ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Kissing U [LJ]

    ลำดับตอนที่ #9 : Is stored in........ ❤ ❤ ❤..............

    • อัปเดตล่าสุด 22 เม.ย. 57









     








    BANG  :>>>>






     

     

    “หนังบ้าไรวะ  น้ำเน่าท่วมโรงเลย”  ผมบ่นกระปอดกระแปดก้ไอ้คนข้างๆดิ  มันบอกอยากดูหนังเจือกเลือกหนังรักโรแม๊นเน่าๆ   พูดขนาดนี้ยังไม่สามารถเรียกความสนใจจากมันได้เลย  สงสัยไอติมตรงหน้ามันสำคัญกว่าเจ้ามืออย่างผม  เหอะ   ไอ้เหยิน

     

    “สนุกจะตาย  แม่งกว่าจะได้รักกัน”  มันพูดแล้วยิ้มเคลิ้ม   ...................มึงอย่ายิ้มแบบนั้นดิวะ    กุเขิน

     

    “เหอะ    ถ้ากุเป็นพระเอกนะจับปล้ำแล้วยืนยิ้ม   ถ้ามันไม่รับเป็นแฟนก้ยัดเยียดความเป็นผัวให้มันไปเลย   สะใจกว่าเยอะ”  ผมพูดแล้วยักคิ้วกวนๆใส่มัน

     

    “อ่อ   หรอ”   มันยื่นหน้ากวนใส่ผม  ......................ทำหน้ากวนๆไม่ว่านะ   ทำไมต้องลอยหน้ามาใกล้ๆด้วยวะ  เดี๋ยวดึงมากัดไอ้ปากสีเชอรี่นั่นซะเลยนี่   ไอ้เหยิน

     

    “แดกไป  พูดมาก”  เมื่อผมนิ่งไปมันก้ว่าให้แล้วกินต่อ   ผมก้เงืยบแล้วกินส่วนของตนเองต่อ

     

    หลังจากนั้น  เราก้เดินเล่นไปทั่ว   แล้วก้แวะเข้าไปเล่นเกมในโซนเกม  กะจะไม่เข้านะ   อายว่ะ  มีแต่เด็ก    ไอ้เหยินนี่น่ะสิแม่งคะยั้นคะยอเก่งจริง    จนผมนี่ล่ะได้เข้ามาเล่น   ทีแรกกะจะไม่เล่นนะ  แต่เห็นไอ้เหยินมันเล่นน่าสนุกดี  เลยเล่นบ้าง   รู้ป่ะเกมไร   เกมยิงปลา?

     

    “เฮ่ยๆ  แม่พลาดไปได้วะ”  มันทั้งพูดทั้งเล่นอย่างเมามัน?

     

    “อ่อนวะ  ดูแต้มกุดิ  ยังไม่ได้เสียเกินเหรียญเว่ย”  ผมอวดมัน

     

    “เหอะ   เออแกแม่งเก่ง  เหรียญกุหมดแระ  งั้นเล่นไปคนเดียวนะกุรอด้านนอก”  มันว่าแล้วเดินออกไป  ผมยังสนุกๆไม่หายเลยยิงต่อ

     


     

    ................

     


     

    ไมมันเงียบจังวะ   ทั้งที่เสียงเล่นเกมและเสียงเด็กมันก้ยังดูครื้นเครงอยู่นะ  แต่ทำไมมันดูเงียบ  ยังงี้วะ????

     

    เมื่อไม่มีอารมณ์เล่นต่อผมเลยเดินออกมา  ก้เห็นไอ้เหยินคุยกะเด็กคนหนึ่งอยู่

     

    “แล้วทำไมพี่สาวถึงทาลิปสติกล่ะ ปากแดงเลย  ตัวก้ขาว  ผู้หญิงชัดๆ”  พวกมันคุยไรกัน

     

    “ก้ชั้นขาวอยู่แล้ว  แล้วปากชั้นมันก้แดงเอง  ไอ้เด็กบ้าบอกกี่ทีให้รียกพี่ชายๆ  เดี๋ยวจับตีก้นซะเลย”  สงสัยมันไม่ได้คุยกันแล้วล่ะครับ

     

    “แถมพี่ยังสวยอีกด้วย  ผมเกลียดจังเลย  พวกทอมแอ๊บเป็นผู้ชายเนี่ย  เฮ้อออ”  เด็กมันทำหน้าเซง  เฮ่ย   ผมกลั้นขำกับบทสนทนาอยู่ห่างๆ

     

    “งั้นพิสูจน์มั้ย   ไปเข้าห้องน้ำกัน”  เฮ้ย  ไอ้เหยินมันซีขนาดนั้นเชียวหรอวะ

     

    “เรื่องไรต้องพิสูจน์  แค่มองก้รู้”   เด็กนั่นทำปากยื่น

     

    “เหอะ   ไม่กล้าล่ะสิ”  ฮิมชานยิ้มเย้ย   กับเด็กนะแก  อะไรจะภูมิใจขนาดนั้น

     

    “กล้าดิ”  ว่าแล้วเด็กนั่นก้ถอดกางเกง   เฮ้ยยยย

     

    “เฮ้ยยย   แกทำไรน่ะ  ไอ้เด็กต๊อง”   ไอ้เหยินตกใจทั้นที  และผมก้เช่นกัน  เด็กนั่นมันจะทำไรวะ

     

    “แมนๆเลยพี่   พิสูจน์มันตรงนี้เลย”  เด็กยืนกอดอกเชิดหน้าใส่   ผมเลยมองที่ไอ้เหยินที่ยืนอึ้งอยู่

     

    “เหอะ    ไม่กล้าล่ะสิ   ผมว่าแล้ว  พี่สาวต้องโกหก  ไอ้พี่ทอม”  เด็กมันยิ้มเยาะใส่ฮิมชาน   รายนั้นเมื่อได้ยินคำเยาะเย้ย   ก้โกรธจนหน้าแดง  พลางก้มลงจะถอดกางเกง   เหยดดดดดดด

     

    “เชรี้ยเหยิน   อย่านะเว่ย”   มันคงโกรธจนหูอื้อ  เพราะมันกำลังรูดซิบ ถอดตะขอจะกระชากกางเกงลงโดยไม่สนใจคำทักท้วงผมเลย  เด็กคนนั้นหันมามองที่ผม  อย่างตกใจพลางรีบใส่กางเกงกลับ  ผมพุ่งเข้าไปดึงมือมันไว้ไม่ให้ถอด  ท่าเราตอนนี้คือ  ผมกำลังกอดมันจากด้านหลัง  โดยที่มือกุมที่มือมันที่ถอดตะขอกางเกงอยู่   แบบ   เอ่อ..................

     

    “เป็นบ้าไรวะ   แกอยากโดนข้อหาทำอนาจารรึไง”  ผมกระซิบเสียงดุข้างๆหูแดงๆ

     

    “เฮ่ย   กะ  แก   แกมาตั้งแต่เมื่อไหร่วะ”   ดูมันพึ่งได้สติรีบสลัดตัวออกจากผม  แล้วจัดการจัดชุดให้เข้าที่พร้อมหน้าแดงๆนั่น

     

    “ก้ตั้งแต่แกทะเลาะกันเรื่องทอมนี่ล่ะ   ไอ้หนูนี่..........”

     

    “โหย   ที่แท้ก้ผู้หญิงนี่เอง   แถมแฟนยังโหดอีก   แล้วไมต้องบอกเป็นผู้ชายด้วยวะ”   เด็กนี่พูดแทรกขึ้น  นี่มันยังเข้าใจดีจริง  แบบผิดๆ  ดูไงวะไอ้เหยินมันสวยขนาดนั้นเลยรึไง   พึ่งรู้แฮะ

     

    “ไอ้เด็กบ้า  บอกแล้วไงกุผู้ชาย”  ฮิมชานกำลังจะพุ่งไปขย้ำเด็กคนนั้นที่ทำหน้ากวนๆอยู่  ผมเลยคว้าคนตัวบางไว้   ...........ตัวบาง?

     

    “ใจเย็นดิวะ”  ผมเตือนสติมันก่อนที่จะเกิดโศกอนาตรกรรมขึ้น

     

    “แต่พี่สาวครับ  น่าจะหาแฟนหล่อกว่านี้นะ   ทำไมคนสวยชอบผู้ชายหน้าโหดยังกะโจรเป็นแฟนด้วยนะ  แถมมีเหงือกเยอะเกินไปอีกตะหาก   พูดแล้วเสียดายคนสวยๆแบบพี่นะ  สนใจมาเป็นแม่ผมมั้ย  พ่อผมหล่อนะ”     ............................................. ไอ้เด็กเวรนี่มันพูดอะไรของมันวะ  หน้าโหด  เหมือนโจร  เหงือกเยอะ  ที่สำคัญ..........เป็นแม่...........ไอ้เหยินของกุมึงคิดจะปะเคนให้พ่อมึงหรอ ..................กรอดดดดดดด

     

    “ไอ้เด็กเวรนี่!!!!!   ผมตะโกนออกไปกะจะเข้าไปจับเด็กปากเสียหักคอเสียให้เข็ด   กล้ามากนะมายัดเยียดไอ้เหยินให้เป็นเมียพ่อมันเนี่ย   ผมพุ่งตัวจากกอดฮิมชานไว้จะกระโจนออกไปแต่ก้ถูกฮิมชานกอดไว้จากด้านหลัง  เด็กนั่นตกใจจนหน้าซีด  รีบวิ่งหนีไปอย่างว่องไว   เหอะ  ไอ้เด็ก#@$@$%$&%*&^&(**()_)()*(&%^^%$

     

    “เชรี้ยเหงือก  ใจเย็นดิวะ  เด็กมันวิ่งหนีแล้ว”  เสียงฮิมชานเรียกสติผมให้กลับมา

     

    “ก้ดูมันพูดดิ”  ผมยังฉุนไม่หาย

     

    “จะเอาอะไรกะเด็ก”   มันพูดเตือนใจผมพร้อมกับปล่อยกอดจากผม  จะปล่อยทำไม  คุยท่านี้ก้ดีอยู่แล้วนี่  [บังเอ๋ย]

     

    “แล้วมึงล่ะ  ถ้ากุมาไม่ทันป่านนี้คงไปอยู่โรงบาลบ้าแล้ว  คิดได้ไงถอดกางเกงโชว์เด็ก”  ผมตอกมันกลับ

     

    “หุบปากแกไปเลยไอ้เหงือก”  มันมุ่ยหน้าฉุนๆออกมา  อย่างกักเก็บอารมณ์ไม่อยู่

     

    “เหอะ   ว่าไป  ไอ้เด็กนั่นมันก้แสบใช่ย่อยนะ”  ผมพูดขึ้นหลังจากเราเริ่มเดินออกมา

     

    “เออว่ะ  เอาซะฟิวส์กุขาดเลย   และที่สำคัญกุพึ่งเห็นคนรักเด็กแถวนี้จะฆ่าเด็กด้วยว่ะ  ฮ่าๆๆๆ”  ฮิมชานหัวเราะ  ก้ตลกจริงๆนั่นแหละ  

     

    “เออว่ะ”  ผมเกาท้ายทอยแก้เก้อ  เรื่องจริงครับ  ผมชอบเด็กนะ  แต่คงต้องเว้นไอ้เด็กแสบนี่เป็นกรณีพิเศษ  เด็กบ้าไร  ปากปีจอตั้งแต่เด็ก   เป็นอย่างนี้  มันจะได้โตกับคนอื่นมั้ยวะ  คิดแล้วขำกับตนเองที่ฟิวส์ขาด  แถมโดนกอดอีก  เฮ้ออออ  รู้สึกดีนะเนี่ย

     

     

     

     






     

    ..........................

     

     










     

     

     

     

    “วู้วววววววววววววววว  ฮ่าๆ  รู้สึกดีเป็นบ้าเลยว่ะ   ฮู้ววววววววววววววว”   ไอ้เหยินเปิดเงิงรับลมเต็มที่  หลังจากออกจากห้างแล้วกินข้าวเสร็จเราก้พากันเช่ารถมอร์ไซต์มานั่งเล่น  ตอนนี้เราอยู่นอกเมืองแล้ว  มันจึงกล้าแหกปากเงิงยื่นตะโกนได้เต็มที่  อย่างผ่อนคลาย  รอบข้างเราเป็นทุ่งหญ้าที่แข่งกันออกดอกหลากสี  มองดูเพลินตาดี

     

    “เหยินๆ  แวะต้นไม้ต้นนั้นหน่อย”  ฮิมชานตะโกนบอกผมแข่งกับลม  ผมได้ยินเลยแวะลงตามที่มันบอก   

     

    ตอนนี้เราอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ที่ผมอุตส่าฝ่าเส้นทางอันขรุขระแสน  มาได้อย่างทุลักทุเล  แต่มีของแถมคือกอดแน่นๆจากคนข้างหลังทำให้ผมว่าเส้นทางมันช่างเป็นใจ............หึๆ 

    “ว้าวววว  สวยจัง ฮ๊า  ..........น่าเสียดายไม่มีกล้องเลยอ่ะ”   ฮิมชานมุ่ยหน้าลง  ผมจึงยื่นโทรศัพท์ไปให้  ฮิมชานยิ้มร่ามาให้ผม  ไม่ได้ตั้งใจจะมองนะ  แต่   สะดุด  ..................ผมว่าดอกไม้ทั้งทุ่งคงสวยไม่สู้ยิ้มเหยินๆของฮิมชานหรอก ................   อะไรจะมีออร่าขนาดนั้น  คิดได้คำพูดเด็กคนนั้นก้เด่นขึ้นมา …………… ‘พี่คนสาวคนสวย  .................เออว่ะ ...........  มันสวย

     

    “เหงือก..............................

    ..........................บัง

    กุก...........................เชรี้ยกุก”

     

    “เฮ้ยยยย  ไร   ไรวะ”  เหมือนผมจิตหลุดไปชั่วขณะ   ตอนนี้ผมเห็นฮิมชานยื่นหน้าแดงเข้ามามองผม  แล้วเอามือมาทาบลงหน้าผากผมข้างหนึ่ง  ส่วนอีกข้างก้วางบนหน้าผากตัวเอง  ผมมองมันนิ่งๆ  มันจะวัดเอาไรวะ  คนยิ่งจิตหลุดๆอยู่

     

    “ก้ไม่ตัวร้อนนี่  ปวดหัวป่าว  ทำไมดูเหม่อๆ”  มันพูดน้ำเสียงติดห่วงใยมาให้  ใจผมกระตุกเต้นแทบหลุดออกจากอก  จะตื่นเต้นทำไมวะ

     

    “ป่าว  อากาศดีน่ะ  เลยคิดไรเรื่อยเปื่อย”  ผมว่าแก้เขิน

     

    “คิดก้คิดไปดิ  แต่อย่าจ้องกุขนาดนั้น”  เริ่มต้นก้ดูจะวีนๆ  แต่ลงท้ายด้วยเสียงแผ่วจนคางชิดคอ  แล้วก้หน้าแดงๆนั่นอีก   เหยิน  เมื่อไหร่มึงจะเลือกยุ่งกะหัวใจกุซักที   ระเบิดกุเลยเถอะ   ให้ตาย

     

    ฮิมชานตระเวนถ่ายรูปไปทั่ว  ดูตามอีกคนไปก้เพลินๆดีนะ  แดดอ่อนๆนั่น  กลิ่นอายหอมๆ  ทำให้รู้สึกผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูก  นึกขำนะ  ฮิมชานมันชอบผมจริงหรอ  ชอบตรงใหน  ดูมันก้ปกติไม่ได้หวานหยดใส่ผมเหมือนคนแอบรักเลย  เป็นบ้าเป็นหลังแต่ผมคนเดียวรึไง    ไม่นานร่างบางก้วิ่งกลับอย่างเหนื่อยหอบลงข้างๆผม   หอมจัง  ตัวมันห๊อมหอม  ผมเบนสายตาหนีกลัวจะฉุดอีกคนที่นั่งหอบมากอดให้หายหมั่นเขี้ยว

     

    “นี่   ชั้นถ่ายรูปได้ตั้งเยอะ  แต่ยังไม่มีรูปแกเลยวะ”  หลังจากหายเหนื่อยมันก้พูดขึ้น

     

    “งั้นมะ”  ผมว่าแล้วดึงมือถือมา  แล้วโอบมันเข้ามากอดก่อนจะกดชัตเตอร์โดยที่มันไม่รู้ตัว  แล้วกดเซฟอย่างรวดเร็ว

     

    “เชรี่ย  ให้กูหล่อก่อนสิ  มา  ถ่ายใหม่”  มันว่าแล้วแย่งมือถือไป  ผมเลยกอดมันแล้วซบลงที่ไหล่มันอย่างอ้อนๆ  เหอะๆ  ไม่สนิทอย่าหวังว่าจะเห็นกุอ้อนนะเออ   มึงคนแรก

     

    “เชรี้ยยยยยยย”   อ้าวว่ากุทะมายยย

     

    “ไรวะ”  ผมลืมตามาถามมัน  ที่ยู่หน้าใส่โทรศัพท์ผมอยู่

     

    “แบทแม่งหมด”  ดูมันหงุดหงิดไม่น้อย

     

    “ว้า   เสียดายจัง”  ผมพูดอย่างปลงๆ  แต่ก้ดีนะที่ได้มาแล้วรูปนึง

     

    “แล้วรูปตะกี๊แกได้เซฟป่ะ”  มันถามผม

     

    “ก้แกบอกเอาใหม่”  แต่กุก้เซฟแล้วล่ะ  ไม่ต้องห่วง  ผมแกล้งบอกมันไปทำหน้าเหรอหรา

     

    “เสียดายว่ะ   งั้นเพื่อยืนยันการมาเยือนเรามาทำสัญลักษณ์กันเหอะ”  มันว่าแล้วเดินไปที่ต้นไม้

     

    “ขอร้องอย่าน้ำเน่า”  ผมว่ามันอย่างเอือมๆ

     

    “ชั้นจะทำ  แกไมทำก้เรื่องของแกดิ”  มันว่าทำปากยื่น  แล้วเอาก้อนหินมาขีดๆเขียนๆบนต้นไม้  เออจะว่าไปก้หน้าสนนะ  ลองทำมั่งดีกว่า   ผมเขียนวันที่  ชื่อผม  และคำว่า เหยิน  ห้อยท้าย  เหอะๆซักวันคงได้กลับมาใหม่นะ  เขียนเสร็จผมก้หันไปหาฮิมชานที่ยังใจจดใจจ่อกับการขีดเขียนของตัวเองอยู่   เลยยื่นหน้าเข้าไปอ่านดู  มันเขียนไรวะ

     

    “ป่ะ เสร็จแระ   เชรี้ยยยย”  เต็มหน้าเลยครับ   เชรี้ย ได้โดนอ่ะ 

     

    “แกเขียนไรอ่ะ”  ผมพยายามจะอ่าน  แต่มันตะคุบปิดเอาไว้

     

    “เรื่องของชั้นเว่ย  อย่าสอด  ไปดิ  อยากกลับแล้วไม่ใช่หรอ”   ฮิมชานพูดไปทำหน้าแดงไป  แล้วดันผมออกไปที่รถ  ไรของมัน  เอ๊ะผมนึกอยากแกล้งแล้วสิ  คิดได้ผมรวบตัวมันเข้ามากอด  มันนิ่งไป  แต่นาทีต่อมาก้ดิ้นขืน

     

    “นิ่งๆแปบนะ”  ผมกระซิบบอกมันใกล้ใบหูแดง  มันยอมยืนนิ่งๆ 

     

    “อะ  อะไร”  ดูเสียงมันสั่นๆ  ผมอมยิ้มกับท่าทีของมัน  ก่อนจะคลายกอดออกมาแล้วมองเข้าไปนัยตาสวย

     

    “หลับตาดิ”  ผมพูด  แล้วมันก้ยอมทำ  ผมผละออกมา

     

    “จะไปใหนน่ะ”  มันว่าแล้วใช้แขนป่ายหาผม  ทั้งที่ตายังหลับอยู่

     

    “รอแป๊บเดี๋ยวมา”  ว่าแล้วผมก้วิ่งกลับไปอ่านข้อความบนต้นไม้ที่มันเขียนอยู่  ข้อความที่ผมคิดว่าฮา  ใช่น้ำเน่ามาก  แต่ทำไมผมฮาไม่ออก  แล้วทำไมหัวใจที่อยู่ในอกผมถึงกระหน่ำเต้นได้ขนาดนี้   เห็นข้อความแล้วหน้าไอ้เหยินฮิมชานมันก้ลอยคว้างในสมองผม  ไม่รู้สิ  ตัวผมสั่นไปหมด  ทำไมมันตื่นเต้นได้ขนาดนี้นะ

     

    “เชรี้ยกุก  มึงหลอกกุ  ไอ้เหงือก  ไอ้บ้า  ไอ้...........”  ไม่รู้แหละว่ามันจะต่อว่าผมยังไง  ผมดึงคนตัวบางเข้ามากดจูบ  ไม่ใช่ดิฟคิส  แค่แตะค้างไว้  แล้วกอดแน่นๆ  ให้ใจมันเต้นได้คงที่ซักหน่อยก่อนเหอะ

     

    “อื้อออ”  เพราะฮิมชานที่แรกๆนิ่งไป  แต่พอได้สติก้ดิ้นขืนตัวออก  ผมคลายกอดออกแต่ก้ยังเป็นกอดหลวมๆ  จ้องลึกลงนัยน์ตาสวยอย่างสื่อความหมาย  ไม่รู้นานเท่าไหร่  แต่มันทำให้ผมรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก

     

    “ค่ำละ  ปะกลับ”  ผมพูดขึ้นหลังจากตาสวยหลบไป  ฮิมชานเดินตามผมมาเงียบๆ

     

    สำหรับผม  วันนี้เป็นวันพิเศษ  ไม่ใช่เพราะได้หยุดงาน  ไม่ใช่เพราะได้เจอรุ่นน้องคนสนิท  ไม่ใช่เพราะหนังโรแม๊นเน่าๆ  ไม่ใช่เพราะการเล่นเกมยิงปลาครั้งแรก ไม่ใช่เพราะทุ่งดอกหญ้าหรือข้อความบนต้นไม้ของคนที่กอดเอวและซบผมอยู่ในตอนนี้  แต่เพราะอะไรไม่รู้  ทำให้ผมยิ้มและไม่คิดจะลืมตลอดไป  เพราะอะไรนะ  ฮิมชาน...............

     

     

     

    ..........................................






    ..........................




    .................




    ...........





    .....






    ...








    TBC.

     




     

     

    ไรท์ : >>>> อ่านให้สนุกนะคะ ^^

    ช่วงนี้สอบค่ะ  เลยไม่ค่อยได้อัพ  ขออภัยสำหรับคนที่ติดตามนะคะ ^^




     


    ขอขอบคุณ : themy  butter

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×