้ฉันปล่อย ฮึก! เขา ฉันไม่อยากทำร้ายใคร น้ำ ฮึก! ฮือๆ แล้วไอยังเมสเสจบ้า ฮึก อะไรนั้น ฮึก อีก ที่นายคิวส่งทา ฮึก เป็นแก แกจะรู้สึกยังไง”
“เมสเสจอะไร”
ฉันยื่นเมสเสจที่นายคิวส่งมา ให้ฉัน ฮึ! ฉันเองก็ไม่กล้าลบมันหรอกหวังว่ามันคงเป็นเครื่องเตือนที่ดีสำหรับฉัน ที่จะทำฉันได้เข็มแข็งขึ้น
“ฉันเข้าใจ แกน่ะน้ำ แกทำถูกแล้วล่ะ นายนั้นเลือกยัยพี่แพรวนั้น ซึ่งสิ่งที่แกทำยังงี้ได้คือปล่อยคิวไป แล้วยัยพี่แพรวทำแบบนั้นได้ ยอมข้อร้องแกหมายถึง แพรวอาจจะรัก คิว มากกว่าแก ก็ได้ เพราะยัยพี่แพรวเลือกที่จะต่อสู้ เพื่อรัก ไม่ใช่เสียสละอย่างแก”น้ำที่นั่งปลอบใจฉัน ขอบใจมากน่ะ อย่างน้อย แกก็ไม่ทิ้งฉัน
ใช่รักมันต้องต่อสู้ แล้วฉันเลือกที่จะเสียสละ แปลว่าฉันอาจรักเขาไม่พอ “ไป อาบน้ำนอน เดี่ยวฉันนอนเป็นเพื่อน”ร้อยวันพันปี ยัยน้ำไม่เคยคิดจะนอนค้างบ้านฉัน ฉันคงโทรมมากใช่ไหม น้ำแกถึงไม่กล้าทิ้งฉัน นะ
อาทิตย์หนึ่งสินะที่ฉันขาดเรียน ฮึ! บ้าชะมัดความรักมันทำให้เสียการเรียนอย่างนี้นี่เอง
จากการร้องไห้หนักของทุกๆวัน ทำให้ฉันหน้าบวม และเศร้าในที่สุด ก็มีแต่ยัยน้ำ แหละที่เข้าใจและช่วยปลอบฉัน
แต่สุดท้ายอาการฉันก็ดีขึ้นเรื่อยๆ คงจะเป็นสาเหตุที่ว่านายคิวไม่ได้โผล่มาให้ฉันเห็นสิน่ะ จริงสิ หลังที่ฉันไม่มาเรียนหนึ่งอาทิตย์ ฉันก็ไม่เห็นโผล่มาแม้แต่เงาเลย ลืม ไป เขาเคยบอกว่าเขาจะไม่โผล่มาให้ฉันเห็นนิหน่า จะว่าไปนี่มันก็หลายเดือนแล้วน่ะ นายไม่เห็นมาโรงเรียนเลย หลายครั้งที่ฉันแอบหลบห้องเรียน อ้างยัยน้ำว่าจะไปห้องน้ำ ฉันก็แอบผ่านห้องนาย แต่ไม่เคยเห็นนายมาโรงเรียนเลย แล้วพี่แพรวก็ไม่มาเรียนด้วย ฮึ คงไปสวีทสวาทกันละมั่ง
ริวฉันคิดถึงนายแล้วนะ ฉันก็ยังมีนายอยู่ไม่ใช่หรอ ถึงฉันอาจจะรักนายไม่ได้แต่ฉันก็ยังนึกถึงนายอยู่ นายริว!!!!!!
ณ ประเทศ ญี่ปุ่น......
“ฮัดชิ้ว!! ใครคิดถึงผมเนียะ หรือว่ายัยลูกชิ้นนะ ^_+”
จากเดือนก็กลายเป็นปี ฉันก็กลับมาเป็นยัยพลายจอมกวนคนเดิมได้ในที่สุด O^_^ O ถึงแม้ว่าในใจฉันจะยังไม่ลืมใครคนนั้นแต่ ฉันก็จะไม่ทำร้ายตัวเองหรอกก
ตอนนี้ ฉันก็อยู่มัธยมศึกษาปี่ที่ หก แล้วล่ะ ฮ่าๆๆ อีกไม่กี่เดือนก็จะจบแล้ว^O^!! มันชั่งรวดเร็วยังกับอนุภาพเรืองแสงแหนะ พี่พามตอนนี้ก็ไปเรียนที่ฝรั่งเศส ฮึ่ม!! ที่แท้ตอนที่แม่ที่ฉันแม่กับพี่พามก็ไปติดต่อที่เรียน ที่พัก พี่พามไปตอนที่ฉันขาดเรียนเป็นอาทิตย์นั่นแหละและฉันก็ตัดสินใจว่า ปิดเทอมนี้ ฉันต้องบินไปเที่ยวที่นั้นแน่ ซึ่งพี่พามก็รับปากแล้ว>O<!!
“พลาย ยินดีด้วย เราจบ ม หกแล้ว”ยัยน้ำที่เดินถือดอกไม้ช่อใหญ่ ยื่นมาให้ฉัน
“เช่นกัน”ฉันยื่นตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ให้ยัยน้ำเช่นกัน
“แล้วจะบิน เมื่อไร นะ”
“พรุ่งนี้”
“ทำไมมันเร็วนักละ”
“มันมีเทศกาลอะไรสักอย่างที่นั้น พี่พามให้บินเร็วๆกลัวไม่ทัน”
“อืม”
“แกไม่โกรธฉันนะ”
“อื้ม อย่าเศร้าดิ มาถ่ายรูปกัน จบสักทีไอ ม หกนี่ เย้ๆๆๆๆๆ”ยัยน้ำที่ซ่อนกล้องไว้ด้านหลังเก็บภาพ แช!!ะ แชะ!! แชะ!!
ณ สนามบิน.....
“ไปน่ะค่ะแม่ ไปน่ะน้ำยัยบ้าคนหล่อ”
“จร๊าเดินทางด้วยสวัสดิ์ภาพนะลูก”
“ย๊ะ ยัยพลาย เดินทางด้วยสวัสดิ์ภาพนะ”
“อื้ม บาย”
“พลายอย่าลืมซื้อของฝากน!!! =O=ะ”ยัยน้ำที่ตะโกนด้านหลังฉัน เมื่อเห็นฉันเดินเข้าทางเข้า
“^_^”
ณ สนามบินที่ฝรั่งเศส.....
“ยัยพลาย พลาย!! พี่อยูทางนี้”ทันทีที่ฉันออกจากประตูทางออก พี่พามก็เรียกชื่อฉันสะลั่นเชียว พี่หัดอายคนมั่งพี่ แต่ที่นี่มันฝรั่งเศษคงไม่มีใครฟังรู้เรื่องหรอก
“พี่พาม!!!”ฉันรีบวิ่งไปกอดพี่พามทันที
“แนะ โตขึ้นนะเรา ตั้งปีหนึ่งแนะที่เราไม่เจอกันสวยขึ้นเยอะเลยเรา”
“ค่ะ ว่าแต่มีจีบแหม่มที่นี่หรือปล่าวเนียะ เดี๋ยวฟ้องแม่เลย”
“ฮ่าๆๆ ไม่จำเป็นต้องไปจีบ เสน่ห์แรงอย่างพี่โดนจีบทุกวัน”
“ชิ!! ไปกันเถอะ อยากดูห้องพี่ชายอ่ะ ว่าเป็นยังไง”
“let’s go”
-_-^ เกลียดนักคนพูดภาษาต่างชาติวุ้ย ไม่รู้จักรักษาภาษาไทยของเราไว้เลย เฮ้อ!!
“ว้าวว ไม่น่าล่ะอยู่ได้เป็นปีที่นี่สวยนี่เอง ไม่กลับเมืองไทยได้ป่ะ”
“ไม่ได้โว้ย!!!! แล้วแม่จะอยู่กับใคร ไม่พูดล่ะ ไปเตรียมตัวเดี่ยวพี่พาไปทะเล แนะ! ที่ฝรั่งเศสอาจไม่เหมือนที่ไทยก็ได้น๊า”พี่พามพูดขัดฉันทันที ใครๆ(แม่ น้ำ ริว พี่พาม)ก็รู้ว่าหลังจากที่ฉันหายเป็นบ้าจากอาการซึมเศร้าฉันก็ไม่เคยไปเที่ยวทะเลอีกเลย
“ก็ได้!!”
ฉันรีบแต่งตัวใหม่เพื่อเหมาะกับสถานที่แห่งใหม่ฉันเลือกเสื้อธรรมดาไม่หรูหราจนเกินไปส่วมใส่ซะ อ๊า สวยแล้วๆ O///O
และในที่สุดฉันกับพี่พามก็ถึงจุดหมายโดยสวัสดิ์ภาพ นั้นคือทะเลที่ฝรั่งเศส
ว้าวว วิว สวยจริงๆด้วยแฮะ แต่ลมแรงไปหน่อย ไม่เกี่ยวยัยพลายไม่ยากเล่นน้ำที่นิ!
“พลาย เดี่ยวพี่ไปซื้อน้ำแป๊ปนะ รออยู่นี่แหละ เดี่ยวหาไม่เจอ”
“อื้ม เร็วๆน่ะ พลายกลัวฝรั่งมาจีบนะ ฮ่าๆๆ”ฉันรีบตะโกนใส่แผ่นหลังของพี่ชายฉันทันที
“Sory!! What you name ”
OoO!! ฝรั่งๆ ไม่เอาพลายไม่อยากโดนข้อหาว่าไม่รักษาภาษาไทยภาษาของตัวเองอ่ะ
“อื้ม Sory I..... OoO!!”ฉันรีบหันเพื่อจะกล่าวอะไรเล็กน้อยให้ฝรั่งเข้าใจว่าฉันพูดไม่ได้ แต่ก็ต้องตะลึงงันเมื่อพบว่ามันคือ...
“นายคิว!!!”
“ครับ”
“ชิ!”ฉันรีบหันหลังทันที แล้วเตรียมจะหนี
“เดี่ยว!!พลาย ที่ฉันว่าวันนี้ ฉันแค่จะมาอธิบายให้เธอเข้าใจอีกครั้ง วันที่เธอได้รับเมสเสจบ้านั่นมันไม่ใช่ของฉัน เบอร์นั้นมันเป็นเบอร์ที่ฉันทำหายพร้อมกับโทรศัพท์ที่ฉันเคยบอกเธอไว้ไง แล้วที่สำคัญฉันก็ไม่ได้กลับไปคืนดีกับแพรวด้วย ฉันมีเรื่องแค่นี้จะบอก เดี่ยวฉันก็จะไปแล้วT^T”
เขาค่อยเดินถอยห่างจากฉันไป แล้วฉันก็รีบหันมาทางเขาแล้วเอ่ยว่า..
“แค่นี้เองหรอ...คิว”
“มีอีกมากมาย แต่สิ่งที่ฉันอยากพูดมาตลอดคือ ฉันรักเธอนะ พลาย”
“นายคิว ถ้าฉันจะไปหานายตอนนี้ตรงที่นายยืนอยู่ได้ไหม”ฉันรีบวิ่งไปหานายคิวทันที ที่เขาพยักหน้า
“I love you!!!!” จู่ๆนายคิวก็ตะโกนขึ้น นักท่องเที่ยวที่อยู่แถวๆนั้นได้ยินแล้วหันมาทางฉันกับนายคิวทันที เอ้ย!! นายทำอะไรของนายนะ เขินเฟ้ยยยย >///<
“บ้า!!!!”ฉันว่านายคิวทั้งที่น้ำตายังไหลอยู่ “ร้องทำไมเนียะ หยุดร้องได้แล้ว ฉันไม่อยากเห็นน้ำตาของคนที่ฉันรักมันเจ็บปวดราวรานมากเลยนะ พลาย ฉันสัญญาว่าฉันจะไม่ทำให้เธอเสียใจอีก”นายคิว พูดหวานแบบนี้ ไม่เข้าท่าเอาเสียเลย
“กลับกันเถอะ พี่พามรอฉันแย่แล้ว”ฉันรีบชวนนายคิวเมื่อเห็นว่าพระอาทิตย์กำลังจะลับฟ้าแล้ว
“ไม่เป็นไรฉันขอไอพามแล้ว”
“ไอพาม ปะ แปลว่า”OoO^
“อื้อ ไม่ต้องสงสัยหรอกน๊า ดูโน่นสิ”นายคิว ชี้ให้ฉันดูพระอาทิตย์ และทันทีที่ฉันหันไปมอง เขาก็ก้มหอมแก้มฉัน และเขาก็ยกโทรศัพท์มาถ่ายไว้ กรึก!! เสียงชัตเตอร์กล้องบ่งบอกว่า ข้อมูลถูกบันทึกไว้เรียบร้อยแล้ว “นายต้นตาลฉันฆ่านายหมกทะเลฝรั่งนี่เลย!!”ทันที ที่นายคิวเห็นสายตาฉัน เขาก็รีบวิ่ง และตะโกนดังๆ “ยัยมะเขือเทศ!!!” ส่วนฉันก็รีบไล่ตามนายคิวเพื่อเอาคืนโดยการหอมคืน เอ้ย!! โดยการ การ การ การอะไรก็แล้วแต่ ฉันต้องเอาคืนนายให้ได้ นายคิววววววววว!!!!
Q Say;
ทุกคนสงสัย ใช่ไหม ว่าทำไมจู่ๆ ผมถึงขอ พลายเป็นแฟน จะว่าไปผมเองก็ยังงงๆอยู่เหมือนกัน-_-+
ครั้งแรกที่ผมเจอยัยมะเขือเทศ ไม่ใช่ที่ผมไปช่วยเธอหรอกครับ ครั้งแรกที่ผมเจอเธอ มันก่อนหน้าที่ผมจะเข้าไปช่วยเธอ สะอีก!!
ก่อนหน้านั้นหลายวัน แพรวแฟนเก่าผม เธอมาขอคืนดีกับผม ซึ่งผมคิดว่าผมเองก็ยังไม่ค่อยมั่นใจว่าผมคิดยังไงกับแพรว ผมจึงตัดสินใจบอกเธอว่าถ้าภายในหนึ่งเดือนผม ยังไม่รักใคร แปลว่าผมเองยังรักแพรวอยู่ แต่พอวันนี้ วันที่ผมเจอเธอ ยัยมะเขือเทศ ผู้หญิงที่นั่งรอรถเมล์ แล้วปาดน้ำตาพลาง จะว่าไปยัยมะเขือเทศ ในโรงเรียน ก็ฮอตอยู่หรอกนะครับ ผมเห็นยัยมะเขือเทศ ตอนแรกผมรู้จักเธอผ่านเพื่อนๆของผม ผมไม่ค่อยสนใจเธอนัก แต่พอวันนี้ผมเห็นเธอนั่งปาดน้ำตา ผมชักจะรู้สึกถูกชะตากับเธอแล้วล่ะสิ ผมจึงตัดสินใจรอเธอที่หน้าโรงเรียน แต่มันก็เกิดเรื่องสะก่อน จนผมคิดว่าอย่างน้อยก็เปิดตัวได้ดีน่า และผมก็ต้องเปลี่ยนแผน เมื่อผมรู้ว่า ยัยมะเขือเทศ ไม่ชอบผมเอาเสียเลย ผมเลยใช้วิธี บังคับยัยมะเขือเทศ สะ ผมนี่ร้ายใช่ย่อยเลย น่ะ^()^
และวันที่ผมนัดกับแพรวที่ทะเล แพรวเขาอยากรู้จักยัยมะเขือเทศ แต่ผมดันเผลอคุยกับแพรวเพลินไปหน่อยเลยไม่ได้สนใจยัยมะเขือเทศ พอผมหันหลังอีกที ยัยมะเขือเทศ ก็ไม่อยู่เสียแล้ว ผมตัดสินใจเดินหา ผมรู้ว่าแพรวไม่พอใจ แต่ผมก็เลือกสนใจ พลายมากกว่าแพรว ผมเห็นเธอ กำลังนั่งหลับ อยู่ผมเผลอยิ้ม^^ ออกมา แต่ผมก็ต้องตกใจ o{}O เมื่อผมเห็นเลือดที่เท้าของเธอ ผมจึงตัดสินใจพาเธอกลับบ้าน ผมรู้ว่าเธอโกรธผมมาก ผมเลยเลือกวิธีง้อเมื่อผมนึกขึ้นได้ว่าผมจะซื้อของให้เธอ ผมเลยบึ่งไปที่ทะเลนั้นอีกครั้งเพื่อซื้อของให้เธอ และมันก็คุ้มกับผมบึ่งไปทะเลเพราะเธออภัยให้ผม ^O^!! และวันที่ผมเริ่มไม่แน่ใจว่าผมคิดยังไงกับเธอ ผมเลยตัดสินใจกลับรถ(อื้ม ใช่วันที่เราไปงานด้วยกันนั่นแหละครับ)ไปหาเธอที่บ้านอีกครั้ง แต่ภาพที่ผมเห็นผู้ชายที่ผมดูออกมาตลอด ริว เพื่อนของเธอ ก็แอบชอบเธอเหมือนกัน ริวสารภาพรักกับเธอและกอดเธอแน่น ผมไม่สามารถเห็นภาพบาดตาแบบนั้นได้ผมจึงตัดสินใจรอที่ใต้ต้นไม้ และกลับไปในที่สุด ปกติถ้าผมรู้ว่าผู้หญิงคนไหนที่คบกับผมแล้วยังอาลัยอาวรณ์ กับคนอื่นผมตัดขาดกับผู้หญิงพวกนั้นตั้งนานแล้วแต่กับยัยมะเขือเทศไม่เลย ผมทำไม่ลง ผมนี่ลำเอียงชัดๆ(=_-)
แต่ผมเจ็บใจที่สุดคือตอนที่นายรุ่นน้อง มันต่อยผม และแย่งเธอไปจากผม และเธอกับนายรุ่นน้องนั้น ก็คุยจนไม่คิดจะสนใจเลยว่าผมจะคิดยังไง คิดแล้วเจ็บใจไม่หาย
จนในที่สุดวันครบกำหนดที่ผมได้ตั้งข้อตกลงกับพลายก็มาถึง ผมรู้สึกได้ว่าพลายเองก็คงรู้สึกไม่แตกต่างจากผม ผมจึงอยากลองใจเธอ ไม่สนใจ ไม่เจอ ไม่คุย แม้กระทั้งโทรหาเธอ ผมอยากรู้ว่าเธออดทนได้หรือปล่าว แต่ผมคิดผิดเธอเข้าใจผิดว่าผมคืนดีกับแพรว
ทั้งๆที่ผมคุยกับแพรวตั้งแต่ก่อนครบกำหนดแล้วผมกับแพรวไม่มีวันกลับหวนมาอีกเพราะผมรู้ว่าผมรักยัยมะเขือเทศเสียแล้ว ทำให้ผม อดทนไม่ได้ ผมไม่คุย ไม่เจอ ไม่สนใจ เธอไม่ได้ผม เลยตัดสินใจเป็นคนเคลียร์ปัญหานี้ ด้วยการลากเธอจากสวน
สาธารณะ เพื่อปรับความเข้าใจ แต่เป็นเพราะเธอเข้าใจผิดอะไรสักอย่างหนึงทำให้เธอเผลอพูดว่าเธอเกลียดผม ผมจึงไม่อยากให้เธอลำบากใจ ผมตัดสินใจเดินออกจากชีวิตเธอ หลังจากที่ผมได้ไปหาเธอและโดนเธอไล่มาผมก็ยังสงสัยอยู่ว่ามันเป็นข้อความอะไร
เพราะข้อความบ้าๆนั้นแท้ๆ ผมจึงตัดสินใจไปปรึกษาแพรว แต่สิ่งที่ผมเห็นวันนั้นผมเห็นโทรศัพท์ที่ผมคิดว่าผมทำหายอยู่ในมือแพรวด้วย ผมจึงตัดสินใจดึงโทรศัพท์ผมคืน(ผมไม่ได้อยากได้คืนหรอก แต่ผมคิดว่านี่แหละ คือปัญหาที่ทำให้ผมกับพลายทะเลาะกัน)
“อะไรแพรว”ผมยกโทรศัพท์ เป็นเชิงถามแพรว
“คือว่าคิว ฉันไม่อยากเสียคุณไป คิว ฉันขอโทษ”
“ไม่ๆแพรวเธอทำมันหมดตั้งแต่วันนี้ และแม้แต่เพื่อนผมก็ไม่มีเหลือให้!!”
ผมตัดสินใจตัดขาดกับแพรว แต่ผมก็รู้ช้าเกินไปเพราะผมดันทะเลาะกับยัยมะเขือเทศและยัยมะเขือเทศก็ไม่อยากเห็นหน้าผมด้วยซ้ำ
และวันถัดไปผมกะว่าผมจะเคลียร์กับเธออีกครั้งแต่ยัยมะเขือเทศดันไม่มาเรียนหลายวันสะด้วย ผมคิดว่าเธอคงเกลียดผม ผมจึงทำเรื่องย้ายไปเรียนฝรั่งเศสโดยมีเพื่อนของผมชื่อพามไปเรียนด้วย(ตอนแรกผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพามมีน้องสาว ผมรู้ก็ตอนที่เธอเล่าประวัติในครอบครัวเธอแต่ผมก็ขัดเธอไม่ได้เพราะเธอกำลังเศร้าอยู่ผมเลยได้แต่เงียบ - -*)
^O^ หยุดความเศร้ามาคลายคดีดีกว่า
ทำไมผมเลือกเรียนที่เดียวกับไอพามเพราะผมหวังว่าสักวันนึงยัยมะเขือเทศ จะมาหาพี่ชาย ผมรอแล้วรออีกจนผมคิดว่าผมคงรอเก้อแล้ว จนวันนึงพี่ชายแฟนผม(เรียกสะดิบดีเลยน๊า)ก็เดินมาบอกว่า ยัยมะเขือเทศจะบินมา ผมเลยวางแผนรอต้อนรับยัยมะเขือเทศ เนียนไม่ล่ะ ฮ่าๆๆๆ(รักคือการรอคอย แม้จะนานเท่าไรก็ต้องรอ ถ้ารักกัน จริง)อ่อ ตอนแรกที่ไอพาม เอ้ย พี่พาม(^O^)รู้เรื่อง มันโกรธผมมากแต่ผมก็อธิบายให้มัน เพราะมันเองก็เข้าใจว่าคนหล่อมักจะเจออะไรที่โหดๆแบบนี้แหละ^{}^
และสุดท้าย ผมกับพลายก็กลับมาคืนดีกันอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ผมเองก็ยังคงเป็นคนแพ้เกมนี้นั้นแหละ ผมแพ้ใจเธอตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ แต่ผมว่าความใกล้ชิด และความเป็นตัวเองของเธอทำให้ผมรักเธอมากขนาดนี้ แล้วคุณ ล่ะคิดเหมือนผมรึปล่าวว????
ณ กรุงเทพ……
ตุ้บ!!
“ขอโทษครับ”
“ค่ะ มะ มะ ไม่เป็นไรOoO!!” อร๊ายยยยยย หล่อ อ่ะๆ น่ารักมามาย มีแฟนยังค๊า^{}^!!!
เฮ้อ!! ยัยน้ำอย่างนี้ตลอดเลย อ่ะ(-_-^)
THE ENDผลงานอื่นๆ ของ yaivolley ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ yaivolley
ความคิดเห็น