คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : [ 1 ] คนท่ีนายก็รู้ว่าใคร
H A T E T H A T I ❤ Y O U
อีกยี่สิบชั่วโมงข้างหน้า รถไฟด่วนฮอกวอตส์จะเคลื่อนตัวออกจากชานชาลาก้าวเศษสามส่วนสี่ และปิดเทอมหน้าร้อนของโทมัสจะสิ้นสุดลง พร้อมกันกับที่ปีสามในฮอกวอตส์ของเขาจะเริ่มต้นขึ้น
สถาปัตยกรรมอังกฤษที่ชวนให้นึกถึงปราสาทฮอกวอตส์ อย่างหอนาฬิกาบิ๊กเบน ณ กรุงลอนดอนกำลังชี้บอกเวลาบ่ายสามโมง แต่เวลาในมหานครนิวยอร์คนั้นช้ากว่าราวๆ ห้าชั่วโมง หน้าปัดนาฬิกาของเหล่ามักเกิ้ลที่เดินขวักไขว่อยู่ในไทม์ สแควร์จึงเป็นเวลาสิบโมงเช้า
เหนือเกาะแมนฮัตตันขึ้นไปหลายสิบชั้น ในห้องเพนท์เฮาส์สุดหรู บนเตียงคิงไซส์หนานุ่มอุ่นสบายที่ปูด้วยผ้าไหมแคชเมียร์สีดำ เด็กหนุ่มคนนึงกำลังนอนหลับอยู่ จนกระทั่งแสงที่ส่องเข้าตาปลุกเขาให้ตื่น
โทมัสผงกหัวขึ้นมาหยีตาใส่แดดอยู่พักหนึ่ง ก่อนวิวอันสวยงามของแมนฮัตตันที่หมุนติ้วจะทำให้เขาต้องทิ้งตัวลงนอน ผมยุ่งเหยิง ตาปรือๆ และสภาพพึ่งตื่นนอนหมาดๆ ของเขาตอนนี้อันตรายอย่างยิ่ง เพราะมันอาจทำให้สาวๆ ครึ่งแมนฮัตตันเลือดกำเดาไหลหมดตัวได้ โทมัสใช้มือลูบหน้าตัวเอง และควานหาไอโฟนไปทั่วเตียง ก่อนจะเจอมันซุกอยู่ใต้หมอนใบหนึ่งในที่สุด และหยิบมันขึ้นมาดูเวลา
10 : 18
เด็กหนุ่มกระชากผ้าห่มออกจากตัวและผุดลุกขึ้นนั่ง ลืมอาการเมาค้างไปเสียสนิท เขาควรจะตื่นเดี๋ยวนี้ อันที่จริงเขาควรตื่นก่อนหน้านี้นานแล้วด้วยซ้ำ เที่ยวบินไปลอนดอนของเขากำลังจะขึ้นสู่น่านฟ้าในอีกสิบนาที แต่เพราะปาร์ตี้อำลาเมื่อคืนมันส์สุดเหวี่ยง และโทมัสก็กรอกคอตัวเองด้วยน้ำทุกแก้วที่มีแอลกอฮอล์ แถมยังพี้เข้าไปซะทุกอย่างที่เป็นผง ตอนนี้เขาจึงอยู่ในสถานะ : ไม่พร้อมจะตื่นแบบสุดๆ
โทมัส โอไบรอัน ตัดสินใจพาร่างเซ็กซี่ขยี้ใจของตัวเองล้มลงนอนต่อ
ทว่าอีกสี่ชั่วโมงถัดมา เสียงกรอกแกรกตรงหน้าต่างก็ปลุกเขาอีกครั้ง นกฮูกจากพรอเฟ็ต กำลังพยายามใช้จงอยปากเปิดหน้าต่าง ไม่นานเจ้านกฮูกสีน้ำตาลตัวใหญ่ก็ทำสำเร็จ มันบินตรงมาจิกเด็กหนุ่มที่พยายามจะนอนต่ออย่างเอาเป็นเอาตาย จนโทมัสต้องยอมลุกขึ้นนั่งในที่สุดเมื่อมันจิกเขาตรงเปลือกตา
"ลูกสนิชเป็นพยานเหอะ! พวกแกนี่ตื๊อเป็นบ้า" โทมัสมองมันอย่างโกรธๆ "ถามจริง เคยมีใครเบี้ยวค่าหนังสือพิมพ์พรอเฟ็ตได้สำเร็จบ้างมะ"
นกฮูกของพรอเฟ็ตยังคงกระพือปีกใส่อย่างข่มขวัญและระดมจิกเขาต่อไป โทมัสปล่อยให้มันทำอย่างนั้นขณะฝังหน้าลงฝ่ามือตัวเองพักหนึ่งเพื่อรับมือกับความมึนหัว พอรู้สึกดีนิดหน่อยก็เดินไปที่ตู้เสื้อผ้า หมุนรหัสเปิดเซฟเล็กๆ ข้างในนั้นและหยิบถุงหนังมังกรออกมา โทมัสงัวเงียแทบลืมตาไม่ขึ้นขณะที่ควานหาเหรียญบรอนซ์คนุตซ์ไปทั่วถุง ซึ่งไม่ใช่งานง่ายเลยเพราะเหรียญทองแดงเล็กๆ พวกนั้นถูกทองแกลเลียนใหญ่ๆ กลบหมด เขานึกสบถสาบานในใจว่า ถ้าจบจากฮอกวอตส์และมีโอกาสได้ไปทำงานที่กริงกอตส์เมื่อไหร่ เขาจะต้องแนะนำพวกก็อบลินให้รู้จักกับระบบบัตรเครดิตของมักเกิ้ลให้จงได้
ในที่สุดโทมัสก็หาเหรียญบรอนซ์คนุตส์ได้มากพอสำหรับค่าหนังสือพิมพ์ เขาหย่อนมันใส่ถุงที่ผูกไว้ตรงขา เจ้านกฮูกหยุดจิกเขา ก่อนจะทิ้งพรอเฟ็ตลงใส่หน้าตัก และบินจากไป
โทมัสปิดกระจกตามหลังมัน เขาเดินมานั่งที่เตียงแบบงงๆ กับชีวิตอยู่พักหนึ่งและตัดสินใจส่งข้อความหาเทเรซ่า
ตอนนี้เธออยู่ไหน ใกล้ๆ ร้านสะดวกซื้อรึเปล่า
ฉันอยู่ในแฮร์รอดส์ ห้างมั-ก-เ-กิ้-ล กำลังกินไอศกรีมเพิ่มแคลลอรี่ให้ตัวเองหลังมื้อเย็น
โทมัสยิ้ม เขาแทบจะเห็นภาพเธอกลอกตา พร้อมชูสองนิ้วเป็นเครื่องหมายคำพูดเพื่อล้อเลียนตรงคำว่า 'มักเกิ้ล' อย่างหน่ายๆ มันเป็นเหมือนโจ๊กส่วนตัวของพวกเขาสองคน เพราะทั้งคู่ต่างก็ไม่ได้มาจากครอบครัวผู้วิเศษ และต้องผ่านช่วงเวลาห่วยๆ ที่ฮอกวอตส์มาเหมือนกัน แค่เพราะเหตุผลที่ว่าเกิดมาเป็นมักเกิ้ล มันห่วยระดับที่การแกล้งกันของวัยรุ่นในไฮสคูลน่ะดูจืดๆ ไปเลย
เยี่ยม ช่วยอะไรฉันอย่างสิ
อะไร
ซื้อยาแก้แฮงค์ทุกอย่างที่มีในลอนดอนแล้วส่งมันมากับนกฮูกของเธอที
อะไรกันเนี่ย ทอม อย่าบอกฉันนะว่านายยังนอนเมาค้างอยู่ในเพนท์เฮาส์ของนายใจกลางนิวยอร์คน่ะ
ก็ประมาณนั้นล่ะ แต่ในเมื่อเธอห้าม งั้นฉันจะบอกเธอว่าตอนนี้ฉันนอนอุ่นสบายอยู่บนเตียงสี่เสาในหอกริฟฟินดอร์ และกำลังอ่านตำราสมุนไพรวิเศษสองพันชนิด เขียนโดย ศาสตราจารย์ เจ. แดชเนอร์ ดีมะ?
เทเรซ่าส่งภาพเซลฟี่ที่เธอกลอกตาใส่กล้องมาให้ ตามด้วยข้อความว่า
ดีเกินจะเป็นจริงน่ะสิ ครั้งนี้นายติดหนี้ฉันหนนึงแล้วนะ
ยังไงก็ได้ เอาตามที่เธอสบายใจเลย คนสวย
โทมัสเทน้ำเย็นจัดให้ตัวเองระหว่างรอรับของจากเทเรซ่า เขาจิบมันและหลับตาปี๋เมื่อความเย็นแล่นจี๊ดขึ้นจนปวดสมอง ก่อนจะหยิบพรอเฟ็ตมาอ่านด้วยวิธีเดิมๆ ประจำตัว คือพลิกผ่านๆ หนึ่งรอบหาข่าวที่น่าสนใจ ก่อนจะเปิดไปดูหน้าข่าวกีฬา ซึ่งอยู่ติดกับหน้าข่าวสังคมผู้วิเศษ ด้วยเหตุผลบางอย่าง สายตาของโทมัสมักจะชะงักอยู่ที่หน้าข่าวสังคมนั้น ทั้งที่เขาไม่ได้มีรสนิยมชมชอบเรื่องซุบซิบเลย และวันนี้ก็เช่นกัน
รูปเด่นเป็นสง่าของวัยรุ่นชายที่มีใบหน้าแบบเอเชียลงใหญ่หราอยู่กลางหน้า เขายิ้มนิดๆ และกำลังโอบไหล่แม่ของเขา ซึ่งเป็นผู้หญิงเอเชียที่ยังดูสาวและสวยมาก
ไอ้เบื๊อกมินโฮอีกแล้ว
โทมัสเบ้ปาก หนึ่งอาทิตย์เขาจะต้องเห็นหน้าปลวกๆ ของหมอนี่ในพรอเฟ็ต ไม่สองก็สามครั้งเป็นอย่างต่ำ จนรู้สึกเหมืิอนว่าไม่ได้ห่างจากอีกฝ่ายเลยตลอดหน้าร้อน มินโฮมักจะเสนอหน้าอยู่ในข่าวสังคมเสมอ ส่วนใหญ่แล้วรูปที่ลงก็จะเป็นรูปเขากับแม่จากงานเลี้ยงสมาคมผู้วิเศษ(และกระเป๋าหนัก) หรือไม่ก็งานการกุศลของสโมสรต่างๆ
ทุกครั้งที่ไปงานแบบนี้ มินโฮจะสวมสูทหรูเนี้ยบ และผมสีดำยุ่งๆ ของเขาที่โทมัสรู้จักดีจะถูกหวีจนเรียบติดหนังหัว ดูเหมือนคุณชายเลือดบริสุทธิ์ห่วยแตก แต่ก็นั่นแหละ โทมัสรู้ดีว่ามินโฮจะเปล่งประกายรัศมีเลือดบริสุทธิ์ออกมาและยังคงความเป็นผู้ดีไว้ได้ทุกกระเบียดนิ้ว ต่อให้เขาสวมเสื้อผ้ามักเกิ้ลมือสองห่วยๆ ก็ตาม และนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้โทมัสทนเขาแทบไม่ได้ เด็กสาวบ้านฮัฟเฟิลพัฟคนหนึ่งที่โทมัสเดินผ่าน ถึงกับถอนใจและเพ้อออกมาขณะจ้องรูปในแวดวงข่าวสังคมของมินโฮว่า เขาเนี่ยช่างหล่อเหลาเหลือเกินนะ หล่อเสียจนหัวใจฉันทรมานไปหมดแล้ว ใส่หูเพื่อนสาวด้วยสายตาล่องลอยและน้ำเสียงเพ้อฝัน โทมัสได้แต่ทำหน้าสยองอย่างไม่เห็นด้วย ต้องพูดว่าหมอนั่นดูงี่เง่าและชวนคลื่นไส้อีกสามเท่าต่างหากถึงจะถูกต้อง
เดี๋ยวนะ นายดูอะไรอยู่เนี่ย โทมัส หมอนี่ไม่มีค่าพอให้ใส่ใจหรอกน่า
โทมัสสะบัดหัวเผื่อว่าจะยังเมาผงขาว และพลิกเปิดไปหน้าข่าวกีฬาอย่างที่ตั้งใจไว้ โทมัสจะตัดข่าวควิดดิชเก็บไว้เสมอ มันเป็นเหตุผลหลักที่เขาบอกรับพรอเฟ็ต
ถ้าจะมีอะไรที่โทมัสคลั่งไคล้ได้มากกว่ากัญชาและยาผง ก็คงจะเป็นควิดดิชเนี่ยแหละ ปกติแล้วโทมัสจะเก็บเทคนิคการเล่น ข่าวสารที่น่าสนใจ หรือไม่ก็รูปนักควิดดิชดังๆ แต่ครั้งนี้เขากวาดตาหาอัลบี อัลบียังไม่นับว่าดังเท่าไหร่นัก แต่จะเรียกว่าดับก็ไม่ถูก เขาเป็นนักเรียนรุ่นพี่ที่จบจากฮอกวอตส์ปีที่แล้วและกำลังไต่เต้าไปสู่ทีมชาติอังกฤษ เหตุผลเดียวที่เขาตัดรูปหมอนี่เก็บไว้ คือเพื่อทำเป็นของขวัญให้นิวท์ คีปเปอร์ของเรเวนคลอ ผู้ซึ่งยอมสอนควิดดิชให้แบบหนักพิเศษและรับเขาไปกินนอนด้วยที่บ้านถึงสองอาทิตย์ โดยไม่ยอมรับแม้แต่เหรียญบรอนซ์คนุตส์ครึ่งเหรียญ
โทมัสบ้านิวท์ขึ้นสมองและอยากจะตอบแทน เขาจึงตัดสินใจทำอัลบั้มรวมรูปอัลบีให้ แม้จะยังไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมนิวท์ถึงได้คลั่งหมอนี่นัก อัลบีมีเทคนิคการป้องกันประตูที่มีสเน่ห์น่าสนใจก็จริง แต่บางทีเขาก็ควบคุมไม้กวาดได้ไม่ดี แถมตำแหน่งคีปเปอร์ของเขาก็ไม่น่าดึงดูดเลยสักนิด โทมัสคลั่งสนิช และฝันอยากจะครองตำแหน่งซีกเกอร์ของกริฟฟินดอร์มากกว่า
หลังการฝึกสุดหิน นิวท์ก็ยืนยันว่าปีนี้เสื้อซีกเกอร์ของกริฟฟินดอร์จะต้องปักชื่อโอไบรอันแน่ แต่เขาก็ยังหวั่นๆ อยู่ดี ไม่อยากคิดเลยว่าไอ้ปลวกเลือดบริสุทธิ์มันจะหัวเราะเยาะเขาแค่ไหน ถ้าเขาพลาดตำแหน่งซีกเกอร์อีกครั้ง โทมัสยังจำการทดสอบที่ล้มเหลวไม่เป็นท่าของปีที่แล้วได้ รอยยิ้มเยาะนิ่งๆ ที่หมอนั่นส่งมามันน่าเจ็บใจมากพอๆ กับการขึ้นเตียงกับนางแบบวิคตอเรีย ซีเคร็ทแล้วโดนพวกเธอหัวเราะเยาะขนาดไอ้นั่นเลย
สกอร์ช นกฮูกของเทเรซ่ากระพือปีกพยุงตัวรออยู่ข้างนอก นกฮูกปกติไม่มีความสามารถในการเปิดกระจกเองเหมือนอย่างนกฮูกจอมตื๊อของพรอเฟ็ต โทมัสจึงวางหนังสือพิมพ์ลงและเดินไปเปิดหน้าต่างให้มัน มันโฉบลงเหนือเตียงเขาและทิ้งห่อสีน้ำตาลลงไปอย่างนุ่มนวล จิกทักทายโทมัสเบาๆ หนึ่งทีที่ข้างหู ก่อนจะบินไปเกาะอยู่บนขอบทีวีสีเงินบางเฉียบ
เขาแทบจะคว้าตัวเทเรซ่ามาจูบได้เลยเมื่อแกะห่อออก และเห็นของท่ีเธอส่งมา
ฉันรักเธอจริงๆ เทรซ
โทมัสหยิบไอโฟนขึ้นมาพิมพ์ข้อความนั้นส่งไป ก่อนจะโยนมันลงบนเตียงตามเดิม
เทเรซ่าส่งขวดน้ำยาสีน้ำเงินใสมาให้ แม้จะไม่ได้ตั้งใจเรียนปรุงยามากนัก แต่โทมัสก็พอจำได้ว่ามันคือยาถอนพิษสารพัดชนิด ซึ่งไม่ใช่ยาที่หาได้ทั่วไปตามท้องตลาด เทเรซ่าคงจะปรุงมันขึ้นมาเองในช่วงหน้าร้อน เธอคลั่งไคล้การปรุงยามากพอๆ กับที่พวกเด็กผู้ชายชอบควิดดิช เขาส่งข้อความไปหาเธอก็เพราะแบบนี้ รู้ดีว่าเธอจะต้องส่งอะไรที่เจ๋งกว่าเครื่องดื่นแก้แฮงค์ของพวกมักเกิ้ลมา โทมัสกระดกหมดขวดในรวดเดียว แล้วก็รู้สึกสมองปลอดโปร่งขึ้นทันตา
เด็กหนุ่มหยิบไอโฟนขึ้นมา และโทรไปหาเลขาของพ่อ
"เฮ้ เซรีน่า ขอโทษที แต่ผมไปไม่ทันเที่ยวบินที่คุณจองให้ หาตั๋วใหม่ให้ผมด้วย ผมต้องการขึ้นเครื่องภายในสี่ชั่วโมงนะ"
ปลายสายกระแทกเสียงตอบกลับมาอย่างไม่พอใจ และบ่นเรื่องหาตั๋วเครื่องบินกระทันหันแบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ โทมัสตัดสายทิ้งตั้งแต่กลางประโยค นักเรียนทุกคนต้องไปชานชาลาเก้าเศษสามส่วนสี่ตอนสิบเอ็ดโมงในวันที่ 1 กันยายนโดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น และตอนนี้เขาก็ยังไม่เหยียบแผ่นดินอังกฤษเลยด้วยซ้ำ ต้องใช้เวลานั่งเครื่องเกือบเจ็ดชั่วโมงกว่าจะถึงลอนดอน และอีกไม่ถึงสิบหกชั่วโมง รถไฟด่วนฮอกวอตส์ก็จะออกจากสถานีแล้ว เขาคงจะไปถึงคิงครอสแบบยิ่งกว่าฉิวเฉียดแน่ แต่เอาเหอะ อย่างน้อยก็ถึงล่ะ
โทมัสกลับไปสนใจพรอเฟ็ตอีกครั้ง วันนี้มีข่าวมังกรบุกถิ่นทีมชาติอังกฤษ ดูเหมือนคู่แข่งจะส่งมันมาป่วนการฝึกซ้อมและทำลายสนาม กระทรวงเวทมนต์อังกฤษจะเข้ามาสอบสวนเรื่องนี้ต่อไปเพราะมันอาจกลายเป็นปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้ มีรูปอัลบีขี่ไม้กวาดปลายติดไฟหนีมังกรอยู่ โทมัสชั่งใจว่านิวท์จะอยากเห็นรูปนี้รึเปล่า แต่แล้วก็ยักไหล่และตัดแปะมันลงไป จากนั้นก็โยนอัลบั้มรวมรูปลงหีบฮอกวอตส์ โดยตั้งใจว่าจะอ้อนเทเรซ่าให้ช่วยใช้คาถาห่อของขวัญให้ทีหลัง
ต่อจากนั้น โทมัสก็หยิบไอโฟนขึ้นมาดู เขาไล่ตอบเพื่อนๆ ที่ส่งข้อความมาบอกลา และปฏิเสธเพื่อนที่บอกว่าจะไปส่งเขาที่สนามบิน ผู้หญิงสองคนที่เขาคงจะคั่วด้วยในปาร์ตี้เมื่อคืนแต่แทบจำไม่ได้ตื๊ออยู่นาน ในที่สุดโทมัสก็ตัดสินใจบล็อคพวกเธอซะ
เขามาถึงรายชื่อสุดท้าย [ คนที่นายก็รู้ว่าใคร ]
ฝันดีนะ
นายก็เหมือนกัน
เป็นข้อความสุดท้ายในหน้าต่างแชทนั้น คราวนี้เขาลังเลที่จะพิมพ์ข้อความลงไป
เฮ้ ตื่นรึยัง
โทมัสรอแต่ไม่มีข้อความตอบกลับ
ฉันจะติดต่อนายไม่ได้สักพักนะ สักพักใหญ่ๆ เลยล่ะ
ยังคงเงียบ
ฉันจะต้องผ่าตัดสมองน่ะ แล้วก็ต้องกายภาพบำบัดและพักฟื้นในโรงพยาบาลอีก มีอะไรให้ทำเยอะแยะ รักษาสุขภาพด้วยนะ ไว้คุยกันใหม่
โทมัสจำข้อความแรกที่เขาได้รับจาก คนที่นายก็รู้ว่าใคร ไม่ได้แล้ว รู้ตัวอีกทีพวกเขาก็แชทเล่นกันเหมือนมันเป็นเรื่องปกติ ทั้งๆ ที่ต่างคนต่างก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร
แล้วอยู่ๆ โทมัสก็รู้สึกแย่ขึ้นมาที่พรุ่งนี้เขาจะต้องไปฮอกวอตส์ ทั้งที่แทบจะนับถอยหลังรอวันกลับโรงเรียนมาตลอดหน้าร้อน โทมัสพบว่ามันยากกับการเป็นลูกมักเกิ้ล มันเหมือนเขายืนอยู่กึ่งกลางระหว่างโลกสองโลกที่ไม่มีวันจะมาบรรจบกัน เขามีความสุขในฮอกวอตส์ก็จริง แต่บางครั้งมันก็ห่วยที่ต้องทิ้งชีวิตธรรมดาของตัวเองไว้เบื้องหลัง เขาคิดถึงอะไรหลายๆ อย่างที่นี่ เพื่อน เบอร์เกอร์คิง คลับ หนังโป๊ ผงขาว
โทมัสต้องเจอปัญหาที่เด็กผู้วิเศษไม่มีวันเจอ เขาต้องโกหกพวกมักเกิ้ลที่เขารู้จักว่าเขาหายตัวไปไหนนานๆ ติดต่อกันหลายเดือน เมื่อโทมัสบอกเพื่อนๆ ว่าพ่อส่งเขาไปอบรมเป็นผู้ดีที่โรงเรียนประจำในอังกฤษ เพื่อนๆ ของเขาก็ทำใจรับไม่ได้ พวกนั้นเลือกที่จะปฏิเสธความจริง และปล่อยข่าวว่าโทมัสถูกส่งไปโรงเรียนประจำเพราะถูกจับได้ว่าอึ๊บกับครูใหญ่ในโรงยิมแทน (ซึ่งนั่นก็เป็นความจริงครึ่งหนึ่ง เพราะเขาเคยอึ๊บกับครูใหญ่จริงๆ แค่ไม่ใช่ในโรงยิม) นายโอไบรอัน พ่อของเขาไม่พอใจอย่างมากที่อยู่ๆ ลูกชายก็เกิดจะเป็นพ่อมดขึ้นมาเอาตอนสิบสามขวบ เพราะนั่นหมายความธุรกิจโรงแรมที่หวังจะให้โทมัสบริหารต้องตกไปอยู่ในมือของคนอื่น และเนื่องจากเครื่องมือสื่อสารของมักเกิ้ลไม่ทำงานในฮอกวอตส์ เขาจึงแทบไม่ได้เห็นหน้าแม่เลย
หน้าจอไอโฟนสว่างวาบ โทมัสสไลด์มันเปิดอ่าน
ฉันหาตั๋วให้คุณได้แล้วค่ะ เครื่องออกเวลา บ่ายสี่โมงเย็น ลิโม่จะไปรับคุณก่อนหน้านั้นสามสิบนาทีเพื่อไปที่สนามบิน
โทมัสยิ้มอย่างพอใจและโอนเงินเข้าบัญชีเธอห้าร้อยดอลล่าร์แทนคำขอบคุณ
จากนั้นเขาก็เริ่มต้นรวบรวมของอื่นๆ ที่ยังไม่ได้เก็บลงในหีบ ตรวจดูว่าตัวเองไม่ได้ลืมเอาแผ่นบลูเรย์และเครื่องเล่นไป ศาสตราจารย์เพจ อาจารย์ใหญ่ของฮอกวอตส์ให้สัญญาว่าจะถอนเวทมนต์ออกจากห้องชมรมเพื่อให้อุปกรณ์โฮมเธียเตอร์ของมักเกิ้ลทำงานได้ เพื่อให้การจัดตั้งชมรมดูหนังสำหรับมักเกิ้ลศึกษาเป็นไปได้ โทมัสจึงกว้านซื้อแผ่นหนังบลูเรย์และเรียลลิตี้เกี่ยวกับการทำอาหารไปฝากซิกกี้ เพื่อนซี้ที่บ้าคลั่งการทำอาหารซะจนยืนยันให้ทุกคนเรียกเขาว่าฟรายแพน
โทมัสถอดเสื้อผ้าออจนหมดและเอาผ้าเช็ดตัวพาดไหล่ เขากำลังจะไปอาบน้ำตอนที่เห็นว่าสกอร์ชยังอยู่ตรงทีวี
“เฮ้ นึกว่ากลับไปแล้วซะอีก ไม่อยากไปหาเทรซรึไง อยากจะไปพร้อมฉันเหรอ? งั้นก็เข้ามาอยู่กับเดนเวอร์ก็ได้"
โทมัสเปิดกรงสีทองออก เจ้านกฮูกสีน้ำตาลแซมขาวส่งเสียงแหลมอย่างมีความสุขราวกับมันรอให้โทมัสชวนอยู่แล้ว ก่อนจะบินเข้าไปเบียดอยู่ในกรงกับเดนเวอร์ นกฮูกขนสีขาวบริสุทธิ์ของโทมัส จากนั้นทั้งสองตัวก็ไซร้ขนให้กันและกัน
“อะไรกันเนี่ย พวกนายทำตัวยังกับเป็นแฟนกันงั้นแหละ"
โทมัสแซวขำๆ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ คนอื่นอาจจะมองว่าเขาบ้าที่พูดกับพวกมัน ยังกับว่านกฮูกจะเข้าใจภาษาคน แต่โทมัสรู้ดีว่ามันเข้าใจ
เขานั่งหมิ่นๆ อยู่ที่ขอบอ่างระหว่างรอน้ำเต็ม ในใจวางแผนว่าจะใช้เวลาที่เหลือก่อนขึ้นเครื่องไปเดินเล่นที่เซ็นทรัลพาร์คครั้งสุดท้ายก่อนจะไม่ได้กลับมาอีกนาน แต่ที่สำคัญคือเขาต้อง สไกปพ์ไปหาแม่ก่อน ถ้าจำตารางงานไม่ผิด ตอนนี้แม่คงจะหัวหมุนอยู่กับการเซ็นต์สัญญาธุรกิจในปารีส โทมัสถอนหายใจเบาๆ ขณะหย่อนตัวลงแช่น้ำอุ่นในอ่าง นี่ก็เป็นอีกเรื่องนึงที่เป็นปัญหาสำหรับลูกมักเกิ้ล เขาคิดถึงแม่ ปกติก็ไม่ค่อยจะว่างได้เจอกันอยู่แล้ว ยิ่งไปอยู่ฮอกวอตส์ก็ยิ่งแย่ไปใหญ่ เขาทำได้แค่เจอหน้าแม่ผ่านจดหมายเท่านั้น
โทมัสรู้ดีว่ามันอาจจะฟังดูเหมือนลูกแหง่ไปหน่อย แต่เขาเคยส่งจดหมายกัมปนาทไปให้และขอให้แม่เขียนกลับมาว่า แม่รักลูกจ้ะ และเขาก็รู้สึกดีมากๆ ที่ได้ยินเสียงแม่พูดแบบนั้นดังกึกก้องจนห้องโถงใหญ่แทบระเบิด
เป็นเวลาสองทุ่มกว่าๆ ในลอนดอนและทุกคนในบ้านก็ออกไปดินเนอร์กับคนใหญ่คนโตในกระทรวงเวทมนต์ มินโฮพึ่งจะเสร็จจากการกินข้าวเย็นเงียบๆ คนเดียวบนโต๊ะอาหารทำจากไม้เอลเดอร์อย่างดีขนาดยี่สิบที่นั่ง โดยมีเอลฟ์ประจำบ้านสองตัวยืนเงียบๆ เป็นฉากหลังและจ้องมองนายน้อยของพวกันอย่างเศร้าสร้อย จนมินโฮต้องพูดแหย่ให้มันร่าเริงบ้าง
เขาเดินจากห้องกินข้าวไปห้องสมุดของบ้าน ซึ่งเป็นที่ที่เขาทิ้งไอโฟนของพวกมักเกิ้ลไว้ และ หมอนั่นโกหกได้ห่วยมาก ก็เป็นความคิดแรกที่โผล่ขึ้นมาในหัวเมื่ออ่านข้อความที่โทมัสส่งมา มินโฮหัวเราะหึใส่มือถือ ผ่าตัดสมองงั้นเหรอ หาข้ออ้างที่ดีกว่านี้ไม่ได้แล้วรึไง
เด็กหนุ่มวาดภาพโทมัสทำหน้าเหลอหลา กัดริมฝีปากอย่างเครียดๆ ขณะพยายามคิดข้ออ้างแล้วยิ้มออกมา
มินโฮ ลี อยู่ในเสื้อเชิ้ตสีฟ้าของคาลวิน ไคลน์ กางเกงแสล็คสีดำของลาฟ ลอเรน และสวมถุงเท้าสีเทาซึ่งทอจากขนยูนิคอร์นอย่างดี ดูสะอาดเนี้ยบเหมือนลูกชายเจ้าของบริษัทที่พร้อมจะออกไปทำงานได้ทุกเมื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขานั่งอยู่ในห้องสมุดของที่บ้าน และมีบัตเตอร์เบียร์อุ่นๆ กับหนังสือพิมพ์ธุรกิจวางอยู่ที่โต๊ะเล็กข้างตัว การแต่งตัวแบบนี้อยู่กับบ้านเฉยๆ เป็นสิ่งที่นิค เพื่อนสนิทตลอดกาลของมินโฮออกความเห็นไว้ว่า 'เว่อร์ระดับปลวก'
แต่มินโฮไม่ได้เลือกเสื้อผ้าเอง แม่ของเขาเป็นคนจัดการให้ และแน่นอนว่าด้วยความเป็นคนง่ายๆ มินโฮจึงยอมใส่อะไรก็ได้ที่แม่จัดไว้ให้เขาตราบเท่าที่มันใส่สบาย ซึ่งแน่นอนอยู่แล้วว่าเสื้อผ้ามักเกิ้ลพวกนี้นุ่มสบายผิวสุดๆ เพราะมันแพงระยับ แม้แต่เสื้อคลุมพ่อมดที่ฮอกวอตส์ของเขาก็ไม่ถูกเลย แม่ไม่ยอมให้เขาซื้อเสื้อคลุมจากร้านเสื้อคลุมทุกโอกาสของมาดามมัลกิ้น เหมือนอย่างเพื่อนคนอื่นๆ แต่บังคับให้เขาใส่เสื้อคลุมที่ตัดจากห้องเสื้อของมิสเตอร์แอนเดอร์สันซึ่งตั้งอยู่ที่ฝรั่งเศสเท่านั้น
เขาไม่เข้าใจว่าแม่จะผลาญเงินแกลเลียนไปกับเรื่องไร้สาระแบบนี้เพื่อภาพลักษณ์ของตระกูลไปทำไม ในเมื่อมันก็เป็นแค่เปลือกนอกที่จอมปลอม แต่ก็นั่นแหละ เขาไม่มีวันเข้าใจผู้หญิงที่ยอมแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักเพียงเพื่อรักษาสายเลือดบริสุทธิ์ของตระกูลไว้อยู่แล้ว ต่อให้นางเป็นแม่เขาก็ตาม ไม่แปลกเลยที่พ่อกับแม่จะจูบแก้มกันและพูดคุยเสียงอ่อนเสียงหวานแต่พอกลับบ้านมาแล้วก็ล็อคตัวเองอยู่คนละปีกฝั่งของคฤหาสน์ และนานๆ ทีก็อาจพูดคุยกันผ่านเอลฟ์ประจำบ้านถ้าจำเป็น
มินโฮชินแล้วกับความเงียบเหงาอันเยือกเย็นในบ้านหลังนี้ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังรอให้ฮอกวอตส์เปิดเทอมแทบไม่ไหว คุณนายลีเองก็ตื่นเต้นกับการเปิดเทอมครั้งนี้เป็นพิเศษเช่นกัน เพราะนางรอจะได้คล้องแขนกับลูกชายที่มีตราพรีเฟ็คติดอยู่บนอกแทบไม่ไหว
มินโฮไม่ได้อยากเป็นพรีเฟ็ค และนึกสงสัยว่าเขาได้ตำแหน่งนี้มาโดยเส้นสายรึเปล่า แม่ของเขากับศาสตราจารย์เพจ มีความสัมพันธ์อันดีต่อกันถึงขั้นที่ว่าเพจจะมาจิบน้ำชาหรือไม่ก็ดินเนอร์ที่บ้านบ่อยๆ และเรียกมินโฮด้วยชื่ออย่างสนิทสนม ต่างจากนักเรียนคนอื่นๆ ที่เธอจะเรียกด้วยนามสกุลเสมอ มินโฮรู้ว่าเขาหลีกเลี่ยงไม่ได้ เขาเกิดมาพร้อมสิ่งนี้ สิทธิพิเศษ มันมาพร้อมสายเลือดบริสุทธิ์ของเขา สายเลือดที่เขาจะต้องรักษาไว้ด้วยการแต่งงานกับผู้หญิงเลือดบริสุทธิ์จากตระกูลดีๆ เพื่อสืบทอดมันต่อไป
ที่ฮอกวอตส์ ภาพลักษณ์ของเขาเป็นไปตามที่แม่วาดไว้ให้ และบางทีเขาก็เอือมระอาเต็มทน โชคดีว่านิค เพื่อนสนิทคู่หูของเขาไม่คอยยกยอว่าเขาคือคุณชายเลือดบริสุทธิ์ผู้เพียบพร้อมและทำตัวเหมือนพร้อมจะเลียรองเท้าเขาตลอดเวลา เขาจึงยังอยู่ในฮอกวอตส์ได้โดยไม่เป็นบ้าไปซะก่อน
เพราะจริงๆ แล้วมินโฮไม่ได้มีนิสัยเหมือนเสื้อผ้าที่เขาสวมใส่ เขาไม่ได้เย่อหยิ่งถือตัว เพียงแต่เป็นคนไม่พูดถ้าไม่จำเป็น ปีแรกที่เขาเข้าเรียนในฮอกวอตส์ นักเรียนที่นั่นก็ตีตราแล้วว่าเขาคือคุณชายสลิธีรินหัวสูง และตระกูลลีก็มีเชื่องเสียงเรื่องไม่เสวนากับคนที่ต่ำกว่าโดยเฉพาะพวกเลือดสีโคลน เด็กลูกมักเกิ้ลจึงมักจะเกรงใจเขามากเป็นพิเศษ เมลลานี เลนน์ บ้านฮัฟเฟิลพัฟ ถึงกับตัวสั่นเมื่อต้องแชร์โต๊ะกับเขาในคาบปรุงยาจนไม่สามารถหั่นรากเดซี่ให้เป็นชิ้นได้เลย มินโฮบอกกับเธอว่าไม่จำเป็นต้องกลัวเขาหรอก แต่น้ำเสียงอาจฟังหงุดหงิดไปหน่อยจนเธอครางหงิงออกมา มินโฮเลยต้องสลับที่กับนิคเพื่อให้ชั่วโมงปรุงยาของเมลลานีดำเนินต่อไปได้อย่างปกติ แต่คนก็ดันเอาไปพูดกันว่าเขารังเกียจเธอจนถึงขั้นไม่ยอมอยู่ใกล้
ประสาทกันไปใหญ่แล้ว เขาน่ะเหรอจะไม่พูดกับเลือดสีโคลน เขาก็พูดคุยกับเพื่อนทุกคนตามปกติ แต่ข่าวลือพวกนี้กลับไปเคยลอดจำนวนลงเลยตลอดห้าปีที่เขาอยู่ในฮอกวอตส์ บางทีมินโฮก็สงสัยว่าคนพวกนี้มีตารึเปล่า ไม่เห็นหรือไงว่าเขาคุยกับโทมัส ไอ้อ่อนเลือดสีโคลนบ้านกริฟฟินดอร์นั่นแทบจะทุกวัน ที่จริงเรียกว่าเถียงกันหรือไม่ก็หาเรื่องกันจะถูกต้องกว่า แต่ยังไงซะมันก็คือสับเซตของการคุยอยู่ดีนั่นล่ะ
“นายน้อยลี เป็นนายน้อยต้องไปนอนแล้วขอรับ คุณนายสั่งกรีฟเวอร์เอาไว้ให้ดูแลห้ามไม่ให้นายน้อยนอนดึก พรุ่งนี้เป็นวันแรกของฮอกวอตส์และนายน้อยก็ต้องทำหน้าที่พรีเฟ็คด้วย"
มินโฮพยักหน้า "รู้แล้ว เดี๋ยวฉันไป"
เอลฟ์ประจำบ้านโค้งจนหัวติดพื้นก่อนจะถอยหลังออกไป
มินโฮยังนั่งจมอยู่ในเก้าอี้บุกำมะหยี่หรูหราข้างๆ เตาผิงต่อไปสักพัก เขาไล่นิ้วไปตามโปรแกรมแชทของพวกมักเกิ้ล อ่านบทสนทนาระหว่างเขากับโทมัสตลอดหน้าร้อน ซึ่งยาวกว่ารายงานทั้งหมดที่เคยเขียนตลอดสี่ปีในฮอกวอตส์แล้วยิ้มออกมา รู้สึกอุ่นขึ้นเล็กน้อยท่ามกลางความเงียบอันเย็นเยือกในบ้านหลังใหญ่ โดยไม่เกี่ยวกับกาแฟร้อนๆ ที่กำลังจิบหรือไฟที่ลุกโชนอยู่ในเตาผิงเลย
______________________________________
เอาล่ะสิ ขนาดนกฮูกยังจิ้นวายได้ สกอร์ช x เดนเวอร์ หรือ เดนเวอร์ x สกอร์ช ตอบบ โอ๊ย มุมทอล์คนี้มีอะไรอยากจะเม้าท์มอยเต็มไปหมด คือความลำบากของการเขียนฟิคเมซรันเนอร์มีอยู่ว่า ทุกคนไม่มีนามสกุล ยกเว้นเทเรซ่า เลยต้องใช้นามสกุลนักแสดง หวังว่าทุกคนจะไม่ขัดข้อง
แล้วแบบ...เรื่องนี้คุณหนูโทมัสเค้าแสบมาก คาแร็คเตอร์เป็นมักเกิ้ลลูกคนรวยนิสัยเสีย5555 แต่ก็ติดแม่มากๆ อ่านตอนวิคเก็ตมารับตัวโทมัสไปแล้วก็สัมผัสได้ว่าแม่ลูกคู่นี้เค้ารักกันมาก เลยอยากเขียนให้คุณแม่เป็นคนน่ารักๆ แล้วก็ใจดี ต่างจากคุณนายลีโดยสิ้นเชิง ขุ่นแม่อปป้าโหดมากๆๆ มาจากตระกูลผู้ดีเลือดบริสุทธิ์เก่าแก่ นายน้อยลีก็เลยมีอิมเมจแบบคุณชายไปด้วย ใครอยากเห็นโทมัสกับมินโฮกัดกันแบบไหนบ้าง บอกเราได้เลย อยากให้แกล้งกันหนักๆ แต่ก็ยังคิดไม่ค่อยออก ขนาดชื่อเรื่องก็ยังคิดไม่ออกจนต้องไปขโมยชื่อเพลงมาเลย T^T
ทุกคนอาจจะไม่รู้ แต่เราเป็นประเภทชอบดองทุกสิ่งอย่างมากมายไว้ในไห เรื่องนี้ถ้ากระแสไม่ดีก็ดองเช่นกัน เพราะเรามีพล็อตล้นมือมากๆ จนอยากให้วันนึงมี 180 ชม. อันนี้ไม่ได้ขู่เอาคอมเม้นท์หรืออะไรแต่แจ้งกันไว้ก่อน เพราะเดี๋ยวไม่อัพแล้วจะมางอนกัน ไปละ หมัวะๆๆๆ รักนะ ทุกคนนนน
ความคิดเห็น