ซูเม่ยเป็นเพียงสตรีธรรมดาที่มีชาติกำเนิดไม่ธรรมดา แค่ต้องการใช้ชีวิตสงบสุขทำไมยากถึงเพียงนี้?
"ชีวิตสงบสุขที่เจ้าต้องการคืออะไร?" บุรุษสติไม่สมประกอบที่อ้างว่าตัวเองเป็นจอมมารยิ้มกริ่ม สีหน้าชี้ชัดเป็นประโยคโอ้อวดว่า'ข้าสามารถทำได้ทุกคำขอของเจ้า'
"มีบ้านเล็กๆที่อบอุ่น สามารถตกปลา ปลูกดอกไม้ ชื่นชมธรรมชาติได้อย่างรื่นรมย์" ซูเม่ยตอบโดยไม่แม้จะคิดทบทวน
"ได้ตามที่เจ้าปรารถนา"
ร่างสูงใหญ่ในชุดคลุมลึกลับขยับกายครั้งเดียว ถึงกับโผล่มาอยู่ด้านหน้าซูเม่ย นางไม่ทันจะโต้ตอบอะไร ชายตรงหน้าพลันโน้มกายประกบริมฝีปากอย่างแนบชิด!
หญิงสาวเบิกตากว้าง หัวใจเต้นระรัว ร่างกายแข็งเกร็งไปหมด จนกระทั่งอีกฝ่ายผละออกไป นางถึงสามารถขยับตัวได้
"ทำอะไร" คิ้วขมวดมุ่น ถามด้วยสีหน้าที่ไม่เปลี่ยนไปสักเท่าไร
สัมผัสเมื่อครู่ช่างแปลกประหลาดนัก เลือนรางว่าในอดีตมีเคยคนมอบสัมผัสเช่นนี้แก่นางมาก่อน และดูเหมือนมันจะไม่ใช่สิ่งที่สำคัญสักเท่าไร จะว่าคุ้นเคยก็ใช่ จะว่าไม่คุ้นก็ใช่ ซูเม่ยไม่แน่ใจว่าการกระทำเมื่อครู่เรียกว่าอะไร นางจำมันไม่ได้เสียแล้ว
ประกายตาของหยางชุนเปลี่ยนแปลงภายในเสี้ยววิ เป็นครั้งแรกที่เจอหญิงสาวผู้ไม่ลุ่มหลงในตัวเขาถึงเพียงนี้ สิ่งที่เขาทำนั่นเรียกว่าขั้นสูงสุดของการทำความรู้จักแรกเริ่มแล้ว! สตรีคนใดพบเจอล้วนอ่อนระทวยล้มพับเข้าอ้อมกอดเขาทุกราย แล้วคนตรงหน้าเขานี่เป็นเช่นไร ตายด้านไปแล้วใช่หรือไม่!
"เอาล่ะ ตอนนี้เจ้าก็เป็นทายาทจอมมารรุ่นที่สามร้อยยี่สิบแปดต่อจากข้าแล้ว หลังจากนี้จงทำหน้าที่ของเจ้าให้ดีที่สุด!" จอมปิศาจที่เหล่าบุรุษและสตรีล้วนลุ่มหลงกัดฟันพูดอย่างขัดเคือง จากนั้นสะบัดกายเดินจากไป
"สิ่งที่เจ้าต้องทำคือการตั้งตัวขึ้นเป็นจอมมารในแต่ละเมือง จากนั้นลักพาตัวเด็กชายหญิงผู้มีความสำคัญที่สุดของเมืองนั้นมาดูแล ย้ำ ดูแลให้ดีที่สุด กระทั่งยุงไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอม! แล้วเจ้าก็ประกาศอำนาจของจอมมาร ท้าทายให้เหล่ามนุษย์รวบรวมกลุ่มผู้กล้าเพื่อเดินทางมาโค่นล้มเจ้า ภารกิจที่เจ้าต้องทำให้บรรลุคือสร้างกับดักที่ผ่านไม่ยาก ทว่าจัดการไม่ง่าย เมื่อกลุ่มผู้กล้ามาอยู่ตรงหน้าเจ้าแล้วให้เจ้าต่อสู้พอประมาณ จากนั้นแกล้งแพ้อย่างสมศักดิ์ศรีและคืนตัวเด็กที่เจ้าลักพาตัวกลับไปเสีย! นั่นถึงเป็นการบรรลุเป้าหมายโดยสมบูรณ์ หนึ่งภารกิจต่อเงินจำนวนสองแสนหยวน ค่าใช้จ่ายระหว่างทำภารกิจจดบัญชีไว้ เจ้าสามารถนำมาเบิกแก่ข้าในภายหลังได้"
กล่าวด้วยใบหน้าเคร่งขรึมจริงจัง ทุกวาจาที่กล่าวล้วนมีความน่าเชื่อถืออย่างมากในสายตาของซูเม่ย
ในขณะที่ซูเม่ยกำลังจะประทับลายนิ้วมือทำสัญญาห้าปีแก่ผู้ว่าจ้างหน้าเลือดโดยไม่รู้อะไรนั้น คนสนิทข้างกายหยางชุนทำได้เพียงมองดูเจ้านายที่กำลังแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์ไม่ต่างจากหมาป่าที่กำลังรอเชือดแกะนุ่มๆลงคอ สีหน้านั้นช่างทำให้ผู้คนใจสั่นเหลือเกิน ได้แต่ไว้อาลัยล่วงหน้าแก่สาวน้อยเดียงสาผู้นั้นเสียแล้ว
"หมายความว่าอย่างไรนะ?" ซูเม่ยถามด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ เมื่อมองเด็กน้อยที่กำลังเกาะขาตัวเองแน่นยิ่งกว่าตุ๊กแก ก็พลันมุ่นคิ้วลง "เดี๋ยวเถอะ เจ้าช่วยปล่อยข้าก่อนได้หรือไม่?"
เด็กชายที่สูงไม่เกินสะโพกของซูเม่ยส่ายหน้าไม่ยินยอม น้ำเสียงของอีกฝ่ายอ่อนโยนนุ่มนวลถึงเพียงนี้ ต่อให้โลกจะถล่ม ฟ้าจะทลายเขาก็ไม่คิดจะออกห่างจากสตรีผู้นี้เป็นอันขาด
เพราะมัวแต่วุ่นวายกับเด็กที่ตนจับมา ซูเม่ยจึงลืมเลือนคนสนิทของหยางชุนไปชั่วคราว เสียงเรียบเฉยจึงกล่าวออกมาอีกครั้ง
"ท่านจอมมารจับเด็กมาผิดคนแล้ว เด็กผู้นั้นไม่ใช่องค์หญิงซูฮวาบุคคลคนสำคัญที่ท่านควรพาตัวมา แต่เป็นองค์ชายอวิ้นมู่จากแคว้นข้างเคียงที่ได้รับเชิญมางานพระราชพิธีของแคว้นจิ้นขอรับ"
จอมมารมือใหม่ยิ้มค้าง พูดไม่ออกอยู่บ้าง นี่เริ่มงานแรกนางก็ทำผิดพลาดเลยงั้นหรือ แล้วชื่ออวิ้นมู่ช่างคุ้นหู
"ท่านเดาถูกแล้วครับ องค์ชายอวิ้นมู่แห่งราชวงศ์หลง เผ่าพันธุ์แห่งมังกรชั้นสูงที่อดีตจอมมารกล่าวเตือนไปว่า จอมมารมือใหม่เช่นท่านพยายามอย่าไปล่วงเกินเผ่าพันธุ์ทรงพลังเหล่านั้นนั่นล่ะขอรับ"
ฮุ่ยเหอมอบรอยยิ้มหวานอันเป็นรอยยิ้มประจำตัวที่พบมาตลอด ทว่าเมื่อมันเผยออกมาท่ามกลางสถานการณ์เช่นนี้ ซูเม่ยก็เริ่มรู้สึกได้ว่าเขาช่างเป็นคนที่เหมาะสมกับหน้าที่มือขวาของอดีตจอมมารโดยแท้
____________
เป็นแนวที่ไม่เชิงว่าจีนโบราณเพียวๆ จะมีกลิ่นอายแฟนตาซีผสมอยู่ด้วยนะคะ เพิ่งเคยลองแต่งแนวนี้ครั้งแรก แนะนำได้ตามสะดวกเลยค่ะ
ความคิดเห็น