7 วันที่ฉันได้อยู่กับคุณ - 7 วันที่ฉันได้อยู่กับคุณ นิยาย 7 วันที่ฉันได้อยู่กับคุณ : Dek-D.com - Writer

    7 วันที่ฉันได้อยู่กับคุณ

    ไม่มีอะไรมากถ้าอยากรู้ก็อ่านเอาเอง...ฮิฮิ (Fiction Buffy the Vampire Slayer-เรื่องแปล)

    ผู้เข้าชมรวม

    1,374

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    8

    ผู้เข้าชมรวม


    1.37K

    ความคิดเห็น


    6

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  8 มิ.ย. 47 / 20:06 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      7 วันที่ฉันได้อยู่กับคุณ                 แปลโดย kmin
          
      แปลจากเรื่อง ‘The Week I Spent With You’  ของ TK
      <อยากอ่านแบบภาษาอังกฤษลองหาอ่านได้ใน  fanfiction.buffyfan.com/fanfiction/tk หรือ www.fanfiction.net>

      วันอาทิตย์:
      “แม่คะ,หนูไม่อยากเชื่อเลยว่าแม่จะทำแบบนี้กับหนู” บัฟฟี่ ซัมเมอร์เด็กสาวอายุ 17 บ่นกับมารดาของเธอซึ่งกำลังจัดกระเป๋าอยู่ “แม่ก็รู้ว่าเราไม่ถูกกัน” เธอเข้าเรื่อง
      “บัฟฟี่” จอยซ์ ซัมเมอร์ มองหน้าลูกสาวเธอด้วยความเห็นใจ “พ่อ ดอว์นและแม่กับพวกโอคอนเนลจะไม่อยู่บ้านทั้งอาทิตย์ดังนั้นพวกเราเห็นพ้องกันว่าลูกและแองเจิลต้องอยู่ใต้หลังคาเดียวกันเผื่อว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น” เธออธิบายพร้อมๆกับรูดซิปกระเป๋าเดินทางสีดำของเธอ
      “มันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอกค่ะ” บัฟฟี่บอกเธอนั่งลงบนเก้าอี้หนังสีน้ำตาลของพ่อที่อยู่ถัดจากเตียงหลังใหญ่ของพ่อแม่เธอ “หนูไม่ต้องการเขา” เธอยืนยัน “เขาดีแต่พูดว่าร้ายหนู  ทำยังกับว่าหนูเป็นเด็กๆ ทั้งๆที่หนูก็อายุพอๆกับเขาน่ะแหละ…นายแองเจลัส  โอคอนเนล จอมโอ้อวด” เธอบ่น
      บัฟฟี่และแองเจิลโตมาด้วยกันเนื่องจากจอยซ์ ซัมเมอร์และมารี โอคอนเนลเป็นเพื่อนรักกันตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยนิวยอร์กที่ทั้งคู่จบในสาขาศิลปกรรม  ทั้งสองแต่งงานกับสองเพื่อนซี้แฮงค์ ซัมเมอร์และแฮร์รี่ โอคอนเนล  หลังจบมหาวิทยาลัยจอยซ์และมารีได้รับการเสนองานที่บริษัทโฆษณาในแอล.เอ  แฮงค์และแฮร์รี่เปิดธุรกิจของตัวเองเป็นบริษัทคอมพิวเตอร์และมันก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี  บัฟฟี่และแองเจิลลืมตาขึ้นมาดูโลก 2 ปีต่อมาหลังจากที่ทั้งสองครอบครัวย้ายมาอยู่แอล.เอ  โดยแองเจิลเกิดก่อนบัฟฟี่เพียง 2 เดือน  และตั้งแต่ที่พวกเขาเริ่มพูดได้บัฟฟี่และแองเจิลก็ไม่เคยเข้ากันได้เลยต่างคนต่างพูดหรือทำอะไรก็ตามเพื่อกันอีกคนออกไปและทะเลาะเบาะแว้งกันตลอดเวลา
      “บัฟฟี่, แองเจิลจะอยู่ที่นี่หนึ่งอาทิตย์ตอนที่พวกเราไปบาฮามาส  ตอนนี้พ่ออยากให้เธออ่านบทเรียนสำหรับการสอบและเป็นมิตรกับแองเจิลสักหน่อยได้ไหม” คุณนายซัมเมอร์หันไปยิ้มให้กับสามีที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้อง
      “ทำไมคะ” บัฟฟี่ถาม “ทั้งๆที่เขาใจร้ายกับหนูตลอด” เธอพูดย้ำอีกครั้ง “ทำไมพ่อไม่เขียนจดหมายบอกว่าหนูไปสอบไม่ได้แล้วหนูจะได้ไปเที่ยวกับพ่อ,นะคะ” เธออ้อนด้วยสายตาวิงวอนที่ทำให้เธอได้ทุกอย่างที่เธอต้องการแต่ครั้งนี้มันไม่ได้ผล
      “ไม่..บัฟฟี่” คุณซัมเมอร์ส่งยิ้มให้ลูกสาวคนโต “ลูกต้องอยู่กับแองเจลัส” เขาตอบ “เออนี่ มารี,แฮร์รี่แล้วก็เคที่มากันแล้วนะจ๊ะ” คุณซัมเมอร์บอกภรรยาของเขาพร้อมรับกระเป๋าเดินทางสีดำใบใหญ่จากเธอ “พวกเขาพร้อมจะไปกันแล้ว…แล้วคุณล่ะ” เขาถามภรรยา
      “พร้อมแล้วค่ะ” คุณนายซัมเมอร์บอก “คุณไม่ลืมตั๋วเครื่องบินนะ” เธอถามสามี
      “อยู่นี่แล้ว” คุณซัมเมอร์เอามือตบกระเป๋าเสื้อเชิ้ตสีเขียวเข้มของเขา “บัฟฟี่, แองเจลัสก็มาแล้วนะ พ่ออยากให้ลูกพาเขาไปที่ห้องพักของเขาด้วย” คุณซัมเมอร์หันกลับไปหาลูกสาวของเขา
      “ก็ได้ค่ะ” บัฟฟี่ไม่ชอบใจความคิดนี้เท่าไรแต่ก็เชื่อฟังคำพูดของบิดา
      “ต้องอย่างนี้สิลูกสาวฉัน” คุณซัมเมอร์กอดลูกสาวผมทองตาสีเขียวของเขา “รักษาตัวด้วย  เราจะกลับมาในวันเสาร์ดังนั้นอย่าฆ่าแองเจลัสล่ะ” เขาหยอก
      “ไม่หรอกค่ะ” บัฟฟี่สัญญา ‘พูดมันง่ายกว่าทำนะ’ เธอคิดกับตัวเองก่อนจะเดินเข้าไปกอดมารดาของเธอ
      ********************
          “ว่าไง,ยัยเปี๊ยก” แองเจิล โอคอนเนลทักเมื่อเขาสังเกตเห็นบัฟฟี่ที่เดินตามหลังพ่อแม่ของเธอลงมาชั้นล่าง
      “แองเจลัส” คุณโอคอนเนลเตือน “แกต้องทำดีกับเธอตลอดสัปดาห์นี้เข้าใจไหม” เขาพูดอย่างชัดเจนจนทำให้แองเจิลสงบเสงี่ยมลงได้
      “เข้าใจครับ” แองเจิลตอบอย่างหนักแน่น “ผมจะทำดีกับเธอที่สุดเลย” เขาล้อเลียนและแกล้งยิ้มให้บัฟฟี่
      “แน่สิ…เขาคงดีกับฉันซะจนฉันไม่อยากปล่อยเขาไปเลย” เธอเหน็บแนม
      “ไปกันเถอะ  ก่อนที่พวกเขาจะกัดกันอีก” ดอว์น ซัมเมอร์เด็กสาวอายุ 14 พูดขึ้นขณะที่เธอยืนอยู่ข้างๆเคที่ โอคอนเนลเด็กสาวอายุ 13
      “ขอให้สนุกนะ” แองเจิลพูดโบกมือให้กับครอบครัวเขาและครอบครัวซัมเมอร์ ขณะที่ทั้งหมดเดินออกจากบ้าน
      บัฟฟี่ยิ้มและโบกมือจนกระทั่งพวกเขาขับรถออกไป  เธอปิดประตูและมองแองเจิลอย่างรำคาญแป๊บหนึ่งก่อนจะเดินเข้าไปยังห้องนั่งเล่นที่ตกแต่งอย่างสวยงาม  เธอนั่งลงบนโซฟาสีแดงเอนหลังอย่างสบายอารมณ์ก่อนหยิบรีโมทโทรทัศน์ขึ้นมา
      แองเจิลเดินตามมาและนั่งลงข้างๆเธอ “คุณควรจะพาผมไปดูห้องไม่ใช่เหรอ  หรือความจำคุณเสื่อมเพราะยาย้อมผมที่คุณใช้ย้อมเป็นประจำ” เขากวนโมโหจนบัฟฟี่ทำตาเขียวใส่
      “นี่! เข้าใจอะไรอย่างนะ, ถ้านายไม่มาวุ่นวายเรื่องของฉัน  ฉันก็จะไม่ไปยุ่งเรื่องบ้าบออะไรของนาย” บัฟฟี่แขวะก่อนจะปิดทีวี  “ฉันจะพานายไปที่ห้อง” เธอลุกขึ้นยืน
      “นำไปเลย…คุณมือสังหาร” แองเจิลเรียกบัฟฟี่โดยใช้ชื่อเล่นที่เขาตั้งให้  ตั้งแต่ที่เขาเป็นเด็กแองเจิลก็คิดมาตลอดว่า’มือสังหาร’ เหมาะกับเธอเพราะเธอเป็นพวกสังคมจัดและไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่เธอหักอกใครต่อใครตั้งแต่เธอย่างเข้าสู่วัยรุ่น…
      “อย่าเรียกฉันอย่างนั้นนะ, เทวดาผู้พิทักษ์” บัฟฟี่ย้อนเธอเรียกแองเจิลด้วยชื่อเล่นที่เธอตั้งให้เหมือนกัน
      “คุณกำลังอารมณ์ดี” แองเจิลแซวต่อ “มีประจำเดือนหรือไงจ๊ะ” เขายั่วอีก
      “นี่ห้องนาย” บัฟฟี่ทำเป็นไม่สนใจคำพูดของแองเจิล “ฉันจะทำมื้อเย็นตอนหนึ่งทุ่มถ้านายอยากกินอะไรก็หากินเอาเองล่ะกัน” เธอพูดก่อนจะหันหลังและเดินลงบันไดไป
      ********************
      ‘ไอ้บ้า’ เธอคิดขณะยืนจ้องซุปไก่ที่เธอทำเอง ‘ทำไมเขาไม่ไปกวนใจคนอื่นนะ’
      “ว่าไง..มือสังหาร” 10 นาทีต่อมาแองเจิลเดินเข้ามาในห้องครัวสีขาวแดงและพบว่าบัฟฟี่กำลังทำอาหารอยู่ “มื้อค่ำมีอะไรเอ่ย”
      “ซุปไก่” บัฟฟี่ตอบสั้นๆ
      “มันไม่มียาพิษใช่ไหม” แองเจิลล้อเล่นทำให้เขาโดนบัฟฟี่ฟาดแขนเขาไปที่หนึ่ง “แค่ล้อเล่นน่า” เขาลูบแขนข้างที่ถูกตีไปมา “คุณกับสไปค์เป็นไงบ้างล่ะเดี๋ยวนี้” แองเจิลถามเมื่อเขานั่งลงที่โต๊ะอาหารสีขาวของครอบครัวซัมเมอร์
      “เราเลิกกันมาเกือบเดือนแล้ว” บัฟฟี่ตอบเบาๆ
      “ในที่สุดเขาก็ได้สติเสียที” แองเจิลแหย่…เขาและสไปค์ วิลเลี่ยมเคยเป็นเพื่อนกันตอนประถมและมัธยมต้นแต่เมื่อสไปค์เริ่มเดทกับบัฟฟี่เมื่อปีที่แล้วแองเจิลก็ไม่ค่อยได้เจอเขาอีก
      “เงียบไปเลย” บัฟฟี่ดุ “สำหรับเป็นข้อมูลให้นาย, ฉันทิ้งเขาย่ะ” เธอเท้าเอวจ้องหน้าเขาเขม็ง “เขานอกใจฉันไปยุ่งกับยายบ้าดรูซิลล่า  ไม่มีใครเคยนอกใจฉันได้” เธอบอกก่อนจะหันกลับไป
      “โทษที” แองเจิลพูดออกมาเบาๆและคำพูดนั้นก็ทำให้บัฟฟี่แปลกใจ
      ‘เขาไม่เคยขอโทษฉันเลย’ เธอคิดขณะตักซุป ‘เขาเมายาอะไรมารึเปล่า’ เธอสงสัยหันมามองแองเจิลที่กำลังจัดโต๊ะอยู่ ‘เขาทำอะไรนะ’
      ‘รู้สึกว่าเธอกำลังมองเราอยู่นะ’ แองเจิลคิดขณะจัดโต๊ะ ‘เธอดูน่ารักดีตอนยืนทำกับข้าว’ ความคิดของเขาทำให้เขาต้องสั่นหัวอย่างแรงทันที ‘เราคิดอะไรอยู่เนี่ย..ที่เรากำลังคิดถึงเนี่ยคือยายบัฟฟี่เด็กหลงตัวเองนะ’
      “ขอบคุณที่จัดโต๊ะให้” บัฟฟี่พูดพรางทัดปอยผมสีทองหลังใบหูของเธอ
      “ไม่มีปัญหา” แองเจิลตอบ
      บัฟฟี่วางถ้วยซุปบนโต๊ะแล้วทั้งสองก็รับประทานอาหารไปอย่างเงียบๆ
      ********************
      วันจันทร์:
      “แองเจิล,ได้เวลาไปโรงเรียนแล้ว” บัฟฟี่ตะโกนและเคาะห้องนอนแองเจิลเสียงดัง
      บัฟฟี่อยู่ในชุดเชียร์ลีดเดอร์สีฟ้าเหลืองที่เธอใส่สำหรับเกมในวันนี้  ผมเธอเป็นลอนและเธอรวบผมไว้ด้วยโบว์สีฟ้า  เธอกำลังรีบที่จะไปโรงเรียนเพื่อคุยกับเพื่อนรักและเพื่อนร่วมทีมเชียร์ วิลโลว์ โรเซนเบิร์ก ก่อนที่จะเข้าชั้นเรียน  อย่างไรก็ตามแองเจิลควรจะเป็นคนขับรถไปส่งเธอที่โรงเรียนอาทิตย์นี้แต่ถ้าเขายังหลับต่อเรื่องที่เธอหวังคงไม่มีทางเกิดขึ้น  
      “แองเจิล โอคอนเนล ขยับก้นออกจากที่นอนเดี๋ยวนี้นะ” บัฟฟี่ยังตะโกนอยู่หน้าประตู “ถ้านายไม่ลุกฉันจะเข้าไปแล้วนะ” เธอขู่
      เธอยืนรออยู่ 5 นาทีเมื่อไม่มีเสียงตอบเธอจึงตัดสินใจเดินเข้าไปในห้อง “แองเจิล..ฉันบอกว่า..โอ้..โอ้..ฉัน..ขอโทษ” เธอขอโทษขอโพยเมื่อสังเกตเห็นว่าเธอเดินเข้ามาตอนที่แองเจิลเพิ่งออกมาจากห้องน้ำ  หน้าเธอแดงก่ำขณะหันหลังให้กับภาพผ้าเช็ดตัวที่แองเจิลพันกายไว้ “ขอโทษ” เธอขอโทษอีกครั้งด้วยความอาย
      แองเจิลยิ้มให้กับอาการอายของเธอ “ไม่เป็นไรหรอก” คำพูดของเขาทำให้บัฟฟี่รู้สึกดีขึ้น แต่เมื่อเขาพูดต่อ “สาวๆเคยบอกฉันว่าฉันมีปานน่ารักๆที่…” เขายั่วเธออีก
      “ถ้านายพูดจบประโยคนั้นฉันจะเตะก้นนาย” บัฟฟี่ขู่
      “อายรึไงมือสังหาร” แองเจิลเดินมายืนอยู่ข้างหลังเมื่อบัฟฟี่หันมาเผชิญหน้ากับเขา  หน้าบัฟฟี่ยิ่งแดงมากขึ้นอีกเมื่อความสนใจของเธอไปอยู่ตรงจุดยุทธศาสตร์ของเขา  เธอเงยหน้าขึ้นดวงตาสีเขียวสดใสของเธอประสบพบเจอกับดวงตาสีช็อคโกแลตของแองเจิล  เธอรู้สึกเหมือนหายใจไม่ออกเมื่อแองเจิลส่งยิ้มให้เธอ
      ‘จูบฉันสิ’ เธอคิดในใจ “แองเจิล! ฉันรอนายอยู่ข้างนอกนะ” เธอบอกและยังคงสับสนกับความคิดเมื่อกี้ของตัวเอง ‘เราต้องการให้เขาจูบจริงๆเหรอ  ไม่…มันก็แค่ตำแหน่งที่พวกเรายืนเท่านั้น’ “แล้วเจอกัน” เธอพูดแก้มของเธอยังแดงเรื่อก่อนที่เธอจะเดินออกจากห้องไป
      ********************
      ‘ฉันเป็นอะไรไปเนี่ย’ เธอคิดกับตัวเอง ‘เขาเป็นศัตรูของฉันนะ’ บัฟฟี่ส่ายหน้าเพื่อสลัดความคิดนั้นออกไปก่อนจะเดินลงมาดูโทรทัศน์ระหว่างคอยแองเจิล  15 นาทีต่อมาแองเจิลเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นในชุดทีมฟุตบอลเจอร์ซีย์ (ทีมอเมริกันฟุตบอลเพราะในอเมริกาเรียกอเมริกันฟุตบอลว่าฟุตบอล  และเรียกฟุตบอลว่าซอคเกอร์) กับกางเกงยีนส์สีน้ำเงิน
      “พร้อมยัง” แองเจิลถามทำให้บัฟฟี่เงยหน้ามามองเขา
      “ไปกันเถอะ” บัฟฟี่ตอบคว้ากระเป๋าเป้ของเธอ “รู้อะไรไหม  นายแต่งตัวนานกว่าฉันอีกนะ!” เธอแหย่เขาระหว่างที่เธอเปิดประตูหน้าบ้านโดยที่มีแองเจิลเดินตามหลังมา
      “บางคนใช้น้ำร้อนจนหมด” เขาบอกบัฟฟี่เมื่อพวกเขามาถึงรถมาสแตงค์ ปี 1964 สีดำเปิดประทุนของเขา
      “น่าสงสารจัง” เธอพูดไปขำไป “คุณควอเตอร์แบ็คโรงเรียนมัธยมเฮเมอร์รี่พร้อมรับมือกับพวกแบร์รึยัง” บัฟฟี่พูดถึงการแข่งขันระหว่างทีมเฮเมอร์รี่และทีมแบร์
      “พวกเขาเป็นทีมที่แข็งแกร่ง” แองเจิลยอมรับ “แต่พวกเราเก่งกว่า” แองเจิลกล่าวอย่างลำพองใจ “วันนี้ผมมีสอบ 2 วิชาหลังจากนั้นก็จะฝึกกันจนถึงเวลาแข่ง” เขายอมรับว่าโค้ชเป็นคนจัดการให้เขาและเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆไม่ต้องมีสอบในวันแข่งทำให้เขามีเวลาฝึกซ้อมกันมากขึ้น
      “ฉันมีสอบวิชาเดียว  เชียร์ลีดเดอร์และทีมเต้นไม่ต้องสอบเหมือนกันเราจึงมีเวลาซ้อมท่าของเรา” บัฟฟี่เล่ารู้สึกสบายใจกับการสนทนาที่เธอมีกับเขา ‘มันแปลกดีแฮะ’ เธอคิด
      “ทีมเชียร์เป็นยังไงบ้าง” แองเจิลถามเมื่อพวกเขามาถึงลานจอดรถของโรงเรียน
      “ก็ดี” บัฟฟี่ตอบ “แองเจิล, นี่เราเพิ่งจะคุยกันแบบคนปกติเขาคุยกันใช่ไหมเนี่ย” เธอถามเพื่อความแน่ใจว่าเธอไม่ได้คิดไปเอง
      “ใช่..ใช่เรากำลังทำยังนั้น” แองเจิลแปลกใจตัวเองเช่นกัน  แล้วเสียงกริ่งก็ดังขึ้นทั้งสองคนลงจากรถและเดินแยกย้ายกันไป
      ********************
      “เธอจัดการแองเจิลรึยัง” วิลโลว์ โรเซนเบิร์กถามบัฟฟี่ค่ำวันนั้นขณะที่เชียร์ลีดเดอร์กำลังเตรียมพร้อมสำหรับเกมที่จะเกิดขึ้นในอีก 15 นาที
      “ยัง..แปลกดีที่เราคุยกันตลอดทางที่มาโรงเรียนเลย” บัฟฟี่บอกเพื่อนสาวผมแดงของเธอ “แล้วเขายังขอโทษฉันเมื่อคืนเรื่องที่ฉันกับสไปค์เลิกกัน”
      “ประหลาด” คอร์ดีเลีย เชส กัปตันทีมเชียร์อีกคนนั่งลงข้างๆวิลโลว์และบัฟฟี่
      “ฉันก็ว่าอย่างนั้น” บัฟฟี่เห็นด้วยขณะที่เธอกำลังยืดหยุ่นขาโดยการใช้ท่าเตะสูง “มันเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่ดีที่สุดของเขาเลย  พนันได้เลยว่าคืนนี้เขาจะกลับมาเป็น ‘บัฟฟี่ยัยเตี้ย’ หรือไม่ก็ ‘ประหลาดบัฟฟี่มีนัด’ ฉันหมายถึงถ้าแองเจิลสามารถเปลี่ยนตัวเองได้จริงมันคงจะเป็นปาฏิหารย์ซะล่ะมั้ง” เธอกล่าว
      “หรือบางทีมันอาจเป็นเพราะเขากำลังมีความรัก” วิลโลว์หันไปยิ้มกับคอร์ดีเลียอย่างรู้กัน
      “แองเจิลมีความรัก” บัฟฟี่อุทาน “ขอทีเถอะ! วิลโลว์ถ้าเขาเคยรักใครนอกเหนือจากตัวเขาเองและครอบครัวเขานะ  ฉันว่าฉันคงช็อคตายไปแล้วล่ะ” เธอพูดพร้อมๆกับเสร็จสิ้นการอบอุ่นร่างกาย “ไปกันเถอะ” เธอคว้าพู่ของเธอ “ถึงเวลาออกไปเต้นที่สนามร่วมกับทีมเต้นแล้ว” วิลโลว์และเชียร์ลีดเดอร์ทุกคนเดินตามหัวหน้าของพวกเธอออกไปยังสนาม
      ********************
      “แองเจิล” ชาร์ลี กันน์ตะโกนเข้าหูแองเจิลทำให้ควอเตอร์แบ็คของเราถึงกับสะดุ้ง
      “อะไรวะ” เขาถามหันมามองหน้าเพื่อนรักของเขา “นายพูดว่าอะไรนะ” เขาถาม
      “ฉันถามว่าอยู่กับบัฟฟี่เป็นไงบ้าง  นายบีบคอเธอรึยัง” เขาแหย่  เขารู้ดีว่าสาวน้อยผมทองทำให้เพื่อนรักเขาประหม่าเสมอ  เขาอยากให้ทั้งคู่ตาสว่างและเข้าใจสักทีว่าที่พวกเขาทะเลาะกันประจำมันเกิดจากอะไรกันแน่
      “ยังหรอก..ยังก่อน” แองเจิลแสยะยิ้ม “มันเพิ่งจะผ่านมาวันเดียวเอง  แต่ฉันแน่ใจภายในอาทิตย์นี้ฉันคงมีอารมณ์อยากบีบคอเธอขึ้นมาแน่ๆ” เขายอมรับ
      “แองเจิลผู้น่าสงสาร” แซนเดอร์ แฮร์ริสหนึ่งในเพื่อนของแองเจิลเดินเข้ามาตบหลังของเขา “คงลำบากมากสิที่ต้องอยู่กับสาวสวยสุดฮอต” เขาพูดติดตลก
      “เธอไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย” แองเจิลกล่าว “อีกอย่างถ้านายไม่ระวังใครบางคนอาจไปบอกแฟนนายที่นายคิดว่าเพื่อนของเธอฮอตกว่าตัวเธอ” แองเจิลพูดแทงใจดำเพื่อนของเขาก่อนที่โค้ชจะตะโกนเรียกทีม
      “คอร์ดีเลียรู้ว่าฉันรักเธอและรู้ดีที่ฉันเห็นบัฟฟี่ฮอต” แซนเดอร์ยอมรับ
      “แล้วเธอชอบมั้ยล่ะ” กันน์ถาม
      “ไม่” แซนเดอร์ตอบเพื่อนๆของเขาหัวเราะกันถ้วนหน้า
      “ไปจัดการพวกมันกัน” กันน์ตะโกนกระตุ้นเพื่อนร่วมทีมที่ขานรับ ‘เยส’ พร้อมๆกัน
      ********************
      “เป็นเกมที่ยอดไปเลย” บัฟฟี่ชมในคืนนั้นขณะที่เธอนั่งรถกลับบ้านพร้อมแองเจิล  เฮเมอร์รี่เอาชนะแบร์ด้วยคะแนน 49 ต่อ 21  เธอไม่เคยเชียร์สุดชีวิตขนาดนี้มาก่อน  บัฟฟี่ประทับใจการเล่นของแองเจิลมากไม่ต้องสงสัยเขาเป็นผู้เล่นที่ดีแต่คืนนี้เหมือนกับว่าเขาพยายามพิสูจน์อะไรบางอย่างที่เธอเองก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร
      “คุณเล่นได้ดีกว่าที่ฉันเคยเห็นคุณเล่น” บัฟฟี่ชมอีกเมื่อความเงียบเริ่มรบกวนเธอ
      “ขอบคุณ,ผมแค่โชคดีเท่านั้น” แองเจิลประหลาดใจกับความเห็นของบัฟฟี่ที่ทำให้เขารู้สึกดี ‘มันเกิดอะไรขึ้นกับเราวะเนี่ย’ เขาถามตัวเองในใจ “รู้สึกว่าสไปค์พยายามจะคุยกับคุณตอนพักครึ่งนะ” เขาเอ่ยถึงเพื่อนเก่าผมสีทองของเขา
      “เขาอยากคืนดีกับฉันแต่ฉันปฏิเสธไป” บัฟฟี่อธิบาย
      “ทำไมล่ะ  ผมนึกว่าคุณรักเขา” แองเจิลถามอย่างสนใจขณะที่เขากำลังจะเอารถเข้าไปในโรงรถของครอบครัวซัมเมอร์
      “อย่างที่ฉันเคยบอกไม่มีใครนอกใจฉันได้  อีกอย่างฉันไม่ได้รักเขา” เธอสารภาพด้วยความสัตย์จริง “มันก็แค่ความหลงชั่ววูบและเขานอกใจฉันไปกับดรูซิลล่าซึ่งเขายังคงคบอยู่  แค่นี้ก็ทำให้ฉันตาสว่างแล้ว” เธออธิบาย
      “เขาอยากจับปลาสองมืออีกครั้งหลังจากที่เขาเคยทำแบบนั้นกับคุณ” แองเจิลพูดอย่างไม่อยากเชื่อเมื่อเขาและบัฟฟี่เดินออกลงจากรถ
      “ก็แบบนั้น” บัฟฟี่ตอบขณะเปิดไฟห้องครัวและแองเจิลล็อคประตูโรงรถ “เขาคิดว่าเขามีพรสวรรค์ในเรื่องผู้หญิง  แบบว่าพวกเราต้องก้มลงจูบเท้าเขาเพราะเขาช่างโรแมนติคและแสนหวาน แต่แล้วก็กลับกลายเป็นไอ้เบื้อกภายในพริบตา” เธอเดินไปเปิดตู้หยิบแก้วน้ำออกมา
      “คุณคิดกับผมแบบนั้นด้วยใช่มั้ย” แองเจิลถามทันทีที่เขานั่งลงที่เก้าอี้
      “อะไรนะ” บัฟฟี่มองหน้าเขาอย่างไม่อยากเชื่อว่าเขาจะถามเรื่องนี้ “แองเจิล..ฉันคิดว่าคุณเป็น..”
      “เป็นยังไง” เขาถามอีกครั้งแปลกใจเหมือนกันที่ส่วนหนึ่งของเขาสนใจว่าบัฟฟี่คิดอย่างไงกับเขา ‘มันเกิดขึ้นเมื่อไรเนี่ย’ ใจหนึ่งเตือนสติ แต่อีกใจหนึ่งยอมรับ ‘เมื่อเช้านี้’…
      บัฟฟี่ก้มหน้ามองเท้าของเธออย่างครุ่นคิด ‘ฉันควรจะพูดยังไงดี  จะบอกเขาว่าเขาใจร้าย  หยาบคาย  และชอบบงการฉันตลอดเวลา’ เธอถามตัวเอง ‘หรือฉันควรบอกเขาว่าฉันอยากให้เขาจูบมากแค่ไหนเมื่อเช้านี้’
      “บัฟฟี่” แองเจิลยืนขึ้นอย่างรวดเร็วและเดินตรงไปยืนอยู่ตรงหน้าบัฟฟี่
      “ฉันไม่รู้” เธอมองหน้าแองเจิลด้วยความสับสนที่ปรากฏบนใบหน้าของเธอ “ฉันไม่รู้…ฉันรู้แค่ว่าคุณใจร้ายกับฉันและตอนนี้ฉัน…” เธอเริ่มแต่ก็พูดไม่จบ
      “คุณอะไร” เขาถามอย่างสนใจ
      “เปล่า” บัฟฟี่พูดทันทีและเดินหนีเขาไป  เธอคว้าแก้วน้ำของเธอก่อนจะเดินออกจากครัวตรงไปยังห้องนอนของเธอ ‘ฉันคิดอะไรอยู่’ เธอสงสัย ‘ฉันต้องไม่รู้สึกแบบนั้นกับเขา…ในเมื่อเขาคงไม่ตอบแทนความรู้สึกนั้นกับฉันได้’
      ********************
      วันอังคาร:
      “มันประหลาดมากที่เขาทำแบบนั้น” บัฟฟี่อุทานออกมาเมื่อเธอและวิลโลว์เดินเข้าไปในห้องเรียนวิชาประวัติศาสตร์
      “เธอแน่ใจนะว่าเขาไม่ได้โดนผีสิงหรือเป็นอะไรสักอย่าง” วิลโลว์ถามแปลกใจพอๆกับบัฟฟี่  ครั้งแรกที่บัฟฟี่บอกเธอเรื่องแองเจิลเมื่อเช้านี้ก็ทำเอาเธอแทบช็อคแล้ว
      “เขาชมฉันว่าฉันสวยล่ะ,วิล  แองเจิลไม่เคยพูดแบบนั้นและยิ่งน้ำเสียงที่เหมือนกับว่า…เขาหมายความอย่างนั้นจริงๆ” บัฟฟี่เล่าเมื่อเธอนั่งลงข้างๆวิลโลว์ “เขาไม่ได้โดนผีสิงแน่” บัฟฟี่กล่าวแก้มแดงระเรื่อ ‘ไม่หลังจากที่ฉันเดินเข้าไปเห็นอะไรเมื่อเช้านี้’ เธอคิดอย่างเขินๆกับตัวเอง
      ครั้งนี้แองเจิลกำลังอาบน้ำอยู่แต่บัฟฟี่คิดว่าเธอบังเอิญเปิดน้ำทิ้งเอาไว้พอเธอเปิดม่านเพื่อจะเข้าไปดู…พูดแค่ว่าเธอเห็นเต็มๆตา  ไม่ต้องเอ่ยถึงแรงกระตุ้นที่เข้าครอบงำจนเธอแทบจะกระโดดเข้าไปอาบน้ำกับเขาด้วย
      “งั้นบางทีบางอย่างอาจเปลี่ยนไป” วิลโลว์แนะเมื่อเธอสังเกตว่าแองเจิลที่นั่งคุยกับแซนเดอร์อยู่อีกฝั่งหนึ่งของห้องเรียนแอบมองเพื่อนซี้ของเธออยู่
      “เช่นอะไร” บัฟฟี่ถามไม่แน่ใจว่าวิลโลว์พูดถึงอะไร “ฉันไม่เคยสนใจอะไรอื่นนอกจากตัวฉันตอนที่อยู่กับเขา และไม่มีใครเปลี่ยนแปลงตัวเองได้เร็วขนาดนั้น” เธอบอก
      ********************
      “แองเจิล,เอย! เดี๋ยวเธอก็จับได้หรอกว่านายแอบมองเธอ” แซนเดอร์บอกเมื่อเขาสังเกตว่าเพื่อนของเขามัวแต่มอง บัฟฟี่ ซัมเมอร์ “รู้ไหมสายตาที่นายมองเธอทำให้ฉันสงสัยว่านายเกลียดขี้หน้าเธอจริงๆหรือเป็นเรื่องตรงข้ามกันแน่” เขาพูดอย่างรวดเร็วทำให้แองเจิลหันคอแทบหักกับความเห็นสุดท้ายที่เพื่อนเขาพูดถึง
      “ฉันไม่ได้ชอบเธอแบบนั้น” แองเจิลแก้ตัวอย่างหนักแน่น “ฉันแค่สงสัยว่าเธอคุยอะไรกับวิลโลว์” เขาแก้ตัวน้ำขุ่นๆ ‘โกหก’ เสียงในหัวแองเจิลพูด ‘นายยังคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเช้านี้  นายอยากจะฉุดเธอเข้ามาอาบน้ำกับนายตั้งแต่วินาทีแรกที่ดวงตาสีเขียวมรกตของเธอจับจ้องมาที่นาย’ มันพร่ำบอกอยู่อย่างนั้น
      “เฮ้” กันน์ร้องทักเพื่อนทั้งสองของเขา “เป็นไงบ้างพรรคพวก” เขาถาม
      “ก็ดี, แองเจิลถูกพิษรักจากบัฟฟี่ ซัมเมอร์  แต่เราก็รู้กันดีอยู่แล้วนี่” แซนเดอร์ล้อเล่นกันน์หัวเราะชอบใจแต่แองเจิลจ้องหน้าแซนเดอร์ยังกับจะกินเลือดกินเนื้อ
      “ฉันไม่ได้ชอบเธอ” แองเจิลพูดอย่างหนักแน่นเป็นครั้งที่สอง  เขาหันกลับมาสนใจชั้นเรียนทำเป็นไม่ใส่ใจแรงปรารถนาที่จะมองไปที่เสื้อสีดำรัดติ้วและกระโปรงเข้าชุดกันของบัฟฟี่ ‘เธอน่ารักดุจนางฟ้าทำไมเราถึงไม่เคยสังเกตมาก่อนนะ’ เขาสงสัยและแทบจะเอาเหล็กตบหน้าตัวเองที่คิดเรื่องแบบนี้ได้  ความคิดของเขาหยุดลงในนาทีต่อมาเมื่ออาจารย์เดินเข้ามาในห้องและเริ่มบทเรียน
      ********************
      หลังโรงเรียนเลิกบัฟฟี่นั่งรถกลับบ้านพร้อมๆกับแองเจิลอีกครั้งแต่ไม่มีบทสนทนาใดๆเกิดขึ้นระหว่างคนทั้งสอง  กับอีกสองชั่วโมงของการดูโทรทัศน์ที่แสนจะสงบเงียบ  ในที่สุดบัฟฟี่ก็ทนไม่ไหวถ้ายังไม่มีใครพูดอีกเธอคงเสียสติแน่ๆ  เธอจึงตัดสินใจพูด “แองเจิล” เธอเรียกพร้อมกับปิดโทรทัศน์ “ฉันขอถามอะไรหน่อยได้ไหม” เธอถามด้วยความไม่แน่ใจ
      แองเจิลหันมามองหน้าเธออย่างแปลกใจที่เธออยากคุยกับเขา “ได้,ว่ามา” เขาตอบง่ายๆ
      “อย่างแรกฉันเสียใจที่เดินเข้าไปตอนที่คุณกำลังอาบน้ำ” เธอกล่าวแก้มเธอเริ่มมีเลือดฝาดเมื่อเธอนึกถึงรูปร่างของเขา “เรื่องที่สองเมื่อเช้าที่คุณบอกฉันว่าสวยกับเรื่องเมื่อคืนที่คุณอยากรู้ว่าฉันคิดยังไงกับคุณ, ทำไมคุณถึงอยากรู้ล่ะ” เธอถามอย่างเขินๆและเริ่มทัดผมหลังใบหูซึ่งมันเป็นนิสัยส่วนตัวที่เธอมักจะกระทำเมื่อเธอรู้สึกตื่นเต้น และตอนนี้เธอตื่นเต้นมากในสิ่งที่เขากำลังจะพูดและเธอก็คิดไม่ออกว่าเป็นเพราะอะไร
      “ผม..” แองเจิลอ้ำอึ้ง ‘แค่บอกความจริงกับเธอ’ เสียงในหัวเขาตะโกนบอก ‘ถ้าหากเธอไม่ชอบเราล่ะ’ อีกใจหนึ่งยังคงไม่แน่ใจ
      ‘ทำไมเขายังไม่ตอบสักที’ บัฟฟี่ไม่สบายใจและยิ่งทำให้เธอตื่นเต้นมากกว่าตอนแรกเสียอีก ‘มันเป็นแค่เรื่องตลกหรือว่าเขาเกลียดฉันจริงๆ’ เธอคิดความเศร้าเริ่มเข้าครอบงำจิตใจเธอ ‘ได้โปรดเถอะ! อย่าให้เขาพูดแบบนั้นเลย’ ส่วนหนึ่งของเธออ้อนวอน
      “ผมสนใจในสิ่งที่คุณคิด” เสียงตอบจากแองเจิลดึงความสนใจของเธอกลับมาที่เขา
      “จริงเหรอ” บัฟฟี่ถามเพื่อความแน่ใจ  เธอถอนใจอย่างโล่งอก ‘เขาไม่ได้แกล้งล้อฉัน’
      “ใช่สิ” แองเจิลยืนขึ้นเขากล้าพอที่จะเดินมายังโซฟาที่บัฟฟี่นั่งอยู่ “จริงๆแล้วผมสนในสิ่งที่คุณคิดมากเลย” เขานั่งลงข้างๆเธอ
      “ทำไมล่ะ” เธอถามเมื่อใบหน้าของเธอเริ่มปรากฏรอยยิ้ม “ฉันนึกว่าคุณเกลียดฉัน” เธอจ้องหน้าแองเจิล
      “ผมไม่ได้เกลียดคุณ, ผมรู้ว่าคุณไม่ชอบขี้หน้าผมแต่…” แองเจิลเริ่มอธิบาย
      “ฉันไม่เคยคิดแบบนั้นเลย” เธอแย้งคำพูดของเขา “จริงๆแล้ว” เธอหายใจเข้าลึกๆพยายามรวบรวมความกล้าทั้งหมด “ฉันชอบคุณ” เธอสารภาพ “ฉันไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นเมื่อไรหรือความรู้สึกนั้นมาได้ยังไงแต่ฉันชอบคุณ”
      “ผมก็ไม่รู้เช่นกัน” แองเจิลพูดต่อ “แต่ผมก็ชอบคุณ  ชอบคุณในแบบที่อยากจะชวนคุณออกไปทานอาหารค่ำด้วยกันในคืนวันพฤหัสฯ” เขาถือโอกาสเกาะกุมมือเธออย่างอ่อนโยน “ถ้าคุณยินดีไปกับผม” เขากล่าวเสริมอย่างมีความหวัง
      บัฟฟี่ไม่อยากจะเชื่อว่าเขาจะรู้สึกสับสนกับความรู้สึกนั้นแบบเดียวกับเธอแต่เธอดีใจ…จริงๆแล้วดีใจอย่างเหลือล้น “ฉันยินดีจะไปทานมื้อค่ำกับคุณคืนวันพฤหัสฯ” เธอยิ้ม
      “ดีเลย” แองเจิลถอนใจอย่างโล่งอก “วันพฤหัสฯหลังโรงเรียนเลิก เรากลับมาเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วผมจะพาคุณไปร้านอาหารไหนก็ได้แล้วแต่ว่าคุณอยากไปที่ไหน” เขาเสนอ  ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
      “ตกลง” บัฟฟี่เห็นด้วยในทันที “ฉันควรไป..ทำการบ้านก่อนดีกว่าแต่อีกเดี๋ยวฉันจะลงมาใหม่นะ” เธอบอกก่อนจะยืนขึ้นแต่ในนาทีสุดท้ายเธอหันกลับมาก้มลงหอมแก้มแองเจิลอย่างแผ่วเบาก่อนจะหันหลังกลับไปและเดินขึ้นห้องของเธอไปอย่างรวดเร็ว
      ********************
      ‘ไม่อยากเชื่อเลยว่าฉันจะไปเที่ยวกับเขา’ บัฟฟี่คิดในตอนดึกคืนนั้นระหว่างที่เธอและแองเจิลนั่งบนโซฟาดูหนังเรื่องน็อตติ้ง ฮิลล์  มันเป็นหนึ่งในหนังที่เธอชอบ  และหลังจากคิดหาเหตุผลที่พวกเขาควรจะดูมัน (1.มันเป็นหนังที่เธอชอบ 2.แองเจิลคิดว่า จูเลีย โรเบิร์ต เซ็กซี่) ในที่สุดเธอก็ชวนเขามาดูกับเธอจนได้
      “คุณหนาวเหรอ” แองเจิลถามบัฟฟี่เมื่อเขาเห็นเธอลูบแขนเธอไปมา
      “ก็นิดหน่อย” บัฟฟี่ยอมรับเธอเงยหน้าขึ้นมาจากที่วางแขนที่เธอหนุนอยู่เมื่อมองหน้าแองเจิล “บางครั้งมันก็เย็นเกินไป  แม่คิดเสมอว่าในนี้ร้อนดอว์นก็เหมือนกัน  พ่อก็เลยเปิดแอร์อุณหภูมิปานกลางไว้ตลอด” เธออธิบายขณะลุกขึ้นนั่ง
      “มานี่สิ” แองเจิลขยับเพื่อให้บัฟฟี่เข้ามาใกล้ๆเขา
      “ก็ได้” เธอพูดเบาๆ เมื่อเธอขยับเข้ามาหาแองเจิลจนเธอมาอยู่ข้างๆเขา
      แองเจิลดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอด  เขาโอบกอดเธอไว้ในอ้อมแขนอันอบอุ่น “ดีขึ้นไหม” เขาถามบัฟฟี่ที่หน้าแดงระเรื่อ
      “ดีขึ้นมาก” เธอตอบเบาๆก่อนที่เธอจะรู้สึกถึงริมฝีปากของเขาเหนือริมฝีปากเธอ
      ความรู้สึกสุขใจแล่นเข้ามาสู่จิตใจของคนทั้งสองเมื่อแองเจิลกอดบัฟฟี่อย่างแนบแน่นและจุมพิตของพวกเขาเริ่มเร่าร้อนและดูดดื่มยิ่งขึ้น  ทั้งคู่ประหลาดใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมากเมื่ออาทิตย์ก่อนพวกเขายังพูดว่าร้ายกันต่างต่างนานา  แต่ตอนนี้พวกเขาทำเหมือนพวกเขาได้อยู่ด้วยกันมาชั่วชีวิต
      “แองเจิล, มันเกิดอะไรขึ้น” บัฟฟี่ถามเมื่อพวกเขาผละออกจากกัน “เกิดอะไรขึ้นระหว่างเรา  เมื่ออาทิตย์ก่อนฉันแทบไม่อยากมองหน้า..ไม่อยากอยู่ใกล้คุณ  แต่ตอนนี้นั้นคือทุกอย่างที่ฉันต้องการ” เธอสารภาพพรางลูบไล้ผมสีน้ำตาลของเขาเล่น
      “ผมไม่รู้” แองเจิลตอบแปลกใจพอๆกัน “ที่ผมรู้คือมันถูกต้อง  มันถูกที่ได้กอดคุณแทนทีจะผลักไสคุณไป” เขาอธิบาย
      “มันรู้สึกดีที่ให้คุณกอดฉัน” บัฟฟี่ตอบเบาๆลูบไล้ลงมาบริเวณลำคอของเขา “เมื่อริมฝีปากของคุณสัมผัสฉัน  ฉันรู้สึกเหมือนล่องลอยไปในอากาศ…ฉันไม่เคยรู้สึกแบบนั้นมาก่อนเลย” เธอบอกแองเจิลซึ่งเขาค่อยๆเอนหลังเธอนอนลงบนโซฟาแล้วเอนตัวลงนอนข้างๆ
      “ผมรู้ว่าคุณรู้สึกยังไง” แองเจิลตอบก่อนจะจุมพิตริมฝีปากสีชมพูนุ่มละไมของเธออีกครั้ง  บัฟฟี่และแองเจิลยังคงจุมพิตและตระกองกอดกันจนกระทั่งเกือบรุ่งสางของวันใหม่
      ********************
      วันพุธ:
      “แองเจิลกับเธอ” วิลโลว์ร้องเสียงหลงในวันต่อมาขณะที่ทีมเชียร์ลีดเดอร์กำลังอบอุ่นร่างกาย
      “ใช่” บัฟฟี่ตอบหน้าบาน “วิล,มันสุดจะบรรยายเลยล่ะ  วิธีที่เขากอดฉัน..จูบฉัน…โอ้พระเจ้า!” เธออธิบายไม่ถูก
      “บัฟฟี่ แอน ซัมเมอร์  เธอกำลังมีความรัก” คอร์ดีเลียพูดขึ้นพร้อมกับเสียงหัวเราะ  เธอรู้ตลอดว่าที่บัฟฟี่และแองเจิลเขม่นหน้ากันเป็นวิธีกนึ่งในการเรียกร้องความสนใจจากฝ่ายตรงข้าม  เธอกับวิลโลว์พนันกันว่าทั้งบัฟฟี่และแองเจิลจะใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะรู้สึกตัวกัน  วิลโลว์พนันว่าต้องเป็นช่วง1-2 ปีแรกของไฮสคูล  คอร์ดีเลียเดาว่าน่าจะเป็นช่วง 2 ปีสุดท้าย ‘ฮ่ะ..วิลโลว์ติดเงินฉัน 30 เหรียญล่ะ’ เธอคิดอย่างดีใจ
      “ฉันว่าบางทีฉันคงเป็นอย่างนั้น” บัฟฟี่ยอมรับกับคอร์ดีเลีย “ฉันไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นเมื่อไรแต่ตอนนี้ฉันอยากอยู่กับแองเจิล” หน้าตาของเธอเป็นประกายสดใสยังกับต้นคริสมาสต์ประดับประดาด้วยไฟหลากสี
      “ไปกันเถอะจูเลียต เราต้องเริ่มซ้อมแล้ว” คอร์ดีเลียล้อ  เธอ วิลโลว์และบัฟฟี่ลุกขึ้นยืนเตรียมพร้อมจะเดินออกไป
      “ก็ได้  แต่เราไปซ้อมกันที่สนามบอลเถอะนะ” บัฟฟี่เดินออกไปก่อนที่วิลโลว์และคอร์ดีเลียจะมีโอกาสโต้ตอบ
      “สาวน้อยของเราโตแล้วนะ” คอร์ดีเลียพูดติดตลกกับวิลโลว์
      “น่าเศร้าจริงๆ” วิลโลว์พูดเล่นก่อนจะเดินตามบัฟฟี่ออกไป
      ********************
      “แองเจิล, นายยังมีชีวิตอยู่ไหมวะ” กันน์ถามขณะเช็คขี้โคลนออกจากใบหน้าของเขา  เมื่อคืนมีฝนตกทำให้สนามฟุตบอลเละเทะเต็มไปด้วยโคลน  ทีมฟุตบอลกำลังฝึกซ้อมทำสกรัมส์ (การแย่งลูกแบบอเมริกันฟุตบอล)เพื่อเตรียมทีมสำหรับการแข่งขันกับทีมซานฟรานซิสโก ไพโอเนียที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า  แต่ความสนใจของแองเจิลไม่ได้อยู่กับเกม  มันไปอยู่กับสาวน้อยผมทองที่แอบส่งยิ้มให้เขาในตอนที่เขาไม่ได้มองเธอ  กันน์รู้ว่าต้องมีอะไรเกิดขึ้นเมื่อคืนแต่แองเจิลยังไม่เล่ารายละเอียดให้เขาฟังเลย
      “เอ้อ!โทษทีวะ กันน์ ฉันแค่…” แองเจิลหันไปหาเพื่อนของเขา
      “มัวแต่มองบัฟฟี่” แซนเดอร์พูดแทน  เขาเดินเข้ามาหาเพื่อนของเขา “เกิดอะไรขึ้นระหว่างนายสองคนฮึ  ทั้งวันนายสองคนมัวแต่ส่งยิ้มให้กัน  นายเลือกนั่งข้างๆเธอในทุกชั้นเรียนที่นายเรียนร่วมกับเธอ  และนายไม่พูดว่าร้ายเธอเลยแม้แต่นิดเดียว” แซนเดอร์เข้าประเด็น “เกิดอะไรขึ้นวะ!” เขาถามพยายามล้วงความลับนี้ให้ได้
      “ไม่มีอะไร, ฉันกับบัฟฟี่..เรากำลังจะไปทานข้าวด้วยกันคืนพรุ่งนี้และเราจูบกัน” แองเจิลตอบง่ายๆก่อนจะลุกออกไปประจำตำแหน่งตามที่โค้ชสั่ง
      “อะไรนะ” กันน์และแซนเดอร์ตะโกนตามหลังเขาไป
      “เล่ามาเลย” กันน์สั่งนาทีต่อมาเมื่อเขาและแซนเดอร์ไล่ตามแองเจิลทัน  แองเจิลเล่าเรื่องราวระหว่างเขาและบัฟฟี่ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแบบสั้นๆให้ทั้ง 2 คนฟัง
      ********************
      “ฉันคิดถึงคุณ” บัฟฟี่พูด โอบแขนรอบคอเขาเมื่อเขาเดินมาที่รถหลังจากโรงเรียนเลิก
      “จริงรึ” เขาหยอกโอบแขนรอบเอวเธอบ้าง
      “หนึ่งชั่วโมงมันนานเกิดไป” บัฟฟี่เบ้ปากก่อนจะยิ้มออกเมื่อแองเจิลก้มลงจูบเธอ
      “รู้สึกว่าคู่อริจะหันมาสนใจกันเองนะ” สำเนียงอังกฤษคุ้นหูแทรกขัดจังหวะโรแมนติดของบัฟฟี่และแองเจิล
      “สไปค์..ไปห่างๆเลย” บัฟฟี่ไล่แฟนเก่าเธอ “15 นาทีก่อนดรูซิลล่ากำลังตามหานายอยู่และเธอกำลังบ้า  นายไปนอนกับหญิงอื่นมาอีกรึไง” เธอถามไม่สนใจหรอกว่าเขาจะทำจริงหรือไม่
      “ไม่เลย…แต่ถ้าเป็นคุณก็ไม่แน่นะที่รัก” สไปค์พูดเดินตรงมาหาบัฟฟี่ที่ยังคงอยู่ในอ้อมแขนของแองเจิล
      “นั้นจะไม่มีวันเกิดขึ้น” แองเจิลปกป้องบัฟฟี่ “สไปค์ถอยไป  กลับไปหาแฟนโรคจิตของนายไป” เขาไล่
      “โอคอนเนล, ทำไมนายไม่ไปโดดหน้าผาแล้วเอามือออกจากแฟนฉันซะ” สไปค์โต้ตอบอย่างดุเดือด
      “ฉันไม่ใช่แฟนนาย” บัฟฟี่บอก “ฉันจะไม่เป็นแฟนนายอีกและจะบอกอะไรให้เอาบุญ  ฉันดีใจที่เราเลิกกันเพราะตอนนี้ฉันพบผู้ชนะ  ในขณะที่นายก็คือไอ้ขี้แพ้” เธอพูดก่อนจะซุกตัวในอ้อมแขนของแองเจิล
      “งั้นอย่าหวังว่าฉันจะคืนดีกับเธออีกเมื่อพ่อยอดนักฟุตบอลหักอกเธอล่ะ” สไปค์ถ่มน้ำลายออกมาอย่างเกลียดชัง
      “มันจะไม่มีวันเกิดขึ้น” แองเจิลโต้  เขาเดินพาบัฟฟี่ไปขึ้นรถทางที่นั่งของเธอ
      “หุบปากไปเลยเว้ย!” สไปค์พูดก่อนจะเดินหายไปในความมืด
      “สนุกดีแฮะ” บัฟฟี่พูดพร้อมรอยยิ้ม “กลับบ้านกันเถอะ  ฉันจะทำสปาเกตตี้อิตาเลี่ยนที่ฉันอยากลองทำมานานให้ทาน” เธอบอกแองเจิลเมื่อเขาเข้ามาในรถ
      “ได้เลย” แองเจิลยังกระหยิ่มยิ้มย่องกับสีหน้าของสไปค์  ครั้งหนึ่งพวกเขาเคยเป็นเพื่อนกันแต่สไปค์กลับกลายเป็นใครบางคนที่แองเจิลไม่อยากคบค้าสมาคมด้วย
      “ฉันรักคุณ” บัฟฟี่พูดออกมาเบาๆเมื่อเธอพิงไหล่แองเจิลขณะที่เขาขับรถกลับบ้าน  เธอพูดอย่างเบาๆและไม่คาดหวังอะไร  แองเจิลไม่แน่ใจกับสิ่งที่เขาได้ยินและเมื่อเธอไม่พูดซ้ำหรือพูดอะไรอย่างอื่นนอกจากขยับซุกเข้ามาแนบชิดเขามากขึ้น  เขาจึงมั่นใจว่ามันเป็นแค่จินตนาการของเขาและปล่อยให้มันผ่านเลยไป(ก่อน)  เขามีบางอย่างจะบอกเธอเช่นกัน  และมันจะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้…
      ********************
      วันพฤหัสบดี:
      “ชุดนี้เป็นไงบ้าง” บัฟฟี่ถามหลังโรงเรียนเลิกเธอยืนอยู่ในห้องของเธอกับวิลโลว์และคอร์ดีเลีย  พวกเธอมาช่วยบัฟฟี่เลือกชุดสุดสวยสำหรับนัดคืนนี้ของเธอกับแองเจิล  พวกเธอค้นตู้เสื้อผ้าราคาแพงอยู่นานแต่ก็ยังไม่พบชุดที่พวกเธอเห็นพ้องกันเลย  ตอนที่พวกเขามาถึงบ้าน  แองเจิลบอกกับบัฟฟี่ว่าเขาจองโต๊ะไว้ตอน 6 โมงเย็น  ดังนั้นเธอมีเวลา 3 ชั่วโมงในการตัดสินใจว่าเธอควรจะใส่ชุดไหนดี
      บัฟฟี่ตอบกลับเขาไปว่าไม่มีปัญหาก่อนจะบรรจงจุมพิตเขาอย่างอ่อนโยน  วิลโลว์และคอร์ดีเลียต้องช่วยกันดึงเธอออกมาจากแองเจิลเพื่อให้เธอสนใจชุดที่เธอจะใส่  เพราะเมื่อริมฝีปากของแองเจิลและบัฟฟี่สัมผ้สกัน  วิลโลว์และคอร์ดีเลียแน่ใจว่าพวกเขาลืมทุกอย่างจนหมดสิ้น
      “แล้วชุดกุชชี่สีดำนี้ล่ะ” วิลโลว์แนะนำเมื่อเธอหยิบชุดนั้นขึ้นมา
      “คิดว่าเขาจะชอบไหม” บัฟฟี่ถามคอร์ดีเลียที่กำลังทำผมให้เธออยู่ “ฉันอยากให้เขาชอบมัน” เธอหวัง
      “ชอบหรือว่ารักล่ะ” คอร์ดีเลียล้อเพื่อนเธอ
      “รักมัน” บัฟฟี่ยอมรับอย่างมีความสุข ‘ฉันยังไม่อยากเชื่อเลยว่าฉันกำลังจะไปเที่ยวกับแองเจิล’ เธอคิดอย่างมีความสุข ‘ฉันคงเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในโลกเลย’
      “เขาต้องรักมันแน่ๆ” วิลโลว์รับรองพร้อมกับส่งชุดนั้นให้บัฟฟี่ลองใส่ “มันเผยช่วงขาและแผ่นหลังเปล่าเปลือยของเธอด้วยนะ” เธอบอกเพื่อนของเธอที่นั่งยิ้มอยู่ วิลโลว์ยิ้มให้เพื่อน..ดีใจที่เห็นเพื่อนมีความสุขความจริงมันก็แปลกนิดๆที่เห็นเพื่อนเธอกำลังจะมีนัดกับแองเจิลแต่เธอก็รู้เสมอว่าไม่ช้าก็เร็วบัฟฟี่และแองเจิลคงตาสว่างและพบว่าการต่อล้อต่อเถียงกันของพวกเขาจริงๆแล้วคือการจืบกัน
      “Ok. บัฟฟี่ผมเธอเสร็จแล้ว” คอร์ดีเลียบอกก่อนจะวางที่แปรงผมสีเงินลง
      “คอร์ดี้, มันเลิศมาก” บัฟฟี่บอกเมื่อเธอส่องกระจกและพบสิ่งที่เพื่อนของเธอทำให้
      “ตอนนี้ก็ไปแต่งตัวได้แล้ว” คอร์ดีเลียแนะอย่างหนักแน่น
      “ตกลง” บัฟฟี่พูดขณะที่เธอลุกขึ้น  
      ขณะที่บัฟฟี่อยู่ในห้องน้ำดูความเรียบร้อย  วิลโลว์ตัดสินใจไปดูแองเจิลว่าเขาเป็นยังไงบ้าง
      ********************
      “หวัดดี” วิลโลว์พูดเมื่อเธอเดินเข้าไปในห้องแองเจิลขณะที่เขากำลังพยายามผูกเนคไท “ต้องการความช่วยเหลือไหม” เธอถาม
      แองเจิลมองหน้าเพื่อนรักของบัฟฟี่ด้วยสายตาวิงวอน “ได้โปรดผมผูกไทไม่ได้” เขายอมรับเมื่อสาวผมแดงหยิบเนคไทไปจากเขาและเริ่มผูกมันให้ “บัฟฟี่เสร็จรึยัง” เขาถามถึงสาวน้อยผมทองของเขา
      “เธอจะเสร็จแล้วล่ะ” วิลโลว์ตอบ “นายจะพาเธอไปที่ไหนล่ะ” เธอถามขณะกำลังจัดปมไทให้สวยงาม
      “ผมจะพาเธอไปที่ร้านแอนโทนีโอ  ร้านอาหารอิตาเลี่ยนเล็กๆบนถนนเมนเน่” แองเจิลตอบ “เธอคงชอบใช่ไหม” เขาถามทันทีเมื่อเขากังวลว่าบางทีบัฟฟี่อาจไม่ชอบอาหารอิตาเลี่ยน
      “เธอจะชอบมัน” วิลโลว์รับประกันกับแองเจิลเมื่อเธอผูกไทให้เขาเสร็จแล้ว “เธอรักอาหารอิตาเลี่ยนและเธอชอบให้หนุ่มๆกุมมือเธอก่อนมื้อค่ำ” วิลโลว์แนะแองเจิล
      “จริงเหรอ” แองเจิลถามไปพร้อมกับคว้ากระเป๋าตังค์ของเขา “แล้วผมดูเป็นไงบ้าง” เขาถามเธออีก
      “นายดูหล่อมาก” วิลโลว์บอกอย่างจริงใจ “บัฟฟี่ต้องชอบแน่ๆ”
      “ท่านคะ, สุภาพสตรีของท่านกำลังรออยู่” คอร์ดีเลียโผล่หน้ามาที่ทางเดินหน้าประตูห้องของแองเจิล
      “ขอให้สนุกนะ” วิลโลว์บอกแองเจิลก่อนจะตามคอร์ดีเลียออกไปจากห้องของแองเจิล
      ‘เอาล่ะ’ แองเจิลคิด ‘ถึงเวลาไปหาสาวน้อยของเราแล้ว’ ความคิดของเขาทำให้เขายิ้ม
      ********************
      “บัฟฟี่, คุณดูสวยมาก” แองเจิลแทบหายใจไม่ออกเมื่อเขาเห็นบัฟฟี่เดินลงบันไดตรงมาหาเขา ‘ชุดนี้ดูดีที่สุดตอนอยู่บนตัวเธอ’ เขาคิด
      “ขอบคุณคะ  คุณก็หล่อเหมือนกัน” บัฟฟี่ชมตอบ “ไปกันหรือยังค่ะ” เธอถามแองเจิลทั้ง 2 ควงแขนกันออกไป
      “ไปสิ” แองเจิลยิ้ม
      “บาย! วิล,คอร์ดี้” บัฟฟี่พูดกับเพื่อนรักทั้ง 2 คน เมื่อแองเจิลพาเธอออกจากประตูตรงไปยังรถของเขา
      ********************
      “แองเจิล  ที่นี่สวยมากเลย” บัฟฟี่ประทับใจในความสวยงามของร้านอาหารที่ตกแต่งด้วยโทนสีแดงขาว
      “ผมดีใจที่คุณชอบ” แองเจิลกุมมือเธอไว้ “รู้ไหม เมื่อพ่อแม่เรากลับมาท่านต้องแปลกใจมาก” เขาบอกก่อนจะก้มลงจุมพิตฝ่ามือเธอเบาๆ
      “ใช่พวกเขาต้องประหลาดใจ” บัฟฟี่ตอบเบาๆ  ใจละลายกับท่าทางของเขา “ฉันมีความสุขจัง” เธอยอมรับ “ฉันมีความสุขที่เราไม่ทะเลาะกันอีกและตอนนี้ฉันมีคุณอยู่เคียงข้าง”
      “คุณจะมีผมเสมอ” แองเจิลให้สัญญา “ตราบใดที่คุณต้องการผม”
      “ตลอดไป, ตลอดไปจะได้ไหม” บัฟฟี่ถามขยับเก้าอี้เข้าหาแองเจิลมากขึ้น
      “ตลอดไป, ผมยินดีเสมอ” แองเจิลสัญญาก่อนจะดึงบัฟฟี่มาจุมพิตอย่างอ่อนโยน
      พวกเขาถูกขัดจังหวะเมื่อพนักงานมาเสิร์ฟอาหารและหลังจากนั้นทั้งแองเจิลและบัฟฟี่ก็ไม่สนใจใครอื่นอีกนอกจากพวกเขาทั้งสองคน  ทั้งคู่ผลัดกันป้อนอาหารให้แก่กันอิ่มเอมกับความสุนทรีย์ในบทเพลงอิตาเลี่ยนที่เปิดคลอเบาๆ ‘นี่มันสมบูรณ์แบบที่สุด’ บัฟฟี่คิดอย่างมีความสุขขณะที่เธอป้อนไก่ให้แองเจิล ‘เพื่อนๆฉันพูดถูกฉันมีความรัก ฉันตกหลุมรักแองเจิล โอคอนเนล’
      ‘ตอนนี้แหละเหมาะเลยที่จะบอกเธอ’ แองเจิลตัดสินใจ  เขาลูบแก้มของเธอเบาๆ “บัฟฟี่  ผมมีบางอย่างจะบอกคุณ” แองเจิลพูดอย่างสุขุม
      “อะไรเหรอแองเจิล” บัฟฟี่ถามอย่างอยากรู้ “คุณบอกฉันได้ทุกเรื่อง”
      “ผมรักคุณ” แองเจิลสารภาพ “ผมรักคุณมาสักระยะแล้ว..มันแค่..ผมไม่คิดว่าคุณจะรู้สึกแบบเดียวกับผมและถ้าคุณไม่มีความรู้สึกแบบนั้นผมเข้าใจ  แต่ผมอยากให้คุณรู้ไว้ว่าผมรักคุณ  และผมอยากให้คุณมาเป็นแฟนผม” เขาสารภาพและล้วงไปหยิบของบางอย่างออกมาจากกระเป๋าเสื้อ
      บัฟฟี่ยิ้มทั้งน้ำตาที่ไหลอาบแก้มเธอ “ฉันรักคุณ” เธอตอบอย่างมีความสุข “แองเจิล ฉันรักคุณและฉันยินดีจะเป็นแฟนคุณ” เธอยิ้ม
      “นี่สำหรับคุณ” เขายื่นให้เธอเปิดกล่องสีดำเล็กๆที่ใส่แหวนเงินไว้
      “แองเจิล มันสวยมาก” บัฟฟี่อ้าปากค้างกับความงามของแหวนและความหมายของมันที่แองเจิลเริ่มอธิบาย
      “มงกุฎแทนความภักดี, มือแทนมิตรภาพและรูปหัวใจแทนความรัก” เขาอธิบาย “สวมแหวนให้หัวใจชี้เข้าหาตัวมันจะหมายถึงหัวใจคุณเป็นของใครบางคน, แบบนี้” เขาแสดงให้บัฟฟี่ดูนิ้วนางข้างซ้ายของเขา  บัฟฟี่ก้มลงจุมพิตแหวนบนนิ้วแองเจิลก่อนจะยื่นมือให้เขา “สวมแหวนให้ฉันสิ” เธอพูดขณะที่น้ำตาแห่งความสุขไหลอาบแก้มเธอ  แองเจิลสวมแหวนให้เธอหลังจากนั้นทั้งคู่ก็ตระกองกอดและจุมพิตกันอย่างดูดดื่ม
      ‘เยี่ยมยอด’ ทั้ง 2 คิดในเวลาเดียวกันเมื่อพวกเขาผละออกจากกันและเริ่มทานอาหารที่เหลือของพวกเขาต่อ  ทั้งคู่กลับมายังบ้านซัมเมอร์หลังจากการรับประทานอาหารค่ำกันที่ซึ่งพวกเขาอิงแอบแนบชิดกันจนกระทั่งพวกเขาหลับไป
      ********************
      วันศุกร์:
          วันศุกร์เป็นวันที่ทั้งบัฟฟี่และแองเจิลต่างใช้เวลาดูหนัง, ทานอาหารกลางวันและทำการบ้านร่วมกัน  จนกระทั่งถึงเวลาที่พวกเขาต้องไปพบเพื่อนๆของเขาที่ ‘เดอะพิท’  คอร์ดีเลียและแซนเดอร์ต่างคิดว่ามันคงจะดีที่หลังจาดเลิกเรียนแล้วยังได้พบกับทุกคนที่ ‘เดอะพิท’ คลับที่ดีที่สุดในแอลเอ.  เพื่อนของทั้งคู่ต่างดีใจกับคู่รักคู่ใหม่
      “คุณจะเต้นรำกับผมไหมครับ, คุณผู้หญิง” แองเจิลถามบัฟฟี่เมื่อดีเจเริ่มเล่นเพลงช้า
      “ได้เลยค่ะ” บัฟฟี่ตอบจับมือแองเจิลที่ยื่นมาให้เธอ
      “2 คนนั้นน่ารักดีนะ” วิลโลว์คุยกับคู่นัดของเธอ เดเนียล ออสบอร์น หรือที่รู้จักกันในนาม ออซ “คุณดูพวกเขาสิ คุณไม่มีทางรู้เลยว่าพวกเขาเคยเกลียดขี้หน้ากัน” เธอพูดเบาๆ ทั้งโต๊ะหัวเราะกับคำพูดของเธอ
      “มันเมื่ออาทิตย์ที่แล้วไม่ใช่เหรอ” เฟรด เวสลีย์พูดขึ้นมา  เธอเป็นคู่นัดของกันน์
      “ใช่” คอร์ดีเลียจ้องหน้าสาวน้อยผู้เถรตรง ‘กันน์ไปเอาสาวคนนี้มาจากไหนนะ’ เธอสงสัย
      “คอร์ดี้ไปเต้นกันม่ะ” แซนเดอร์ถามแฟนสาวผมน้ำตาลของเขา
      “แล้วอย่าเหยียบเท้าฉันล่ะ นายแฮร์ริส” คอร์ดีเลียแหย่เล่น เธอรักแฟนของเธอจริงๆนะ
      “วิลโลว์ เต้นกันนะ” ออซพูดสั้นๆ เขายืนขึ้นและดึงสาวผมแดงเข้ามาในอ้อมกอด
      “ขอบคุณมากค่ะท่าน” วิลโลว์ล้อด้วยสำเนียงคนใต้ “ยินดีค่ะ” เธอพูดต่อทำให้ออซยิ้ม
      ********************
      “ดีจังเลยนะ” บัฟฟี่พูดขึ้น เธอรู้สึกว่ามือของแองเจิลลูบไล้บนแผ่นหลังเธอ ศีรษะเธออิงแอบอยู่บนแผ่นอกเขาที่ที่เธอได้ยินเสียงหัวใจเขาเต้น
      “อะไรเหรอ, ที่รัก” แองเจิลถามจุมพิตหน้าผากของเธอเบาๆ
      “ที่ได้อยู่กับคุณ” เธอเงยหน้าขึ้นมาสบตาเขาที่เธอรู้สึกชอบแววตาที่จริงจังของเขาในระยะเวลาอันสั้น “มีเพื่อนๆของเราอยู่ด้วยกัน” เธอเสริม
      “ผมก็อยากเห็นด้วยมากกว่านี้” แองเจิลตอบ “แต่พรุ่งนี้ผมก็ต้องกลับบ้านแล้ว” เขาเข้าเรื่อง  ไม่อยากคิดถึงมันเท่าไร  พรุ่งนี้ครอบครัวของพวกเขาจะกลับกันมาแล้วและนั้นหมายถึงแองเจิลต้องกลับบ้านและบัฟฟี่ต้องอยู่ตามลำพังคนเดียวตอนกลางคืนโดยปราศจากเขา
      “ฉันไม่อยากให้คุณกลับเลย” บัฟฟี่ยอมรับเบาๆ แองเจิลส่งยิ้มให้เธอ “บ้านเราอยู่ไกลกันเกินไป” เธอกล่าว
      แองเจิลจูบหน้าผากเธออีกและไล่ลงมาจนถึงริมฝีปากบางๆของเธอ “ผมจะมารับคุณไปเรียนทุกเช้า  โทรคุยกับคุณไม่ว่าเวลาไหนที่คุณต้องการผมหรือผมต้องการ” เขาให้สัญญา
      “ดีคะ” บัฟฟี่พูดอย่างมีความสุข  ขณะที่แองเจิลและเธอยังคงตระกองกอดกันถึงแม้จังหวะเพลงจะเร็วขึ้นแต่ทั้งสองก็ยังคงเต้นรำกันอย่างช้าๆไม่อยากปล่อยให้เวลานี้ล่วงเลยผ่านไป
      ********************
      วันเสาร์:
      “แองเจิล ตื่นได้แล้ว” บัฟฟี่หาวไปพูดไป  เธอขยับออกจากอ้อมแขนอันอบอุ่นของแองเจิล
      “ไม่” แองเจิลพึมพำพยายามดึงเธอกลับสู่อ้อมกอดของเขา “มันเป็นวันเสาร์, เรานอนตื่นสายได้” เขาบ่นดึงผ้าห่มสีม่วงมาคลุมตัวพวกเขาทั้งคู่
      “แองเจิล, ที่รัก  ไม่ใช่ว่าฉันไม่ชอบอยู่ในอ้อมกอดของคุณทั้งวันนะ  แต่พ่อแม่เราจะกลับมาในอีกไม่ถึงชั่วโมงแล้ว” เธอพูดอย่างยิ้มแย้ม
      “อะไรนะ” แองเจิลตกใจลืมตาตื่นขึ้นทันที “พวกเขายังไม่ควรถึงบ้านจนกว่าจะบ่าย 4 โมงนะ” เขาลุกขึ้นนั่ง
      “นี่มันบ่าย 3 แล้ว” บัฟฟี่ตอบอย่างขำๆ “เราแทบจะนอนหลับกันทั้งวันแล้วนะ” เธอยื่นนาฬิกาให้เขาดู “ถ้าเราไม่ลุกขึ้นและทำความสะอาดสักหน่อย  พ่อแม่เรากลับมาถึงคงหัวใจวายกับสิ่งที่เราทิ้งไว้ข้างล่างเมื่อคืนนี้แน่” เธอให้เหตุผลเมื่อเธอผละหนีแองเจิลเพื่อเธอจะได้ลุกขึ้น
      “ผมต้องทำด้วยเหรอ” แองเจิลทำเสียงเหมือนเด็กๆ  อ้อนเธอด้วยรอยยิ้มเมื่อเธอก้มมองหน้าเขา
      “ก็ใช่สิ” บัฟฟี่ตอบยื่นมือมาฉุดเขา “ฉันต้องจัดเตียง” เธอบอก “เราทำมันเละเมื่อคืน” เธอพูดเล่นๆ “ฉันไม่ได้บ่นนะ” เธอเสริม
      “ไม่..ทำอย่างนี้ดีกว่า” แองเจิลคำรามหยอกเล่น  เขาลุกขึ้นจากเตียงและดึงเธอมาหาเขา “ถ้าผมจำไม่ผิดคุณนั้นแหละที่ยังไม่อยากนอนและคุณเป็นคนชวนผมมานอนกับคุณบนเตียง” เขายั่ว
      “เมื่อคืนตอนที่เราออกมาจากเดอะพิทมันมีพายุ” บัฟฟี่เริ่มแก้ตัว “ฉันไม่ชอบฟ้าร้องฟ้าผ่ามันน่ากลัว” เธองอนเล็กน้อย “มีคุณคอยกอดฉันทำให้ฉันรู้สึกปลอดภัย” เธอพูดต่อ
      พอทั้งคู่กำลังจะจุมพิตกันก็มีเสียงประตูเปิดจากข้างล่างและมีเสียงเรียกตามมา “บัฟฟี่, แองเจิล” เสียงแม่ของบัฟฟี่ตะโกนขึ้นมาข้างบน “อยู่บ้านกันรึเปล่า” เธอถาม
      “พวกเขากลับมาแล้ว” บัฟฟี่กระซิบพร้อมจูบแองเจิลช้าๆและนิ่มนวล
      “บัฟฟี่, แองเจิล” คุณนายซัมเมอร์ตะโกนอีกครั้ง
      “กำลังไปแล้วคะแม่” บัฟฟี่ตอบผละออกจากแองเจิลที่ยื่นยิ้มหน้าบานอยู่
      “พี่สองคนยังมีชีวิตอยู่กันรึเปล่า” ดอว์นน้องสาวของบัฟฟี่ตะโกนเรียก
      “ยังอยู่ดี” แองเจิลตอบบ้างพรางจูงมือบัฟฟี่พาเดินออกมาจากห้องของเธอ  ทั้งสองยิ้มให้กับครอบครัวของเขาเมื่อพวกเขาเดินลงมายังห้องนั่งเล่นซึ่งทั้งหมดกำลังนั่งคุยกันอยู่
      “ว่าไง” คุณนายโอคอนเนลพูดขึ้นมาเมื่อเธอเห็นทั้ง 2 คนเดินเข้ามาในห้อง “การสอบเป็นยังไงกันบ้าง” เธอถาม  ใบหน้าของเธอมีแต่รอยยิ้มเมื่อเธอสังเกตเห็นลูกชายเธอกุมมือบัฟฟี่อยู่
      “มันผ่านไปด้วยดีค่ะ” บัฟฟี่ตอบรู้สึกว่าตัวเองถูกแองเจิลดึงให้นั่งลงมาบนตักเขา “การเดินทางเป็นไงบ้างค่ะ” เธอถามนั่งพิงแองเจิลอย่างสบายอามรณ์
      “เกิดอะไรขึ้นเนี่ย” เคที่น้องสาวแองเจิลมองหน้าพี่ชายของเธอและบัฟฟี่ด้วยความแปลกใจ
      “เธอหมายถึงอะไร” แองเจิลถามยิ้มๆ
      “นายกอดพี่สาวฉัน” ดอว์นเอ่ยถึงสิ่งที่เธอเห็นอย่างเด่นชัด “และเธอยิ้มหน้าบานยังกับไปกินยาโด๊ปมางั้นแหละ”
      “เรามีอาทิตย์ที่น่าจดจำ” บัฟฟี่ตอบธรรมดา “พวกเราทำข้อสอบได้เยี่ยม  และเราค้นพบอะไรบางอย่าง” เธอพูดต่อและหันไปยิ้มกับแองเจิล
      “อย่างเช่น” คุณซัมเมอร์ถามลูกสาวผมทองของเขา
      “พบว่าเราไม่ได้เกลียดหน้ากัน” แองเจิลอธิบาย
      “จริงๆแล้วเราห่วงใยกันและกัน” บัฟฟี่เสริม
      “ห่วงใยกันเสียจน…เรารักกัน” แองเจิลจบประโยคอย่างง่ายๆ
      “ฉันว่าแล้ว” คุณนายซัมเมอร์ยิ้มกว้างให้ลูกสาวและแองเจิล “มารี พวกเราคิดถูก” เธอพูดกับเพื่อนรัก
      “ฉันรู้ว่าเราถูก, จอยซ์” คุณนายโอคอนเนลเห็นพ้อง
      “พวกคุณคิดอะไรถูกเหรอ” คุณโอคอนเนลถามอย่างสงสัย  จ้องหน้าภรรยาร่างเล็กของเขาอย่างรอคำตอบ
      “ไม่เคยมีคนคู่ไหนบอกว่าพวกเขาทนมองหน้าอีกฝ่ายไม่ได้หรือทะเลาะกันจนแทบฆ่ากันตายอย่างที่บัฟฟี่และแองเจิลทำ  นอกจากว่ามีอะไรอยู่เบื้องหลังการกระทำและคำพูดพวกนั้น” คุณนายโอคอนเนลอธิบายให้สามีฟัง “และสิ่งที่อยู่เบื้องหลังก็คือทั้งคู่ชอบพอกันและไม่รู้จะบอกอีกฝ่ายอย่างไร”
      “แม่รู้เรื่องอย่างนี้ได้ยังไง” แองเจิลถามแม่ของเขาอย่างประหลาดใจ
      “ก็เพราะความเป็นแม่นะสิ, แองเจิล” คุณนายซัมเมอร์ตอบแทนเพื่อน “เรารู้อะไรมากกว่าที่พวกเธอคิดนะ”
      “ว่าแล้วก็” คุณนายโอคอนเนลมองไปรอบๆห้อง “แองเจิล  แม่แน่ใจว่าเธอมีส่วนทำให้ห้องเลอะ  ทำไมเธอไม่เก็บกวาดซะระหว่างที่แม่และจอยซ์ตัดสินใจว่าเราควรจะทานอาหารค่ำอะไรดี” เธอบอกลูกชายของเธอ
      “ผมไม่ทำ…” แองเจิลจะพูด
      “แกต้องทำ” คุณนายโอคอนเนลขัด “รีบทำซะ” เธอสั่ง
      “บัฟฟี่, เธอด้วย” คุณนายซัมเมอร์บอกลูกสาวที่กำลังหัวเราะแฟนหนุ่มของเธอ
      “ก็ได้ค่ะ” บัฟฟี่พูดพรางลุกขึ้นจากตักของแองเจิล
      “แล้วเล่ารายละเอียดให้ฉันฟังด้วยล่ะ” ดอว์นบอกพี่สาวก่อนจะตามเคที่และพวกแม่ๆเข้าไปในครัว
      “ฉันด้วย” เคที่พูดกับแองเจิล
      “แล้วเราจะเล่า” บัฟฟี่ส่งยิ้มมีเลศนัยกับแองเจิล “ไปช่วยแม่ทำกับข้าวแล้วหลังจากนั้นเธอจะได้เล่าเหตุการณ์ตอนไปเที่ยวให้ฉันฟัง” เธอบอกน้องสาว
      “ได้เลย” ดอว์นพูดและเดินเข้าครัวไป
      “สมบูรณ์แบบ” แองเจิลพูดเมื่อพวกน้องๆเดินพ้นสายตาไป
      “อะไรเหรอ” บัฟฟี่ถามก่อนจะรู้สึกว่าแองเจิลดึงเธอไปหาเขา  และเขาค่อยๆก้มลงมาจุมพิตริมฝีปากเธออย่างแผ่วเบา “อ๋อ..ไอ้นี่เอง” เธอสูดลมหายใจเมื่อผละออก “คุณรู้ไหมอะไรทำให้มันดีกว่านี้” เธอเกี้ยว
      “อะไรล่ะ” เขาเล่นตามเธอ
      “นี่ไง” บัฟฟี่ตอบเบาๆ  เธอโอบแขนรอบคอแองเจิลดึงเขาเข้ามาเพื่อจุมพิตอีกครั้ง
      “ฉันรักคุณ” บัฟฟี่พูดเบาๆระหว่างการจูบ
      “ผมรักคุณ” แองเจิลพูด “ตลอดไป”
      “ใช่..ตลอดไป” บัฟฟี่เห็นด้วยอย่างมีความสุข ‘เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป  ไม่ว่าใครจะพูดยังไงหรือทำสิ่งใด  เราก็ยังคงหาหนทางเพื่อเราจะได้อยู่ด้วยกันเสมอ’
      ‘ชีวิตของผมเป็นของคุณ, บัฟฟี่’ แองเจิลคิดขณะที่บัฟฟี่อยู่ในอ้อมกอดของเขา ‘ไม่มีใครจะมาแทนที่คุณได้  ผมรักคุณเพียงคนเดียวตราบชีวิตนี้จะหาไม่’

      จบแล้วจ้า

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×