ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Cane Thai Collection] ตะพดร่ายรำ...

    ลำดับตอนที่ #2 : ๑ คนกับตะพด

    • อัปเดตล่าสุด 15 เม.ย. 58


    คนกับตะพด...

    -----------------------------------

    ยามเช้าแสนเย็นสบาย...แสงแดดสาดส่องผ่านบานหน้าต่างเข้ากระทบกับใบหน้าของของร่างเล็กที่นอนขดตัวหลับสบายบนเตียงนอน...

    เส้นผมสีน้ำตาลเข้มแผ่กระจายเต็มหมอนนุ่ม ดวงหน้าเรียวจิ้มลิ้มกำลังหลับพริ้มราวกับตกอยู่ในฝันหวานอันยากจะตื่นขึ้น...

    ...แต่ก็มีสิ่งที่ปลุกเธอให้ตื่นจากฝันนั่นจนได้...

     

    Dingggggggggggggggg!!!!!!!!!!!!!! Masterrrr ตื่นได้แล้วขอรับบบบ!!!!

     

    “เฮือก!!!!!” เสียงร้อง Ding ที่ดังลั่นห้องนอนทำให้เด็กสาวัย 15 ปีสะดุ้งเฮือกแล้วรีบเด้งขึ้นมานั่งหลังตรงด้วยความตกใจ “อะ อะไร!?

    Good morning masterrr~” ชายหนุ่มวัยประมาณ 20 ได้ยิ้มแฉ่งพลางเดินมายืนข้างเตียงของสาวน้อย “เช้าแล้วนะขอรับ อย่านอนตื่นสายนักสิขอรับ~

    “รู้แล้วๆ...” ร่างเล็กขยี้ผมอย่างงัวเงีย พลางมองร่างสูงผมสีทองที่ยิ้มกว้างมองเธอด้วยสายตาลิงโลดราวกับดีใจเสียเต็มประดาที่สามารถปลุกเจ้านายของตนให้ตื่นได้ “ปลุกเสียงดังตามเคยนะคะ นิตกาล”

    นิตกาลยิ้มรับแล้วกล่าวต่อ “ผมดีใจมากครับที่ได้ทำงานรับใช้ master นับเป็นเกียรติอย่างสูงเลยขอรับ”

    “จ้าๆ” master หรือที่ผู้คนรู้จักกันในชื่อ ปัณณ์บุตรสาวคนโตของท่านขุนพชรปิดปากหาว ขณะที่ก้าวลงมากจากเตียงด้วยสภาพผมยุ่งเล็กน้อย

    “ผมของ master ยุ่งน่ะขอรับ ให้ผมช่วยหวีมั้ย” คนพูดตาเป็นประกายวาววับ “นะครับ please~~~

    “ก็ได้ๆ เจ้านี่อ้อนเก่งจริงนะนิตกาล พอๆ กับสุวานเลยนะคะ” ร่างบางนั่งลงหน้าโต๊ธ ส่วนคนผมทองก็วิ่งมาด้วยท่าทางดี๊ด๊าสุดๆ

    “กระผมดีใจที่ได้รับใช้ master มากขอรับ~ master น่ะ ทั้งใจดี ทั้งอ่อนโยน แถมน่ารักด้วยล่ะ~

    “จ้าๆ” ปัณณ์ยิ้มพลางปล่อยให้คนตัวสูงหวีผมของเธอต่อไป

    “ผมของ master สวยจังนะขอรับ ทั้งนุ่มทั้งหอมสุดๆ เลยขอรับ”

    “อ้อนแบบนี้อยากได้อะไรเหรอนิตกาล” คนตัวเล็กถามอย่างรู้ทัน

    “อุ้ย หะ เห็นกระผมเป็นคนแบบไหนกันขอรับ ^^;;;” นิตกาลยิ้มแห้งๆ

    ^^

    “...กระ กระผมแค่ชวน master คุยน่ะขอรับ ;-;” คนผมทองกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ คล้ายเด็กๆ เวลาโดนจับได้ว่าโกหก “กระ กระผมขอโทษจริงๆ ขอรับ ถ้าหาก master รำคาญ...”

    “ใครว่าล่ะ” เด็กสาวหัวเราะเบาๆ แล้วลูบผมคนผมทอง “ข้าชอบคุยกับเจ้าจะตายไป ^^

    m…master…” นิตกาลก้มมองเด็กสาวที่สูงแค่เกือบถึงไหล่ของเขาเท่านั้น “Thank you very much ขอรับบบ”

    “จ้าๆ”

     

    เวลาต่อมา

    หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว ปัณณ์ก็เดินออกมาจากห้องตามหลังมาด้วยนิตกาลที่เดินมาหน้าตาชื่นบานสุดๆ  

    “อรุณสวัสดิ์ ปัณณ์~” เสียงใสๆ ของเด็กสาววัยไล่เลี่ยกันที่นั่งเล่นตรงบริเวณชานบันไดหน้าบ้านดังขึ้น เจ้าของเสียงเงยหน้าแล้วยิ้มแป้นให้กับเพื่อนรักที่อยู่ร่วมชายคาเดียวกันมาตั้งแต่วัยเด็ก

    “เช่นกันนะแม่พิมพ์” ปัณณ์ยิ้มทักอย่างอารมณ์ดี ร่างเล็กเดินไปหาเพื่ออย่างระมัดระวังไม่ให้เกิดอาการซุ่มซ่ามสะดุดล้ม “แล้วมีเหตุอันใดรึ เจ้าถึงตื่นเช้าเยี่ยงนี้?”

    “อืม...ก็โดนสีนิลปลุกน่ะสิ” พิมพ์ลูกสาวคนเดียวของท่านขุนณัฐวุฒิยิ้มแห้งๆ “ข้าหลงนึกว่าจะมิโดนรบกวนเหมือนเจ้าแล้วเชียว...”

    “สีนิลเหรอ?” ปัณณ์เอียงคอเล็กน้อย “ข้าได้ข่าวว่าตะพดตนนั้นไม่ใช่นาฬิกามิใช่หรือไง”

    “โดนพูดยืดยาวจนข้าตื่นน่ะสิ...” พิมพ์ส่ายหน้าเล็กๆ “ข้ายังจำคำพูดของสีนิลได้ดีทีเดียวล่ะ นายเจ้า นอนตื่นสายๆ มันไม่ดีนะ ยามเช้าอากาศออกจะดี ทำไมท่านไม่ตื่นแล้วลงมาเดินบริหารร่างกายเสียบ้างจะได้สดชื่นอีกทั้งยังดีต่อสุขภาพร่างกายของท่านอีกด้วย เมื่อคืนท่านก็นอนดึกสินะ แบบนั้นน่ะเสียสุขมากเลยรู้หรือไม่ การนอนดึกจะทำให้ใบหน้าของท่านเหี่ยวเร็ว ทำให้ถุงใต้ตาคล้ำ...แล้วบ่นยาวต่อไปจนข้านอนไม่หลับ...”

    “เอาน่าๆ” ปัณณ์หัวเราะ “ข้าว่าสีนิลก็น่ารักนะ เขาพูดเพราะห่วงเจ้านี่”

    “จริงสินะครับ” พิมพ์หัวเราะออกมาเช่นกัน ก่อนจะหันไปมองนิตกาล “อรุณสวัสดิ์ขอรับนิตกาล”

    Good morning เช่นกันนะ mewwe~” อีกฝ่ายโบกมือทักทายอมยิ้ม “ยังชอบพูดจาเหมือนผู้ชายไม่เปลี่ยนะขอรับ~

    “แหะๆ ติดแล้วล่ะครับ” พิมพ์เกาหัวแล้วยิ้มกว้าง

    “นี่เจ้าทานข้าวเช้าหรือยังน่ะพิมพ์” คนผมน้ำตาลไหม้ถาม

    “ยังหรอกน่ะ กรรณกับอำพันกำลังทำน่ะ” พิมพ์กล่าวถึง กรรณหรือชื่อเต็มๆ กรรณิกาลูกสาวของท่านขุนกรกฎที่มีหนุ่มๆ แวะมาจีบบ่อยๆ ซึ่งเป็นผู้ที่มีฝีมือการทำอาหารอร่อยที่สุดในบ้าน “เห็นว่าปานก็ไปช่วยนะ”

    “ปานงั้นเหรอ” ปัณณ์ยิ้มกว้างเมื่อได้ยินชื่อของหนึ่งในฝาแฝดของตน ปานตะวันแฝดคนที่สามผู้มีความอ่อนหวานและเรียบร้อยที่สุดในบ้าน อีกทั้งยังเป็นที่รักของทุกๆ คนอีกด้วย “นางตื่นแล้วหรือ?”

    “โธ่ ปานน่ะตื่นตั้งแต่ตี 5 แล้ว” พิมพ์กล่าวพลางหยิบกลีบดอกไม้ที่ร่วงหล่นบนผมสีน้ำตาลของตน “นางพาสุวานออกไปทำบุญน่ะ”

    “ยังเป็นคนดีเหมือนเดิมสินะ” ปัณณ์ยิ้มเหมือนเคย “แล้ว เปรมล่ะ...”

    โครม!!!!!!!!!!!!

    Dingg~!!!!!!! =[]=

    ยังไม่ทันที่ปัณณ์จะกล่าวจบ เสียงดังโครมก็ดังขึ้นสนั่น นิตกาลที่ตกใจถึงกับร้องลั่น เมื่อทุกคนมองไปลงยังพื้นหน้าบ้าน ก็พบร่างของเด็กสาวผมสีดำตัดม้ายาวสลวยกำลังนอนเท้าชี้ฟ้าอยู่ใต้ต้นมะม่วง ผิวขาวๆ มีรอยช้ำเล็กน้อยจากการตกจากที่สูง ก่อนจะมีร่างของชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งนุ่งโจงกระเบนแดงสวมราชปะแตนขาวกระโดดลงมายืนอย่างสวยงามข้างๆ

    “อูย จะ เจ็บ”

    “ก็บอกแล้วว่าอย่าปีนเล่นนี่จ๊ะ ลุงเตือนแล้วไม่ฟังเองนะจ๊ะ” ลุงแดงกล่าวด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม

    “ก็มัน...”

    “เปรมหทัย!” เสียงดังทำให้ทั้งสองหันไปมองปัณณ์ที่กำลังลงบันไดมาอย่างรีบร้อน “ข้าบอกแล้วมิใช่รึ ว่าเจ้ามิควรปีนต้นไม้เล่นน่ะ”

    “อะไรกันเล่า” เปรมหทัยบุตรีคนที่สองลุกขึ้นนั่งพลางปัดเศษใบไม้ออกจากหัว “ย้าชอบเล่นเยี่ยงนี้เป็นปกติ เจ้าเป็นแค่พี่อย่าบ่นเหมือนแม่จะได้ไหม?”

    “เจ้าว่าไงนะ =*=!!!!

    Ah!!! Master~ clam down please~~~” นิตกาลรีบใช้สองแขนโอบรอบตัวนายหญิงวัย 15 แล้วยกขึ้นก่อนที่อีกฝ่ายจะกระโดดถีบหน้าน้องสาวแท้ๆ “ใจเย็นๆ ก่อนขอรับบบ”

    ป๊อก!

    “โอ๊ยย เจ็บนะลุงแดง ;-;!!” เปรมหทัยร้องลั่นเมื่อถูกคนข้างๆ ยกตะพดเคาะศีรษะ

    “เถียงพี่สาวแบบนั้นไม่ดีนะจ๊ะ” ลุงแดงยิ้ม “ท่านปัณณ์เตือนนายเจ้าเพราะเป็นห่วงนะจ๊ะ อย่าดื้อเลยจ้ะ”

    “...ก็ได้...”

    เห็นทีจะมีแค่ลุงแดงที่ปราบเปรมหทัยสำเร็จ...

    “นี่ๆ ท่านพี่ๆๆๆ!!!!!” เสียงดังลั่นมาจากหน้าบ้าน พร้อมกับร่างของบางผมสีน้ำตาลที่วิ่งมาพร้อมกับจดหมายในมือ ตามหลังมาด้วยชายหนุ่มผู้มีนัยน์ตาสีม่วงท่าทางน่าขนลุกประหลาดๆ

    “มีอะไรรึปองใจ ทำไมต้องเสียงดังเยี่ยงนั้น?” ปัณณ์ละสายตามาหา ปองใจน้องสาวแฝดคนสุดท้องที่วิ่งกระหือกระหอบมา

    “ขะ ขะ ข้าเพิ่งได้รับจดหมายจากต่างประเทศ” นางหอบฮักก่อนจะเงยหน้าแล้วตะโกน “ทะ ท่านพี่กรกับวิลากำลังจะกลับจากฝรั่งเศสค่ะ!

    “ฮะ!!!

    Ding!!?

    ท่านพี่กร หรือ กรวิภาคือลูกสาวคนโตของท่านขุนกรกฎ โตมากและทำธุรกิจค้าขายผ้าไหม ส่วนวิลา หรือ วิลาวัลย์น้องสาวคนเล็กของท่านขุนกรกฎ ทั้งสองคนได้เดินทางไปต่างประเทศด้วยกันประมาณเดือนเศษแล้ว เมื่อได้ข่าวว่าพวกเขากำลังจะกลับมาจึงทำให้ทุกคนตื่นเต้นกันยิ่งนัก

    “ข้าได้ยินเสียงคนหน้าเรือนจึงปลุก แต่ท่านเจ้ากลับถีบหน้าข้าเสียเป็นรอย” กัณหปักษ์หน้าบึ้ง พลางชี้ไปยังแก้มที่มีรอยเท้าแดงหรา ส่วนฝ่ายหลังก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆ แล้วพนมมือขอโทษขอโพย

    “ขอโทษจริงๆ เจ้าค่ะ (>/\<)!!!

    “วันหลังข้าจะมิสอนวิธีเสกหนังควายเข้าท้องอีกแล้ว (-_-)*

    “ม่ายยยย กัณหปักษ์ ข้าขอโทษ ยะ อย่างอนข้านะ” เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มทำท่าจะงอนยาว เด็กสาวจึงวิ่งเข้าไปกอดเอวสอบจากด้านหลัง น้ำตาคลอด้วยความรู้สึกผิด

    “...”

    “น้าๆๆๆ”

    “เฮ้อ...จะให้ข้าถือโทษโกรธเคืองท่านเจ้าของข้าได้ไงล่ะขอรับ” กัณหปักษ์ทนลูกอ้อนและสายตาแบบกระรอกไม่ไหว ยกมือขึ้นลูบผมสีอ่อนของนายเจ้าอย่างเอ็นดู “เข้าเรือนกันเถอะขอรับ ท่านกรรณิกาน่าจะทำอาหารเสร็จแล้ว”

    “จ้าๆ” ปองใจยิ้ม แล้วหันไปบอกคนด้านหลัง “ไปกันเถอะเจ้าค่ะ”

    “แน่นอน...” ปัณณ์ยิ้มรับแล้วหันไปมอง “ไปกันเถอะ นิตกาล”

    “แน่นอนขอรับ master ไปไหน ตะพดอย่างผมก็ต้องไปด้วยแน่นอนขอรับ~

    ใช่...นิตกาล สีนิล กัณหปักษ์ ลุงแดง สุวาน อำพัน มิใช่มนุษย์ธรรมดาทั่วไป แต่พวกเขาคือ ตะพดที่ท่านขุนทั้งสามได้ปลุกเสกจนกลายเป็นมนุษย์เพื่อปกป้องคุ้มครองบุตรีของพวกเขา...

    แต่ทว่า...คงจะไม่ราบรื่นดั่งใจคิดเท่าไรนัก...

    ...ก็ตะพดน่ะ...แสบน้อยซะที่ไหนกัน

     

    -------------------------------

    ตอนหน้าออกครบแน่นอนจ้ะ ยกเว้นสองคนที่ยังไม่กลับจากฝรั่งเศส จะออกช้าหน่อย

      

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×