ปรากฎการณ์ละครดรามาเกาหลีมาแรงแห่งปี 2005 ได้แก่ My Lovely Sam-Soon ซึ่งโดนใจแฟนละครจนติดลมบนไปแล้วจนเกิดเป็นกระแส "Sam-soon ฟีเวอร์" ไปแล้ว ละครเรื่องนี้ได้รับรางวัลของ MBC ไปทั้งหมด 8 รางวัลด้วยกัน เช่น ดารานำชายยอดเยี่ยมแก่ Hyun Bin จากบท Jin-heon และดารานำหญิงยอดเยี่ยมของ Kim Sun-a จากบท Sam-soon
My Lovely Sam-Soon เป็นละครท็อปฮิตของปี 2005 นำแสดงโดยดาราดังอย่าง Kim Sun-a ซึ่งมักจะปรากฏตัวในภาพยนตร์มากกว่าละครทีวี Hyun Bin ผู้ได้รับการขนานนามว่าเป็นดาราหนุ่มรูปหล่อที่สุดของยุคนี้ Daniel Henney ดาราเกาหลี/อเมริกัน ลูกครึ่งหนุ่มดูดีที่มีพ่อเป็นชาวอังกฤษและแม่เป็นชาวเกาหลี และ Jeong Ryeo-won นักร้องสาวที่ผันตัวเองไปเป็นดารา อีกทั้งยังเป็นอดีตสมาชิกวงดนตรีสาวล้วนอย่าง Chakra มาก่อน ข่าวคราวความเคลื่อนไหวก่อนที่ตอนแรกจะถูกนำออกฉายก็คือข่าวใหญ่ที่ว่าดาราสาว Kim Sun-a ต้องเพิ่มน้ำหนักถึง 15 ปอนด์เพื่อที่จะเข้าถึงบทบาทของสาวแสบน้ำหนักเกินที่ชื่อว่า Sam-soon นั่นเอง
My Lovely Sam-soon ไม่ได้เดินตามแบบของละครดรามาเกาหลีเรื่อง Cinderella แต่ Bridget Jones' Diary เวอร์ชั่นเกาหลีเรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับฮีโร่สาวที่หน้าตาธรรมดาๆ คนหนึ่ง ซึ่งดันไปพบกับเศรษฐีหนุ่มหล่อที่อายุน้อยกว่าเธอ ละครโรแมนติคดรามาเรื่องนี้ออกแนวฮาๆ วุ่นๆ เป็นความรักระหว่างหญิงธรรมดาคนนึงกับหนุ่มน้อยขี้โมโห อาการ "Sam-soon ฟีเวอร์" ยังคงตลบอบอวลอยู่ในเกาหลีหลังจากละครได้อวสานลง และ Kim Sun-a, Hyun Bin, Daniel Henney และ Jeong Ryeo-won ได้กลายเป็นดาราดังในวงการบันเทิงเกาหลีไปในพริบตา ในบทความนี้ ขอเชิญพบกับเรื่องราวที่อบอุ่นและเฮฮาตามประสา My Lovely Sam-soon และบางส่วนของสถานที่ถ่ายทำละครดังเรื่องนี้
สถานที่ถ่ายทำเรื่อง My Lovely Sam-soon
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ COEX เป็นสถานที่ที่ Sam-soon และ Jin-heon พา Mi-joo ไปที่นั่น ที่กำแพงด้านนอก จะเห็นรูปคนดังที่แวะมาเยี่ยมสถานที่นี้ และมาดูกันซิว่าคุณจะสามารถหาดาราที่คุณชื่นชอบเจอหรือไม่ รูปของฉากละครเป็นตัวบ่งบอกว่าฉากนั้นได้ถ่ายทำที่ไหนบ้าง ดังนั้น ไม่ควรพลาดที่นี่เด็ดขาด แต่น่าเสียดายที่ภัตตาคาร Deep Blue ที่ที่พวกเขาทั้งสามดินเนอร์ด้วยกันไม่ได้อยู่ที่นั่นอีกแล้ว คลิกที่นี่เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมของ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ COEX!
ภัตตาคาร Todai Bon Appetit Todai เป็นสถานที่ที่ถ่ายทำฉากร้านอาหาร Bon Appetit ในละคร Jin-heon เป็นเจ้าของภัตตาคารและ Sam-soon ทำงานเป็นกุ๊กที่นั่น ระหว่างการถ่ายทำ ร้านอาหารถูกปิดไปและเปิดใหม่ภายใต้ชื่อว่า TODAI เป็นภัตตาคารสาขาซูชิบุฟเฟ่ต์ ภายนอกอาคารเป็นแบบเดียวกับเมื่อตอนถูกถ่ายทำ แต่ภายในได้ทำการตกแต่งใหม่ การลดขนาดลงครั้งนี้ทำให้ราคาอาหารค่อนข้างสูงทีเดียว
Samseong-dong Urijip Gamasot Seolleongtang ในตอนที่ 13 Jin-heon พา Henry Kim ไปที่ภัตตาคารนี้ ที่ซึ่งเขาสอนวิธีกินกิมจิ kkakdugi ให้ Henry เขาแนะนำว่า "วิธีที่ดีที่สุดในการกิน seolleongtang คือการใส่น้ำซุป kkakdugi และคนๆ แบบนี้" เมื่อถ่ายทำฉากดังกล่าว ภัตตาคารนี้อยู่ใน Nonheyon-dong แต่เพราะมีการก่อสร้างใหม่ เลยถูกย้ายไปอยู่ถัดจากอาคาร POSCO ใน Samseong-dong เก้าอี้จะเป็นแบบเดียวกันกับในละคร ดังนั้น หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ประทับใจในรสชาติของ seolleongtang เหมือนในละครแล้วละก็ คุณจะต้องอยากไปลองร้านนี้แน่นอน
คลับ Live Jazz : Once in a Blue Moon ที่ Once in a Blue Moon Jin-heon และ Hee-jin ชอบจิบไวน์และคอกเทลขณะดื่มด่ำไปกับการแสดงเพลงแจ๊ส ที่นี่เป็นอีกหนึ่งสถานที่โปรดของละครและภาพยนต์ต่างๆ เช่น คุณอาจจะเคยเห็นสถานที่นี้แล้วจากละครเรื่อง Lovers in Paris, Wolf, Green Rose, และ Marrying the Mafia ทั้งยังเป็นสถานที่ที่ใช้ถ่ายโฆษณาทีวีบ่อยๆ อีกด้วย ถ้าคุณกำลังอยู่ในอารมณ์แจ๊ส สถานที่เที่ยวกลางคืนแห่งนี้เพียบพร้อมไปด้วยจังหวะเพลงแจ๊สแบบโรแมนติคในบรรยากาศชิลๆ
Duchamp ร้านเบเกอรี่ที่ Jin-heon พา Sam-soon ไปแสดงการทำขนมแบบฝรั่งเศสซึ่งจริงๆ แล้วเป็นร้านเบเกอรี่ไฮโซ Duchamp ใน Apgujeong-dong พ่อครัวเป็นเชฟชาวญี่ปุ่นจาก Cordon Bleu ทำเค๊กชนิดต่างๆ ได้ถึง 60 แบบ นอกจากเค๊กที่หลากหลายแล้ว คุณยังจะได้ชิมช็อคโกแลต ขนมปังและเครื่องดื่มอื่นๆ อีก ร้านเบเกอรี่มี 2 ชั้นและมีระเบียงกลางแจ้ง ฉากนั้นถูกถ่ายทำที่โต๊ะกลางสุดของชั้นหนึ่ง
ภัตตาคาร Neurige Geotgi ตั้งอยู่ตรงข้ามกับ Dosan Park ใน Apgujeong-dong ภัตตาคาร Neurige Geotgi เป็นฉากหลังระหว่างการทะเลาะกันของ Hee-jin กับ Sam-soon เรื่อง Jin-heon นอกจากภัตตาคารนี้จะเป็นที่รู้จักในเรื่องของห้องครัวมาอยู่ส่วนกลางของร้านแล้ว ที่นี่ยังใช้แต่วัตถุดิบที่สดและทำจากธรรมชาติเท่านั้น ไม่ว่าจะสั่งอาหารง่ายๆ พร้อมเครื่องดื่ม หรือถ้าอากาศดี คุณอาจจะรู้สึกดีกับการได้เดินเล่นในสวนสวย Dosan Park หลังอาหาร เป็นสถานที่ที่ดีเยี่ยมในการฆ่าเวลายามบ่ายแก่ๆ
The Plaza Hotel ฉากในโรงแรมที่แม่ Jin-heon เป็นเจ้าของถ่ายทำที่โรงแรม The Plaza ตรงข้ามกับ Seoul City Hall ฉากในสระว่ายน้ำที่ Jin-heon อวดเรือนร่างสุดเซ็กซี่ถ่ายทำในฟิตเนสเซ็นเตอร์ของโรงแรม (เปิดให้ใช้บริการได้เฉพาะแขกของโรงแรมและสมาชิกเท่านั้น) ฉากที่ Plaza Pub Jin-heon เกิดอาการหึงหวงเมื่อ Sam-soon พบแฟนเก่า Hyeon-woo ส่วนฉากอื่นๆ ก็ถ่ายทำในห้องน้ำ ลอบบี้โรงแรมและหน้าทางเข้า เค๊กที่ Sam-soon ทำเองนั้น จริงๆ แล้วเป็นเค๊กที่ทำโดยพ่อครัวของร้านเบเกอรี่ของโรงแรม The Plaza นั่นเอง ปัจจุบัน ร้านเบเกอรี่ขายเค๊ก Sam-soon พิเศษ เช่นเดียวกันกับ เค๊ก Sam-sik นอกจากนี้ โรงแรมยังเสนอแพคเกจ Sam-soon อีกด้วย
ร้านหนังสือ Gwanghwamun Youngpoong เพื่อหลีกหนีไอร้อนของซัมเมอร์ Jin-heon และ Hee-jin พา Mi-joo มาที่ร้านหนังสือแห่งนี้ใน Jongno พวกเขาเลือกซื้อหนังสือกัน ซื้อของเล่นให้ Mi-joo และใช้เวลาด้วยกันอย่างมีความสุข ชั้นหนึ่งเป็นหนังสือสำหรับเด็ก หนังสือภาษาเกาหลี แมกกาซีน เกมส์ และซีดี ในขณะที่ชั้นใต้ดินเป็นร้านอาหาร คอฟฟี่ช็อป ร้านเครื่องเขียน และหนังสือต่างประเทศ คลิกที่นี่สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมของร้านหนังสือ Youngpoong!
Cheongjinok Haejanggukjip หลังจากดื่มเสร็จ Sam-soon และ Sam-sik ไปที่ร้านนี้เพื่อแก้อาการแฮงค์ ในฉากฮาๆ นี้ Sam-soon พ่นข้าวใส่หน้า Sam-sik โดยไม่ได้ตั้งใจ ร้านนี้ตั้งมาแล้ว 67 ปี เป็นร้านอาหารที่มีชื่อมากที่สุดในเรื่อง haejangguk (ซุปแก้อาการแฮงค์จากการดื่ม) ในย่าน Haejangguk Golmok (Haejanguk Lane) ใน Jongno อีกทั้งยังได้ออกรายการทีวีเกี่ยวกับอาหารและแมกกาซีนอีกมากมาย หากคุณอยากลองไปแวะเยี่ยมเยียนก็สามารถทำได้ทันที เพราะร้านนี้เปิดตลอด 24 ชั่วโมง!
Coffee Bean Gwanghwamun ในละคร Sam-soon ชอบกาแฟแลตเต้มาก แต่เธอรู้ตัวว่าต้องเลิกดื่มเพื่อลดน้ำหนัก Coffee Bean Gwanghwamun เป็นร้านที่เธอสามารถหลบร้อนมาเพื่อจิบกาแฟแลตเต้ และมักจะกระวีกระวาดสั่งว่า "ขอแลตเต้แก้วนึงค่า
.ขอไซรัปเยอะๆ นะ !"
Bangsan Market, Uisinsanghoe ในละคร Sam-soon ไป Uisinsanghoe ใน Bangsan Market เพื่อซื้อของมาทำขนม มีเจ้าของร้านปรากฏในละครด้วยเมื่อเขาขายของให้กับ Sam-soon ร้านนี้มีวัตถุดิบในการทำขนมให้เลือกมากมายในราคาขายส่ง หากคุณสนใจทำขนมปังหรือคุ๊กกี้ เชิญที่ร้านนี้ได้เลย พร้อมถ่ายรูปกับเจ้าของร้านที่เป็นมิตรสุดๆ ไว้เป็นที่ระลึก
Guesthouse, Rakgojae เกสท์เฮ้าส์ที่ Henry พักเป็นสไตล์ hanok คือ Rakgojae ซึ่งตั้งอยู่ใน Jongno กรุงโซล ราคา 150,000 วอน ไม่เพียงแค่จองห้องพักได้เท่านั้น แต่คุณจะได้พักในบ้านทั้งหลังที่จุคนได้ 5 คนขึ้นไป ทำให้ Rakgojae เป็นที่พักที่ราคาไม่แพงหากต้องการที่พักให้เพื่อนหรือครอบครัว Rakgojae ยังมีอาหารไว้บริการ หากพักเพียงคืนเดียวแพงเกินไป คุณสามารถดินเนอร์ในร้านอาหารแบบเกาหลีได้ที่ hanok คลิกที่นี่เพื่อข้อมูลเพิ่มเติมของ Rakgojae!
Mt. Namsan เคเบิ้ลคาร์ Mt.Namsan เคเบิ้ลคาร์และบันไดเป็นสถานที่ถ่ายทำตอนสุดท้ายของเรื่อง เมื่อ Sam-soon และ Jin-heon กำลังมีเวลาดีๆ ด้วยกัน ตอนอวสาน Sam-soon ได้พบกับรักที่สมหวังและได้เป็นเจ้าของธุรกิจส่วนตัว และ Jin-heon ก็รักเธออย่างสุดหัวใจ เคเบิ้ลคาร์จะนำความทรงจำดีๆ ของฉากนั้นกลับมา ฉะนั้น พลาดไม่ได้เด็ดขาด เพิ่มเคเบิ้ลคาร์เข้าไปในโปรแกรมท่องเที่ยวของคุณรวมทั้ง N Seoul ทาวเวอร์ที่มีชื่อเสียง วิธีที่จะขึ้นไปถึงยอดเขา Namsan ได้ดีที่สุดก็คือนั่งเคเบิ้ลคาร์ จากนั้น เหมือน Sam-soon และ Jin-heon คือ เดินกลับลงมาทางบันไดเหมือนเกมส์เป่ายิ้งฉุบ คลิกที่นี่เพื่อข้อมูลเพิ่มเติมของ N Seoul ทาวเวอร์! คลิกที่นี่เพื่อข้อมูลเพิ่มเติมของ Mt.Namsan Park!
Le Saint - Ex ที่ภัตตาคารฝรั่งเศสนี้ Sam-soon และ Hyeon-woo แฟนของเธอ ใช้เวลาร่วมกันหลายครั้งไม่เว้นแม้แต่จูบครั้งแรกของพวกเขา ภัตตาคารนี้ไม่ได้ตั้งอยู่ที่ปารีสจริงๆ แต่เป็นภัตตาคารฝรั่งเศสตั้งอยู่ที่ Itaewon ของกรุงโซล ร้านนี้คับคั่งไปด้วยผู้คนที่มองหาความสงบ บรรยากาศสบาย และอาหารรสเลิศ เมนูของแต่ละวันจะถูกเขียนไว้บนกระดานดำ และพนักงานเสิร์ฟจะเข้ามานำเสนอรายละเอียดเมนูเพิ่มเติม ถึงแม้ว่าคุณจะไม่คุ้นเคยกับอาหารฝรั่งเศสมาก่อน ก็จะไม่มีปัญหาใดๆ ทั้งสิ้น
ภัตตาคาร Itawon Crepe, ARVORIG ในละคร หัวหน้าพ่อครัวของร้าน Bon Appedit แนะนำให้ Sam-soon ไปร้านทำเครป ร้านโปรดของเขาซึ่งจริงๆ แล้วก็คือ Arvorig ใน Itaewon นั่นเอง ร้านนี้เสิร์ฟเครปหลากหลายชนิด รวมไปถึงกาแฟดำโรบัส เป็นร้านอาหารขึ้นชื่อในย่าน Itaewon ที่มีบรรยากาศสงบให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัวด้วยโคมไฟระย้าและวอลเปเปอร์สีแดง รับรองว่าที่นี่คุ้มค่าแก่การไปเยือนเพื่อชิมเครปรสอร่อยและแพนเค๊กที่ทำโดยเชฟชาวฝรั่งเศสสุดหล่อ
มหาวิทยาลัย Hongik, SU Noraebang ยังจำฉากที่พี่สาวของ Sam-soon และ Sam-sik ร้องคาราโอเกะกันได้มั้ย ถ้ายังจำได้ คุณอาจจะอยากไปที่นี่บ้าง Su Noraebang เป็นร้านแฟรนไชส์ ฉากที่ Jin-heon ร้องเพลงเอาใจแม่ของ Sam-soon ถ่ายทำที่ Edward SU Noraebang ใกล้ๆ กับ มหาวิทยาลัย Hongik ห้องคาราโอเกะเพิ่งปรับปรุงไปเมื่อเร็วๆ นี้ และอุปกรณ์ต่างๆ รวมไปทั้งการตกแต่งภายในทันสมัยสุดๆ จนเป็นที่ชื่นชอบในการถ่ายหนังและละครเกาหลี ห้องคาราโอเกะทั้งหมดมี 20 ห้อง แต่ละห้องจะตกแต่งไม่เหมือนกันเลย บางห้องมีเปียโน กลอง และเครื่องดนตรีอื่นๆ ไว้ให้เล่น บางห้องก็มีเวทีและบาร์เล็กๆ รับรองได้เลยว่า SU Noraebang ควรค่าแก่การแวะไปเยือนอย่างแน่นอน
คอฟฟี้ช็อปในโรงแรม Grand Hilton ในคืนวันคริสต์มาสอีฟ Sam-soon ถูก Hyeon-woo แฟนหนุ่มของเธอบอกเลิกในร้านคอฟฟี่ช็อปชั้นหนึ่งของโรงแรม Grand Hilton เป็นสถานที่ที่ Sam-soon และ Jin-heon ไปดูตัว และไม่ว่าเมื่อใดที่อีกคนจะไปดูตัว ก็จะถูกอีกฝ่ายขัดขวางเสมอ โรงแรมนี้มักจะเปิดห้องจัดงานแต่งงานให้เช่าถ่ายฉากแต่งงานเสมอๆ ฉะนั้น หากคุณอยากจัดงานแต่งงานแบบในหนังแล้วละก็ เชิญแวะไปที่ห้องจัดงานเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม
วัด Jingwansa แม่ของ Jin-heon และครอบครัวของเธอมักจะไปวัดเพื่อทำบุญให้ดวงวิญญาณพี่ชายและพี่สะใภ้ของ Jin-heon วัดนี้ตั้งอยู่ใน Jingwanoe-dong (Eunpyeong-gu) เป็นวัดเล็กๆ ที่เงียบสงบและสวยงาม ตั้งอยู่ตรงทางเชื่อมที่จะเดินขึ้นไปปีนเขา คุณอาจจะรวมทริปชมวัดนี้กับการเดินเล่นไปด้วยก็ได้
โรงหนังมัลติเพล็กซ์ Sangam-dong CGV ด้วยสภาพแวดล้อมแบบหรูหรา ทำให้ Sangam-dong CGV เป็นสถานที่ถ่ายทำยอดฮิตของทั้งหนังและละครมากมาย และยังเป็นสถานที่ถ่ายทำหลักของ Lovers in Paris อีกด้วย ในละครเรื่อง My Lovely Sam-soon โรงหนังแห่งนี้ใช้ถ่ายฉากที่ Hee-jin และ Henry ดูหนังด้วยกัน และ Hee-jin วิ่งออกนอกโรงไปเพราะรู้สึกไม่ค่อยสบาย Hee-jin และ Henry โปรดปรานขนมฤดูร้อนของเกาหลีที่เรียกว่า patbingsu (หรือน้ำแข็งไส) ที่ร้านเบเกอรี่ Tous Les Jours ตรงข้ามกับโรงหนังนั่นเอง Sangam-dong CGV ตั้งอยู่ในสวน World Cup Park ใกล้ๆ กับคาร์ฟูลล์ และ jjimjiilbang (ซาวน่า/สปา) นักท่องเที่ยวที่มาเยือนสามารถสนุกกับการช็อปปิ้งและเที่ยวชมสถานที่ได้ในเวลาเดียวกัน
Mt. Hallasan ใน Jeju-do หากคุณยังจำฉากซึ้งๆ เมื่อ Sam-soon เดินขึ้นเขา Hallasan ท่ามกลางสายฝนโปรยปราย และไปพบว่า Sam-sik รอเธออยู่ คุณอาจจะอยากไปเยือน Mt.Hallasan ซึ่งเป็นหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามในเกาะ Jeju เลยทีเดียว หากคุณอยากจะเดินขึ้นไปบนยอดเขาเหมือน Sam-soon ต้องเริ่มออกเดินทางไม่เกิน 9 หรือ 10 โมงเช้า ทางเดินขึ้นเขาหลักๆ คือ Seongpanak และ Gwaneumsa Sam-soon ใช้ทาง Seongpanak ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 9 ชั่วโมงต่อหนึ่งทริป คลิกที่นี่เพื่อ Mt. Hallasan National Park
credit : http://english.tour2korea.com/
ซัมซุน...ชื่อที่จะอยู่ในใจผู้ชมไปอีกนาน
แฟนละครเกาหลีแบบเหนียวแน่นคงไม่มีใครไม่รู้จักซัมซุนเป็นแน่ เพราะ My Lovely Sam Soon เป็นละครที่ทำเรทติ้งได้สูงที่สุดในปี 2005 ที่ผ่านมา และเพื่อฉลองความสำเร็จที่ได้รับมาอย่างท่วมท้น เหล่าสมาชิกของ 'ซัมซุน' จึงกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง เพื่อแบ่งปันความสนุกสนานให้ทุกๆ คนได้หายคิดถึงหลังจากที่โบกมือบ๊ายบายลาจอไป
My Lovely Sam Soon ออกอากาศที่เกาหลีไปเมื่อกลางปีที่ผ่านมา เป็นเรื่องราวที่เริ่มต้นด้วยซัมซุน และจบลงที่ซัมซุน สมกับชื่อนวนิยายต้นฉบับ My Name Is Kim Sam Soon จริงๆ My Lovely Sam Soon เป็นเรื่องราวของหญิงสาววัยเกือบ 30 ที่มีอาชีพเป็นเชฟทำขนม เธอมักจะถูกใครต่อใครตำหนิว่าอวดดี แต่ไม่เคยโต้ตอบกลับไปสักครั้ง (ที่จริงแล้วอาจเป็นเพราะจริงๆ ซัมซุนก็เป็นอย่างที่เค้าว่า) ซัมซุนในจอโทรทัศน์ร้องไห้ร้องห่มแบบไม่สนใจภาพลักษณ์ มาสคาร่าสีดำที่ไหลเปื้อนใบหน้าลงมาเป็นทางทำให้เธอดูไม่น่ามองเอาซะเลย หรือจริงๆ แล้วนั่นอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้แฟนเก่าทิ้งเธอไป? แต่ซัมซุนก็เป็นผู้หญิงประเภทที่...ถ้าไอ้หมอนั่นหวนกลับมา เธอก็คงจะยิ้มรับเขา และโทษตัวเองแทนที่จะกล่าวโทษผู้ชายไม่รักดีคนนั้น โชคดีที่พรหมลิขิตขีดให้ทางได้พบกับรักครั้งใหม่ แถมยังเป็นพ่อหนุ่มที่เพอร์เฟ็กต์และรวยสุดๆ อีกด้วย แต่ซัมซุนก็เหมือนกับผู้หญิงทั่วโลกนั่นล่ะ เธอไม่มั่นใจเลยว่าความรักครั้งนี้จะไปได้ไกลแค่ไหน...
ละครเรื่องนี้ได้รับการบันทึกไว้ว่าเป็นละครที่เรทติ้งสูงที่สุด ถึง 50.5% เลยทีเดียว เป็นเรทติ้งที่มากจนเหนือความคาดหมาย แถมยังได้รับเสียงปรบมือจากผู้ชมอย่างท่วมท้นอีกด้วย ชื่อของซัมซุนกลายเป็นชื่อที่ยิ่งใหญ่...ชื่อที่ช่วยเปิดเผยให้เราได้รู้จักกับผู้หญิงคนหนึ่งที่มีมุมมองหลากหลาย นอกจากนี้ก็ยังมีตัวละครเด่นๆ อีกมากมาย อาทิ ซัมซิก, เฮนรี่ และฮีจิน พวกเขาโลดแล่นอยู่ในจอโทรทัศน์ ดำเนินเรื่องราวให้เราได้ติดตาม และเมื่อถึงวันที่พวกเขาลาจอไป...เรื่องราวความรักต่อจากนั้นจะเป็นอย่างไรไม่มีใครรู้ แต่เรื่องราวสวยงามก่อนหน้านั้นก็จะยังอยู่ในใจผู้ชมไปอีกนาน
My Lovely Sam Soon ลาจอไปเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2005 หลังจากนั้นได้มีการจัดงานแถลงข่าวขอบคุณสื่อมวลชนที่ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี เรามีโอกาสได้พูดคุยกับนักแสดงนำทั้งสี่ คิมซอนอา, ฮยอนบิน, จองรยอวอน และดาเนียล ลองไปดูกันว่าพวกเขาพูดถึงละครเรื่องนี้กันว่ายังไงบ้าง
ละครก็จบไปแล้ว พวกคุณได้รับความรักจากผู้ชมมากมายจนละครจบ อยากจะฝากอะไรให้กับพวกเค้าบ้างไหม คิมซอนอา : ฉันยังจำคำพูดที่ฉันพูดตอนงานแถลงข่าวเปิดตัวละครเมื่อหลายเดือนก่อนได้อยู่เลยค่ะ ตอนนั้นฉันบอกไว้ว่า ถ้าหัวใจที่เต็มไปด้วยความปีติยินดีแบบนี้คงอยู่ตลอดไปก็คงจะดี มาถึงตอนนี้ฉันได้ทำตามคำพูดนั้นแล้วนะคะ ฉันดีใจมากๆ ถึงเมื่อวานละครจะจบไปแล้ว แต่ว่าความรู้สึกจริงๆ นั้นยังไม่หมดไปเลยค่ะ ช่วงเวลาสองเดือนที่ผ่านมา ถ้านับรวมตั้งแต่วางแผนวางแล้วก็ 4 เดือน ฉันอยากจะบอกว่ามันเป็นความทรงจำที่มีค่ามากค่ะ ฮยอนบิน : ขอบคุณทุกๆ คนที่ทำให้เราก้าวขึ้นมายังจุดนี้ครับ ขอบคุณที่ใช้ช่วงเวลาที่มีความสุขร่วมกัน ผมไม่มีอะไรจะพูดนอกจากคำว่าขอบคุณ จองรยอวอน : ถึงตอนนี้ยังตื่นเต้นอยู่เลยค่ะ แล้วก็ยังถอดคาแรคเตอร์ของฮีจินออกไปไม่ได้ด้วย เป็นเกียรติอย่างมากที่ได้ทำงานร่วมกับนักแสดงที่ยอดเยี่ยมและทีมงานที่ยอดเยี่ยมนี้ค่ะ ดาเนียล : ผมยังจำวันที่แถลงข่าวเปิดตัวละครได้ดีเลยครับ ความจริงแล้วตอนนี้ผมก็ยังตื่นเต้นจนตัวสั่นเหมือนกับวันนั้น ขอบคุณผู้คนมากมายที่ให้ความเชื่อมั่นในตัวผมที่เป็นลูกครึ่งด้วยครับ
เวลา 4 เดือนที่ทำงานร่วมกันมาในละครเรื่อง My Lovely Sam Soon ความหมายหรือความทรงจำที่เหลือไว้สำหรับแต่ละคนนั้นมีอะไรบ้าง คิมซอนอา : คิมซัมซุนนั้นเป็นตัวละครที่ให้ความหวังกับผู้คนมากมายจริงๆ ค่ะ ฉันดีใจที่ได้รู้แบบนั้น คำพูดสุดท้ายที่พูดเอาไว้ว่า "จงรักตัวเอง" ยังคงอยู่ในความทรงจำของฉัน ฉันคิดว่าเราควรจะต้องอยู่ต่อไปในอนาคตด้วยความมั่นใจแทนที่จะถูกคนอื่นครอบงำความคิดไว้ ละครเรื่องนี้เป็นผลงานชิ้นที่มีความหมายต่อฉันมากค่ะ มันทำให้ฉันอดคิดไม่ได้ว่า ต่อไปฉันจะได้มีผลงานดีๆ แบบนี้ ได้เจอทีมงานดีๆ อย่างนี้อีกรึเปล่า โดยส่วนตัวแล้วฉันชอบฉากที่ถ่ายทำที่ภูเขาฮันราค่ะ เป็นฉากที่แม้อยากจะถ่ายทำอีกครั้งก็คงทำแบบนั้นไม่ได้อีกแล้ว ฮยอนบิน : ตอนที่แถลงข่าวเปิดตัวละครเรื่องนี้ ผมยังจำได้ว่าผมเคยพูดไว้ว่าผมอยากจะทิ้งฮยอนจินฮอนไว้แทนคังกุกจากละครเรื่อง Island ผลสุดท้ายสิ่งที่หลงเหลือเอาไว้กลับเป็นซัมซิกไม่ใช่จินฮอน แต่ว่าขณะที่ผมแสดงนั้น คาแรคเตอร์ต่างๆ ในละครผมได้เก็บไว้ในความทรงจำและหัวใจของผมอย่างเต็มเปี่ยมแล้วครับ ขอบคุณสำหรับความทรงจำทั้งหมดที่ทั้งสนุกสนานและมีความสุขในช่วงเวลา 4 เดือนที่ผ่านมาครับ จองรยอวอน : ก่อนจะเริ่มถ่ายละคร ฉันค่อนข้างจะลำบากมากค่ะ จึงอยากจะขอบคุณทีมงานและเพื่อนร่วมงานจริงๆ ที่สอนอะไรให้ฉันมากมาย ความจริงตอนนี้ฉันก็ยังตื่นเต้นอยู่เลยค่ะ ดาเนียล : สำหรับผมถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมจริงๆ ได้เรียนรู้การแสดงตั้งมากมาย แต่ว่าถ้าสามารถเรียนรู้คำว่าเพื่อนได้อีกหน่อยก็คงจะดี เป็นประสบการณ์ดีๆ ที่ผมได้ก้าวข้ามกำแพงที่เป็นอุปสรรคด้านภาษาครับ
มีบ้างไหมฉากที่ยังเสียดายหรือว่าฉากที่อยู่ในความทรงจำ คิมซอนอา : มีเยอะแยะเลยค่ะ แต่ว่าฉากที่ดื่มเหล้าและพูดคุยกับพ่อนั้นฉันจดจำได้แม่นยำที่สุด อย่างเช่นบทที่พูดว่า "ถ้าหัวใจเราแข็งแกร่งขึ้นก็คงจะดีนะคะ พ่อ" หรือ "ฉันอดข้าวมานานแล้ว" หรือคำพูดในฉากบนเตียงที่ไม่สามารถออกอากาศได้ก็ประทับใจค่ะ แต่ว่าหลายคนอาจจะบอกว่ามันไม่มากไปหรือ? สำหรับฉันนะคะ ไม่ว่าจะเป็นฉากที่ภูเขานัมซานหรือภูเขาฮันรา ฉันยังจำไว้ได้ไม่ลืมจริงๆ ฮยอนบิน : ผมจำฉากที่ไปปิกนิกกับพี่แล้วเกิดอุบัติเหตุได้ครับ ตอนถ่ายต้องห้อยหัวอยู่นาน ถ่ายลำบากมากครับ ฉากที่อยู่ในความทรงจำของผมนั้นมีมากจริงๆ ถ้าจะให้ไล่ให้หมดนั้นลำบากมากครับ ถ้าจะให้พูดถึงฉากที่อยากให้ถ่ายทำใหม่นั้น ผมอยากจะถ่ายทำใหม่ตั้งแต่ฉากแรกเลยครับ คิมซอนอา : หา~ อะไรนะ~ ฉันถ่ายกับคุณอีกรอบไม่ไหวหรอกนะ (หัวเราะ) จองรยอวอน : ฉันคิดถึงฉากที่พี่ซอนอาพูดว่า "เธอ ยัยผู้หญิงเลว" และก็จับหัวฉันเขย่าไปมาค่ะ ตอนแรกฉันกับพี่ซอนอาไม่ค่อยสนิทกัน แต่ว่าหลังจากถ่ายฉากนั้นเราทั้งคู่ก็สนิทสนมกันมากขึ้น ฉากที่ต้องเลิกกับจินฮอนก็ด้วย มันยังคงอยู่ในความทรงจำของฉันค่ะ ดาเนียล : ฉากที่ถ่ายทำกันที่เกาะเชจูนั้นอยู่ในความทรงจำของผมมากกว่าฉากอื่นๆ ครับ นอกจากนั้นผมก็ยังจำเซ็กซี่ คุกกี้ที่ถ่ายกับคิมซอนอาได้ด้วย ฉากที่จองรยอวอนขว้างของใส่ผม ผมก็ยังจำได้ดี ฉากที่ถ่ายทำกันที่ซองซันบงที่ผมมีบทต้องพูดว่า "ผมเป็นคนที่ถูกหลอก" ผมก็อยากจะถ่ายฉากนั้นอีกครั้ง ถึงแม้ว่าตอนนั้นผมจะค่อนข้างมึนหัวอยู่หน่อยๆ ก็ตาม
คุณดาเนียลนั้นได้รับความนิยมอย่างมากจากละครเรื่องนี้ คุณคิดว่าเหตุผลที่ละครเกาหลีได้รับความนิยมคืออะไรคะ คุณพอจะเล่าแผนการต่อไปในอนาคตในฟังได้หรือเปล่า ดาเนียล : ไม่ว่าที่ไหนในโลกก็ล้วนแต่ให้ความสนใจกับวัฒนธรรมเอเชียทั้งนั้น โดยเฉพาะผลงานของเกาหลี ผมคิดว่าได้รับความนิยมเพราะว่ามีคุณภาพสูงครับ ส่วนแผนการต่อไปของผมนั้น เพราะว่าคุณแม่จะมาเกาหลี ผมเลยอยากจะใช้ช่วงเวลานั้นกับคุณแม่ครับ ผลงานต่อไปที่เกาหลีน่ะเหรอครับ ก็มีแผนจะทำอยู่เหมือนกัน แต่ช่วงนี้ผมอาจจะต้องไปๆ มาๆ ระหว่างเกาหลีและอเมริกาบ่อยๆ
การทำงานร่วมกันระหว่างซัมซุนและซัมซิกเป็นอย่างไรบ้าง คิมซอนอา : ก่อนจะเริ่มถ่ายทำละครฉันเคยเจอกับเขาครั้งหนึ่งบนถนน ถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่านั่นเป็นจุดเริ่มต้นของพรหมลิขิตของเราหรือเปล่า แต่เราก็เอาเรื่องนั้นมาล้อเล่นกันบ่อยๆ ในจิตใจของซัมซุนนั้นจดจำซัมซิกไว้ตลอดกาล ในจิตใจของฉันก็เป็นอย่างนั้นค่ะ ระหว่างการถ่ายทำนั้นไม่มีความผิดพลาดเกิดขึ้นเลยสักครั้งเดียว ถ้าจะให้ประเมินฮยอนบิน ก็ต้องเรียกว่าเขาเป็นคนที่เห็นแก่ส่วนรวมและเป็นเพื่อนที่ขยันมากค่ะ ฮยอนบิน : คุณซอนอาขยันกว่าผมอีกครับ ผมคิดว่าเขาเป็นนักแสดงที่มีความตั้งใจยอดเยี่ยมครับ
คุณลองวิเคราะห์เหตุผลที่ทำให้ละครเรื่องนี้เป็นที่นิยมได้ไหม คิมซอนอา : ฉันคิดว่าเพราะละครเรื่องนี้มีด้านที่โต้ตอบกันเหมือนกับชีวิตจริงๆ อยู่มาก อย่างเช่น ฉากที่ตะโกนว่า "ฉันอยากจะเป็นอะไรหลายๆ อย่างก็เลยกลายเป็นฉันในวันนี้ ไอ้คนที่คิดว่าตัวเองนั้นถูกพิษเศรษฐกิจฆ่าน่ะ ออกมาให้หมดสิ" ในฉากนี้เราจะได้เห็นถึงภาพของคนที่ขาดแคลนสิ่งของที่จำเป็นที่จะดำรงอยู่ในสังคม ไม่ว่าจะเป็นสถาบันการศึกษา รูปร่างหน้าตา หรือฐานะทางเศรษฐกิจ เป็นต้น เพราะอย่างนั้นก็เลยทำให้ละครเรื่องนี้เข้าถึงใจคนดูได้มากมาย
ในการแสดงนั้นคุณตั้งเป้าหมายไว้บ้างหรือเปล่า คิมซอนอา : ตั้งแต่ตอนเริ่มถ่ายทำ ฉันคิดไว้ในใจว่า "เวลาแสดงต้องทำให้จิตใจนั้นเคลื่อนไหวไปด้วย" จนกระทั่งถึงฉากสุดท้ายที่ถ่าย ฉันก็คิดว่านี่มันไม่ใช่ละครแล้ว ฉันนึกอยากจะทำให้มันเป็นเรื่องจริงๆ ขึ้นมา อยากจะเอาของที่ประดับตกแต่งเอาไว้นั้นออกไป ฉันคิดว่าของที่เริ่มต้นจาก 0 ก็ควรจะไปอย่าง 0 เหมือนกัน ฉันคุยเรื่องนี้กับผู้กำกับจนตัวเองกลายเป็นซัมซุนไปเลยโดยไม่รู้ตัว ฉันเสนอความคิดเห็นอย่างนั้นอย่างนี้ในการที่จะเป็นซัมซุน และผู้กำกับก็ฟังความคิดเห็นต่างๆ จากฉันมากมาย ในฉากสุดท้ายที่หอมแก้มก็เป็นไอเดียของฉันด้วยค่ะ ^^
เพื่อที่จะรับบทเป็นคิมซัมซุนก็มีเรื่องราวโด่งดังว่าคุณต้องลดความอ้วน คิมซอนอา : ทุกคนสนใจกับความอ้วนของฉันมากเลยเหรอเนี่ย ฮ่าฮ่า ฉันอยากจะลดน้ำหนักด้วยความคิดที่เรียบง่ายค่ะ ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรเลยจริงๆ นะคะ ก็แค่ต้องใส่ใจกับสุขภาพเป็นอันดับแรก เพราะฉันคิดว่าการที่ฉันรู้สึกไม่สบายนั้น ถ้าได้ลดน้ำหนักลงไปบ้างคงจะเอาสุขภาพที่ดีกลับมาได้
credit : Seoul Street magazine |
ความคิดเห็น