OPERATION VALKYRIE : KNIGHT OF KHUDANZA

 

มนุษย์นั้นไม่อาจหลีกหนีทฤษฎีวงแห่งการหวนกลับ จากจุดเริ่มต้นที่เริ่มก้าวเดิน  เพียงแต่เราไม่รู้เลยว่าจุดจบนั้นมันอยู่ใกล้กับจุดเริ่มต้นเสียนี่กระไร  ความล้มเหลวมันทำให้จุดเริ่มต้นกับจุดจบมันมาบรรจบกันเร็วยิ่งขึ้น  จะต่างกันก้เพียงแค่ใครที่สามารถอดทนจมอยุ่กับความขืนข่มและเดินไปสู่จุดสำเร็จ  วงที่ใหญ่และกว้างย่อมเสมือนอนึ่งการก้าวเดินที่ยาวนาน ในทางกลับกันนั้นเมื่อจุดเริ่มต้นกับจุดสิ้นสุดมันมาบรรจบกัน  มันก่่อกำเนิดความทะเยอทะยานครั้งต่อไปที่ไม่มีวันสิ้นสุด

OPERATION VALKYRIE 
: KNIGHT OF KHUDANZA
        ปฏิบัติการณ์ วาลคีลี่ : อัศวินแห่งคูดันซา 

                                       
ปี เอจีซี หรือ  อาฟเตอร์เกรทไครซิส ที่ 1  หลังผ่านพ้นภัยพิบัติวิกฤตครั้งใหญ่  ภาวะโลกร้อน  อาวุธชีวภาพ  สงครามกลางเมืองที่แทบจะต้องจ้างหน่วยทหารนามกระเดื่องอย่าง พี เอ็ม ซี  มาช่วยรบ  อาณาจักรบางแห่ง  แว่นแคว้นดินแดนทั้งหลายประสบปัญหาขาดแคลนอาหารอย่างรุนแรง  ทรัพยากรเริ่มลดน้อยถอยลงจากความฟุ่มเฟือย  พระแม่ธรณีพิโรธ  กระไรเสียมนุายชาติพยายามรวมตัวกันเป็นหนึ่งเดียวให้ได้  ปรองดองกันเพื่อความอยู่รอด  จากโลกเดิมได้ถูกเปลี่ยนแปลงไปเสียสิ้น  ทะเลที่สูงขึ้น  แผ่นดินที่เลือนหาย  ทรัพพยากรธรรมชาติที่ต้องรักษาอย่างที่สุด 10 ปีของการที่ต้องเผชิญสิ่งที่แย่ที่สุดในชีวิตของมนุษยชาติต้องเผชิญเพียงเพราะความเห็นแก่ได้?  เห็นแก่ตัว  ?  สุดแท้แต่จะคิดกันไปต่างๆ  นาๆ  จากบรรดานักวิชาการที่ยังคงเหลือรอด 

ทั่วโลกรวมตัวขึ้นอีกครั้งเพื่อความเป็นหนึ่ง  ในขณะนั้นเรียกว่า  นีโอ เพนเทจ ดินแดนแห่งมนุษยชาติแต่ถึงกระนั้นด้วยความเห็นที่แตกต่างกัน  องค์กร  ลัทธิ  เชื้อชาติ  ต่างต้องการที่จะปกครองตนเองในวิถีแห่งตนที่ต้องการ ทำให้เกิดการแบ่งเป็นประเทศขึ้น  แต่ในความเป็นจริงนั้นมีเบื้องหลังที่ไม่อาจทราบได้  ยังคงเป้นปริศนาเพราะการปิดบังจากท่านผู้นำ

ปี เอจีซีที่  10  เกิดการแยกตัวกันจากประเทศเดิมออกเป็นประเทศแว่นแคว้นต่าง  ๆ  ผู้ปกครองเดิมนั้นในนามของ  นีโอซาเคีย ประเทศที่แยกตนห่างไปโพ้นทะเล  รากัท  ดินแดนทางตอนล่างของ  นีโอซาเคียแยกตัวออกประกาศอิสรภาพโดยไม่มีการเสียเลือดเนื้อ  ควอรันทีน
ปี เอจีซี ที่  13  รากัทให้อิสรภาพแก่คานันทำให้เป็นอีกหนึ่งประเทศ

อย่างไรก็ตามความขัดแย้งก็ยังคงเกิดขึ้น  แม้ว่าจะเกิดการแยกตัวเป็นอิสระในแต่ละประเทศ
เวลาล่วงมาถึงปี อีจีซี ที่  23  ความขัดแย้งระหว่าง  นีโอซาเคีย กับ รากัท ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นเนื่องด้วยเหตุในปี  เอจีซี ที่  20  จากเหตุการณ์กรณีพิพาทหมู่เกาะ บูมเมอแรงทาง นีโอซาเคียกล่าวหา รากัท ว่าระดมยิง มิสไซล์ ภาคพื้นสู่อากาศใส่ฝูงบินลาดตระเวน  ทางรากัท  ได้ออกมายืนยันถึงการที่หน่วยรบพิเศษของ นีโอซาเคีย  ได้บุกเข้าไปทำลายและสังหารชาวประมงในหมู่บ้าน  โครจ์ในหมูเกาะบูมเมอแรงเหตุเพียงต้องสงสัยว่าเป็นกองกำลังต่อต้านและมี รากัท  อยู่เบื้องหลังในการสนับสนุนอาวุธยุทธภัณฑ์ในการรบ  ด้วยเหตุนี้เองทำให้กลายเป็นปัญหาไฟลามทุ่ง  เกิดความไม่พอใจใน  2  เชื้อชาติที่เป็นผู้นำโลก  การปกครองที่แตกต่าง  จริตของผู้นำ  มวลชนผู้โกรธแค้น  ทำให้เกิดการพัฒนาอาวุธขึ้นอีกครั้ง  สนธิสัญญาความสงบถูกฉีกทิ้ง  เกิดกรณีพิพาทจากปี  เอจีซีที่  15  เรื่อยมาถึงปี เอจีซี  ที่ 23
หลังจากนั้นได้ไม่นาน...................

 13  ธันวาคม  ปี เอจีซี ที่  23  นีโอซาเคีย  ประกาศทำสงครามกับ  รากัท
 15  ธันวาคม  ปี AGC ที่  23  แสนยานุภาพของ  นีโอซาเคีย  และกองกำลังทหารติดอาวุธนับแสนบุก รากัท ทำให้ ผู้ถูกรุกรานตกอยู่ในสถานการณ์เพลี่ยงพล้ำ  เนื่องจากนโยบายที่ไม่แน่นอนในเรื่องของการทำสงคราม  ทำเพียงแต่การปัดป้องและตั้งรับ  พวกทหารฮึดสู้ออกแนวหน้าถูกตีกระหน่ำล้มตายไปมาก  ทำให้เกิดการเสียดินแดนจากการยกพลขึ้นบกและยึดครองน่านฟ้าในรากัท
รัฐบาลของรากัท  ต้องรีบตอบโต้ในทันที  กองกำลังทหารรับจ้างจากดินแดนต่างๆ  รวมทั้งพวกทหารหาญที่รอดตายตีฟ่าวงล้อมของ นีโอซาเคีย  รวมตัวกันรบแบบกองโจรเพื่อยันกองกำลังข้าศึกในแนวหน้า  ทำทุกวิถีทางปกป้องบ้านเกิดเมืองนอนคงไว้ซึ่งเอกราชและอิสรภาพ

ในบทนำและตอนที่ 4 ได้ปรับแก้ไปแล้ว ส่วนในตอนที่ 1-3 จะคงสภาพเป็นบทตายตัวไว้ก่อนนะครับ อ่านไปอาจจะงงบ้าง คนเขียนต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย
จะค่อยนำข้อมูลมาลงปรับปรุงไปเรื่อย ๆ นาน ๆ ทีล่ะถึงจะโผล่มา




ก็มันเป็นสงคราม ผิดถูกให้โยนมันทิ้งไป เพราะมันคือสงคราม ?!

งานไอเดีย ฝีมือไม่ค่อยดีนักแต่เศษความคิดก็มีค่า อ่าฮะ ตามสบาย ดูไป ไม่ต้องคิดอะไรให้เมื่อยสมองเน้อ


อดีตนาวิกโยธินหญิงของรากัท มาการาช่า

 
รุ่นลูกของคาวิก

 
KONG GO ASSAULT


ซ้าย จ่าเรเว่นกำลังเขมือบเนื้องู กลาง ช่างใหญ่เล่าเรื่องใต้สะดือ ขวา ท๊อดด์เมามายได้ที่




HELL FROG หรืออีกชื่อก็ ไอ้กบกระป๋อง ไม่ใช่กบในกระป๋อง!
ผลิตจำนวนมากใช้ในการร่วมรบกับทหารราบเสียส่วนใหญ่ ผลิตออกมาเพื่อผลาญงบเล่น





เยเกอร์-

บังเอิญว่ากินสตรอเบอร์รี่เข้าไป ดันมีรสหวานอมเปรี้ยว มันก็เกิดอย่างว่า..จริง ๆ ไม่เชื่อก็ตามใจ รักคนอ่าน




บาท็อกที่ออกรบในช่วงแรกสงคราม ทหารราบรากัทและคลอว์เวอร์ บ่นกันมว๊าก ว่า.... ใช้การยากแม้ถึก หน้าตาข้าศึกเห็นแล้ว จะกลัวไปทำไม ลิงยักษ์!? เคลื่อนไหวไม่สู้ดีนักเมื่อต้องขึ้นเขา เวลาตอนลงนี่ แทบต้องกลิ้งลง  ตามนั้น  ต้องมีการยกเซ็ตของ KONG GO มารีเมคทำใหม่ จนไปสู่กระบวนการผลิต บาท็อก อาร์ และ
สกัลบาท็อกในเวลาต่อมา

 
SKULL BATOG โดนลดขนาดและสัดส่วนลง เน้นผลิตจำนวนมากให้ทันเอาไปใช้แล้วเจ๊งเพราะโดนยิงทิ้ง ยิงขว้าง ใช้แบ็คแพ็คแบบเดียวกับบาท็อกต้นแบบ รัฐบาลรากัทสบายหู สบายใจขึ้นมาสักนิ๊ส นึง!
เพราะมันราคาถูก..ผลิตได้เยอะ อาวุธก็เอาของบาท็อกทดแทน แม้พังง่าย...เน้นพอถูกยิงค่อยหนีตายด้วยตนเองเถิด....อืมมมม.....


ถูกผลิตจำนวนมากเช่นกัน ต้นแบบมาจาก KONG GO GRa. เนื่องจากต้องการคลอว์ที่ต่อต้านอากาศยาน
ที่ง่ายต่อการเคลื่อนไหวคล่องตัว(วิ่งเปลี่ยนตำแหน่งทัน ว่างั้น) จึงมีการพัฒนา GRa(เครื่องที่แมมโบ้บังคับใน เฉพาะกิจ 2 เพียงแต่มันไม่ใช่เครื่องใหม่แต่อย่างใด อนึ่งเหล้าเก่าในขวดใหม่ ปรับระบบ ขัดสี ให้ดี เอาไปรบ จบ..)











  
อัพเกรดจากกบกระป๋อง

 
 
KONG-GO GRANADER (ต้นแบบพัฒนาให้คาวิกของรากัท) อืดอาด อึด บึก พังยาก แอนติคลอว์แทบเจาะไม่ระคาย ช่วงหลังโดนนีโอซาเคียบุก รากัทได้นำกลับมาใช้อีกหนหนึ่ง โดยการติดบูสเตอร์ทดแทนความเชื่องช้าให้ แน่นอนสิ่งที่แลกมา ก็คือ งบประมาณ...อีกแล้ว ทำให้มันมีจำนวนไม่กี่ตัวเท่านั้นที่ได้รับบูสเตอร์กับเสริมเกราะเหล็กเพิ่มเติม เนื่องจากเป็นยูนิตคลอว์สำหรับสนับสนุนมากกว่ารบประชิดแต่ก็ใช่ว่ามันจะใช้รบประชิดไม่ได้ ทำให้นำไปสู่กระบวนการทดแทนในการสร้าง KONG GO ASSAULT แต่กระนั้น...

KONG GO ASSAULT ได้ถูกจัดให้ไปเป็นหน่วยคลอว์รักษาความสงบมากกว่าออกรบภาคสนาม

ต่อมานั้นรัฐบาลรากัทได้สร้างหุ่นเยเกอร์แบบของตนเอง ก็อปปี้มาจากศัตรูสุดแสนรัก นีโอซาเคีย