ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC Naruto] เล่ห์ราชา [END]

    ลำดับตอนที่ #11 : CHAPTER 8 : เบื้องหลังของความโกรธ

    • อัปเดตล่าสุด 19 ส.ค. 57


    บทที่ 8 เบื้องหลังของความโกรธ

     

     

                “มาให้ฉันฆ่าถึงที่เลยนะ...”

     

                น้ำเสียงข่มขู่ที่ชวนคนฟังหนาวสะท้านไปถึงใจบวกกับแรงกระชากที่แขนอย่างแรงทำให้คนที่เหมือนใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเงยหน้าขึ้นมอง ซากุระมองใบหน้าชวนฝันที่กำลังโกรธขึงของซาสึเกะอย่างเลื่อนลอย น้ำตาของเธอหยุดไหลไปแล้ว...

     

    เบื้องหน้าของเธอคือใครกันหนอ?

     

                หญิงสาวคิด เพราะจิตใจของเธอถูกทำลายนับตั้งแต่วินาทีที่เธอยอมขายศักดิ์ศรีของตัวเองไปทำให้ซากุระแทบไม่เหลือความเป็นตัวของตัวเอง เธอลืมแม้กระทั่งใบหน้าของชายที่ดูถูกเหยียดหยามเธอ ใบหน้า...ที่ตามมาหลอกหลอนเธอถึงในฝัน...

     

                “คราวนี้ฉันจะทำให้เธอได้ชดใช้อย่างสาสม!” ซาสึเกะพูดพร้อมกับยิ้มเหี้ยม ออกแรงบีบที่มือแรงขึ้นโดยไม่สนว่ามันจะเป็นของที่เขาไม่อยากแตะต้อง...

     

    คราวนี้จะไม่ปล่อยให้หลุดมือแน่...

     

                “นี่มัน...อะไรกันครับคุณซาสึเกะ” จูโกะที่อยู่ในอาการตกใจถามขึ้น ไม่บ่อยครั้งนักที่เขาจะเห็นซาสึเกะโกรธได้มากขนาดนี้ ดวงตาสีเพลิงมองผู้เป็นนายสลับกับหญิงสาวอย่างงงงัน

     

                “นี่น่ะเหรอ ผู้หญิงที่นายหามาให้ฉัน...” ซาสึเกะพูด แต่สายตาของเขายังคงจดจ้องอยู่ที่ใบหน้าสวยหวานที่เริ่มบิดเบี้ยวเหยเกเพราะความเจ็บปวดของซากุระ

     

                “ผู้หญิงกลางคืนแบบนี้น่ะเหรอที่นายจะเอามาเป็นแม่ของทายาทอุจิวะ!

     

                “ผู้หญิงกลางคืน?” จูโกะทวนคำพูดของซาสึเกะด้วยสีหน้าอ่านยาก เขาพอจะรู้อยู่หรอกว่าซากุระทำงานเป็นโคโยตี้อยู่ที่ผับ แต่เขาที่เคยเห็นเธอมาตั้งแต่เด็กย่อมรู้ถึงนิสัยใจคอของเธอเป็นอย่างดี

     

    ซากุระรักศักดิ์ศรียิ่งกว่าอะไร...

     

                มิเช่นนั้นเจ้าตัวจะถึงกับกลายเป็นคนเลื่อนลอยจิตใจถูกทำลายจนย่อยยับเพียงเพราะถูกบังคับให้มาทำหน้าที่เป็นแม่อุ้มบุญของเจ้านายตนหรอกหรือ และที่เธอไปทำงานเป็นโคโยตี้ก็ใช่ว่าจะเป็นเพราะเธอใจแตกหรืออยากได้เงินมาใช้ฟุ่มเฟือยเสียเมื่อไหร่ ที่ทำไปก็เพราะมีความจำเป็นล้วนๆ การจะเปรียบว่าเธอเป็นผู้หญิงกลางคืนนั้นก็ออกจะดูเกินไปหน่อยในความคิดของเขา

     

                “คุณกำลังเข้าใจผิดนะครับ” จูโกะพยายามพูดแย้ง แต่เขาก็ต้องกลืนคำพูดทั้งหมดลงคอไปเมื่อซาสึเกะตวัดสายตาอันแข็งกร้าวมองมา

     

                “เข้าใจผิดอะไร! ยัยนี่มันผู้หญิงหากินชัดๆ! เหอะ! แต่ก็ดี! นายหาตัวยัยนี่มาส่งฉันแบบนี้เลยก็ดี เพราะฉันก็ยังคิดไม่ออกเหมือนกันว่าจะจัดการยังไงกับคนที่กล้ามาตบหน้าฉัน...”

     

                “ตบหน้า!?!

     

                “ใช่! ฉันคนนี้... อุจิวะ ซาสึเกะ! ถูกผู้หญิงชั้นต่ำคนนึงตบหน้า!” เขาพูดพร้อมกับกัดฟันกรอด มือแข็งแกร่งบีบแขนอีกฝ่ายแรงขึ้นจนซากุระเผลอร้องออกมา “สำหรับฉันนั่นมันแย่ยิ่งกว่าถูกมองเป็นขอทานซะอีก!

     

                คำพูดและสีหน้าท่าทางของซาสึเกะทำให้คนมองลอบกลืนน้ำลายอย่างฝืดคอ เขาพอจะเข้าใจเหตุผลคร่าวๆที่ทำให้เจ้านายหนุ่มกระโจนใส่หญิงสาวทันทีตั้งแต่แรกเห็น...

     

    มันเป็นความฝังใจของซาสึเกะ...

     

                นั่นเป็นสิ่งที่เขาเคยได้ยินจากอุจิวะ อิทาจิในสมัยที่ตนยังเป็นแค่เด็กฝึกงานในธนาคาร ซาสึเกะเคยถูกทำร้ายร่างกายอย่างหนักในตอนเด็ก เขาไม่รู้รายละเอียดมากนักแต่นั่นก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เจ้านายของเขาเป็นโรคเกลียดผู้หญิงเข้าไส้... ซาสึเกะจะไม่ยอมให้ผู้หญิงคนไหนแตะต้องตัวเอง... มันทำให้เขาขยะแขยงและรู้สึกเกลียดชัง...

     

    และนี่ถึงขั้นไปตบหน้า...

    เขาจะปล่อยให้เธอรอดไปหรือ?

     

                “ไม่เคยมีใครกล้าทำแบบนี้กับฉัน...” ซาสึเกะพูดเสียงเย็นเยียบ ดวงตาสีรัตติกาลที่สั่นระริกเต็มไปด้วยความโกรธเกลียด “เธอเป็นคนแรก...”

     

    “...”

     

    “และจะเป็นคนสุดท้าย!

     

    สิ้นเสียง ร่างสูงก็ดึงตัวหญิงสาวที่ยังคงอยู่ในอาการเหม่อลอยเข้าไปในตัวบ้านก่อนจะลั่นกลอนปิดประตูไม่เปิดโอกาสให้เลขาของเขาที่นำตัวเธอมาได้มีโอกาสซักถามอะไรต่อ จูโกะพยายามเคาะประตูอย่างนึกเป็นห่วงหญิงสาวที่เพิ่งถูกทำร้ายจิตใจมาอย่างหนัก... แต่ก็ไม่มีเสียงใดๆตอบรับ ชายหนุ่มทรุดตัวอยู่ที่หน้าประตูอย่างรู้สึกผิด...

     

    เขาโง่เอง...

     

    เขาน่าจะรู้ตัวตั้งแต่ตอนที่เจอซุยเงสึตอนนั้น...

    หมอนั่นบอกว่าซาสึเกะจะวางแผนทำลายใครคนหนึ่ง...

    ทำไมเขาถึงไม่เอะใจว่าเป็นเธอ...

     

    นี่ฉันทำบาปอะไรลงไป...

    .

    .

    .

     

    ทางด้านคนที่กำลังโกรธลากตัวหญิงสาวคนแรกที่กล้าฝากรอยประทับไว้ที่แก้มของเขามายังใจกลางบ้านที่เป็นห้องโถงขนาดกลางที่เอาไว้สำหรับรับแขก เขาเหวี่ยงตัวเธอไปที่พื้นอย่างแรงจนคนถูกเหวี่ยงล้มลงไปกองซ้ำยังไถลตัวไปตามพื้นเพราะแรงเหวี่ยงอันมหาศาล เจ้าของใบหน้าสวยหวานเงยหน้าขึ้นมองคนที่ทำกิริยาไร้ความเป็นสุภาพบุรุษกับเธออย่างหวาดกลัว น้ำตาที่เพิ่งหยุดไหลไปไหลลงมาอีกครั้ง...

     

    ทำไมเธอถึงได้เจอแต่คนใจร้าย...

     

                “ทำไม!?! ถึงกับร้องไห้เลยเหรอ? น้ำตาสำออยๆของเธอมันไม่ได้ช่วยให้ฉันรู้สึกสงสารอะไรเลย มีแต่จะช่วยให้ฉันสมเพช!

     

                “ฉันไปทำอะไรให้...” เธอถามเสียงสั่นๆ เขยิบตัวไปจนติดผนัง ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นดึงเธอกลับเข้าสู่โลกแห่งความเป็นจริงอีกครั้ง

     

    เธอถูกขายมาแล้ว...

    ขายให้เศรษฐีคนหนึ่ง...

     

    ซึ่งก็คงเป็น...

     

                “ ทำอะไรให้? ก็ทำให้ฉันเป็นบ้าไง! บ้า...อยากจะฆ่าเธอที่กล้าเอามือสกปรกๆมาตบหน้าฉัน!

     

    เขา...

    ชายที่น่ากลัวยิ่งกว่ามัจจุราช...

     

    อุจิวะ ซาสึเกะ!

     

                “ยะ...อย่า...” ซากุระร้องห้ามเมื่อเห็นร่างสูงย่างสามขุมเข้ามาหาเธอ ร่างบางตัวสั่นสะท้านยามต้องสบตากับดวงตาที่ดูร้ายกาจคู่นั้น

     

    เขาอันตราย...

     

                สัญชาตญาณของเธอบอกมาแบบนั้น แต่เธอจะหนีเขาไปไหนพ้น... เธอไม่มีแรงจะขยับตัวแล้วด้วยซ้ำ ซาสึเกะนั่งลงตรงหน้าคนที่กำลังหวาดกลัว ชายหนุ่มไม่สนใจจะทิ้งระยะห่างเอาไว้ด้วยซ้ำ... จะทำแบบนั้นไปทำไม...ในเมื่อเธอเป็นผู้หญิงที่ทำมากกว่าแตะต้องเขาเสียอีก

     

                “ทำไมไม่ทำหน้าตาอวดดีเหมือนตอนนั้นล่ะ” เขาพูดพร้อมกับยิ้มเยาะ ใบหน้าที่งดงามราวกับเทพบุตรยามโกรธนั้นดูน่ากลัวยิ่งกว่าซาตาน

     

                “ปล่อย...ปล่อยฉันไปเถอะ” หญิงสาวอ้อนวอนน้ำตาไหลพราก ในหัวนึกถึงชะตากรรมที่เลวร้ายที่สุดในฐานะของลูกผู้หญิง

     

    แม้ว่าจะมั่นใจว่าเขาไม่ได้ชอบผู้หญิง...

    แต่สายตาแสนดุดันนั่นจะไว้ใจได้หรือ?

     

                “ปล่อยเหรอ? เหอะ! ปล่อยก็โง่สิ เธอมันโชคร้ายเองนะที่เดินเข้ามาหาฉันเอง”

     

                “...”

     

                “ถ้าฉันรู้ว่าผู้หญิงอย่างเธอแค่ใช้เงินล่อก็กระดิกหางเข้ามาหาล่ะก็ ฉันคงไม่ต้องเสียเวลาคิดหาแผนจะทรมานเธอให้ยากหรอก...” ซาสึเกะพูดพร้อมกับเหยียดยิ้ม

     

                “แค่หว่านเศษเงินให้เล็กๆน้อยๆ... ผู้หญิงอย่างเธอก็ยอมให้ฉันทุกอย่าง...ยอมแม้กระทั่งขายร่างเพื่อมาเป็นอู่ลูกให้ฉัน หึ! แล้วก็บอกว่ามีศักดิ์ศรี ศักดิ์ศรีเป็นของที่เงินซื้อไม่ได้...”

     

                “หยุดพูดนะ...” ซากุระพูดเสียงสั่น ความหวาดกลัวของเธอถูกแทนที่ด้วยความโกรธ ไม่ว่าจะเป็นครั้งนี้หรือครั้งก่อน เขาก็คือผู้ชายร้ายกาจที่คอยแต่จะดูถูกเธอ...

     

    เขามันไม่ใช่ลูกผู้ชาย...

     

                “ทำไม? มันเสียดหูจนฟังไม่ได้เลยเหรอ? ทำมาเป็นบอกว่าตัวเองมีค่าอย่างโน้นอย่างนี้ เหอะ! ฉันล่ะสงสัยนักว่าผู้หญิงกลางคืนอย่างเธอน่ะมั่วผู้ชายมากี่คนแล้ว... ได้มาตั้งเท่าไหร่แล้วล่ะ? แต่ฉันว่ามันคงไม่มากหรอก ไม่งั้นเธอจะบ้ายอมมาท้องกับคนที่ไม่รู้จักเพื่อเงินอย่างนี้...”

     

    เพียะ!!!

     

                 โดยไม่ฟังให้เขาพูดคำดูถูกจบ ซากุระก็วาดมือตอบไปที่ปากเสียๆของเขาอย่างแรง ซาสึเกะหน้าหันไปตามแรงตบ... ลิ้นสัมผัสได้ถึงของเหลวรสเค็มปร่า

     

    วินาทีนั้น...ราวกับเครื่องฉายภาพยนตร์กำลังฉายภาพบางอย่างซ้ำ ภาพในอดีตที่อยู่ลึกสุดในส่วนมโนสำนึกค่อยๆผุดขึ้นมา... แต่ความโกรธของเขาก็ทำให้มันจมดิ่งกลับไปอีกหน...

     

    ไม่ใช่! เธอไม่ใช่คนๆนั้น คนๆนั้นตายไปแล้ว...

     

                เกิดกระแสความเงียบที่เต็มไปด้วยแรงกดดันอยู่ชั่วขณะ มันเป็นช่วงเวลาที่ซากุระไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ มือเล็กที่เคยตบหน้าเขาถึงสองครั้งชะงักค้างกลางอากาศราวกับว่ามันรู้ตัวว่าเพิ่งจะทำสิ่งที่ไม่สมควรทำที่สุดไป...

     

    ซาสึเกะหันหน้ากลับมาแล้ว...

    ใบหน้าของเขาแดงก่ำไปด้วยความโกรธที่ประเมินไม่ได้...

     

                ซากุระเบียดตัวแนบชิดไปกับผนังอย่างนึกกลัว... ฝ่ายคนถูกหยามหน้าถึงสองครั้งสองคราพยายามอย่างยิ่งที่จะระงับอารมณ์เดือดภายในใจ แต่ตอนนี้ดูเหมือนร่างกายจะทำอะไรไปตามอัตโนมัติโดยที่สมองไม่ทันสั่งการด้วยซ้ำ เขาพุ่งเข้าไปหาเธออย่างลืมตัวแล้วกระชากคอเสื้อเพื่อดึงให้เธอลุกขึ้นตาม ซากุระเบิกตาโพลงอย่างตกใจแต่ยังไม่ทันจะได้ร้องห้ามหรือป้องกันอะไรคอเสื้อของเธอก็ถูกเขากระชากอย่างแรง ร่างบางพยายามขัดขืนเอามือข่วนๆที่แขนของอีกฝ่ายเพื่อให้เขาปล่อย แต่เรี่ยวแรงอันน้อยนิดของเธอทำได้เพียงสร้างรอยแดงจางๆเท่านั้น หญิงสาวถลาตัวไปตามแรงดึง เธอเริ่มหายใจติดขัดเมื่อคอเสื้อถูกรั้งขึ้นมาจนปิดอากาศหายใจจนหมด

     

                “แค่กๆ” เธอสำลัก ลิ้นจุกอยู่ที่ปากแต่คนกำลังโกรธจัดก็หาได้ปรานีไม่ เขาไม่สนด้วยซ้ำว่าเธอจะเป็นหรือตาย

     

                “ฉะ...ฉัน แค่กๆ หะ หายใจ...มะ...แค่ก!

     

                ไม่ว่าจะเป็นเสียงอ้อนวอนที่มาพร้อมกับเสียงทรมานของเธอหรือแรงข่วนเบาๆที่มือก็ไม่อาจทำให้ซาสึเกะระงับอารมณ์โกรธของตัวเองได้ ชายหนุ่มลากคอคนที่กำลังดิ้นอย่างทุรนทุรายไปที่หน้าประตูห้องน้ำ

     

    ปัง!

     

                เขาใช้เท้าถีบประตูไม้บานสวยจนมันเปิดออก ซาสึเกะเหวี่ยงคนตัวเล็กกว่าลงไปที่พื้นอย่างแรง ร่างเล็กไถลครูดไปตามพื้นห้องน้ำสีขาว และเพราะแรงเหวี่ยงที่รุนแรงนั้นทำให้เข่าของเธอที่กระแทกพื้นแตก เลือดสีแดงสดไหลย้อมกระเบื้องจนเกิดเป็นสีแดง... คนทำได้แต่ยืนมองด้วยสายตาที่แสนเกลียดชัง... ไร้ความปรานีใดๆ...

     

                “แค่กๆ” ซากุระพยายามโกยอากาศเข้าไปในปอดให้มากที่สุดหลังจากที่เขาปล่อยคอเสื้อของเธอให้เป็นอิสระ ความหวาดกลัวอย่างไม่เคยมีมาก่อนทำให้เธอแทบจะขาดใจตายอยู่ตรงนั้น สายตาของเขาที่มองมามันช่างโหดร้ายอำมหิต... ซากุระคลานหนีอย่างจนตรอก...

     

    เขาไม่ใช่คน...

     

                “กล้าตบหน้าฉันถึงสองครั้ง... เธอเตรียมจะสังเวยชีวิตให้กับความไม่เจียมของตัวเองแล้วใช่มั้ย!!!” เขาพูดพร้อมกับย่างสามขุมเข้ามาหาเธอ ซากุระถอยหนี... ร่างสูงหยุดยืนนิ่งเมื่อเห็นว่าต้อนเธอไปจนชิดอ่างอาบน้ำ

     

                “อย่าทำอะไรฉัน... ฮึก ได้โปรด...ข้อร้อง...”

     

                “...”

     

                “ฉันกลัวแล้ว...ฉันขอโทษ...” ซากุระพูดออกไปอย่างสิ้นหวัง ความเจ็บร้าวระบมที่ได้รับมาเมื่อคืนบวกกับการกระทำอันโหดร้ายป่าเถื่อนของเขาทำให้สติของเธอเริ่มเลือนราง ซากุระซบศีรษะลงที่อ่างอาบน้ำอย่างอ่อนแรง...

     

                “อย่าเพิ่งเป็นลมล้มพับไปสิ...”

     

    ซากุระได้ยินเสียงของเขากระซิบอยู่ใกล้ๆ แต่หนังตาของเธอมันหนักเกินกว่าที่เธอจะฝืนลืมตาขึ้นดูเหตุการณ์ตรงหน้าได้

     

    “ตื่นขึ้นมาลิ้มชิมรสความเจ็บปวดโทษฐานที่เธอมาหยามหน้าฉันก่อน!

     

    ซ่า!

     

                สิ้นเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวของเขา ซากุระก็สัมผัสได้ถึงความเย็นบางอย่างไหลชโลมทั่วร่างของเธอ ร่างบางตัวสั่นสะท้านไปด้วยความหนาวและความเจ็บปวดที่แล่นปราดเข้ามา ดวงตาสีมรกตเบิกโพลง...ริมฝีปากบางสั่นระริก...

     

    ซ่า!

     

                “เป็นแค่เศษสวะแต่กล้าแตะต้องตัวฉัน...” ซาสึเกะพูดพร้อมกับกัดฟันกรอด มือข้างหนึ่งถือฝักบัวจ่ออยู่ที่ศีรษะของอีกฝ่ายปล่อยให้สายน้ำเย็นๆสร้างความทรมานให้สิ่งมีชีวิตที่เขาเกลียดที่สุด...

     

                “แค่กๆ หยุดเถอะ...” ซากุระเค้นคำพูดออกมาอย่างยากลำบากเพราะสำลักน้ำ หญิงสาวกวาดมือสะเปะสะปะกลางอากาศเพื่อหยุดสายน้ำที่เย็นเฉียบนั่น เธอแทบไม่เหลือสติแล้วด้วยซ้ำแม้จะถูกน้ำราดรดอยู่ที่ศีรษะ ในหัวของเธอตื้อไปหมด...แต่เธอก็ยังได้ยินเสียงตวาดที่เต็มไปด้วยความโกรธของอีกฝ่าย

     

                “เป็นไง รู้สึกเจ็บปวดบ้างไหม...” เขาถามออกไปแต่ในใจกลับเจ็บแปลบอย่างประหลาด หัวใจถูกบีบรัดรุนแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน... ภาพของเธอกำลังสะท้อนถึงภาพของใครบางคน

     

     

                “...”

     

                “รู้สึกกลัวฉัน...บ้างมั้ย...”

     

    แกกำลังกลัวใช่มั้ย...

     

                “ฉัน...ฉันกลัวแล้ว...”

     

    ผมกลัวแล้ว...ฮึก...ปล่อยผมเถอะครับ...

     

                 “คุณมัน...ใจร้าย...”

     

    คุณแม่...ใจร้าย...

     

    .

    .

    .

     

    มีเพื่อนผิดคิดจนตัวตาย!

     

                นั่นเป็นประโยคที่ซาโซริคิดมาตลอดตั้งแต่ที่เขาได้รับโทรศัพท์จากจูโกะให้ไปที่คฤหาสน์อุจิวะด่วน ส่วนเหตุผลน่ะหรือ?

     

    ก็ไปหยุดยั้งการฆาตกรรมน่ะสิ!

     

                ซาโซริจำไม่ได้แล้วด้วยซ้ำว่าตัวเองทำหน้าแบบไหนตอนได้รู้ข่าวจากเลขาของเพื่อนผู้ชอบนำความหายนะ ว่าซาสึเกะกำลังลากผู้หญิงที่เจ้าตัวจ้างให้มาเป็นแม่อุ้มบุญเข้าไปทำมิดีมิร้าย... แค่ประโยคแรกของจูโกะก็ทำเอาคนที่เป็นเพื่อนสนิทกับคนก่อเรื่องถึงกับร้องอย่างตกใจจนคนหันมามองกันทั้งสำนักงาน แต่ไอ้ที่ทำให้ใจของเขาหล่นลงไปถึงตาตุ่มก่อนที่เขาจะเก็บมันเข้าที่เดิมแล้วถอยรถบึ่งตรงมายังคฤหาสน์อุจิวะก็คือปล.ปิดท้ายของเลขาหนุ่มนั่นแหละ

     

                ผู้หญิงคนนี้เธอดันไปตบหน้าคุณซาสึเกะไว้ครับ ผมไม่แน่ใจว่าคุณซาสึเกะจะทำอะไรกับเธอ…’

     

    ทำอะไรน่ะเหรอ?

    ถ้าเขาไปถึงแล้วผู้หญิงคนนั้นยังรอดก็นับว่าปาฏิหาริย์!

     

                เสียงริงโทนอันคุ้นหูดังขัดความคิดที่ทำท่าว่าจะดิ่งลงเหวเรื่อยๆของทนายหนุ่ม ซาโซริกดปุ่มรับที่คอนโซลอย่างหงุดหงิด เขาไม่ได้ดูด้วยซ้ำว่าใครโทรมาหา

     

                “ว่า!?!” ชายหนุ่มกระชากเสียงถาม แต่จิตใจของเขาไม่ได้จดจ่ออยู่ที่คู่สนทนาเลยสักนิด... แค่เลี้ยวซอยข้างหน้าก็ถึงแล้ว...

     

                “ฉันมีเรื่องให้ช่วย...” เสียงทุ้มลึกที่เป็นเอกลักษณ์ทำเอาคนที่กำลังสติแตกถึงกับเบรกรถอย่างกะทันหัน

     

    เอี๊ยด!!!

     

                เสียงล้อรถไถลไปตามพื้นถนนพร้อมๆกับกลิ่นเหม็นไหม้ของน้ำมันเบรกทำให้คนที่อาศัยอยู่แถวๆนั้นต่างพากันชะโงกหน้าออกมาดู รถสปอร์ตอัลฟ่าโรมิโอสีดำสนิทหมุนคว้างเป็นวงอยู่ราวครึ่งรอบก่อนจะจอดสนิทอยู่กลางถนนทิ้งรอยยางสีดำไว้ให้เห็น มีเสียงกรีดร้องดังเป็นซาวนด์ประกอบหลังจากที่การโชว์ดริฟท์แบบไม่ได้ตั้งใจจบลง เสียงก่นด่าดังตามมาเป็นระยะแต่สำหรับคนที่กำลังร้อนใจหรือก็ไม่สนว่าการเบรกอย่างกะทันหันของเขาจะไปทำให้ใครหัวใจวายตายหรือไม่

     

                “ไอ้ซัส!” ซาโซริตะเบ็งเรียกชื่อเพื่อนของตนอย่างนึกหวั่นในใจ “นี่แกคงยังไม่ได้ฆ่าใครแล้วมาบอกให้ฉันเป็นทนายให้ใช่มั้ย!?!

     

                ตะโกนไปพลางพักหายใจไปพลาง

     

    สักวันเขาคงจะเป็นโรคประสาทกินตายแน่ๆ...

     

                “ยัง...ยังไม่ตาย” อีกฝ่ายตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉยเหมือนเดิม

     

                “แต่ถ้าแกยังไม่มา... มันก็ไม่แน่”

     

    นั่น! มันยังมีหน้ามาขู่เขาอีก!

     

                “เออ!!! รอก่อนนะแก อีกไม่ถึงห้านาทีฉันจะถึงหน้าบ้านแก รับรองว่าพ่อจะซัดไม่เลี้ยงเลยคอยดู!” พูดจบซาโซริก็กดตัดสาย เขาถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเห็นว่าเพื่อนของตนยังไม่ได้ก่อกรรมหนักอย่างที่นึกกลัว ชายหนุ่มสับเกียร์ถอยรถให้กลับสู่เส้นทางเดิมท่ามกลางเสียงด่าอีกหนึ่งคำรบ เพียงสองสามนาทีถัดมารถอัลฟ่าโรมิโอก็จอดสนิทต่อท้ายรถญี่ปุ่นของจูโกะ ซาโซริแทบจะกระโดดลงจากรถเลยทีเดียว แต่ยังดีที่เขายังคงรักษาความสงบเอาไว้ได้

     

                “ไอ้บ้านั่นอยู่ข้างในเหรอ!” ชายหนุ่มถามเลขาของเพื่อนที่ยืนทำหน้ากังวลอยู่หน้าประตู

     

                “ครับ... คุณซาสึเกะไม่ยอมให้ผมเข้าไป”

     

                “เออ เจริญ! ไม่ให้นายเข้าไปแล้วมันโทรตามฉันมานี่นะ”

     

                “คงเป็นเพราะผมรู้จักกับผู้หญิงคนนั้นน่ะครับ... คุณซาสึเกะก็เลย...” จูโกะเว้นวรรคไป ซาสึเกะคงไม่อยากให้เขาได้เห็นสภาพของหญิงสาวเท่าใดถึงได้โทรตามซาโซริออกมาแทน ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งรู้สึกผิดที่ทำให้เธอคนนั้นต้องมาพบกับชะตากรรมแบบนี้

     

                “ช่างเถอะๆ มีอะไรค่อยมาเล่าให้ฉันฟังทีหลัง” ซาโซริบอกปัด ตอนนี้เขากำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะตะโกนเรียกไอ้ยอดเพื่อนออกมาหรือพังประตูเข้าไปดี

     

    มันอารมณ์ขึ้นๆลงๆ...

    คุ้มดีคุ้มร้ายเกิดเผลอฆ่าคนขึ้นมาจริงๆจะว่าไง...

     

                แต่ยังไม่ทันที่จะตัดสินใจได้ว่าจะเลือกทางไหน ประตูที่ถูกปิดไปก็เปิดออกอีกครั้ง ใบหน้าที่ฉาบไปด้วยความเย็นชาสุดหยั่งของซาสึเกะปรากฏออกมา คนสองคนที่กำลังยืนประสาทเสียกันอยู่ถึงกับช็อค

     

    ที่มุมปากของซาสึเกะมีรอยเลือด!

     

                “บ้าเอ๊ย!” ซาโซริสบถก่อนจะแทรกตัวผ่านประตูไป ในหัวของเขาจินตนาการภาพของหญิงสาวผู้โ-ค-ต-รจะโชคร้ายคนนั้นแทบไม่ออก ตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมาเคยเห็นซาสึเกะเลือดตกยางออกที่ไหน เขาจำได้ว่าแค่ถูกคนอื่นชกจนตาเขียวสมัยยังอยู่ประถม ซาสึเกะก็เล่นงานอีกฝ่ายจนต้องนอนโรงพยาบาล

     

    นั่นมันแค่ตอนประถมนะ...

    แถมคนทำก็ยังเป็นแค่เด็กผู้ชายเกเรธรรมดา...

     

    และนี่ผู้หญิง...

    ซาสึเกะเลือดออก...

     

    เครียดโว้ย!!!

     

                “อยู่ในห้องน้ำ...” เสียงเอื่อยเฉื่อยที่ไม่ว่ากี่ทีก็ทำให้เขาอารมณ์เสียเอ่ยไล่หลังมา ซาโซริรีบเดินไปที่ห้องน้ำตามที่คนก่อเหตุบอก แล้วเขาก็แทบจะหยุดหายใจเมื่อเห็นภาพตรงหน้า

     

    ยังมีชีวิตอยู่หรือนั่น!?!

     

                สภาพเนื้อตัวเปียกปอนของหญิงสาวที่หมดสติบวกกับรอยเลือดที่ผสมกับน้ำที่ไหลเจิ่งนองบนพื้นทำเอาคนมองหัวใจจะวาย ซาโซริตวัดสายตามองเพื่อนของเขาที่ยังคงทำสีหน้าเย็นชาไร้ความปรานีอยู่ก่อนจะเดินเข้าไปดูอาการของหญิงสาว แล้วเขาก็ต้องผงะตกใจอีกครั้งเมื่อพบว่าเธอเป็นคนๆเดียวกับราชินีนักเต้นของผับที่เขาไปประจำ

     

    อะไรมันจะบังเอิญขนาดนั้น!

     

                “แกทำเกินไปแล้วนะ...” เจ้าของเรือนผมสีแดงเพลิงพูดก่อนจะช้อนตัวคนที่หมดสติขึ้นอุ้มแล้วเดินผ่านหน้าเจ้าของบ้านไป ซาสึเกะเงียบไม่ตอบ... เขามองดูเพื่อนของตัวเองวางตัวผู้หญิงที่น่ารังเกียจลงบนโซฟา ซาโซริสำรวจรอยฟกช้ำบนตัวของหญิงสาวก่อนจะถอนหายใจอย่างโล่งอก

     

                “ไม่มีอะไรบุบสลาย...” เขาว่าแล้วหันมาจ้องหน้าคนที่ยืนนิ่งเงียบอย่างเอาเรื่อง “หัดควบคุมอารมณ์ตัวเองหน่อยจะได้มั้ยวะ!

     

                “ผู้หญิงคนนี้หยามหน้าฉัน...” ซาสึเกะพูดเสียงเรียบ ดวงตาสีรัตติกาลยังคงเฉยชาไร้ความรู้สึกผิด

     

                “หยามหน้า?” ซาโซริทวนคำเสียงขึ้นจมูก “เหอะ! แกก็รู้ดีว่ามันไม่ใช่แค่นั้น”

     

                “...”

     

                “คนที่อยู่กับความกดดันมาตลอดอย่างแกถูกหยามเหยียดมากี่ครั้งแล้วทำไมฉันจะไม่รู้ แต่ไอ้ที่แกกำลังบ้าคลั่งแบบนี้อยู่มันก็เพราะเขาทำกับแกเหมือนคนที่แกรู้จักในอดีตทำไม่ใช่รึไง?”

     

                “อย่าพูดเหมือนรู้จักฉันดีไปหน่อยเลย” ซาสึเกะพูดเสียงเย็นทว่าสั่นเครือ

     

                “ฉันอยู่กับแกมากี่ปี? ยี่สิบสามปีนะยี่สิบสาม! ฉันเห็นแกตั้งแต่แกยังเป็นเด็กงี่เง่าอินโนเซ้นส์จนแกโตมากลายเป็นพวกป่าเถื่อนไร้มนุษยธรรมขนาดนี้... ทำไมฉันจะไม่รู้ว่าในหัวของแกมันคิดอะไรอยู่”

     

                “...”

     

                “แกไม่เคยทำร้ายผู้หญิงนะซาสึเกะ... ต่อให้แกเกลียดมากขนาดไหนก็เถอะ” ซาโซริพูดพร้อมกับถอนหายใจ “ฉันก็ไม่ได้อยากจะด่าแกนักหรอก แต่แกอย่าเอาอดีตของตัวเองมาผูกใจเจ็บกับคนในปัจจุบันจะได้ไหม”

     

                “...”

     

                “ยังไงเค้าก็ต้องมาเป็นแม่ของลูกแก สัญญาทั้งหมดมีผลบังคับแล้ว ถ้าแกละเมิด...ฉันก็ไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายเค้าจะทำยังไงกับแก” ซาโซริพูดไว้แค่นั้นก่อนจะเดินหายขึ้นไปบนชั้นสอง ทิ้งให้เขานึกทบทวนกับสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไป...

     

    เขาอาจจะโกรธมากเกินไปจริงๆ...

     

                ร่างสูงมองคนที่ยังคงนอนสลบไสลด้วยสายตาที่ว่างเปล่า แม้จะรู้ดีว่าตัวเองทำเกินกว่าเหตุ แต่กลับไม่มีความรู้สึกผิดหรือเสียใจเลยแม้แต่น้อย ในสายตาของเขา...ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ดูน่าสงสารขึ้นมาเลย เธอยังคงเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ...น่าขยะแขยงสำหรับเขา...

     

                “ฉันเกลียดเธอนัก!

     

     

     

     

                ขอโทษฮัฟที่เมื่อวานไม่ได้มาอัพ T^T คือไรท์ไม่รู้จะจัดการยังไงกับเกะดี ไม่อยากให้พี่แกดูเลวเกินไป ฮ่าๆๆ ต้องบอกว่าลดระดับความโหดลงมาแบบฮวบฮาบ คือถ้าลงเนื้อหาที่แต่งไว้ตั้งแต่เมื่อวานเกรงว่าท่านผู้อ่านจะพากันรับไม่ได้>.< ที่ไรท์บอกว่าจะมีฉากncนั้น นั่นอีกนานพอควรเลยค่ะไม่ใช่เร็วๆนี้หรอก อิอิ ปล.ต้องบอกว่าเรื่องนี้เกะมันซาดิสม์มากกกกก fcหนูกุอย่าโกรธเค้าน้า>.<

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×