ไม่บอก เด๋วรุอะดิ - ไม่บอก เด๋วรุอะดิ นิยาย ไม่บอก เด๋วรุอะดิ : Dek-D.com - Writer

    ไม่บอก เด๋วรุอะดิ

    โดย knj.kon

    เรื่องราวอะรัยก้อม่ายรุ ของเด็กสาวที่ชะตาขาด +555 สะใจคนแต่งยังไม่จบ เด๋วก้อจบ เอิ้กๆๆ

    ผู้เข้าชมรวม

    162

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    162

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  7 ธ.ค. 48 / 23:54 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      เป็นที่รู้กันดีในโรงเรียนมัธยมแห่งนี้ เกี่ยวกับปริศนาในห้องสมุด มีเรื่องเล่ามากมายที่นักเรียนนำมาเป็นโจทย์ในวงสนทนา บ้างก็ว่าเคยมีเด็กนักเรียนมาฆ่าตัวตาย บ้างก็ว่าสถานที่ตั้งห้องสมุดเคยเป็นลานประหาร แต่บางคนก็บอกว่าเป็นเรื่องของการสร้างข่าวลือ แต่ทุกคนพูดเหมือนกันหมด คือ เรื่องการหายไปอย่างไร้ร่องรอยของหนังสือ ที่ไม่ว่าจะมีการตรวจตราเข้มงวดเพียงใด หนังสือที่มีอักษร ว ขึ้นต้นก็มักจะหายไป หรือบางทีก็ย้ายตำแหน่งจากชั้นหนึ่งไปยังอีกชั้นหนึ่ง เป็นเรื่องพิศวงที่ไม่มีใครเคยพิสูจน์สาเหตุได้ ด้วยเรื่องราวเหล่านี้จึงไม่ค่อยมีใครอยากย่างกลายเข้าใกล้ห้องสมุดมากนัก เหลือเพียงบรรณารักษ์ที่นั่งเฝ้าห้องสมุดอันว่างเปล่านั้นเป็นสิ่งมีชีวิตสิ่งเดียวที่กล้าเข้าใกล้ห้องสมุด
              การเข้าใกล้สิ่งที่เกลียดนั้นเป็นการทรมานใจอย่างสาหัส แต่การต้องอยู่กับสิ่งที่กลัวนั้นยิ่งเลวร้ายกว่า เช่นเดียวกลับนักเรียนในห้อง ม.5/7 พวกเขาได้รับคำสั่งที่ถือว่าร้ายกาจอย่างยิ่ง   \" ขอให้นักเรียนหาข้อมูลเพิ่มเติมในห้องสมุดในเย็นวันนี้ พรุ่งนี้เช้าส่ง\"  เสียงของอาจารย์ยังคงก้องอยู่ในโสตประสาทของนักเรียนทุกคน ราวกับว่ามันเป็นคำสั่งประหาร แต่ก็ไม่มีใครกล้าปฏิเสธ ทำได้เพียงหลีกเลี่ยงหมวดหนังสืออักษร ว และไม่มีใครเลยจะกล้ายืมหนังสือกลับบ้าน แต่ก็มีบางคนเป็นข้อยกเว้น…
             \" เจน จะยืมเล่มนี้เหรอ มันขึ้นต้นด้วย ว แหวนนะ หนังสืออาถรรพ์นะ อย่าโง่ยืมมันจริงๆนะ \"เด็กสาวคนหนึ่งกระซิบบอกเพื่อนสาวที่กำลังถือหนังสือชื่อ \" วิทยาศาสตร์ ของ ไอแซกนิว ตัน\" และทำท่าว่าจะยืมมัน
               \" เรื่องไร้สาระน่า มีน \" เจน หญิงสาวผู้ถูกต่อว่าสวนคืน เธอกระแทกหนังสือเล่มนั้นลงบนโต๊ะบรรณารักษ์เพื่อทำการยืม โดยไม่สนใจ มีน เพื่อนสาวที่กำลังขอร้องเพื่อนคนอื่นมาช่วยยับยั้งความบ้าบิ่น และหัวรั้นของเธอ  
              \" คิดดีๆนะ รุ่นพี่เราหลายรุ่นละนะที่พิสูจน์เรื่องแปลกๆในห้องสมุดไม่ได้\" จอย เพื่อนสนิทอีกคนของมีนเข้ามาร่วมวงสนทนาด้วย เธอตัดผมสั้นและซอยผิดกับเพื่อนทั้งสองทีไว้ผมยาว  เจนหันมาสบตาจอย ส่งรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ แต่ไม่โต้ตอบอะไร มันทำให้ จอย และมีน ขนลุกวาบอย่างไม่ทราบสาเหตุ  เจนเดินออกจากห้องสมุดไปพร้อมกับหนังสือที่ทำการยืมเสร็จแล้วในมือ แล้วเธอก็ส่งสัญญาณมือเพื่อบอกให้เพื่อนในกลุ่มอีก 3 คนมารวมตัวกัน อันได้แก่ จอย มีน และตุล  
               \" คืนนี้ว่างไหม \" เจนถามขึ้นทันทีที่เพื่อนทั้ง 3 มาพร้อมหน้า แต่ไม่มีใครหลวมตัวตอบ เพราะเคยชินกับแผนการของเจน ที่มักจะลากพวกเพื่อนๆมาร่วมสร้างวีรกรรมเสี่ยงให้โดนไล่ออกอยู่บ่อยๆ
          \" ไม่เป็นรัย เราทำคนเดียวก็ได้ ไม่มีใครเห็นความเป็นเพื่อนกับเราแล้ว ก็ไม่เป็นรัย \" พูดจบเจนก็หมุนตัวกลับ ทำท่าว่าจะเดินกลับไปในห้องสมุดแต่ถูกมีนคว้าแขนไว้ก่อน
                \" โอเค มีรัยว่ามาสิ ไม่ต้องใช้มุกแกล้งงอนเลย ขี้เกียจง้อ \" มีนต่อว่านิดหน่อยก่อนกลับมายืนกอดอก เจนยิ้มรับ อย่างสำนึกผิด
                \"เรื่อง ห้องสมุดนี่แหละ \" เจนประกาศในที่สุด  \"ปริศนานี่แหละ ไอ้อักษร ว นี่\"  เธอชี้มือยังหนังสือที่เธอเพิ่งยืมมา  \"สนใจไขปริศนาหน่อยไหม คืนนี้ 2 ทุ่ม พวกอุปกรณ์เราเอามาเอง พวกแกเอาแต่ตัวกับหัวมา ตกลงไหม \"  ไม่มีใครตอบ เกิดความเงียบที่น่าอึดอัดขึ้นชั่วขณะ  แต่ในที่สุด มีน และจอย ก็พยักหน้าตอบตกลงอย่างง่ายดาย  ( ก็ในเมื่อรายชื่อของพวกเธออยู่ในลิสบัญชีดำของโรงเรียนเรียบร้อยแล้ว )  เว้นแต่ตุล
              \"จะดีเหรอ มันอันตรายนะ เราสี่คนยังมีเรื่องในห้องปกครองไม่พออีกเหรอ \" ตุลเด็กสาวผมยาว แก่เรียนและสวมแว่นไร้ขอบสีชมพูอ่อน พูดขึ้นใน 25 วินาทีต่อมา เธอดูเคร่งเครียด จริงจัง
               \"เธอไม่ไปก็ได้ พวกเราไม่ว่าอะไรหรอก\" เจนปลอบ พยายามให้ตุลผ่อนคลายลง แต่กลับได้ผลตรงกันข้าม ตุลเงยหน้าขึ้น ขยับแว่นนิดหน่อย และสูดหายใจลึกๆ ก่อนเอ่ยออกมาว่า  \"ไม่ล่ะ ฉันตัดสินใจแล้ว ฉันจะร่วมกับพวกเธอด้วย แผนการว่ายังไงล่ะ\"   เจนยิ้มอย่างดีใจ แต่มีน และจอยดูเป็นกังวล
          \" ตอนนี้สำรวจ และบันทึกตำแหน่งของหนังสือทุกเล่มที่ขึ้นต้นด้วยอักษร ว แล้วคืนนี้เราจะแอบเข้าไปในตึก สังคม และตึกอังกฤษเพื่อสังเกตการเปลี่ยนแปลงในห้องสมุดจากที่นั่น แล้วพรุ่งนี้เช้าเรามาสำรวจตำแหน่งหนังสือ ตกลงไหม \" เจนอธิบายแผนทั้งหมดอย่างรวดเร็ว และง่ายๆ \"งั้น คืนนี้เจอกันที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ข้างกำแพงวัดนะ เรื่องจดตำแหน่งหนังสือเราจัดการเอง ตกลงนะ บาย\" เจนบอกลาสั้นๆแล้วเดินกลับเข้าห้องสมุดไป เพื่อน3คนที่เหลือมองหน้าอย่างหนักใจ ก่อนแยกย้ายกลับบ้าน
                  ในโรงเรียนที่มืดสลัว ยามรักษาการณ์นั่งอ่านหนังสือพิมพ์เพื่อหลีกหนีจากความกลัวในข่าวลือต่างๆของโรงเรียน  แต่นักเรียนกลุ่มหนึ่งเลือกที่จะเผชิญหน้ามัน   2 ทุ่ม 40 นาทีแล้ว เด็กสาวทั้ง 4 จึงจะมากันครบ ทุกคนต่างพกไฟฉายคนละกระบอกและจัดแจงแยกย้ายกันไปตามแผนการที่เจนวางไว้  โดย ตุล และมีนจะเฝ้าตึกอังกฤษ เจนและจอยตึกสังคม
             \" ..ตุล เป็นงัยบ้าง..\" เจนพูดกรอกวิทยุสื่อสารที่ตนนำมาให้ทุกคนใช้
              \"..ดี กำลังขึ้นตึก ทางโน้นเป็นงัยล่ะ..\"   เสียงตุลตอบกลับมา และเสียงมีนก็แทรกขึ้นในทันที \"..เป็นงัยบ้างจอย ไปเฝ้าตึกเฮี้ยนๆน่ะ เจออะไรเล่าให้ฟังบ้างนะ..\"    เห็นได้ชัดว่าต้องการแกล้งยั่วให้ จอย กลัว
            \"..นี่ ตอนนี่เราอยู่ชั้น 3 แต่มองไม่เห็นห้องสมุดเลย..\"เจน ขัดจังหวะ เพื่อป้องกันไม่ให้ จอย และ มีนทะเลาะกันยาว    \" ..มีคนปิดม่านไว้ มองไม่เห็นข้างในเลย ทางตึกอังกฤษเป็นงัย เห็นมั้ย  ..\"
               \" ..ไม่เห็นเหมือนกัน แต่มีนบอกว่าตอน 5 โมงย้อนกลับมาเอากระเป๋า ม่านห้องสมุดยังเปิดอยู่เลย ตอนนั้นห้องสมุดน่าจะปิดแล้วนะ..\"   ตุลตอบกลับมา ฝ่ายเจนเงียบไป 2 นาทีก่อนจะตอบกลับมา สั้นๆ   \"..ไปที่ห้องสมุดกันเถอะ..\"
          \"แต่ เจน มันตึก 5 นะ เค้าว่ากันว่าเฮี้ยนกว่าตึก สังคม อีกนะ มีทั้งโครงกระดูก แล้วก็มีคนตายหลายคนด้วย\"คราวนี้ไม่ใช่เสียงจากวิทยุสื่อสาร แต่เป็นเสียงโวยวายจากจอย จอยเป็นโรคกลัวผีอย่างหนัก และยังกลัวทุกอย่างที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์ไม่ได้
             “ ไม่ต้องกลัว มีเราอยู่ทั้งคน” เจนกระซิบปลอบ พร้อมออกแรงดึงแขนจอยให้เดินตามทางไปตึก 5
      ไม่นานนัก เด็กสาวทั้ง 4 ก็มาเจอกันที่หน้าห้องสมุด แต่ดูเหมือนประตูกระจกของห้องสมุดจะถูกปิดด้วยป้ายประกาศจนมิด ไม่สามารถมองลอกเข้าไปเห็นด้านในได้เลย
               “ เอาไงดี ” ตุลหันไปขอความเห็นจากเพื่อนทั้ง 3
               “กลับบ้าน” มีนบอกด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด
                 “ ใช่ กลับบ้านกันเถอะ” จอยเห็นด้วย ส่งสายตาอ้อนวอนให้เจน เจนถอนหายใจเบาๆ  พยักหน้ารับ
          
          “ สรุป วันศุกร์หน้าว่างทุกคนนะ” เจนสรุป หลังการสนทนาอันยาวนานเพื่อจัดเวลาว่างของแต่ละคนให้ตรงกันเพื่อภารกิจที่เธอเรียกว่า “ ไขปริศนาห้องสมุดอาถรรพ์”  เธอค่อนข้างหงุดหงิดเพราะเวลาช่วงพักกลางวันของเธอลดน้อยลง “งั้น เราไปห้องน้ำนะ เดี๋ยวมา” เจนบอกพร้อมกับลุกขึ้น เธอถือหนังสือที่ยืมจากห้องสมุดไปด้วย
                 “ เจน ไปห้องน้ำไม่จำเป็นต้องเอาหนังสือไปด้วยนี่”  จอยร้องทัก แต่เจนแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน เดินจากไปอย่างแน่วแน่
          “ นี่ พวกเธอว่าเจนเปลี่ยนไปไหม”  มีนเอ่ยขึ้นทันทีที่เจนพ้นระยะสายตา
                      “ อืม เปลี่ยนสิ เปลี่ยนมากด้วย  ตั้งแต่ได้หนังสือเล่มนั้นมา” ตุลแสดงความคิดเห็น “ ไม่ยอมห่างหนังสือเล่มนั้นมาตั้งแต่เช้าแล้ว ว่างๆก็เอาหนังสือมาอ่านซ้ำไปซ้ำมา บอกให้คืนก็ไม่ยอมคืน”
          “ เราว่า เจนโดนอาถรรพ์จากหนังสือนะ เราน่าจะ......”  จอยชะงักทันทีเมื่อเห็นเจนเดินกลับมา เธอกำลังอ่านหนังสือจากห้องสมุดระหว่างที่เดินมาด้วย และกลับมานั่งลงที่เดิม ก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือต่อไม่สนใจบรรยากาศที่ผิดปกติ    จอยหันสบตากับมีนอย่างมีเลศนัย  แล้วเธอก็ดึงหนังสือออกมาจากมือเจนอย่างรวดเร็ว ส่วนมีนคว้าแขนของเจนไขว้หลังไว้
          “ โอ้ยยย!!!! ปล่อยเรานะ อย่าเล่นอะไรโง่ๆสิ” เจนกรีดร้องเสียงสูง ตามด้วยคำสบถ เธอดิ้นหลุดจากพันธนาการการของมีน แย่งเอาหนังสือจากจอยมาอุ้มไว้อย่างทะนุถนอม แล้วกระทืบเท้าเดินจากไป  ทุกคนนิ่งอึ้งการกระทำเกินคาดของเจน ปกติถ้าโดนแกล้ง เจนจะหัวเราะ และร่วมสนุกไปด้วย เธอไม่เคยจริงจังกับอะไรเกินกว่าผลการสอบ
                    “ หนังสือ .. มันทำเจน  .... มันทำเจน  ....หนังสือมีอาถรรพ์....”  จอยพึมพำ เสียงเธอแตกพร้า และสั่นเครือ มือขวาของเธอมีรอยข่วน เลือดสีแดงสดซึมออกมา แต่เธอไม่ได้ใส่ใจเลยสักนิด ตาเธอเหม่อลอยไปไกลเกินกว่าจะรับความจริง  ไม่มีใครในกลุ่มพูดอะไรอีกตลอดบ่าย มีนและตุลส่งข้อความกันลับๆในคาบสังคมเพื่อวางแผนช่วยเจน จอยดูเสียสติเกินกว่าจะร่วมวางแผนด้วย แต่ไม่ว่าแผนนั้นจะเป็นอย่างไร มันก็สำเร็จไปด้วยดี เจนโดนยึดหนังสือในคาบอังกฤษ และถูกส่งคืนห้องสมุดโดยปลอดภัย


                      ฉันรู้ดี นี่เป็นแผนของพวกมีน ตุล จอย  ฉันไม่มีทางเลี่ยงได้เลย หนังสือเล่มนั้นจึงต้องกลับไปที่ห้องสมุดเหมือนเดิม   ใช่ ฉันอาจดูเปลี่ยนไปจนน่าเป็นห่วง แต่ ฉันไม่ได้ถูกหนังสือครอบงำอย่างที่มีนสงสัย ฉันมีสติทุกขณะ แต่พวกเธอต่างหากที่ไม่เข้าใจ หนังสือเล่มนั้นไม่ใช่หนังสือธรรมดา ฉันไม่เคยเจอหนังสือที่อ่านแล้วมีความสุขได้เท่านี้มาก่อน ในชีวิตที่ล้มเหลวทุกเรื่องของฉัน ฉันขอเพียงเรื่องนี้เท่านั้น หนังสือเล่มนั้น หนังสือที่ตอนนี้ฉันขาดมันไม่ได้แม้วินาที หนังสือที่เปรียบเป็นเพื่อน และทุกอย่างในตอนนี้ ฉันสาบานว่าจะเอามันกลับมาให้ได้
          ฉันก้มดูเวลาที่ข้อมือ  2 ทุ่มครึ่ง ฉันกลืนน้ำลาย รอคอยเวลานี้มาทั้งวัน ฉันวิ่งตัดผ่านสนามอย่างรวดเร็ว ก้าวข้ามบันไดทีละ 3 ขั้นขึ้นไปชั้น 2 และฉันก็เจออย่างที่คาดไว้ หน้าห้องสมุดยังคงมีกระดาษปิดจนทึบ มองไม่เห็นสภาพภายใน แต่ฉันมั่นใจดีว่ามันอยู่ในนี้  ฉันนั่งลงหน้าประตูกระจก ค่อยๆสะเดาะกลอนกุญแจ ไม่นานฉันก็ไขออก  ในห้องสมุดมืดสนิท และเงียบกริบ ฉันเปิดไฟฉาย กราดไปทั่วห้องห้องสมุดเพื่อหาหมวดอักษร ว แล้วฉันก็เจอมัน หนังสือที่ฉันตามหา และมีค่าที่สุด มันนอนแน่นิ่งอยู่ในชั้นเฝ้ารอการมาหาของฉันอย่างเงียบๆ        ฉันคว้ามันมากอดไว้อย่างกระหาย สูดกลิ่นหอมแปลกๆจากหน้าปกอย่างที่เคยทำ
          “ แกร๊ก  แกร๊ก”  เสียงบางอย่างดังมาจากอีกฝากของห้องสมุด ฉันตกใจจนทำหนังสือตก
                     “ นั่น ใคร ” ฉันฉายไฟไปตรงต้นเสียง แต่ตรงนั้นว่างเปล่า ไร้วี่แววของสิ่งมีชีวิตใดๆ มีเพียงแต่กลิ่นแปลกๆแรงๆโชยมา
                      “ แล้วนี่ใครล่ะ” เสียงทุ่มต่ำดังมาจากข้างหลังฉัน ฉันไม่กล้าตอบและไม่กล้าหันไปมอง มือฉันสั่นจนไฟฉายตกลงพื้น  มันบังเอิญหันแสงไฟมาตรงฉัน และทำให้ฉันเห็น!!!
          “ กรี้ดดดดดดดด!!!!!” ฉันร้องอย่างควบคุมไม่ได้   มือซีดขาว และเย็นเฉียบวางลงบนไหล่ฉันจากข้างหลัง สีขาวซีดนั้นตัดกับสีแดงสดของเลือดที่ไหลรินออกมาจากส่วนที่ดูเหมือน เคยเป็นเล็บ ฉันสัมผัสได้ถึงเลือดอุ่นๆที่ไหลลงมารดแขน แรงบีบมหาศาลกดลงบนไหล่ มันพยายามออกแรงดันให้ฉันหันมาเผชิญหน้ากับมัน ฉันไม่สามารถต้านแรงนั้นได้ ภาพสยดสยองปรากฏตรงหน้าฉัน  ชายผิวซีดขาวเจ้าของมือไร้เล็บ ยืนห่างจากฉันไม่ถึง เมตร  ร่างกายผอมแห้งและเปลือยเปล่ามีเมือกเหนียวๆทั่วตัว  ใบหน้าบิดเบี้ยวไร้อารมณ์ ตรงคอมีกระดูกยื่นผิดส่วนโผล่ออกมาให้เห็น  เบ้าตาว่างเปล่า   ขากรรไกรอ้าค้างกว้างผิดปกติและบิดเบี้ยวน่าขนลุก  ไม่มีฝันอยู่ในปากแม้สักซี่ น้ำลายย้อยออกมานองพื้นพรหม   มันค่อยๆยื่นมืออีกข้างมาจับคางฉัน และออกแรงบิด........

          ข่าวแพร่สะพัดออกอย่างรวดเร็ว เด็กนักเรียนมากมายมาออกันที่หน้าห้องสมุดเพื่อดูสภาพศพที่ผิดปกติ และก็มีจำนวนไม่น้อยที่มาแสดงความเสียใจให้ฉัน  แต่ต่อให้น.ร.ทั้งประเทศมาแสดงความเสียใจให้ฉัน ฉันก็ไม่คิดว่าจะทำให้รู้สึกดีขึ้น  มันยากที่จะยอมรับการสูญเสียที่เกิดขึ้น ฉันเสียใจมากกว่าที่หลายคนคิด เพราะฉันกับเจนไม่ใช่แค่เพื่อนสนิทอย่างที่หลายคนเข้าใจ มีแต่คนในกลุ่มเท่านั้นที่รู้ว่าความสัมพันฉันกับเจนไม่ใช่แค่เพื่อน  
      ฉันเป็นลมทันทีที่ได้ยินข่าว และแทบจะบ้าเมื่อได้ยินว่า เจนถูกฆ่าหักคอ         พี่สาวของเจนมาโรงเรียนตั้งแต่เมื่อคืน เธอได้ฝากไดอารี่ของเจนให้ฉัน เธอพูดทั้งน้ำตาว่าเจนเคยเปรยๆว่าถ้าตายให้เอาไดอารี่เล่มนี้มาให้ฉัน  ฉันเปิดมันอ่านทั้งน้ำตา ในไดอารี่เจนกล่าวถึงแต่เรื่องของฉัน แต่หน้าสุดท้ายที่เจนมีโอกาสได้เขียน มันเขียนได้แปลกมาก ไม่เหมือนที่เจนเคยเป็น ฉันเก็บเรื่องนี้ไว้กับตัวเอง ไม่บอกใครแม้แต่เพื่อนที่สนิทที่สุด
          “ ตุล กินข้าวบ้างเถอะ”

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×