ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Brutal (exo snsd)

    ลำดับตอนที่ #13 : Brutal : Chapter12 (100%)

    • อัปเดตล่าสุด 12 เม.ย. 57


    Brutal

    chapter 12

     

     

                กลิ่นหอมกรุ่นของอาหารเช้าลอยมาจากห้องครัว ทำเอาคนที่ไม่ได้กินอะไรทั้งคืนอย่างเจสสิก้านั่งจ้องตาแป๋ว กลืนน้ำลายลงคอจ้องมองอาหารที่อยู่บนกระทะไม่ละสายตา จนแบคฮยอนอดหัวเราะไม่ได้

     

                “ท่าทางพี่จะหิวมากนะครับ”

     

                “ก็ใช่น่ะสิ เมื่อคืนไม่ได้กินอะไรเลย นายก็น่าจะปลุกฉันหน่อย”  บ่นออกมาอย่างเพลียๆ แต่สายตาก็จับจ้องที่แผ่นหลังคนทำอาหาร

     

                “ดีโออ่าพี่หิวแล้วนะ”

     

                “ครับๆ รอแป๊บนึง”

     

                “อ้าวพี่สิก้า นี่ผมผิดเหรอ สนใจผมบ้างสิ”  แบคฮยอนส่งเสียงอ้อนวอนเหมือนลูกหมาตัวน้อยทำตากระพริบปริบๆ ให้คนที่นั่งอยู่ข้างๆหันมามองบ้าง

     

                “ผิดเต็มๆเลย”

     

                “อะไรอ่ะ ทำคุณบูชาโทษแท้ๆ อุตส่าห์แบกมาจนถึงห้อง ตัวก็ไม่ใช่เบาๆนะครับ”

     

                “แบคฮยอน!!”  เจสสิก้าถลึงตาใส่หนุ่มน้อย จนแบคฮยอนหน้าเหวอทีเดียว แต่ก็ชอบนะที่เห็นเจสสิก้าเป็นอย่างนี้  ชอบที่เห็นเธอพูด ยิ้ม เวลาโมโห มันน่ารักดีกว่าตอนที่เจสสิก้านั่งหงอยเป็นไหนๆ

     

     

     

               

                รถตู้คันสวยแล่นจอดมาถึงสตูดิโอที่พวกเขาต้องมาโชว์การแสดง เพื่ออัดวิดีโอไลฟ์ขึ้นเวที เจสสิก้าเดินตามหลังแบคฮยอนและดีโอ ปากก็สาธยายถึงงานที่จะต้องทำวันนี้ ไม่ได้ดูทางเลย จนชนเข้ากับแผ่นหลังคนที่เดินนำหน้าเต็มๆ

     

                “เข้าใจแล้วครับ บอกมาตั้งแต่ตอนอยู่หอจนถึงนี่ละ”  แบคฮยอนยิ้มและเดินต่อไปจนถึงห้องแต่งตัว

     

                “ก็กลัวลืม..

     

                “พี่เนี่ยเป็นผู้จัดการที่น่ารักจริงๆ” 

     

                แบคฮยอนหันหลังไปหาคนตัวเล็กกว่า ลูบหัวเธอด้วยความเอ็นดู พร้อมเผยรอยยิ้มที่เห็นฟันเขี้ยวอันน่ารักไปให้  เจสสิก้าเงยหน้ามองหนุ่มน้อยผู้เคยเป็นอดีตน้องชายข้างบ้าน แต่ตอนนี้เขาไม่ใช่เด็กกะโปโลธรรมดาแล้ว เพราะแบคฮยอนดูโตขึ้นมากจริงๆ ในช่วงเวลาไม่กี่เดือน ทั้งความอ่านนึกคิด และความรับผิดชอบในหน้าที่การงาน

     

                “ก็จะได้คุ้มกับเงินที่ได้ไง ดูแลพวกนายนี่เหมือนดูแลลิงสองตัวเลยนะ”

     

                “โหลิงเลยเหรอ ผมไม่ซนเหมือนไอ้แบคซักหน่อย”  ดีโอที่นั่งอยู่หน้ากระจกตะโกนขึ้น

     

                “เออ..ใช่ ดีโอพูดถูก” เจสสิก้าพูดยิ้มๆ แล้วเบี่ยงตัวหลบคนที่วางมือแหมะอยู่บนหัว ไปนั่งบนโซฟา

     

                “ถ้าพี่จะว่างั้น ผมก็ยอม” 

     

                แบคฮยอนยกมือขึ้นเหนือหัวอย่างยอมแพ้ ส่งยิ้มนิดๆ ก่อนจะเดินไปนั่งข้างดีโอให้ช่างได้ทำผมให้

     

     

     

     

     

                ช่วงเวลากลางคืน ก็เป็นช่วงเวลาประจำที่ทั้งสองคนต้องอยู่ฝึกซ้อม และเจสสิก้าเองก็รู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องมานั่งเฝ้า มีก็แต่แบคฮยอนนั่นแหละที่อ้อนให้เธออยู่ด้วย แต่วันนี้เธอขอปฏิเสธเพราะต้องไปหาซื้อของใช้ส่วนตัว และซื้อวัตถุดิบอุปกรณ์ทำอาหารมาให้ดีโอด้วย

     

                “มันมืดแล้วนะครับ ผมเป็นห่วง”

     

                แบคฮยอนพูดไปก็หอบไป ทำเอาคนฟังลุ้นจนเหงื่อตก

     

                “ไม่ต้องห่วงหรอกนะ พี่ไม่ใช่เด็กๆแล้ว ดูแลตัวเองได้”

     

                “แต่

     

                อ้าปากเตรียมจะเถียงอีกรอบ ก็ต้องเงียบไปทันทีเพียงเพราะสัมผัสแผ่วเบาที่วางอยู่บนกลุ่มผมชื้นเหงื่อ และรอยยิ้มหวานๆที่ส่งมาให้

     

                “สัญญาว่าจะไปแป๊บเดียว ถ้าไปนานเกินชั่วโมง โทรหาเลย โอเคนะ”

     

                เจสสิก้าขยี้ผมหนุ่มน้อยอย่างไม่นึกรังเกียจหยาดเหงื่อที่เปียกชุ่มแม้แต่น้อย

     

                “ครับๆ รีบไปรีบกลับล่ะ”

     

                “อืม

     

                กล่าวอำลา แล้วดุนหลังเด็กดื้อให้ไปยืนเคียงข้างดีโอที่ซ้อมเต้นอยู่หน้ากระจก ก่อนที่ตัวเองจะคว้ากระเป๋าใบสวยหันมาโบกมือบ๊ายบายแล้วเดินหายออกจากห้องซ้อม
     

    ......................40%.......................

     

                ด้านเซฮุนก็นั่งหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่ในผับ เพราะวันนี้เขานัดทั้งลู่ฮานและชานยอลมาดื่มด้วยกัน แต่เพื่อนทั้งสองก็ปฏิเสธอย่างไม่ไยดี  เขาเลยต้องมานั่งดื่มคนเดียว

     

                ก็นะ….เล่นเมาจนเหมือนหมาทุกวันอย่างนี้ ก็ลำบากเพื่อนไปหน่อยมั้ง

     

                (กูว่ามึงงดๆบ้างเหอะ แม่.งแดกทุกวัน เดี๋ยวไตวายกันพอดี )

     

                “เออ..ตายซะได้ก็ดี กูเบื่อโว๊ย”

     

                พูดไปแค่นั้น เซฮุนก็ตัดสายไปทันที สบถออกมาอย่างหงุดหงิด ยกแก้วที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขึ้นดื่มจนหมดรวดเดียว

     

              โธ่ว้อยยยยมีเพื่อนไว้ทำไมวะ ตอนกูต้องการ ก็หายหัวทุกคน

     

                ถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่ ก่อนจะหยิบเงินมาวางไว้บนโต๊ะ แล้วลุกออกจากเก้าอี้ไป

     

                วันนี้เขาหมดอารมณ์ที่จะมาดื่มแล้วล่ะ มันมีเรื่องมากมายจนเพลียไปหมด เรื่องเจสสิก้าก็เรื่องนึง สืบจนไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว และก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมต้องมานั่งหัวเสียอย่างนี้เพราะผู้หญิงคนเดียว

     

     

                ซ่า

     

                เม็ดฝนเริ่มร่วงมาจากฟากฟ้า และดูเหมือนจะหนักขึ้นเรื่อยๆ

     

                รถยนต์คันสวยของเซฮุนแล่นไปตามถนนยามค่ำคืน ที่มีแสงไฟข้างถนนส่องตลอดทาง แอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปเริ่มทำพิษ ทำให้ตาพร่ามัวไปบางขณะ ต้องตบหน้าเรียกสติตัวเองอยู่เสมอ ความเร็วของรถที่พุ่งขึ้นเรื่อยๆจนน่าหวาดเสียว ทั้งๆที่รู้ว่าสติตัวเองยังมีไม่ครบ ก็ไม่คิดจะลดเลยซักนิด รวมถึงถนนที่เปียกลื่น เขาก็ไม่ได้สนใจ ยังคงแล่นต่อไปเรื่อยๆ จน….

     

                เอี๊ยด!!

               

                “เฮ้ย!!

     

                เท้าเหยียบเบรคแทบไม่ทัน เมื่อรถตัวเองกำลังพุ่งชนเข้าไปที่ผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังข้ามถนน มือกดแตรบีบอย่างรัวๆด้วยความตกใจ  และก็ดูเหมือนจะสายไปเมื่อผู้หญิงคนนั้นล้มลงกับพื้น

     

                เซฮุนปล่อยมืออกจากพวงมาลัย สติที่พร่ามัว ตอนนี้กลับมาครบเหมือนเดิม สะบัดหัวตัวเองอย่างแรงเมื่อคิดได้ว่าทำอะไรลงไป เขาขับรถชนคน!!!

     

                คิดได้ดังนั้นก็รีบลงจากรถเพื่อไปดูฝีมือตัวเองทันที ภาพที่คิดคือ ผู้หญิงต้องมีเลือดออกเต็มตัวจนไหลนองเต็มพื้นแน่ๆ แต่ผิดคลาด เซฮุนเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจเมื่อเห็นภาพตรงหน้า ไม่เห็นเลือดซักหยด เห็นก็แต่ผู้หญิงร่างบางกำลังก้มๆเงยๆเก็บของที่กระจัดกระจายท่ามกลางฝนที่ตกหนัก

     

                “นี่คุณไม่เป็นอะไรเหรอครับ?

     

                “ขอโทษค่ะ คือฉันข้ามถนนไม่ดูเอง” 

     

                ปากก็พูดไป แต่ก็ก้มหน้าเก็บข้าวของที่ตกพื้น ตอนนี้บนถนนเงียบกริบ ไม่มีรถผ่านซักคัน มีแค่ไฟหน้ารถส่องมาให้เห็นเท่านั้น เซฮุนจึงก้มลงไปเก็บของช่วย

     

                ทำไมรูปร่างเหมือนกับเจสสิก้าเลย ระหว่างที่ผมเก็บของให้เธอ ก็พยายามจะมองหน้าเธอชัดๆ แต่เพราะผมยาวที่ปรกหน้าและสายฝนที่เทกระหน่ำทำให้เป็นอุปสรรคนิดหน่อย  ผมพยายามเพ่งแล้วเพ่งอีก แต่เธอก็ไม่คิดจะเงยหน้าซักนิด

     

     

                “คุณไม่เป็นไรแน่นะครับ”

     

                ผมเอ่ยปากถามอีกครั้งในขณะที่ยื่นของให้เธอ และพอได้เห็นดวงหน้าที่กำลังเงยหน้ามาหาผมช้าๆ หัวใจของผมก็แทบจะหยุดลงไปทันที เหมือนกับไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้

     

                “เจสสิก้า..

     

                ขยับปากเรียกชื่อคนตรงหน้าช้าๆ คนที่ถูกเรียกจึงมีสีหน้าตื่นตกใจ รีบลุกขึ้น ก้าวขาเตรียมจะวิ่งหนีเซฮุน แต่มีหรือจะหนีเงื้อมมือของเขาได้

     

                หมับ!

     

                คว้าต้นแขนเธอไว้ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นรวบกอดเธอไว้แน่นๆแทน

     

                “คุณเซฮุน ปล่อยนะ”

     

                “ไม่ปล่อย!!

     

                เซฮุนออกแรงกอดจนแทบเป็นรัดจนเจสสิก้าแทบหายใจไม่ออก จากที่คนในอ้อมกอดดิ้นไปมา ใช้มือเล็กๆทุบแผงอกเขา ก็ค่อยๆแน่นิ่งปล่อยให้เขากอดอยู่อย่างนั้น

     

                “ทำไมถึงหนีผมไปล่ะ” กระซิบชิดใบหูขาวด้วยเสียงที่เหนื่อยอ่อน

     

                “ฉันไม่ได้หนี ฉันก็แค่ลาออกเพื่อไปทำงานอย่างอื่น”

     

                “หึ! ผมเคยบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าผมไม่ให้ออก” น้ำเสียงเริ่มแข็งกร้าวผิดต่างจากเมื่อครู่ ก่อนจะออกแรงกระชากตัวเจสสิก้าออก แล้วมองหน้าเธอชัดๆ

     

                ดวงตาสีนิลของเขาจดจ้องไปทั่วใบหน้าเนียน ก่อนจะหยุดที่ดวงตาแสนวูบไหวคู่นั้น เซฮุนรู้สึกได้ถึงร่างกายอันสั่นเทาของเธอ

     

                “ไปกับผม”

     

                “ไม่..ฉันไม่ไป”

     

                เจสสิก้าพยายามดึงแขนออกจากเซฮุน แต่ก็ไม่สำเร็จ เขาแรงเยอะกว่าเธอตั้งหลายเท่า

     

                เปรี้ยง!

     

     

                เสียงฟ้าผ่าดังลงมา คนตัวเล็กสะดุ้งเล็กน้อย ตัวที่สั่นเพราะความกลัวผู้ชายตรงหน้ายิ่งทวีขึ้นเพราะเสียงอันน่ากลัวจากเบื้องบน เซฮุนเห็นจึงอุ้มเจสสิก้าขึ้นถึงแม้เธอจะขัดขืนก็ตาม จัดการยัดใส่ในรถ

     

                “อย่าคิดจะหนี”

     

                เซฮุนใช้แขนเท้าประตูรถที่นั่งข้างคนขับไว้เมื่อเห็นเธอเตรียมจะหาทางหนี เพียงแค่คำขู่สั้นๆเจสสิก้าก็นั่งนิ่งยอมทำตามโดยดี

     

               

               

     

               

    Brutal

     

                “นี่ยืนทำไมอยู่หน้าประตูเล่า เข้ามาสิ”

     

                เซฮุนไม่พูดเปล่า แต่ดึงเจสสิก้าเข้ามาในห้องคอนโดของเขาด้วย ตอนนี้สภาพของทั้งสองดูเหมือนลูกหมาตกน้ำยังไงยังงั้น สภาพดูไม่ได้จริงๆ

     

                “ฉันจะกลับบ้าน”

     

                “ไม่ให้กลับ”

     

                “คุณเซฮุน..

     

                “ทำไม! ก็ผมไม่ให้กลับ มีปัญหาอะไรรึเปล่า”

     

                เจสสิก้าเตรียมจะพูดออกไป แต่เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นซะก่อน

     

              แบคฮยอน

               

                หน้าจอแสดงรูปและชื่อไว้อย่างเด่นชัด ชายหนุ่มที่ชะโงกตัวมาดูจึงรีบชิงไปกดตัดสายแล้วถือเดินเข้าห้องนอนตัวเอง

     

                “อยู่กับผมน่ะ ห้ามติดต่อใครเด็ดขาด”

     

                เก็บเครื่องมือสื่อสารเข้าลิ้นชักใส่กุญแจล็อกเรียบร้อย

     

                “คุณไม่มีสิทธิ์มาทำอย่างนี้”

     

                “ผมมีสิทธิ์ทุกอย่างในตัวคุณ”  พูดออกมาอย่างเรียบเฉย ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ช้าๆ จนเจสสิก้าต้องเขยิบถอยห่าง และขณะที่เขยิบเข้าไป เซฮุนก็ค่อยๆปลดเม็ดกระดุมเสื้อตัวเองทีละเม็ดจนหมดในที่สุดก็เผยแผงอกล่ำสู่สายตาเธอ

     

                เซฮุนยกยิ้มเมื่อเห็นว่าใบหน้าสวยของเจสสิก้าเริ่มขึ้นสีแดง ยิ่งทำให้เธอดูน่ารักจนเขาอยากจะขย้ำซะตอนนี้

     

                “คุณจะทำอะไร”

     

                “ถอดเสื้อออกขนาดนี้ก็จะอาบน้ำสิครับ เห็นไหมว่าเราตัวเปียกแค่ไหน”

     

                สายตาของเซฮุนจดจ้องไปที่ส่วนเนินนูนบนเสื้อของหญิงสาว ร่างกายที่เปียกน้ำทั้งตัวจนเห็นสัดส่วนชัดเจน ชายหนุ่มเลียริมฝีปากแห้งผากของตัวเอง จนเจสสิก้าต้องยกมือมาปิดเอาไว้

     

                “อย่ามาทำเป็นอายหน่อยเลย ระหว่างที่หนีหน้าผม นี่คงไปเสพสุขกับไอ้ลู่มาสินะ”

     

                “คุณเอาอะไรมาพูด ลู่ฮานเขาเป็นคนดีไม่เหมือนคุณหรอก”

     

                “ผมมันทำไม!?

     

                เซฮุนเดินเข้าไปประชิดตัว กักตัวเธอไว้กับกำแพง

     

                “คุณมันนิสัยไม่ดีไง”

     

                ปึง!

     

                กำปั้นแน่นถูกทุบลงบนฝากำแพงอย่างแรง เฉียดใบหน้าเธอไปนิดเดียว เซฮุนกำลังโกรธ เธอรู้สึกได้ เมื่อได้เห็นแววตาเขาอย่างชัดๆ

     

                “ใช่ ผมมันนิสัยไม่ดี ผมมันเลว แต่จะบอกอะไรให้อย่างหนึ่งนะ”

     

     

               

     

     

                “คนเลวๆอย่างนี้แหละ จะเป็นว่าที่สามีในอนาคตของคุณ เพราะเรามันก็เลวไม่ต่างกันหรอก ผมชอบที่จะหาผู้หญิงมานอนด้วยเพื่อคลายเครียด ส่วนคุณก็อยากได้ผู้ชายรวยๆจนตัวสั่น สมกันดีออก”

     

     

     

     

                พูดจบ ก็ก้มลงบดเบียดริมฝีปากตัวเองเข้ากับส่วนเดียวกันของเธอ ใช้ลิ้นดุนดันให้เธอเปิดทางเข้าไปข้างใน ความอ่อนนุ่มอ่อนหวาน ที่ไม่ได้ชิมมานาน ทำให้เซฮุนกระหายอย่างหนัก ลิ้นหนากวาดต้อนไปทั่วโพรงปาก มิหนำซ้ำยังเกี่ยวกระหวัดตอดลิ้นเล็กของเธอเอาไว้

     

     

                “อื้อ..

     

                เจสสิก้าทุบอกเซฮุนรัวๆ เป็นสัญญาณว่าถ้าเขาไม่ปล่อยตอนนี้ มีหวังเธอขาดใจแน่ๆ แต่เพียงไม่กี่เสี้ยววิที่คนเอาแต่ใจยอมปล่อยให้ตักตวงอากาศ เขาก็ก้มลงครอบครองริมฝีปากสวยอีกครั้ง

     

                มือหนาเริ่มอยู่ไม่สุข ล้วงลึกเข้าไปภายใต้ร่มผ้าที่เปียกชื้น ลูบไล้วนที่หน้าท้องเบาๆ แล้วเลื่อนเข้าไปกอบกุมอกอิ่มที่ห่อหุ้มอยู่ภายใน

     

     

                เจสสิก้าในตอนนี้ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เพียงแค่เขาจูบ พลังงานทั้งหมดก็แทบสูญหาย ถ้าไม่ได้ร่างหนาที่ค้ำยันช่วย เธอคงตกลงพื้นไปแล้ว

     

     

                เซฮุนผละออกมาอย่างช้าๆ สายตายังคงจดจ้องริมฝีปากบวมเจ่อที่เกิดโดยฝีมือเขา

     

     

                “ฮึกๆ ฮือๆ”

     

                เสียงร้องไห้เริ่มดังขึ้น ร่างกายสั่นน้อยๆก็ไม่รู้ว่าเพราะความหนาวของเครื่องปรับอากาศหรือกลัวเขากันแน่

     

     

                “ทำไม คุณต้องทำอะไรอย่างนี้ด้วย”

     

     

                “เพราะ

     

                นั่นสิ ตอนนี้เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องทำแบบนี้ รู้แต่ว่าถ้าขาดเจสสิก้าไปเขาคงเป็นบ้าตายแน่ๆ

     

     

                “เพราะคุณไปอยู่กับเพื่อนผมไง ผมบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าเลิกยุ่งกับไอ้ลู่ ถ้าอยากจับคนรวย มาจับผมแทน”

     

     

                “ถึงตอนนี้คุณก็ยังเห็นฉันเป็นผู้หญิงอย่างว่าอยู่สินะคะ…. ต้องทำยังไงคุณถึงจะเชื่อว่าฉันไม่ใช่ผู้หญิงอย่างนั้น คุณบอกฉันได้ไหม ฮึกๆ ฮือๆ แล้วเรื่องมันก็ผ่านมานานแล้ว คุณจะเคียดแค้นอะไรฉันอีก ตอนนี้คุณซอฮยอนกับคริสก็ลงเอยด้วยดี  แต่ทำไม คุณต้องทำร้ายฉันด้วย”

     

                แววตาตัดพ้อและน้ำเสียงอ่อนล้าถูกส่งมาให้เขา หัวใจของเซฮุนมันปวดหนึบไปหมด และเจ็บเข้าไปใหญ่เมื่อเธอพูดคำนั่นออกมา

     

                “ฉันเกลียดคุณ

     

     

               

     

                ความเงียบปกคลุมขึ้น ต่างคนต่างเงียบและไม่มีใครขยับตัวหรือทำอะไรทั้งสิ้น เจสสิก้าร้องไห้หนักยิ่งกว่าเดิม สะอื้นจนตัวโยน เกรงว่าเธออาจจะชักเอาเป็นได้

     

     

                “ไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวจะไม่สบายเอา”

     

                เซฮุนหยิบผ้าขนหนูส่งให้เธอ ก่อนจะเดินออกห่างอย่างเงียบๆ ไปนั่งบนโซฟาโดยไม่พูดอะไรซักคำ

               

                นี่เขาแพ้น้ำตาของผู้หญิงคนนี้เหรอ!?

               

     

    Brutal

     

     

                และตอนนี้เจสสิก้า จองต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ เพราะตอนนี้เธอกำลังนอนซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดของผู้ชายที่เธอบอกว่าเกลียด เสื้อผ้าที่สวมตอนนี้ก็เป็นของเขาทั้งสิ้น ถ้าอยู่บนตัวชายหนุ่มก็คงจะดูสมส่วน แต่พอมาอยู่ในร่างเธอกลับกลายเป็นตัวโคร่งภายในพริบตา

     

                เซฮุนกระชับอ้อมกอดไว้แน่น เขาไม่ทำอะไรเธอเลย

     

                ออกมาจากห้องน้ำก็ยังเห็นเซฮุนนั่งอยู่บนโซฟา

     

              “คุณนอนในห้องนะ เดี๋ยวผมนอนนี่”

     

                   ใช่เธอจำประโยคที่เขาพูดได้แม่น แต่สุดท้ายเขาก็กลับมานอนร่วมเตียงเดียวกับเธอ

    และก็อดที่จะปฏิเสธอ้อมกอดอุ่นๆนี้ไม่ได้จริงๆ เสียงฟ้าผ่า ฝนตกที่ดังอยู่ข้างนอก ทำให้เจสสิก้าขยับเข้าหาเซฮุนมากขึ้น สองมือเล็กยกขึ้นมาปิดหู ใบหน้าถูไถอยู่แผงอกเขาจนรู้สึกได้

     

     

                “คุณกลัวเหรอ

     

                เจสสิก้าแทบตกใจเมื่อเซฮุนถาม เพราะคิดว่าเขาหลับไปแล้ว แต่เปล่าเลย เขายังไม่หลับ มือหนาลูบหลังเธอเบาๆเพื่อปลอบโยน

     

                ตอนนี้เจสสิก้าลืมไปหมดแล้วว่าพูดอะไรไว้บ้าง หรือเขาทำอะไรเธอ เพราะตอนนี้เธอกลัวจริงๆ

     

                “ไม่ต้องกลัวนะ”

     

                อบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก เมื่อเซฮุนพูดขึ้น น้ำเสียงของเขาทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยและคลายความกังวล เซฮุนก้มหน้าจ้องมองคนตัวเล็กที่เงยหน้ามามองเขาอยู่แล้ว ก่อนจะค่อยๆยกมือที่เธอปิดหูออก

     

                “หลับเถอะนะคนดี”

     

                ริมฝีปากหนาประทับลงกับหน้าผากเนียน จนเจสสิก้ารู้สึกหน้าร้อนผ่าว หัวสมองอื้ออึงจนลืมเรื่องฟ้าฝนข้างนอกไปสนิท ตอนนี้เธอกำลังเขินกับเรื่องตรงหน้า มันจะไม่แปลกไปหน่อยเหรอที่อาการเขินแบบนี้จะเกิดกับเซฮุนคนเดียว ต่างกับลู่ฮานที่เธอรู้สึกต่างออกไป ที่เธอเขินได้แป๊บเดียวสุดท้ายก็จางหายไปอย่างง่ายๆ

     

     

                เจสสิก้ากำลังคิดหนักกับความคิดตัวเอง แต่เพราะฝ่ามือที่ลูบหลังทำให้เธอเคลิ้มจนใกล้เข้าสู่ห้วงสู้นิทรา สมองจึงเริ่มว่างเปล่า ทว่าก็ได้ยินเสียงพึมพำของเซฮุนเข้าซะก่อน

     

               

                “ผมขอโทษๆๆ”

     

                และเขาก็ไม่ได้พูดครั้งเดียว แต่กลับพูดซ้ำไปซ้ำมาอยู่อย่างนั้น จนเธอต้องเงยหน้าขึ้นไปมอง

     

                เลิกคิ้วอย่างสงสัย แม้ปากจะขยับแต่ดวงตาสีนิลกลับปิดสนิทๆ คล้ายๆอาการละเมอ

     

                “ผมขอโทษ”

     

                คำพูดเริ่มแผ่วลงไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็เงียบไปในที่สุด หัวใจด้านซ้ายกลับเต้นรัวเร็วเมื่อได้ยินคำพูดง่ายๆ รู้สึกตื้นตันใจ แม้ว่าจะเป็นการละเมอ

     

     

     

                แต่เขาว่า..คนที่พูดละเมอ คำพูดนั้นมันมักออกมาจากสิ่งที่เราอยากพูดไม่ใช่เหรอไง     



     

     

     

    110414
    อารมณ์ดี ทีเซอร์overdose ออกแล้ว
    อย่าลืมไปดูกันนะ
    ส่วนที่เหลือของตอนนี้ อิอิ
    เตรียมรับกับความ.....ของฮุนเลย
    ความอะไรดีอ่ะ? เติมกันเองตามสบาย



     

    120414

    แงงงง เค้าทำรีดผิดหวังปะเนี่ย แต่ละคนคาดหวังกับควาหื่นของฮุน

    แต่มันกลับกลายเป็น ความมุ้งมิ้งต่างหาก(เหรออออ555) ฮุนออกจะใสๆเนอะ

     ต้องทำใจนิดนึง พระเอกเรื่องนี้อารมณ์มันแปรปรวน

    และที่รีบมาอัพ เพราะกลัวทุกคนเล่นสงกรานต์จนไม่มีเวลาอ่านน่ะสิ T^T

    งั้นเค้าก็คงจะหายไปซักพักละนะ แล้วเจอกันจ้าาาา

    สวัสดีปีใหม่ไทย สุขสันต์วันสงกรานต์นะทุกคนนนนนน


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×