รหัสฟ้า...การเดินทางของจิตและความโล่งว่างแห่งวิถีฟ้า - นิยาย รหัสฟ้า...การเดินทางของจิตและความโล่งว่างแห่งวิถีฟ้า : Dek-D.com - Writer
×

    รหัสฟ้า...การเดินทางของจิตและความโล่งว่างแห่งวิถีฟ้า

    อะไรอยู่บนฟ้า เทวดาองค์ใดแฝงตัวอยู่ ทำไมทุกศาสดาต้องอ้างอิงฟ้าเบื้องบน ฟ้าดี ดินบาป บนฟ้ามีฤทธิ์บันดาลทุกอย่าง สรรพชีวิตล้วนอยู่ในลิขิตของท่านกระนั้นหรือ สักวันข้าฯ ต้องรู้

    ผู้เข้าชมรวม

    516

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    516

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    2
    หมวด :  สืบสวน
    จำนวนตอน :  4 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  16 ส.ค. 63 / 23:56 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    คำปรารภ

     

    รหัสฟ้านวนิยายอันอิงแอบกับ จิตเล่มนี้ ถูกเขียนไว้หลายปีดีดัก ก่อน เขียวเอยขาวเอย แล่นเลยทุกลำหนังสือแนววรรณกรรมเล่มแรกของผู้เขียนและก่อน ริมคลองนั้นมีผมกับเป็ด หนังสือรางวัลแว่นแก้วครั้งที่ ๑๒  ประเภทวรรณกรรมเยาวชน ประจำปี ๒๕๕๘ จากสำนักพิมพ์ นานมีบุ๊คส์ ในอีกหลายปีถัดมา แต่เพราะเป็น งานใหญ่เมื่อนำมาอ่านทบทวนครั้งใด เป็นได้ปรับปรุงเพิ่มเติมทุกทีไป แต่ก็เฉพาะด้านการใช้ภาษาและการวางพล๊อตเพื่อให้งานออกมาดีที่สุดและอ่านได้ง่ายขึ้นจะได้ไม่เป็นการเพิ่มภาระให้กับท่านผู้อ่านมากเกินไป คราวนั้นจึงตัดสินใจตีพิมพ์ เขียวเอยขาวเอย แล่นเลยทุกลำซึ่งมีกลิ่นรสเบาบางกว่าออกมาก่อน

    แม้ รหัสฟ้าจะมี โทนสีออกเทาเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่ทุกครั้งที่นำมาอ่านทบทวน กลับทำให้รู้สึกปลอดโปร่งขึ้นมาอย่างน่าประหลาด อาจเป็นเพราะอ่านแล้วให้รู้สึกปลดปลงกับความไม่จีรังในทุกสรรพสิ่ง ใจจึงสงบและให้อภัยอะไร ๆ ใคร ๆ ได้โดยง่าย อารมณ์หงุดหงิดและเศร้าหมองพลันมลายหายไป ทำให้ระลึกถึงคำกล่าวของแฮเรียต บีชเชอร์ สโตว์ ที่ได้เขียนไว้ใน กระท่อมน้อยลุงทอมว่า จิตใจใดก็ตามที่เศร้าได้อย่างจริงใจแท้จริง ย่อมเป็นจิตใจที่ดีงามด้วยเช่นกัน”…เมื่อเห็นเป็นประโยชน์ ครั้งหนึ่ง จึงคิดจะนำออกเผยแผ่ ทว่าด้วยภาระและความคร้านของผู้เขียนด้วยกระมังที่ทำให้ รหัสฟ้ายังคงเป็นเพียงปึกกระดาษต้นฉบับแอ้งแม้งอยู่ในตู้หนังสือ กระทั่งเวลาเริ่มมีผลต่อความสมเหตุสมผลของเนื้อเรื่อง (เมื่อท่านได้อ่านแล้ว จะเข้าใจในคำปรารภนี้) เมื่อหมดเวลาแห่งการรอคอย รหัสฟ้าจึงมีโอกาสได้ออกมาโลดแล่นในบรรณพิภพ...แน่นอน มันอยู่ในมือของท่านแล้ว

    รหัสฟ้าเป็นเรื่องราวของหลากตัวละครที่มีอกุศลมูลสาม- โลภะ โทสะ โมหะ- อยู่ในดวงจิตและกมลสันดานและไม่เคยเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะในอดีต ปัจจุบันหรืออนาคต มันเป็นสิ่งเดียวที่เกาะเกี่ยวพวกเขาไว้ไม่ให้หลุดพ้นไปไหน เปรียบได้กับสังโยชน์ร้อยรัดไว้ให้เวียนว่ายในวัฏฏะ ผู้เขียนได้จินตนาการเปรียบมันได้กับแรงดึงดูดของโลกที่เหนี่ยวรั้งสสาร (รูปกาย) และพลังงาน (วิญญาณ) ของสรรพสัตว์เอาไว้ไม่ให้หลุดรอดจากอิทธิพลของมันไปได้ จำต้องหมุนเวียนมา เอาเกิดอีกครั้งตามแรงอาวรณ์ขณะดับสูญ แม้จะใช้คำว่า จินตนาการ แต่โดยส่วนตัวแล้ว เห็นว่ามันแนบสนิทกันอย่างแยกไม่ออกจนพออนุโลมได้ว่ามันคือใกล้เคียงกันหรือคือสิ่งเดียวกัน

    ตัวเอกของเรื่องที่ผ่านกาลเวลาทั้งสาม-อดีต ปัจจุบัน อนาคต- เพียงช่วงข้ามปี ทำให้เขาเห็นความแตกต่างของชีวิตและธรรมชาติได้ชัดเจนกว่าผู้ที่ดำเนินชีวิตไปตามกาลปกติ แม้ว่าในเบื้องต้นจริตของเขาจะซัดส่ายไปมาตามอาวรณ์และกิเลสที่ติดตัวมาแต่เดิม แต่เพราะความเพียรพยายามฝึกฝน การเข้าสู่ สุญตาจึง วูบขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว การนี้ทำให้เขาได้ตระหนักว่าทุกสรรพสิ่งในจักรวาลล้วนถูกตั้ง รหัสไว้แล้ว พรหมลิขิต โครโมโซม เป็นอาทิ โลกเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาล มนุษย์ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึง ย่อมถูกตั้งรหัสไว้ด้วยเช่นกัน ทว่าแม้มนุษย์จะเป็นเพียงเศษเสี้ยวแห่งจักรวาล หากแต่ปัญญาญาณของมนุษย์กลับมีพลังมหาศาล การหยั่งรู้ทำให้มนุษย์รู้แจ้งแทงตลอดและทำตัวให้หลุดพ้นจาก รหัสนั้นได้ หากมีความเพียรที่ยิ่งยวด

    อนึ่ง ยอมรับว่าผู้เขียนเองก็ไม่แน่ใจนักว่าจะจัด รหัสฟ้าอยู่ในงานเขียนประเภทใด หากจะให้ระบุลงไป ก็น่าจะเป็น ดราม่าแฟนตาซีที่มีกลิ่นทัศนะแห่งชีวิตก็พอได้กระมัง แล้วยังผสมไซไฟอีกเล็กน้อย หลายสิ่งประดิษฐ์ในนิยายเล่มนี้เกิดขึ้นจริงในกาลต่อมา นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่จำต้องพิมพ์ รหัสฟ้าออกมาในห้วงเวลานี้ เพราะหากปล่อยทิ้งไว้นานวันกว่านี้ แทนที่จะอัศจรรย์ใจในสิ่งประดิษฐ์และเหตุการณ์ต่างๆที่อาจเกิดขึ้นตามมาในอนาคตอันใกล้ ก็จะกลับกลายเป็นการลอกเลียนจน เก่าไปเสีย

    ในแง่ของ ความเร้นของชีวิตครั้งหนึ่ง ผู้เขียนได้มีโอกาสเข้าร่วมฝึกฝนเจริญวิปัสสนากรรมฐานจากสำนักวิปัสสนาแห่งหนึ่ง ผู้บรรยายได้ถ่ายทอดให้ฟังอย่างละเอียดเกี่ยวกับปรากฏการณ์ที่ผู้ที่เกิดปัญญาญาณจากสมาธิจะมีโอกาสสัมผัสนิมิตต่างๆ โดยเฉพาะการอธิบายถึงการได้เห็นการเคลื่อนไหวช้า ๆ ราวกับภาพสโลว์โมชั่น ของเทหวัตถุต่างๆ อันเนื่องมาจากจิตที่มีความไวมากกว่าการเคลื่อนที่ของวัตถุ สอดรับกับสิ่งที่ เซอร์ ไอแซก นิวตัน ค้นพบแรงดึงดูดของโลก ห้วงเวลานั้น ผู้เขียนก็พอสัมผัสได้บ้างกับ บางสิ่งขณะฝึกฝน แต่ก็ไม่มั่นใจว่าสิ่งที่ได้พบเห็น (อันถือเป็นเพียงข้อเท็จจริงหรือ Fact) เป็นความจริง (Truth) หรือไม่ หรือมีความถูกต้องมากน้อยเพียงใด จึงเพียงเอา Fact นั้นมาเล่าสู่กันฟังโดยผ่านนิยายเรื่องนี้

    ในเนื้อเรื่อง ผู้เขียนพยายามหลีกเลี่ยงคำว่า พุทธและศาสนาพุทธ และไม่อ้างอิงคำสอนหรือคำพูดของปราชญ์และครูอาจารย์ด้วยเกรงจะผิดเพี้ยนไปจากเจตนาเดิมของท่านเหล่านั้นโดยไม่ตั้งใจ ทว่าผู้เขียนก็ยังรำลึกถึงท่านเหล่านั้นเสมอมา หากเกิดความผิดพลาดประการใด ผู้เขียนขอน้อมรับไว้แต่เพียงผู้เดียว

    หวังใจเป็นอย่างยิ่งว่าท่านที่รักจะสนุกกับการอ่านและได้ข้อคิดไม่มากก็น้อย

    สุดท้ายผู้เขียนขอขอบพระคุณในความอนุเคราะห์งานเขียนของผู้เขียน มา ณ.โอกาสนี้ด้วย

     

     

     

    วิธีอ่าน

    ตามที่เรียนไว้แล้วว่า เนื้อหาในเล่มค่อนข้างหนัก และอาจซับซ้อนบ้าง ทั้งการวางพล็อตของเรื่องก็อาจสลับฉากไปมาระหว่างอดีต ปัจจุบันและอนาคต หากระหว่างอ่าน เกิดสับสนในลำดับเหตุการณ์ ผู้อ่านสามารถดูได้จากตารางเวลาแนบท้ายได้

    ขอน้อมรับข้อคิดเห็นและคำแนะนำติเตียนด้วยความเต็มใจอย่างยิ่ง ท่านผู้อ่านสามารถติดต่อกับผู้เขียนได้ที่ FB: คบเพลิง สราญ

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น